คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่7:ทำกับข้าวให้ซาตาน+ย้อนอดีตแห่งความทรงจำ
แสงอรุณที่ส่องลอดผ่านหน้าต่างในห้องๆหนึ่งซึ่งเป็นห้องที่ร่างบางถูกขังเอาไว้อยู่
“
อืมม์”ร่างบางสบถเล็กน้อยพรางพยายามปรับสายตาให้เข้ากับแสงแดดของเช้าวันใหม่
แก็ก!แอ๊ด~
“เป็นไง?หลับสบายดีมั้ยล่ะ โดคุโร่”เสียงที่ออกแนวเย้ยหยันของร่างสูงดังขึ้น ร่างบางค่อยๆมองดูคนตรงหน้าด้วยสีหน้าบางอย่าง
เริ่มแล้วสิน่ะ
อีกวันแห่งการทรมานชั้น?เคียวยะ
“โอ้ย!”เสียงหวานร้องขึ้นเมื่อถูกร่างสุงกระชากแขนให้ลุกขึ้นอย่างแรง ทำให้บนผิวเนียนของเธอมีรอยช้ำเพิ่มขึ้นอีกรอย
“จะพาชั้นไปไหนน่ะ?”
“หุบปากแล้วเดินตามชั้นมา!!!”ร่างสูงตะคอกใส่ร่างบางแล้วกระชากแขนให้แรงขึ้นเพื่อให้ร่างบางเดินไวๆ
ตอนนี้ร่างสูงกระชากแขนร่างบางจนมาถึงห้องครัว เขาจึงยอมปล่อยแขนของร่างบางให้เป็นอิสระชั่วคราว
“อูย
.”ร่างบางครางเล็กน้อยก่อนจะเอามือที่ว่างมาจับรอยช้ำรอยใหม่ที่พึ่งได้มา
“ไปทำกับข้าวมาสิ!”
“หา???”ร่างบางร้องอย่างสงสัยเมื่อได้ยินคำสั่งจากร่างสูง
“บอกให้ไปทำก็ไปทำสิ
”ฮิบาริเอ๋ยเสียงเรียบแต่สายตาที่เขามองมายังร่างบางนั้น ทำให้ร่างบางอดไม่ได้ที่จะนึกกลัวกับสายตานั้นขึ้นมาจึงยอมเดินไปทำตามที่ร่างสูงสั่งทันที
“ทำอะไรดีน่ะ
”ร่างบางพูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะสำรวจของที่มีอยู่ว่าพอจะเอาอะไรมาทำกินได้บ้าง
“อืมม์
.ทำแกงเนื้อแล้วกัน เมื่อก่อนเราทำให้เคียวยะกินบ่อยๆ
อ่ะ..”
ร่างบางเผลอร้องออกมาอย่างสงสัยกับความคิดชั่วครู่ที่พึ่งผุดขึ้นมาจากความทรงจำเก่าๆที่ไม่ว่านานแค่ไหน
เธอก็อดที่จะนึกถึงความทรงจำดีๆที่เขาและเธอเคยมีให้กันไม่ได้ แต่มันก็ทำให้
นึกถึงสิ่งที่เธอทำเอาไว้กับเขาเมื่อครั้งก่อนทุกครั้ง
สมควรแล้วสิน่ะ?ที่เราต้องมาโดนอย่างงี้ เราคงไม่มีสิทธิ์ที่จะโกธรสิน่ะหากเขาจะแก้แค้นเรา
แล้วร่างบางก็หยุดความคิดของตนไว้แล้วเริ่มทำอาหารที่เธอเคยทำให้เขาเมื่อสมัยก่อน
.
{ย้อนอดีต}
‘นี่บ้านของนายหรอ?มุคุโร่’ร่างสูงเจ่าของผมสีรัติกาลเอ๋ยเมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านของเพื่อนรักตั้งแต่สมัยเด็กของตน
‘ครับ
เข้าไปข้างในกันเถอะฮิบาริ นางิน้องผมคงจะทำอาหารอยู่’ว่าจบก็เดินเข้าบ้านไปทันที ฮิบาริจึงจำต้องเดินตามเข้าไป
ภายในบ้านนั้นก็เป็นบ้านเล็กๆที่ดูเรียบง่าย ฐานะปานกลางแต่ก็ไม่ได้คับแคบมากนัก อย่างน้อยก็พอจะเป็นบ้านที่อยู่อย่างแสนสุขได้
‘บ้านนายนี่จะมากี่ครั้ง ก็ยังน่าอยู่เหมือนเดิมเลยน่ะ มุคุโร่’ฮิบาริพูดอย่างชมเชย
‘คุฟุฟุ~งั้นหรอครับ
แต่นายไม่คิดจะถอดเสื้อคลุมกรรมการคุมกฎนั่นจริงๆหรอ= =;;’
มุคุโร่เอ๋ยพรางมองไปยังเสื้อคลุมกรรมการคุมกฎที่ฮิบาริใส่ตลอดเวลาไม่ยอมถอดเหมือนเด็กติดผ้าห่มยังไงยังงั้น(ช่างเปรียบ)
จะรักโรงเรียนไปถึงไหนกัน?..
‘เรื่องของชั้น!’คำพูดแบบตัดเยื่อใยเวลารำคราญอะไรถูกปล่อยออกมาจากปากของฮิบาริตามสไตน์พี่แก ซึ่งมุคุโร่ก็คาดว่าจะต้องเป็นอย่างงี้อยู่แล้ว
‘นางิ!พี่กลับมาแล้ว’เมื่อพยายามทำเป็นไม่สนใจเสื้อที่ดูขัดลูกหูลูกตานั่นแล้วก็ตะโกนเรียกน้องสาวของตนทันที
‘กลับช้าจังเลยน่ะคะ พี่มุคุโร่’นางิเอ๋ยขึ้นมาอย่างงอลๆเล็กน้อย
‘งั้นหรอๆ^ ^อ้อ!นี่ฮิบาริจำได้ม่ะ! บังเอิญมีรายงานที่พี่ต้องให้ฮิบาริน่ะ ฮิบาริก็เลยมาเอาเองเลยเพราะกลัวพี่ลืม^ ^;;’
มุคุโร่เอ๋ยขึ้นพรางเหลือบไปมองฮิบาริที่ทำหน้าตายอยู่เล็กน้อย
‘หึ!’สั้นๆง่ายๆแต่ไม่ได้ใจความ(เอ๊ะ!ยังไง?)
‘นาย
’นางิเอ๋ยขึ้นเบาๆเมื่อเห็นฮิบาริ
‘เจอกันอีกแล้วน่ะ โรคุโด นางิ’เสียงเรียกแนวทางการเล็กน้อยหลุดออกมาจากปากของฮิบาริ
‘เออ..ฮิบาริ ไม่ต้องเรียกน้องสาวชั้นสะเป็นทางการอย่างงั้นก็ได้’มุคุโร่เอ๋ยขึ้นมาเรียบๆ
‘ช่างเหอะ!ห้องนายอยู่ไหนชั้นจะไปเอารายงาน’ฮิบาริพูดอย่างไม่สนใจพรางมองหาห้องของมุคุโร่
‘อ้อ!เดินขึ้นบันไดชั้นสองไปเลยมีอยู่แค่สองห้อง ห้องที่อยู่ทางซ้ายน่ะห้องผมส่วนห้องที่อยู่ติดหน้าต่างน่ะห้องนางิน่ะ’
‘
..ชั้นถามว่าห้องนายอยู่ไหนไม่ได้ถามว่าห้องน้องนายอยู่ไหน= =II’
‘ก็
เอาน่าๆถือสะว่าซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง เอ้ย!ถามหนึ่งตอบสองแล้วกัน’มุคุโร่พูดแนวติดตลกเล็กน้อย
‘ไม่ได้จะมาซื้อของในซุปเปอร์น่ะโว้ย!ไอ้มุคุมั่ว!!’ฮิบาริหันมาตะคอกใส่แบบไม่รับมุก
‘ผมชื่อมุคุโร่ครับไม่ใช่มุคุมั่วฮิบาริ^ ^+++’มุคุโร่พูดออกแนวโมโหเล็กน้อย
‘คิกๆ’เสียงหัวเราะเล็กๆของโคลมดังขึ้นทำให้ทั้งสองคนหันมามองโดยอัตโนมัติ
‘ขำอะไร?’ทั้งสองคนพูดออกมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
‘พี่กับคุณฮิบาริดูสนิทกันจังเลยน่ะคะ’นางิพูดออกไปอย่างร่าเริง
‘คุฟุฟุ/ชิส์’นี่คือคำตอบที่ได้รับจากทั้งสองคน
‘งั้นชั้นไปเอารายงานล่ะ จะรีบกลับไปตรวจโรงเรียนก่อนกลับบ้าน’ว่าจบฮิบาริก็ถือวิสาสะขึ้นไปชั้นสองทันที
‘เฮ้อ!จะรักโรงเรียนไปถึงไหนเนี้ยไอ้ฮิบาริ’มุคุโร่เอ๋ยขึ้นมาอย่างหน่ายๆ
‘เออ
พี่มุคุโร่ไปทานข้าวเย็นก่อนเถอะค่ะ’
‘อืมม์..ก็ดีเหมือนกันน่ะ^ ^ว่าแต่นางิทานข้าวแล้วหรอO O?’
‘โห
พี่มุคุโร่กลับมาสะเช้า~~~ขนาดนี้ หนูคงรอทานพร้อมพี่ไหวหรอกค่ะ^ ^’นางิพูดออกแนวประชดเล็กน้อย
‘^ ^;;หรอ..งั้นพี่ไปทานก่อนดีกว่า’ว่าจบก็เดินเข้าห้องครัวไปทันที
นางิเหลือบมองชั้นสองเล็กน้อยก่อนจะเดินตามมุคุโร่เข้าครัวไป
‘เท่านี้ก็เรียบร้อย
’ฮิบาริเอ๋ยขึ้นหลังจากเอารายงานมาจากห้องของมุคุโร่แล้ว
‘รีบกลับไปตรวจโรงเรียนดีกว่า’พูดจบก็ทำท่าจะเดินออกไปแต่ก็ไม่ลืมที่จะดูรอบๆห้องของเพื่อนรักตนเอง
ห้องของมุคุโร่เป็นห้องเรียบๆที่ข้าวของดูเป็นระเบียบเรียบร้อยสมกัยที่เป็นมุคุโร่พูดที่แสนจะสุภาพแต่แอบหลุดบางครั้ง= =;;
แต่แล้วฮิบาริก็ต้องทำหน้าตายทันทีเมื่อสังเกตเห็นว่าห้องมุคุโร่ทาสีฟ้าอ่อนๆเกือบจะขาว
‘แบบนี้ทำไมต้องทาสีด้วยฟร่ะ?ทำไมไม่ทาสีขาวหรือไม่ก็ไม่ต้องทาก็ได้นี่หว่า ไอ้เจ้ามุคุโร่นี่มันจริงๆเลย= =;;’
เมื่อฮิบาริด่าเพื่อนของตนเองเสร็จก็เดินออกมาจากห้องแต่ก็ไม่ได้ลงไปที่ชั้นหนึ่งทันที
ฮิบาริเริ่มมองดูรอบๆบ้านของเพื่อนรักของตนที่บริเวณชั้นสอง
‘ที่นี่
ตั้งแต่เด็กแล้วก็ไม่ได้มาอีกเลยสิน่ะ
คิดถึงจัง ยังน่าอยู่เหมือนเดิม’ฮิบาริพูดกับตัวเองเบาๆแล้วกวาดตามองดูรอบๆ
แต่แล้วสายตาของเขาก็ไปสะดุดกับห้องที่อยู่ติดกับหน้าต่างชั้นสองที่มุคุโร่บอกว่าเป็นห้องของน้องสาวตน
‘ห้องของนางิน้องมุคุโร่สิน่ะ
’
จะว่าไปตั้งแต่ตอนนั้น
ก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยนี่ แล้วพึ่งจะได้เจอกันอีกเมื่อไม่นานมานี้สิน่ะ
ฮิบาริจมอยู่ในห้วงความคิดของตนเองชั่วครู่แล้วมองไปยังห้องของนางิอีกครั้งแต่ไม่รู้ทำไมว่าขาของเขาดันพาให้เขามาอยู่ตรงหน้าห้องของนางิ
เข้าไปดูหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง?...
ฮิบาริคิดแล้วค่อยๆแง้มประตูห้องนางิก็จะค่อยๆกวาดสายตาดูรอบๆ(แบบนี้มันไร้มารยาทน่ะเพ่= =;;)
ห้องของนางิเป็นห้องที่ดูเรียบๆเช่นกัน ข้าวของก็เป็นระเบียบสมกับที่เป็นผู้หญิงห้องของนางิทาสีฟ้าอ่อนเช่นกันแต่เข้มกว่าห้องของมุคุโร่
สองคนนี้นี่มันสมกับที่เป็นพี่น้องกันจริง= =;;
ฮิบาริจะคิดแบบนี้ก็คงไม่แปลกเพราะนอกจากทรงสัปปะรดที่ทำเหมือนกันแล้ว นิสัยก็คล้ายๆกัน เรียบร้อยและสุภาพเหมือนๆกัน(แต่มุสุภาพ+เรียบร้อยกว่า) ห้องก็ทาสีฟ้าอ่อนเหมือนกันบลาๆๆๆ(มากมายจนขี้เกียจพิมพ์)
แต่แล้วสายตาของฮิบาริก็เหลือบไปเห็นรูปที่อยู่บนหัวเตียงของนางิ ฮิบาริจึงเดินเข้าไปใกล้แล้วถือวิสาสะเอารูปภาพนั้นขึ้นมาดู
นี่มัน..มุคุโร่กับนางิเมื่อสมัยก่อน
ใช่..ภาพนั้นคือภาพของมุคุโร่กับโคลมเมื่อครั้นยังเด็กทั้งสองคนหัวเราะกันอย่างมีความสุขด้านหลังของทั้งสองคนมีผู้หชายกับผู้หญิงสองคนอยู่ด้านหลัง
ผู้ชายนั้นมีสีผมสีน้ำเงินเข้มหน้าตาหล่อเหล่าเอาการดูๆไปคล้ายกับมุคุโร่จนฮิบาริไม่ต้องสงสัยเลยว่ามุคุโร่ได้ใบหน้าและกรรมพันธุ์มาจากใคร
แต่ดวงตากลับเป็นสีอเมทิสต์ซึ่งต่างกับมุคุโร่แต่กลับคล้ายกับนางิมากกว่า..
ผู้หญิงอีกคนที่อยู่ด้านหลังนั้นก็จัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่มีใบหน้าสะสวยจนคล้ายกับนางิมากๆจนฮิบาริคิดว่านางิคงจะได้ความสวยมาจากแม่แน่ๆ แต่ดวงตาของเธอกลับไปดวงตาสีฟ้าคู่สวยที่เหมือนกับตาซ้ายของมุคุดร่แทน..
ในภาพผู้เป็นพ่อนั้นยืนอยู่ทางด้านซ้ายของภาพแต่ย่อเข่าเล็กน้อยแล้วขยี้หัวมุคุโร่ผู้เป็นลูกชายที่หัวเราะแล้วยิ้มกว้างเล่น
ส่วนผู้เป็นแม่นั่งอยู่ทางด้านขวาของภาพมือทั้งสองข้างกอดนางิผู้เป็นลูกสาวที่ยิ้มกว้างดูๆไปก็น่ารักน่าชังมากทั้ง4คนยิ้มกว้างๆออกมาอย่างมีความสุขตามประสาครอบครัวแสนสุข
ดูเหมือนว่าจะมีความสุขกันมากเลยสิน่ะ
‘
จะว่าไป ตอนเด็กเราก็ไม่เคยเจอสองคนนี้เลยนี่น่ะ’ฮิบาริพึมพำกับตัวเองเบาๆก่อนที่พึ่งจะคิดบางอย่างได้
ก็พ่อแม่ของมุคุโร่กับนางิตายเพราะรถชนนี่นา
ฮิบาริคิดแล้วดวงตาของเขาก็เกิดเศร้าลงรู้สึกสงสารทั้งสองคนขึ้นมา
‘หารายงานเจอมั้ยค่ะ?คุณฮิบาริ!!’เสียงของนางิดังขึ้นมาจากชั้นหนึ่งฮิบาริรีบวางรูปไว้ที่เดิมก่อนจะเดินลงไป
‘จะกลับเลยมั้ยคะคุณฮิบาริ’นางิเอ๋ยถามเมื่อเห็นว่าฮิบาริเดินลงมาแล้ว
‘อืมม์..จะไปตรวจดูความเรียบร้อยของนามิโมริน่ะ’
‘แล้วไม่ทานข้าวก่อนหรอคะ?’
‘ไม่เป็นไรชั้นยังไม่หิว’
จ๊อก!!!!
ทันทีที่ฮิบาริพูดจบเสียงท้องร้องของเขาก็ดันดังขึ้นมาจนเจ้าตัวหน้าแดงเพราะความเขินส่วนนางิก็หัวเราะคิกๆอย่างชอบใจ
‘เออ
-/////-’
‘คิกๆ ไม่เป็นไรหรอกค่ะยังไงก็ไปทานข้าวหน่อยก็ได้น่ะคะ’นางิพยายามพูดอย่างอื่นกลบเกลื่อนเพื่อซ่อนอาการขำของเธอไว้
ฮิบาริที่หน้าแดงเป็นลูกตำลึงที่ฟอร์มแตกก็ยอมเดินเข้าไปในครัวแต่โดยดี
‘อ้าว!นึกว่าจะกลับเลยสะอีกน่ะครับฮิบาริ^ ^’มุคุโร่เอ๋ยเมื่อเห็นฮิบาริเดินเข้ามาในครัวพร้อมกับนางิ
‘ย
ยุ่งน่า!!-///-’ฮิบาริพูดแต่หน้าของเขายังแดงอยู่เล็กน้อย แต่มุคุโร่ก็ไม่คิดจะพูดอะไรเพราะเขาบังเอิญไปเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่ที่เพื่อนของตนฟอร์มแตกเข้าพอดี
‘นั่งลงสิคะคุณฮิบาริ^ ^’นางิเอ๋ยอย่างมีมารยาทกับฮิบาริแล้วชี้ไปยังเก้าอี้ตรงข้ามเธอที่อยู่ข้างๆกับมุคุโร่
‘อ
อืมม์’ฮิบาริสบถเล็กน้อยแล้วยอมนั่งแต่โดยดี
‘อ่ะ!นี่ค่ะ ข้าวเย็นคือแกงเนื้อน่ะคะนางิทำเองเลยน่ะคะ คุณฮิบาริลองกินดูสิคะ^ ^’พูดจบก็ยื่นแกงเนื้อที่ตนเองทำไปให้ฮิบาริ
‘ลองกินดูสิฮิบาริ อาหารฝีมือนางิน่ะ
อร่อยอย่างกับอาหารโรงแรง ภัตรคารระดับ5ดาวเชียวน่ะ’มุคุโร่เอ๋ยอย่างชื่นชมน้องสาวตนเอง
‘เว่อร์น่ะพี่มุคุโร่O///O’ปากก็พูดไปแบบนั้นแต่ตอนนี้นางิกำลังหน้าแดงเพราะความเขินกับคำชมเมื่อกี้
ฮิบาริเองก็มองดูแกงเนื้อครู่หนึ่งก่อนที่จะลงมือกินเข้าไปคำหนึ่งมุคุโร่กับนางิจ้องฮิบาริตาไม่กระพริบ
ฮิบาริกินเข้าไปแล้วหลับตาครู่หนึ่งก่อนจะพูดประโยคหนึ่งออกมา
‘ไม่ตายแหะ!’
‘ฟรูด!!!ฮ่าๆๆๆๆๆๆ’มุคุโร่เมื่อได้ยินอย่างงั้นก็กลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่เผลอหัวเราะออกมาดังลั่น
‘คุณฮิบาริ!!!>///<’นางิโวยออกมาอย่างโมโหเล็กน้อยแต่ก็รู้สึกขำไปกับเขาด้วยเช่นกัน
‘ฮ่าๆๆ เอาล่ะๆล้อเล่นน่า~อร่อยมากเลยล่ะนางิ’ฮิบาริหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะพูดความจริงออกไป
‘เห็นม่ะ!บอกแล้ว’มุคุโร่ร้องทักขึ้นมา
‘ขอบคุณมากค่ะคุณฮิบาริ^///^’หน้าของนางิแดงระรื่นเพราะดีใจ+เขินไปกับคำชมเมื่อสักครู่ของฮิบาริ
‘ไม่ต้องเรียกคุณก็ได้ ฟังแล้วมันดูแปลกๆ’ฮิบาริเอ๋ยขึ้นมาอย่างเริ่มที่จะสนิทกับนางิขึ้นมาบ้างแล้ว
‘อืมม์
งั้นเรียกเคียวยะได้มั้ยค่ะ^//^’
‘อ
อืมม์ ก็ได้-////-’ฮิบาริหน้าแดงเล็กน้อยเพราะขนาดเพื่อนสนิทอย่างมุคุโร่ยังไม่เรียกเขาด้วยชื่อนี้เลย
‘อ่ะแฮ่ม~ถ้าแกเกิดคิดชอบน้องสาวชั้นหรือเกิดอยากจะจีบขึ้นมาล่ะก็~งานนี้คงจะต้องคุยกันยาวน่ะฮิบาริ^ ^’มุคุโร่พูดขึ้นมาแนวแซวฮิบาริ
‘เฮ้ย!แกจะบ้าหรอ?มุคุโร่!!!O//////O’
‘พ
พี่มุคุโร่O///////O’
ตอนนี้ทั้งหน้าของฮิบาริและโคลมก็เกิดแดงเป็นลูกตำลึงไปเรียบร้อยแล้ว
‘คุฟุฟุ~ผมล้อเล่นครับ^ ^’
‘ถ้าจะล้อก็อย่ามาล้อแบบนี้สิ!!!’ทั้งฮิบาริและนางิร้องออกมาพร้อมๆกัน
‘
5555555+’ทั้งสามคนเงียบสักครู่ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างสนุกในรอบหลายปีที่ผ่านมานี่คงจะเป็นการทานข้าวเย็นที่สนุกและมีความสุขที่สุดก็เป็นแน่
‘ชั้นไปก่อนล่ะมุคุโร่ นางิ’ฮิบาริบอกลาหน้าบ้านของสองพี่น้องโรคุโดก่อนที่จะกลับบ้าน
‘อืมม์
อย่าเอาแต่ตรวจนามิโมริจนลืมนอนล่ะ ฮิบาริ^ ^’
‘เออน่า
ไปก่อนล่ะ’ฮิบาริเอ๋ยก่อนจะเดินไป
‘ระวังๆด้วยน่ะคะเคียวยะ’นางิเอ๋ยออกมาฮิบาริชะงักเล็กน้อยก่อนจะหันมายิ้มให้กับนางิ
‘อืมม์
ขอบใจน่ะนางิ’
‘ค
ค่ะO//O’เมื่อนางิพูดจบฮิบาริก็ทำท่าจะเดินไป
‘อ้อ!แล้วก็
.’ฮิบาริพูดค้างไว้แล้วหันมาสบตานางิอีกครั้ง
‘แกงอร่อยดีน่ะ
ไว้วันหลังจะมากินใหม่’
พูดจบก็เดินไปยังนามิโมริทันทีแต่ฮิบาริกลับเอาแต่ยิ้มตลอดทางเหมือนกับจะเป็นบ้ายังไงยังงั้น
นางิเองเมื่อเห็นฮิบาริหันมายิ้มให้แล้วพูดแบบนั้นกับตัวเองหน้าของเธอก็เกิดมีสีแดงสดขึ้นมาทันทีมุคุโร่เห็นดังนั้นก้อดไม่ได้ทีจะแซวน้องสาวตนเล่น
‘อะไรกัน..อย่าบอกน่ะว่านางิแอบชอบไอ้ฮิบาริมันน่ะ’
‘บ..บ้าหรอ?ป่าวสักหน่อยO///O’พูดจบก็รีบเดินกลับเข้าไปในบ้านทันที
มุคุโร่เองก็หันไปมองฮิบาริที่เดินจากไปแล้วหันกลับมาดูนางิที่เดินกลับเข้าบ้านไป
สองคนนี้น่าจะไปกันได้ดีน่ะเนี้ย!....
{จบการย้อนอดีตแสนหวาน กลับสู่ปัจจุบันอันแสนข่มขื่น
}
“อ
อาหารได้แล้วค่ะคุณฮิบาริ
”โคลมเอ๋ยแล้ววางแกงเนื้อที่ตนทำลงบนโต๊ะ
ฮิบาริมองแกงเนื้อชั่วครู่ก่อนจะทำบางอย่างที่ไม่คาดคิด
“ไอ้แกงพรรณนี้น่ะหรอ?”ฮิบาริว่าพรางเอามือยกแกงขึ้นมาก่อนจะยิ่นมันออกไปจากโต๊ะ
“ใครจะไปกินลง
”พูดจบก็เทแกงเนื้อลงสู่พื้นอย่างไม่ใยดีเป็นการทำร้ายจิตใจโคลมมาก
“คุณฮิบาริ!...โอ้ย!!!”แล้วฮิบาริก็คว้างชามใบนั้นใส่โคลมทันทีแต่บังเอิญมันดันไปถูกหัวของโคลมเข้าอย่างจัง
“เจ็บน่ะคะ คุณฮืบาริ!!”โคลมโวยออกมาเล็กน้อยแล้วฮิบาริก็เดินไปคว้าไม้ถูพื้นก่อนจะคว้าใส่โคลมอย่างไม่ใยดี
“โอ้ย!!!”โคลมร้องออกมาลั่นเพราะความเจ็บ
“ทำความสะอาดสะ!”พูดจบก็เดินออกไปจากห้องครัวทันที
น้ำใสๆเริ่มออกมาจากดวงตาของโคลมอีกครั้งแต่เธอก็ยอมที่จะทำความสะอาดตามคำสั่งของเขาแต่โดยดี
ความคิดเห็น