ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My lovely cool guy. เผลอไปรักได้ไง โอ้ย! โรคหัวใจจะกำเริบ

    ลำดับตอนที่ #9 : เป็นเรื่องจนได้

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 58


    จ๊อกแจ๊กจอแจ~

    พอฉันมาถึงโรงเรียนฉันก็ได้ยินเสียงนักเรียนหลายคนส่งเสียงคุยกันเสียงดัง บางคนก็ซุบซิบอะไรกันอยู่ก็ไม่รู้ ยังไงซะฉันเองก็ไม่สนใจหรอก

    กึก! เอ๋นั่นพวกผู้หญิงพวกนั้นมุงดูอะไรกันน่ะ ขอแอบดูหน่อยแล้วกันนะ...

    สวบ... สวบ...

    ฉันมองบอร์ดสีขาวขุ่นซึ่งมีตัวอักษะแปะบนหัวว่า อัพเดทข่าวใหม่ประจำวันนี้ ข้างใต้คือรูปของฉันกับอีตายูกิที่ไปเดต เอ้ย! ไปเที่ยวด้วยกันแปะอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นรูปที่อีตายูกิยื่นไอศกรีมให้ฉัน รูปที่เขาจูงมือฉัน แถมยังมีรูปที่เขาหนุนตักฉันอีก อ้ากกก! อะไรกันเนี่ย! *()*

    นี่ฉันถูกแอบถ่ายตั้งแต่เมื่อไหร่กันนนน!!! ฉันอยากฆ่าคนที่ถ่ายจริงๆ เลยยย! T_T

    นี่เรื่องของฉันกับเขาจะกลายเป็น Talk of the Town ไปแล้วเหรอเนี่ยม่ายยย!!!

    ฉันรีบเดินให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้หนีจากพวกผู้หญิงโหดที่คอยเขม่นฉันตั้งแต่ตอนที่ฉันเดินเข้ามาในโรงเรียนจนถึงตอนนี้ อึ๋ย! แอบน่ากลัวนะเนี่ย

    “ดูยัยนั่นสิ เขาลือกันว่าเป็นแฟนกับท่านยูกิล่ะ” –หญิงหนึ่ง

    “ไม่มั้ง ดูไม่เหมาะสมกันสักนิดเดียว” –หญิงสอง

    “ท่านยูกิคงไม่ตาต่ำไปชอบยัยนั่นหรอก” –หญิงสาม

    นี่มันอะไรกันเนี่ย!!! ฉันเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่เสียงซุบซิบนินทา แถมที่ยอมไม่ได้คือไอ้ข่าวลือที่คิดว่าฉันเป็นแฟนอีตายูกินั่นแหละ เชอะ! ฉันไปเป็นแฟนอีตานั่นเมื่อไหร่กันยะ ให้สามคำ ไม่! มี! วัน!

    ฉันเลยรีบเดินไปเข้าห้องเรียนโดยที่ไม่ได้สนใจเสียงของคนรอบข้างที่เอ่ยถึงฉันเลยแม้แต่น้อย

    ฮึ่ย!!! โมโห!!! ทำไมกันยะคนอย่างฉันมันไม่คู่ควรกับเขาตรงไหนมิทราบ ชิ!

    กึก!

    เมื่อคำๆ หนึ่งผุดขึ้นมาในความคิด เท้าของฉันก็ชะงักกึก พลันสมองก็ย้อนความคิดเมื่อกี๊ขึ้นมาฉายอีกครั้ง

    ...ไม่คู่ควร งั้นเหรอ...

    ใช่สินะ ฉันคงไม่คู่ควรกับเขาจริงๆ นั่นแหละ T_T

    ตะ...แต่ไม่คู่ควรนั่นแหละถูกแล้ว ...เป็นทางนั้นต่างหากที่ไม่คู่ควรกับฉัน โฮะๆๆ

    เลิกคิดมากได้แล้วรีบขึ้นห้องไปเรียนดีกว่า...

    ...

    ช่วงพักกลางวัน

    “ยูกิ ไปทานข้าวกัน” ฉันเก็บหนังสือใส่กระเป๋าเป้ที่ถูกห้อยไว้บนเก้าอี้ของตัวเอง

    “เธอไปทานเถอะ”

    “นายไม่หิวหรือไงกัน”

    “ไม่หิว... เพราะฉะนั้นเธอไปทานคนเดียวซะสิ”

    “ยูกิ... ถ้านายไม่ไป...” ฉันหยุดพูดไปพักหนึ่ง “ฉันก็ไม่ไป!

    ประโยคนั้นทำให้คนข้างๆ ละสายตาจากกองหนังสือมาจ้องหน้าฉันเขม็ง

    “ไม่ได้ เธอเองก็ต้องทานข้าวด้วย”

    “ก็ฉันไม่หิวนี่ ถ้านายไม่หิว”

    “เอ๊ะ! นี่เธอมีกระเพาะอันเดียวกับฉันหรือไง” น้ำเสียงของเขาฉายแววรำคาญเล็กน้อย

    “ไม่... แต่ฉันไม่อยากเห็นนายอยู่คนเดียวแบบนี้ ฉันเป็นห่วงนายนะ ยูกิ...”

    “...” ประโยคนั้นของฉันทำให้เขาจ้องหน้าฉันนิ่ง

    “นะ... ไปทานข้าวกับฉันนะ”

    “...”

    “งืมมม *^*

    “ก็ไปสิ...” ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้ลุกขึ้นยืนเก็บหนังสือใส่กระเป๋าของตัวเอง

    การกระทำนั้นทำให้ฉันยิ้มบางๆ ออกมา อีตาบ้าเอ้ย! ทำตัวให้มันได้อย่างนี้บ้างสิค่อยน่ารักหน่อย...

    เฮ้ย! แล้วทำไมฉันต้องคิดว่าหมอนี่นารักด้วยล่ะเนี่ย ไม่ได้ๆๆ คนอย่างยัยลูน่าไม่มีทางคิดอะไรแบบนี้ได้แน่นอน ><

    “งั้นก็ไปกันเถอะ” ฉันกระตุกเสื้อของเขาเบาๆ ก่อนจะกึ่ง(ลาก) กึ่งจูงให้เขาไปที่โรงอาหารซึ่งตอนนี้มีนักเรียนเหลืออยู่เพียงน้อยนิด

    ฉันพาเขามานั่งโต๊ะในสุดที่ไม่ค่อยสะดุดตาสักเท่าไหร่ แล้วเดินไปสั่งอาหารของฉันกับเขา

    “คุณป้าคะ ขอข้าวราดแกงสองที่ค่ะ”

    “จ้ะๆ ว่าแต่หนูเป็นแฟนคุณยูกิเหรอ” คุณป้าเจ้าของร้านกระซิบบอกฉันเบาๆ เฮ้ย! นี่ป้าจะบ้าเหรอ

    “ไม่ใช่ป้า เราเป็นเพื่อนกัน พอดีว่าน้าของหนูเป็นคนรู้จักของคุณอามินั่นแหละค่ะ” ฉันบอกความจริงกับป้าไปแต่ก็ไม่ลืมที่จะปิดบังเรื่องที่ฉันไปอาศัยอยู่ในบ้านของเขาทุกวัน ถ้าขืนแกรู้ฉันจะเป็นยังไงนะ ไม่อยากคิด ><

    “เหรอจ๊ะ ป้าคิดว่าหนูเป็นแฟนกับคุณยูกิเสียอีก”

    “ป้าอะ!

    “จ้ะๆๆ ป้าไม่แซวละ เดี๋ยวอาหารจะไม่เสร็จสักที อิอิ”

    เมื่อคุณป้าเจ้าของร้านทำท่าว่าจะหมุนตัวเดินไปทางด้านหลังเพื่อทำอาหารให้เราสองคน ฉันจึงเดินมานั่งที่โต๊ะอีกครั้ง เอ๋? เพิ่งสังเกตเห็นว่านอกจากเราสองคนแล้ว ยังมีกลุ่มนักเรียนชายหญิงอีกสี่คนนั่งรวมตัวเมาท์มอยกันอย่างเมามันส์ แอบเงี่ยหูฟังมั่งดีกว่า

    “เฮ้ย! นี่พวกแกรู้ป่ะว่าสองคนนั้นกำลังกิ๊กกันอยู่” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มดังขึ้นเบาๆ

    “ใช่ๆ ทำตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก๋” เสียงผู้ชายคนหนึ่งแทรกขึ้น

    “พวกเขาอาจจะเคยใกล้ชิดกันมากกว่านี้ก็ได้” ตามด้วยเสียงของทอมสาวหนึ่งในกลุ่มคนพวกนั้น

    “หรือไม่อาจจะเคยมีอะไรๆ กันแล้วก็ได้” แล้วก็ปิดท้ายด้วยเสียงสาวประเภทสองคนหนึ่งในกลุ่มนั้นด้วย

    =*= อ้ากกก!!!! ไอ้เจ้าพวกบ้าพวกนี้มันคิดอะไรอยู่กันเนี่ย!!!

    ไอ้สองคนแรกไม่เท่าไหร่ แต่ทำไมสองคนหลังถึงได้คิดอะไรอัปมงคลแบบนั้นได้ล่ะเนี่ย ทุเรศ! ทุเรศที่สุด!

    ฉันนั่งนิ่งจ้องมองขาตัวเองนานมากจนอีกฝ่ายสงสัย

    “เป็นอะไร”

    “อะ... อ๋อ เปล่าๆๆๆ ไม่ได้เป็นอะไรหรอก” ฉันตอบปฏิเสธ พลันจมูกก็ได้กลิ่นอาหารโชยมา พร้อมๆ กับป้าที่ยกอาหารมาให้

    “อาหารมาแล้ว” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่อง “อะ ของนาย”

    “ขอบใจ” เขารับจานไปก่อนจะลงมือทานอาหารอย่างไม่สนใจใคร ส่วนฉันก็นั่งเขี่ยข้าวไปมาอย่างเซ็งๆ

    “ทำไมไม่ทานล่ะ -_-

    “พอดีว่าไม่มีอารมณ์ทานอะ” ...เซ็งตั้งแต่ที่ได้ยินคนกลุ่มนั้นนินทาฉันแล้วล่ะ

    “ชวนฉัน... แต่กลับมานั่งมองฉันทานเนี่ยนะ”

    “ก็มัน...”

    “ถ้างั้นก็...” เขายื่นมือมาตรงหน้าฉัน ก่อนที่ฉันจะสังเกตเห็นว่าเขาถือช้อนที่ตักข้าวเสร็จแล้วมาด้วย

    “เอามาให้ฉันทำไม”

    “ทานซะ”

    ฉันเหลียวมองรอบๆ โรงอาหาร คนกลุ่มนั้นก็ยังอยู่พลางมองมาทางฉันยิ้มๆ แล้วก็ซุบซิบต่างๆ นานา ฮึ่ย!

    “ทานซะ -_-” ใบหน้าของเขาเริ่มนิ่งอีกครั้ง ไม่รู้ทำไมพอถึงเวลาที่อีตานี่ทำหน้าแบบนี้เมื่อไหร่ ฉันถึงต้องยอมมันทุกที...

    “ก็ได้ อ๊ามมม” ฉันอ้าปากงับข้าวในช้อนจนหมด “พอใจยังล่ะ”

    “อืม” เขายิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก มันเป็นรอยยิ้มที่ดูดีและแสนวิเศษที่สุด เพราะว่าตั้งแต่ฉันได้รู้จักกับหมอนี่มานี่เป็นครั้งแรกที่เขายิ้มแบบนี้ ดูดีจังเลย

    “มองอะไร”

    “ก็นายยิ้มอะ”

    “ใครยิ้ม... ไม่มี...”

    “อย่ามาโกหกน่า” ฉันชี้นิ้วไปจิ้มเบาๆ ที่คางของเขา “เห็นนะ”

    “ถ้าแซวอีกทีฉันไม่ทานแล้วนะ” เอาอีกแล้วขู่กันอีกแล้วนี่นา YOY ฮึ่ย! ไม่แซวแล้วก็ได้

    “อะๆ ไม่แซวแล้วก็ได้”

    “อืม...”

    “...”

    เขาก้มหน้าลงทานข้าวต่อ ฉันเลยถือโอกาสตอนนี้มองไปรอบๆ โรงอาหารอีกครั้ง

    ตอนนี้โรงอาหารเงียบกริบ ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใดๆ ยกเว้นฉันกับเขา (อ้อ! กับป้าเจ้าของร้านอีกคนด้วย =_=) กลุ่มคนพวกนั้นสลายตัวหายไปเมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ก็ดีแล้วล่ะจะได้ไม่มีคนมาคอยกวนใจฉัน...

    นี่ฉันคิดอะไรอีกแล้วเนี่ยยย!!!

    “คิดอะไรอยู่...” บุคคลตรงหน้าส่งเสียงเรียกเตือนสติฉัน “ข้าวเย็นหมดแล้วมั้ง -_-

    “อะ... เอ่อ... งะ... งั้นเหรอ สงสัยจะคิดอะไรเพลินไปหน่อยน่ะ แหะๆ” พูดจบก็ลงมือทานข้าวอย่างที่เขาบอก แต่ก็มิวายแอบมองใบหน้าของเขาในระยะประชิด -///-

    ...ใบหน้าใสกิ๊ง ไร้สิวไร้ริ้วรอย จมูกโด่งเวอร์รับกับริมฝีปากสีแดงสด แถมยังแอบมีไฝเล็กๆ ตรงนั้นอีกด้วย >< ดูแล้วหล่อละลายเลย

    รู้สึกว่าวันนี้ฉันจะทานข้าวไม่อิ่มสักเท่าไหร่ แต่ใจน่ะเหรอ ฮิๆๆ ไม่บอกดีกว่า...

     

    “เหม่ออะไรอีกล่ะยัยบ๊อง”

    น้ำเสียงเรียบๆ ที่แอบจิกกัดเล็กน้อยทำให้ฉันที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ อยู่ถึงกับสะดุ้ง

    “อะไรของนาย” ฉันถามกลับอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่

    “ได้เวลากลับบ้านแล้ว -_-” เขาทำหน้าเซ็งแล้วเดินตัวปลิวออกจากห้องไปโดยไม่รอฉัน

    “...”

    “จะกลับกับฉันหรืออยากเดินกลับเอง... -*-

    “เฮ้ย!! รอฉันด้วย!!” ฉันทำตาโต ก่อนจะรีบเดินตามหลังอีตายูกิที่ตอนนี้เดินออกไปนอกอาคารแล้ว

    พอฉันเดินมาถึงก็รีบแขวะทันที

    “ใจคอนี่ไม่คิดจะรอเลยนะ”

    “แล้วไง...” เขาทำหน้าตาย “เธอมัวแต่เหม่อจนไม่ได้ฟังเสียงออดเลิกเรียนล่ะสิ -_-

    อะ...เอ่อ เรื่องนั้นมันก็จริง แต่สาเหตุมันก็เกิดจากนายไม่ใช่หรือไงกัน

    “เออ! ฉันผิดเอง” ฉันทำหน้ามุ่ย “ขอโทษก็แล้วกัน”

    “อือ... ทีหลังเวลาฉันเรียกก็อย่าเหม่ออีกแล้วกัน”

    “รู้แล้วล่ะน่า...” ก่อนจะเดินไปขึ้นรถของอีตายูกิที่จอดอยู่อย่างไวเมื่อเจ้าตัวปลดล็อคประตู

    เขานั่งลงบนที่นั่งคนขับแล้วขยับแว่นเบาๆ สองที “พูดง่ายอย่างนี้ค่อยน่ารักหน่อย...”

    “...!

    คำพูดนั้นของอีตายูกิทำเอาฉันอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก เขา... ชมฉันงั้นเหรอ

    ขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวบนถนนอันคุ้นเคย ตอนนี้มีผู้คนมากมายเดินกันขวักไขว่ ส่วนมากจะเป็นเด็กนักเรียนที่เลิกเรียนแล้วนั่นเอง

    แต่ว่านะ... ทั้งที่ภายนอกของรถออกจะคึกคักขนาดนี้ แต่ภายในรถกลับตรงกันข้าม ฉันกับอีตายูกิเราสองคนต่างคนต่างเงียบไม่มีใครส่งเสียงอะไรออกมาเลย มันเงียบราวกับอยู่ในป่าช้าตั้งแต่ฉันได้ยินเขาพูดประโยคก่อนหน้านี้...

    “...”

    “...”

    ฉันยื่นมือไปเปิดเพลงที่เครื่องเล่นเพลงบนรถเมื่อเห็นว่าบรรยากาศตอนนี้เริ่มตึงเครียด โดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด -_-

    ...เธอแอบชอบฉันอยู่ใช่ไหม...

    เมื่อเสียงเพลงดังขึ้น อีตายูกิก็เริ่มรู้ตัวชายตาแลฉันแวบหนึ่ง (แวบเดียวเท่านั้น T_T) หลังจากนั้นเขาก็มองข้างหน้าเพื่อขับรถต่อ

    ...เธอแอบมองฉันอยู่ใช่ไหม แต่ฉันทำเป็นไม่รู้สึกนึกในใจทุกครั้งอยากให้เธอเข้ามา เลยทำเป็นรอใครสักคนยืนอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน ฉันแค่รอให้เธอเข้ามาทัก...

    เอ่อ... รู้สึกว่าเพลงมันจะทำให้ฉันเครียดเข้าไปใหญ่ เพลงอะไรเนี่ย ไม่ไหวๆ เปลี่ยนด่วน!! >//<

    ติ๊ด!

    ...รักเธอแต่เธอไม่รู้หรอก เราไม่บอกไม่บอกซะอย่าง แอบปิ๊งแค่เพียงห่างๆ เก็บไปฝันในวันว่างๆ ไม่อยากจืดจางไม่อยากเสียใจ...

    ติ๊ด!

    ...รัก... ฉันแน่ใจว่ารัก ฉันค้นจนหมดใจ ก็มีเพียงแค่เธอ... ใคร จะมีใครที่ดีเลิศเลอ แต่ถ้าไม่ใช่เธอ ก็ไม่ได้หวังที่จะรักใคร...

    “...”

    ติ๊ด!

    ...เข้าใจใช่มั้ยที่ฉันทำเพราะอะไรและเพราะใคร อยากรู้บ้างว่าเธอคิดยังไง... เข้าใจบ้างมั้ยที่ฉันทำทุกๆ อย่างจากหัวใจ รู้มั้ยว่ามีใครที่รักเธอ...

    =*=

    เหอะๆๆ วันนี้มันเป็นวันอะไรกันแน่ ทำไมถึงมีแต่เพลงแบบนี้กันนะ คนยิ่งกลุ้มๆ อยู่อีกทั้งตอนนี้ก็ยังไม่หายเขินกับคำชม (ที่ไม่รู้ตัว) ของเขาด้วย

    “เอ่อ...” เขาหันมามองหน้าฉัน “คือ...”

    “หือ?”

    “คือ... ฉัน”

    “..!

    ปี๊บบบ!!!” เสียงแตรของรถคันหลังดังขึ้นทำลายบรรยากาศ ยูกิจึงเปลี่ยนจุดโฟกัสเป็นหน้าถนนแบบเดิม

    อะไรอะ... เมื่อกี๊เขาคิดจะบอกอะไรฉันกันแน่นะ บวกกับท่าทีที่ไม่คุ้นเคยนั่นอีกด้วย เขาต้องมีอะไรปิดบังฉันแหงๆ เลย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×