ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My lovely cool guy. เผลอไปรักได้ไง โอ้ย! โรคหัวใจจะกำเริบ

    ลำดับตอนที่ #2 : บ้านใหม่...เพื่อนใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 58


    “เข้ามาสิ ลูน่า”

    เสียงคุณน้าเรียกฉันให้ตื่นจากภวังค์ สถานที่ตรงหน้านี้ทำให้ฉันไม่อยากที่จะละสายตาไปเลย แต่ก็คงต้องตัดใจแล้วล่ะ

    “ค่ะๆ” ฉันเดินตามหลังน้ามูนต้อยๆ เพราะถ้าเกิดพลัดหลงกันล่ะก็ฉันคงต้องตายเพราะเดินจนเหนื่อยแน่ๆ เลย

    “เดี๋ยวน้าจะพาไปพบคุณอามิ”

    ฉันเดินตามน้ามาจนถึงภายในคฤหาสน์ที่ภายนอกว่าสวยแล้วภายในนั้นยิ่งกว่า บนพื้นนั้นวาววับสะท้อนภาพด้านบน ดีนะที่ฉันใส่กางเกงมาไม่งั้นคงจะได้เห็นอะไรต่อมิอะไรหมด

    น้ามูนยังคงเดินต่อไป จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูบานใหญ่บานหนึ่งก่อนจะเอื้อมมือไปเคาะสองครั้ง

    ก๊อก ก็อก

    “คุณอามิคะ ฉันพาหลานมาแล้วค่ะ”

    “เข้ามาสิจ้ะ”

    เสียงเล็กๆ ที่ทุ้มนุ่มนวลดังมาจากข้างในห้อง น้ามูนเปิดประตูแล้วพยายามผลักให้ฉันเข้าไปให้เร็วที่สุดก่อนจะเลื่อนบานประตูให้ปิดลง โอ๊ย! อะไรของน้าเนี่ย

    ตึง!

    “ยินดีต้อนรับสู่บ้านของฉันจ้ะ” ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของฉันยิ้มต้อนรับ หลังจากที่ฉันเพ่งมองแล้วดูไม่มีเค้าความแก่เลยสักนิด ออกจะอ่อนเยาว์เลยด้วยซ้ำ ยิ่งเมื่อกี๊ที่ได้ฟังเสียงแล้วก็ยิ่งอึ้งเข้าไปใหญ่

    “สะ... สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้สวัสดีอย่างนอบน้อม

    “เป็นไง พออยู่ได้มั้ยจ้ะ”

    “อยู่ได้สิคะ เป็นความกรุณาอย่างมากค่ะ หนูขอขอบพระคุณมากๆ นะคะ”

    “ไม่เป็นไรจ้ะ โอเค งั้นน้าขอเชิญหนูนั่งก่อนนะ น้ามีธุระจะคุยกับหนูเยอะแยะเลย” คุณอามิ (อย่างที่น้ามูนเรียก) ผายมือไปยังเก้าอี้ข้างตัว ก่อนจะหันหลังไปหยิบเอกสารบางอย่างจากแฟ้มที่หนาปึ่ก

    ระ... รู้สึกเกร็งๆ ยังไงก็ไม่รู้สิ ฉันไม่เคยนั่งอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่คนไหนเลย เพราะวันๆ เอาแต่อ่านหนังสือ ดูการ์ตูน แล้วก็นอน =_= (รู้สึกว่าจะว่างจัด)

    “น้าได้สมัครเรียนให้หนูแล้วนะ ไม่เสียค่าเรียนด้วย อีกอย่างน้าก็ให้หนูพักที่บ้านของน้าแบบไม่มีกำหนดโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น แต่น้าขออะไรหนูอย่างได้มั้ย...” คุณน้าเลื่อนสายตาออกจากแฟ้มตรงหน้า ก่อนจะจ้องเขม็งมาทางฉันที่ตอนนี้นั่งตัวแข็งทื่อ

    “ดะ... ได้สิคะ”

    “น้าขอให้หนูช่วยดูแลลูกของน้าให้ที...”

    หา... นี่เนี่ยนะเรื่องที่คุณอามิขอร้อง อะไรกันถ้าให้ฉันเรียนฟรี อยู่บ้านฟรีแบบนี้ ให้ฉันเป็นคนใช้ฉันก็ยอม

    “ได้สิคะ เรื่องดูแลเด็กเนี่ยงานถนัดหนูเลยค่ะ”

    “งั้นตกลงตามนี้นะจ้ะ นี่จ้ะใบสมัครเรียน” คุณอามิยื่นเอกสารฉบับหนึ่งมาให้ฉัน ฉันถึงได้รู้ว่ามันเป็นใบสมัครเรียนในโรงเรียนของคุณอามิ! เฮ้ย! คุณอามิเป็นเจ้าของโรงเรียนเหรอเนี่ย ให้สามคำ ไม่! น่า! เชื่อ!

    ฉันอ่านเอกสารให้ละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะจัดการกรอกใบสมัครในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งคุณอามิก็อมยิ้มอย่างพึงพอใจ

    “เอาล่ะ เสร็จธุระแล้ว เดี๋ยวน้าจะให้คนพาไปดูห้องนะจ้ะ”

    “คะ... ค่ะๆ”

    คุณอามิตะโกนเรียกใครสักคน จากนั้นไม่นานคนๆ นั้นก็พาฉันเดินตรงไปยังห้องๆ หนึ่งอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหยิบกุญแจพวงใหญ่ขึ้นมาไขอย่างชำนาญ

    “ห้องนี้เป็นห้องของคุณนะคะ คุณอามิได้เตรียมเอาไว้ให้คุณอย่างดีเลยค่ะ”

    พูดจบเธอก็เดินจากไป ทิ้งให้ฉันเดินเข้ามาในห้องอย่างเงียบๆ กลิ่นหอมๆ ของน้ำหอมปรับอากาศโชยเข้ามาแตะจมูกฉันทันที ภายในถูกตกแต่งด้วยสีเหลืองสว่าง ตกแต่งด้วยลายวอลเปเปอร์สีทองลวดลายคลาสสิก โคมไฟดวงเล็กๆ ติดเรียงรายตามผนังห้อง เตียงนอนขนาดคิงไซด์ถูกตั้งวางเด่นเป็นสง่าอยู่กลางห้อง เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก็มีครบครัน อ้า... สวรรค์จริงๆ

    ฉันเดินตรงดิ่งไปยังตู้เสื้อผ้าพร้อมกับเปิดมันออกเบาๆ

    ผ่าง!

    เสื้อผ้าของฉันถูกแทนที่ด้วยเสื้อผ้าสวยๆ หลากสีสัน ยี่ห้อ และรูปแบบ แขวนเรียงเป็นทางยาวสุดปลายตู้ ตามด้วยชั้นที่สองซึ่งมีกางเกงนานาชนิด ทั้งขาสั้น ขายาว และกางเกงยีนส์ ส่วนชั้นล่างสุดก็มีชุดนอนหลากหลายแบบให้เลือก กรี๊ดดด! น่ารักจังเลย

    หลังจากที่ฉันสำรวจเสื้อผ้าจนแทบจะหมดตู้แล้ว ก็ควรค่าแก่การอาบน้ำให้สดชื่นสักที มีห้องน้ำในตัวนี่มันหรูจริงๆ หรูยิ่งกว่าโรงแรมห้าดาวอีกนะเนี่ย >O<

     

    แกร๊ก แอ้ด~

    ฉันค่อยๆ ปิดประตูห้องอย่างระมัดระวังหลังจากอาบน้ำเสร็จ และอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สบายๆ บ้านนี้กว้างจริงๆ นั่นแหละ เดินสำรวจสักนิดจะดีมั้ยน้า~

    เริ่มจากตรงไหนดี เอาเป็นห้องข้างๆ แล้วกัน ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว

    ประตูสีดำทะมึนที่อยู่ห้องข้างๆ ฉัน ดึงดูดสายตาของฉันได้เป็นอย่างดี เพราะมันทั้งเด่นทั้งแปลกยิ่งกว่าห้องอื่นๆ ที่สำคัญเจ้าของห้องก็คงไม่อยู่ด้วย เพราะประตูมันไม่ได้ล็อค ฮ่าๆ

    ขอเสียมารยาทเปิดดูหน่อยก็แล้วกัน

    แอ้ด...

    ห้องโทนสีดำขนาดใหญ่ที่จัดข้าวของไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยทุกซอกทุกมุม เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นล้วนแต่เป็นของที่ดูดีมีราคาถูกจัดไว้อย่างเป็นสัดส่วน ตรงมุมหลังห้องเป็นมุมอ่านหนังสือเล็กๆ ที่มีโซฟากำมะหยี่สีดำสนิทกับตู้หนังสือสีดำอีกเช่นกัน =*=

    สงสัยเจ้าของห้องน่าจะชอบสีดำเป็นพิเศษ...

    ฉันค่อยๆ เลื่อนสายตาไปทางเตียงนอนที่ตั้งเด่นอยู่กลางห้อง ชายหนุ่มผมสีดำสนิทกำลังนอนหลับตาพริ้มโชว์ขนตางอนที่หนาเป็นแพสวยยิ่งกว่าฉัน จมูกโด่งเป็นสัน รับกับใบหน้าเรียวได้รูป ริมฝีปากสีแดงสดตัดกับผิวที่ขาวเวอร์ยิ่งกว่าฉันนั้น...

    ช่วยบอกฉันที ว่านี่มันคนหรือเทพบุตรกันแน่ฟระ เขาช่างหล่อลากกระชากหลอดเลือดใหญ่ในโพรงจมูกเสียจริงจริ๊ง =.,=

    ฉันค่อยๆ ย่อตัวลงไปนั่งข้างๆ เพื่อสำรวจความหล่อของชายหนุ่มผู้ที่กำลังหลับใหลอยู่ได้อย่างเต็มๆ ตายิ่งขึ้น อ่า... จมูกเขาโด่งมากจริงๆ เหมือนพวกลูกครึ่งเลย ดูสิ เขาแอบมีไฝเม็ดเล็กๆ ตรงมุมปากด้วย แถมหน้าเขาก็ใสกิ๊งจนฉันอยากจะถลกหนังของเขามาเป็นของตัวเองแทน

    ไม่ทันได้ชื่นชมอะไรไปมากกว่านี้ เปลือกตาหนาก็ค่อยๆ ปรือขึ้นช้าๆ เผยให้เห็นนัยต์ตาสีเทาอ่อนที่ดูตกใจเล็กน้อยกับการมาเยือนของฉัน

    “เธอ...”

    เขาชันตัวลุกขึ้นนั่ง ทำให้ฉันต้องลุกขึ้นเดินถอยไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว

    “อะ... เอ่อ”

    “เป็นใครน่ะ?” นายหล่อตีหน้าตายก่อนที่มืออันขาวใสนั้น จะเอื้อมไปหยิบแว่นสายตากรอบหนาที่อยู่ข้างตัวขึ้นมาใส่

    โฮกฮากกกกกก~!

    คนอะไร้~ ขนาดทำหน้าตายแล้วยังหล่อกระชากวิญญาณฉันขนาดนี้

    “เข้ามาในห้องฉันได้ไง...”

    ตึกตัก ตึกตัก

    อ่า... ไม่ชินกับการถูกคนหล่อจ้อง ยิ่งเป็นคนหล่อที่ตีหน้าตายอยู่ข้างหน้าฉันแล้วล่ะก็...

    โรคหัวใจจะกำเริบ!

    “เอ่อ... คะ... คือฉัน”

    “ฉันถามว่าเธอเข้ามาที่นี่ได้ไง... -_-” เขายังคงตั้งคำถามเดิม โดยที่ใบหน้านั้นก็ยังคงเป็นแบบเดิมเช่นกัน

    “ฉันแค่... เห็นประตูมันเปิดอยู่ก็เลยเดินเข้ามา ใช่ๆๆ ฉันแค่สงสัยแค่นั้นเอง ><

    “เหรอ... แล้วไป” อีตาหน้าตาย (ตั้งให้อย่างเสร็จสรรพ) ขยับแว่นไปมา ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาฉัน

    “ว่าแต่... เธอเป็นใคร”

    “อ่า... ฉันชื่อลูน่า...” ฉันก้มหน้าต่ำซ่อนความเขิน “เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่”

    “อืม... -_-” เขาผงกหัวนิดหนึ่งก่อนจะเดินสวนฉันออกไปทางประตู เห! เมินกันหรือไงยะ

    “นี่! อีตาบ้า อย่าเพิ่งไป” ฉันรีบเดินเข้าไปขวาง “หยุดคุยกันก่อน”

    เขาจ้องหน้าฉันนิ่งเหมือนกับอยากถามว่า เรื่องมากจริงวุ้ย ยัยนี่ อะไรประมาณนี้เลย

    “อะไรอีกล่ะ”

    “นายชื่ออะไร” ตอนนี้ฉันชักไม่ค่อยสบอารมณ์กับหมอนี่เสียแล้วสิ กับไอ้ใบหน้านิ่งๆ นั่นน่ะ เลิกมั่งก็ได้นะฉันเมื่อยแทน -*-

    “ถามทำไม”

    “ก็ฉันอยากรู้นี่”

    “ยูกิ...” เขาตอบเสียงเรียบ “เป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น”

    “อ่า...”

    “พอใจแล้วใช่มั้ย” เขามองฉันด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะดันให้ตัวฉันออกห่างจากบานประตูแล้วเดินออกไป อึ๋ย... หมอนี่น่ากลัวชะมัดเลย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×