ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Reborn [1896]รอยแค้นในหัวใจรัก

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่7:ทำกับข้าวให้ซาตาน+ย้อนอดีตแห่งความทรงจำ

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ย. 53


    แสงอรุณที่ส่องลอดผ่านหน้าต่างในห้องๆหนึ่งซึ่งเป็นห้องที่ร่างบางถูกขังเอาไว้อยู่

    อืมม์”ร่างบางสบถเล็กน้อยพรางพยายามปรับสายตาให้เข้ากับแสงแดดของเช้าวันใหม่

    แก็ก!แอ๊ด~

    “เป็นไง?หลับสบายดีมั้ยล่ะ โดคุโร่”เสียงที่ออกแนวเย้ยหยันของร่างสูงดังขึ้น ร่างบางค่อยๆมองดูคนตรงหน้าด้วยสีหน้าบางอย่าง

    เริ่มแล้วสิน่ะอีกวันแห่งการทรมานชั้น?เคียวยะ

    “โอ้ย!”เสียงหวานร้องขึ้นเมื่อถูกร่างสุงกระชากแขนให้ลุกขึ้นอย่างแรง ทำให้บนผิวเนียนของเธอมีรอยช้ำเพิ่มขึ้นอีกรอย

    “จะพาชั้นไปไหนน่ะ?

    “หุบปากแล้วเดินตามชั้นมา!!!”ร่างสูงตะคอกใส่ร่างบางแล้วกระชากแขนให้แรงขึ้นเพื่อให้ร่างบางเดินไวๆ

     

    ตอนนี้ร่างสูงกระชากแขนร่างบางจนมาถึงห้องครัว เขาจึงยอมปล่อยแขนของร่างบางให้เป็นอิสระชั่วคราว

    “อูย….”ร่างบางครางเล็กน้อยก่อนจะเอามือที่ว่างมาจับรอยช้ำรอยใหม่ที่พึ่งได้มา

    “ไปทำกับข้าวมาสิ!

    “หา???”ร่างบางร้องอย่างสงสัยเมื่อได้ยินคำสั่งจากร่างสูง

    “บอกให้ไปทำก็ไปทำสิ”ฮิบาริเอ๋ยเสียงเรียบแต่สายตาที่เขามองมายังร่างบางนั้น ทำให้ร่างบางอดไม่ได้ที่จะนึกกลัวกับสายตานั้นขึ้นมาจึงยอมเดินไปทำตามที่ร่างสูงสั่งทันที

     

    “ทำอะไรดีน่ะ”ร่างบางพูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะสำรวจของที่มีอยู่ว่าพอจะเอาอะไรมาทำกินได้บ้าง

    “อืมม์….ทำแกงเนื้อแล้วกัน เมื่อก่อนเราทำให้เคียวยะกินบ่อยๆอ่ะ..

    ร่างบางเผลอร้องออกมาอย่างสงสัยกับความคิดชั่วครู่ที่พึ่งผุดขึ้นมาจากความทรงจำเก่าๆที่ไม่ว่านานแค่ไหนเธอก็อดที่จะนึกถึงความทรงจำดีๆที่เขาและเธอเคยมีให้กันไม่ได้ แต่มันก็ทำให้

    นึกถึงสิ่งที่เธอทำเอาไว้กับเขาเมื่อครั้งก่อนทุกครั้ง

    สมควรแล้วสิน่ะ?ที่เราต้องมาโดนอย่างงี้ เราคงไม่มีสิทธิ์ที่จะโกธรสิน่ะหากเขาจะแก้แค้นเรา

    แล้วร่างบางก็หยุดความคิดของตนไว้แล้วเริ่มทำอาหารที่เธอเคยทำให้เขาเมื่อสมัยก่อน….

     

    {ย้อนอดีต}

    นี่บ้านของนายหรอ?มุคุโร่ร่างสูงเจ่าของผมสีรัติกาลเอ๋ยเมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านของเพื่อนรักตั้งแต่สมัยเด็กของตน

    ครับเข้าไปข้างในกันเถอะฮิบาริ นางิน้องผมคงจะทำอาหารอยู่ว่าจบก็เดินเข้าบ้านไปทันที ฮิบาริจึงจำต้องเดินตามเข้าไป

    ภายในบ้านนั้นก็เป็นบ้านเล็กๆที่ดูเรียบง่าย ฐานะปานกลางแต่ก็ไม่ได้คับแคบมากนัก อย่างน้อยก็พอจะเป็นบ้านที่อยู่อย่างแสนสุขได้

    บ้านนายนี่จะมากี่ครั้ง ก็ยังน่าอยู่เหมือนเดิมเลยน่ะ มุคุโร่ฮิบาริพูดอย่างชมเชย

    คุฟุฟุ~งั้นหรอครับแต่นายไม่คิดจะถอดเสื้อคลุมกรรมการคุมกฎนั่นจริงๆหรอ= =;;’

    มุคุโร่เอ๋ยพรางมองไปยังเสื้อคลุมกรรมการคุมกฎที่ฮิบาริใส่ตลอดเวลาไม่ยอมถอดเหมือนเด็กติดผ้าห่มยังไงยังงั้น(ช่างเปรียบ)

    จะรักโรงเรียนไปถึงไหนกัน?..

    เรื่องของชั้น!’คำพูดแบบตัดเยื่อใยเวลารำคราญอะไรถูกปล่อยออกมาจากปากของฮิบาริตามสไตน์พี่แก ซึ่งมุคุโร่ก็คาดว่าจะต้องเป็นอย่างงี้อยู่แล้ว

    นางิ!พี่กลับมาแล้วเมื่อพยายามทำเป็นไม่สนใจเสื้อที่ดูขัดลูกหูลูกตานั่นแล้วก็ตะโกนเรียกน้องสาวของตนทันที

    กลับช้าจังเลยน่ะคะ พี่มุคุโร่นางิเอ๋ยขึ้นมาอย่างงอลๆเล็กน้อย

    งั้นหรอๆ^ ^อ้อ!นี่ฮิบาริจำได้ม่ะ! บังเอิญมีรายงานที่พี่ต้องให้ฮิบาริน่ะ ฮิบาริก็เลยมาเอาเองเลยเพราะกลัวพี่ลืม^ ^;;’

    มุคุโร่เอ๋ยขึ้นพรางเหลือบไปมองฮิบาริที่ทำหน้าตายอยู่เล็กน้อย

    หึ!’สั้นๆง่ายๆแต่ไม่ได้ใจความ(เอ๊ะ!ยังไง?)

    นาย…’นางิเอ๋ยขึ้นเบาๆเมื่อเห็นฮิบาริ

    เจอกันอีกแล้วน่ะ โรคุโด นางิเสียงเรียกแนวทางการเล็กน้อยหลุดออกมาจากปากของฮิบาริ

    เออ..ฮิบาริ ไม่ต้องเรียกน้องสาวชั้นสะเป็นทางการอย่างงั้นก็ได้มุคุโร่เอ๋ยขึ้นมาเรียบๆ

    ช่างเหอะ!ห้องนายอยู่ไหนชั้นจะไปเอารายงานฮิบาริพูดอย่างไม่สนใจพรางมองหาห้องของมุคุโร่

    อ้อ!เดินขึ้นบันไดชั้นสองไปเลยมีอยู่แค่สองห้อง ห้องที่อยู่ทางซ้ายน่ะห้องผมส่วนห้องที่อยู่ติดหน้าต่างน่ะห้องนางิน่ะ

    ‘……..ชั้นถามว่าห้องนายอยู่ไหนไม่ได้ถามว่าห้องน้องนายอยู่ไหน= =II’

    ก็เอาน่าๆถือสะว่าซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง เอ้ย!ถามหนึ่งตอบสองแล้วกันมุคุโร่พูดแนวติดตลกเล็กน้อย

    ไม่ได้จะมาซื้อของในซุปเปอร์น่ะโว้ย!ไอ้มุคุมั่ว!!’ฮิบาริหันมาตะคอกใส่แบบไม่รับมุก

    ผมชื่อมุคุโร่ครับไม่ใช่มุคุมั่วฮิบาริ^ ^+++’มุคุโร่พูดออกแนวโมโหเล็กน้อย

    คิกๆเสียงหัวเราะเล็กๆของโคลมดังขึ้นทำให้ทั้งสองคนหันมามองโดยอัตโนมัติ

    ขำอะไร?’ทั้งสองคนพูดออกมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย

    พี่กับคุณฮิบาริดูสนิทกันจังเลยน่ะคะนางิพูดออกไปอย่างร่าเริง

    คุฟุฟุ/ชิส์นี่คือคำตอบที่ได้รับจากทั้งสองคน

    งั้นชั้นไปเอารายงานล่ะ จะรีบกลับไปตรวจโรงเรียนก่อนกลับบ้านว่าจบฮิบาริก็ถือวิสาสะขึ้นไปชั้นสองทันที

    เฮ้อ!จะรักโรงเรียนไปถึงไหนเนี้ยไอ้ฮิบาริมุคุโร่เอ๋ยขึ้นมาอย่างหน่ายๆ

    เออพี่มุคุโร่ไปทานข้าวเย็นก่อนเถอะค่ะ

    อืมม์..ก็ดีเหมือนกันน่ะ^ ^ว่าแต่นางิทานข้าวแล้วหรอO O?’

    โหพี่มุคุโร่กลับมาสะเช้า~~~ขนาดนี้ หนูคงรอทานพร้อมพี่ไหวหรอกค่ะ^ ^’นางิพูดออกแนวประชดเล็กน้อย

    ‘^ ^;;หรอ..งั้นพี่ไปทานก่อนดีกว่าว่าจบก็เดินเข้าห้องครัวไปทันที

    นางิเหลือบมองชั้นสองเล็กน้อยก่อนจะเดินตามมุคุโร่เข้าครัวไป

     

    เท่านี้ก็เรียบร้อย…’ฮิบาริเอ๋ยขึ้นหลังจากเอารายงานมาจากห้องของมุคุโร่แล้ว

    รีบกลับไปตรวจโรงเรียนดีกว่าพูดจบก็ทำท่าจะเดินออกไปแต่ก็ไม่ลืมที่จะดูรอบๆห้องของเพื่อนรักตนเอง

    ห้องของมุคุโร่เป็นห้องเรียบๆที่ข้าวของดูเป็นระเบียบเรียบร้อยสมกัยที่เป็นมุคุโร่พูดที่แสนจะสุภาพแต่แอบหลุดบางครั้ง= =;;

    แต่แล้วฮิบาริก็ต้องทำหน้าตายทันทีเมื่อสังเกตเห็นว่าห้องมุคุโร่ทาสีฟ้าอ่อนๆเกือบจะขาว

    แบบนี้ทำไมต้องทาสีด้วยฟร่ะ?ทำไมไม่ทาสีขาวหรือไม่ก็ไม่ต้องทาก็ได้นี่หว่า ไอ้เจ้ามุคุโร่นี่มันจริงๆเลย= =;;’

    เมื่อฮิบาริด่าเพื่อนของตนเองเสร็จก็เดินออกมาจากห้องแต่ก็ไม่ได้ลงไปที่ชั้นหนึ่งทันที

    ฮิบาริเริ่มมองดูรอบๆบ้านของเพื่อนรักของตนที่บริเวณชั้นสอง

    ที่นี่ตั้งแต่เด็กแล้วก็ไม่ได้มาอีกเลยสิน่ะคิดถึงจัง ยังน่าอยู่เหมือนเดิมฮิบาริพูดกับตัวเองเบาๆแล้วกวาดตามองดูรอบๆ

    แต่แล้วสายตาของเขาก็ไปสะดุดกับห้องที่อยู่ติดกับหน้าต่างชั้นสองที่มุคุโร่บอกว่าเป็นห้องของน้องสาวตน

    ห้องของนางิน้องมุคุโร่สิน่ะ…’

    จะว่าไปตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยนี่ แล้วพึ่งจะได้เจอกันอีกเมื่อไม่นานมานี้สิน่ะ

    ฮิบาริจมอยู่ในห้วงความคิดของตนเองชั่วครู่แล้วมองไปยังห้องของนางิอีกครั้งแต่ไม่รู้ทำไมว่าขาของเขาดันพาให้เขามาอยู่ตรงหน้าห้องของนางิ

    เข้าไปดูหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง?...

    ฮิบาริคิดแล้วค่อยๆแง้มประตูห้องนางิก็จะค่อยๆกวาดสายตาดูรอบๆ(แบบนี้มันไร้มารยาทน่ะเพ่= =;;)

    ห้องของนางิเป็นห้องที่ดูเรียบๆเช่นกัน ข้าวของก็เป็นระเบียบสมกับที่เป็นผู้หญิงห้องของนางิทาสีฟ้าอ่อนเช่นกันแต่เข้มกว่าห้องของมุคุโร่

    สองคนนี้นี่มันสมกับที่เป็นพี่น้องกันจริง= =;;…

    ฮิบาริจะคิดแบบนี้ก็คงไม่แปลกเพราะนอกจากทรงสัปปะรดที่ทำเหมือนกันแล้ว นิสัยก็คล้ายๆกัน เรียบร้อยและสุภาพเหมือนๆกัน(แต่มุสุภาพ+เรียบร้อยกว่า) ห้องก็ทาสีฟ้าอ่อนเหมือนกันบลาๆๆๆ(มากมายจนขี้เกียจพิมพ์)

    แต่แล้วสายตาของฮิบาริก็เหลือบไปเห็นรูปที่อยู่บนหัวเตียงของนางิ ฮิบาริจึงเดินเข้าไปใกล้แล้วถือวิสาสะเอารูปภาพนั้นขึ้นมาดู

    นี่มัน..มุคุโร่กับนางิเมื่อสมัยก่อน

    ใช่..ภาพนั้นคือภาพของมุคุโร่กับโคลมเมื่อครั้นยังเด็กทั้งสองคนหัวเราะกันอย่างมีความสุขด้านหลังของทั้งสองคนมีผู้หชายกับผู้หญิงสองคนอยู่ด้านหลัง

    ผู้ชายนั้นมีสีผมสีน้ำเงินเข้มหน้าตาหล่อเหล่าเอาการดูๆไปคล้ายกับมุคุโร่จนฮิบาริไม่ต้องสงสัยเลยว่ามุคุโร่ได้ใบหน้าและกรรมพันธุ์มาจากใครแต่ดวงตากลับเป็นสีอเมทิสต์ซึ่งต่างกับมุคุโร่แต่กลับคล้ายกับนางิมากกว่า..

    ผู้หญิงอีกคนที่อยู่ด้านหลังนั้นก็จัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่มีใบหน้าสะสวยจนคล้ายกับนางิมากๆจนฮิบาริคิดว่านางิคงจะได้ความสวยมาจากแม่แน่ๆ แต่ดวงตาของเธอกลับไปดวงตาสีฟ้าคู่สวยที่เหมือนกับตาซ้ายของมุคุดร่แทน..

    ในภาพผู้เป็นพ่อนั้นยืนอยู่ทางด้านซ้ายของภาพแต่ย่อเข่าเล็กน้อยแล้วขยี้หัวมุคุโร่ผู้เป็นลูกชายที่หัวเราะแล้วยิ้มกว้างเล่น

    ส่วนผู้เป็นแม่นั่งอยู่ทางด้านขวาของภาพมือทั้งสองข้างกอดนางิผู้เป็นลูกสาวที่ยิ้มกว้างดูๆไปก็น่ารักน่าชังมากทั้ง4คนยิ้มกว้างๆออกมาอย่างมีความสุขตามประสาครอบครัวแสนสุข

    ดูเหมือนว่าจะมีความสุขกันมากเลยสิน่ะ

    ‘…จะว่าไป ตอนเด็กเราก็ไม่เคยเจอสองคนนี้เลยนี่น่ะฮิบาริพึมพำกับตัวเองเบาๆก่อนที่พึ่งจะคิดบางอย่างได้

    ก็พ่อแม่ของมุคุโร่กับนางิตายเพราะรถชนนี่นา

    ฮิบาริคิดแล้วดวงตาของเขาก็เกิดเศร้าลงรู้สึกสงสารทั้งสองคนขึ้นมา

    หารายงานเจอมั้ยค่ะ?คุณฮิบาริ!!’เสียงของนางิดังขึ้นมาจากชั้นหนึ่งฮิบาริรีบวางรูปไว้ที่เดิมก่อนจะเดินลงไป

     

    จะกลับเลยมั้ยคะคุณฮิบารินางิเอ๋ยถามเมื่อเห็นว่าฮิบาริเดินลงมาแล้ว

    อืมม์..จะไปตรวจดูความเรียบร้อยของนามิโมริน่ะ

    แล้วไม่ทานข้าวก่อนหรอคะ?’

    ไม่เป็นไรชั้นยังไม่หิว

    จ๊อก!!!!

    ทันทีที่ฮิบาริพูดจบเสียงท้องร้องของเขาก็ดันดังขึ้นมาจนเจ้าตัวหน้าแดงเพราะความเขินส่วนนางิก็หัวเราะคิกๆอย่างชอบใจ

    เออ…-/////-’

    คิกๆ ไม่เป็นไรหรอกค่ะยังไงก็ไปทานข้าวหน่อยก็ได้น่ะคะนางิพยายามพูดอย่างอื่นกลบเกลื่อนเพื่อซ่อนอาการขำของเธอไว้

    ฮิบาริที่หน้าแดงเป็นลูกตำลึงที่ฟอร์มแตกก็ยอมเดินเข้าไปในครัวแต่โดยดี

     

    อ้าว!นึกว่าจะกลับเลยสะอีกน่ะครับฮิบาริ^ ^’มุคุโร่เอ๋ยเมื่อเห็นฮิบาริเดินเข้ามาในครัวพร้อมกับนางิ

    ยุ่งน่า!!-///-’ฮิบาริพูดแต่หน้าของเขายังแดงอยู่เล็กน้อย แต่มุคุโร่ก็ไม่คิดจะพูดอะไรเพราะเขาบังเอิญไปเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่ที่เพื่อนของตนฟอร์มแตกเข้าพอดี

    นั่งลงสิคะคุณฮิบาริ^ ^’นางิเอ๋ยอย่างมีมารยาทกับฮิบาริแล้วชี้ไปยังเก้าอี้ตรงข้ามเธอที่อยู่ข้างๆกับมุคุโร่

    อืมม์ฮิบาริสบถเล็กน้อยแล้วยอมนั่งแต่โดยดี

    อ่ะ!นี่ค่ะ ข้าวเย็นคือแกงเนื้อน่ะคะนางิทำเองเลยน่ะคะ คุณฮิบาริลองกินดูสิคะ^ ^’พูดจบก็ยื่นแกงเนื้อที่ตนเองทำไปให้ฮิบาริ

    ลองกินดูสิฮิบาริ อาหารฝีมือนางิน่ะอร่อยอย่างกับอาหารโรงแรง ภัตรคารระดับ5ดาวเชียวน่ะมุคุโร่เอ๋ยอย่างชื่นชมน้องสาวตนเอง

    เว่อร์น่ะพี่มุคุโร่O///O’ปากก็พูดไปแบบนั้นแต่ตอนนี้นางิกำลังหน้าแดงเพราะความเขินกับคำชมเมื่อกี้

    ฮิบาริเองก็มองดูแกงเนื้อครู่หนึ่งก่อนที่จะลงมือกินเข้าไปคำหนึ่งมุคุโร่กับนางิจ้องฮิบาริตาไม่กระพริบ

    ฮิบาริกินเข้าไปแล้วหลับตาครู่หนึ่งก่อนจะพูดประโยคหนึ่งออกมา

    ไม่ตายแหะ!’

    ฟรูด!!!ฮ่าๆๆๆๆๆๆมุคุโร่เมื่อได้ยินอย่างงั้นก็กลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่เผลอหัวเราะออกมาดังลั่น

    คุณฮิบาริ!!!>///<’นางิโวยออกมาอย่างโมโหเล็กน้อยแต่ก็รู้สึกขำไปกับเขาด้วยเช่นกัน

    ฮ่าๆๆ เอาล่ะๆล้อเล่นน่า~อร่อยมากเลยล่ะนางิฮิบาริหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะพูดความจริงออกไป

    เห็นม่ะ!บอกแล้วมุคุโร่ร้องทักขึ้นมา

    ขอบคุณมากค่ะคุณฮิบาริ^///^’หน้าของนางิแดงระรื่นเพราะดีใจ+เขินไปกับคำชมเมื่อสักครู่ของฮิบาริ

    ไม่ต้องเรียกคุณก็ได้ ฟังแล้วมันดูแปลกๆฮิบาริเอ๋ยขึ้นมาอย่างเริ่มที่จะสนิทกับนางิขึ้นมาบ้างแล้ว

    อืมม์งั้นเรียกเคียวยะได้มั้ยค่ะ^//^’

    อืมม์ ก็ได้-////-’ฮิบาริหน้าแดงเล็กน้อยเพราะขนาดเพื่อนสนิทอย่างมุคุโร่ยังไม่เรียกเขาด้วยชื่อนี้เลย

    อ่ะแฮ่ม~ถ้าแกเกิดคิดชอบน้องสาวชั้นหรือเกิดอยากจะจีบขึ้นมาล่ะก็~งานนี้คงจะต้องคุยกันยาวน่ะฮิบาริ^ ^’มุคุโร่พูดขึ้นมาแนวแซวฮิบาริ

    เฮ้ย!แกจะบ้าหรอ?มุคุโร่!!!O//////O’

    พี่มุคุโร่O///////O’

    ตอนนี้ทั้งหน้าของฮิบาริและโคลมก็เกิดแดงเป็นลูกตำลึงไปเรียบร้อยแล้ว

    คุฟุฟุ~ผมล้อเล่นครับ^ ^’

    ถ้าจะล้อก็อย่ามาล้อแบบนี้สิ!!!’ทั้งฮิบาริและนางิร้องออกมาพร้อมๆกัน

    ‘………5555555+’ทั้งสามคนเงียบสักครู่ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างสนุกในรอบหลายปีที่ผ่านมานี่คงจะเป็นการทานข้าวเย็นที่สนุกและมีความสุขที่สุดก็เป็นแน่

     

    ชั้นไปก่อนล่ะมุคุโร่ นางิฮิบาริบอกลาหน้าบ้านของสองพี่น้องโรคุโดก่อนที่จะกลับบ้าน

    อืมม์อย่าเอาแต่ตรวจนามิโมริจนลืมนอนล่ะ ฮิบาริ^ ^’

    เออน่าไปก่อนล่ะฮิบาริเอ๋ยก่อนจะเดินไป

    ระวังๆด้วยน่ะคะเคียวยะนางิเอ๋ยออกมาฮิบาริชะงักเล็กน้อยก่อนจะหันมายิ้มให้กับนางิ

     

    อืมม์ขอบใจน่ะนางิ

    ค่ะO//O’เมื่อนางิพูดจบฮิบาริก็ทำท่าจะเดินไป

    อ้อ!แล้วก็….’ฮิบาริพูดค้างไว้แล้วหันมาสบตานางิอีกครั้ง

    แกงอร่อยดีน่ะไว้วันหลังจะมากินใหม่

    พูดจบก็เดินไปยังนามิโมริทันทีแต่ฮิบาริกลับเอาแต่ยิ้มตลอดทางเหมือนกับจะเป็นบ้ายังไงยังงั้น

    นางิเองเมื่อเห็นฮิบาริหันมายิ้มให้แล้วพูดแบบนั้นกับตัวเองหน้าของเธอก็เกิดมีสีแดงสดขึ้นมาทันทีมุคุโร่เห็นดังนั้นก้อดไม่ได้ทีจะแซวน้องสาวตนเล่น

    อะไรกัน..อย่าบอกน่ะว่านางิแอบชอบไอ้ฮิบาริมันน่ะ

    ..บ้าหรอ?ป่าวสักหน่อยO///O’พูดจบก็รีบเดินกลับเข้าไปในบ้านทันที

    มุคุโร่เองก็หันไปมองฮิบาริที่เดินจากไปแล้วหันกลับมาดูนางิที่เดินกลับเข้าบ้านไป

    สองคนนี้น่าจะไปกันได้ดีน่ะเนี้ย!....

    {จบการย้อนอดีตแสนหวาน กลับสู่ปัจจุบันอันแสนข่มขื่น…}

    “ออาหารได้แล้วค่ะคุณฮิบาริ”โคลมเอ๋ยแล้ววางแกงเนื้อที่ตนทำลงบนโต๊ะ

    ฮิบาริมองแกงเนื้อชั่วครู่ก่อนจะทำบางอย่างที่ไม่คาดคิด

    “ไอ้แกงพรรณนี้น่ะหรอ?”ฮิบาริว่าพรางเอามือยกแกงขึ้นมาก่อนจะยิ่นมันออกไปจากโต๊ะ

    “ใครจะไปกินลง”พูดจบก็เทแกงเนื้อลงสู่พื้นอย่างไม่ใยดีเป็นการทำร้ายจิตใจโคลมมาก

    “คุณฮิบาริ!...โอ้ย!!!”แล้วฮิบาริก็คว้างชามใบนั้นใส่โคลมทันทีแต่บังเอิญมันดันไปถูกหัวของโคลมเข้าอย่างจัง

    “เจ็บน่ะคะ คุณฮืบาริ!!”โคลมโวยออกมาเล็กน้อยแล้วฮิบาริก็เดินไปคว้าไม้ถูพื้นก่อนจะคว้าใส่โคลมอย่างไม่ใยดี

    “โอ้ย!!!”โคลมร้องออกมาลั่นเพราะความเจ็บ

    “ทำความสะอาดสะ!”พูดจบก็เดินออกไปจากห้องครัวทันที

    น้ำใสๆเริ่มออกมาจากดวงตาของโคลมอีกครั้งแต่เธอก็ยอมที่จะทำความสะอาดตามคำสั่งของเขาแต่โดยดี

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×