ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [SF] อาหมวยตัวร้ายกับนายแก้มแตก KIBUM & DONGHAE
081015 HaPpy BirthDay to My Everything "Lee Donghae"
อาหมวยตัวร้ายกับนายแก้มแตก ! (ชื่ออาจไม่พร้องกับเรื่อง ข้ามไป อิอิ)
“อาหมวยๆ ลื้อเอาก๋วยเตี๋ยวชามนี้ไปเสิร์ฟโต๊ะเจ็ดร่วย”
“เตี่ยอา~ ลื้อเลิกเรียกอั๊วว่าอาหมวยซักทีได้มั้ย?! อั๊วเป็นผู้ชายนะ ไม่เหมือนอาเจ้ซักหน่อย! ลื้อต้องเรียกอั๊วว่าอาตี๋ๆๆๆเข้าใจมั้ยเตี่ย!?”
“อาทงเฮอา~ ลื้ออย่ามาล๊งเล๊งตอนนี้น้า เตี่ยบอกให้ไปเสิร์ฟโต๊ะเจ็ดๆได้ยินมั้ย!? อาเฮียเค้ารอแย่แล้วนั่น! ดูทำเข้า
พูดแล้วยังจะมาทำค้อนอีกแหนะ ไปเร็วๆสิ!”
คนที่โดยสั่งอย่างขัดเสียไม่ได้เดินสะบัดสะบิ้งไปหยิบถาดที่บรรจุชามใส่ก๋วยเตี๋ยวร้อนๆเพื่อไปเสิร์ฟลูกค้าเจ้าประจำตาม
คำสั่ง โดยก่อนไปก็ไม่ลืมที่จะเหวี่ยงค้อนวงที่ใหญ่กว่าวงเมื่อกี้ใส่บุคคลที่ตนเรียกว่าเตี่ยซะอีกหนึ่งที ..... ก็ทำนิสัย
อย่างนี้สิน่า จะให้ไปเรียกว่าอาตี๋แทนอาหมวยได้ยังไงกัน!?
“แหม่....อาทงเฮอ่า ถ้าอั๊วมีลูกชายหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มอย่างลื้อ อั๊วก็ทำใจเรียกรื้อว่าอาตี๋ไม่ได้จริงๆ ปล่อยเตี่ยแกไปเถอะ นะว่ามั้ยอาโม่ง?”
“นั่นน่ะสิ น่าอิจฉาอาส้งอี มีลูกสาวหน้าตาสะสวย แล้วยังจะมีลูกชายขาว สวย หมวย...อีกสิน่า ฮ่า ฮ่า ๆ หัวกระไดบ้านไม่แห้งแน่ๆ”
..!!!!
“นี่เฮีย! ถ้าอยากจะมีปากไว้ซดน้ำก๋วยเตี๋ยวนะ อั๊วว่าลื้อสองคนเงียบๆแล้วก็รีบๆกินเข้าไปจะดีกว่า!”
กระแทกเสียงดังใส่ไม่พอ เจ้าของใบหน้าสวยแต่ง้ำงอเป็นจวักกระแทกชามก๋วยเตี๋ยวลงกลางโต๊ะก่อนจะสะบัดก้นหนีหาย
ไปหลังร้านไวๆอย่างไม่สนใจเสียงด่าทอของผู้เป็นพ่อที่ตะโกนไล่หลังมา
“ต้องขอโทษจริงๆนะอาโม่ง อาย่าง อาหมวยอีก็เป็นของอีอย่างนี้”
“โอ๊ย ไม่เป็นไรๆอาส้ง อั๊วเข้าใจอีดี อาทงเฮอีเป็นหนุ่มแล้วก็คงเป็นธรรมดาที่อีจะไม่ชอบใจ”
--------------------- อาหมวยตัวร้ายกับนายแก้มแตก ! [>_< *] ---------------------------------
“ก็รู้ว่าเราไม่ชอบใจ แต่ก็ยังชอบทำกัน ไม่เข้าใจคนแก่จริงๆเชียว!!” คนที่หายเงียบเข้ามาหลังร้านบ่นล๊งเล๊งพลางเดินเตะ
ฝุ่นมาเรื่อยเปื่อย และก็ต้องพบว่าในที่ๆสงบเงียบอย่างหลังบ้านไม่ได้มีเขาอยู่เพียงลำพังหากแต่มีใครบางคนที่กำลัง
ขะมักขะเม้นอยู่กับการล้างจานชามกองพะเนินนั้นนั่งอยู่ด้วย
“อ้าว? พี่คิบอม ทำไมพี่มาอยู่ตรงนี้ล่ะ? วันนี้พี่มีเรียนไม่ใช่เหรอไง!?” คนตัวเล็กเดินอ้อมไปหยุดยืนตรงหน้าพลางเอ่ย
ถามเสียงสูงอย่างประหลาดใจที่ได้เห็นคนๆนี้มานั่งล้างจานอยู่ในครัว ก็โดยปกติ พี่คิบอมที่เจ้าตัวเรียกน่ะ จะมาทำงาน
พิเศษที่ร้านนี้ก็เฉพาะตอนเย็นของวันธรรมดาและก็วันเสาร์เต็มวันเท่านั้นนี่ แต่ก็แปลกวันนี้เป็นวันพุธแท้ๆกลับมาตั้งแต่เที่ยงวัน
“พี่คิบอม!! นี่! พี่คิบอม!! ทงเฮเรียกพี่อยู่นะ!!!” เสียงหวานขัดกับความเป็นบุรุษเพศตะเบ็งลั่นอย่างขัดใจเมื่อเห็นว่าอีกคน
ไม่คิดที่จะเงยหน้าขึ้นมาสนใจตนเลยแม้แต่น้อย
“ไม่สนใจใช่มั้ย!?? นี่แหนะๆ!!!”
“เอ้ย!!~ ทงเฮเล่นอะไรเนี่ย พี่เปียกหมดแล้ว!?” ชายหนุ่มผงะลุกขึ้นทันทีเพื่อหนีความเปียกปอนของน้ำแฟ้บที่อีก
คนวักสาดมา เผยให้คนขี้แกล้งได้เห็นว่าที่คิบอมเมินตัวเองนั้นไม่ได้เป็นเพราะเขาไม่ได้ตั้งใจจะไม่สนใจหรือเย่อหยิ่งแต่
อย่างใด หากแต่เป็นเพราะว่าเขากำลังฟัง mp3 ที่เปิดลั่นอัดใส่เต็มรูหูอยู่ตะหาก แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะทงเฮแสนงอนของ
เราก็ยังทำให้เป็นเรื่องใหญ่อีกจนได้
“ก็พี่คิบอมไม่สนใจทงเฮนี่!”
“ก็พี่ฟังเพลงอยู่ พี่ไม่ได้ยินจริงๆ”
“แต่ทงเฮมายืนอยู่ตรงหน้าพี่ตั้งนานแล้วนะ ใช่สิ! ทงเฮไม่ใช่อาเจ้นี่!” เป็นประโยคประชดประชันเดิมๆที่ฟังแล้วก็มีแต่จะ
ทำให้เหนื่อยใจ ไม่รู้ว่ากับอีแค่เสียงสูงๆเปล่งคำว่า ‘ทงเฮไม่ใช่อาเจ้นี่!!’ ทำไมถึงทำให้คิบอมรู้สึกผิดแล้วก็เจ็บจี๊ดๆได้
มากมายขนาดนี้ทุกทีสิน่า ชายหนุ่มยืนมองดูคนที่อมลมแก้มพองทำงอนตุ้บป่องๆแล้วก็ส่ายหน้าน้อยๆพลางอมยิ้มอย่าง
เอ็นดูก่อนจะก้าวขายาวๆข้ามกะละมังน้ำเปล่าไปหาร่างบางที่ยืนกอดอกทำหน้าปั่นปึ่งใส่เขา
“ทงเฮอา~ ไปอารมณ์เสียที่ไหนมาอีกละ?” มือใหญ่เอื้อมไปหมายจะลูบหัวคนที่ทำตัวเด็กกว่าอายุจริงเแต่ศรีษะเล็กๆนั่น
ก็ดันโคลงหนีมือเขาไปได้เสียก่อน
“ทงเฮอา~”
“ช่างเถอะ ยังไงในสายตาพี่คิบอมก็มีแต่อาเจ้อยู่แล้วนี่ น้องชายคนนี้มันก็ไม่สำคัญหรอก!” ว่าอย่างแสนงอนจบ ทงเฮก็รีบ
วิ่งเข้าไปในตัวบ้านก่อนจะหนีขึ้นชั้นสองไปโดยปล่อยให้คิบอมที่ตามเข้ามาด้วยต้องการจะง้อนั้นได้แต่มองช่วงขาเรียววิ่ง
ก้าวขึ้นไปตามขั้นบันไดและหายไปในที่สุด
“เฮ้อ~ ทงเฮนะทงเฮ” ร่างสูงยืนทอดถอนหายใจอย่างหมดปัญญาที่จะตามด้วยความที่เขาไม่ใช่เจ้าของบ้าน นอกจาก
เขาจะมีลูกสาวเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้เป็นคนรักแล้ว ก็ไม่รู้ว่าน้องชายของแฟนจะใช่ตัวแถมความรักของเขาอีกคนด้วย
หรือเปล่า? เขาถึงได้ต้องตามห่วงตามแคร์ความรู้สึกทงเฮอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ หรือบางทีก็อาจจะมากกว่าแฟนตัวจริงของ
เขาอย่างพี่สาวทงเฮซะด้วยซ้ำ
“เอ้า!~ อาคิบอม ... ลื้อเห็นอาทงเฮมั้ยเนี่ย?” และในระหว่างที่ยืนคิดอะไรเพลินๆโดยมองขั้นบันไดต่างหน้าทงเฮอยู่นั้น
นายจ้างของเขาหรือจะเรียกว่าพ่อตาในอนาคตก็เดินเข้ามาจังหวะความคิดเสียก่อน
“อ่อ...ครับเฮีย......ทงเฮเค้าขึ้นไปข้างบนน่ะครับ” ชายหนุ่มกำผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กที่คล้องคอไว้หลวมๆพลางค้อมตัว
นิดๆอย่างมีมารยาทในระหว่างพูดเหมือนกับทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าอาส้งเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังในย่านไชน่าทาวน์กลางใจกรุงโซลคนนี้
“อาหมวยอีคงจะเคืองอั๊วจริงๆนะคราวนี้”
“เอ่อ มีอะไรกันเหรอครับเฮีย?”
“ช่างมันก่อนเถอะ เอาเป็นว่าอาคิบอมลื้อขึ้นไปตามอาทงเฮให้อั๊วหน่อยสิ พอดีอั๊วมีแขกสำคัญอยากให้อีพบน่ะ” ดวงตา
คมถึงกับลุกวาวทันทีที่ได้ยินคำขอ ชายหนุ่มยกมือขึ้นชี้หน้าตัวเองแบบงงๆ
“ทำไมล้างจานอยู่เหรอ? แหม่...อาคิบอม..ลื้อไม่ต้องขยันขนาดนั้นก็ได้น้า แค่นี้อั๊วก็ยกลูกสาวให้ลื้อแล้ว” อาส้งเอ่ยพร้อม
กับยิ้มกริ่มจนตาหยีตามประสาคนอารมณ์ดีพลางตบบ่าลูกเขยในอนาคตเบาๆด้วยความที่เอ็นดูคิบอมไม่ต่างจากลูกชายแท้ๆ
คนหนึ่ง
“นะ...ลื้อขึ้นไปตามอาหมวยอีให้หน่อยนะ...อั๊วไม่อยากไปสู้รบปรบมือกับอาหมวยอีตอนนี้”
“อ่า..ได้ครับเฮีย” ว่าแล้วคิบอมก็รีบแจ้นขึ้นไปยังชั้นสองตามคำอนุญาตของเจ้าของบ้านในทันที ร้านของอาส้งเป็นร้าน
ที่ไม่เล็กและไม่ใหญ่มากนักกำลังพอดีๆ ชั้นล่างเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวส่วนชั้นบนนั้นห้องหับก็ถูกแบ่งเป็นสัดส่วนเหมือนบ้านช่อง
ทั่วไป การตกแต่งส่วนใหญ่ก็เน้นไปทางสไตล์แบบจีนโบราณด้วยความที่อาส้งเป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่ที่จับพลัดจับผลูข้าม
น้ำข้ามทะเลมายังเกาหลีและเผอิญมาพบรักกับแม่ของทงเฮที่เป็นคนเกาหลีเข้า ทั้งคู่ก็เลยตกลงปลงใจสมรสกันแม้จะ
ขัดกันทางด้านประเพณีเล็กน้อย จนมีลูกด้วยกันสองคนนั่นก็คือลี ยอนฮีซึ่งเป็นแฟนสาวของคิบอมคนปัจจุบันซึ่งอาส้ง
เองก็รับรู้เรื่องระหว่างคนทั้งสองดี และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้คิบอมต้องมาทำงานอยู่ที่นี่เพื่อซื้อใจว่าที่พ่อตาในอนาคต
และลูกชายคนเล็กอีกคนก็คือ ลี ทงเฮที่มีฉายาอาหมวยแสนงอนรุ่นน้องที่คณะของเขาที่เขาขอให้เป็นพ่อสื่อให้ตอนที่จีบ
ยอนฮีใหม่ๆเมื่อสามเดือนก่อนนั่นแหละ
“ทงเฮ~ ทงเฮ” ขายาวก้าวไม่มั่นคงเท่าไหร่นักด้วยเพราะสภาพพื้นบ้านที่เป็นไม้เก่าทำให้การเดินแต่ละครั้งนั้นเกิด
เสียงเลื่อนลั่นเอี๊ยดอ๊าดทำเอาคนขี้เกรงใจต้องเดินอย่างระแวงระวัง
“ฮึก..~ฉันไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้เลยซองมิน..ฮึก....ฉันเป็นผู้ชายฉันควรจะชอบ..ผู้หญิงสิ..ฮึก..ก....แต่นี่ฉันกลับชอบเค้า...”
และเสียงพูดคละเคล้าไปกับเสียงสะอื้นก็ลอยแผ่วๆออกมาจากที่ใดที่หนึ่งเรียกให้คิบอมต้องค่อยๆเงี่ยหูฟัง
แต่มันก็จับใจความอะไรไม่ได้มากนักนอกจากได้ยินเสียงอู้อี้ๆที่คิบอมพอจะรู้ว่าเป็นเสียงของคนที่เขากำลังตามหาอยู่
“แก...ฉันผิดปกติ..ฮึก..ชะ..ใช่มั้ย?....ถ้าเตี่ยรู้เตี่ยต้องฆ่าฉันตายแน่ๆ”
เอี๊ยด...อ๊าด!
“นั่นใครน่ะ?!!” คนที่นั่งพิงหลังคุยโทรศัพท์อยู่ตรงระเบียงบ้านรีบลุกขึ้นชะโงกหน้าผ่านกรอบประตูเข้ามาทันทีที่ได้ยินเสียงแปลกปลอม
“พี่เอง” เจ้าของรูปร่างสูงโปร่งยกมือขึ้นระดับอกพลางส่งยิ้มเจื่อนๆให้กับคนที่ยืนถือโทรศัพท์ค้างเหมือนกำลังประมวลผล
คำพูดหลายต่อหลายคำของตัวเองที่ล่อแหลมเมื่อครู่ในสมอง
‘ฉันไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้เลยซองมิน ฉันเป็นผู้ชายฉันควรจะชอบผู้หญิงสิ แต่นี่ฉันกลับชอบเค้า’
ท้องไส้เหมือนจะปั่นป่วนขึ้นมาทันที ทงเฮกดตัดสายซองมินทิ้ง ใช้หลังมือป้ายน้ำตาลวกๆก่อนจะทำให้บรรยากาศที่น่า
อึดอัดอยู่แล้วยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
“...พี่ขึ้นมาที่นี่ได้ยังไง!?”
“เอ่อ...คือ..พี่”
“พี่คิบอม! การที่พี่เป็นแฟนของพี่ยอนฮี หรือการที่เตี่ยกับม๊าชอบพี่นักหนามันไม่ได้แปลว่าพี่จะเดินได้ทั่วบ้านของทงเฮหรอกนะ”
คนที่ทำตัวไม่น่ารักไม่สมกับใบหน้าหวานตวาดเสียงแข็งใส่ทำเอาคิบอมที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกผงะไปเล็กน้อย
“ทงเฮฟังพี่ก่อนสิ!” พอพาลได้สมใจก็คิดจะหนีไปดื้อๆ คิบอมจึงตรงเข้าไปคว้าแขนเล็กๆไว้แต่ทว่าทงเฮก็สะบัดทิ้งเสียเต็มแรง
และหลังจากนั้นเสียง ‘เพี๊ยะ’ ที่ดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าหล่อจัดที่สะบัดไปอีกทางโดยมีรอยแดงปรากฎขึ้นจางๆ
“..พี่คิบอม!....ทงเฮขอโทษ!!” ร่างบางอุทานออกมาอย่างตกใจก่อนจะปรี่เข้าไปหาคิบอมหมายจะดูผลงานของความ
พลั้งเผลอด้วยอารมณ์โมโหของตัวเอง
“ช่างเถอะ...พี่ไม่เป็นไร” น้ำเสียงเย็นชาไม่ต่างจากสีหน้าและแววตาที่ทงเฮไม่คิดมาก่อนว่าจะได้รับจากคนตรงหน้าถูก
เปล่งออกมาเหมือนไม่รู้สึกรู้สาหากแต่ว่าไม่ใช่ คิบอมที่ไม่ค่อยเข้าใจการกระทำของรุ่นน้องคนนี้มาซักพักตัดสินใจที่จะพูด
ทุกอย่างที่ทำให้เขานั้นคับอกคับใจมานานออกมาหมดอย่างเหนื่อยล้าเต็มทนที่จะเก็บคำถามในใจนี้ไว้
“พี่ไม่รู้หรอกนะว่าพี่ไปทำอะไรให้ทงเฮไม่พอใจนักหนา พักหลังทงเฮถึงได้เป็นแบบนี้ ไม่ว่าพี่จะทำอะไร จะพูดอะไร
ออกไปมันก็ดูจะไม่ดีไปซะหมดทุกอย่างสำหรับทงเฮ”
“คือ...ท..ทงเฮ...ไม่ตั้งใจ..ทงเฮ..ขอโทษ” น้ำตาของคนตัวเล็กทำให้คิบอมพยายามที่สุดที่จะใจเย็นลงให้มาก ชายหนุ่ม
กันมือของทงเฮออกห่างอย่างไม่ต้องการความช่วยเหลือซึ่งนั่นก็ทำให้ทงเฮนั้นเริ่มร้องไห้หนักขึ้นกว่าเก่า
“ถ้าพี่เคยทำอะไรที่ทำให้ทงเฮไม่พอใจ พี่ก็ขอโทษด้วยแล้วกัน ขอโทษแม้ว่าพี่จะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองผิดอะไร”
“พี่..คิ..บอม....”
“แล้วที่พี่ขึ้นมา พี่ก็ไม่ได้ถือสิทธิ์ว่าพี่เป็นแฟนของพี่สาวทงเฮแล้วพี่จะมาเดินร่อนทั่วบ้าน แต่เป็นเพราะเฮียให้พี่มาตามทงเฮ
ยังไงก็รีบๆลงไปซะล่ะ แค่นี้แหละที่พี่จะมาบอก” พูดจบคิบอมก็หมุนตัวเตรียมจะลงไปข้างล่างหากแต่ว่าเจ้าของใบหน้า
เปื้อนน้ำตาก็วิ่งเข้ามาสวมกอดจากด้านหลังไว้แน่น
“..พี่คิบอม...อย่าโกรธทงเฮเลยนะ...ทงเฮขอโทษ...” ร่างบางกระชับแขนกอดเอวคิบอมไว้แน่นชนิดจะเป็นจะตายแค่ไหนก็
ไม่ยอมปล่อย แก้มใสที่ชุ่มไปด้วยน้ำตาแนบลงกับแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่าย น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหลออกมาจาก
ดวงตาคู่สวยซึมชื้นผ่านเสื้อยืดสีขาวเข้าไปพาให้คิบอมรู้สึกเย็นวาบจากผิวเนื้อสะท้านสู่หัวใจที่เต้นแรงผิดปกติอย่างรู้สึก
แปลกประหลาดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ปล่อยพี่เถอะทงเฮ”
“..ไม่!..พี่คิบอม..ต้องยกโทษให้ทงเฮก่อน” มือเล็กๆยังคงดื้อดึงจะกอดจะรั้งไว้อย่างนั้น คิบอมถอนหายใจเบาๆอย่าง
อ่อนใจก่อนจะเปลี่ยนจากการที่พยายามดึงมือเล็กๆนั้นออกเป็นกุมไว้แทน
“พี่จะยกโทษให้ทงเฮก็ต่อเมื่อทงเฮบอกพี่ก่อน....ว่าเพราะอะไรทงเฮของพี่ถึงเป็นแบบนี้” คำถามนี้เรียกให้คนที่กำลังร้องไห้
เงียบนิ่งไปพัก จะบอกออกไปได้ยังไงล่ะ? ว่าตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่อารมณ์ของตัวเองขึ้นๆลงๆไม่อยู่กับร่องกับ
รอยก็เป็นเพราะว่าคิบอมตกลงคบกับพี่สาวของตนน่ะ
“ว่าไงล่ะทงเฮ?”
“คือ...ทงเฮ.....”
.....!!!!
“มาอยู่ที่นี่เองสองหนุ่ม ยอนฮีตามหาซะทั่ว” และก็เป็นไปตามอัตโนมัติ ทงเฮสะดุ้งสุดตัวที่ได้ยินเสียงของพี่สาวที่ดังแว่วมา
แต่ไกล มือเล็กๆที่กอดเอวของชายหนุ่มไว้รีบปล่อยออก ก่อนจะผละจากตัวเขาและวิ่งหนีหายเข้าไปในห้องและปิดประตู
ดังโครมท่ามกลางความสับสนของคิบอมที่กำลังก่อตัวขึ้นให้เขารู้สึกใจคอไม่ค่อยดี
“เอ่อ...มีอะไรรึเปล่าคะคิบอม? ยอนฮีมาขัดจังหวะอะไรรึเปล่า?” ดวงตาใสซื่อไม่ต่างจากคนที่เพิ่งหายเข้าไปในห้องมอง
มาที่คิบอมอย่างฉงน เพราะด้วยความที่ตั่งตู้หลายใบมันวางเกะกะเต็มพื้นที่ไปหมดจึงทำให้ยอนฮีไม่สามารถเห็นการ
กระทำของคนทั้งสองเมื่อครู่ได้ เพียงแต่ว่าพอเดินขึ้นบันไดมาแล้วได้ยินเสียงของคนรักและน้องชายพูดคุยกันอยู่ก็เลย
เอ่ยปากทักลอยๆตั้งแต่ใบหน้าสวยยังไม่โผล่พ้นขึ้นมาดีก็เท่านั้น
“เปล่าหรอกครับ พอดีเฮียให้ผมขึ้นมาตามทงเฮน่ะ เห็นว่ามีแขกอยากจะให้พบ” ชายหนุ่มรีบตรงเข้าไปหาเจ้าของเรือนร่างบอบบาง
พลางโอบไหล่เล็กไว้หลวมๆ และก้าวขานำโดยหมายจะชวนยอนฮีกลับลงไปยังชั้นล่างด้วยกัน
“เหรอคะ? งั้นแสดงว่าที่เจ้าตัวดีหนีเข้าห้องไปอย่างนี้ ก็คงรู้ล่ะสิว่าคนมาหาคือพี่ฮันเกิงน่ะ” พอพูดถึงชื่อแซ่ที่ไม่คุ้นหูดี
คิบอมก็หันมาเลิกคิ้วสูงใส่ยอนฮีอย่างแสดงอาการสงสัย
“อ๊อ.....คู่หมั้นทงเฮน่ะค่ะ^^” หญิงสาวพูดไปก็ขำเล็กๆประกอบไปเรียกให้คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรอยู่แล้วต้องคิ้วผูกโบว์ไปกันใหญ่
“คู่หมั้นเหรอครับ?” คนที่ชักสีหน้าจริงจังเอ่ยถามด้วยความที่ฟังแล้วรู้สึกตะขิดตะขวงใจยังไงชอบกล
“ฮะๆ ยอนฮีล้อเล่นนะค่ะ แต่พี่ฮันเกิงเค้าอยากจะให้เป็นงั้นจริงๆนะ ก็ช่วยไม่ได้นี่นาน้องชายของยอนฮีดันสวยนี่คะ
ว่าแต่คิบอมเถอะอย่าไปหลงเสน่ห์ทงเฮเข้าแล้วกัน ไม่งั้นยอนฮีจะฉีกอกคิบอมเอาซี่โครงแข็งๆนี่ไปต้มน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวแทนเลย”
นิ้วเรียวจิ้มลงที่แผ่นอกข้างซ้ายของแฟนหนุ่ม ย้ำลงซ้ำๆให้เจ้าตัวเขาได้จั๊กจี้เล่นจนต้องจับมือเรียวบางนั่นเพื่อห้ามปรามไว้
“ไม่ตลกเลยนะยอนฮี” ใบหน้าหล่อจัดฉายแววว่าไม่เล่นด้วยอย่างแท้จริง ยอนฮีจึงต้องส่งยิ้มหวานเป็นการเอาใจให้
ก่อนจะคล้องมือเข้ากับข้อแขนของชายหนุ่มพลางซุกซบศรีษะลงที่บ่ากว้างอย่างออดอ้อนเพื่อเป็นการงอนง้อ
“ยอนฮีล้อเล่นหรอกน่า อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิคะ ไป! เราลงไปทานขนมกันเถอะ ยอนฮีกับม๊าซื้อขนมมาเยอะแยะเลย”
เสียงหัวร่อต่อกระซิกดูมีความสุขดีของพี่สาวและคิบอมทำเอาขาเรียวที่ใช้ยืนหยัดของคนที่อยู่เบื้องหลังประตูไม้แทบจะ
หมดแรงล้มทั้งยืน เพราะอย่างนี้นี่แหละทงเฮถึงได้รักวันอาทิตย์มากที่สุด ยิ่งคิบอมมาที่นี่น้อยวันน้อยเวลามากเท่าไหร่
ก็ยิ่งทำให้ชีวิตทงเฮรู้สึกสงบสุขมากขึ้นเท่านั้น ไม่ต้องมาปั่นป่วนกับช่วงเวลาน่าอึดอัดอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
“ทำไมต้องเป็นอาเจ้ด้วยล่ะพี่คิบอม? ไม่เป็นเขาได้มั้ย? เป็นใครก็ได้ที่อยู่ห่างจากสายตาทงเฮได้มั้ย?....” พึมพำถึง
คำถามเดิมๆที่ไม่เคยได้คำตอบไปพลางกับมองดูรูปหมู่ของเพื่อนๆรุ่นพี่รุ่นน้องในคณะตอนที่ไปเที่ยวที่เกาะเซจูโดยมี
ปากกาเมจิสีฟ้าสดใสวงล้อมกรอบเฉพาะตนและคิบอมที่นั่งคู่กันอยู่ด้านหน้าสุดไว้
“ไม่ได้สินะ....สายตากับการกระทำของพี่คิบอมมันก็บอกทงเฮมาตลอดอยู่แล้ว..แม้ว่าทงเฮจะไม่เคยถามพี่ก็ตาม...”
น้ำตาหยดเล็กร่วงหล่นกระทบกับภาพถ่ายตรงจุดที่มีสีเมจิเป็นผลให้ภาพแสนรักเลอะไปเล็กน้อย ทงเฮค่อยๆใช้นิ้วเรียว
ปาดมันออกเหมือนกับที่คอยเช็ดน้ำตาให้ตัวเอง จมอยู่กับความคิดเดิมๆต่อไปก็มีจะทำให้เสียใจแล้วก็เสียน้ำตา บางทีการ
ที่ได้ออกไปเปิดสมองบ้างก็อาจจะทำให้อะไรๆดีขึ้นก็เป็นได้ คิดได้ดังนั้นคนที่ต้องการหาที่พึ่งทางใจก็รีบต่อสายหาเพื่อน
รักอย่างซองมินทันที
“ซองมิน....ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว.....คืนนี้...ฉันขอไปนอนกับแกนะ.....”
--------------------- อาหมวยตัวร้ายกับนายแก้มแตก ! [>_< *] ---------------------------------
และก็มีเพียงเศษกระดาษใบเล็กๆเท่านั้นที่ทงเฮเลือกจะใช้ทิ้งข้อความไว้ ร่างบางแปะมันไว้กับตู้เย็นในห้องครัวโดยใช้
แม็กเน็ทรูปปลาการ์ตูนติดทับเอาไว้ก่อนจะหนีหายออกทางหลังบ้านเหมือนกับทุกครั้ง
‘ไปค้างบ้านซองมิน อารมณ์ดีแล้วจะกลับ’
“เผลอไม่ได้เลย ทงเฮทำอย่างนี้อีกแล้ว” ยอนฮีที่ตั้งใจจะกลับมาตามทงเฮอีกครั้งตามคำขอของอาส้งกล่าวกับคิบอมอย่างอ่อนใจ
“ทำไมล่ะ? ทงเฮหนีออกจากบ้านอย่างนี้บ่อยๆเหรอ?” ชายหนุ่มฉวยกระดาษใบเล็กจากมือแฟนสาวมาดู และเมื่อ
เห็นลายมือหวัดๆที่เรียบเรียงเป็นประโยคที่แสนเอาแต่ใจ ใบหน้าของทงเฮตอนที่ร้องไห้ และเสียงหวานๆที่บอกย้ำ
คำขอโทษต่อเขาก็ลอยพาดผ่านเข้ามาให้ได้รู้สึกเจ็บยอกอยู่ในอกเพราะมีแต่เขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ถึงสาเหตุของการหนี
ออกจากบ้านของทงเฮครั้งนี้ดี
“อืม พักหลังๆนี่ยิ่งเป็นบ่อยไม่รู้ทำไม แต่เตี่ยแกก็ไว้ใจซองมินน่ะ ก็เลยปล่อยให้ทงเฮไป เพราะเดี๋ยวถ้าทงเฮอารมณ์ดี
แกก็จะกลับมาเอง”
คิบอมนิ่งฟังอย่างใช้ความคิดไปพัก และถัดจากนั้นวันทั้งวันเขาก็ไม่มีสติที่จะทำงานใดๆในร้านจนว่าที่พ่อตาที่พอจะเอ็นดู
เขาอยู่บ้างอนุญาตให้เขากลับก่อนเวลาได้โดยจะไม่หักค่าแรงและตัดแต้มความดีของว่าที่ลูกเขยประจำวัน
“กลับดีๆนะคะ” ยอนฮียืนโบกมือไหวๆให้กับคนที่กำลังวาดขาขึ้นค่อมมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ คิบอมหยิบหมวกกันน็อคสีดำ
เตรียมจะสวมศรีษะหากแต่ว่าเสียงมือถือในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“หึ พี่คังอิน...สงสัยจะชวนกินเหล้าอีกแล้ว” คิบอมโชว์หน้าจอมือถือให้ยอนฮีที่หน้าบึ้งเกือบจะในทันทีที่ได้ยินชื่อคังอินดู
ก่อนจะกดรับสาย
“ครับพี่”
“ว่าแล้ว.....ที่ไหนดีวันนี้??” คิบอมหันไปยักคิ้วให้ยอนฮีพลางโน้มตัวไปดึงแขนคนรักที่เริ่มตีสีหน้าว่าไม่พอใจมากขึ้นให้เข้ามาใกล้ๆ
“ที่ไหนนะ?!” คิ้วได้รูปของคนฟังที่ยืนอยู่ด้านข้างขมวดกันมุ่น ยอนฮีใช้มือเล็กๆตะปบท่อนแขนของชายหนุ่มไว้แน่นยิ่ง
เมื่อเห็นคิบอมทำหน้าเหรอหราบวกกับถามเสียงสูงไปอย่างนั้น
“อ่อ..อืมๆได้พี่ๆ แล้วเจอกัน” ตกลงกันเสร็จสรรพอย่างไม่ถามความคิดเห็นของคนข้างๆคิบอมก็กดวางสาย
“นิสัยไม่ดี ทีทำงานงี้ไม่แก่ใจ แต่ทีจะไปเที่ยวนี่กะดี๊กะด๊า” หญิงสาวกอดอกทำเบือนหน้าหนีไปอีกทางอย่างแง่งอนจน
คิบอมต้องลงจากราชรถคันเก่งเพื่อมาง้อตามประสา
“นะครับ ขอวันนึงนะ ..” ชายหนุ่มโอบคนตัวบางไว้ก่อนจะหอมแก้มใสที่รองพื้นด้วยเครื่องสำอางเบาบางเสียหนึ่งที
“ก็ได้...แต่เมาแล้วห้ามขับนะ”
“ครับผม!” ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่เคยทัดทานรอยยิ้มตาหยีที่ประดับอยู่บนใบหน้าหล่อใสดูดีได้ซักที เพราะในที่สุดยอนฮีก็
ต้องอนุญาตให้คิบอมไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนกลุ่มรุ่นพี่ที่คณะเหมือนเคยๆอย่างขัดอะไรไม่เคยได้ เอาเป็นว่าไม่ขาดตก
บกพร่องในหน้าที่แฟนที่ดีก็ปล่อยให้ไปเที่ยวเล่นซะบ้างก็ถือเป็นรางวัลเล็กๆน้อยๆให้ก็แล้วกัน
--------------------- อาหมวยตัวร้ายกับนายแก้มแตก ! [>_< *] ---------------------------------
“ซองมินคิดดูสิ....อย่าว่าแต่พี่คิบอมเลย...เตี่ย..ม๊า..อาเจ้ ไม่มีใครจำวันเกิดฉันได้ซักคน” ปลายจมูกที่แดงกร่ำอยู่แล้ว
ยิ่งแดงเด่นเข้าไปใหญ่เมื่อเจ้าตัวถูก้อนกระดาษทิชชู่ในมือเช็ดทั้งน้ำมูกน้ำตาไปมาอย่างไม่ทะนุถนอมใบหน้าสวยๆของ
ตัวเองบ้างเลย
“ใจเย็นๆน๊าทงเฮ เตี่ย กับม๊าแกคงจะยุ่งๆน่ะ” ทำหน้าที่เพื่อนรักที่แสนดีเช่นเคย ซองมินลูบหลังคนที่ร้องไห้ทุเลาลงไป
บ้างแล้วเบาๆพลางส่งกระดาษทิชชูล็อตใหม่ให้
“ซองมินน้องรักพี่กลับมาแล้ว!!” และในระหว่างที่ยังปรับทุกข์บำรุงสุขกันอย่างไม่ถ้วนถี่ดี คังอินพี่ชายคนเดียวของซองมิน
ซึ่งก็เป็นรุ่นพี่ที่คณะของทงเฮด้วยก็ทะลึ่งพรวดเปิดประตูเข้ามาในห้องอย่างชนิดที่เรียกว่าเสียงเร็วพอๆกับแสงจนทงเฮเอง
ที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่กับพื้นอย่างหมดสภาพร้องไห้จนหน้าตานี้ดูแทบจะไม่ได้ปรับสีหน้าแทบจะไม่ถูก
“อ้าว?! พี่ไม่รู้ว่าทงเฮอยู่ด้วย โทษทีๆนะ” เมื่อเห็นใบหน้าของเพื่อนน้องชายเหมือนมีคำว่า ‘มึงเข้ามาทำไมไม่ดูตามา
ตาเรือ’ ติดอยู่ที่กลางหน้าผากคังอินก็จำต้องเอาหน้าหล่อๆค่อยๆถอยร่นออกมาจากกรอบประตูห้องสีหวานพร้อมๆกับลำตัว
และข้าวของในมือที่พะรุงพะรัง
“เอ้อ..ลืมบอก...วันนี้วันเกิดไอ้เทมป์มันพวกพี่ก็เลยว่าจะมากินกันที่บ้าน...ยังไงก็ลงไปแจมได้นะ..” ชะโงกหัวเข้ามาส่งยิ้ม
มีเลศนัยให้ไม่พอคังอินยังยกถุงพลาสติกที่บรรจุเหล้าราคากลางหลายขวดขึ้นมาอวดให้ซองมินได้ทำปากจ๊อบแจ๊บๆเพราะ
เปรี้ยวปากก่อนจะปิดประตูหายกลับลงไปยังชั้นล่าง
“เห็นเป็นไม่ได้เลยนะซองมิน แกนี่ชอบกินเหล้าไม่ได้เข้ากับหน้าตา” น้ำตาร่วงยังปากดีได้ ซองมินหันมาจิกตากลมๆใส่
คนที่ว่าแดกดันเขาก่อนจะโยนกล่องทิชชู่ทั้งกล่องให้ทงเฮรับไว้
“นานๆที ......ว่าแต่ว่า...
ทงเฮ .....ฉันว่าคืนนี้แกมา.....ดื่มเพื่อลืมเธอ...กับฉันดีกว่าว่ะ!!”
--------------------- อาหมวยตัวร้ายกับนายแก้มแตก ! [>_< *] ---------------------------------
สองทุ่มผ่านไปจิตใจเริ่มร้อนรน เพราะหลังจากมานั่งจ่อมที่วงเหล้าที่ตั้งขึ้นกลางสนามหญ้าหลังบ้านที่ติดกับแม่น้ำสายเล็ก
ไหลเอื่อยพอได้บรรยากาศ ทงเฮก็รับรู้ว่ากลุ่มเพื่อนที่จะมาในวันนี้ของคังอินหนึ่งในนั้นมีคิม คิบอมอยู่ด้วย ก็ไม่ยักกะรู้
ว่านอกจากคิบอมจะสนิทกับพี่คังอินแล้วยังอุตส่าห์ไปสังสรรค์จนสนิทข้ามคณะไปหาชเว ซึงฮยอนหรือเทมป์เจ้าของวันเกิด
วันนี้ที่ตรงกับเขาด้วย
“เธอ...สวย..ยยย..ยย...และหมวยยย...ย.ย..........ทุกนาทีที่เคยสัมผัส....~.”
“เอาล่ะเว้ยๆ...ไอ้คุณเทมป์นี่มึงคิดจะหลีเพื่อนน้องกูเราะ!” กินกันมาตั้งแต่พระอาทิตย์เพิ่งเริ่มตกดินใหม่ๆ เพียงแค่สอง
ทุ่มเศษๆคนที่รินเหล้าใส่แก้วและตบท้ายด้วยโซดาอ่อนๆแบบไม่ยั้งก็เริ่มออกอาการเมาแอ๋ คังอินชี้หน้าเทมป์ที่กำลัง
เกากีต้าร์เบาๆในมือพลางร้องเพลงรักหวานซึ้งพอๆกับสายตาที่มีให้ทงเฮอย่างเพลินในอารมณ์ตามแบบฉบับของคนชอบ
ล้อเลียนเพื่อนฝูง
“รู้ทันทีว่าเธอคือ ....คนพิเศษ....ที่ฉันเฝ้ารอมานาน...~....” เทมป์ไหวไหล่เล็กๆให้คังอินอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะร้องเพลง
จีบคนที่เขาต้องตาตั้งแต่แรกเจอต่อไปโดยไม่แคร์ว่าคนที่นั่งยิ้มหวานบ้าง ทำเป็นจิบน้ำสีอำพันจางๆนั้นบ้างจะไม่ได้สนใจ
ตนเองเลยแม้แต่น้อย ก็จิตใจของทงเฮตอนนี้มันเอาแต่จดจ่ออยู่ที่บานประตูบ้านที่จะเปิดออกมาสู่สวนด้านหลังน่ะสิ
“ว่าแต่...ทำไมพี่คิบอมถึงยังไม่มาก็ไม่รู้นะแก” ซองมินหันมากระซิบถามเพื่อนรักก่อนจะเอื้อมตัวไปหยิบชิ้นมันฝรั่งทอด
กรอบส่งเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ
“ก็ปกติเตี่ยปิดร้านสามทุ่มน่ะ.....แล้ว......ไหน..ยังจะต้องนั่งคุยกับอาเจ้อีก.....ก็คงดึกๆนั่นแหละ” มือเล็กๆหมุนแก้วใสที่
บรรจุของเหลวสีสวยที่เคล้าอยู่กับก้อนน้ำแข็งไปพลางนึกน้อยเนื้อต่ำใจในชะตาความรักที่ไม่สมหวังอย่างร้ายกาจของ
ตนเอง แต่จู่ๆเสียงมอเตอร์ไซค์คุ้นหูก็ดังขึ้นที่หน้าบ้านก่อนจะดับไป และไม่นานนักคนที่ทงเฮไม่คาดคิดว่าจะมาเร็วกว่า
ปกติที่เขาคาดการณ์ไว้ก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า
“เอ้า!!~ ไอ้คิบอมน้องรัก แหม่...กว่าจะถ่อมาได้...มัวแต่ไปตกหม้อก๋วยเตี๋ยวอยู่รึไงวะเนี่ย!!?” คังอินลุกขึ้นไปตบบ่าคนที่
เพิ่งมาใหม่ก่อนจะยัดเยียดแก้วเหล้าของตนเองใส่มือให้คิบอมได้ดื่มประเดิมวัน
“กูนึกว่ามึงจะเบี้ยววันเกิดกูซะอีก” เทมป์ยื่นกีต้าร์ให้แทยังที่เมาแล้วเอาแต่นั่งเงียบก่อนจะตั้งใจเดินเฉียดผ่านหลังบอบ
บางของทงเฮให้ใกล้มากที่สุดและมากอดคอคิบอมที่ยังคงยืนเก้ๆกังๆอย่างหวั่นในตัวของใครบางคนที่เอาแต่นั่งมอง
ไปทางอื่นอยู่ด้านข้างซองมิน
“มึงอย่ามามั่วเลยไอ้เทมป์ พอพี่คังอินบอกกับกูในสายว่าวันเกิดมึงนี่ กูรู้ทันที มึงเสือกเกิดอยากจะกินใช่มั้ยล่ะ!?”
และบรรยากาศคึกครื้นด้วยความเป็นกันเองของกลุ่มเพื่อนของคังอินและคิบอมก็ทำให้ทงเฮที่วิตกกังวลในตอนแรกก่อน
หน้าที่คิบอมจะมาคลายใจไปได้เปราะใหญ่ ร่างบางที่ออกอาการว่าสบายตัวลดความเกร็งลงมากขึ้นจึงอาสาเป็นฝ่ายคอย
ชงเหล้าให้บรรดาหนุ่มๆที่พูดคุยกันอย่างถูกคอเล่นกีต้าร์ร้องเพลงกันอย่างเฮฮา
“ไอ้ยูชอน!เรื่องรถของมึงที่ไปชนกับไอ้ซีวอนเมื่ออาทิตย์ก่อนเรื่องมันไปถึงไหนแล้ววะ”
“ก็ไม่ถึงไหนว่ะ ไม่รู้ไอ้หล่อมันคิดจะเบี้ยวกูรึป่าว?”
“ก็มีอย่างที่ไหนวะ รถชนเค้าให้เรียกประกัน ...ไอ้ห่านี่รถชนเสือกให้ซีวอนโทรหาพี่สาวอย่างลีน่าคนสวยมาเคลียร์
นี่มึงกะจะชนรถน้องเคลมพี่สาวนี่หว่า”
“หุบตูดไปซะไอ้เชี่ยมินโฮ อย่ามารู้ทันกู”
“วิธีมึงมันไม่ได้ผลหรอกว่ะกูว่า นี่ต้องอย่างไอ้คิบอมนี่ .... อยากจะได้ลูกสาวร้านก๋วยเตี๋ยวก็ต้องเข้าถ้ำมังกรก๋วยเตี๋ยวเว้ย
เหมือนกับสุภาษิตที่ว่าอยากได้ลูกเสือ ก็ต้องเข้าถ้ำเสือ ....มันใช่มั้ยวะ?? .ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ก็กำลังหวาดๆอยู่แล้วเชียวว่าต้องวกเข้ามาเรื่องนี้จนได้ คิบอมที่โดนคังอินและผองเพื่อนแซวกันอย่างสนุกปาก เสตาไป
มองคนที่นั่งนิ่งเงียบเอาแต่จดจ้องเปลวเทียนที่วูบวาบไปมาในถ้วยแก้วใสอย่างเป็นห่วงเป็นใย ตั้งแต่มาก็ยังไม่ได้ทักทาย
ไม่ได้พูดคุยกันซักคำเพราะมาถึงเพื่อนๆก็ลากเข้าวงมาเมาอย่างที่เห็น แต่ก็แปลกไม่รู้เป็นว่าวันนี้เหล้าเข้าปากหรือเปล่าถึง
ทำให้คิบอมมองหน้าน้องชายของแฟนแล้วคิดว่าสวย ...... สวยกว่าทุกวันที่ได้เห็น สวยจนรู้สึกอยากเข้าไปพูดคุย
อยากเข้าไปจีบ อยากนอกใจแฟนเหมือนกับเขาไปถูกใจสาวๆแปลกหน้าในผับอย่างนั้นแหละ
“เหล้าหมด...”
“แดกเก่งนะเมิง......” คิบอมยิ้มยวนๆให้เทมป์ก่อนจะดันแก้วเหล้าผ่านหน้าเพื่อนไปหมายจะให้คนที่นั่งใกล้ถังน้ำแข็งและ
ขวดเหล้าจัดการให้
“น้องทงเฮคนสวยจ๊ะ...เพรียวๆให้พี่คิบอมมันซักแก้วนะจ๊ะ” คิบอมมองหน้าเพื่อนรักที่ทำกรุ่มกริ่มๆใส่ทงเฮแล้วก็นึกรมณ์ขึ้น
ชายหนุ่มเอื้อมสุดตัวไปหยิบแก้วของตนคืนก่อนจะเดินอ้อมไปหยุดยืนเทียบข้างไหล่บางของคนที่สวมเสื้อยืดผ้าไม่หนานัก
ที่ไม่ได้เข้ากับอากาศเย็นย่ำและน้ำค้างแรงแบบนี้
“สองฝาโซดาเกือบเต็ม” ทงเฮมองแก้วเปล่าที่หลงเหลือน้ำแข็งอยู่บ้างไล่ไปตามลำแขนใหญ่และเงยขึ้นมองหน้าคนที่ยืน
ค้ำหัวของตนอยู่ ความเงียบเข้าครอบงำวงเหล้าทันทีเมื่อทุกคนเห็นอาการแปลกๆชวนให้คิดลึกของคิบอมกับน้องชายของ
แฟนเขาอย่างทงเฮ
“ครับ...พี่เขย” ประชดเก่งเป็นที่หนึ่ง ทงเฮฉวยแก้วเหล้าในมือของคิบอมไว้โดยไม่ลืมที่จะทาบมือเล็กๆของตนนั้นข่วนมือ
ใหญ่ที่เย็นเพราะอากาศของคิบอมอย่างจงใจแกล้งด้วยความหมั่นไส้ไปด้วย ทั้งสองสบตากันช่วยอึดใจก่อนที่คังอินจะเป็น
ฝ่ายทำลายความเงียบน่าอึดอัดขึ้นด้วยการชี้ชวนให้เพื่อนๆเบนความสนใจจากคนทั้งคู่โดยเลือกเพลงมาเล่นกีต้าร์กัน
“สองรัก ฉันรับไม่ไหว เธอมีหนึ่งใจให้ไป ...ตั้งสองรัก...ทั้งเค้าและฉัน...ฝันไปหรือเธอ!!!” ฟังแล้วคิบอมก็อยากจะกระชาก
เอากีต้าร์นั่นมาฟาดหัวคนที่ตะเบ็งเสียงลั่นใส่หน้าเขาอย่างคังอินให้ตายคามือนัก ชายหนุ่มกัดฟันกรอดๆอย่างเก็บอารมณ์
ขุ่นเคืองที่เพื่อนๆรู้ทันเอาไว้ในใจก่อนจะนั่งคอแข็งจิบเหล้าไปพลางกับเหลือบมองเสี้ยวหน้าของน้องแฟนคนสวยเป็นพักๆ
ตามเดิม เกลียดเวลาเมานักเชียว สัญชาตญาณอะไรที่มันถูกฝังอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจมันมักจะชอบลิงโลดออกมาแว้งกัด
ให้ได้คิดมากอย่างนี้ทุกทีสิน่า
“ซองมิน....เดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ....” ทงเฮหันไปบอกกับซองมินที่ก็กำลังร้องเพลงอย่างสนุกไปกับทุกคน
แล้วจึงลุกออกไป ถึงตอนนี้ทงเฮก็หายเข้าไปในบ้านได้แล้วพักใหญ่ ก็ได้เวลาที่คนที่อึกอักๆทำทีทำท่าอยากจะลุกไม่ลุก
จะเดินตามเข้าไปบ้าง
“เฮ้ย! ไปไหนวะมึง!”
“ไปห้องน้ำ มึงจะฝากไปมั้ยล่ะ!” หันมายักคิ้วให้เพื่อนๆอย่างกวนประสาทแล้วก็จากไป คิบอมเดินเข้าไปทางประตูหลัง
บ้านที่เดิมกับที่เขาเข้ามาในตอนแรก และไม่ลืมที่จะดึงประตูปิดลงให้สนิทและตามด้วยกดล็อคแน่นหนา
“ทงเฮ” ชายหนุ่มอุทานเสียงเบาเมื่อหันมาเห็นคนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ เจ้าของใบหน้าสวยที่มีหยดน้ำเล็กๆเกาะ
พราวเต็มหน้ายิ้มบางๆให้ก่อนจะเดินไปดึงกระดาษทิชชู่เนื้อนิ่มมาค่อยๆเช็ดหน้าของตน
“หนีออกจากบ้านมาเพราะพี่เหรอ?” คิบอมถามไปพลางหันไปดึงกระดาษทิชชู่สองสามแผ่นมาบรรจงซับหน้าให้ทงเฮ
อีกแรง ร่างบางผงะถอยหลังหนีมือไปเล็กน้อยด้วยความตกใจในตอนแรกก่อนจะหยุดนิ่งเป็นการยินยอมรับความหวังดีของ
ชายหนุ่มไว้
“ก็พี่คิบอมโกรธทงเฮนี่” คนสวยทำหน้าง้ำและก้มหน้าลงเล็กน้อย แต่คิบอมก็เชยคางมนนั้นขึ้นให้สบตาเขาและตามด้วย
การค่อยๆบรรจงซับหยดน้ำไปตามหน้าผากเนียน และแก้มใสที่ขึ้นสีแดงฝาดเป็นเนื้อแตงโมหวานทั้งเพราะฤทธิ์
แอลกอฮอล์และความขวยเขิน
“พี่ไม่โกรธทงเฮแล้วก็ได้.....แต่ก็เหมือนเมื่อกลางวันนะ...ทงเฮต้องบอกพี่ก่อนว่าทงเฮเป็นอะไร?” ทั้งๆที่รู้ว่าตนไม่ควรจะ
สาวความต่อเพราะรู้ดีอยู่แก่ใจในท่าทางที่ชัดเจนขึ้นทุกครั้งที่อยู่ใกล้กันของทงเฮ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม ณ วันนี้ ตอนนี้
คิบอมถึงอยากจะได้ยินมันจากปากคนตรงหน้านัก
“....ก็.....”
“....”
“ไม่มีอะไรหรอก ทงเฮแค่อารมณ์ไม่ค่อยดีเพราะมีเรื่องกับเตี่ยน่ะ ขอโทษที่ชอบไปพาลใส่พี่คิบอมอยู่เรื่อย” มีการเปิด
คำมาแล้วก็นิ่งไปในตอนแรกทำเอาคนฟังหายใจไม่ทั่วท้อง แต่พอประโยคหลังตามออกมาก็ทำเอาลมหายใจของคิบอม
เปลี่ยนไปติดๆขัดๆด้วยหงุดหงิดอยู่เหมือนกัน
“แค่นั้นอะนะ” คิบอมทำสีหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อจนทงเฮต้องพยักหน้าขึงขังรับประกอบเพื่อยืนยัน
“จริงๆ” สำหรับทงเฮตอนนี้เขารู้ดีว่าแฟนของพี่สาวของตนนั้นเมามากจนเรียกได้ว่าเหลือสติความรู้ผิดชอบชั่วดีเบาบาง
เหลือเกิน อย่างไรเสียเขาก็ทำไม่ได้หรอกที่จะฉกฉวยช่วงเวลาดีๆอย่างนี้ที่อาจจะหาไม่ได้อีกแล้วในอนาคตหักหลังพี่สาว
ที่แสนดีของตนได้ลงคอ
“แล้วที่พี่คิบอมเข้ามานี่ ...คือจะเข้าห้องน้ำใช่มั้ย? ไปสิเดี๋ยวทงเฮขอออกไปข้างนอกก่อนนะ เดี๋ยวซองมินจะเหงา”
บอกอย่างไม่รอคำตอบจบ ขาเรียวก็เตรียมจะก้าวผ่านตัวอีกคนออกไปหากแต่ว่าลำตัวบอบบางนั่นก็ถูกดึงให้เข้าไปแพะอยู่
กับผนังห้องสีโทนอ่อนเสียก่อน คิบอมกักตัวน้องชายของแฟนไว้ภายใต้กรอบแขนแกร่งด้วยท่ายืนของตนที่ใช้มือยันกับ
ผนังไว้
“พี่..คิ..บอม..จะทำอะไร..?....ทงเฮพูดจริงๆนะ...ทงเฮไม่ได้โกหก” นัยต์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่ยิ่งน่าดึงดูดมากขึ้นเพราะดีกรี
แอลกอฮอล์จางๆยิ่งทำให้คนมองอยากจะค้นหา พอคิดไปว่าทงเฮเลี่ยงที่จะบอกความในใจที่มีต่อคนอย่างเขา หัวใจมัน
ก็เต้นเร่าๆเหมือนอยากจะได้ยินไม่ว่าต่อไปมันจะเกิดผลอันใดขึ้นก็ตาม
“ทงเฮอารมณ์ไม่ดีเพราะเตี่ยเองเหรอถึงได้ชอบมาแง่งอน มาพูดจาแปลกๆกับพี่”
“พี่คิบอมปล่อยทงเฮเถอะ...พี่เมามากแล้วนะ” ทงเฮเบี่ยงหน้าหนีสุดชีวิตเมื่อใบหน้าหล่อดูดีที่เขายอมศิโรราบมาตลอดจน
บัดนี้เคลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ หัวใจดวงเล็กที่มันไม่เคยจับจังหวะได้ซักทีที่อยู่ใกล้คนๆนี้ก็ยิ่งเพียรกระหน่ำจนปวดหนึบใน
ช่องอกไปหมด
“ก็พี่อยากรู้จริงๆ....แค่นั้นเองเหรอ..ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นใช่มั้ย?......” ลมหายใจร้อนๆเคล้ากลิ่นเหล้าคลุ้งถูกเป่าคลอ
อยู่ข้างแก้มใส ทงเฮหลับตาแน่นและพยายามนึกถึงหน้าของพี่สาวของตนให้ชัดเจนมากที่สุดในความคิดอย่างกลัวว่าการ
กระทำของคิบอมแม้ว่าเขากำลังเมามากอยู่นั้นจะทำให้ตนเองเผลอใจ
“ทงเฮรักพี่” และมันก็ช่วยอะไรไม่ได้เลยจริงๆ ภาพของพี่สาวเลือนไปไวกว่าที่คิดเมื่อคิบอมแนบริมฝีปากลงกับผิวแก้มเนียนนิ่ม
จากเพียงแก้มก็กลับล่วงเกินมาเรื่อยจวบจนถึงริมฝีปากอวบอิ่ม รสชาติแอลกอฮอล์และความหวานมันผสมเคล้า
กันให้มัวเมาสเปะสะปะได้ถลำลึกยิ่งกว่าตอนแรกที่คิดไว้เสียอีก ยิ่งจูบก็ยิ่งต้องการ......มากจนแทบจะถอนตัวไม่ขึ้น
KNOCK KNOCK!! ขอบคุณระฆังช่วยชีวิต เสียงซองมินที่มาพร้อมกับเสียงเคาะประตูถี่ๆเรียกให้คนที่กำลังทำอะไรที่
ผิดพลาดลงไปได้ฟื้นคืนสติ คิบอมถอนจูบออกมาอย่างอ้อยยิ่ง เฝ้ามองดวงตาสีสวยหวานเชื่อมของคนที่กำลังหอบน้อยๆ
อย่างคิดไม่ตก ..... ไม่อยากจะหลอกตัวเองว่าที่กระทำไปนั้นเป็นเพราะความเมามาย ที่เขาจูบก็เพราะอยากจะจูบแม้จะรู้ดี
ว่าคนตรงหน้าคือน้องชายของคนรักก็ตามที นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับคนที่มีหัวใจหนึ่งดวงกันนะ ??
“พี่คิบอมไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น” มือนิ่มยกขึ้นปิดปากอีกคนไว้ทันทีที่เขากำลังจะเอื้อนเอ่ย ทงเฮไม่อยากจะได้ยินคำขอโทษใดๆ
จากปากของคิบอมทั้งนั้น เขาไม่ได้อยากได้ยินคำขออภัยเหมือนในนิยายน้ำเน่าที่บอกว่าทำลงไปเพราะไม่ได้ตั้งใจ
ปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้นั่นแหละ ให้เขาเข้าใจว่าที่คิบอมจูบเขาก็เป็นเพราะความต้องการลึกๆจากตัวชายหนุ่มจริงๆนั่นน่ะ
ดีที่สุดแล้ว
“วันนี้วันเกิดทงเฮ....ไม่ต้องพูดถึงเตี่ย ม๊าหรืออาเจ้ แต่ละคนก็ลืมวันเกิดทงเฮกันทั้งนั้น” ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ
พลางเหลือบไปมองยังหน้าปัดนาฬิกาบนฝาฝนังด้านหลังของคิบอม
“พี่คิบอมอวยพรให้ทงเฮหน่อยได้มั้ย?” เสียงด้านนอกของซองมินเงียบไปแล้วและนั่นก็อาจจะเป็นเพราะเพื่อนรู้ใจของทงเฮที่รู้ทุกอย่าง
คาดสถานการณ์ได้ดี
“นะ...อวยพรให้ทงเฮหน่อยสิ” คิบอมยังคงเงียบนิ่ง นัยต์ตาสีดำสนิทของคนที่ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ทอดมองคนตัวเล็กด้วย
แววตาที่ฉายว่ากำลังเศร้าใจไม่น้อย
“นะ...ขอให้คำอวยพรของพี่เป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายให้ทงเฮนะ” เห็นน้ำตาที่เริ่มคลอปริ่มขึ้นในหน่วยตาของคนตรงหน้า
คิบอมก็อดที่จะแตะต้องน้องชายของคนรักอีกครั้งไม่ได้ ชายหนุ่มดึงทงเฮเข้ามาสวมกอดไว้ก่อนจะกระซิบบอกกับเขาเบาๆ
“.... Happy Birthday นะอาหมวยของพี่ มีความสุขมากๆล่ะ” คิบอมแนบริมฝีปากลงกลางหน้าผากเนียนอีกครั้ง
ลูบศรีษะของทงเฮเบาๆอย่างอ่อนโยนเหมือนที่เคยทำเสมอๆก่อนจะหุนหันเดินจากไปคนละทิศกับที่เข้ามาจากหลังบ้าน
เสียงมอเตอร์ไซค์หน้าบ้านดังขึ้นและหายไปท่ามกลางความเงียบของค่ำคืน หากแต่เสียงร้องไห้ของใครอีกคนที่เพิ่งเริ่ม
ต้นขึ้นนั้นยังหาขอบเขตของการจบไม่ได้
“....ขอบคุณ...ขอบคุณจริงๆ.....พี่..คิบอม...”
--------------------- อาหมวยตัวร้ายกับนายแก้มแตก ! [>_< *] ---------------------------------
และหลังจากคืนนั้นทงเฮก็ไม่ได้เจอหน้าคิบอมอีก พี่คิบอมของเขาไม่โผล่หน้ามาที่ร้านเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไปตามหาที่
มหาวิทยาลัยก็มีแต่หลบหน้าทั้งยังย้ายหอไปอยู่หอนอกที่เขาไม่รู้จักอีกตะหาก ถามอะไรพี่สาวคนสวยของตนอย่างยอนฮีไป
หญิงสาวก็เอาแต่บอกปัดว่าเลิกกันแล้วไม่อยากจะพูดถึงท่าเดียว ทุกวันทุกคืนที่หวนคิดถึงเขายังนึกเสียใจ และนึกคับคล่อง
ใจว่าเป็นเพราะตนเองหรือเปล่าที่เป็นสาเหตุที่ทำให้คิบอมต้องรู้สึกผิดถึงขนาดที่ต้องเลิกรากับพี่สาวของตน
“นี่มันใกล้จะปิดเทอมแล้วนะซองมิน....ขนาดเปิดเทอมฉันยังหาพี่เค้าไม่เจอเลย” กระดาษ A4 ที่มีชื่อหอนอกรอบ
มหาวิทยาลัย ถูกขีดค่าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งที่หลังจากที่เขามาตามหากันแล้วไม่พบชื่อคิบอมในลิสต์ของหอพัก
“อืม ถ้าพี่เค้าย้ายกลับบ้านนี่ยิ่งหนักเลย ไอ้พี่คังอินก็ช่วยอะไรไม่ได้ซักอย่าง กินเหล้ากันไปวันๆจริงๆ” ซองมินบ่นพลาง
ปาดเหงื่อไปอย่างเหนื่อยล้าเต็มทน
“วันนี้พอแค่นี้เหอะทงเฮ ไว้พรุ่งนี้ค่อยไปต่อแล้วกัน ฉันไม่ไหวแล้ว”
“อืม เอางั้นก็ได้ แต่เดี๋ยวฉันจะลองไปอีกที่นะ พอดีหอนี้มันอยู่หลังบ้านฉันพอดี แต่เสียอย่างเดียวต้องเดินเข้าคนละซอย” คนตัวเล็ก
ที่ออกอาการว่าเหนื่อยไม่แพ้กันยกกระดาษทิชชู่ในมือขึ้นซับหน้าซับตาและภาพเดิมๆที่ติดอยู่ในหัวตลอดเวลาก็หวน
กลับคืนมาให้สลดลงอีกครั้ง
“เป็นอะไรไปแก?” ซองมินเอ่ยถามพลางแตะลงที่บ่าของเพื่อนรักที่หน้าซีดเจื่อนลงถนัดตาอย่างเป็นห่วง
“เปล่าๆ งั้นแยกกันตรงนี้นะ” พอร่ำลากันเสร็จสรรพทั้งสองก็ตกลงแยกย้ายกันกลับบ้านโดยทงเฮเลือกจะไปติดต่อที่หอ
ดังกล่าวคนเดียว ร่างบางเดินทอดน่องเข้ามาตามซอยที่ไม่คุ้นเคยพลางกวาดสายตามองดูตึกรามบ้านช่องที่สงบเงียบไป
เรื่อยเปื่อย แต่แล้วนัยต์ตารีเรียวก็ไปสะดุดเข้ากับร่างของใครบางคนที่คุ้นตาที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงระเบียงห้องของหอที่ตน
ต้องการจะมา ประมาณชั้นก็ซักชั้นที่สี่เห็นจะได้ จากนั้นร่างบางจึงวิ่งหลบเข้าไปอยู่ใต้ร่มไม้อย่างไม่รอช้าเพื่อช่วยพราง
สายตาจากคนที่ยืนกินลมชมวิวด้วยกลัวว่าเขาจะเห็นและตั้งตัวหนีได้ทันเสียก่อน
“ไม่อยากจะเชื่อ...พี่..ทำอย่างนี้ทำไม?” ทงเฮแอบยืนดูพฤติกรรมของชายหนุ่มที่ยืนเท้าแขนทอดสายตามองไปยังจุดๆเดียว
ไม่มีเปลี่ยนแปลงนั่นก็คือบ้านของทงเฮเอง และก็มีบ้างที่จุดบุหรี่ตัวใหม่สูบ หรือไม่ก็หยิบกล้องตัวใหญ่ขึ้นมาถ่ายรูป
“ถ้าพี่รักอาเจ้ขนาดนี้แล้วทำไมพี่ต้องเลิกกับเค้าด้วย” คนที่สำนึกตนว่าผิดเสียเต็มประดารีบฉวยจังหวะที่คนหน้าระเบียง
เข้าห้องไปแล้วจึงวิ่งเข้าไปยังตัวหอพัก พอสืบถามจากคนดูแลหอเมื่อได้ความว่าคิบอมอยู่ห้องไหนแล้วคนตัวเล็กก็ไม่รอ
ช้าที่จะไปให้ถึงที่
KNOCK KNOCK!
“ไอ้เซีย กูบอกแล้วใช่มั้ยให้มึงโทรมา...ก่..อ..น” หางประโยคหายไปในทันที คิบอมกลืนน้ำลายเหนียวลงคอพลางมองดู
คนที่มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตาที่ฉายว่าตระหนกอยู่มาก
“ทงเฮ....มาที่นี่ได้ยังไง?” คิบอมที่ยังคงอึ้งไม่หายก็ได้แต่อ้าปากพะงาบๆและปล่อยให้ทงเฮก้าวเดินเข้ามาในห้องและก้าว
เข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง
“พี่คิบอม พี่ทำอย่างนี้ทำไม!? พี่คิบอมรู้มั้ยว่าอาเจ้เค้าเสียใจแค่ไหน!!? พี่คิบอมไม่เห็นต้องสนใจเลย วันนั้นพี่คิบอมก็แค่เมา
ทงเฮรู้ ทงเฮเข้าใจดี แล้วทงเฮก็ไม่คิดจะเรียกร้อง ไม่คิดจะเอาอะไรจากพี่ด้วย ซักวันเดี๋ยวทงเฮก็ลืมพี่ได้ แต่พี่ล่ะ...
ถ้าพี่ลืมพี่ยอนฮีไม่ได้ แล้วพี่ทำอย่างนี้ทำไม??!!” เปิดฉากพูดทั้งน้ำตาเสียยาวเหยียดอย่างคิดเองเอาแต่ใจ คิบอมตรง
ไปดึงคนที่ร้องห่มร้องไห้พล่ามใส่เขาอย่างไม่ลืมหูลืมตาเข้ามาสวมกอดไว้แน่นอย่างทั้งโกรธและทั้งคิดถึง
“ถ้ามาแล้วคิดจะเอาแต่พูดไม่คิดจะถามหรือฟังพี่บ้าง ก็ลืมตาดูในห้องพี่ซะบ้างนะทงเฮ!” วงแขนแกร่งค่อยๆคลายออก
เมื่อเห็นว่าคนในอ้อมกอดหยุดนิ่งไปเฉยๆหลังจากที่เขาเฉลยคำ คนตัวเล็กค่อยๆเบิกตาขึ้นมองภาพในห้องของคิบอมให้
เต็มสองตา หลังมือขาวยกขึ้นป้ายน้ำตาที่บดบังทัศนวิสัยของตนออกลวกๆ ขาเรียวขาวที่ปิดทับด้วยกางเกงยีนส์สีอ่อน
ก้าวสั้นๆตรงไปยังฝาผนังด้านหนึ่งและจึงหยุดพินิจ
“หมายความว่ายังไงพี่คิบอม?” คนที่ยังคงงงไม่หายหันมาเอ่ยถามร่างสูงพลางกวาดสายตาไล่มองไปรอบๆห้อง และก็
ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าไม่ว่าจะเป็นมุมไหนๆของที่พักของคิบอมนั้นก็จะมีรูปถ่ายของตนในเกือบๆจะทุกอิริยาบถ
โดยเฉพาะเวลาที่เขานั่งร้องไห้อยู่ริมระเบียงประดับไว้เต็มพื้นที่
“ที่พี่หายออกมาจากชีวิตของทงเฮแล้วก็ยอนฮีน่ะ......เป็นเพราะพี่เลวไม่พอหรอกนะทงเฮ” คิบอมเดินตามเข้าไปยืนต่อ
หน้าทงเฮ ลมหายใจอ่อนเบาถูกปล่อยออกมาเรียบเรื่อยแทนความหนักใจที่มันคับแน่น ก็ไม่รู้ว่าเจ้าของใบหน้าสวยเปื้อน
น้ำตาที่เขาปล่อยให้เข้ามาเดินเล่นอยู่ในหัวใจตั้งแต่เมื่อไหร่และนานเท่าไหร่คนนี้จะทำให้ความพยายามที่จะไม่เป็นคนเลว
ของเขาสูญเปล่าหรือไม่
“พี่...รัก?”
“พี่รักทงเฮ” คิบอมตัดสินใจที่จะเอ่ยปากก่อนที่คนตัวเล็กจะพูดสิ่งที่เขาอยากบอกตัดหน้าเขาเสียก่อน
"พี่ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี? แต่เอาเป็นว่าพี่ก็ยอมรับนะว่าพี่มันเลว ใช่ ..พี่มันเลว ทั้งๆที่พี่คบกับยอนฮีอยู่แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม?
...ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่...พี่ถึงมีเรื่องของทงเฮอยู่เต็มหัว ...กว่าจะรู้ตัวอีกทีพี่ก็เพิ่งรู้ว่าพี่รักทงเฮ และทำร้ายจิตใจยอนฮีไปแล้ว"
“..ฮึก...ไม่มีทางหรอก...ไม่จริง...พี่คิบอม..แค่..แค่รู้สึกผิดกับทงเฮก็เท่านั้นเอง” ใบหน้าสวยจัดซบลงที่กลางอกอบอุ่น
ของอีกคน กำปั้นเล็กๆทุบย้ำลงกลางหัวใจของคิบอมซ้ำๆ ความดีใจ ความไม่เข้าใจ และความไม่เชื่อใจตีกันในหัวใจให้
ยุ่งเหยิงไปหมด
“ลองมองไปรอบๆตัวแล้วหาคำตอบสิ หรือถ้ายังไม่รู้ก็มองตาพี่....” คิบอมดันคนตัวเล็กให้ถอยห่างเพิ่มช่องว่างระหว่างตัว
ของเขาทั้งสองอีกนิด ทงเฮไล่สายตาดูภาพทั้งเล็กและใหญ่ที่เกลื่อนห้องด้วยความยินดี ริมฝีปากสีหวานเผลอหลุดยิ้ม
ออกมาน้อยๆเมื่อเห็นภาพตลกๆของตัวเองบางภาพที่คิบอมไม่น่าจะถ่ายเอาไว้
“รู้รึยัง?” พอหันหน้ามาอีกที ใบหน้าของคิบอมก็อยู่ห่างจากกันไม่ถึงคืบ ทงเฮสะดุ้งน้อยๆก่อนจะเสตาหลบดวงตาคมน่า
อิจฉาที่สื่อถึงคำว่า ‘รัก’ อยู่ท่วมท้นนั่นไปอีกทาง
“รู้แล้ว...แต่.....อาเจ้..กับ..เตี่ย” พอพูดถึงตัวแปรสำคัญที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ คิบอมก็ถึงกับหยุดคิดหยุดทำไปพัก....
แต่ก็ช่างเถอะ .....ในเมื่อปัญหาที่มีรางวัลของทางออกเป็นคนตรงหน้ามันมาให้แก้ถึงที่แล้ว.....ก็ถึงเวลาเสียทีที่
ต้องเผชิญหน้ากับมัน จริงมั้ย?
“มานี่สิ” คิบอมจูงมือคนน่ารักให้เดินตามออกไปยังระเบียงกว้าง สายลมยามเย็นพัดเอื่อยเบาบางพาให้เส้นผมสีอ่อนปลิวไหว
คิบอมมองดวงหน้าหวานพลางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยของทงเฮโดยมีภาพของดวงอาทิตย์อ่อนแสงที่กำลังจะเลื่อน
ลับไปเป็นฉากหลังเนิ่นนานราวกับจะเก็บให้ตราลึกเข้าไปในหัวใจที่มันเคยอ่อนแอให้ได้กลับชุ่มชื้นเหมือนต้นกล้าที่ได้
น้ำฝน ชายหนุ่มประคองใบหน้าสวยงามไม่ต่างจากดวงอาทิตย์นั่นไว้ก่อนจะประทับจูบลงที่กลางหน้าผากเนียนอย่างอ่อนโยน
“พี่คิบอม....” แววตาที่ยังแสดงความไม่มั่นใจทอดมองคิบอมอย่างกลัวที่จะรัก หากแต่ว่าชายหนุ่มก็เอ่ยคำที่อาจจะดูตลก
ไปซักหน่อยในความรู้สึกแต่มันก็ทำให้ทงเฮแน่ใจว่าในที่สุดพวกเขาจะผ่านเรื่องยากๆในอนาคตไปได้
“ก็อย่างที่พี่คังอินบอกนั่นแหละ อยากจะได้อาหมวยแสนงอนลูกเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวก็ต้องเข้าถ้ำมังกรก๋วยเตี๋ยวนะ ............ว่ามั้ย?”
ReaL End !! >>HaPpy Ending ><!!!
อาหมวยตัวร้ายกับนายแก้มแตก ! (ชื่ออาจไม่พร้องกับเรื่อง ข้ามไป อิอิ)
“อาหมวยๆ ลื้อเอาก๋วยเตี๋ยวชามนี้ไปเสิร์ฟโต๊ะเจ็ดร่วย”
“เตี่ยอา~ ลื้อเลิกเรียกอั๊วว่าอาหมวยซักทีได้มั้ย?! อั๊วเป็นผู้ชายนะ ไม่เหมือนอาเจ้ซักหน่อย! ลื้อต้องเรียกอั๊วว่าอาตี๋ๆๆๆเข้าใจมั้ยเตี่ย!?”
“อาทงเฮอา~ ลื้ออย่ามาล๊งเล๊งตอนนี้น้า เตี่ยบอกให้ไปเสิร์ฟโต๊ะเจ็ดๆได้ยินมั้ย!? อาเฮียเค้ารอแย่แล้วนั่น! ดูทำเข้า
พูดแล้วยังจะมาทำค้อนอีกแหนะ ไปเร็วๆสิ!”
คนที่โดยสั่งอย่างขัดเสียไม่ได้เดินสะบัดสะบิ้งไปหยิบถาดที่บรรจุชามใส่ก๋วยเตี๋ยวร้อนๆเพื่อไปเสิร์ฟลูกค้าเจ้าประจำตาม
คำสั่ง โดยก่อนไปก็ไม่ลืมที่จะเหวี่ยงค้อนวงที่ใหญ่กว่าวงเมื่อกี้ใส่บุคคลที่ตนเรียกว่าเตี่ยซะอีกหนึ่งที ..... ก็ทำนิสัย
อย่างนี้สิน่า จะให้ไปเรียกว่าอาตี๋แทนอาหมวยได้ยังไงกัน!?
“แหม่....อาทงเฮอ่า ถ้าอั๊วมีลูกชายหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มอย่างลื้อ อั๊วก็ทำใจเรียกรื้อว่าอาตี๋ไม่ได้จริงๆ ปล่อยเตี่ยแกไปเถอะ นะว่ามั้ยอาโม่ง?”
“นั่นน่ะสิ น่าอิจฉาอาส้งอี มีลูกสาวหน้าตาสะสวย แล้วยังจะมีลูกชายขาว สวย หมวย...อีกสิน่า ฮ่า ฮ่า ๆ หัวกระไดบ้านไม่แห้งแน่ๆ”
..!!!!
“นี่เฮีย! ถ้าอยากจะมีปากไว้ซดน้ำก๋วยเตี๋ยวนะ อั๊วว่าลื้อสองคนเงียบๆแล้วก็รีบๆกินเข้าไปจะดีกว่า!”
กระแทกเสียงดังใส่ไม่พอ เจ้าของใบหน้าสวยแต่ง้ำงอเป็นจวักกระแทกชามก๋วยเตี๋ยวลงกลางโต๊ะก่อนจะสะบัดก้นหนีหาย
ไปหลังร้านไวๆอย่างไม่สนใจเสียงด่าทอของผู้เป็นพ่อที่ตะโกนไล่หลังมา
“ต้องขอโทษจริงๆนะอาโม่ง อาย่าง อาหมวยอีก็เป็นของอีอย่างนี้”
“โอ๊ย ไม่เป็นไรๆอาส้ง อั๊วเข้าใจอีดี อาทงเฮอีเป็นหนุ่มแล้วก็คงเป็นธรรมดาที่อีจะไม่ชอบใจ”
--------------------- อาหมวยตัวร้ายกับนายแก้มแตก ! [>_< *] ---------------------------------
“ก็รู้ว่าเราไม่ชอบใจ แต่ก็ยังชอบทำกัน ไม่เข้าใจคนแก่จริงๆเชียว!!” คนที่หายเงียบเข้ามาหลังร้านบ่นล๊งเล๊งพลางเดินเตะ
ฝุ่นมาเรื่อยเปื่อย และก็ต้องพบว่าในที่ๆสงบเงียบอย่างหลังบ้านไม่ได้มีเขาอยู่เพียงลำพังหากแต่มีใครบางคนที่กำลัง
ขะมักขะเม้นอยู่กับการล้างจานชามกองพะเนินนั้นนั่งอยู่ด้วย
“อ้าว? พี่คิบอม ทำไมพี่มาอยู่ตรงนี้ล่ะ? วันนี้พี่มีเรียนไม่ใช่เหรอไง!?” คนตัวเล็กเดินอ้อมไปหยุดยืนตรงหน้าพลางเอ่ย
ถามเสียงสูงอย่างประหลาดใจที่ได้เห็นคนๆนี้มานั่งล้างจานอยู่ในครัว ก็โดยปกติ พี่คิบอมที่เจ้าตัวเรียกน่ะ จะมาทำงาน
พิเศษที่ร้านนี้ก็เฉพาะตอนเย็นของวันธรรมดาและก็วันเสาร์เต็มวันเท่านั้นนี่ แต่ก็แปลกวันนี้เป็นวันพุธแท้ๆกลับมาตั้งแต่เที่ยงวัน
“พี่คิบอม!! นี่! พี่คิบอม!! ทงเฮเรียกพี่อยู่นะ!!!” เสียงหวานขัดกับความเป็นบุรุษเพศตะเบ็งลั่นอย่างขัดใจเมื่อเห็นว่าอีกคน
ไม่คิดที่จะเงยหน้าขึ้นมาสนใจตนเลยแม้แต่น้อย
“ไม่สนใจใช่มั้ย!?? นี่แหนะๆ!!!”
“เอ้ย!!~ ทงเฮเล่นอะไรเนี่ย พี่เปียกหมดแล้ว!?” ชายหนุ่มผงะลุกขึ้นทันทีเพื่อหนีความเปียกปอนของน้ำแฟ้บที่อีก
คนวักสาดมา เผยให้คนขี้แกล้งได้เห็นว่าที่คิบอมเมินตัวเองนั้นไม่ได้เป็นเพราะเขาไม่ได้ตั้งใจจะไม่สนใจหรือเย่อหยิ่งแต่
อย่างใด หากแต่เป็นเพราะว่าเขากำลังฟัง mp3 ที่เปิดลั่นอัดใส่เต็มรูหูอยู่ตะหาก แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะทงเฮแสนงอนของ
เราก็ยังทำให้เป็นเรื่องใหญ่อีกจนได้
“ก็พี่คิบอมไม่สนใจทงเฮนี่!”
“ก็พี่ฟังเพลงอยู่ พี่ไม่ได้ยินจริงๆ”
“แต่ทงเฮมายืนอยู่ตรงหน้าพี่ตั้งนานแล้วนะ ใช่สิ! ทงเฮไม่ใช่อาเจ้นี่!” เป็นประโยคประชดประชันเดิมๆที่ฟังแล้วก็มีแต่จะ
ทำให้เหนื่อยใจ ไม่รู้ว่ากับอีแค่เสียงสูงๆเปล่งคำว่า ‘ทงเฮไม่ใช่อาเจ้นี่!!’ ทำไมถึงทำให้คิบอมรู้สึกผิดแล้วก็เจ็บจี๊ดๆได้
มากมายขนาดนี้ทุกทีสิน่า ชายหนุ่มยืนมองดูคนที่อมลมแก้มพองทำงอนตุ้บป่องๆแล้วก็ส่ายหน้าน้อยๆพลางอมยิ้มอย่าง
เอ็นดูก่อนจะก้าวขายาวๆข้ามกะละมังน้ำเปล่าไปหาร่างบางที่ยืนกอดอกทำหน้าปั่นปึ่งใส่เขา
“ทงเฮอา~ ไปอารมณ์เสียที่ไหนมาอีกละ?” มือใหญ่เอื้อมไปหมายจะลูบหัวคนที่ทำตัวเด็กกว่าอายุจริงเแต่ศรีษะเล็กๆนั่น
ก็ดันโคลงหนีมือเขาไปได้เสียก่อน
“ทงเฮอา~”
“ช่างเถอะ ยังไงในสายตาพี่คิบอมก็มีแต่อาเจ้อยู่แล้วนี่ น้องชายคนนี้มันก็ไม่สำคัญหรอก!” ว่าอย่างแสนงอนจบ ทงเฮก็รีบ
วิ่งเข้าไปในตัวบ้านก่อนจะหนีขึ้นชั้นสองไปโดยปล่อยให้คิบอมที่ตามเข้ามาด้วยต้องการจะง้อนั้นได้แต่มองช่วงขาเรียววิ่ง
ก้าวขึ้นไปตามขั้นบันไดและหายไปในที่สุด
“เฮ้อ~ ทงเฮนะทงเฮ” ร่างสูงยืนทอดถอนหายใจอย่างหมดปัญญาที่จะตามด้วยความที่เขาไม่ใช่เจ้าของบ้าน นอกจาก
เขาจะมีลูกสาวเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้เป็นคนรักแล้ว ก็ไม่รู้ว่าน้องชายของแฟนจะใช่ตัวแถมความรักของเขาอีกคนด้วย
หรือเปล่า? เขาถึงได้ต้องตามห่วงตามแคร์ความรู้สึกทงเฮอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ หรือบางทีก็อาจจะมากกว่าแฟนตัวจริงของ
เขาอย่างพี่สาวทงเฮซะด้วยซ้ำ
“เอ้า!~ อาคิบอม ... ลื้อเห็นอาทงเฮมั้ยเนี่ย?” และในระหว่างที่ยืนคิดอะไรเพลินๆโดยมองขั้นบันไดต่างหน้าทงเฮอยู่นั้น
นายจ้างของเขาหรือจะเรียกว่าพ่อตาในอนาคตก็เดินเข้ามาจังหวะความคิดเสียก่อน
“อ่อ...ครับเฮีย......ทงเฮเค้าขึ้นไปข้างบนน่ะครับ” ชายหนุ่มกำผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กที่คล้องคอไว้หลวมๆพลางค้อมตัว
นิดๆอย่างมีมารยาทในระหว่างพูดเหมือนกับทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าอาส้งเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังในย่านไชน่าทาวน์กลางใจกรุงโซลคนนี้
“อาหมวยอีคงจะเคืองอั๊วจริงๆนะคราวนี้”
“เอ่อ มีอะไรกันเหรอครับเฮีย?”
“ช่างมันก่อนเถอะ เอาเป็นว่าอาคิบอมลื้อขึ้นไปตามอาทงเฮให้อั๊วหน่อยสิ พอดีอั๊วมีแขกสำคัญอยากให้อีพบน่ะ” ดวงตา
คมถึงกับลุกวาวทันทีที่ได้ยินคำขอ ชายหนุ่มยกมือขึ้นชี้หน้าตัวเองแบบงงๆ
“ทำไมล้างจานอยู่เหรอ? แหม่...อาคิบอม..ลื้อไม่ต้องขยันขนาดนั้นก็ได้น้า แค่นี้อั๊วก็ยกลูกสาวให้ลื้อแล้ว” อาส้งเอ่ยพร้อม
กับยิ้มกริ่มจนตาหยีตามประสาคนอารมณ์ดีพลางตบบ่าลูกเขยในอนาคตเบาๆด้วยความที่เอ็นดูคิบอมไม่ต่างจากลูกชายแท้ๆ
คนหนึ่ง
“นะ...ลื้อขึ้นไปตามอาหมวยอีให้หน่อยนะ...อั๊วไม่อยากไปสู้รบปรบมือกับอาหมวยอีตอนนี้”
“อ่า..ได้ครับเฮีย” ว่าแล้วคิบอมก็รีบแจ้นขึ้นไปยังชั้นสองตามคำอนุญาตของเจ้าของบ้านในทันที ร้านของอาส้งเป็นร้าน
ที่ไม่เล็กและไม่ใหญ่มากนักกำลังพอดีๆ ชั้นล่างเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวส่วนชั้นบนนั้นห้องหับก็ถูกแบ่งเป็นสัดส่วนเหมือนบ้านช่อง
ทั่วไป การตกแต่งส่วนใหญ่ก็เน้นไปทางสไตล์แบบจีนโบราณด้วยความที่อาส้งเป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่ที่จับพลัดจับผลูข้าม
น้ำข้ามทะเลมายังเกาหลีและเผอิญมาพบรักกับแม่ของทงเฮที่เป็นคนเกาหลีเข้า ทั้งคู่ก็เลยตกลงปลงใจสมรสกันแม้จะ
ขัดกันทางด้านประเพณีเล็กน้อย จนมีลูกด้วยกันสองคนนั่นก็คือลี ยอนฮีซึ่งเป็นแฟนสาวของคิบอมคนปัจจุบันซึ่งอาส้ง
เองก็รับรู้เรื่องระหว่างคนทั้งสองดี และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้คิบอมต้องมาทำงานอยู่ที่นี่เพื่อซื้อใจว่าที่พ่อตาในอนาคต
และลูกชายคนเล็กอีกคนก็คือ ลี ทงเฮที่มีฉายาอาหมวยแสนงอนรุ่นน้องที่คณะของเขาที่เขาขอให้เป็นพ่อสื่อให้ตอนที่จีบ
ยอนฮีใหม่ๆเมื่อสามเดือนก่อนนั่นแหละ
“ทงเฮ~ ทงเฮ” ขายาวก้าวไม่มั่นคงเท่าไหร่นักด้วยเพราะสภาพพื้นบ้านที่เป็นไม้เก่าทำให้การเดินแต่ละครั้งนั้นเกิด
เสียงเลื่อนลั่นเอี๊ยดอ๊าดทำเอาคนขี้เกรงใจต้องเดินอย่างระแวงระวัง
“ฮึก..~ฉันไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้เลยซองมิน..ฮึก....ฉันเป็นผู้ชายฉันควรจะชอบ..ผู้หญิงสิ..ฮึก..ก....แต่นี่ฉันกลับชอบเค้า...”
และเสียงพูดคละเคล้าไปกับเสียงสะอื้นก็ลอยแผ่วๆออกมาจากที่ใดที่หนึ่งเรียกให้คิบอมต้องค่อยๆเงี่ยหูฟัง
แต่มันก็จับใจความอะไรไม่ได้มากนักนอกจากได้ยินเสียงอู้อี้ๆที่คิบอมพอจะรู้ว่าเป็นเสียงของคนที่เขากำลังตามหาอยู่
“แก...ฉันผิดปกติ..ฮึก..ชะ..ใช่มั้ย?....ถ้าเตี่ยรู้เตี่ยต้องฆ่าฉันตายแน่ๆ”
เอี๊ยด...อ๊าด!
“นั่นใครน่ะ?!!” คนที่นั่งพิงหลังคุยโทรศัพท์อยู่ตรงระเบียงบ้านรีบลุกขึ้นชะโงกหน้าผ่านกรอบประตูเข้ามาทันทีที่ได้ยินเสียงแปลกปลอม
“พี่เอง” เจ้าของรูปร่างสูงโปร่งยกมือขึ้นระดับอกพลางส่งยิ้มเจื่อนๆให้กับคนที่ยืนถือโทรศัพท์ค้างเหมือนกำลังประมวลผล
คำพูดหลายต่อหลายคำของตัวเองที่ล่อแหลมเมื่อครู่ในสมอง
‘ฉันไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้เลยซองมิน ฉันเป็นผู้ชายฉันควรจะชอบผู้หญิงสิ แต่นี่ฉันกลับชอบเค้า’
ท้องไส้เหมือนจะปั่นป่วนขึ้นมาทันที ทงเฮกดตัดสายซองมินทิ้ง ใช้หลังมือป้ายน้ำตาลวกๆก่อนจะทำให้บรรยากาศที่น่า
อึดอัดอยู่แล้วยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
“...พี่ขึ้นมาที่นี่ได้ยังไง!?”
“เอ่อ...คือ..พี่”
“พี่คิบอม! การที่พี่เป็นแฟนของพี่ยอนฮี หรือการที่เตี่ยกับม๊าชอบพี่นักหนามันไม่ได้แปลว่าพี่จะเดินได้ทั่วบ้านของทงเฮหรอกนะ”
คนที่ทำตัวไม่น่ารักไม่สมกับใบหน้าหวานตวาดเสียงแข็งใส่ทำเอาคิบอมที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกผงะไปเล็กน้อย
“ทงเฮฟังพี่ก่อนสิ!” พอพาลได้สมใจก็คิดจะหนีไปดื้อๆ คิบอมจึงตรงเข้าไปคว้าแขนเล็กๆไว้แต่ทว่าทงเฮก็สะบัดทิ้งเสียเต็มแรง
และหลังจากนั้นเสียง ‘เพี๊ยะ’ ที่ดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าหล่อจัดที่สะบัดไปอีกทางโดยมีรอยแดงปรากฎขึ้นจางๆ
“..พี่คิบอม!....ทงเฮขอโทษ!!” ร่างบางอุทานออกมาอย่างตกใจก่อนจะปรี่เข้าไปหาคิบอมหมายจะดูผลงานของความ
พลั้งเผลอด้วยอารมณ์โมโหของตัวเอง
“ช่างเถอะ...พี่ไม่เป็นไร” น้ำเสียงเย็นชาไม่ต่างจากสีหน้าและแววตาที่ทงเฮไม่คิดมาก่อนว่าจะได้รับจากคนตรงหน้าถูก
เปล่งออกมาเหมือนไม่รู้สึกรู้สาหากแต่ว่าไม่ใช่ คิบอมที่ไม่ค่อยเข้าใจการกระทำของรุ่นน้องคนนี้มาซักพักตัดสินใจที่จะพูด
ทุกอย่างที่ทำให้เขานั้นคับอกคับใจมานานออกมาหมดอย่างเหนื่อยล้าเต็มทนที่จะเก็บคำถามในใจนี้ไว้
“พี่ไม่รู้หรอกนะว่าพี่ไปทำอะไรให้ทงเฮไม่พอใจนักหนา พักหลังทงเฮถึงได้เป็นแบบนี้ ไม่ว่าพี่จะทำอะไร จะพูดอะไร
ออกไปมันก็ดูจะไม่ดีไปซะหมดทุกอย่างสำหรับทงเฮ”
“คือ...ท..ทงเฮ...ไม่ตั้งใจ..ทงเฮ..ขอโทษ” น้ำตาของคนตัวเล็กทำให้คิบอมพยายามที่สุดที่จะใจเย็นลงให้มาก ชายหนุ่ม
กันมือของทงเฮออกห่างอย่างไม่ต้องการความช่วยเหลือซึ่งนั่นก็ทำให้ทงเฮนั้นเริ่มร้องไห้หนักขึ้นกว่าเก่า
“ถ้าพี่เคยทำอะไรที่ทำให้ทงเฮไม่พอใจ พี่ก็ขอโทษด้วยแล้วกัน ขอโทษแม้ว่าพี่จะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองผิดอะไร”
“พี่..คิ..บอม....”
“แล้วที่พี่ขึ้นมา พี่ก็ไม่ได้ถือสิทธิ์ว่าพี่เป็นแฟนของพี่สาวทงเฮแล้วพี่จะมาเดินร่อนทั่วบ้าน แต่เป็นเพราะเฮียให้พี่มาตามทงเฮ
ยังไงก็รีบๆลงไปซะล่ะ แค่นี้แหละที่พี่จะมาบอก” พูดจบคิบอมก็หมุนตัวเตรียมจะลงไปข้างล่างหากแต่ว่าเจ้าของใบหน้า
เปื้อนน้ำตาก็วิ่งเข้ามาสวมกอดจากด้านหลังไว้แน่น
“..พี่คิบอม...อย่าโกรธทงเฮเลยนะ...ทงเฮขอโทษ...” ร่างบางกระชับแขนกอดเอวคิบอมไว้แน่นชนิดจะเป็นจะตายแค่ไหนก็
ไม่ยอมปล่อย แก้มใสที่ชุ่มไปด้วยน้ำตาแนบลงกับแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่าย น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหลออกมาจาก
ดวงตาคู่สวยซึมชื้นผ่านเสื้อยืดสีขาวเข้าไปพาให้คิบอมรู้สึกเย็นวาบจากผิวเนื้อสะท้านสู่หัวใจที่เต้นแรงผิดปกติอย่างรู้สึก
แปลกประหลาดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ปล่อยพี่เถอะทงเฮ”
“..ไม่!..พี่คิบอม..ต้องยกโทษให้ทงเฮก่อน” มือเล็กๆยังคงดื้อดึงจะกอดจะรั้งไว้อย่างนั้น คิบอมถอนหายใจเบาๆอย่าง
อ่อนใจก่อนจะเปลี่ยนจากการที่พยายามดึงมือเล็กๆนั้นออกเป็นกุมไว้แทน
“พี่จะยกโทษให้ทงเฮก็ต่อเมื่อทงเฮบอกพี่ก่อน....ว่าเพราะอะไรทงเฮของพี่ถึงเป็นแบบนี้” คำถามนี้เรียกให้คนที่กำลังร้องไห้
เงียบนิ่งไปพัก จะบอกออกไปได้ยังไงล่ะ? ว่าตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่อารมณ์ของตัวเองขึ้นๆลงๆไม่อยู่กับร่องกับ
รอยก็เป็นเพราะว่าคิบอมตกลงคบกับพี่สาวของตนน่ะ
“ว่าไงล่ะทงเฮ?”
“คือ...ทงเฮ.....”
.....!!!!
“มาอยู่ที่นี่เองสองหนุ่ม ยอนฮีตามหาซะทั่ว” และก็เป็นไปตามอัตโนมัติ ทงเฮสะดุ้งสุดตัวที่ได้ยินเสียงของพี่สาวที่ดังแว่วมา
แต่ไกล มือเล็กๆที่กอดเอวของชายหนุ่มไว้รีบปล่อยออก ก่อนจะผละจากตัวเขาและวิ่งหนีหายเข้าไปในห้องและปิดประตู
ดังโครมท่ามกลางความสับสนของคิบอมที่กำลังก่อตัวขึ้นให้เขารู้สึกใจคอไม่ค่อยดี
“เอ่อ...มีอะไรรึเปล่าคะคิบอม? ยอนฮีมาขัดจังหวะอะไรรึเปล่า?” ดวงตาใสซื่อไม่ต่างจากคนที่เพิ่งหายเข้าไปในห้องมอง
มาที่คิบอมอย่างฉงน เพราะด้วยความที่ตั่งตู้หลายใบมันวางเกะกะเต็มพื้นที่ไปหมดจึงทำให้ยอนฮีไม่สามารถเห็นการ
กระทำของคนทั้งสองเมื่อครู่ได้ เพียงแต่ว่าพอเดินขึ้นบันไดมาแล้วได้ยินเสียงของคนรักและน้องชายพูดคุยกันอยู่ก็เลย
เอ่ยปากทักลอยๆตั้งแต่ใบหน้าสวยยังไม่โผล่พ้นขึ้นมาดีก็เท่านั้น
“เปล่าหรอกครับ พอดีเฮียให้ผมขึ้นมาตามทงเฮน่ะ เห็นว่ามีแขกอยากจะให้พบ” ชายหนุ่มรีบตรงเข้าไปหาเจ้าของเรือนร่างบอบบาง
พลางโอบไหล่เล็กไว้หลวมๆ และก้าวขานำโดยหมายจะชวนยอนฮีกลับลงไปยังชั้นล่างด้วยกัน
“เหรอคะ? งั้นแสดงว่าที่เจ้าตัวดีหนีเข้าห้องไปอย่างนี้ ก็คงรู้ล่ะสิว่าคนมาหาคือพี่ฮันเกิงน่ะ” พอพูดถึงชื่อแซ่ที่ไม่คุ้นหูดี
คิบอมก็หันมาเลิกคิ้วสูงใส่ยอนฮีอย่างแสดงอาการสงสัย
“อ๊อ.....คู่หมั้นทงเฮน่ะค่ะ^^” หญิงสาวพูดไปก็ขำเล็กๆประกอบไปเรียกให้คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรอยู่แล้วต้องคิ้วผูกโบว์ไปกันใหญ่
“คู่หมั้นเหรอครับ?” คนที่ชักสีหน้าจริงจังเอ่ยถามด้วยความที่ฟังแล้วรู้สึกตะขิดตะขวงใจยังไงชอบกล
“ฮะๆ ยอนฮีล้อเล่นนะค่ะ แต่พี่ฮันเกิงเค้าอยากจะให้เป็นงั้นจริงๆนะ ก็ช่วยไม่ได้นี่นาน้องชายของยอนฮีดันสวยนี่คะ
ว่าแต่คิบอมเถอะอย่าไปหลงเสน่ห์ทงเฮเข้าแล้วกัน ไม่งั้นยอนฮีจะฉีกอกคิบอมเอาซี่โครงแข็งๆนี่ไปต้มน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวแทนเลย”
นิ้วเรียวจิ้มลงที่แผ่นอกข้างซ้ายของแฟนหนุ่ม ย้ำลงซ้ำๆให้เจ้าตัวเขาได้จั๊กจี้เล่นจนต้องจับมือเรียวบางนั่นเพื่อห้ามปรามไว้
“ไม่ตลกเลยนะยอนฮี” ใบหน้าหล่อจัดฉายแววว่าไม่เล่นด้วยอย่างแท้จริง ยอนฮีจึงต้องส่งยิ้มหวานเป็นการเอาใจให้
ก่อนจะคล้องมือเข้ากับข้อแขนของชายหนุ่มพลางซุกซบศรีษะลงที่บ่ากว้างอย่างออดอ้อนเพื่อเป็นการงอนง้อ
“ยอนฮีล้อเล่นหรอกน่า อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิคะ ไป! เราลงไปทานขนมกันเถอะ ยอนฮีกับม๊าซื้อขนมมาเยอะแยะเลย”
เสียงหัวร่อต่อกระซิกดูมีความสุขดีของพี่สาวและคิบอมทำเอาขาเรียวที่ใช้ยืนหยัดของคนที่อยู่เบื้องหลังประตูไม้แทบจะ
หมดแรงล้มทั้งยืน เพราะอย่างนี้นี่แหละทงเฮถึงได้รักวันอาทิตย์มากที่สุด ยิ่งคิบอมมาที่นี่น้อยวันน้อยเวลามากเท่าไหร่
ก็ยิ่งทำให้ชีวิตทงเฮรู้สึกสงบสุขมากขึ้นเท่านั้น ไม่ต้องมาปั่นป่วนกับช่วงเวลาน่าอึดอัดอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
“ทำไมต้องเป็นอาเจ้ด้วยล่ะพี่คิบอม? ไม่เป็นเขาได้มั้ย? เป็นใครก็ได้ที่อยู่ห่างจากสายตาทงเฮได้มั้ย?....” พึมพำถึง
คำถามเดิมๆที่ไม่เคยได้คำตอบไปพลางกับมองดูรูปหมู่ของเพื่อนๆรุ่นพี่รุ่นน้องในคณะตอนที่ไปเที่ยวที่เกาะเซจูโดยมี
ปากกาเมจิสีฟ้าสดใสวงล้อมกรอบเฉพาะตนและคิบอมที่นั่งคู่กันอยู่ด้านหน้าสุดไว้
“ไม่ได้สินะ....สายตากับการกระทำของพี่คิบอมมันก็บอกทงเฮมาตลอดอยู่แล้ว..แม้ว่าทงเฮจะไม่เคยถามพี่ก็ตาม...”
น้ำตาหยดเล็กร่วงหล่นกระทบกับภาพถ่ายตรงจุดที่มีสีเมจิเป็นผลให้ภาพแสนรักเลอะไปเล็กน้อย ทงเฮค่อยๆใช้นิ้วเรียว
ปาดมันออกเหมือนกับที่คอยเช็ดน้ำตาให้ตัวเอง จมอยู่กับความคิดเดิมๆต่อไปก็มีจะทำให้เสียใจแล้วก็เสียน้ำตา บางทีการ
ที่ได้ออกไปเปิดสมองบ้างก็อาจจะทำให้อะไรๆดีขึ้นก็เป็นได้ คิดได้ดังนั้นคนที่ต้องการหาที่พึ่งทางใจก็รีบต่อสายหาเพื่อน
รักอย่างซองมินทันที
“ซองมิน....ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว.....คืนนี้...ฉันขอไปนอนกับแกนะ.....”
--------------------- อาหมวยตัวร้ายกับนายแก้มแตก ! [>_< *] ---------------------------------
และก็มีเพียงเศษกระดาษใบเล็กๆเท่านั้นที่ทงเฮเลือกจะใช้ทิ้งข้อความไว้ ร่างบางแปะมันไว้กับตู้เย็นในห้องครัวโดยใช้
แม็กเน็ทรูปปลาการ์ตูนติดทับเอาไว้ก่อนจะหนีหายออกทางหลังบ้านเหมือนกับทุกครั้ง
‘ไปค้างบ้านซองมิน อารมณ์ดีแล้วจะกลับ’
“เผลอไม่ได้เลย ทงเฮทำอย่างนี้อีกแล้ว” ยอนฮีที่ตั้งใจจะกลับมาตามทงเฮอีกครั้งตามคำขอของอาส้งกล่าวกับคิบอมอย่างอ่อนใจ
“ทำไมล่ะ? ทงเฮหนีออกจากบ้านอย่างนี้บ่อยๆเหรอ?” ชายหนุ่มฉวยกระดาษใบเล็กจากมือแฟนสาวมาดู และเมื่อ
เห็นลายมือหวัดๆที่เรียบเรียงเป็นประโยคที่แสนเอาแต่ใจ ใบหน้าของทงเฮตอนที่ร้องไห้ และเสียงหวานๆที่บอกย้ำ
คำขอโทษต่อเขาก็ลอยพาดผ่านเข้ามาให้ได้รู้สึกเจ็บยอกอยู่ในอกเพราะมีแต่เขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ถึงสาเหตุของการหนี
ออกจากบ้านของทงเฮครั้งนี้ดี
“อืม พักหลังๆนี่ยิ่งเป็นบ่อยไม่รู้ทำไม แต่เตี่ยแกก็ไว้ใจซองมินน่ะ ก็เลยปล่อยให้ทงเฮไป เพราะเดี๋ยวถ้าทงเฮอารมณ์ดี
แกก็จะกลับมาเอง”
คิบอมนิ่งฟังอย่างใช้ความคิดไปพัก และถัดจากนั้นวันทั้งวันเขาก็ไม่มีสติที่จะทำงานใดๆในร้านจนว่าที่พ่อตาที่พอจะเอ็นดู
เขาอยู่บ้างอนุญาตให้เขากลับก่อนเวลาได้โดยจะไม่หักค่าแรงและตัดแต้มความดีของว่าที่ลูกเขยประจำวัน
“กลับดีๆนะคะ” ยอนฮียืนโบกมือไหวๆให้กับคนที่กำลังวาดขาขึ้นค่อมมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ คิบอมหยิบหมวกกันน็อคสีดำ
เตรียมจะสวมศรีษะหากแต่ว่าเสียงมือถือในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“หึ พี่คังอิน...สงสัยจะชวนกินเหล้าอีกแล้ว” คิบอมโชว์หน้าจอมือถือให้ยอนฮีที่หน้าบึ้งเกือบจะในทันทีที่ได้ยินชื่อคังอินดู
ก่อนจะกดรับสาย
“ครับพี่”
“ว่าแล้ว.....ที่ไหนดีวันนี้??” คิบอมหันไปยักคิ้วให้ยอนฮีพลางโน้มตัวไปดึงแขนคนรักที่เริ่มตีสีหน้าว่าไม่พอใจมากขึ้นให้เข้ามาใกล้ๆ
“ที่ไหนนะ?!” คิ้วได้รูปของคนฟังที่ยืนอยู่ด้านข้างขมวดกันมุ่น ยอนฮีใช้มือเล็กๆตะปบท่อนแขนของชายหนุ่มไว้แน่นยิ่ง
เมื่อเห็นคิบอมทำหน้าเหรอหราบวกกับถามเสียงสูงไปอย่างนั้น
“อ่อ..อืมๆได้พี่ๆ แล้วเจอกัน” ตกลงกันเสร็จสรรพอย่างไม่ถามความคิดเห็นของคนข้างๆคิบอมก็กดวางสาย
“นิสัยไม่ดี ทีทำงานงี้ไม่แก่ใจ แต่ทีจะไปเที่ยวนี่กะดี๊กะด๊า” หญิงสาวกอดอกทำเบือนหน้าหนีไปอีกทางอย่างแง่งอนจน
คิบอมต้องลงจากราชรถคันเก่งเพื่อมาง้อตามประสา
“นะครับ ขอวันนึงนะ ..” ชายหนุ่มโอบคนตัวบางไว้ก่อนจะหอมแก้มใสที่รองพื้นด้วยเครื่องสำอางเบาบางเสียหนึ่งที
“ก็ได้...แต่เมาแล้วห้ามขับนะ”
“ครับผม!” ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่เคยทัดทานรอยยิ้มตาหยีที่ประดับอยู่บนใบหน้าหล่อใสดูดีได้ซักที เพราะในที่สุดยอนฮีก็
ต้องอนุญาตให้คิบอมไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนกลุ่มรุ่นพี่ที่คณะเหมือนเคยๆอย่างขัดอะไรไม่เคยได้ เอาเป็นว่าไม่ขาดตก
บกพร่องในหน้าที่แฟนที่ดีก็ปล่อยให้ไปเที่ยวเล่นซะบ้างก็ถือเป็นรางวัลเล็กๆน้อยๆให้ก็แล้วกัน
--------------------- อาหมวยตัวร้ายกับนายแก้มแตก ! [>_< *] ---------------------------------
“ซองมินคิดดูสิ....อย่าว่าแต่พี่คิบอมเลย...เตี่ย..ม๊า..อาเจ้ ไม่มีใครจำวันเกิดฉันได้ซักคน” ปลายจมูกที่แดงกร่ำอยู่แล้ว
ยิ่งแดงเด่นเข้าไปใหญ่เมื่อเจ้าตัวถูก้อนกระดาษทิชชู่ในมือเช็ดทั้งน้ำมูกน้ำตาไปมาอย่างไม่ทะนุถนอมใบหน้าสวยๆของ
ตัวเองบ้างเลย
“ใจเย็นๆน๊าทงเฮ เตี่ย กับม๊าแกคงจะยุ่งๆน่ะ” ทำหน้าที่เพื่อนรักที่แสนดีเช่นเคย ซองมินลูบหลังคนที่ร้องไห้ทุเลาลงไป
บ้างแล้วเบาๆพลางส่งกระดาษทิชชูล็อตใหม่ให้
“ซองมินน้องรักพี่กลับมาแล้ว!!” และในระหว่างที่ยังปรับทุกข์บำรุงสุขกันอย่างไม่ถ้วนถี่ดี คังอินพี่ชายคนเดียวของซองมิน
ซึ่งก็เป็นรุ่นพี่ที่คณะของทงเฮด้วยก็ทะลึ่งพรวดเปิดประตูเข้ามาในห้องอย่างชนิดที่เรียกว่าเสียงเร็วพอๆกับแสงจนทงเฮเอง
ที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่กับพื้นอย่างหมดสภาพร้องไห้จนหน้าตานี้ดูแทบจะไม่ได้ปรับสีหน้าแทบจะไม่ถูก
“อ้าว?! พี่ไม่รู้ว่าทงเฮอยู่ด้วย โทษทีๆนะ” เมื่อเห็นใบหน้าของเพื่อนน้องชายเหมือนมีคำว่า ‘มึงเข้ามาทำไมไม่ดูตามา
ตาเรือ’ ติดอยู่ที่กลางหน้าผากคังอินก็จำต้องเอาหน้าหล่อๆค่อยๆถอยร่นออกมาจากกรอบประตูห้องสีหวานพร้อมๆกับลำตัว
และข้าวของในมือที่พะรุงพะรัง
“เอ้อ..ลืมบอก...วันนี้วันเกิดไอ้เทมป์มันพวกพี่ก็เลยว่าจะมากินกันที่บ้าน...ยังไงก็ลงไปแจมได้นะ..” ชะโงกหัวเข้ามาส่งยิ้ม
มีเลศนัยให้ไม่พอคังอินยังยกถุงพลาสติกที่บรรจุเหล้าราคากลางหลายขวดขึ้นมาอวดให้ซองมินได้ทำปากจ๊อบแจ๊บๆเพราะ
เปรี้ยวปากก่อนจะปิดประตูหายกลับลงไปยังชั้นล่าง
“เห็นเป็นไม่ได้เลยนะซองมิน แกนี่ชอบกินเหล้าไม่ได้เข้ากับหน้าตา” น้ำตาร่วงยังปากดีได้ ซองมินหันมาจิกตากลมๆใส่
คนที่ว่าแดกดันเขาก่อนจะโยนกล่องทิชชู่ทั้งกล่องให้ทงเฮรับไว้
“นานๆที ......ว่าแต่ว่า...
ทงเฮ .....ฉันว่าคืนนี้แกมา.....ดื่มเพื่อลืมเธอ...กับฉันดีกว่าว่ะ!!”
--------------------- อาหมวยตัวร้ายกับนายแก้มแตก ! [>_< *] ---------------------------------
สองทุ่มผ่านไปจิตใจเริ่มร้อนรน เพราะหลังจากมานั่งจ่อมที่วงเหล้าที่ตั้งขึ้นกลางสนามหญ้าหลังบ้านที่ติดกับแม่น้ำสายเล็ก
ไหลเอื่อยพอได้บรรยากาศ ทงเฮก็รับรู้ว่ากลุ่มเพื่อนที่จะมาในวันนี้ของคังอินหนึ่งในนั้นมีคิม คิบอมอยู่ด้วย ก็ไม่ยักกะรู้
ว่านอกจากคิบอมจะสนิทกับพี่คังอินแล้วยังอุตส่าห์ไปสังสรรค์จนสนิทข้ามคณะไปหาชเว ซึงฮยอนหรือเทมป์เจ้าของวันเกิด
วันนี้ที่ตรงกับเขาด้วย
“เธอ...สวย..ยยย..ยย...และหมวยยย...ย.ย..........ทุกนาทีที่เคยสัมผัส....~.”
“เอาล่ะเว้ยๆ...ไอ้คุณเทมป์นี่มึงคิดจะหลีเพื่อนน้องกูเราะ!” กินกันมาตั้งแต่พระอาทิตย์เพิ่งเริ่มตกดินใหม่ๆ เพียงแค่สอง
ทุ่มเศษๆคนที่รินเหล้าใส่แก้วและตบท้ายด้วยโซดาอ่อนๆแบบไม่ยั้งก็เริ่มออกอาการเมาแอ๋ คังอินชี้หน้าเทมป์ที่กำลัง
เกากีต้าร์เบาๆในมือพลางร้องเพลงรักหวานซึ้งพอๆกับสายตาที่มีให้ทงเฮอย่างเพลินในอารมณ์ตามแบบฉบับของคนชอบ
ล้อเลียนเพื่อนฝูง
“รู้ทันทีว่าเธอคือ ....คนพิเศษ....ที่ฉันเฝ้ารอมานาน...~....” เทมป์ไหวไหล่เล็กๆให้คังอินอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะร้องเพลง
จีบคนที่เขาต้องตาตั้งแต่แรกเจอต่อไปโดยไม่แคร์ว่าคนที่นั่งยิ้มหวานบ้าง ทำเป็นจิบน้ำสีอำพันจางๆนั้นบ้างจะไม่ได้สนใจ
ตนเองเลยแม้แต่น้อย ก็จิตใจของทงเฮตอนนี้มันเอาแต่จดจ่ออยู่ที่บานประตูบ้านที่จะเปิดออกมาสู่สวนด้านหลังน่ะสิ
“ว่าแต่...ทำไมพี่คิบอมถึงยังไม่มาก็ไม่รู้นะแก” ซองมินหันมากระซิบถามเพื่อนรักก่อนจะเอื้อมตัวไปหยิบชิ้นมันฝรั่งทอด
กรอบส่งเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ
“ก็ปกติเตี่ยปิดร้านสามทุ่มน่ะ.....แล้ว......ไหน..ยังจะต้องนั่งคุยกับอาเจ้อีก.....ก็คงดึกๆนั่นแหละ” มือเล็กๆหมุนแก้วใสที่
บรรจุของเหลวสีสวยที่เคล้าอยู่กับก้อนน้ำแข็งไปพลางนึกน้อยเนื้อต่ำใจในชะตาความรักที่ไม่สมหวังอย่างร้ายกาจของ
ตนเอง แต่จู่ๆเสียงมอเตอร์ไซค์คุ้นหูก็ดังขึ้นที่หน้าบ้านก่อนจะดับไป และไม่นานนักคนที่ทงเฮไม่คาดคิดว่าจะมาเร็วกว่า
ปกติที่เขาคาดการณ์ไว้ก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า
“เอ้า!!~ ไอ้คิบอมน้องรัก แหม่...กว่าจะถ่อมาได้...มัวแต่ไปตกหม้อก๋วยเตี๋ยวอยู่รึไงวะเนี่ย!!?” คังอินลุกขึ้นไปตบบ่าคนที่
เพิ่งมาใหม่ก่อนจะยัดเยียดแก้วเหล้าของตนเองใส่มือให้คิบอมได้ดื่มประเดิมวัน
“กูนึกว่ามึงจะเบี้ยววันเกิดกูซะอีก” เทมป์ยื่นกีต้าร์ให้แทยังที่เมาแล้วเอาแต่นั่งเงียบก่อนจะตั้งใจเดินเฉียดผ่านหลังบอบ
บางของทงเฮให้ใกล้มากที่สุดและมากอดคอคิบอมที่ยังคงยืนเก้ๆกังๆอย่างหวั่นในตัวของใครบางคนที่เอาแต่นั่งมอง
ไปทางอื่นอยู่ด้านข้างซองมิน
“มึงอย่ามามั่วเลยไอ้เทมป์ พอพี่คังอินบอกกับกูในสายว่าวันเกิดมึงนี่ กูรู้ทันที มึงเสือกเกิดอยากจะกินใช่มั้ยล่ะ!?”
และบรรยากาศคึกครื้นด้วยความเป็นกันเองของกลุ่มเพื่อนของคังอินและคิบอมก็ทำให้ทงเฮที่วิตกกังวลในตอนแรกก่อน
หน้าที่คิบอมจะมาคลายใจไปได้เปราะใหญ่ ร่างบางที่ออกอาการว่าสบายตัวลดความเกร็งลงมากขึ้นจึงอาสาเป็นฝ่ายคอย
ชงเหล้าให้บรรดาหนุ่มๆที่พูดคุยกันอย่างถูกคอเล่นกีต้าร์ร้องเพลงกันอย่างเฮฮา
“ไอ้ยูชอน!เรื่องรถของมึงที่ไปชนกับไอ้ซีวอนเมื่ออาทิตย์ก่อนเรื่องมันไปถึงไหนแล้ววะ”
“ก็ไม่ถึงไหนว่ะ ไม่รู้ไอ้หล่อมันคิดจะเบี้ยวกูรึป่าว?”
“ก็มีอย่างที่ไหนวะ รถชนเค้าให้เรียกประกัน ...ไอ้ห่านี่รถชนเสือกให้ซีวอนโทรหาพี่สาวอย่างลีน่าคนสวยมาเคลียร์
นี่มึงกะจะชนรถน้องเคลมพี่สาวนี่หว่า”
“หุบตูดไปซะไอ้เชี่ยมินโฮ อย่ามารู้ทันกู”
“วิธีมึงมันไม่ได้ผลหรอกว่ะกูว่า นี่ต้องอย่างไอ้คิบอมนี่ .... อยากจะได้ลูกสาวร้านก๋วยเตี๋ยวก็ต้องเข้าถ้ำมังกรก๋วยเตี๋ยวเว้ย
เหมือนกับสุภาษิตที่ว่าอยากได้ลูกเสือ ก็ต้องเข้าถ้ำเสือ ....มันใช่มั้ยวะ?? .ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ก็กำลังหวาดๆอยู่แล้วเชียวว่าต้องวกเข้ามาเรื่องนี้จนได้ คิบอมที่โดนคังอินและผองเพื่อนแซวกันอย่างสนุกปาก เสตาไป
มองคนที่นั่งนิ่งเงียบเอาแต่จดจ้องเปลวเทียนที่วูบวาบไปมาในถ้วยแก้วใสอย่างเป็นห่วงเป็นใย ตั้งแต่มาก็ยังไม่ได้ทักทาย
ไม่ได้พูดคุยกันซักคำเพราะมาถึงเพื่อนๆก็ลากเข้าวงมาเมาอย่างที่เห็น แต่ก็แปลกไม่รู้เป็นว่าวันนี้เหล้าเข้าปากหรือเปล่าถึง
ทำให้คิบอมมองหน้าน้องชายของแฟนแล้วคิดว่าสวย ...... สวยกว่าทุกวันที่ได้เห็น สวยจนรู้สึกอยากเข้าไปพูดคุย
อยากเข้าไปจีบ อยากนอกใจแฟนเหมือนกับเขาไปถูกใจสาวๆแปลกหน้าในผับอย่างนั้นแหละ
“เหล้าหมด...”
“แดกเก่งนะเมิง......” คิบอมยิ้มยวนๆให้เทมป์ก่อนจะดันแก้วเหล้าผ่านหน้าเพื่อนไปหมายจะให้คนที่นั่งใกล้ถังน้ำแข็งและ
ขวดเหล้าจัดการให้
“น้องทงเฮคนสวยจ๊ะ...เพรียวๆให้พี่คิบอมมันซักแก้วนะจ๊ะ” คิบอมมองหน้าเพื่อนรักที่ทำกรุ่มกริ่มๆใส่ทงเฮแล้วก็นึกรมณ์ขึ้น
ชายหนุ่มเอื้อมสุดตัวไปหยิบแก้วของตนคืนก่อนจะเดินอ้อมไปหยุดยืนเทียบข้างไหล่บางของคนที่สวมเสื้อยืดผ้าไม่หนานัก
ที่ไม่ได้เข้ากับอากาศเย็นย่ำและน้ำค้างแรงแบบนี้
“สองฝาโซดาเกือบเต็ม” ทงเฮมองแก้วเปล่าที่หลงเหลือน้ำแข็งอยู่บ้างไล่ไปตามลำแขนใหญ่และเงยขึ้นมองหน้าคนที่ยืน
ค้ำหัวของตนอยู่ ความเงียบเข้าครอบงำวงเหล้าทันทีเมื่อทุกคนเห็นอาการแปลกๆชวนให้คิดลึกของคิบอมกับน้องชายของ
แฟนเขาอย่างทงเฮ
“ครับ...พี่เขย” ประชดเก่งเป็นที่หนึ่ง ทงเฮฉวยแก้วเหล้าในมือของคิบอมไว้โดยไม่ลืมที่จะทาบมือเล็กๆของตนนั้นข่วนมือ
ใหญ่ที่เย็นเพราะอากาศของคิบอมอย่างจงใจแกล้งด้วยความหมั่นไส้ไปด้วย ทั้งสองสบตากันช่วยอึดใจก่อนที่คังอินจะเป็น
ฝ่ายทำลายความเงียบน่าอึดอัดขึ้นด้วยการชี้ชวนให้เพื่อนๆเบนความสนใจจากคนทั้งคู่โดยเลือกเพลงมาเล่นกีต้าร์กัน
“สองรัก ฉันรับไม่ไหว เธอมีหนึ่งใจให้ไป ...ตั้งสองรัก...ทั้งเค้าและฉัน...ฝันไปหรือเธอ!!!” ฟังแล้วคิบอมก็อยากจะกระชาก
เอากีต้าร์นั่นมาฟาดหัวคนที่ตะเบ็งเสียงลั่นใส่หน้าเขาอย่างคังอินให้ตายคามือนัก ชายหนุ่มกัดฟันกรอดๆอย่างเก็บอารมณ์
ขุ่นเคืองที่เพื่อนๆรู้ทันเอาไว้ในใจก่อนจะนั่งคอแข็งจิบเหล้าไปพลางกับเหลือบมองเสี้ยวหน้าของน้องแฟนคนสวยเป็นพักๆ
ตามเดิม เกลียดเวลาเมานักเชียว สัญชาตญาณอะไรที่มันถูกฝังอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจมันมักจะชอบลิงโลดออกมาแว้งกัด
ให้ได้คิดมากอย่างนี้ทุกทีสิน่า
“ซองมิน....เดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ....” ทงเฮหันไปบอกกับซองมินที่ก็กำลังร้องเพลงอย่างสนุกไปกับทุกคน
แล้วจึงลุกออกไป ถึงตอนนี้ทงเฮก็หายเข้าไปในบ้านได้แล้วพักใหญ่ ก็ได้เวลาที่คนที่อึกอักๆทำทีทำท่าอยากจะลุกไม่ลุก
จะเดินตามเข้าไปบ้าง
“เฮ้ย! ไปไหนวะมึง!”
“ไปห้องน้ำ มึงจะฝากไปมั้ยล่ะ!” หันมายักคิ้วให้เพื่อนๆอย่างกวนประสาทแล้วก็จากไป คิบอมเดินเข้าไปทางประตูหลัง
บ้านที่เดิมกับที่เขาเข้ามาในตอนแรก และไม่ลืมที่จะดึงประตูปิดลงให้สนิทและตามด้วยกดล็อคแน่นหนา
“ทงเฮ” ชายหนุ่มอุทานเสียงเบาเมื่อหันมาเห็นคนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ เจ้าของใบหน้าสวยที่มีหยดน้ำเล็กๆเกาะ
พราวเต็มหน้ายิ้มบางๆให้ก่อนจะเดินไปดึงกระดาษทิชชู่เนื้อนิ่มมาค่อยๆเช็ดหน้าของตน
“หนีออกจากบ้านมาเพราะพี่เหรอ?” คิบอมถามไปพลางหันไปดึงกระดาษทิชชู่สองสามแผ่นมาบรรจงซับหน้าให้ทงเฮ
อีกแรง ร่างบางผงะถอยหลังหนีมือไปเล็กน้อยด้วยความตกใจในตอนแรกก่อนจะหยุดนิ่งเป็นการยินยอมรับความหวังดีของ
ชายหนุ่มไว้
“ก็พี่คิบอมโกรธทงเฮนี่” คนสวยทำหน้าง้ำและก้มหน้าลงเล็กน้อย แต่คิบอมก็เชยคางมนนั้นขึ้นให้สบตาเขาและตามด้วย
การค่อยๆบรรจงซับหยดน้ำไปตามหน้าผากเนียน และแก้มใสที่ขึ้นสีแดงฝาดเป็นเนื้อแตงโมหวานทั้งเพราะฤทธิ์
แอลกอฮอล์และความขวยเขิน
“พี่ไม่โกรธทงเฮแล้วก็ได้.....แต่ก็เหมือนเมื่อกลางวันนะ...ทงเฮต้องบอกพี่ก่อนว่าทงเฮเป็นอะไร?” ทั้งๆที่รู้ว่าตนไม่ควรจะ
สาวความต่อเพราะรู้ดีอยู่แก่ใจในท่าทางที่ชัดเจนขึ้นทุกครั้งที่อยู่ใกล้กันของทงเฮ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม ณ วันนี้ ตอนนี้
คิบอมถึงอยากจะได้ยินมันจากปากคนตรงหน้านัก
“....ก็.....”
“....”
“ไม่มีอะไรหรอก ทงเฮแค่อารมณ์ไม่ค่อยดีเพราะมีเรื่องกับเตี่ยน่ะ ขอโทษที่ชอบไปพาลใส่พี่คิบอมอยู่เรื่อย” มีการเปิด
คำมาแล้วก็นิ่งไปในตอนแรกทำเอาคนฟังหายใจไม่ทั่วท้อง แต่พอประโยคหลังตามออกมาก็ทำเอาลมหายใจของคิบอม
เปลี่ยนไปติดๆขัดๆด้วยหงุดหงิดอยู่เหมือนกัน
“แค่นั้นอะนะ” คิบอมทำสีหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อจนทงเฮต้องพยักหน้าขึงขังรับประกอบเพื่อยืนยัน
“จริงๆ” สำหรับทงเฮตอนนี้เขารู้ดีว่าแฟนของพี่สาวของตนนั้นเมามากจนเรียกได้ว่าเหลือสติความรู้ผิดชอบชั่วดีเบาบาง
เหลือเกิน อย่างไรเสียเขาก็ทำไม่ได้หรอกที่จะฉกฉวยช่วงเวลาดีๆอย่างนี้ที่อาจจะหาไม่ได้อีกแล้วในอนาคตหักหลังพี่สาว
ที่แสนดีของตนได้ลงคอ
“แล้วที่พี่คิบอมเข้ามานี่ ...คือจะเข้าห้องน้ำใช่มั้ย? ไปสิเดี๋ยวทงเฮขอออกไปข้างนอกก่อนนะ เดี๋ยวซองมินจะเหงา”
บอกอย่างไม่รอคำตอบจบ ขาเรียวก็เตรียมจะก้าวผ่านตัวอีกคนออกไปหากแต่ว่าลำตัวบอบบางนั่นก็ถูกดึงให้เข้าไปแพะอยู่
กับผนังห้องสีโทนอ่อนเสียก่อน คิบอมกักตัวน้องชายของแฟนไว้ภายใต้กรอบแขนแกร่งด้วยท่ายืนของตนที่ใช้มือยันกับ
ผนังไว้
“พี่..คิ..บอม..จะทำอะไร..?....ทงเฮพูดจริงๆนะ...ทงเฮไม่ได้โกหก” นัยต์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่ยิ่งน่าดึงดูดมากขึ้นเพราะดีกรี
แอลกอฮอล์จางๆยิ่งทำให้คนมองอยากจะค้นหา พอคิดไปว่าทงเฮเลี่ยงที่จะบอกความในใจที่มีต่อคนอย่างเขา หัวใจมัน
ก็เต้นเร่าๆเหมือนอยากจะได้ยินไม่ว่าต่อไปมันจะเกิดผลอันใดขึ้นก็ตาม
“ทงเฮอารมณ์ไม่ดีเพราะเตี่ยเองเหรอถึงได้ชอบมาแง่งอน มาพูดจาแปลกๆกับพี่”
“พี่คิบอมปล่อยทงเฮเถอะ...พี่เมามากแล้วนะ” ทงเฮเบี่ยงหน้าหนีสุดชีวิตเมื่อใบหน้าหล่อดูดีที่เขายอมศิโรราบมาตลอดจน
บัดนี้เคลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ หัวใจดวงเล็กที่มันไม่เคยจับจังหวะได้ซักทีที่อยู่ใกล้คนๆนี้ก็ยิ่งเพียรกระหน่ำจนปวดหนึบใน
ช่องอกไปหมด
“ก็พี่อยากรู้จริงๆ....แค่นั้นเองเหรอ..ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นใช่มั้ย?......” ลมหายใจร้อนๆเคล้ากลิ่นเหล้าคลุ้งถูกเป่าคลอ
อยู่ข้างแก้มใส ทงเฮหลับตาแน่นและพยายามนึกถึงหน้าของพี่สาวของตนให้ชัดเจนมากที่สุดในความคิดอย่างกลัวว่าการ
กระทำของคิบอมแม้ว่าเขากำลังเมามากอยู่นั้นจะทำให้ตนเองเผลอใจ
“ทงเฮรักพี่” และมันก็ช่วยอะไรไม่ได้เลยจริงๆ ภาพของพี่สาวเลือนไปไวกว่าที่คิดเมื่อคิบอมแนบริมฝีปากลงกับผิวแก้มเนียนนิ่ม
จากเพียงแก้มก็กลับล่วงเกินมาเรื่อยจวบจนถึงริมฝีปากอวบอิ่ม รสชาติแอลกอฮอล์และความหวานมันผสมเคล้า
กันให้มัวเมาสเปะสะปะได้ถลำลึกยิ่งกว่าตอนแรกที่คิดไว้เสียอีก ยิ่งจูบก็ยิ่งต้องการ......มากจนแทบจะถอนตัวไม่ขึ้น
KNOCK KNOCK!! ขอบคุณระฆังช่วยชีวิต เสียงซองมินที่มาพร้อมกับเสียงเคาะประตูถี่ๆเรียกให้คนที่กำลังทำอะไรที่
ผิดพลาดลงไปได้ฟื้นคืนสติ คิบอมถอนจูบออกมาอย่างอ้อยยิ่ง เฝ้ามองดวงตาสีสวยหวานเชื่อมของคนที่กำลังหอบน้อยๆ
อย่างคิดไม่ตก ..... ไม่อยากจะหลอกตัวเองว่าที่กระทำไปนั้นเป็นเพราะความเมามาย ที่เขาจูบก็เพราะอยากจะจูบแม้จะรู้ดี
ว่าคนตรงหน้าคือน้องชายของคนรักก็ตามที นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับคนที่มีหัวใจหนึ่งดวงกันนะ ??
“พี่คิบอมไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น” มือนิ่มยกขึ้นปิดปากอีกคนไว้ทันทีที่เขากำลังจะเอื้อนเอ่ย ทงเฮไม่อยากจะได้ยินคำขอโทษใดๆ
จากปากของคิบอมทั้งนั้น เขาไม่ได้อยากได้ยินคำขออภัยเหมือนในนิยายน้ำเน่าที่บอกว่าทำลงไปเพราะไม่ได้ตั้งใจ
ปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้นั่นแหละ ให้เขาเข้าใจว่าที่คิบอมจูบเขาก็เป็นเพราะความต้องการลึกๆจากตัวชายหนุ่มจริงๆนั่นน่ะ
ดีที่สุดแล้ว
“วันนี้วันเกิดทงเฮ....ไม่ต้องพูดถึงเตี่ย ม๊าหรืออาเจ้ แต่ละคนก็ลืมวันเกิดทงเฮกันทั้งนั้น” ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ
พลางเหลือบไปมองยังหน้าปัดนาฬิกาบนฝาฝนังด้านหลังของคิบอม
“พี่คิบอมอวยพรให้ทงเฮหน่อยได้มั้ย?” เสียงด้านนอกของซองมินเงียบไปแล้วและนั่นก็อาจจะเป็นเพราะเพื่อนรู้ใจของทงเฮที่รู้ทุกอย่าง
คาดสถานการณ์ได้ดี
“นะ...อวยพรให้ทงเฮหน่อยสิ” คิบอมยังคงเงียบนิ่ง นัยต์ตาสีดำสนิทของคนที่ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ทอดมองคนตัวเล็กด้วย
แววตาที่ฉายว่ากำลังเศร้าใจไม่น้อย
“นะ...ขอให้คำอวยพรของพี่เป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายให้ทงเฮนะ” เห็นน้ำตาที่เริ่มคลอปริ่มขึ้นในหน่วยตาของคนตรงหน้า
คิบอมก็อดที่จะแตะต้องน้องชายของคนรักอีกครั้งไม่ได้ ชายหนุ่มดึงทงเฮเข้ามาสวมกอดไว้ก่อนจะกระซิบบอกกับเขาเบาๆ
“.... Happy Birthday นะอาหมวยของพี่ มีความสุขมากๆล่ะ” คิบอมแนบริมฝีปากลงกลางหน้าผากเนียนอีกครั้ง
ลูบศรีษะของทงเฮเบาๆอย่างอ่อนโยนเหมือนที่เคยทำเสมอๆก่อนจะหุนหันเดินจากไปคนละทิศกับที่เข้ามาจากหลังบ้าน
เสียงมอเตอร์ไซค์หน้าบ้านดังขึ้นและหายไปท่ามกลางความเงียบของค่ำคืน หากแต่เสียงร้องไห้ของใครอีกคนที่เพิ่งเริ่ม
ต้นขึ้นนั้นยังหาขอบเขตของการจบไม่ได้
“....ขอบคุณ...ขอบคุณจริงๆ.....พี่..คิบอม...”
--------------------- อาหมวยตัวร้ายกับนายแก้มแตก ! [>_< *] ---------------------------------
และหลังจากคืนนั้นทงเฮก็ไม่ได้เจอหน้าคิบอมอีก พี่คิบอมของเขาไม่โผล่หน้ามาที่ร้านเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไปตามหาที่
มหาวิทยาลัยก็มีแต่หลบหน้าทั้งยังย้ายหอไปอยู่หอนอกที่เขาไม่รู้จักอีกตะหาก ถามอะไรพี่สาวคนสวยของตนอย่างยอนฮีไป
หญิงสาวก็เอาแต่บอกปัดว่าเลิกกันแล้วไม่อยากจะพูดถึงท่าเดียว ทุกวันทุกคืนที่หวนคิดถึงเขายังนึกเสียใจ และนึกคับคล่อง
ใจว่าเป็นเพราะตนเองหรือเปล่าที่เป็นสาเหตุที่ทำให้คิบอมต้องรู้สึกผิดถึงขนาดที่ต้องเลิกรากับพี่สาวของตน
“นี่มันใกล้จะปิดเทอมแล้วนะซองมิน....ขนาดเปิดเทอมฉันยังหาพี่เค้าไม่เจอเลย” กระดาษ A4 ที่มีชื่อหอนอกรอบ
มหาวิทยาลัย ถูกขีดค่าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งที่หลังจากที่เขามาตามหากันแล้วไม่พบชื่อคิบอมในลิสต์ของหอพัก
“อืม ถ้าพี่เค้าย้ายกลับบ้านนี่ยิ่งหนักเลย ไอ้พี่คังอินก็ช่วยอะไรไม่ได้ซักอย่าง กินเหล้ากันไปวันๆจริงๆ” ซองมินบ่นพลาง
ปาดเหงื่อไปอย่างเหนื่อยล้าเต็มทน
“วันนี้พอแค่นี้เหอะทงเฮ ไว้พรุ่งนี้ค่อยไปต่อแล้วกัน ฉันไม่ไหวแล้ว”
“อืม เอางั้นก็ได้ แต่เดี๋ยวฉันจะลองไปอีกที่นะ พอดีหอนี้มันอยู่หลังบ้านฉันพอดี แต่เสียอย่างเดียวต้องเดินเข้าคนละซอย” คนตัวเล็ก
ที่ออกอาการว่าเหนื่อยไม่แพ้กันยกกระดาษทิชชู่ในมือขึ้นซับหน้าซับตาและภาพเดิมๆที่ติดอยู่ในหัวตลอดเวลาก็หวน
กลับคืนมาให้สลดลงอีกครั้ง
“เป็นอะไรไปแก?” ซองมินเอ่ยถามพลางแตะลงที่บ่าของเพื่อนรักที่หน้าซีดเจื่อนลงถนัดตาอย่างเป็นห่วง
“เปล่าๆ งั้นแยกกันตรงนี้นะ” พอร่ำลากันเสร็จสรรพทั้งสองก็ตกลงแยกย้ายกันกลับบ้านโดยทงเฮเลือกจะไปติดต่อที่หอ
ดังกล่าวคนเดียว ร่างบางเดินทอดน่องเข้ามาตามซอยที่ไม่คุ้นเคยพลางกวาดสายตามองดูตึกรามบ้านช่องที่สงบเงียบไป
เรื่อยเปื่อย แต่แล้วนัยต์ตารีเรียวก็ไปสะดุดเข้ากับร่างของใครบางคนที่คุ้นตาที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงระเบียงห้องของหอที่ตน
ต้องการจะมา ประมาณชั้นก็ซักชั้นที่สี่เห็นจะได้ จากนั้นร่างบางจึงวิ่งหลบเข้าไปอยู่ใต้ร่มไม้อย่างไม่รอช้าเพื่อช่วยพราง
สายตาจากคนที่ยืนกินลมชมวิวด้วยกลัวว่าเขาจะเห็นและตั้งตัวหนีได้ทันเสียก่อน
“ไม่อยากจะเชื่อ...พี่..ทำอย่างนี้ทำไม?” ทงเฮแอบยืนดูพฤติกรรมของชายหนุ่มที่ยืนเท้าแขนทอดสายตามองไปยังจุดๆเดียว
ไม่มีเปลี่ยนแปลงนั่นก็คือบ้านของทงเฮเอง และก็มีบ้างที่จุดบุหรี่ตัวใหม่สูบ หรือไม่ก็หยิบกล้องตัวใหญ่ขึ้นมาถ่ายรูป
“ถ้าพี่รักอาเจ้ขนาดนี้แล้วทำไมพี่ต้องเลิกกับเค้าด้วย” คนที่สำนึกตนว่าผิดเสียเต็มประดารีบฉวยจังหวะที่คนหน้าระเบียง
เข้าห้องไปแล้วจึงวิ่งเข้าไปยังตัวหอพัก พอสืบถามจากคนดูแลหอเมื่อได้ความว่าคิบอมอยู่ห้องไหนแล้วคนตัวเล็กก็ไม่รอ
ช้าที่จะไปให้ถึงที่
KNOCK KNOCK!
“ไอ้เซีย กูบอกแล้วใช่มั้ยให้มึงโทรมา...ก่..อ..น” หางประโยคหายไปในทันที คิบอมกลืนน้ำลายเหนียวลงคอพลางมองดู
คนที่มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตาที่ฉายว่าตระหนกอยู่มาก
“ทงเฮ....มาที่นี่ได้ยังไง?” คิบอมที่ยังคงอึ้งไม่หายก็ได้แต่อ้าปากพะงาบๆและปล่อยให้ทงเฮก้าวเดินเข้ามาในห้องและก้าว
เข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง
“พี่คิบอม พี่ทำอย่างนี้ทำไม!? พี่คิบอมรู้มั้ยว่าอาเจ้เค้าเสียใจแค่ไหน!!? พี่คิบอมไม่เห็นต้องสนใจเลย วันนั้นพี่คิบอมก็แค่เมา
ทงเฮรู้ ทงเฮเข้าใจดี แล้วทงเฮก็ไม่คิดจะเรียกร้อง ไม่คิดจะเอาอะไรจากพี่ด้วย ซักวันเดี๋ยวทงเฮก็ลืมพี่ได้ แต่พี่ล่ะ...
ถ้าพี่ลืมพี่ยอนฮีไม่ได้ แล้วพี่ทำอย่างนี้ทำไม??!!” เปิดฉากพูดทั้งน้ำตาเสียยาวเหยียดอย่างคิดเองเอาแต่ใจ คิบอมตรง
ไปดึงคนที่ร้องห่มร้องไห้พล่ามใส่เขาอย่างไม่ลืมหูลืมตาเข้ามาสวมกอดไว้แน่นอย่างทั้งโกรธและทั้งคิดถึง
“ถ้ามาแล้วคิดจะเอาแต่พูดไม่คิดจะถามหรือฟังพี่บ้าง ก็ลืมตาดูในห้องพี่ซะบ้างนะทงเฮ!” วงแขนแกร่งค่อยๆคลายออก
เมื่อเห็นว่าคนในอ้อมกอดหยุดนิ่งไปเฉยๆหลังจากที่เขาเฉลยคำ คนตัวเล็กค่อยๆเบิกตาขึ้นมองภาพในห้องของคิบอมให้
เต็มสองตา หลังมือขาวยกขึ้นป้ายน้ำตาที่บดบังทัศนวิสัยของตนออกลวกๆ ขาเรียวขาวที่ปิดทับด้วยกางเกงยีนส์สีอ่อน
ก้าวสั้นๆตรงไปยังฝาผนังด้านหนึ่งและจึงหยุดพินิจ
“หมายความว่ายังไงพี่คิบอม?” คนที่ยังคงงงไม่หายหันมาเอ่ยถามร่างสูงพลางกวาดสายตาไล่มองไปรอบๆห้อง และก็
ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าไม่ว่าจะเป็นมุมไหนๆของที่พักของคิบอมนั้นก็จะมีรูปถ่ายของตนในเกือบๆจะทุกอิริยาบถ
โดยเฉพาะเวลาที่เขานั่งร้องไห้อยู่ริมระเบียงประดับไว้เต็มพื้นที่
“ที่พี่หายออกมาจากชีวิตของทงเฮแล้วก็ยอนฮีน่ะ......เป็นเพราะพี่เลวไม่พอหรอกนะทงเฮ” คิบอมเดินตามเข้าไปยืนต่อ
หน้าทงเฮ ลมหายใจอ่อนเบาถูกปล่อยออกมาเรียบเรื่อยแทนความหนักใจที่มันคับแน่น ก็ไม่รู้ว่าเจ้าของใบหน้าสวยเปื้อน
น้ำตาที่เขาปล่อยให้เข้ามาเดินเล่นอยู่ในหัวใจตั้งแต่เมื่อไหร่และนานเท่าไหร่คนนี้จะทำให้ความพยายามที่จะไม่เป็นคนเลว
ของเขาสูญเปล่าหรือไม่
“พี่...รัก?”
“พี่รักทงเฮ” คิบอมตัดสินใจที่จะเอ่ยปากก่อนที่คนตัวเล็กจะพูดสิ่งที่เขาอยากบอกตัดหน้าเขาเสียก่อน
"พี่ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี? แต่เอาเป็นว่าพี่ก็ยอมรับนะว่าพี่มันเลว ใช่ ..พี่มันเลว ทั้งๆที่พี่คบกับยอนฮีอยู่แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม?
...ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่...พี่ถึงมีเรื่องของทงเฮอยู่เต็มหัว ...กว่าจะรู้ตัวอีกทีพี่ก็เพิ่งรู้ว่าพี่รักทงเฮ และทำร้ายจิตใจยอนฮีไปแล้ว"
“..ฮึก...ไม่มีทางหรอก...ไม่จริง...พี่คิบอม..แค่..แค่รู้สึกผิดกับทงเฮก็เท่านั้นเอง” ใบหน้าสวยจัดซบลงที่กลางอกอบอุ่น
ของอีกคน กำปั้นเล็กๆทุบย้ำลงกลางหัวใจของคิบอมซ้ำๆ ความดีใจ ความไม่เข้าใจ และความไม่เชื่อใจตีกันในหัวใจให้
ยุ่งเหยิงไปหมด
“ลองมองไปรอบๆตัวแล้วหาคำตอบสิ หรือถ้ายังไม่รู้ก็มองตาพี่....” คิบอมดันคนตัวเล็กให้ถอยห่างเพิ่มช่องว่างระหว่างตัว
ของเขาทั้งสองอีกนิด ทงเฮไล่สายตาดูภาพทั้งเล็กและใหญ่ที่เกลื่อนห้องด้วยความยินดี ริมฝีปากสีหวานเผลอหลุดยิ้ม
ออกมาน้อยๆเมื่อเห็นภาพตลกๆของตัวเองบางภาพที่คิบอมไม่น่าจะถ่ายเอาไว้
“รู้รึยัง?” พอหันหน้ามาอีกที ใบหน้าของคิบอมก็อยู่ห่างจากกันไม่ถึงคืบ ทงเฮสะดุ้งน้อยๆก่อนจะเสตาหลบดวงตาคมน่า
อิจฉาที่สื่อถึงคำว่า ‘รัก’ อยู่ท่วมท้นนั่นไปอีกทาง
“รู้แล้ว...แต่.....อาเจ้..กับ..เตี่ย” พอพูดถึงตัวแปรสำคัญที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ คิบอมก็ถึงกับหยุดคิดหยุดทำไปพัก....
แต่ก็ช่างเถอะ .....ในเมื่อปัญหาที่มีรางวัลของทางออกเป็นคนตรงหน้ามันมาให้แก้ถึงที่แล้ว.....ก็ถึงเวลาเสียทีที่
ต้องเผชิญหน้ากับมัน จริงมั้ย?
“มานี่สิ” คิบอมจูงมือคนน่ารักให้เดินตามออกไปยังระเบียงกว้าง สายลมยามเย็นพัดเอื่อยเบาบางพาให้เส้นผมสีอ่อนปลิวไหว
คิบอมมองดวงหน้าหวานพลางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยของทงเฮโดยมีภาพของดวงอาทิตย์อ่อนแสงที่กำลังจะเลื่อน
ลับไปเป็นฉากหลังเนิ่นนานราวกับจะเก็บให้ตราลึกเข้าไปในหัวใจที่มันเคยอ่อนแอให้ได้กลับชุ่มชื้นเหมือนต้นกล้าที่ได้
น้ำฝน ชายหนุ่มประคองใบหน้าสวยงามไม่ต่างจากดวงอาทิตย์นั่นไว้ก่อนจะประทับจูบลงที่กลางหน้าผากเนียนอย่างอ่อนโยน
“พี่คิบอม....” แววตาที่ยังแสดงความไม่มั่นใจทอดมองคิบอมอย่างกลัวที่จะรัก หากแต่ว่าชายหนุ่มก็เอ่ยคำที่อาจจะดูตลก
ไปซักหน่อยในความรู้สึกแต่มันก็ทำให้ทงเฮแน่ใจว่าในที่สุดพวกเขาจะผ่านเรื่องยากๆในอนาคตไปได้
“ก็อย่างที่พี่คังอินบอกนั่นแหละ อยากจะได้อาหมวยแสนงอนลูกเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวก็ต้องเข้าถ้ำมังกรก๋วยเตี๋ยวนะ ............ว่ามั้ย?”
ReaL End !! >>HaPpy Ending ><!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น