ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [SF] IIIII เหล้าปั่น IIIII, KIBUM & DONGHAE
TALK :: ฟิคชั่ววูบเรื่องนี้เกิดขึ้นเนื่องจากไรเตอร์ ...... แวะไปกินเหล้าปั่นมา ...... อาจจะไม่ดีแต่แต่งจบค่ะ ^^ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
“บลู เลมอน ได้แล้วครับ”
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
“โอย...แกดูเค้ายิ้มสิ น่ารักไม่ไหวจะทนแล้วนะ”
นัยต์ตาสีสวยฉายแววอารมณ์ที่อยู่ในห้วงเพ้อไม่น้อยทอดมองแผ่นหลังกว้างที่เคลื่อนตัวห่างออกไปพลางกล่าวชมไม่ได้มีขาดปาก
กี่วันมาแล้วนะ? ที่ลี ทงเฮคนสวยใช้เวลาเกือบจะค่อนคืนเพื่อมานั่งเฝ้าคิม คิบอมเจ้าของร้านเหล้าปั่นเฉกเช่นที่ทำอยู่อย่างตอนนี้
ที่โต๊ะตัวเดิมตัวนี้กับเพื่อนคนสนิทที่ก็เต็มใจออกมาด้วยคนเดิมคนนี้ ดื่มกันชนิดที่ว่าเมาครบทุกเมนู เมาเหล้าปั่นจนเบื่อกันไปข้าง
แต่ก็แปลก...ไม่ยักกะเบื่อเมารักเจ้าของร้านคนเดิมคนนี้ซักที!
“น้อยๆหน่อยเหอะ แม่คู๊ณณณ...เป็นสาวเป็นนาง” ฮยอกแจที่ออกมาเป็นเพื่อนทุกค่ำคืนเพราะเบื่อจะทนอยู่กับบ้านเฉยๆ
รินบลูเลมอนสีฟ้าสวยใส่แก้วใบจิ๋วสองใบก่อนจะยื่นแก้วหนึ่งให้กับคนตรงกันข้ามรับไว้
“ไม่ตลกนะแก ถ้าฉันเป็นชะนีค่างบ่างเหมือนแม่สาวพวกนั้นก็ดีสิ ฉันจะได้จีบคิบอมได้” กระดกของมึนเมารสหวานย้อมใจ
ไปพลางมองดูกลุ่มสาวๆหน้าตาคุ้นเคยที่คาดว่าคงจะอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันล้อมหน้าล้อมหลังคิบอมอย่างแทบจะไม่มี
ช่องว่างให้คนหน้าตาสวยจัดแต่เป็นผู้ชาย!อย่างเขาได้แทรกเข้าไปบ้างเลยอย่างปลดปลง
“เป็นผู้ชายแล้วไงอะ ก็จีบได้เหมือนกันน่ะแหละ ความรักมันไร้พรมแดนแล้วสมัยนี้” ก็แทบจะแนะนำกับเพื่อนรักด้วย
คำคมซ้ำๆแบบนี้ทุกคืนเช่นกัน แต่เจ้าคนสวยตรงหน้ามันก็ได้แต่ฟังแล้วก็ทอดถอนหายใจใส่แก้วเหล้าไปวันๆเพราะความ
ปอดแหก
“แกก็รู้อ่า..~ว่าฉันไม่กล้า สมมติถ้าฉันไปจีบเค้าแล้วเค้าไม่เล่นด้วย แล้วเค้าเกิดเกลียดขี้หน้าฉันขึ้นมา ฉันก็อดมานั่งเชยชม
หน้าหล่อๆใสๆของเขาน่ะสิ”
“อืม ก็เป็นซะอย่างนี้อะนะ งั้นก็เชิญแกนั่งเฝ้าเค้าอย่างนี้ต่อไปละกัน เฝ้าไปจนกว่าเค้าจะแต่งงานแล้วเอาเมียเอาลูกมาเป็นเด็กเสิร์ฟน่ะ”
แทงใจดำอย่างจัง ทงเฮทำค้อนน้อยๆใส่คนที่พูดตรงกรีดใจ ริมฝีปากบางกล่าวโอดครวญไปพลางจิบเครื่องดื่มสีสวยลง
คอเรียบเรื่อยพอให้ใจเย็นลง ......
มันก็จริงอย่างที่ฮยอกแจพูดทุกอย่างล่ะนะ ... ไม่ลองก็ไม่รู้ คนอย่างคิบอมดูแล้วก็เหมือนจะเฟรนลี่กับทุกคน อย่างมาก
ถ้าเขาไม่ชอบ เขาก็คงปฎิเสธอย่างสุภาพแหละน่า
ว่าแล้วกำลังใจเริ่มมา สติปัญญาเริ่มเกิดและดูเหมือนโชคก็จะเข้าข้างด้วย เมื่อระหว่างที่นั่งเล่นนั่งส่องอิริยาบถทุกฝีก้าว
ของคิบอมอยู่นั้น ดวงตารีเรียวก็เผอิญไปสบเข้ากับป้ายประกาศรับสมัครพนักงงานของร้านที่แปะไว้ตรงรั้วไม้สีขาว
รับสมัครพนักงาน 1 ตำแหน่ง ...
โอ้ แม่เจ้า วิธีนี้น่าจะเวิร์คสุด!! ไอเดียบรรเจิดเริ่มแทรกแซงขึ้นมาในหัวสมองที่มีรอยหยักเพียงน้อยนิด
“ฉันรู้แล้วแกว่าฉันจะทำยังไง!!”
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
และหลังจากคืนนั้น จากที่มาเหยียบร้านในฐานะลูกค้าประจำ ทงเฮก็ก้าวเข้ามาในฐานะลูกจ้างชั่วคราวของร้านเหล้าปั่น
“ดีจังเลยนะฮะ มีคนสวยอย่างพี่ทงเฮมาช่วยงานที่ร้าน แขกจะต้องเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวแน่ๆเลย”
รยออุคเด็กในร้านของคิบอมที่คุ้นหน้าคุ้นตากับทงเฮดีอยู่แล้วเพราะเห็นหน้าส่งยิ้มทักทายปราศรัยไมตรีกันอยู่เกือบทุกวัน
กล่าวรับขวัญพนักงานใหม่อย่างดีใจ พร้อมกับส่งอุปกรณ์ทำมาหากินอย่างเช่นกระดาษและปากกาจดรับออเดอร์ให้ร่างบาง
ที่ยืนก้มหน้าก้มตาลอบเป่าปากพรืดๆเพราะขวยเขินสายตาเจ้าของร้านสุดหล่อที่พยักหน้ารับเป็นเชิงเห็นด้วยได้รับไว้
“ว่าแต่...แปลกจังนะ ทำไมทงเฮถึงอยากมาทำงานที่ร้านผมล่ะ?” โดนคำถามนี้ไปคนถูกถามก็เกิดลิ้นแข็งขึ้นมาเสียดื้อๆ
“เอ่อ..” ทำตัวแทบจะไม่ถูก ยิ่งคิบอมชะโงกหน้าเข้ามาถามใกล้ๆเพราะเห็นว่าทงเฮอ้ำอึ้งไปก็ทำเอาคนที่แอบหลงรัก
เจ้าของร้านคนนี้มาแสนนานลมจะจับ ปกติได้พูดคุยกันก็แค่เฉพาะตอนสั่งเครื่องดื่มและตอนเช็คบิลบางครั้งบางคราว
ส่วนเรื่องเข้าใกล้กันก็มีสเปซระหว่างลูกค้ากับเจ้าของร้านเสียเยอะ และการที่ได้คืบหน้าพูดคุยใกล้ชิดกันภายในครึ่ง
ชั่วโมงอย่างนี้มันก็ยังไม่ทันได้เตรียมใจน่ะสิ!
“เอ่อ..”
“ผมรู้แล้ว...!”
เจ้าของใบหน้าสวยจัดเงยหน้าขึ้นมองทันที คิบอมแกล้งจ้องตาทงเฮแบบไม่กระพริบ ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้จนลมหายใจ
อุ่นร้อนตามการหายใจสม่ำเสมอของร่างสูงทำให้เส้นผมสีอ่อนที่เคลียอยู่ข้างแก้มเนียนของทงเฮปลิวไหวเบาๆ
“คือ....~ฉัน...”
“ทงเฮคิดจะมากินเหล้าปั่นร้านผมฟรีๆล่ะสิ! ผมรู้น๊า มานั่งดื่มกับเพื่อนทุกวันเปลืองใช่มั้ยล่ะ?”
เฮ้ออ..~ นอกกรอบไปเยอะเชียวคุณคิบอมจอมบื้อ ทงเฮเบะปากน้อยๆและทำค้อนด้วยสายตาอย่างที่ชอบทำจนติดเป็นนิสัย
“ผมล้อเล่นน่ะครับ ยังไงก็ฝากด้วยนะ อาจจะเหนื่อยหน่อยแต่ถ้าไม่ไหวยังไงก็บอกผมได้นะ ที่นี่พวกเราอยู่กัน
แบบเพื่อน แบบครอบครัว ทำสนุกๆน่ะครับไม่ได้คิดจริงจังเอากำไรอะไร”
แม้ว่าจะยืนฟังนิ่งๆพยักหน้าหงึกหงักรับบ้าง แต่ภายในใจแล้วมันลิงโลดสุดเหวี่ยง และนับจากวันนั้นทงเฮก็ได้เรียนรู้งาน
จากคิบอมบ้าง รยออุคและคนอื่นๆบ้างจนเป็นงานมากขึ้น จริงๆแค่รับออเดอร์ แค่เสิร์ฟ ล้างแก้วล้างจานล้างเหยือกมันก็
ไม่ได้ยากเย็นอะไร เพียงแต่มันจะดูสาหัสสากันขึ้นมาทันตาก็ตอนที่คิบอมมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆนี่แหละ
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
“ทงเฮครับให้ผมช่วยล้างมั้ย?”
“ม่ะ ไม่ต้องหรอก คิบอมไปดูหน้าร้านเหอะ...เอ้ย!”
เพล้ง!!~
“ทงเฮเดี๋ยวผมไปเสิร์ฟให้”
“ไม่ต้องๆเดี๋ยวฉันทำเอง”
“มันหนักนะ เอามาให้ผมเถอะ”
“ไม่เป็นไรจริงๆ~ คิบอม...เหวออ..อ!”
เพล้ง!!~
“ทงเฮ โต๊ะนี้เดี๋ยวผมรับออเดอร์เอง”
“คิบอมอา~เอาสมุดมาเถอะ เดี๋ยวฉันจดเองได้”
“ทงเฮเข้าไปหลังร้านเถอะโต๊ะนั้นไม่น่าไว้ใจออก”
“ก็แค่ลูกค้า ฉันรับเอง”
“ทงเฮ!”
“คิบอม...ฉันเอง...อ๊ะ...เหย..ย...!”
โครม คราม ปึง ปัง เพล้ง !!!
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
(((( ไงแก ได้ข่าวว่าทำแก้ว ชาม ไห แตกไปหลายร้อยใบในหนึ่งสัปดาห์ )))
“น้อยๆหน่อยเหอะแก แค่สี่ซ๊าห้าสิบใบเอง เว่อร์ไปได้”
(((( กล้าพูดนะ! เออฉันกำลังจะออกจากบ้านแล้ว คืนนี้เอาเลิฟเบอรี่จัดให้ด้วย กินฟรีเหมือนเดิมนะ 555 ))))
“ตลอดแหละแก เออๆแล้วเจอกัน ลูกค้ามาแล้วไปก่อนนะ”
กดวางสายเสร็จสรรพ คนตัวเล็กก็รีบแจ้นออกไปยังโต๊ะด้านหน้าสุดเพื่อรับออเดอร์ก่อนจะเดินกลับเข้ามาหลังเคาร์เตอร์ไม้อีกครั้ง
“รยออุคโต๊ะ 9 กีวี่เชอเบท กับมิกซ์เบอรี่นะ” มือเล็กๆเขียนออเดอร์ซ้ำให้ตัวใหญ่ขึ้นก่อนจะเสียบลงบนที่ปักแหลมๆ
ร่างบางยืนพิงเคาร์เตอร์ร้านรอรยออุคไปพลางกับใจลอยเหม่อไปถึงใครบางคนที่ยังมาไม่ถึงร้านเสียที
“พี่ทงเฮกีวี่หมดฮะ พี่ทงเฮช่วยไปหยิบที่หลังร้านให้ผมหน่อยได้มั้ยฮะ?” คนที่สาระวนเทส่วนผสมหลากชนิดลงไปใน
เครื่องปั่นสะกิดแขนทงเฮเบาๆพร้อมกับกล่าวขอให้ช่วยอย่างสุภาพ
“อืมได้ๆ” คนมีน้ำใจเร่งฝีเท้าไปยังด้านหลังของร้านที่เป็นครัวทันทีที่ถูกขอ นัยต์ตาเรียวสวยกวาดมองตามตู้กระจกที่ยึด
กับผนังด้านบนไว้ก่อนจะเขย่งสุดขาและเอื้อมสุดลำแขนเพื่อหยิบขวดแก้วใสที่บรรจุน้ำสีเขียวสวย
“อ่า...ไว้ซะลึกเชียว...อ๊ะ!” ร่างบางสะดุ้งน้อยๆเมื่อมือปริศนาโอบเข้าที่เอวบางของตนเอาไว้หลวมๆ และด้วยความที่เวลา
ยืดตัวนั้นมันทำให้ชายเสื้อยืดสีอ่อนที่ทงเฮสวมอยู่มันเลิกขึ้นน้อยๆเผยให้เห็นหน้าท้องแบนราบที่ปกคลุมด้วยผิวขาวเนียน
ซึ่งบัดนี้มือของคิบอมแตะสัมผัสอยู่ตรงบริเวณนั้น ความอุ่นร้อนจากฝ่ามือหยาบค่อยๆถ่ายทอดลงไปบนผิวนุ่มมือทำเอา
คนถูกแตะต้องรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งกายและใบหน้า
“ถ้าหยิบไม่ถึง ก็ใช้เก้าอี้ หรือบอกผมสิ ถ้าขวดแก้วหนักๆมันหล่นมาใส่จะว่ายังไง” เสียงทุ้มกระซิบตักเตือนอยู่ข้างใบหู
ลมหายใจร้อนๆของคิบอมมันทำให้ทงเฮแทบจะยืนไม่อยู่ มือเล็กที่จับขวดแก้วไว้ได้แล้วพยายามยึดมันไว้มั่นอย่างไม่
อยากซุ่มซ่ามทำให้ขวดน้ำหนักไม่เบาที่ว่าหล่นใส่จนหัวร้างข้างแตกเสียก่อน ก็คิบอมน่ะสิ ทำทีเหมือนจะมาช่วยหยิบ
แต่ทำไมสิ่งที่อยู่ในมือใหญ่อีกข้างถึงเป็นข้อมือของทงเฮแทนล่ะ ...
“อืม วันหลังจะระวัง” เสียงหวานอ้อมแอ้มในลำคอ เมื่อได้ขวดน้ำกีวีมาอยู่ในมือแล้ว คนตัวเล็กก็หมุนตัวออกจากวงแขน
ก่อนจะเดินลิ่วๆกลับไปยังหน้าร้านทันที
“....เฮ้อ...นายทำอะไรของนายเนี่ยคิบอม” ชายหนุ่มเอนหลังพิงกับเคาร์เตอร์ครัวก่อนจะยกฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้นมามองดูแบบยิ้มๆ
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
“...โอยย..ย ฉันจะตายแล้วรู้มั้ยแก!!” ทงเฮอาศัยช่วงเวลาว่างงานรีบวิ่งออกมาหาฮยอกแจที่โต๊ะตัวเดิมที่เขาชอบนั่งกัน
เป็นประจำด้วยใบหน้าตื่นๆ
“ทำไมแก เค้าใช้งานแกเยี่ยงทาสหรอ!?”
“เปล่า! เค้าก็แค่......ทำให้ฉันคลั่งรักเค้าเพิ่มขึ้นทุกวันตะหากเล่า!!” ฮยอกแจฟังแล้วก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมายกใหญ่
“ไหนๆ ค่อยๆเล่าซิ”
และหลังจากนั้นเรื่องลับในหลังร้านก็ถูกสครีมออกมาเป็นฉากๆให้เพื่อนรักได้กรีดร้องตามไปด้วย
“ไม่เบาเลยนะแก ฉันว่ามีใจชัวร์!”
“หืม สมพรปากเหอะ! ฉันไปก่อนนะ ลูกค้ามาแล้ว!”
พอพูดจบ คนตัวเล็กก็วิ่งรุกรี้รุกรนกลับไปทำหน้าที่ตามเดิม ร่างบางเดินตรงไปยังหน้าร้านเพื่อต้อนรับลูกค้าสองคนที่เพิ่ง
เดินเข้ามาใหม่
“เชิญนั่งโต๊ะนี้เลยฮะ” ริมฝีปากสีหวานฉีกยิ้มกว้างทักทายพลางผายมือไปยังโต๊ะสามใต้ต้นไม้ที่ยังว่างอยู่ หากแต่เมื่อ
กำลังจะก้าวขาเดินนำไป ก็ถูก 1 ใน 2 คนนั้นรั้งข้อมือไว้เสียก่อน และก็เป็นไปตามอัตโนมัติ มือเล็กๆสะบัดทิ้งและก้าวถอย
หลังเพื่อหนีการถูกรุกรานในทันที
“มือห๊อมมม หอม” ทงเฮมองหน้าคนที่ทำกิริยาต่ำทรามอย่างนึกรังเกียจ แต่เมื่อนึกถึงคำที่คิบอมเคยบอกว่า
ลูกค้าก็เป็นเหมือนพระเจ้า ฉะนั้นโดนแทะเล็มแค่นี้ก็คิดซะว่าให้ทานสุนัขข้างทางละกัน!
“รับอะไรดีครับ” รอยยิ้มพิมพ์ใจเมื่อครู่ที่ประดับอยู่บนใบหน้าสวยจางหายไปเร็วราวกับแปลงร่างเป็นคนละคน ร่างบางส่ง
เมนูให้กับลูกค้าอีกคนที่ไม่ใช่คนที่ฉวยโอกาสกับตนตอนแรกแทน แต่เพื่อนกันมันก็ไม่ต่างกันซักเท่าไหร่ ชายหนุ่มรูปร่าง
กำยำที่ออกอาการว่าเมามาแล้วกรึ่มๆรับเมนูไว้ ก่อนจะใช้มืออีกข้างยึดข้อมือทงเฮตามด้วยการฉุดแรงๆเป็นผลให้ลำตัว
บอบบางเซล้มลงไปนั่งอยู่บนตักไม่เป็นท่า
“นี่คุณ!!! ปล่อยนะ!!” ทงเฮดิ้นรนสุดแรงเกิด นอกจากจะหนีมือสกปรกที่พอแตะตัวทงเฮได้มันก็เลื่อนไล้ไปทั่วแล้วยังต้อง
เบี่ยงใบหน้าหลีกหนีคางสากๆที่หมายจะเข้ามาเคลียที่ข้างแก้มใสอีก และการกระทำย่ามใจพอสะท้อนเข้าสู่นัยต์ตาคมกริบแล้ว
ร่างสูงที่วุ่นอยู่กับการเตรียมเครื่องดื่มอยู่หลังเคาร์เตอร์บาร์ก็เร่งฝีเท้ามายังโต๊ะสามก่อนจะดึงตัวทงเฮออกห่างจากอ้อมกอดสวะทันที
“กรุณาออกไปจากร้านด้วยครับ”
“ .หึ..ไอ้หน้าหล่อ....”
“เชิญเถอะครับ อย่าให้ผมถึงกับต้องเรียกตำรวจเลย!!”
คิบอมโอบเอวบางของคนที่ถูกรังแกไว้ข้างลำตัวอย่างไม่ยอมปล่อยให้คาดมือและสายตา ก่อนจะสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
ให้คนทั้งสองออกไปจากร้านด้วยสีหน้าที่น่ากลัวและน่าเกรงขามอย่างที่ทงเฮหรือแม้แต่พนักงานในร้านหลายคนไม่เคยเห็นมาก่อน
“นี่มึงกล้าไล่พวกกูหรอ กูเป็นลูกค้ามึงนะ!!” กรอบร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นชี้หน้าพลางผลักอกคิบอมอย่างเตรียมพร้อมทุกเมื่อที่จะมีเรื่อง
“ผมไม่สนหรอกครับ ผมจะต้อนรับก็ต่อเมื่อลูกค้ามีมารยาทเท่านั้น” ร่างสูงกล่าวอย่างไม่มียี่หร่ะแม้จะเห็นว่าถ้ามีเรื่อง
ตัวเองจะต้องเป็นรองแน่นอนด้วยรูปร่างที่ต่างกันมากกว่า คิบอมหันไปพยักหน้ากับรยออุคเป็นเชิงสั่งให้พาคนที่กำลังเสีย
ขวัญหลบไปหลังร้านก่อน
“นี่มึงกล้าพูดอย่างนี้กับกูหรอ!?” ยังไม่ทันจะได้ประเคนหมัดใส่เจ้าของหน้าหล่อใสที่มองมาอย่างท้าทายดังที่ตั้งใจ ผู้คน
ที่นั่งสังเกตการณ์อยู่รอบร้านก็ลุกฮือขึ้นและพร้อมใจกันมายืนล้อมหลังคิบอมเป็นผลให้คนที่กร่างไม่รู้จักที่ใครเป็นที่ใคร
จำต้องสะบัดแขนที่ง้างหมัดไว้ทิ้งลงเสียดื้อๆ
“เออ!!แม่งหมาหมู่นี่หว่า! กูฝากไว้ก่อนเหอะมึง!” ไม่แน่จริงนี่หว่า! เสียงถากถางถูกแดกดันตามหลังสองคนที่เดินอาดๆ
ออกไปจากร้านโดยที่คิบอมไม่ต้องเมื่อยปากมาก และเมื่อคนทั้งสองหายลับไปจากสายตา สถานการณ์ของร้านก็เข้าสู่
ภาวะปกติ คิบอมกล่าวขอบคุณพร้อมกับก้มหัวให้ลูกค้าในร้าน ก่อนจะก้าวฉับๆกลับไปยังหลังร้านทันที
“อี๋..~ ตรงนี้แล้วก็ตรงนี้ด้วย พี่ขนลุกอ่า รยออุค!” มือเล็กแช่อยู่ในกะละมังที่มีน้ำปริ่มจนล้นในซิงค์ล้างจานพลางถูไถไป
มาเป็นหลายสิบรอบทั้งท้องแขน ข้อศอก แก้ม ซอกคอชนิดที่ว่าถ้าอาบน้ำตรงนี้ก็ได้คงทำไปแล้ว ถูแรงเสียจนรอยสี
แดงปรากฏเป็นแถบๆบนผิวสว่างขาว
“อ๊ะ! ดะ.. เดี๋ยวคิบอม คือ..จะทำอะไร!?”
“รยออุคฝากหน้าร้านด้วยนะ!!”
“เอ่อ..ฮะ..”
รยออุคขานรับแบบงงๆ เมื่อคิบอมเดินบึ้งเข้ามาแล้วก็ฉุดคนที่งงเป็นไก่ตาแตกไม่แพ้กันหายเข้าไปหลังร้าน
“ทีหลังระวังตัวหน่อย ถ้าเห็นท่าไม่ดีก็มาตามผม ไม่ใช่ทำเอง!” คิบอมตวาดใส่อย่างหัวเสียไปพลางกับลากทงเฮเข้าไป
ยังห้องพักของพนักงาน
“อืม ฉันจะพยายาม”
“ไม่ใช่พยายาม แต่ทงเฮต้องทำตามที่ผมบอก!!”
กำปั้นหนักทุบลงกับตู้ล็อกเกอร์ดังปังทำเอาทงเฮสะดุ้ง นัยต์ตาสีดำลึกลับเสมองคนที่ยืนนิ่งเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น
ดูหวาดกลัวอยู่ตรงหน้าประตูพลางผ่อนลมหายใจของตนให้ช้าลงเมื่อรู้สึกว่าตัวเองชักจะใจร้อนเกินควบคุม
“อืม ฉันจะทำตามที่คิบอมบอก” เจ้าของเรือนร่างบอบบางน่ากอดยังคงยืนนิ่ง หากแต่มือเล็กๆนั่นยังคงลูบมือและแขน
ตัวเองไปเรื่อยด้วยรู้สึกขยะแขยงเต็มทนที่ถูกใครไม่รู้มากอดรัดฟัดเหวี่ยงขนาดนั้น คิบอมที่รู้ดีว่าคนตรงหน้ากำลังคิดอะไร
อยู่ และรู้สึกอย่างไรเดินตรงเข้าไปฉวยข้อมือบางไว้ก่อนจะดึงคนที่เดินตามอย่างว่าง่ายเข้าไปในห้องน้ำและรุนหลังให้เข้า
ไปในตู้ชาวเว่อร์ตามด้วยการพาตัวเองเข้าไปยืนเบียดอยู่ในนั้นด้วย ร่างสูงจัดการเอื้อมมือไปเปิดน้ำฝักบัวพร้อมปรับ
อุณหภูมิให้อุ่นทำเอาทงเฮอุทานออกมาอย่างตกอกตกใจ
ซ่า .......
“ดะ..เดี๋ยว คิบอมจะทำอะไร?!” ชายหนุ่มดึงประตูกระจกของตู้ชาวเว่อร์ให้ปิดลงและยืนกอดอกพิงหลังอยู่ในตู้นั้น
“ผมไม่ชอบให้ใครแตะตัวทงเฮ” ประโยคนี้เรียกให้คนที่เปียกม่ะล่อกม่ะแลกช้อนสายตามองอย่างถามหาความหมาย
“คือ...ไม่ใช่! ผมรู้ว่าทงเฮไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องตัว อาบน้ำซะก็จะได้รู้สึกเหมือนกับได้ล้างสิ่งสกปรกออกไง”
“อื้ม”
ทงเฮลอบยิ้มแก้มแทบปริ ในขณะที่คิบอมที่ทำตัวไม่ถูกก็แกล้งเบือนหน้าหนีไปอีกทาง สายน้ำสะอาดยังคงไหลลงมา
เอื่อยๆหากแต่ทงเฮเลือกที่จะบิดหัวก๊อกเพิ่มระดับความแรงให้มากขึ้น ไหนๆเสื้อยืดตัวบางก็เปียกชุ่มโชกจนแนบเนื้อ
มองเห็นไปถึงไหนถึงไหนแล้ว ร่างบางจึงหันหลังให้อีกคนก่อนจะถอดเสื้อออกแล้วโยนไว้กับพื้น
แผ่นหลังขาวเนียนเท่านั้นที่สะท้อนสู่นัยต์ตาสีดำขลับในเวลานี้ คิบอมกอดอกยืนทอดสายตามองคนที่เปลือยท่อนบนยืน
ลูบไล้ผิวกายของตัวเองอยู่เบื้องใต้สายน้ำอุ่นที่โปรยปรายลงมาไม่หยุดอย่างคาดเดาอารมณ์ขณะนี้ไม่ได้
“ไม่ชอบเลย ตอนโดนกอด อกคนนั้นมันโดนหลังด้วย” ก็ว่านั่งดื่มเหล้าปั่นกับฮยอกแจมาไม่ถึงแก้วนะ แต่ไม่รู้ทำไม
ถึงใจกล้าหน้าด้านได้ทั้งที่ยังไม่เมา ทงเฮหันมาชายตามองคิบอมที่ยืนลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคอเป็นเชิงยั่วเหมือนกับวาจา
และก็ไม่รู้อะไรมันดลบันดาลใจเหมือนกัน ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบขวดสบู่เหลวจากมือทงเฮมาบีบใส่ฝ่ามือก่อนจะ
ก้าวเข้าไปประชิดจนเนื้อตัวเปียกปอนไปตามกันและตามด้วยการบรรจงไล้ฝ่ามือไปตามแผ่นหลังบอบบางอย่างเบามือ
“อื้ม...” ฝ่ามือหยาบเลื่อนจากกลางหลังต่ำลงมายังบั้นเอว ไอน้ำคุกรุ่นจับขึ้นเป็นฝ้าเต็มตู้ชาวเวอร์กระจกใสช่วยบดบัง
สายตาจากด้านนอกที่คิบอมลืมที่จะปิดประตูห้องน้ำไว้ ช่างเป็นใจให้คนทั้งสองทำอะไรๆได้มากขึ้น คิบอมไต่ดะไปตาม
ผิวเนื้อไขลื่นมือ เลื่อนไปยังพื้นที่ด้านหน้าบริเวณหน้าท้องแบนราบวกขึ้นไปลูบไล้บนแผ่นอกบางตรึงเรียบก่อนจะรั้ง
ร่างบอบบางมาชิดแทบอก คางสากที่แพลมไรหนวดเขียวครึ้มนิดๆวางลงที่ไหล่ลาด โอบกอดร่างบางไว้ในขณะที่ใช้มือ
อีกข้างยันกับผนังกระเบื้องตรงหน้าไว้
“คิบอม..ทำอะไรอยู่รู้ตัวรึเปล่า?” ถามให้แน่ใจด้วยไม่อยากจะเป็นฝ่ายที่เสียใจเองในภายหลัง คนถูกถามไม่ตอบอะไร
นอกจากกดจมูกโด่งลงที่ผิวแก้มใสแทนคำตอบว่าเขารู้ตัวตลอดเวลา และในบรรยากาศเป็นใจเฉกเช่นตอนนี้บวกกับ
อารมณ์อ่อนไหวเพราะรักเขาอยู่แล้วเต็มหัวใจจึงทำให้ทงเฮยอมพลีกายให้ได้ง่ายนักแม้จะยังไม่ได้ยินคำว่าชอบหรือรัก
ผ่านหูเลยซักคำ คิบอมเอียงหน้าเข้าหาในขณะที่ทงเฮเองก็เต็มใจจะปรับองศาเพื่อรับจูบอ่อนหวานจากคนที่โอบกอดตน
จากด้านหลังให้ถนัดถนี่เช่นกัน เรียวลิ้นหยอกล้อแลกเปลี่ยนความสุขสมไปพลางกับเรือนร่างสวยงามถูกสัมผัสเล้าโลม
กว่าจะรู้ตัวกางเกงยีนส์ที่คิดว่าถอดยากนักหนายิ่งเวลาเปียกน้ำของทงเฮถูกถอดลงไปกอมแทบเท้าโดยฝ่ายคิบอมเองก็
จัดการร่นปราการเบื้องล่างของตนค้างไว้อย่างหมิ่นเหม่
“อ๊า..อ๊ะ” มือบอบบางสองข้างเท้ากับผนังกระเบื้องไว้เพื่อยึดไม่ให้ตัวเองทรุดลงไปด้วยความที่ตอนนี้ขาแข้งมันอ่อนแรง
ปวกเปียกไปหมด ฝ่ามือที่เปียกลื่นไล้เลื่อนจับต้องทุกส่วนสัดในร่มผ้าจากสะโพกกลมกลึงที่แอ่นท้าสายตาน้อยๆ ไล่ไป
ยังต้นขาอ่อนด้านหน้าชิดเข้าไปยังโคนขาด้านในก่อนจะกรอบกุมส่วนอ่อนไหวไว้และเพียงเค้นคลึงขยับเข้าออกเพียงเบา
มือก็เรียกเสียงหวานๆให้ครางอึมครึมอยู่ในลำคอคละเคล้าไปกับเสียงของหยดน้ำที่ร่วงกระทบพื้นและเสียงของริมฝีปาก
ของทั้งคู่ที่ดูดดึงกันไม่มีห่าง
“อ๊ะ..อื้ม” ทงเฮกัดปากล่างไว้แน่น เมื่อคิบอมสอดนิ้วผ่านเข้ามาในช่องทางคับแคบด้านหลังที่ไม่มีใครเคยได้สัมผัส
นิ้วยาวควานทั่วเพื่อหาจุดเสียวกระสันที่ทำให้คนในอ้อมกอดครางออกมาเสียงหวานอย่างรู้สึกดี และเมื่อช่องทางรักขยาย
จนพร้อมแล้วคิบอมจึงตรึงสะโพกอวบไว้ซึ่งทงเฮก็รู้หน้าที่ดี ขาเรียวขาวแยกกว้างขึ้นในขณะที่สะโพกมนก็เผลอไผลโก่ง
รับอย่างเต็มใจ
“อื้ม..ทงเฮ~” ชายหนุ่มขบกามแน่นเพราะความเสียวซ่านและสุขสมที่ได้รับ ร่างสูงดันตัวผ่านช่องทางที่ตอดรัดแน่น
ด้านหลังช้าๆ เข้ามาจนลึกสุด แผ่นอกแกร่งที่มีกล้ามนิดๆแนบสนิทลงมากับแผ่นหลังบอบบาง ริมฝีปากร้อนผ่าวแนบจูบ
แก้มแดงระเรื่อ ซอกคอขาวผ่อง เนินไหล่นวลเนียนพร้อมทำร่องรอยความเป็นเจ้าของไว้ประปราย ร่างสูงยังนิ่งค้างเอาไว้
เช่นนั้นให้คนตัวเล็กได้คุ้นเคยก่อนจะเริ่มขยับกายเข้าออกช้าๆและเพิ่มระดับตามความร้อนตามองศาในร่างกายที่มันพุ่ง
พล่านเป็นผลให้เจ้าของเรือนร่างที่ยั่วยวนที่สุดในครานี้ครางร่ำไม่เป็นภาษา ยามนี้ก็ได้ยินแค่เพียงเสียงของราคะตัณหาที่
แทรกสะท้อนอยู่กับเสียงสายน้ำไหลในกรอบตู้ชาวเวอร์คับแคบเท่านั้น
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
“แก เมื่อหัวค่ำ!! พอฉันคล้อยหลังแยกกับแกไปเข้าห้องน้ำ..แป๊บเดียว...เห็นเขาลือกันให้แซดว่าแกถูกลวมลาม!”
“อืมไว้เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันจะเล่าให้ฟังนะ ฉันง่วงนอนไม่ไหวแล้วแก”
โกหกเพื่อนไปก็เท่านั้น ก็พอกิจกรรมรักจบสิ้นกันไป คิบอมก็พาทงเฮขึ้นมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ายังห้องนอนของเขา
ที่อยู่ชั้นสอง ร่างบางที่เพิ่งจัดการกับตัวเองเสร็จหมาดๆโดยเอาชุดนอนของคิบอมมาใส่นอนกลิ้งเล่นอยู่บนเตียง
ใบหน้าเรียวสวยกดลงไปกับหมอนนุ่ม อยากจะกรีดร้องออกมาดังๆทุกครั้งที่นึกถึงสิ่งที่ตนกับคิบอมเพิ่งทำร่วมกันไป
มือถือ...
ทงเฮหันไปมองมือถือที่คิบอมให้ยืมโทรไปหาฮยอกแจก็เกิดนึกสนุกอยากจะแอบดูเข้า นิ้วเรียวเร่งกดเลื่อนเข้าไปยังเมนู
อันดับหนึ่งที่อยากจะรู้
.....แกลลอรี่
“คิกๆ ชอบถ่ายรูปกับเค้าเหมือนกันหรอเนี่ย!”
ทงเฮยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปพลางดูรูปถ่ายของคิบอมหลายมุมในหน้าจอมือถือ และเมื่อเลื่อนไปเรื่อยๆรอยยิ้มเพราะสุขใจอยู่
เมื่อครู่ก็พลันเปลี่ยนไป เมื่อภาพของใครอีกคนที่อยู่ข้างคิบอมกับกระทำที่มันห่างไกลจากคำว่าแค่เพื่อนกันปรากฏแก่
สายตา ก็ทำเอาหัวใจดวงเล็กหล่นวูบ
“ทำอะไรอยู่ครับ?”
เสียงเปิดประตูและเสียงทักทายมาพร้อมกับใบหน้าหล่อใส ทงเฮรีบกดออกจากเมนูรวดเดียวมาอยู่ที่หน้าจอมาตรฐานก่อนจะวางมันลงบนเตียง
“เปล่านี่ ก็แค่นอนเล่น” ทงเฮฉุดตัวเองลุกขึ้นนั่ง และเหมือนอะไรจะประเดประดังเข้ามาพร้อมกันเมื่อดวงตาคู่สวยไปสบเข้า
กับกรอบรูปสีหวานที่ล้อมรูปถ่ายของคิบอมกับผู้หญิงคนที่เพิ่งเห็นในมือถือที่วางไว้บนชั้นวางโทรทัศน์ และคิบอมคงไม่ทัน
สังเกตว่าทงเฮมีสีหน้าเปลี่ยนไปแค่ไหนหลังจากมองไปยังบริเวณนั้น ชายหนุ่มจึงทำเดินเนียนๆไปหยุดบังกรอบรูปนั้นไว้ก่อนจะคว่ำมันลง
“เอ่อ ฉันกลับบ้านดีกว่านะ” การกระทำของคิบอมนั้นยิ่งทำให้ทงเฮแน่ใจว่าเขาคงพลาดอะไรไปแล้วจริงๆ ร่างบางลุก
ออกจากที่นอนเร็วๆแม้จะรู้สึกไม่ค่อยดีเพราะยังเจ็บแปลบบริเวณสะโพกอยู่ แต่ก็ยังพยายามแข็งใจก้าวเดินผ่านตัวอีกคนที่
ยังไม่เข้าใจอะไรมากนักเพื่อหมายจะกลับบ้านดังคำที่บอก
“ทงเฮ มันดึกมากแล้วนะ ค้างที่นี่เถอะ” คิบอมรีบเข้าไปกอดคนตัวบางไว้ก่อนจะพาลงไปนอนราบบนเตียงกว้างและขึ้น
ทาบทับ
“ปล่อยเถอะ! ฉันอยากกลับ เดี๋ยวฉันกลับแท็กซี่เองก็ได้” ร่างบางเบือนหน้าหนีไปอีกทาง มือบางยันกับแผ่นอกอีกคน
เป็นการปรามเมื่อชายหนุ่มหมายจะก้มลงมาเอาเปรียบ
“อืม ถ้าทงเฮอยากกลับจริงๆเดี๋ยวผมไปส่ง”
ระหว่างที่ขับรถไปก็มีแต่เพียงความเงียบงันเท่านั้นที่คิบอมได้รับจากคนที่นั่งข้างๆ อยากจะเอ่ยปากถามซ้ำอีกซักรอบให้หายข้องใจ
ว่าจู่ๆเป็นอะไร? แต่ก็กลัวว่าคำตอบที่ได้รับจะเย็นชาเหมือนเคยๆ .... ‘เปล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไร’
“ขอบคุณ ขับรถกลับดีๆนะ”
ทงเฮหันไปบอกอีกคนก่อนจะเปิดประตูรถและก้าวลงไปเร็วๆอย่างที่คิบอมแทบจะไม่ทันได้ตั้งตัว นัยต์ตาสีรัตติกาลมอง
เรือนร่างบอบบางที่เขาได้กอดได้สัมผัสเมื่อครู่หายลับเข้าไปในตัวบ้านแล้วก็ขมวดคิ้วมุ่น ไม่รู้ว่าทงเฮมีอะไรในใจ และเมื่อ
นึกขึ้นมาได้ถึงโทรศัพท์ของตนที่ให้ทงเฮยืมไปใช้ก่อนหน้านี้ ร่างสูงก็อยากจะตบกบาลตัวเองให้เลือดมันคลั่งในสมองกลวงๆนัก
“....เห็นจนได้”
นิ้วยาวกดเลื่อนดูรูปในมือถือแล้วก็ถอนหายใจยาวเหยียด ชายหนุ่มลดกระจกรถลงพลางจ้องมองไฟสีส้มที่สว่างมาจาก
ห้องๆหนึ่งที่อยู่ชั้นบนที่คาดว่าจะเป็นห้องของทงเฮ มองดูอยู่ซักพักจนไฟนั้นดับลงและจึงเลือกที่จะขับรถกลับร้าน
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
“นี่แกกับเค้า!!!”
“อืม” ก่อนที่ฮยอกแจจะได้อ้าปากตำหนิเพื่อนคนสวยอย่างที่ตั้งใจ ทงเฮก็โถมเข้าใส่ก่อนจะสวมกอดตัวเขาไว้แน่น
“เฮ้ย เป็นอะไรแก!”
“ฮึ่ก..เค้ามีแฟนแล้วอะแก...เค้ามีแฟนแล้ว แล้วเค้ามาอย่างนี้กับฉันทำไม!” คนตัวเล็กร้องไห้สะอึกสะอื้นใหญ่จนฮยอกแจ
ที่ยังจับความไม่ได้ปลอบใจแทบไม่ถูก
“ฮึก..แล้วฉันจะทำยังไงดี..ฉันไม่อยากไปที่นั่นแล้ว..ไม่อยากเห็นหน้าเค้าแล้วอะแก ฉันอุตส่าห์รักเค้า แล้วเค้ากล้าดียังไงมาหลอกฉันอะแก”
จากที่ได้ฟังทงเฮเล่า ฮยอกแจก็ยังไม่อยากให้เพื่อนรักปักใจเชื่อในสิ่งที่เห็นเพียงอย่างเดียว เพื่อนคนสนิทแนะนำว่าวันนี้
ให้ไปคุยกับคิบอมให้รู้เรื่องดีกว่าว่าจะเอายังไง และทงเฮที่ตัดสินใจทำตามก็ไปที่ร้านเหล้าปั่นในเวลาเข้างานทั้งๆที่ยัง
หน้าตาบวมฉึ่งจนแทบจะจำสภาพเดิมไม่ได้ ไปถึงก็ไม่ทักทายใครนอกจากก้าวขาฉับๆหายเข้าไปยังหลังร้านและก็เอาแต่
ง่วนกับการล้างแก้วล้างจานเพียงอย่างเดียว เงียบจัดขนาดรยออุคที่ว่าสนิทสุดและคุยได้ทุกเรื่องยังไม่กล้าเข้าใกล้
“พี่ทงเฮ เอ่อ...นี่มันหน้าที่ผม พี่ทงเฮไปอยู่นอกร้านเหอะครับ” แทมินพนักงานของร้านอีกคนบอกแกมขอร้องด้วยไม่
อยากให้คนที่เจ้านายหวงนักหวงหนามาเหนื่อยเปล่าๆแบบนี้
“ทงเฮ ผมขอคุยด้วยได้มั้ย!?” คิบอมที่ตามแทมินเข้ามาทีหลังส่งซิกบอกให้เด็กหนุ่มออกไปก่อนจะตรงเข้าไปสวมกอด
เอวบางๆเอาไว้แน่นอย่างอ้อนๆ
“ปล่อย” ทงเฮสั่งเสียงห้วน หยุดภาระหน้าที่ของตนไว้และพยายามจะปลดมือกาวออก
“ทงเฮคือผมอยากอธิบาย...”
และคำพูดที่กำลังจะบอกก็ถูกเก็บกลืนลงไปเมื่อรยออุคที่ทะเล่อทะล่าเข้ามาผิดที่ผิดเวลาเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
“พี่คิบอมฮะ! พี่ทิฟฟานี่มา!!”
“พูดจริง!!?”
“ทงเฮเดี๋ยวผมมานะครับ”
ใบหน้าหล่อจัดฉายแววว่าดีใจมาก มือหนาที่รวบรั้งเอวบางไว้ปล่อยอย่างง่ายดาย ชายหนุ่มรีบวิ่งออกไปโดยลืมใครอีกคน
ที่แทบจะทรุดลงตรงนั้น ทั้งๆที่หัวใจมันคงเจ็บถ้าจะออกไปมองให้เห็นให้รับรู้แก่ใจและสายตา แต่ก็ยังเลือกที่จะทำ
ทงเฮถือถาดแก้วเหล้าที่เป็นพล็อพตัวช่วยหมายจะไปวางยังตระกร้าใส่แก้วหน้าร้านเพื่อที่จะออกไปดูลาดราวด้านนอก
ได้แนบเนียนและสิ่งที่ประจักแก่สายตามันก็ทำให้หัวใจดวงเล็กแหลกเหลวไม่ต่างจากตอนที่เห็นภาพในกรอบรูปและมือถือ
ภาพที่คิบอมกำลังยืนกอดอยู่กับผู้หญิงคนในรูปมันกำลังค่อยๆแทรกซึมเข้ามาในหัว กัดกินเข้าไปยังหัวใจที่เต้นอย่าง
เหนื่อยล้าเพื่อย้ำเตือนว่าสิ่งที่คิดไว้มันถูกต้องทุกอย่าง
......ก็แค่เพื่อนฆ่าเวลาสินะ
เพล้ง!!
“ทงเฮ!”
แก้วทั้งหมดแตกกระจายเมื่อมือบางที่หมดเรี่ยวแรงปล่อยมันลงกับพื้นดื้อๆ คิบอมหันไปบอกกับให้ทิฟฟานี่ให้ออกไปรอด้านนอก
ก่อนจะตรงเข้ามาหาคนที่นั่งเก็บเศษแก้วอยู่กับพื้น
“ทำอะไรของคณน่ะทงเฮ!!” ที่ตวาดก็เพราะเป็นห่วงแต่อีกคนกลับมองไปในแง่ลบเสียได้ คนที่ก้มหน้าก้มตาเก็บเศษแก้ว
จัดการรูดมือทีเดียวหวังจะรวบเศษแก้วทั้งหมดบนพื้นอย่างจงใจจะประชดประชันคนตรงหน้าเป็นผลให้คมแก้วบาดเข้าที่
ฝ่ามือขาวนับสิบแผล เลือดสีสดไหลทะลักออกมาจากรอยบาดทำเอาคิบอมช็อคจนแทบลืมวิธีหายใจ
“ทงเฮ!” ชายหนุ่มดึงมือของอีกคนที่ยังไม่ลดละจะทำร้ายตัวเองออกแต่ทงเฮก็รั้นที่จะชักมือกลับ นัยต์ตาสีชาหม่นที่มีน้ำ
ใสคลออยู่เต็มจ้องมองอีกคนด้วยแววตาที่เจ็บปวด
“จำได้มั้ยที่คิบอมเคยถามฉันว่าทำไมฉันถึงอยากมาทำงานที่ร้านนี้กับคิบอม”
“ .”
“ก็เพราะฉันรักคิบอมไง รักถึงยอมทำทุกอย่าง....แต่ถ้าฉันรู้ซักนิดนะ...รู้ซักนิดว่าคิบอมมีใครในใจอยู่แล้ว....”
พูดถึงตรงนี้ หยดน้ำตาใสก็กลิ้งลงมาตามแก้มเนียน ทงเฮหยุดคำพูดที่จะยิ่งทำให้ตัวเองดูด้อยค่าลงไปมากกว่าที่เป็นอยู่
ไว้เพียงเท่านั้น ก่อนจากลุกหนีออกไปโดยทิ้งคิบอมที่ยังคงช็อคไม่หายกับคำสารภาพที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนไว้เบื้องหลัง
“โธ่เว้ย! มันอะไรกันวะเนี่ย”
“ทงเฮเดี๋ยวก่อน!!” ร่างสูงรีบวิ่งตามออกไปหมายจะรั้งทงเฮไว้หากแต่ฮยอกแจที่รอเพื่อนรักอยู่แล้วนั้นได้พาทงเฮกลับไป
เสียก่อน ชายหนุ่มก็ได้แต่ยืนมองท้ายรถสีดำค่อยๆเคลื่อนตัวห่างไปทุกทีๆอย่างเจ็บใจตัวเอง
“ทงเฮ.....คุณไม่ฟังผมเลย....”
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
“ฮึ่ก...แก...ฉันเคยคิดนะว่า..มันก็ดีแค่ไหนแล้วที่เค้ากอดฉัน....แต่แค่คิดว่าเค้าเห็นฉันเป็นของแก้ขัด...ฉันก็ทำใจไม่ได้”
ตั้งแต่ฮยอกแจพาทงเฮกลับมาค้างคืนที่หอพัก ทำแผลที่มือให้เสร็พสรรพ คนขี้แยก็ขดตัวซุกอยู่ในผ้านวมผืนอุ่นเอาแต่
ร้องไห้ร้องห่มไม่หยุดมาเกือบจะสองชั่วโมงได้
“ใจเย็นนะแก...เอาน่า..ผู้ชายมันเฮงซวยนักก็ปล่อยมันไป แกยังมีฉัน มีพ่อแม่ มีเพื่อนๆอยู่นะเว้ย”
มืออุ่นลูบตัวเพื่อนรักผ่านผ้าห่มเบาๆ ต้องพูดปลอบใจกันอยู่นานกว่าคนที่กำลังเฮิร์ทสุดขีดจะเคลิ้มหลับไปเพราะร้องไห้จนเหนื่อยอ่อน
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
“ตัวรุมๆแฮะ” เช้าวันรุ่งขึ้น กว่าฮยอกแจจะไปเรียนได้ก็เล่นเอาสายไปมากโข นั่นก็เพราะต้องคอยดูแลป้อนข้าว ป้อนยา
เพื่อนรักที่ไข้ขึ้นเพราะเครียดทั้งเรื่องรักและเพราะพิษบาดแผลที่มือจนเนื้อตัวงี้ร้อนเป็นไฟ
“นอนพักผ่อนเยอะๆนะแก เดี๋ยวบ่าย ๆฉันเข้ามา”
“อื้ม ขอบใจ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ” พอเพื่อนรักคล้อยหลังออกจากห้อง เปลือกตาที่หนักอึ้งเหมือนหัวใจก็ค่อยๆปรือลง
ทำท่าจะปิด เหนื่อยเกินกว่าจะคิดจะร้องไห้อีกต่อไปแล้ว และในขณะที่ร่างบางกำลังเคลิ้มๆ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
“อื้ม...ม....ลืมกุญแจห้องอีกล่ะสิ....” ปวดหัวจนแทบไม่อยากจะขยับลุกไปไหนแต่ก็เพราะความจำใจ ทงเฮตลบผ้าห่ม
ออกช้าๆ เท้าเล็กหย่อนลงเหยียบพื้นก่อนจะเดินต้วมเตี้ยมช้าเสียยิ่งกว่าเต่าคลานไปเปิดประตู
“ไง..แก...ลืมกุญ...จ...แจ” ดวงตาคู่เล็กที่เปิดครึ่งๆเมื่อครู่เบิกกว้างทันทีเมื่อพบว่าคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าไม่ใช่ฮยอกแจดังที่คาดไว
“เดี๋ยวสิทงเฮ!!” คิบอมรีบดันไว้เมื่ออีกคนเอะอะๆก็เอาแต่จะปิดประตูกระแทกใส่หน้าเขาลูกเดียว
“ฉันไม่อยากเห็นหน้าคิบอมแล้ว กลับไปเถอะ!”
“แต่ผมมีเรื่องจะคุยกับทงเฮ” และในที่สุดเรี่ยวแรงน้อยนิดก็ไม่สามารถต้านทานพลังมหาศาลของร่างสูงได้ คิบอมดัน
ประตูสู้แรงคนตัวเล็กให้อ้าพอประมาณก่อนจะแทรกตัวผ่านเข้ามาและปิดประตูลงพร้อมกดล็อค
“ออกไปนะ!” มือเล็กพยายามสะบัดปัดป้องสุดฤทธิ์ด้วยไม่อยากให้อีกคนเข้าถึงตัวกลัวว่าจะใจอ่อนให้กับเจ้าของใบหน้า
หล่อใสที่เขาหลงนักหลงหนา แต่ด้วยร่างกายที่ไม่ค่อยจะเป็นปกติอยู่แล้วไม่ว่าอย่างไรก็ทำให้คิบอมสามารถเข้าถึง
ตัวบางๆของคนดื้อรั้นได้ง่ายดาย ชายหนุ่มเข้าไปประคองคนตัวรุมร้อนที่ทำท่าจะเซล้มลงไปให้ไปนั่งบนเตียงกว้างก่อนจะ
คุกเข่าลงกับพื้นต่อหน้า
“คิบอม...” ทงเฮครางเสียงอ่อนและเบือนหน้าหนีไปอีกทางเมื่อคนตรงหน้าส่งสายตาอ้อนวอนพร้อมกับกุมมือที่พันผ้าก็อต
ของตนไว้อย่างแสดงความห่วงใย
“ผมแค่ขอเวลาอธิบาย ถ้าผมพูดจบแล้วทงเฮจะไม่ยอมยกโทษให้ผม ผมก็จะยอมไป” การที่ทงเฮเงียบไปนั้นก็
คงแปลว่าไม่ปฎิเสธ คิบอมจึงรีบหยิบการ์ดสีหวานที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆในกระเป๋าสะพายที่พกติดตัวเสมอออกมาก่อนจะยื่นให้ทงเฮรับไว้
“......” คิ้วสีอ่อนขมวดน้อยๆเมื่อตัดสินใจเปิดสิ่งที่คิบอมส่งให้ออกดู
TIFFANY & AARON
Marry .
ชีวิตพอจะอ่านอังกฤษออกก็ไม่กี่คำ แต่เมื่อเห็นคีย์เวิร์ดและรูปแบบการ์ดจึงทำให้ทงเฮเข้าใจอะไรมากขึ้น จากที่นั่งยืด
หลังตรงทำคอแข็ง ร่างบางก็ออกอาการว่าอ่อนลงอย่างเห็นๆ แก้มขาวๆที่ซีดเป็นกระดาษเพราะฤทธิ์ไข้กลับแดงระเรื่อขึ้น
อย่างห้ามความอายไม่อยู่
“แล้วไงล่ะ...หรือว่าแฟนของคิบอมเค้านอกใจ คิบอมก็เลยมองหาใครเป็นตัวสำรอง” ว่าเข้าไปนั่น คิบอมยิ้มพลาง
ส่ายหน้าน้อยๆระอาในความรั้นอย่างน่ารักของคนตรงหน้า ร่างสูงลุกขึ้นไปนั่งยังด้านข้างของทงเฮก่อนจะโอบเอวบางๆ
พลางซบศรีษะลงบนไหล่ลาดอย่างอ้อนๆ
“ผมกับทิฟฟานี่เราห่างกันมาซักพักแล้วแต่ก็เพิ่งจะตกลงเลิกกันเมื่อสองสามเดือนก่อน ตอนนี้ผมกับเค้าก็เป็นแค่เพื่อนที่ดี
ต่อกัน ส่วนเรื่องเมื่อวานที่เค้ามา เค้าก็แค่อยากจะมาเชิญไปงานแต่งงานของเค้า แล้วก็ตามประสาเพื่อนฝูงแหละครับ
ผมก็แค่กอดแสดงความยินดีเท่านั้นเอง”
“แต่รูปเค้าก็ยังมีอยู่ทุกที่นี่ ตัดใจไม่ได้ว่างั้น” ฟังแล้วคิบอมก็แกล้งงับหยอกไม่แรงมากนักที่หัวไหล่ทงเฮทำเอาคนขี้งอน
พ่วงตำแหน่งเจ้าหนูจัมไมเจ้าปัญหาต้องหยิกบิดเนื้อที่ท่อนแข่นซักทีเพื่อแก้แค้นกลับ
“ปกติผมไม่ได้ค้างที่ห้องนั้นอยู่แล้ว ถ้าปิดร้านดึกๆถึงจะอยู่ค้างก็เลยไม่ได้จัดการเก็บข้าวเก็บของอะไร ส่วนรูปในมือถือ
ปกติผมก็ไม่ค่อยได้สนใจจะดูจะลบจะยุ่งอะไรกับมันอยู่แล้ว มันไม่ได้มีความหมายอะไรนอกเหนือจากนี้จริงๆนะครับ”
“......” ถึงตอนนี้ก็ไม่มีอะไรจะโต้เถียงนอกจากเงียบนิ่งอย่างแสดงการยอมรับ
“คิดว่าผมจะเล่นๆกับทงเฮหรอ ดูถูกน้ำใจผมมากไปแล้วนะ ผมน่ะรักคุณก่อนที่คุณจะรักผมด้วยซ้ำล่ะมั้ง” ประโยคนี้ทำ
เอาคนที่แอบไปลอบยิ้มจนแก้มพองต้องหันมามองหน้าอย่างขอคำตอบ
“จำได้รึเปล่าว่าคุณเคยมาเมาแล้วอาละวาดที่ร้านผมครั้งหนึ่งเมื่อเดือนก่อนน่ะ” ร่างบางฟังแล้วก็ขมวดคิ้วมุ่นพลางฉุกคิด
ย้อนกลับไป แล้วก็พอจำได้รางๆว่าเมื่อเดือนก่อนมีงานเลี้ยงสังสรรค์ที่คณะแล้วเพื่อนๆก็พากันมาต่อที่ร้านเหล้าซักที่หนึ่ง
ใกล้ๆมอและนั่นก็ทำให้บังเอิญมาเจอคนรักนั่งดริ๊งอยู่กับเด็กมัธยมที่ไหนไม่รู้เข้าก็เลยอาละวาดจนแตกหักกันไปซะวันนั้น
“สภาพแย่นะตอนนั้น”
“ก็น่ารักดีนี่ครับ” พูดจบก็หัวเราะกันร่วน มือที่รวบเอวบางไว้หลวมๆรั้งคนน่ารักให้ขึ้นมานั่งบนตัก นัยต์ตาสีดำสนิทจ้อง
มองเข้าไปยังหน้าต่างใจของอีกคนที่ตอนนี้มันดูอ่อนหวานเป็นที่สุดแม้ว่ามันจะช้ำแดงน้อยๆเพราะมีร่องรอยของความ
เสียใจก็ตามที
“ผมขอโทษ จริงๆแล้วผมน่าจะเป็นฝ่ายบอกกับคุณก่อนว่าผมน่ะรักคุณมากแค่ไหน” ฟังแล้วริมฝีปากบางก็แย้มยิ้มออกมา
อย่างพอใจ ทงเฮขยับเข้าไปหอมแก้มป่องๆทีนึงเป็นรางวัลก่อนจะกระซิบเบาๆที่ข้างหูของชายหนุ่ม
“จะบอกก่อนหรือหลังไม่สำคัญหรอกขอแค่คิบอมรักฉันก็พอ”
“ครับ ผมรักคุณ.....ทงเฮ” คิบอมแนบริมฝีปากลงจูบกลีบปากนุ่มอย่างอ่อนโยนและอ่อนหวานก่อนจะถอนจุมพิตออกมา
อย่างอ้อยอิ่งเพื่อซึมซับความอบอุ่นจากอ้อมกอดแทน แต่มาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เสร็จสิ้นภารกิจที่ตั้งใจจะมาหาทงเฮในวันนี้ดี
คิบอมคลายวงแขนออกจากเรือนร่างนุ่มนิ่มก่อนจะล้วงมือเข้าไปหยิบกระดาษอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าใบเดิมและ
ยื่นให้ทงเฮได้อ่าน ดวงตารีเรียวไล่ดูไปตามตัวอักษรสีดำตัวใหญ่บน A4 แล้วก็คลี่ยิ้มกว้าง
‘รับสมัครแฟนเจ้าของร้านเหล้าปั่น 1 ตำแหน่ง’
“ถ้างั้น.......คุณคิม คิบอม ..........ลี ทงเฮคนนี้ขอสมัครตำแหน่งนี้ชั่วชีวิตเลยนะ^^”
END~!!!
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
“บลู เลมอน ได้แล้วครับ”
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
“โอย...แกดูเค้ายิ้มสิ น่ารักไม่ไหวจะทนแล้วนะ”
นัยต์ตาสีสวยฉายแววอารมณ์ที่อยู่ในห้วงเพ้อไม่น้อยทอดมองแผ่นหลังกว้างที่เคลื่อนตัวห่างออกไปพลางกล่าวชมไม่ได้มีขาดปาก
กี่วันมาแล้วนะ? ที่ลี ทงเฮคนสวยใช้เวลาเกือบจะค่อนคืนเพื่อมานั่งเฝ้าคิม คิบอมเจ้าของร้านเหล้าปั่นเฉกเช่นที่ทำอยู่อย่างตอนนี้
ที่โต๊ะตัวเดิมตัวนี้กับเพื่อนคนสนิทที่ก็เต็มใจออกมาด้วยคนเดิมคนนี้ ดื่มกันชนิดที่ว่าเมาครบทุกเมนู เมาเหล้าปั่นจนเบื่อกันไปข้าง
แต่ก็แปลก...ไม่ยักกะเบื่อเมารักเจ้าของร้านคนเดิมคนนี้ซักที!
“น้อยๆหน่อยเหอะ แม่คู๊ณณณ...เป็นสาวเป็นนาง” ฮยอกแจที่ออกมาเป็นเพื่อนทุกค่ำคืนเพราะเบื่อจะทนอยู่กับบ้านเฉยๆ
รินบลูเลมอนสีฟ้าสวยใส่แก้วใบจิ๋วสองใบก่อนจะยื่นแก้วหนึ่งให้กับคนตรงกันข้ามรับไว้
“ไม่ตลกนะแก ถ้าฉันเป็นชะนีค่างบ่างเหมือนแม่สาวพวกนั้นก็ดีสิ ฉันจะได้จีบคิบอมได้” กระดกของมึนเมารสหวานย้อมใจ
ไปพลางมองดูกลุ่มสาวๆหน้าตาคุ้นเคยที่คาดว่าคงจะอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันล้อมหน้าล้อมหลังคิบอมอย่างแทบจะไม่มี
ช่องว่างให้คนหน้าตาสวยจัดแต่เป็นผู้ชาย!อย่างเขาได้แทรกเข้าไปบ้างเลยอย่างปลดปลง
“เป็นผู้ชายแล้วไงอะ ก็จีบได้เหมือนกันน่ะแหละ ความรักมันไร้พรมแดนแล้วสมัยนี้” ก็แทบจะแนะนำกับเพื่อนรักด้วย
คำคมซ้ำๆแบบนี้ทุกคืนเช่นกัน แต่เจ้าคนสวยตรงหน้ามันก็ได้แต่ฟังแล้วก็ทอดถอนหายใจใส่แก้วเหล้าไปวันๆเพราะความ
ปอดแหก
“แกก็รู้อ่า..~ว่าฉันไม่กล้า สมมติถ้าฉันไปจีบเค้าแล้วเค้าไม่เล่นด้วย แล้วเค้าเกิดเกลียดขี้หน้าฉันขึ้นมา ฉันก็อดมานั่งเชยชม
หน้าหล่อๆใสๆของเขาน่ะสิ”
“อืม ก็เป็นซะอย่างนี้อะนะ งั้นก็เชิญแกนั่งเฝ้าเค้าอย่างนี้ต่อไปละกัน เฝ้าไปจนกว่าเค้าจะแต่งงานแล้วเอาเมียเอาลูกมาเป็นเด็กเสิร์ฟน่ะ”
แทงใจดำอย่างจัง ทงเฮทำค้อนน้อยๆใส่คนที่พูดตรงกรีดใจ ริมฝีปากบางกล่าวโอดครวญไปพลางจิบเครื่องดื่มสีสวยลง
คอเรียบเรื่อยพอให้ใจเย็นลง ......
มันก็จริงอย่างที่ฮยอกแจพูดทุกอย่างล่ะนะ ... ไม่ลองก็ไม่รู้ คนอย่างคิบอมดูแล้วก็เหมือนจะเฟรนลี่กับทุกคน อย่างมาก
ถ้าเขาไม่ชอบ เขาก็คงปฎิเสธอย่างสุภาพแหละน่า
ว่าแล้วกำลังใจเริ่มมา สติปัญญาเริ่มเกิดและดูเหมือนโชคก็จะเข้าข้างด้วย เมื่อระหว่างที่นั่งเล่นนั่งส่องอิริยาบถทุกฝีก้าว
ของคิบอมอยู่นั้น ดวงตารีเรียวก็เผอิญไปสบเข้ากับป้ายประกาศรับสมัครพนักงงานของร้านที่แปะไว้ตรงรั้วไม้สีขาว
รับสมัครพนักงาน 1 ตำแหน่ง ...
โอ้ แม่เจ้า วิธีนี้น่าจะเวิร์คสุด!! ไอเดียบรรเจิดเริ่มแทรกแซงขึ้นมาในหัวสมองที่มีรอยหยักเพียงน้อยนิด
“ฉันรู้แล้วแกว่าฉันจะทำยังไง!!”
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
และหลังจากคืนนั้น จากที่มาเหยียบร้านในฐานะลูกค้าประจำ ทงเฮก็ก้าวเข้ามาในฐานะลูกจ้างชั่วคราวของร้านเหล้าปั่น
“ดีจังเลยนะฮะ มีคนสวยอย่างพี่ทงเฮมาช่วยงานที่ร้าน แขกจะต้องเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวแน่ๆเลย”
รยออุคเด็กในร้านของคิบอมที่คุ้นหน้าคุ้นตากับทงเฮดีอยู่แล้วเพราะเห็นหน้าส่งยิ้มทักทายปราศรัยไมตรีกันอยู่เกือบทุกวัน
กล่าวรับขวัญพนักงานใหม่อย่างดีใจ พร้อมกับส่งอุปกรณ์ทำมาหากินอย่างเช่นกระดาษและปากกาจดรับออเดอร์ให้ร่างบาง
ที่ยืนก้มหน้าก้มตาลอบเป่าปากพรืดๆเพราะขวยเขินสายตาเจ้าของร้านสุดหล่อที่พยักหน้ารับเป็นเชิงเห็นด้วยได้รับไว้
“ว่าแต่...แปลกจังนะ ทำไมทงเฮถึงอยากมาทำงานที่ร้านผมล่ะ?” โดนคำถามนี้ไปคนถูกถามก็เกิดลิ้นแข็งขึ้นมาเสียดื้อๆ
“เอ่อ..” ทำตัวแทบจะไม่ถูก ยิ่งคิบอมชะโงกหน้าเข้ามาถามใกล้ๆเพราะเห็นว่าทงเฮอ้ำอึ้งไปก็ทำเอาคนที่แอบหลงรัก
เจ้าของร้านคนนี้มาแสนนานลมจะจับ ปกติได้พูดคุยกันก็แค่เฉพาะตอนสั่งเครื่องดื่มและตอนเช็คบิลบางครั้งบางคราว
ส่วนเรื่องเข้าใกล้กันก็มีสเปซระหว่างลูกค้ากับเจ้าของร้านเสียเยอะ และการที่ได้คืบหน้าพูดคุยใกล้ชิดกันภายในครึ่ง
ชั่วโมงอย่างนี้มันก็ยังไม่ทันได้เตรียมใจน่ะสิ!
“เอ่อ..”
“ผมรู้แล้ว...!”
เจ้าของใบหน้าสวยจัดเงยหน้าขึ้นมองทันที คิบอมแกล้งจ้องตาทงเฮแบบไม่กระพริบ ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้จนลมหายใจ
อุ่นร้อนตามการหายใจสม่ำเสมอของร่างสูงทำให้เส้นผมสีอ่อนที่เคลียอยู่ข้างแก้มเนียนของทงเฮปลิวไหวเบาๆ
“คือ....~ฉัน...”
“ทงเฮคิดจะมากินเหล้าปั่นร้านผมฟรีๆล่ะสิ! ผมรู้น๊า มานั่งดื่มกับเพื่อนทุกวันเปลืองใช่มั้ยล่ะ?”
เฮ้ออ..~ นอกกรอบไปเยอะเชียวคุณคิบอมจอมบื้อ ทงเฮเบะปากน้อยๆและทำค้อนด้วยสายตาอย่างที่ชอบทำจนติดเป็นนิสัย
“ผมล้อเล่นน่ะครับ ยังไงก็ฝากด้วยนะ อาจจะเหนื่อยหน่อยแต่ถ้าไม่ไหวยังไงก็บอกผมได้นะ ที่นี่พวกเราอยู่กัน
แบบเพื่อน แบบครอบครัว ทำสนุกๆน่ะครับไม่ได้คิดจริงจังเอากำไรอะไร”
แม้ว่าจะยืนฟังนิ่งๆพยักหน้าหงึกหงักรับบ้าง แต่ภายในใจแล้วมันลิงโลดสุดเหวี่ยง และนับจากวันนั้นทงเฮก็ได้เรียนรู้งาน
จากคิบอมบ้าง รยออุคและคนอื่นๆบ้างจนเป็นงานมากขึ้น จริงๆแค่รับออเดอร์ แค่เสิร์ฟ ล้างแก้วล้างจานล้างเหยือกมันก็
ไม่ได้ยากเย็นอะไร เพียงแต่มันจะดูสาหัสสากันขึ้นมาทันตาก็ตอนที่คิบอมมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆนี่แหละ
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
“ทงเฮครับให้ผมช่วยล้างมั้ย?”
“ม่ะ ไม่ต้องหรอก คิบอมไปดูหน้าร้านเหอะ...เอ้ย!”
เพล้ง!!~
“ทงเฮเดี๋ยวผมไปเสิร์ฟให้”
“ไม่ต้องๆเดี๋ยวฉันทำเอง”
“มันหนักนะ เอามาให้ผมเถอะ”
“ไม่เป็นไรจริงๆ~ คิบอม...เหวออ..อ!”
เพล้ง!!~
“ทงเฮ โต๊ะนี้เดี๋ยวผมรับออเดอร์เอง”
“คิบอมอา~เอาสมุดมาเถอะ เดี๋ยวฉันจดเองได้”
“ทงเฮเข้าไปหลังร้านเถอะโต๊ะนั้นไม่น่าไว้ใจออก”
“ก็แค่ลูกค้า ฉันรับเอง”
“ทงเฮ!”
“คิบอม...ฉันเอง...อ๊ะ...เหย..ย...!”
โครม คราม ปึง ปัง เพล้ง !!!
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
(((( ไงแก ได้ข่าวว่าทำแก้ว ชาม ไห แตกไปหลายร้อยใบในหนึ่งสัปดาห์ )))
“น้อยๆหน่อยเหอะแก แค่สี่ซ๊าห้าสิบใบเอง เว่อร์ไปได้”
(((( กล้าพูดนะ! เออฉันกำลังจะออกจากบ้านแล้ว คืนนี้เอาเลิฟเบอรี่จัดให้ด้วย กินฟรีเหมือนเดิมนะ 555 ))))
“ตลอดแหละแก เออๆแล้วเจอกัน ลูกค้ามาแล้วไปก่อนนะ”
กดวางสายเสร็จสรรพ คนตัวเล็กก็รีบแจ้นออกไปยังโต๊ะด้านหน้าสุดเพื่อรับออเดอร์ก่อนจะเดินกลับเข้ามาหลังเคาร์เตอร์ไม้อีกครั้ง
“รยออุคโต๊ะ 9 กีวี่เชอเบท กับมิกซ์เบอรี่นะ” มือเล็กๆเขียนออเดอร์ซ้ำให้ตัวใหญ่ขึ้นก่อนจะเสียบลงบนที่ปักแหลมๆ
ร่างบางยืนพิงเคาร์เตอร์ร้านรอรยออุคไปพลางกับใจลอยเหม่อไปถึงใครบางคนที่ยังมาไม่ถึงร้านเสียที
“พี่ทงเฮกีวี่หมดฮะ พี่ทงเฮช่วยไปหยิบที่หลังร้านให้ผมหน่อยได้มั้ยฮะ?” คนที่สาระวนเทส่วนผสมหลากชนิดลงไปใน
เครื่องปั่นสะกิดแขนทงเฮเบาๆพร้อมกับกล่าวขอให้ช่วยอย่างสุภาพ
“อืมได้ๆ” คนมีน้ำใจเร่งฝีเท้าไปยังด้านหลังของร้านที่เป็นครัวทันทีที่ถูกขอ นัยต์ตาเรียวสวยกวาดมองตามตู้กระจกที่ยึด
กับผนังด้านบนไว้ก่อนจะเขย่งสุดขาและเอื้อมสุดลำแขนเพื่อหยิบขวดแก้วใสที่บรรจุน้ำสีเขียวสวย
“อ่า...ไว้ซะลึกเชียว...อ๊ะ!” ร่างบางสะดุ้งน้อยๆเมื่อมือปริศนาโอบเข้าที่เอวบางของตนเอาไว้หลวมๆ และด้วยความที่เวลา
ยืดตัวนั้นมันทำให้ชายเสื้อยืดสีอ่อนที่ทงเฮสวมอยู่มันเลิกขึ้นน้อยๆเผยให้เห็นหน้าท้องแบนราบที่ปกคลุมด้วยผิวขาวเนียน
ซึ่งบัดนี้มือของคิบอมแตะสัมผัสอยู่ตรงบริเวณนั้น ความอุ่นร้อนจากฝ่ามือหยาบค่อยๆถ่ายทอดลงไปบนผิวนุ่มมือทำเอา
คนถูกแตะต้องรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งกายและใบหน้า
“ถ้าหยิบไม่ถึง ก็ใช้เก้าอี้ หรือบอกผมสิ ถ้าขวดแก้วหนักๆมันหล่นมาใส่จะว่ายังไง” เสียงทุ้มกระซิบตักเตือนอยู่ข้างใบหู
ลมหายใจร้อนๆของคิบอมมันทำให้ทงเฮแทบจะยืนไม่อยู่ มือเล็กที่จับขวดแก้วไว้ได้แล้วพยายามยึดมันไว้มั่นอย่างไม่
อยากซุ่มซ่ามทำให้ขวดน้ำหนักไม่เบาที่ว่าหล่นใส่จนหัวร้างข้างแตกเสียก่อน ก็คิบอมน่ะสิ ทำทีเหมือนจะมาช่วยหยิบ
แต่ทำไมสิ่งที่อยู่ในมือใหญ่อีกข้างถึงเป็นข้อมือของทงเฮแทนล่ะ ...
“อืม วันหลังจะระวัง” เสียงหวานอ้อมแอ้มในลำคอ เมื่อได้ขวดน้ำกีวีมาอยู่ในมือแล้ว คนตัวเล็กก็หมุนตัวออกจากวงแขน
ก่อนจะเดินลิ่วๆกลับไปยังหน้าร้านทันที
“....เฮ้อ...นายทำอะไรของนายเนี่ยคิบอม” ชายหนุ่มเอนหลังพิงกับเคาร์เตอร์ครัวก่อนจะยกฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้นมามองดูแบบยิ้มๆ
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
“...โอยย..ย ฉันจะตายแล้วรู้มั้ยแก!!” ทงเฮอาศัยช่วงเวลาว่างงานรีบวิ่งออกมาหาฮยอกแจที่โต๊ะตัวเดิมที่เขาชอบนั่งกัน
เป็นประจำด้วยใบหน้าตื่นๆ
“ทำไมแก เค้าใช้งานแกเยี่ยงทาสหรอ!?”
“เปล่า! เค้าก็แค่......ทำให้ฉันคลั่งรักเค้าเพิ่มขึ้นทุกวันตะหากเล่า!!” ฮยอกแจฟังแล้วก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมายกใหญ่
“ไหนๆ ค่อยๆเล่าซิ”
และหลังจากนั้นเรื่องลับในหลังร้านก็ถูกสครีมออกมาเป็นฉากๆให้เพื่อนรักได้กรีดร้องตามไปด้วย
“ไม่เบาเลยนะแก ฉันว่ามีใจชัวร์!”
“หืม สมพรปากเหอะ! ฉันไปก่อนนะ ลูกค้ามาแล้ว!”
พอพูดจบ คนตัวเล็กก็วิ่งรุกรี้รุกรนกลับไปทำหน้าที่ตามเดิม ร่างบางเดินตรงไปยังหน้าร้านเพื่อต้อนรับลูกค้าสองคนที่เพิ่ง
เดินเข้ามาใหม่
“เชิญนั่งโต๊ะนี้เลยฮะ” ริมฝีปากสีหวานฉีกยิ้มกว้างทักทายพลางผายมือไปยังโต๊ะสามใต้ต้นไม้ที่ยังว่างอยู่ หากแต่เมื่อ
กำลังจะก้าวขาเดินนำไป ก็ถูก 1 ใน 2 คนนั้นรั้งข้อมือไว้เสียก่อน และก็เป็นไปตามอัตโนมัติ มือเล็กๆสะบัดทิ้งและก้าวถอย
หลังเพื่อหนีการถูกรุกรานในทันที
“มือห๊อมมม หอม” ทงเฮมองหน้าคนที่ทำกิริยาต่ำทรามอย่างนึกรังเกียจ แต่เมื่อนึกถึงคำที่คิบอมเคยบอกว่า
ลูกค้าก็เป็นเหมือนพระเจ้า ฉะนั้นโดนแทะเล็มแค่นี้ก็คิดซะว่าให้ทานสุนัขข้างทางละกัน!
“รับอะไรดีครับ” รอยยิ้มพิมพ์ใจเมื่อครู่ที่ประดับอยู่บนใบหน้าสวยจางหายไปเร็วราวกับแปลงร่างเป็นคนละคน ร่างบางส่ง
เมนูให้กับลูกค้าอีกคนที่ไม่ใช่คนที่ฉวยโอกาสกับตนตอนแรกแทน แต่เพื่อนกันมันก็ไม่ต่างกันซักเท่าไหร่ ชายหนุ่มรูปร่าง
กำยำที่ออกอาการว่าเมามาแล้วกรึ่มๆรับเมนูไว้ ก่อนจะใช้มืออีกข้างยึดข้อมือทงเฮตามด้วยการฉุดแรงๆเป็นผลให้ลำตัว
บอบบางเซล้มลงไปนั่งอยู่บนตักไม่เป็นท่า
“นี่คุณ!!! ปล่อยนะ!!” ทงเฮดิ้นรนสุดแรงเกิด นอกจากจะหนีมือสกปรกที่พอแตะตัวทงเฮได้มันก็เลื่อนไล้ไปทั่วแล้วยังต้อง
เบี่ยงใบหน้าหลีกหนีคางสากๆที่หมายจะเข้ามาเคลียที่ข้างแก้มใสอีก และการกระทำย่ามใจพอสะท้อนเข้าสู่นัยต์ตาคมกริบแล้ว
ร่างสูงที่วุ่นอยู่กับการเตรียมเครื่องดื่มอยู่หลังเคาร์เตอร์บาร์ก็เร่งฝีเท้ามายังโต๊ะสามก่อนจะดึงตัวทงเฮออกห่างจากอ้อมกอดสวะทันที
“กรุณาออกไปจากร้านด้วยครับ”
“ .หึ..ไอ้หน้าหล่อ....”
“เชิญเถอะครับ อย่าให้ผมถึงกับต้องเรียกตำรวจเลย!!”
คิบอมโอบเอวบางของคนที่ถูกรังแกไว้ข้างลำตัวอย่างไม่ยอมปล่อยให้คาดมือและสายตา ก่อนจะสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
ให้คนทั้งสองออกไปจากร้านด้วยสีหน้าที่น่ากลัวและน่าเกรงขามอย่างที่ทงเฮหรือแม้แต่พนักงานในร้านหลายคนไม่เคยเห็นมาก่อน
“นี่มึงกล้าไล่พวกกูหรอ กูเป็นลูกค้ามึงนะ!!” กรอบร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นชี้หน้าพลางผลักอกคิบอมอย่างเตรียมพร้อมทุกเมื่อที่จะมีเรื่อง
“ผมไม่สนหรอกครับ ผมจะต้อนรับก็ต่อเมื่อลูกค้ามีมารยาทเท่านั้น” ร่างสูงกล่าวอย่างไม่มียี่หร่ะแม้จะเห็นว่าถ้ามีเรื่อง
ตัวเองจะต้องเป็นรองแน่นอนด้วยรูปร่างที่ต่างกันมากกว่า คิบอมหันไปพยักหน้ากับรยออุคเป็นเชิงสั่งให้พาคนที่กำลังเสีย
ขวัญหลบไปหลังร้านก่อน
“นี่มึงกล้าพูดอย่างนี้กับกูหรอ!?” ยังไม่ทันจะได้ประเคนหมัดใส่เจ้าของหน้าหล่อใสที่มองมาอย่างท้าทายดังที่ตั้งใจ ผู้คน
ที่นั่งสังเกตการณ์อยู่รอบร้านก็ลุกฮือขึ้นและพร้อมใจกันมายืนล้อมหลังคิบอมเป็นผลให้คนที่กร่างไม่รู้จักที่ใครเป็นที่ใคร
จำต้องสะบัดแขนที่ง้างหมัดไว้ทิ้งลงเสียดื้อๆ
“เออ!!แม่งหมาหมู่นี่หว่า! กูฝากไว้ก่อนเหอะมึง!” ไม่แน่จริงนี่หว่า! เสียงถากถางถูกแดกดันตามหลังสองคนที่เดินอาดๆ
ออกไปจากร้านโดยที่คิบอมไม่ต้องเมื่อยปากมาก และเมื่อคนทั้งสองหายลับไปจากสายตา สถานการณ์ของร้านก็เข้าสู่
ภาวะปกติ คิบอมกล่าวขอบคุณพร้อมกับก้มหัวให้ลูกค้าในร้าน ก่อนจะก้าวฉับๆกลับไปยังหลังร้านทันที
“อี๋..~ ตรงนี้แล้วก็ตรงนี้ด้วย พี่ขนลุกอ่า รยออุค!” มือเล็กแช่อยู่ในกะละมังที่มีน้ำปริ่มจนล้นในซิงค์ล้างจานพลางถูไถไป
มาเป็นหลายสิบรอบทั้งท้องแขน ข้อศอก แก้ม ซอกคอชนิดที่ว่าถ้าอาบน้ำตรงนี้ก็ได้คงทำไปแล้ว ถูแรงเสียจนรอยสี
แดงปรากฏเป็นแถบๆบนผิวสว่างขาว
“อ๊ะ! ดะ.. เดี๋ยวคิบอม คือ..จะทำอะไร!?”
“รยออุคฝากหน้าร้านด้วยนะ!!”
“เอ่อ..ฮะ..”
รยออุคขานรับแบบงงๆ เมื่อคิบอมเดินบึ้งเข้ามาแล้วก็ฉุดคนที่งงเป็นไก่ตาแตกไม่แพ้กันหายเข้าไปหลังร้าน
“ทีหลังระวังตัวหน่อย ถ้าเห็นท่าไม่ดีก็มาตามผม ไม่ใช่ทำเอง!” คิบอมตวาดใส่อย่างหัวเสียไปพลางกับลากทงเฮเข้าไป
ยังห้องพักของพนักงาน
“อืม ฉันจะพยายาม”
“ไม่ใช่พยายาม แต่ทงเฮต้องทำตามที่ผมบอก!!”
กำปั้นหนักทุบลงกับตู้ล็อกเกอร์ดังปังทำเอาทงเฮสะดุ้ง นัยต์ตาสีดำลึกลับเสมองคนที่ยืนนิ่งเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น
ดูหวาดกลัวอยู่ตรงหน้าประตูพลางผ่อนลมหายใจของตนให้ช้าลงเมื่อรู้สึกว่าตัวเองชักจะใจร้อนเกินควบคุม
“อืม ฉันจะทำตามที่คิบอมบอก” เจ้าของเรือนร่างบอบบางน่ากอดยังคงยืนนิ่ง หากแต่มือเล็กๆนั่นยังคงลูบมือและแขน
ตัวเองไปเรื่อยด้วยรู้สึกขยะแขยงเต็มทนที่ถูกใครไม่รู้มากอดรัดฟัดเหวี่ยงขนาดนั้น คิบอมที่รู้ดีว่าคนตรงหน้ากำลังคิดอะไร
อยู่ และรู้สึกอย่างไรเดินตรงเข้าไปฉวยข้อมือบางไว้ก่อนจะดึงคนที่เดินตามอย่างว่าง่ายเข้าไปในห้องน้ำและรุนหลังให้เข้า
ไปในตู้ชาวเว่อร์ตามด้วยการพาตัวเองเข้าไปยืนเบียดอยู่ในนั้นด้วย ร่างสูงจัดการเอื้อมมือไปเปิดน้ำฝักบัวพร้อมปรับ
อุณหภูมิให้อุ่นทำเอาทงเฮอุทานออกมาอย่างตกอกตกใจ
ซ่า .......
“ดะ..เดี๋ยว คิบอมจะทำอะไร?!” ชายหนุ่มดึงประตูกระจกของตู้ชาวเว่อร์ให้ปิดลงและยืนกอดอกพิงหลังอยู่ในตู้นั้น
“ผมไม่ชอบให้ใครแตะตัวทงเฮ” ประโยคนี้เรียกให้คนที่เปียกม่ะล่อกม่ะแลกช้อนสายตามองอย่างถามหาความหมาย
“คือ...ไม่ใช่! ผมรู้ว่าทงเฮไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องตัว อาบน้ำซะก็จะได้รู้สึกเหมือนกับได้ล้างสิ่งสกปรกออกไง”
“อื้ม”
ทงเฮลอบยิ้มแก้มแทบปริ ในขณะที่คิบอมที่ทำตัวไม่ถูกก็แกล้งเบือนหน้าหนีไปอีกทาง สายน้ำสะอาดยังคงไหลลงมา
เอื่อยๆหากแต่ทงเฮเลือกที่จะบิดหัวก๊อกเพิ่มระดับความแรงให้มากขึ้น ไหนๆเสื้อยืดตัวบางก็เปียกชุ่มโชกจนแนบเนื้อ
มองเห็นไปถึงไหนถึงไหนแล้ว ร่างบางจึงหันหลังให้อีกคนก่อนจะถอดเสื้อออกแล้วโยนไว้กับพื้น
แผ่นหลังขาวเนียนเท่านั้นที่สะท้อนสู่นัยต์ตาสีดำขลับในเวลานี้ คิบอมกอดอกยืนทอดสายตามองคนที่เปลือยท่อนบนยืน
ลูบไล้ผิวกายของตัวเองอยู่เบื้องใต้สายน้ำอุ่นที่โปรยปรายลงมาไม่หยุดอย่างคาดเดาอารมณ์ขณะนี้ไม่ได้
“ไม่ชอบเลย ตอนโดนกอด อกคนนั้นมันโดนหลังด้วย” ก็ว่านั่งดื่มเหล้าปั่นกับฮยอกแจมาไม่ถึงแก้วนะ แต่ไม่รู้ทำไม
ถึงใจกล้าหน้าด้านได้ทั้งที่ยังไม่เมา ทงเฮหันมาชายตามองคิบอมที่ยืนลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคอเป็นเชิงยั่วเหมือนกับวาจา
และก็ไม่รู้อะไรมันดลบันดาลใจเหมือนกัน ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบขวดสบู่เหลวจากมือทงเฮมาบีบใส่ฝ่ามือก่อนจะ
ก้าวเข้าไปประชิดจนเนื้อตัวเปียกปอนไปตามกันและตามด้วยการบรรจงไล้ฝ่ามือไปตามแผ่นหลังบอบบางอย่างเบามือ
“อื้ม...” ฝ่ามือหยาบเลื่อนจากกลางหลังต่ำลงมายังบั้นเอว ไอน้ำคุกรุ่นจับขึ้นเป็นฝ้าเต็มตู้ชาวเวอร์กระจกใสช่วยบดบัง
สายตาจากด้านนอกที่คิบอมลืมที่จะปิดประตูห้องน้ำไว้ ช่างเป็นใจให้คนทั้งสองทำอะไรๆได้มากขึ้น คิบอมไต่ดะไปตาม
ผิวเนื้อไขลื่นมือ เลื่อนไปยังพื้นที่ด้านหน้าบริเวณหน้าท้องแบนราบวกขึ้นไปลูบไล้บนแผ่นอกบางตรึงเรียบก่อนจะรั้ง
ร่างบอบบางมาชิดแทบอก คางสากที่แพลมไรหนวดเขียวครึ้มนิดๆวางลงที่ไหล่ลาด โอบกอดร่างบางไว้ในขณะที่ใช้มือ
อีกข้างยันกับผนังกระเบื้องตรงหน้าไว้
“คิบอม..ทำอะไรอยู่รู้ตัวรึเปล่า?” ถามให้แน่ใจด้วยไม่อยากจะเป็นฝ่ายที่เสียใจเองในภายหลัง คนถูกถามไม่ตอบอะไร
นอกจากกดจมูกโด่งลงที่ผิวแก้มใสแทนคำตอบว่าเขารู้ตัวตลอดเวลา และในบรรยากาศเป็นใจเฉกเช่นตอนนี้บวกกับ
อารมณ์อ่อนไหวเพราะรักเขาอยู่แล้วเต็มหัวใจจึงทำให้ทงเฮยอมพลีกายให้ได้ง่ายนักแม้จะยังไม่ได้ยินคำว่าชอบหรือรัก
ผ่านหูเลยซักคำ คิบอมเอียงหน้าเข้าหาในขณะที่ทงเฮเองก็เต็มใจจะปรับองศาเพื่อรับจูบอ่อนหวานจากคนที่โอบกอดตน
จากด้านหลังให้ถนัดถนี่เช่นกัน เรียวลิ้นหยอกล้อแลกเปลี่ยนความสุขสมไปพลางกับเรือนร่างสวยงามถูกสัมผัสเล้าโลม
กว่าจะรู้ตัวกางเกงยีนส์ที่คิดว่าถอดยากนักหนายิ่งเวลาเปียกน้ำของทงเฮถูกถอดลงไปกอมแทบเท้าโดยฝ่ายคิบอมเองก็
จัดการร่นปราการเบื้องล่างของตนค้างไว้อย่างหมิ่นเหม่
“อ๊า..อ๊ะ” มือบอบบางสองข้างเท้ากับผนังกระเบื้องไว้เพื่อยึดไม่ให้ตัวเองทรุดลงไปด้วยความที่ตอนนี้ขาแข้งมันอ่อนแรง
ปวกเปียกไปหมด ฝ่ามือที่เปียกลื่นไล้เลื่อนจับต้องทุกส่วนสัดในร่มผ้าจากสะโพกกลมกลึงที่แอ่นท้าสายตาน้อยๆ ไล่ไป
ยังต้นขาอ่อนด้านหน้าชิดเข้าไปยังโคนขาด้านในก่อนจะกรอบกุมส่วนอ่อนไหวไว้และเพียงเค้นคลึงขยับเข้าออกเพียงเบา
มือก็เรียกเสียงหวานๆให้ครางอึมครึมอยู่ในลำคอคละเคล้าไปกับเสียงของหยดน้ำที่ร่วงกระทบพื้นและเสียงของริมฝีปาก
ของทั้งคู่ที่ดูดดึงกันไม่มีห่าง
“อ๊ะ..อื้ม” ทงเฮกัดปากล่างไว้แน่น เมื่อคิบอมสอดนิ้วผ่านเข้ามาในช่องทางคับแคบด้านหลังที่ไม่มีใครเคยได้สัมผัส
นิ้วยาวควานทั่วเพื่อหาจุดเสียวกระสันที่ทำให้คนในอ้อมกอดครางออกมาเสียงหวานอย่างรู้สึกดี และเมื่อช่องทางรักขยาย
จนพร้อมแล้วคิบอมจึงตรึงสะโพกอวบไว้ซึ่งทงเฮก็รู้หน้าที่ดี ขาเรียวขาวแยกกว้างขึ้นในขณะที่สะโพกมนก็เผลอไผลโก่ง
รับอย่างเต็มใจ
“อื้ม..ทงเฮ~” ชายหนุ่มขบกามแน่นเพราะความเสียวซ่านและสุขสมที่ได้รับ ร่างสูงดันตัวผ่านช่องทางที่ตอดรัดแน่น
ด้านหลังช้าๆ เข้ามาจนลึกสุด แผ่นอกแกร่งที่มีกล้ามนิดๆแนบสนิทลงมากับแผ่นหลังบอบบาง ริมฝีปากร้อนผ่าวแนบจูบ
แก้มแดงระเรื่อ ซอกคอขาวผ่อง เนินไหล่นวลเนียนพร้อมทำร่องรอยความเป็นเจ้าของไว้ประปราย ร่างสูงยังนิ่งค้างเอาไว้
เช่นนั้นให้คนตัวเล็กได้คุ้นเคยก่อนจะเริ่มขยับกายเข้าออกช้าๆและเพิ่มระดับตามความร้อนตามองศาในร่างกายที่มันพุ่ง
พล่านเป็นผลให้เจ้าของเรือนร่างที่ยั่วยวนที่สุดในครานี้ครางร่ำไม่เป็นภาษา ยามนี้ก็ได้ยินแค่เพียงเสียงของราคะตัณหาที่
แทรกสะท้อนอยู่กับเสียงสายน้ำไหลในกรอบตู้ชาวเวอร์คับแคบเท่านั้น
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
“แก เมื่อหัวค่ำ!! พอฉันคล้อยหลังแยกกับแกไปเข้าห้องน้ำ..แป๊บเดียว...เห็นเขาลือกันให้แซดว่าแกถูกลวมลาม!”
“อืมไว้เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันจะเล่าให้ฟังนะ ฉันง่วงนอนไม่ไหวแล้วแก”
โกหกเพื่อนไปก็เท่านั้น ก็พอกิจกรรมรักจบสิ้นกันไป คิบอมก็พาทงเฮขึ้นมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ายังห้องนอนของเขา
ที่อยู่ชั้นสอง ร่างบางที่เพิ่งจัดการกับตัวเองเสร็จหมาดๆโดยเอาชุดนอนของคิบอมมาใส่นอนกลิ้งเล่นอยู่บนเตียง
ใบหน้าเรียวสวยกดลงไปกับหมอนนุ่ม อยากจะกรีดร้องออกมาดังๆทุกครั้งที่นึกถึงสิ่งที่ตนกับคิบอมเพิ่งทำร่วมกันไป
มือถือ...
ทงเฮหันไปมองมือถือที่คิบอมให้ยืมโทรไปหาฮยอกแจก็เกิดนึกสนุกอยากจะแอบดูเข้า นิ้วเรียวเร่งกดเลื่อนเข้าไปยังเมนู
อันดับหนึ่งที่อยากจะรู้
.....แกลลอรี่
“คิกๆ ชอบถ่ายรูปกับเค้าเหมือนกันหรอเนี่ย!”
ทงเฮยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปพลางดูรูปถ่ายของคิบอมหลายมุมในหน้าจอมือถือ และเมื่อเลื่อนไปเรื่อยๆรอยยิ้มเพราะสุขใจอยู่
เมื่อครู่ก็พลันเปลี่ยนไป เมื่อภาพของใครอีกคนที่อยู่ข้างคิบอมกับกระทำที่มันห่างไกลจากคำว่าแค่เพื่อนกันปรากฏแก่
สายตา ก็ทำเอาหัวใจดวงเล็กหล่นวูบ
“ทำอะไรอยู่ครับ?”
เสียงเปิดประตูและเสียงทักทายมาพร้อมกับใบหน้าหล่อใส ทงเฮรีบกดออกจากเมนูรวดเดียวมาอยู่ที่หน้าจอมาตรฐานก่อนจะวางมันลงบนเตียง
“เปล่านี่ ก็แค่นอนเล่น” ทงเฮฉุดตัวเองลุกขึ้นนั่ง และเหมือนอะไรจะประเดประดังเข้ามาพร้อมกันเมื่อดวงตาคู่สวยไปสบเข้า
กับกรอบรูปสีหวานที่ล้อมรูปถ่ายของคิบอมกับผู้หญิงคนที่เพิ่งเห็นในมือถือที่วางไว้บนชั้นวางโทรทัศน์ และคิบอมคงไม่ทัน
สังเกตว่าทงเฮมีสีหน้าเปลี่ยนไปแค่ไหนหลังจากมองไปยังบริเวณนั้น ชายหนุ่มจึงทำเดินเนียนๆไปหยุดบังกรอบรูปนั้นไว้ก่อนจะคว่ำมันลง
“เอ่อ ฉันกลับบ้านดีกว่านะ” การกระทำของคิบอมนั้นยิ่งทำให้ทงเฮแน่ใจว่าเขาคงพลาดอะไรไปแล้วจริงๆ ร่างบางลุก
ออกจากที่นอนเร็วๆแม้จะรู้สึกไม่ค่อยดีเพราะยังเจ็บแปลบบริเวณสะโพกอยู่ แต่ก็ยังพยายามแข็งใจก้าวเดินผ่านตัวอีกคนที่
ยังไม่เข้าใจอะไรมากนักเพื่อหมายจะกลับบ้านดังคำที่บอก
“ทงเฮ มันดึกมากแล้วนะ ค้างที่นี่เถอะ” คิบอมรีบเข้าไปกอดคนตัวบางไว้ก่อนจะพาลงไปนอนราบบนเตียงกว้างและขึ้น
ทาบทับ
“ปล่อยเถอะ! ฉันอยากกลับ เดี๋ยวฉันกลับแท็กซี่เองก็ได้” ร่างบางเบือนหน้าหนีไปอีกทาง มือบางยันกับแผ่นอกอีกคน
เป็นการปรามเมื่อชายหนุ่มหมายจะก้มลงมาเอาเปรียบ
“อืม ถ้าทงเฮอยากกลับจริงๆเดี๋ยวผมไปส่ง”
ระหว่างที่ขับรถไปก็มีแต่เพียงความเงียบงันเท่านั้นที่คิบอมได้รับจากคนที่นั่งข้างๆ อยากจะเอ่ยปากถามซ้ำอีกซักรอบให้หายข้องใจ
ว่าจู่ๆเป็นอะไร? แต่ก็กลัวว่าคำตอบที่ได้รับจะเย็นชาเหมือนเคยๆ .... ‘เปล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไร’
“ขอบคุณ ขับรถกลับดีๆนะ”
ทงเฮหันไปบอกอีกคนก่อนจะเปิดประตูรถและก้าวลงไปเร็วๆอย่างที่คิบอมแทบจะไม่ทันได้ตั้งตัว นัยต์ตาสีรัตติกาลมอง
เรือนร่างบอบบางที่เขาได้กอดได้สัมผัสเมื่อครู่หายลับเข้าไปในตัวบ้านแล้วก็ขมวดคิ้วมุ่น ไม่รู้ว่าทงเฮมีอะไรในใจ และเมื่อ
นึกขึ้นมาได้ถึงโทรศัพท์ของตนที่ให้ทงเฮยืมไปใช้ก่อนหน้านี้ ร่างสูงก็อยากจะตบกบาลตัวเองให้เลือดมันคลั่งในสมองกลวงๆนัก
“....เห็นจนได้”
นิ้วยาวกดเลื่อนดูรูปในมือถือแล้วก็ถอนหายใจยาวเหยียด ชายหนุ่มลดกระจกรถลงพลางจ้องมองไฟสีส้มที่สว่างมาจาก
ห้องๆหนึ่งที่อยู่ชั้นบนที่คาดว่าจะเป็นห้องของทงเฮ มองดูอยู่ซักพักจนไฟนั้นดับลงและจึงเลือกที่จะขับรถกลับร้าน
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
“นี่แกกับเค้า!!!”
“อืม” ก่อนที่ฮยอกแจจะได้อ้าปากตำหนิเพื่อนคนสวยอย่างที่ตั้งใจ ทงเฮก็โถมเข้าใส่ก่อนจะสวมกอดตัวเขาไว้แน่น
“เฮ้ย เป็นอะไรแก!”
“ฮึ่ก..เค้ามีแฟนแล้วอะแก...เค้ามีแฟนแล้ว แล้วเค้ามาอย่างนี้กับฉันทำไม!” คนตัวเล็กร้องไห้สะอึกสะอื้นใหญ่จนฮยอกแจ
ที่ยังจับความไม่ได้ปลอบใจแทบไม่ถูก
“ฮึก..แล้วฉันจะทำยังไงดี..ฉันไม่อยากไปที่นั่นแล้ว..ไม่อยากเห็นหน้าเค้าแล้วอะแก ฉันอุตส่าห์รักเค้า แล้วเค้ากล้าดียังไงมาหลอกฉันอะแก”
จากที่ได้ฟังทงเฮเล่า ฮยอกแจก็ยังไม่อยากให้เพื่อนรักปักใจเชื่อในสิ่งที่เห็นเพียงอย่างเดียว เพื่อนคนสนิทแนะนำว่าวันนี้
ให้ไปคุยกับคิบอมให้รู้เรื่องดีกว่าว่าจะเอายังไง และทงเฮที่ตัดสินใจทำตามก็ไปที่ร้านเหล้าปั่นในเวลาเข้างานทั้งๆที่ยัง
หน้าตาบวมฉึ่งจนแทบจะจำสภาพเดิมไม่ได้ ไปถึงก็ไม่ทักทายใครนอกจากก้าวขาฉับๆหายเข้าไปยังหลังร้านและก็เอาแต่
ง่วนกับการล้างแก้วล้างจานเพียงอย่างเดียว เงียบจัดขนาดรยออุคที่ว่าสนิทสุดและคุยได้ทุกเรื่องยังไม่กล้าเข้าใกล้
“พี่ทงเฮ เอ่อ...นี่มันหน้าที่ผม พี่ทงเฮไปอยู่นอกร้านเหอะครับ” แทมินพนักงานของร้านอีกคนบอกแกมขอร้องด้วยไม่
อยากให้คนที่เจ้านายหวงนักหวงหนามาเหนื่อยเปล่าๆแบบนี้
“ทงเฮ ผมขอคุยด้วยได้มั้ย!?” คิบอมที่ตามแทมินเข้ามาทีหลังส่งซิกบอกให้เด็กหนุ่มออกไปก่อนจะตรงเข้าไปสวมกอด
เอวบางๆเอาไว้แน่นอย่างอ้อนๆ
“ปล่อย” ทงเฮสั่งเสียงห้วน หยุดภาระหน้าที่ของตนไว้และพยายามจะปลดมือกาวออก
“ทงเฮคือผมอยากอธิบาย...”
และคำพูดที่กำลังจะบอกก็ถูกเก็บกลืนลงไปเมื่อรยออุคที่ทะเล่อทะล่าเข้ามาผิดที่ผิดเวลาเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
“พี่คิบอมฮะ! พี่ทิฟฟานี่มา!!”
“พูดจริง!!?”
“ทงเฮเดี๋ยวผมมานะครับ”
ใบหน้าหล่อจัดฉายแววว่าดีใจมาก มือหนาที่รวบรั้งเอวบางไว้ปล่อยอย่างง่ายดาย ชายหนุ่มรีบวิ่งออกไปโดยลืมใครอีกคน
ที่แทบจะทรุดลงตรงนั้น ทั้งๆที่หัวใจมันคงเจ็บถ้าจะออกไปมองให้เห็นให้รับรู้แก่ใจและสายตา แต่ก็ยังเลือกที่จะทำ
ทงเฮถือถาดแก้วเหล้าที่เป็นพล็อพตัวช่วยหมายจะไปวางยังตระกร้าใส่แก้วหน้าร้านเพื่อที่จะออกไปดูลาดราวด้านนอก
ได้แนบเนียนและสิ่งที่ประจักแก่สายตามันก็ทำให้หัวใจดวงเล็กแหลกเหลวไม่ต่างจากตอนที่เห็นภาพในกรอบรูปและมือถือ
ภาพที่คิบอมกำลังยืนกอดอยู่กับผู้หญิงคนในรูปมันกำลังค่อยๆแทรกซึมเข้ามาในหัว กัดกินเข้าไปยังหัวใจที่เต้นอย่าง
เหนื่อยล้าเพื่อย้ำเตือนว่าสิ่งที่คิดไว้มันถูกต้องทุกอย่าง
......ก็แค่เพื่อนฆ่าเวลาสินะ
เพล้ง!!
“ทงเฮ!”
แก้วทั้งหมดแตกกระจายเมื่อมือบางที่หมดเรี่ยวแรงปล่อยมันลงกับพื้นดื้อๆ คิบอมหันไปบอกกับให้ทิฟฟานี่ให้ออกไปรอด้านนอก
ก่อนจะตรงเข้ามาหาคนที่นั่งเก็บเศษแก้วอยู่กับพื้น
“ทำอะไรของคณน่ะทงเฮ!!” ที่ตวาดก็เพราะเป็นห่วงแต่อีกคนกลับมองไปในแง่ลบเสียได้ คนที่ก้มหน้าก้มตาเก็บเศษแก้ว
จัดการรูดมือทีเดียวหวังจะรวบเศษแก้วทั้งหมดบนพื้นอย่างจงใจจะประชดประชันคนตรงหน้าเป็นผลให้คมแก้วบาดเข้าที่
ฝ่ามือขาวนับสิบแผล เลือดสีสดไหลทะลักออกมาจากรอยบาดทำเอาคิบอมช็อคจนแทบลืมวิธีหายใจ
“ทงเฮ!” ชายหนุ่มดึงมือของอีกคนที่ยังไม่ลดละจะทำร้ายตัวเองออกแต่ทงเฮก็รั้นที่จะชักมือกลับ นัยต์ตาสีชาหม่นที่มีน้ำ
ใสคลออยู่เต็มจ้องมองอีกคนด้วยแววตาที่เจ็บปวด
“จำได้มั้ยที่คิบอมเคยถามฉันว่าทำไมฉันถึงอยากมาทำงานที่ร้านนี้กับคิบอม”
“ .”
“ก็เพราะฉันรักคิบอมไง รักถึงยอมทำทุกอย่าง....แต่ถ้าฉันรู้ซักนิดนะ...รู้ซักนิดว่าคิบอมมีใครในใจอยู่แล้ว....”
พูดถึงตรงนี้ หยดน้ำตาใสก็กลิ้งลงมาตามแก้มเนียน ทงเฮหยุดคำพูดที่จะยิ่งทำให้ตัวเองดูด้อยค่าลงไปมากกว่าที่เป็นอยู่
ไว้เพียงเท่านั้น ก่อนจากลุกหนีออกไปโดยทิ้งคิบอมที่ยังคงช็อคไม่หายกับคำสารภาพที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนไว้เบื้องหลัง
“โธ่เว้ย! มันอะไรกันวะเนี่ย”
“ทงเฮเดี๋ยวก่อน!!” ร่างสูงรีบวิ่งตามออกไปหมายจะรั้งทงเฮไว้หากแต่ฮยอกแจที่รอเพื่อนรักอยู่แล้วนั้นได้พาทงเฮกลับไป
เสียก่อน ชายหนุ่มก็ได้แต่ยืนมองท้ายรถสีดำค่อยๆเคลื่อนตัวห่างไปทุกทีๆอย่างเจ็บใจตัวเอง
“ทงเฮ.....คุณไม่ฟังผมเลย....”
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
“ฮึ่ก...แก...ฉันเคยคิดนะว่า..มันก็ดีแค่ไหนแล้วที่เค้ากอดฉัน....แต่แค่คิดว่าเค้าเห็นฉันเป็นของแก้ขัด...ฉันก็ทำใจไม่ได้”
ตั้งแต่ฮยอกแจพาทงเฮกลับมาค้างคืนที่หอพัก ทำแผลที่มือให้เสร็พสรรพ คนขี้แยก็ขดตัวซุกอยู่ในผ้านวมผืนอุ่นเอาแต่
ร้องไห้ร้องห่มไม่หยุดมาเกือบจะสองชั่วโมงได้
“ใจเย็นนะแก...เอาน่า..ผู้ชายมันเฮงซวยนักก็ปล่อยมันไป แกยังมีฉัน มีพ่อแม่ มีเพื่อนๆอยู่นะเว้ย”
มืออุ่นลูบตัวเพื่อนรักผ่านผ้าห่มเบาๆ ต้องพูดปลอบใจกันอยู่นานกว่าคนที่กำลังเฮิร์ทสุดขีดจะเคลิ้มหลับไปเพราะร้องไห้จนเหนื่อยอ่อน
♥:: ________________~* เหล้าปั่น *~_________________::♥
“ตัวรุมๆแฮะ” เช้าวันรุ่งขึ้น กว่าฮยอกแจจะไปเรียนได้ก็เล่นเอาสายไปมากโข นั่นก็เพราะต้องคอยดูแลป้อนข้าว ป้อนยา
เพื่อนรักที่ไข้ขึ้นเพราะเครียดทั้งเรื่องรักและเพราะพิษบาดแผลที่มือจนเนื้อตัวงี้ร้อนเป็นไฟ
“นอนพักผ่อนเยอะๆนะแก เดี๋ยวบ่าย ๆฉันเข้ามา”
“อื้ม ขอบใจ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ” พอเพื่อนรักคล้อยหลังออกจากห้อง เปลือกตาที่หนักอึ้งเหมือนหัวใจก็ค่อยๆปรือลง
ทำท่าจะปิด เหนื่อยเกินกว่าจะคิดจะร้องไห้อีกต่อไปแล้ว และในขณะที่ร่างบางกำลังเคลิ้มๆ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
“อื้ม...ม....ลืมกุญแจห้องอีกล่ะสิ....” ปวดหัวจนแทบไม่อยากจะขยับลุกไปไหนแต่ก็เพราะความจำใจ ทงเฮตลบผ้าห่ม
ออกช้าๆ เท้าเล็กหย่อนลงเหยียบพื้นก่อนจะเดินต้วมเตี้ยมช้าเสียยิ่งกว่าเต่าคลานไปเปิดประตู
“ไง..แก...ลืมกุญ...จ...แจ” ดวงตาคู่เล็กที่เปิดครึ่งๆเมื่อครู่เบิกกว้างทันทีเมื่อพบว่าคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าไม่ใช่ฮยอกแจดังที่คาดไว
“เดี๋ยวสิทงเฮ!!” คิบอมรีบดันไว้เมื่ออีกคนเอะอะๆก็เอาแต่จะปิดประตูกระแทกใส่หน้าเขาลูกเดียว
“ฉันไม่อยากเห็นหน้าคิบอมแล้ว กลับไปเถอะ!”
“แต่ผมมีเรื่องจะคุยกับทงเฮ” และในที่สุดเรี่ยวแรงน้อยนิดก็ไม่สามารถต้านทานพลังมหาศาลของร่างสูงได้ คิบอมดัน
ประตูสู้แรงคนตัวเล็กให้อ้าพอประมาณก่อนจะแทรกตัวผ่านเข้ามาและปิดประตูลงพร้อมกดล็อค
“ออกไปนะ!” มือเล็กพยายามสะบัดปัดป้องสุดฤทธิ์ด้วยไม่อยากให้อีกคนเข้าถึงตัวกลัวว่าจะใจอ่อนให้กับเจ้าของใบหน้า
หล่อใสที่เขาหลงนักหลงหนา แต่ด้วยร่างกายที่ไม่ค่อยจะเป็นปกติอยู่แล้วไม่ว่าอย่างไรก็ทำให้คิบอมสามารถเข้าถึง
ตัวบางๆของคนดื้อรั้นได้ง่ายดาย ชายหนุ่มเข้าไปประคองคนตัวรุมร้อนที่ทำท่าจะเซล้มลงไปให้ไปนั่งบนเตียงกว้างก่อนจะ
คุกเข่าลงกับพื้นต่อหน้า
“คิบอม...” ทงเฮครางเสียงอ่อนและเบือนหน้าหนีไปอีกทางเมื่อคนตรงหน้าส่งสายตาอ้อนวอนพร้อมกับกุมมือที่พันผ้าก็อต
ของตนไว้อย่างแสดงความห่วงใย
“ผมแค่ขอเวลาอธิบาย ถ้าผมพูดจบแล้วทงเฮจะไม่ยอมยกโทษให้ผม ผมก็จะยอมไป” การที่ทงเฮเงียบไปนั้นก็
คงแปลว่าไม่ปฎิเสธ คิบอมจึงรีบหยิบการ์ดสีหวานที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆในกระเป๋าสะพายที่พกติดตัวเสมอออกมาก่อนจะยื่นให้ทงเฮรับไว้
“......” คิ้วสีอ่อนขมวดน้อยๆเมื่อตัดสินใจเปิดสิ่งที่คิบอมส่งให้ออกดู
TIFFANY & AARON
Marry .
ชีวิตพอจะอ่านอังกฤษออกก็ไม่กี่คำ แต่เมื่อเห็นคีย์เวิร์ดและรูปแบบการ์ดจึงทำให้ทงเฮเข้าใจอะไรมากขึ้น จากที่นั่งยืด
หลังตรงทำคอแข็ง ร่างบางก็ออกอาการว่าอ่อนลงอย่างเห็นๆ แก้มขาวๆที่ซีดเป็นกระดาษเพราะฤทธิ์ไข้กลับแดงระเรื่อขึ้น
อย่างห้ามความอายไม่อยู่
“แล้วไงล่ะ...หรือว่าแฟนของคิบอมเค้านอกใจ คิบอมก็เลยมองหาใครเป็นตัวสำรอง” ว่าเข้าไปนั่น คิบอมยิ้มพลาง
ส่ายหน้าน้อยๆระอาในความรั้นอย่างน่ารักของคนตรงหน้า ร่างสูงลุกขึ้นไปนั่งยังด้านข้างของทงเฮก่อนจะโอบเอวบางๆ
พลางซบศรีษะลงบนไหล่ลาดอย่างอ้อนๆ
“ผมกับทิฟฟานี่เราห่างกันมาซักพักแล้วแต่ก็เพิ่งจะตกลงเลิกกันเมื่อสองสามเดือนก่อน ตอนนี้ผมกับเค้าก็เป็นแค่เพื่อนที่ดี
ต่อกัน ส่วนเรื่องเมื่อวานที่เค้ามา เค้าก็แค่อยากจะมาเชิญไปงานแต่งงานของเค้า แล้วก็ตามประสาเพื่อนฝูงแหละครับ
ผมก็แค่กอดแสดงความยินดีเท่านั้นเอง”
“แต่รูปเค้าก็ยังมีอยู่ทุกที่นี่ ตัดใจไม่ได้ว่างั้น” ฟังแล้วคิบอมก็แกล้งงับหยอกไม่แรงมากนักที่หัวไหล่ทงเฮทำเอาคนขี้งอน
พ่วงตำแหน่งเจ้าหนูจัมไมเจ้าปัญหาต้องหยิกบิดเนื้อที่ท่อนแข่นซักทีเพื่อแก้แค้นกลับ
“ปกติผมไม่ได้ค้างที่ห้องนั้นอยู่แล้ว ถ้าปิดร้านดึกๆถึงจะอยู่ค้างก็เลยไม่ได้จัดการเก็บข้าวเก็บของอะไร ส่วนรูปในมือถือ
ปกติผมก็ไม่ค่อยได้สนใจจะดูจะลบจะยุ่งอะไรกับมันอยู่แล้ว มันไม่ได้มีความหมายอะไรนอกเหนือจากนี้จริงๆนะครับ”
“......” ถึงตอนนี้ก็ไม่มีอะไรจะโต้เถียงนอกจากเงียบนิ่งอย่างแสดงการยอมรับ
“คิดว่าผมจะเล่นๆกับทงเฮหรอ ดูถูกน้ำใจผมมากไปแล้วนะ ผมน่ะรักคุณก่อนที่คุณจะรักผมด้วยซ้ำล่ะมั้ง” ประโยคนี้ทำ
เอาคนที่แอบไปลอบยิ้มจนแก้มพองต้องหันมามองหน้าอย่างขอคำตอบ
“จำได้รึเปล่าว่าคุณเคยมาเมาแล้วอาละวาดที่ร้านผมครั้งหนึ่งเมื่อเดือนก่อนน่ะ” ร่างบางฟังแล้วก็ขมวดคิ้วมุ่นพลางฉุกคิด
ย้อนกลับไป แล้วก็พอจำได้รางๆว่าเมื่อเดือนก่อนมีงานเลี้ยงสังสรรค์ที่คณะแล้วเพื่อนๆก็พากันมาต่อที่ร้านเหล้าซักที่หนึ่ง
ใกล้ๆมอและนั่นก็ทำให้บังเอิญมาเจอคนรักนั่งดริ๊งอยู่กับเด็กมัธยมที่ไหนไม่รู้เข้าก็เลยอาละวาดจนแตกหักกันไปซะวันนั้น
“สภาพแย่นะตอนนั้น”
“ก็น่ารักดีนี่ครับ” พูดจบก็หัวเราะกันร่วน มือที่รวบเอวบางไว้หลวมๆรั้งคนน่ารักให้ขึ้นมานั่งบนตัก นัยต์ตาสีดำสนิทจ้อง
มองเข้าไปยังหน้าต่างใจของอีกคนที่ตอนนี้มันดูอ่อนหวานเป็นที่สุดแม้ว่ามันจะช้ำแดงน้อยๆเพราะมีร่องรอยของความ
เสียใจก็ตามที
“ผมขอโทษ จริงๆแล้วผมน่าจะเป็นฝ่ายบอกกับคุณก่อนว่าผมน่ะรักคุณมากแค่ไหน” ฟังแล้วริมฝีปากบางก็แย้มยิ้มออกมา
อย่างพอใจ ทงเฮขยับเข้าไปหอมแก้มป่องๆทีนึงเป็นรางวัลก่อนจะกระซิบเบาๆที่ข้างหูของชายหนุ่ม
“จะบอกก่อนหรือหลังไม่สำคัญหรอกขอแค่คิบอมรักฉันก็พอ”
“ครับ ผมรักคุณ.....ทงเฮ” คิบอมแนบริมฝีปากลงจูบกลีบปากนุ่มอย่างอ่อนโยนและอ่อนหวานก่อนจะถอนจุมพิตออกมา
อย่างอ้อยอิ่งเพื่อซึมซับความอบอุ่นจากอ้อมกอดแทน แต่มาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เสร็จสิ้นภารกิจที่ตั้งใจจะมาหาทงเฮในวันนี้ดี
คิบอมคลายวงแขนออกจากเรือนร่างนุ่มนิ่มก่อนจะล้วงมือเข้าไปหยิบกระดาษอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าใบเดิมและ
ยื่นให้ทงเฮได้อ่าน ดวงตารีเรียวไล่ดูไปตามตัวอักษรสีดำตัวใหญ่บน A4 แล้วก็คลี่ยิ้มกว้าง
‘รับสมัครแฟนเจ้าของร้านเหล้าปั่น 1 ตำแหน่ง’
“ถ้างั้น.......คุณคิม คิบอม ..........ลี ทงเฮคนนี้ขอสมัครตำแหน่งนี้ชั่วชีวิตเลยนะ^^”
END~!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น