คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : เป็นเรื่องจนได้
จ๊อกแจ๊กจอแจ~
พอฉันมาถึงโรงเรียนฉันก็ได้ยินเสียงนักเรียนหลายคนส่งเสียงคุยกันเสียงดัง
บางคนก็ซุบซิบอะไรกันอยู่ก็ไม่รู้ ยังไงซะฉันเองก็ไม่สนใจหรอก
กึก! เอ๋นั่นพวกผู้หญิงพวกนั้นมุงดูอะไรกันน่ะ
ขอแอบดูหน่อยแล้วกันนะ...
สวบ... สวบ...
ฉันมองบอร์ดสีขาวขุ่นซึ่งมีตัวอักษะแปะบนหัวว่า
‘อัพเดทข่าวใหม่ประจำวันนี้’ ข้างใต้คือรูปของฉันกับอีตายูกิที่ไปเดต เอ้ย!
ไปเที่ยวด้วยกันแปะอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นรูปที่อีตายูกิยื่นไอศกรีมให้ฉัน รูปที่เขาจูงมือฉัน
แถมยังมีรูปที่เขาหนุนตักฉันอีก อ้ากกก! อะไรกันเนี่ย! *()*
นี่ฉันถูกแอบถ่ายตั้งแต่เมื่อไหร่กันนนน!!! ฉันอยากฆ่าคนที่ถ่ายจริงๆ
เลยยย! T_T
นี่เรื่องของฉันกับเขาจะกลายเป็น Talk of the Town ไปแล้ว’เหรอเนี่ยม่ายยย!!!
ฉันรีบเดินให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้หนีจากพวกผู้หญิงโหดที่คอยเขม่นฉันตั้งแต่ตอนที่ฉันเดินเข้ามาในโรงเรียนจนถึงตอนนี้
อึ๋ย! แอบน่ากลัวนะเนี่ย
“ดูยัยนั่นสิ
เขาลือกันว่าเป็นแฟนกับท่านยูกิล่ะ” –หญิงหนึ่ง
“ไม่มั้ง
ดูไม่เหมาะสมกันสักนิดเดียว” –หญิงสอง
“ท่านยูกิคงไม่ตาต่ำไปชอบยัยนั่นหรอก”
–หญิงสาม
นี่มันอะไรกันเนี่ย!!! ฉันเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่เสียงซุบซิบนินทา
แถมที่ยอมไม่ได้คือไอ้ข่าวลือที่คิดว่าฉันเป็นแฟนอีตายูกินั่นแหละ เชอะ! ฉันไปเป็นแฟนอีตานั่นเมื่อไหร่กันยะ ให้สามคำ ไม่!
มี! วัน!
ฉันเลยรีบเดินไปเข้าห้องเรียนโดยที่ไม่ได้สนใจเสียงของคนรอบข้างที่เอ่ยถึงฉันเลยแม้แต่น้อย
ฮึ่ย!!! โมโห!!!
ทำไมกันยะคนอย่างฉันมันไม่คู่ควรกับเขาตรงไหนมิทราบ ชิ!
กึก!
เมื่อคำๆ หนึ่งผุดขึ้นมาในความคิด
เท้าของฉันก็ชะงักกึก พลันสมองก็ย้อนความคิดเมื่อกี๊ขึ้นมาฉายอีกครั้ง
...ไม่คู่ควร งั้นเหรอ...
ใช่สินะ ฉันคงไม่คู่ควรกับเขาจริงๆ
นั่นแหละ T_T
ตะ...แต่ไม่คู่ควรนั่นแหละถูกแล้ว ...เป็นทางนั้นต่างหากที่ไม่คู่ควรกับฉัน
โฮะๆๆ
เลิกคิดมากได้แล้วรีบขึ้นห้องไปเรียนดีกว่า...
...
ช่วงพักกลางวัน
“ยูกิ ไปทานข้าวกัน”
ฉันเก็บหนังสือใส่กระเป๋าเป้ที่ถูกห้อยไว้บนเก้าอี้ของตัวเอง
“เธอไปทานเถอะ”
“นายไม่หิวหรือไงกัน”
“ไม่หิว...
เพราะฉะนั้นเธอไปทานคนเดียวซะสิ”
“ยูกิ... ถ้านายไม่ไป...”
ฉันหยุดพูดไปพักหนึ่ง “ฉันก็ไม่ไป!”
ประโยคนั้นทำให้คนข้างๆ
ละสายตาจากกองหนังสือมาจ้องหน้าฉันเขม็ง
“ไม่ได้ เธอเองก็ต้องทานข้าวด้วย”
“ก็ฉันไม่หิวนี่ ถ้านายไม่หิว”
“เอ๊ะ!
นี่เธอมีกระเพาะอันเดียวกับฉันหรือไง” น้ำเสียงของเขาฉายแววรำคาญเล็กน้อย
“ไม่...
แต่ฉันไม่อยากเห็นนายอยู่คนเดียวแบบนี้ ฉันเป็นห่วงนายนะ ยูกิ...”
“...” ประโยคนั้นของฉันทำให้เขาจ้องหน้าฉันนิ่ง
“นะ... ไปทานข้าวกับฉันนะ”
“...”
“งืมมม *^*”
“ก็ไปสิ...” ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้ลุกขึ้นยืนเก็บหนังสือใส่กระเป๋าของตัวเอง
การกระทำนั้นทำให้ฉันยิ้มบางๆ ออกมา
อีตาบ้าเอ้ย! ทำตัวให้มันได้อย่างนี้บ้างสิค่อยน่ารักหน่อย...
เฮ้ย! แล้วทำไมฉันต้องคิดว่าหมอนี่นารักด้วยล่ะเนี่ย
ไม่ได้ๆๆ คนอย่างยัยลูน่าไม่มีทางคิดอะไรแบบนี้ได้แน่นอน ><
“งั้นก็ไปกันเถอะ”
ฉันกระตุกเสื้อของเขาเบาๆ ก่อนจะกึ่ง(ลาก)
กึ่งจูงให้เขาไปที่โรงอาหารซึ่งตอนนี้มีนักเรียนเหลืออยู่เพียงน้อยนิด
ฉันพาเขามานั่งโต๊ะในสุดที่ไม่ค่อยสะดุดตาสักเท่าไหร่
แล้วเดินไปสั่งอาหารของฉันกับเขา
“คุณป้าคะ ขอข้าวราดแกงสองที่ค่ะ”
“จ้ะๆ ว่าแต่หนูเป็นแฟนคุณยูกิเหรอ”
คุณป้าเจ้าของร้านกระซิบบอกฉันเบาๆ เฮ้ย! นี่ป้าจะบ้าเหรอ
“ไม่ใช่ป้า เราเป็นเพื่อนกัน
พอดีว่าน้าของหนูเป็นคนรู้จักของคุณอามินั่นแหละค่ะ” ฉันบอกความจริงกับป้าไปแต่ก็ไม่ลืมที่จะปิดบังเรื่องที่ฉันไปอาศัยอยู่ในบ้านของเขาทุกวัน
ถ้าขืนแกรู้ฉันจะเป็นยังไงนะ ไม่อยากคิด ><
“เหรอจ๊ะ
ป้าคิดว่าหนูเป็นแฟนกับคุณยูกิเสียอีก”
“ป้าอะ!”
“จ้ะๆๆ ป้าไม่แซวละ
เดี๋ยวอาหารจะไม่เสร็จสักที อิอิ”
เมื่อคุณป้าเจ้าของร้านทำท่าว่าจะหมุนตัวเดินไปทางด้านหลังเพื่อทำอาหารให้เราสองคน
ฉันจึงเดินมานั่งที่โต๊ะอีกครั้ง เอ๋? เพิ่งสังเกตเห็นว่านอกจากเราสองคนแล้ว
ยังมีกลุ่มนักเรียนชายหญิงอีกสี่คนนั่งรวมตัวเมาท์มอยกันอย่างเมามันส์
แอบเงี่ยหูฟังมั่งดีกว่า
“เฮ้ย! นี่พวกแกรู้ป่ะว่าสองคนนั้นกำลังกิ๊กกันอยู่”
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มดังขึ้นเบาๆ
“ใช่ๆ
ทำตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก๋” เสียงผู้ชายคนหนึ่งแทรกขึ้น
“พวกเขาอาจจะเคยใกล้ชิดกันมากกว่านี้ก็ได้”
ตามด้วยเสียงของทอมสาวหนึ่งในกลุ่มคนพวกนั้น
“หรือไม่อาจจะเคยมีอะไรๆ
กันแล้วก็ได้” แล้วก็ปิดท้ายด้วยเสียงสาวประเภทสองคนหนึ่งในกลุ่มนั้นด้วย
=*= อ้ากกก!!!! ไอ้เจ้าพวกบ้าพวกนี้มันคิดอะไรอยู่กันเนี่ย!!!
ไอ้สองคนแรกไม่เท่าไหร่
แต่ทำไมสองคนหลังถึงได้คิดอะไรอัปมงคลแบบนั้นได้ล่ะเนี่ย ทุเรศ! ทุเรศที่สุด!
ฉันนั่งนิ่งจ้องมองขาตัวเองนานมากจนอีกฝ่ายสงสัย
“เป็นอะไร”
“อะ... อ๋อ เปล่าๆๆๆ
ไม่ได้เป็นอะไรหรอก” ฉันตอบปฏิเสธ พลันจมูกก็ได้กลิ่นอาหารโชยมา พร้อมๆ
กับป้าที่ยกอาหารมาให้
“อาหารมาแล้ว” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่อง
“อะ ของนาย”
“ขอบใจ” เขารับจานไปก่อนจะลงมือทานอาหารอย่างไม่สนใจใคร
ส่วนฉันก็นั่งเขี่ยข้าวไปมาอย่างเซ็งๆ
“ทำไมไม่ทานล่ะ -_-”
“พอดีว่าไม่มีอารมณ์ทานอะ”
...เซ็งตั้งแต่ที่ได้ยินคนกลุ่มนั้นนินทาฉันแล้วล่ะ
“ชวนฉัน... แต่กลับมานั่งมองฉันทานเนี่ยนะ”
“ก็มัน...”
“ถ้างั้นก็...”
เขายื่นมือมาตรงหน้าฉัน
ก่อนที่ฉันจะสังเกตเห็นว่าเขาถือช้อนที่ตักข้าวเสร็จแล้วมาด้วย
“เอามาให้ฉันทำไม”
“ทานซะ”
ฉันเหลียวมองรอบๆ โรงอาหาร
คนกลุ่มนั้นก็ยังอยู่พลางมองมาทางฉันยิ้มๆ แล้วก็ซุบซิบต่างๆ นานา ฮึ่ย!
“ทานซะ -_-”
ใบหน้าของเขาเริ่มนิ่งอีกครั้ง
ไม่รู้ทำไมพอถึงเวลาที่อีตานี่ทำหน้าแบบนี้เมื่อไหร่ ฉันถึงต้องยอมมันทุกที...
“ก็ได้ อ๊ามมม” ฉันอ้าปากงับข้าวในช้อนจนหมด
“พอใจยังล่ะ”
“อืม” เขายิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก
มันเป็นรอยยิ้มที่ดูดีและแสนวิเศษที่สุด เพราะว่าตั้งแต่ฉันได้รู้จักกับหมอนี่มานี่เป็นครั้งแรกที่เขายิ้มแบบนี้
ดูดีจังเลย
“มองอะไร”
“ก็นายยิ้มอะ”
“ใครยิ้ม... ไม่มี...”
“อย่ามาโกหกน่า”
ฉันชี้นิ้วไปจิ้มเบาๆ ที่คางของเขา “เห็นนะ”
“ถ้าแซวอีกทีฉันไม่ทานแล้วนะ”
เอาอีกแล้วขู่กันอีกแล้วนี่นา YOY ฮึ่ย! ไม่แซวแล้วก็ได้
“อะๆ ไม่แซวแล้วก็ได้”
“อืม...”
“...”
เขาก้มหน้าลงทานข้าวต่อ
ฉันเลยถือโอกาสตอนนี้มองไปรอบๆ โรงอาหารอีกครั้ง
ตอนนี้โรงอาหารเงียบกริบ
ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใดๆ ยกเว้นฉันกับเขา (อ้อ! กับป้าเจ้าของร้านอีกคนด้วย =_=)
กลุ่มคนพวกนั้นสลายตัวหายไปเมื่อไหร่ไม่รู้
แต่ก็ดีแล้วล่ะจะได้ไม่มีคนมาคอยกวนใจฉัน...
นี่ฉันคิดอะไรอีกแล้วเนี่ยยย!!!
“คิดอะไรอยู่...” บุคคลตรงหน้าส่งเสียงเรียกเตือนสติฉัน
“ข้าวเย็นหมดแล้วมั้ง -_-”
“อะ... เอ่อ... งะ... งั้นเหรอ
สงสัยจะคิดอะไรเพลินไปหน่อยน่ะ แหะๆ” พูดจบก็ลงมือทานข้าวอย่างที่เขาบอก
แต่ก็มิวายแอบมองใบหน้าของเขาในระยะประชิด -///-
...ใบหน้าใสกิ๊ง ไร้สิวไร้ริ้วรอย
จมูกโด่งเวอร์รับกับริมฝีปากสีแดงสด แถมยังแอบมีไฝเล็กๆ ตรงนั้นอีกด้วย ><
ดูแล้วหล่อละลายเลย
รู้สึกว่าวันนี้ฉันจะทานข้าวไม่อิ่มสักเท่าไหร่
แต่ใจน่ะเหรอ ฮิๆๆ ไม่บอกดีกว่า...
“เหม่ออะไรอีกล่ะยัยบ๊อง”
น้ำเสียงเรียบๆ
ที่แอบจิกกัดเล็กน้อยทำให้ฉันที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ อยู่ถึงกับสะดุ้ง
“อะไรของนาย” ฉันถามกลับอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่
“ได้เวลากลับบ้านแล้ว -_-” เขาทำหน้าเซ็งแล้วเดินตัวปลิวออกจากห้องไปโดยไม่รอฉัน
“...”
“จะกลับกับฉันหรืออยากเดินกลับเอง...
-*-”
“เฮ้ย!! รอฉันด้วย!!” ฉันทำตาโต ก่อนจะรีบเดินตามหลังอีตายูกิที่ตอนนี้เดินออกไปนอกอาคารแล้ว
พอฉันเดินมาถึงก็รีบแขวะทันที
“ใจคอนี่ไม่คิดจะรอเลยนะ”
“แล้วไง...” เขาทำหน้าตาย
“เธอมัวแต่เหม่อจนไม่ได้ฟังเสียงออดเลิกเรียนล่ะสิ -_-”
อะ...เอ่อ เรื่องนั้นมันก็จริง
แต่สาเหตุมันก็เกิดจากนายไม่ใช่หรือไงกัน
“เออ! ฉันผิดเอง” ฉันทำหน้ามุ่ย “ขอโทษก็แล้วกัน”
“อือ...
ทีหลังเวลาฉันเรียกก็อย่าเหม่ออีกแล้วกัน”
“รู้แล้วล่ะน่า...”
ก่อนจะเดินไปขึ้นรถของอีตายูกิที่จอดอยู่อย่างไวเมื่อเจ้าตัวปลดล็อคประตู
เขานั่งลงบนที่นั่งคนขับแล้วขยับแว่นเบาๆ
สองที “พูดง่ายอย่างนี้ค่อยน่ารักหน่อย...”
“...!”
คำพูดนั้นของอีตายูกิทำเอาฉันอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก
เขา... ชมฉันงั้นเหรอ
ขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวบนถนนอันคุ้นเคย
ตอนนี้มีผู้คนมากมายเดินกันขวักไขว่
ส่วนมากจะเป็นเด็กนักเรียนที่เลิกเรียนแล้วนั่นเอง
แต่ว่านะ...
ทั้งที่ภายนอกของรถออกจะคึกคักขนาดนี้ แต่ภายในรถกลับตรงกันข้าม ฉันกับอีตายูกิเราสองคนต่างคนต่างเงียบไม่มีใครส่งเสียงอะไรออกมาเลย
มันเงียบราวกับอยู่ในป่าช้าตั้งแต่ฉันได้ยินเขาพูดประโยคก่อนหน้านี้...
“...”
“...”
ฉันยื่นมือไปเปิดเพลงที่เครื่องเล่นเพลงบนรถเมื่อเห็นว่าบรรยากาศตอนนี้เริ่มตึงเครียด
โดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด -_-
...เธอแอบชอบฉันอยู่ใช่ไหม...
เมื่อเสียงเพลงดังขึ้น อีตายูกิก็เริ่มรู้ตัวชายตาแลฉันแวบหนึ่ง
(แวบเดียวเท่านั้น T_T)
หลังจากนั้นเขาก็มองข้างหน้าเพื่อขับรถต่อ
...เธอแอบมองฉันอยู่ใช่ไหม
แต่ฉันทำเป็นไม่รู้สึกนึกในใจทุกครั้งอยากให้เธอเข้ามา
เลยทำเป็นรอใครสักคนยืนอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน ฉันแค่รอให้เธอเข้ามาทัก...
เอ่อ... รู้สึกว่าเพลงมันจะทำให้ฉันเครียดเข้าไปใหญ่
เพลงอะไรเนี่ย ไม่ไหวๆ เปลี่ยนด่วน!! >//<
ติ๊ด!
...รักเธอแต่เธอไม่รู้หรอก
เราไม่บอกไม่บอกซะอย่าง แอบปิ๊งแค่เพียงห่างๆ เก็บไปฝันในวันว่างๆ
ไม่อยากจืดจางไม่อยากเสียใจ...
ติ๊ด!
...รัก...
ฉันแน่ใจว่ารัก ฉันค้นจนหมดใจ ก็มีเพียงแค่เธอ... ใคร จะมีใครที่ดีเลิศเลอ
แต่ถ้าไม่ใช่เธอ ก็ไม่ได้หวังที่จะรักใคร...
“...”
ติ๊ด!
...เข้าใจใช่มั้ยที่ฉันทำเพราะอะไรและเพราะใคร
อยากรู้บ้างว่าเธอคิดยังไง... เข้าใจบ้างมั้ยที่ฉันทำทุกๆ อย่างจากหัวใจ
รู้มั้ยว่ามีใครที่รักเธอ...
“=*=”
เหอะๆๆ วันนี้มันเป็นวันอะไรกันแน่
ทำไมถึงมีแต่เพลงแบบนี้กันนะ คนยิ่งกลุ้มๆ
อยู่อีกทั้งตอนนี้ก็ยังไม่หายเขินกับคำชม (ที่ไม่รู้ตัว) ของเขาด้วย
“เอ่อ...” เขาหันมามองหน้าฉัน
“คือ...”
“หือ?”
“คือ... ฉัน”
“..!”
“ปี๊บบบ!!!” เสียงแตรของรถคันหลังดังขึ้นทำลายบรรยากาศ ยูกิจึงเปลี่ยนจุดโฟกัสเป็นหน้าถนนแบบเดิม
อะไรอะ...
เมื่อกี๊เขาคิดจะบอกอะไรฉันกันแน่นะ บวกกับท่าทีที่ไม่คุ้นเคยนั่นอีกด้วย เขาต้องมีอะไรปิดบังฉันแหงๆ
เลย
ความคิดเห็น