ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love Test Project เกมส์รัก กับดักร้าย [KiHae Y Fic]

    ลำดับตอนที่ #2 : Love Test Project Ch. 1

    • อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 51




    ::  PART  2

    MSG  FROM  WRITER ::  ฟิคนี้มันไร้อนาคตไปแล้วฮับ  อัพแก้ขัดดอกมากๆ

     

     

     

     

     

    ทำไมต้องเสียงดังขนาดนั้นด้วยเล่า?”

     

     

    ก็แก...ดูดิ .... นี่มันไอ้แก้มป่องขี้เก็กอะ!”

     

     

    ฮะ ๆ ๆ  ก็ไม่ดีรึไง?  โอกาสแก้แค้นของแกมาถึงแล้วนะ  จริงๆแกก็จัดการไปหมดแก๊งเหลือเฉพาะก็อีตานี่ไม่ใช่หรอ?”

     

     

    “……..หือ....มันก็จริงอยู่หรอก  แต่ฉันก็เกือบจะลืมๆไปแล้วเชียว .....พอนึกขึ้นมาได้มันก็น่าโมโหนัก....ไอ้แก้มแตกหน้าทู่เอ๊ย!!!!”

     

     

     

    Past ….

     

     

     

     

    อ๊ากก...เหลืออีกสิบนาที จะเข้าสอบทันมั้ยวะเนี่ย!!!”

     

    พอนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทีไรมันก็ต้องมีอารมณ์ขึ้นมาทุกที  ไม่ใช่อารมณ์อย่างว่านะฮะ  แต่เป็นอารมณ์โมโหตะหาก

    เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเมื่อปีก่อนตอนปี 1  ลี ทงเฮคนนี้กำลังเป็นเฟรชชี่อยู่เชียว  วันนั้นผมจำได้แม่นมันเป็นวันที่ฟ้าครึ้ม 

    เมฆหมอกหนาเตอะ  หิมะโปรยปราย  หากว่าผมจะเดินจูงมืออยู่กับใครซักคนไม่ใช่วิ่งกระหืดหระหอบเป็น

    ปลาว่ายน้ำแข่งโอลิมปิกอย่างนี้คงจะโรแมนติกเสียกว่า  ก็วันนี้มันเป็นวันสอบครั้งแรกในชีวิตการเป็นเด็กมหาลัย

    ของผมน่ะสิครับ  แล้วก็บังเอิญว่างานพิเศษของผมอย่างที่พวกคุณรู้กันมันทำให้ผมปลีกตัวออกมาได้ดึกมากเกินไป

    นั่นก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมตื่นสายอย่างที่เห็น  แต่มันจะไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้เลยครับ 

    ถ้าผมไม่เผอิญไปเจอไอ้ทะโมนสี่ซ้าห้าตัวนั่น ….

     

     

     

    ปรี๊น....ๆ

     

     

    ครับ  แล้วอิเสียงแตรรถแหลมๆนั่นมันก็ยังคงตามหลอกหลอนผมไม่หาย  ขนาดผมวิ่งชิดไหล่ทางแล้วนะ

    แต่อิรถสปอร์ตคันงามสีดำขลับบ้านั่นมันก็ดันขับตามผมแถมยังมาบีบแตรเรียกให้เสียงดังลั่นซอยไปหมด ....

     

     

     

    เอื้อกกก...กก  ไงครับน้อง ...ไปกับพี่ดีกว่า เอื้อก....กก  มั้ยครับ???!!!”

     

    ห๊า !! น้องสาวบ้านแม่ยายแกน่ะสิ  ผมผู้ชายทั้งแท่งนะเว้ย  ผมหันไปมองแว๊บนึงแล้วก็จ้ำอ้าวเลยครับ

    เสียงเอื้อกอ๊ากของมันกับสายตาหื่นหาเรื่องเห็นผู้ชายเป็นผู้หญิงด้วยความเมาของมันเนี่ยทำให้ผมไม่อยากจะใส่ใจ

    ผมก็ยังคงวิ่งของผมต่อไป ..... ก็เวลามันจะไม่เหลืออยู่แล้วนี่!

     

     

     

    เอี๊ยดดด...ดด!!

     

    แล้วมันจะไม่เป็นเรื่องเลยครับ ......ถ้าเจ้าพวกนั้นจะไม่มายุ่งกับผม   ใครก็ได้ช่วยผมที  นี่มันซอยเปลี่ยวได้อีกนะเนี่ย

    ผมไม่น่ามาทางลัดเลยจริงๆ  ... พวกมันขับรถไปจอดดักข้างหน้าผมแล้วก็วิ่งกรูกันลงมา

    ให้ตายเหอะ!!!!  ไอ้พวกหล่อ ....  ท่าทางก็ดูดี  ขับรถก็ดูหรูราคาแพง .... ทำไมพวกแกเมาได้รุ่มร่ามแย่กว่าสุนัขอีกเนี่ย

    แกจะมาล้อมฉันทำมายยย....

     

     

     

    หวัดดีค๊าบบบ..น้องสาว.....จะรีบไปไหนเล่า....ใส่ชุดอย่างงี้ เอ๋ เอื้อกก...น้องเป็นทอมหรอค๊าบบบ??”

     

    ตอนนี้ผมหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ  ไอ้ที่วิ่งอยู่เมื่อครู่ก็เหนื่อยหอบหัวใจแทบจะวายตายอยู่แล้ว

    นี่ยังจะมาเจอเหตุการณ์ไม่คลาดฝันอีก  ทำไมช่วงเวลาเช้าๆอย่างนี้ผมจะต้องมาโดนอิพวกเมาค้าง

    มาสกัดดาวรุ่งด้วยเนี่ย   ........ ผมจะรีบไปสอบ ... !!!!

     

     

     

    อ่า...ไอ้ซีวอนนน...เมิงอย่าทำหน้าม่อใส่น้องทอมแอนด์เจอรี่ของกูได้ป่าว?....

    .....นี่ไปกับพี่ดีกว่าน๊า...เดี๋ยวพี่เยซองเลี้ยงเอง

     

    ผมกรอกตามองอิสองตัวนี่แบบช่างใจ !!  เฮือก..กก ไม่ใช่อย่างนั้น  ผมไม่ได้จะเลือกใคร  ผมจะไปสอบให้ทัน เข้าใจมั้ย!!!

     

     

     

    ไปให้พ้นนะ!”

     

    ผมเอามือผลักอิคนที่เรียกตัวเองว่าเยซองออกห่างเมื่อมันเริ่มทำท่าโซซัดโซเซถลาเข้ามาใกล้ผมเกินหนึ่งฟุต 

    เจ้าแรคคูณหรือไอ้หมีแพนด้าแก้มซาลาเปาเอ๊ย!!!......อย่าเข้ามาใกล้อีกนะ!!!

     

     

     

    ฮั่นแน่!!!  น้องเค้าสู้คนด้วยเว้ย...เด็ดๆเล่นตัวอย่างนี้พี่ชอบ...มามะ  มากะพี่ดีก่า...พี่ชื่อคังอินนะค๊าบ

     

     

     

    เอามือแกออกไปให้พ้นนะ!!!”

     

    ผมปัดมืออิตาตัวโตนี่ซะกระเด็นก็มันอยากจะมาจับแก้มผมทำไมล่ะ !!  ผมเริ่มจะโมโหสุดๆแล้วนะ 

    ก็ที่หน้าปัดนาฬิกาของผมน่ะ  เข็มที่มันเดินดุ๊กดิ๊กๆอยู่เนี่ยมันบอกผมว่าได้เวลาเข้าสอบแล้ว

     

     

     

    เอื้ออก......โธ่...ซักคนนะครับน้องค๊าบบบบ

     

     

    น๊าๆๆพี่เยซอง....ดีกว่า….จะรักจะทะนุถนอม...เอื้ออก....ไปจนวันตายย..ย

     

     

    เมิงเงียบไปเลย.....อ้ายเน่าเลี่ยนนนน......พี่ซีวอนดีกว่านะจ๊ะน้องสาว

     

     

    อ้ายชายฉ่อย  ของกู.....นะครับน้อง.....ต้องพี่นี่..แข็งแร๊งงงงง  แข็งแรงปกป้องน้องได้น๊า

     

     

    โอยยย...ย  ผมอยากจะนั่งร้องไห้แล้วถีบไถขาคู่ไปมาให้รู้แล้วรู้รอดซะตรงนี้ 

    ผมไม่เลือก!!!....อ๊ากก....ตอนนี้ผมเบลอไปหมดแล้วครับใครก็ได้ช่วยผมที

     

     

     

    เฮ้ยย!!!  พวกมึง  จะไปได้รึยัง!!?”

     

    เอ๋ ? นั่นใครกันหว่า  ในระหว่างที่ผมกำลังกู่ร้องตะโกนก้องอยู่ในใจนั้น  เสียงใครบางคนก็ดังมาจากด้านหลังเจ้าสามตัว

    มีคนสติดีอยู่บนรถด้วยหรอเนี่ย ?.... แกจะลงมาห้ามช้าไปรึป่าว  ไม่เมาอยู่คนเดียวก็แสดงว่าเป็นคนขับสินะ

    หนอย !!  ก็ถ้าแกไม่จอดรถให้อิพวกนี้มันลงมา ผมก็ไม่ซวยอย่างนี้หรอกจริงมั้ย!!  ทีงี้มาทำเป็นเสียงขรึมสั่งเพื่อน

    อิโธ่!!  ไอ้แก้มแตกขี้เก็ก

     

     

     

    อะรายยย...ย  ..ค๊าบบ..คุณเพื่อนเลิฟ....

     

     

    ไปได้แล้ว!!  พวกมึงบ้าปะเนี่ย  มาตามจีบเด็กผู้ชายอยู่ได้  เป็นเกย์รึไงวะ!!!”

     

    เออ  ไอ้นี่มันไม่เมา  สติสัมปัชชัญญะครบถ้วนใช้ได้  ถึงผมจะยอมรับว่าหน้าผมน่ะสวยเหมือนผู้หญิง

    แต่ผมก็ไม่มีหน้าอกซักกะหน่อยเนอะ .....  แต่ ......  ไอ้บ้านี่!  ทำไมมันต้องมองผมด้วยสายตาอย่างนั้นด้วยวะ

     

     

     

    แล้วนายน่ะ!!!  เห็นคนหล่อท่าทางรวยมาจีบหน่อยเป็นไม่ได้เลยนะ ทำเป็นเล่นตัว ทีแท้ก็เผื่อฟลุ้คล่ะสิท่า!!!”

     

     

    ห๊า .....  ไอ้บ้านี่ ! .....  ทำไมมันถึงได้ปากหมาอย่างนี้นะ  >O< !!!

     

     

    นี่คุณ!!หน้าตาท่าทางก็ดีทำไมพูดจาอย่างนี้ล่ะ??!!!”

     

    ผมเดินตรงดิ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อเจ้านั่นอย่างไม่เก็บอารมณ์  คำพูดที่ดูถูกผมน่ะไม่เท่าไหร่

    แต่สายตาเหยียดหยามเหมือนผมเป็นตัวอะไรไม่รู้เนี่ยสิ  มันทำให้เส้นอารมณ์ของผมขาดผึงขึ้นมาในทันที

     

     

    หรือไม่จริง?!”

     

    หนอยดูมันยักคิ้วแล้วมาทำกดยิ้มมุมปากให้ผม  หล่อแบบชั่วร้ายทงเฮคนนี้ก็ไม่เหมือนกันนะว๊อยย..ย

     

     

     

    อย่าคิดว่าทุกคนเค้าจะมีความคิดต่ำทรามเหมือนนายนะ !!!”

     

    สะใจมั้ยละครับ ?  ว่าแต่ทำไมอีกพวกเพื่อนประหลาดรอบตัวมันต้องอ้าปากค้างไปตามๆกันด้วยล่ะเนี่ย

    คงจะเป็นลูกคุณหนูแตะต้องไม่เคยได้สินะ  .....  ดี  สมน้ำหน้า  อึ้งไปเลยสิท่า

     

     

    ฉันไม่ได้ไปขอนายกิน  ดังนั้นนายไม่มีสิทธิ์ที่จะมาด่าหรือจะมาดูถูกฉัน  จำไว้นะ!!!”

     

    ผมปล่อยคอเสื้อของไอ้แก้มแตกนี่ออกแต่  .... อ๊ะ ! จะมีอะไรซวยกว่านี้ได้อีกมั้ยทงเฮ ?!!!

     

     

    เฮ้ย!!”

     

    ก็บังเอิญว่าเลทข้อมือที่ผมใส่ติดตัวอยู่ตลอดเวลาเนี่ยสิมันดันไปติดกับกระดุมเสื้อของเจ้านั่นซะได้

     

     

    หึ!  ปากดี  ไม่มีใครเคยกล้ามาด่าฉันฉอดๆอย่างนี้ได้  อย่าหวังว่าจะด่าฉันได้ฟรีๆโดยไม่มีข้อแลกเปลี่ยนหรอกนะ ลี ทงเฮ

     

     

    อ๊ะ!  ปล่อยฉันนะ!!!”

     

    ไอ้บ้านี่เสียมารยาทที่สุดนอกจากมันจะเอามือหยาบๆของมันมายึดข้อมือผมไว้ซะแน่น
    แล้ว
    มันยังถือวิสาสะมาอ่านชื่อที่สลักบนเลทข้อมือของผมอีก .....

     

     

     

    ไอ้บ้า!! โธ่เว้ย!!  ปล่อยเซ่!!!!!!!”

     

     

     

    อุ๊บ  >/////////////////////////////////////<

     

    อ๊ากกกกก.....กก  ใครก็ได้ช่วยที  ช่วยเอาปากกับลิ้นชุ่มๆของมันออกไปด้วย

    คุณพ่อคุณแม่ค๊าบสาบานได้ว่าถึงทงเฮจะแต่งหญิงแต่ก็ไม่ได้มีรสนิยมชอบผู้ชายด้วยกันน๊า

     

     

     

    แฮ่กกก..........กก  ไอ้.....ไอ้...เลววว!!!”

     

    ผมกระตุกแขนสุดแรงก่อนจะหลุดจากมือมันพร้อมกับเลทที่เกี่ยวกระชากกระดุมเสื้อมันติดมาด้วย

    นั่นมันเฟิร์สคิสของผม............แล้วครั้งแรกกับผู้ชาย..........ให้ตาย ........ไม่จริง!!!!!!

     

     

     

    หวานใช่ย่อย ..... จำไว้นะ  อย่าคิดจะมาอวดดีกับฉันอีก !!!  พวกมึง!!!  มองอยู่ได้ !!!  ขึ้นรถ!!!”

     

     

     

    [ เอื้อก.....แม่ง...ไปก็ด้าย......ไหนว่าพวกกูเป็นเกย์...กูจีบ.....มันจูบ...เลยว่ะดูดิ]

     

     

     

    [เออ..แม่ง...ไอ้คิบอม..แม่ง...หลอก....กู..ตายจาย.....]

     

     

     

    พวกมึงบ่นอะไร  กูบอกให้ไปขึ้นรถ!!!!!”

     

     

     

     

    เห๊อะ!  ............เห๊อะ!!  นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันเนี่ย!!!”

     

    ผมมืดแปดด้านไปหมดก็ได้แต่มองรถของมันค่อยๆเคลื่อนห่างออกไปทุกทีๆ  แล้วจู่ๆขาของผมมันก็หมดเรี่ยวแรง

    ทรุดกองจมอยู่กับกองหิมะเย็นเฉียบเอาอย่างดื้อๆ  ผมไม่ได้ระทวยน๊า ................ ให้ตายเหอะ

    นี่นอกจากผมจะขาดสอบในวันแรกแล้ว  ผมยังจะถูกพรากพรหมจรรย์ทางริมฝีปากด้วยไอ้บ้าโรคจิตแก้มป่องอีก

    ..................หนอย...คิบอม....นายชื่อคิบอมใช่มั้ย!!!  คอยดูผมจะต้องเอาคืนให้ด้ายยยยยยยยย!!!......

     

     

     

    ฉันจะแก้แค้นนาย  คิบอม  ไอ้แก้มแตกขี้เก๊ก!!!!!!!!!!!!!!!!”

     

     

     

     

     

     

    *

     

    *

     

     

    ว่าไงทงเฮ !! แกเหม่ออะไรเนี่ย!!?”

     

     

    อะ...อ่อ...โทดที...นึกอะไรเพลินๆ

     

     

    ว่าไงล่ะ รับงานนะ  เดี๋ยวฉันโทรให้!”

     

     

    ได้เลยแก!! จัดมา!”

     

     

    อ่ะ

     

     

    ฮัลโหล......จากเลิฟเทสโปรเจคค่ะ

     

     

    .................หึหึ  ได้เวลาแก้แค้นแล้ว  นายจะได้รู้สึกลี ทงเฮคนนี้ซะบ้างคิม คิบอม!!!

     

     

     

     

     

     

    ห้ามส่งเสียงดัง !

     

    ป้ายสีขาวสะอาดตาและหนังสือตัวบรรจงที่ถูกปริ๊นจากคอมพิวเตอร์ถูกแปะจนเกลื่อนกลาดทั่วหอสมุดใหญ่

    ไม่ว่าจะเป็นกระจกใสบนประตูบริเวณทางเข้า  เคาร์เตอร์ยืมและคืนหนังสือ  รถเข็นสำหรับพักหนังสือ 

    โต๊ะ  ชั้นวางทุกตู้ .....  มันมากไปหรือเปล่า  แต่ก็อาจจะเป็นเพราะที่นี่เป็นหอสมุดเก่าแก่

    ของมหาวิทยาลัยด้วยกระมังจึงทำให้สถานที่แห่งนี้ต้องการความเงียบสงบมากกว่าปกติ

    แต่ถึงไม่ได้มีข้อบังคับพวกนี้แปะไว้  ที่นี่ก็คงจะเงียบอยู่แล้วล่ะนะ ...  ก็หนังสือบนชั้นที่นี่

    มันมีแต่พวกวิทยานิพนธ์  งานวิจัยเก่าๆ  เรื่องราวลึกลับ  หรือหนังสือเกี่ยวกับอาณาจักร

    หรือตำนานเล่าขานสมัยโบร่ำโบราณ  อย่างอียิบต์  มัมมี่เป็นต้น  คนที่เข้ามาที่นี่ได้

    แล้วชอบอ่านอะไรพวกนี้  ก็คงจะเป็นคนแปลกพิลึกพอตัวอยู่เชียว . .

     

     

     

    อย่างอีตานั่น  ไม่น่าจะเป็นคนชอบมาขลุกอยู่ที่นี่ได้เลยให้ตายเถอะ

     

    ร่างบางเดินก้าวเข้ามาอย่างเงียบเชียบ  ดวงตาคู่สวยกวาดมองรอบๆ  และเมื่อหันหน้าไปสบกับ

    คุณบรรณารักษ์จอมเฮี๊ยบเข้าทงเฮก็สะดุ้งน้อยๆด้วยตกใจก่อนจะโค้งทักทายให้อย่างสุภาพ 

    ก็ใบหน้าเหี่ยวย่นกับดวงตามากด้วยรอยตีนกาหลังกรอบแว่นหน้าเตอะ  จมูกงองุ้มและ

    ผมสีขาวแซมดำเล็กน้อยที่ถูกมัดรวมเป็นปั้นๆข้างหลังเนี่ยสิ  มันทำให้ขนลุกซู่เหมือนกำลังเจอแม่มด

    ที่เพิ่งออกมาจากหนังสือนิทานปรัมปราเสียจริง

     

     

    ร่างบางเดินก้าวผ่านจุดยืม-คืนหนังสือและแสร้งทำทีเหมือนเดินหาสิ่งที่ต้องการตามชั้นนู้นชั้นนี้ไปเรื่อยเปื่อย

    จนเสียงฝีเท้าของใครบางคนมามาหยุดอยู่ด้านหลัง . .

     

     

    คุณอิม ยุนอาใช่ปะคะ?”

     

    มือบางแตะลงที่ไหล่พร้อมเสียงเรียก  ทงเฮหันมาส่งยิ้มหวานให้อย่างเป็นมิตรก่อนจะพยักหน้าตอบรับ

     

     

     

    คุณอี อึนจองใช่มั้ยคะ?”

     

    ร่างบางเอียงคอน้อยๆพลางส่งสายตาใสแป๋วให้  พาเอาคนมองรู้สึกสังหรณ์ใจพิกล

    ก็ริมฝีปากสีสวย  แก้มใสที่ฝาดแดงดูน่ารัก  ดวงตาคมสวยทุกอย่างที่รับกับใบหน้าเรียวแสนดูดี

    ผมสั้นสีน้ำตาลเข้มที่ถูกรวบเป็นจุกเล็กๆอยู่ด้านหลัง  รูปร่างเล็กเพรียวบางในชุดเสื้อสเว็ตเตอร์สีเข้มตัวยาว

    ไม่ต่างจากเดรส  ...  น่ารักเกินผู้หญิงทั่วไปจนชักหวั่นใจ

    และไม่! ... ซักนิดที่จะคิดว่าเป็นชาย ... กี่งานกันที่ผ่านมา ... ก็ต้องแนบเนียนเป็นธรรมดา

     

     

     

    ค่ะ ...เรื่องเงิน?”

     

     

    เอาไว้หลังงานเสร็จนะคะ....แล้วค่อยว่ากัน.....แล้วคุณก็คอยดูแล้วกันนะคะ

     

     

    “…อะ....อืมค่ะ

     

    ท่าทีตอบแบบไม่มั่นใจของหญิงสาวทำเอาทงเฮลอบถอนหายใจ  แม้ว่าคนรับงานจะชินเสียแล้วกับอาการที่เริ่ม

    รวนเลเหมือนลูกค้าอื่นๆทั่วไปที่ได้เจอเค้าก่อนเริ่มงานแต่ไม่ว่ายังไงข้อกำหนดก็ถูกระบุไว้อย่างชัดเจน 

    ดังนั้นเมื่อมาถึงขั้นนี้ก็ยากที่ถอนตัว

     

     

     

    อย่ากังวลไปเลย ....รักแท้ก็ย่อมเป็นรักแท้นะ

     

    มือบางยื่นไปตบไหล่หญิงสาวร่างโปร่งนั่นเบาๆอย่างให้กำลังใจ

     

     

     

    ค่ะ...ถ้าอย่างนั้น  เค้าอยู่ที่ล็อค H สุดทางเดินค่ะ

     

    อึนจองกล่าวก่อนจะชี้มือไปตามทางเดินยาวสุดลูกหูลูกตา  ทงเฮโค้งให้เล็กน้อยก่อนจะก้าวเดินไป

    และเมื่อมาถึง  ตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวใหญ่ด้านบนที่ติดกับตู้หนังสือหมวดประวัติศาสตร์

    ก็ระบุชัดเจน  ทงเฮเดินเข้าไปตามซอกของชั้น  และเมื่อเกือบจะถึงปลายทาง

    ร่างบางก็หยุดชะงักเล็กน้อยเมื่อมองเห็นเป้าหมายนั่งหน้ายุ่งอยู่ที่โต๊ะไม้ตัวยาวพร้อมหนังสือเล่มหนาเป็นตั้งข้างกาย

     

     

     

    เอาละนะ  เริ่มกันเลย

     

    ยิ้มร้ายอย่างถูกใจ  ร่างบางแสร้งทำเป็นหยิบเลือกดูหนังสือเหมือนนักอ่านตัวยงทั่วไป

    และถ้าหยิบตรงที่ง่ายๆมันจะเป็นไปตามแผนได้ยังไงล่ะจริงมั้ย ?....  ชั้นสี่ห้าที่เอื้อมไม่ถึงน่ะยิ่งดีใหญ่

     

     

     

    ฮ๊า! ทำไมอยู่สูงจังน๊า

     

    เริ่มทำเสียงกุกกักพลางใช้หางตาเหล่มองแล้วก็เป็นไปตามคาดเมื่อคิบอมเริ่มเงยหน้าจากกองหนังสือเล่มโตมาสนใจ

     

     

     

    ฮึ้ย...ไม่มีบันไดรึไงแถวนี้

     

    พยายามยืดตัวจนสุดความสามารถพาให้กระโปรงที่มันสั้นโชว์เรียวขาสวยอยู่แล้วยิ่งเลิกขึ้นเห็นไปถึงไหนๆ 

     

     

     

    โอ๊ยยย!!!”

     

    และแล้วก็จนได้เมื่อหนังสือสองสามเล่มที่กรูพาเหรดตกมาจากชั้น  พร้อมกับตัวร่างบางที่ล้มลงกับพื้น

    ก็แค่ละครตบตาเท่านั้น . .

     

     

     

    เป็นอะไรรึเปล่าครับ!!!?”

     

    เสียงถอยเก้าอี้ดังลั่น  ร่างสูงถลาเข้ามาประคองคนที่ร่วงล้มลงมาไม่เป็นท่าอย่างไม่รุ่มร่ามตามประสาสุภาพบุรุษทั่วไป

     

     

     

    อ๊ะ!  ไม่เป็นอะไรค่ะ?”

     

    แล้วเมื่อประสานตากันชัดๆ  ดวงตากลมคมโตสวยนั่นก็ดูจะเรียกความสนใจจากคิบอมได้มาก

     

     

    รู้สึกคุ้นตา .... เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ....

     

     

     

    จ้องตากันอยู่พักใหญ่จนคนที่ยื่นมือมาช่วยเหลือเริ่มสำนึกได้จึงรีบพยุงตัวร่างบางให้ยืนขึ้น  
    ก่อนจะก้มลงเก็บหนังสือสองสามเล่ม
    ที่ตกหล่นอยู่กับพื้นแล้วยื่นให้

     

     

     

    ใช่ที่คุณอยากจะได้รึป่าวครับเล่มนี้?”

     

    คิบอมแจงหนังสือในมือที่ถืออยู่ให้ทงเฮดูชื่อเรื่อง  แล้วด้วยจริตจะก้านน้อยๆและสายตาที่เหลือบเห็นฉับไว

    ด้วยไหวพริบบนสันหนังสือที่วางไว้อยู่บนโต๊ะคิบอม  คนสวยส่ายหน้าน้อยๆแล้วคลี่ยิ้มหวานให้

     

     

     

    ฉันอยากได้ประวัติศาสตร์ยุโรปน่ะค่ะ  คิดว่ามันน่าจะอยู่บนนั้นนะ...แต่ก็ไม่ใช่

     

    ทำเป็นตีหน้าเศร้ากัดริมฝีปากพลางเงยหน้ามองดูบนชั้นหนังสือสูง 

    แล้วยิ่งท่าขมวดคิ้วน้อยๆให้มุ่นตีกันยิ่งดูน่ารักไม่หยอก

    คิบอมเอี้ยวตัวกลับไปมองที่โต๊ะของตนแล้วหันกลับมาส่งยิ้มนุ่ม

     

     

     

    อ่อ ถ้าเล่มนั้น อยู่ที่ผมครับ

     

    คิบอมเดินนำกลับไปยังโต๊ะให้คนตัวเล็กก้าวตาม  ท่าทีสุภาพและมีน้ำใจอย่างไม่มีอาการกระลิ้มกระเหลี่ย

    ทำเอาทงเฮลอบจิ๊ปากเล็กน้อยอย่างอารมณ์เสียด้วยผิดคาด

     

     

     

    ใช่เล่มนี่รึป่าวครับ?”  หยิบหนังสือสีเขียวเล่มหนาโชว์ให้อีกคนดู

     

     

    อ่อ  ใช่เลยค่ะ!”

     

    แล้วด้วยกลัวจะต้องรีบตีจากไปเร็ว  ร่างบางหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ของคิบอมก่อนจะแสร้งเปิดหนังสือไปมา

    ทั้งๆที่ก็ไม่ได้เรียนเกี่ยวกับพวกนี้ซักนิด  แถมยังเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดอีก   . . ไม่รู้เรื่องซักอย่าง

     

     

     

    ว่าแต่คุณต้องใช้รึป่าวคะ ?  ถ้างั้น....

     

    ทำเป็นเงยหน้ามองส่งสายตาวิบวับเป็นเชิงอ้อนระคนเกรงใจ

     

     

     

    อ่อ  ตามสบายครับ  ผมอ่านจบแล้ว

     

    คิบอมส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ . .  ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปพอได้หนังสือแล้วก็คงต้องขอตัวสิ . .

    . . ไม่ได้หรอก มันเร็วเกินไป

     

     

     

    งั้น...จะรบกวนมั้ยคะ? ถ้าคุณ......เอ่อ...

     

     

    ผมคิบอม. .  คิม คิบอมครับ  ชายหนุ่มโค้งให้เล็กน้อยเพื่อทักทาย

     

     

    อืม...ฉันอิม ยุนอานะคะ...คือ....

     

     

    ......

     

     

    คุณคิบอมจะช่วยเล่าให้ฉันฟังคร่าวๆหน่อยได้มั้ย?”

     

    ร่างบางยืนขึ้นก่อนจะเอื้อมมือไปกุมมือของชายหนุ่มที่รวบประสานกันไว้

     

     

     

    เอ่อ ...

     

    คิบอมยังคงอ้ำอึ้งและเมื่อมองต่ำตามลงมาที่มือของหญิงสาวแปลกหน้าที่รุกเค้าเสียจนน่าหวั่นใจ

     ..... ก็เหลือบไปเห็นเข้า  อะไรบางอย่างบนข้อมือนั่นเหมือนจะสะดุดและคุ้นตาในที

     

     

     

    อย่าคิดว่าทุกคนเค้าจะมีความคิดต่ำทรามเหมือนนายนะ

     

    สมองแทบจะประมวลผลไม่ทัน อาจจะเป็นความบังเอิญก็ได้สำหรับสิ่งที่เห็น 

    เพียงแต่ดวงตาคู่สวยคู่นี้  สายตาที่ถึงแม้จะส่งให้อย่างเชื่อมหวาน

    แต่ก็ยังจำได้ . . .  คล้ายกันมากหากพินิจให้ชัดเจนดวงตากลมใสซื่อกับ

    แววตาที่เคยมองมาอย่างจงเกลียดจงชังมันซ้อนทับกันในทันที

    . . . . คิบอมไล่สายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าของร่างบางอย่างไม่เก็บอาการ

    ก่อนจะพยักหน้าสองสามครั้งอย่างเข้าใจอะไรบางอย่างกับตัวเองแล้วรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากก็ถูกจุดขึ้น

     

     

     

    ได้สิครับ......แต่ต้องนั่งแบบนี้นะ!”

     

    ร่างสูงหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ก่อนจะดึงตัวทงเฮให้ลงมานั่งบนตัก

    แล้วรวบคนตัวเล็กเอาไว้ในอ้อมกอดด้วยสองแขนแกร่งจนร่างบางออกอาการเหวอด้วยยังไม่ทันได้ตั้งตัว

     

     

     

    อ๊ะ!!  เดี๋ยวสิคุณคิบอม

     

    ร่างบางดิ้นขลุกขลักอย่างต่อต้านเพียงแต่ว่างานก็ยังคงต้องเป็นงานต่อไป . .

    กับทงเฮก็ได้แต่นึกในใจ  ที่สุดแล้วก็ไม่ต่างจากคนอื่นทั่วไป . . ออกลายเร็วเกินคาด

     

     

     

    ไม่ดีหรอครับจะได้ถนัดๆไง

     

    ร่างบางเหยียดยิ้มอย่างพอใจเปลืองตัวเสียหน่อยจะเป็นไรไปในเมื่อมันตรงตามแผนได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

     

     

     

    อืม....งั้นเล่าสิ

     

    ทงเฮที่ยังคงไม่รู้ว่าคิบอมเอะใจแล้วก็คงยังเล่นต่อไปให้สมบทบาท  ร่างบางขยับตัวนิดๆ

    ก่อนจะเอนตัวลงไปพิงที่แผ่นอกกว้างของคิบอมในท่วงท่าพอให้สบายตัวทำเอาคิบอมอมยิ้มอย่างไม่ค่อยเข้าใจตัวเอง ....

     

     

    . . ให้ตายเหอะ  ถึงแม้จะรู้แล้วว่าเป็นผู้ชายด้วยกัน . . แต่ทำไมหัวใจกลับเต้นแรงกว่าเดิมกันเนี่ย

     

     

     

    คิบอม!!!!!!”

     

    แล้วก็เป็นไปตามแผนเพราะทุกเหตุการณ์นั้นก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในสายตา  หญิงสาวเดินตรงเข้ามาจะเอาเรื่อง

    จนคิบอมต้องรีบคลายอ้อมกอดโดยปล่อยให้ทงเฮเป็นอิสระโดยไว

     

     

     

    เดี๋ยว  ฟังผมก่อนสิอึนจอง!!”

     

    แล้วทงเฮก็ได้แต่ยิ้มสะใจในผลงานตัวเอง  อึนจองตรงดิ่งเข้าไปหาคิบอมพร้อมฝากรอยมือเอาไว้เต็มแรง

     

     

     

    เพี๊ยะ!!!!

     

    รอยนิ้วเป็นจ้ำขึ้นบนแก้มป่อง  คิบอมยกมือขึ้นลูบเบาๆก่อนจะหันไปมองหน้าทงเฮอย่างมาดร้าย

    แต่มีหรือที่คนถูกอาฆาตจะใส่ใจยังคงยืนยิ้มเยาะอย่างถูกใจอยู่ที่เดิม

     

     

     

    เราเลิกกัน!!!  ในที่สุดนายมันก็เป็นอย่างที่ใครๆบอก!!! เลว!! เลวที่สุด

     

    อึนจองคว้ากระเป๋าถือบนโต๊ะก่อนจะหยิบธนบัตรเป็นปึกออกมา

     

     

     

    อ่ะ!  ขอบคุณมากที่ทำให้รู้ทาสแท้ของผู้ชายคนนี้!!!!”

     

    ยื่นเงินส่งให้ทงเฮ  ร่างบางรับเงินไว้กับตัวก่อนจะหันไปจูบเย้ยเงินในมือใส่ให้คิบอมที่ยืนสั่นด้วยความโกรธ

     

     

     

    หึ!!  ชาตินี้เราอย่าได้เจอกันเลยคิบอม!!”

     

     

    อึนจอง!!!....อึนจองครับ...ฟังผมก่อน

     

    คิบอมวิ่งเข้าไปคว้ามือคนรักก่อนจะโดนสะบัดและผลักออกอย่างหมดเยื่อใย  หญิงสาวเดินจ้ำอ้าวทิ้งห่างๆออกไป

    โดยปล่อยให้คิบอมยืนคอตกหมดอะไรตายอยากอยู่ลำพังกับทงเฮ

     

     

     

    ไปก่อนนะคะคุณคิมคิบอม!”

     

    ร่างบางโบกมือที่ถือเงินเป็นปึ๊งให้ก่อนจะทำทีก้าวเดินออกไป

    ... แต่ถ้ามันง่ายแบบนี้ก็คงไม่ใช่สำหรับคิบอม  ร่างสูงเดินเข้าไปฉุดข้อมือของทงเฮไว้

     

     

     

    เอ้ยยย จะทำอะไรน่ะ!!!!!!!”

     

    ร่างบางร้องเสียงดังลั่นเมื่อตัวเองถูกฉุดแล้วผลักเข้ากับผนังในมุมมืด  มือแกร่งยึดข้อมือเล็กพันธนาการไว้เหนือหัว

    ก่อนจะเลือกดึงมือเล็กข้างที่สวมเครื่องประดับโลหะสีเงินเงาลดระดับลงมาชูลอยเด่นที่ระดับสายตาให้ทงเฮดู

     

     

     

    หึ!   นายต้องรับผิดชอบในสิ่งที่นายทำลงไป!!! ลี ทงเฮ!!!”

     

     

     

     

     

     

    TBC >>>

     

     

     

     

    MSG  FROM  WRITER

     

    อย่างที่บอกตอนต้นค่ะ  ฟิคเรื่องนี้ชักไร้อนาคตไปทุกวัน

    เพราะแค่เรื่องเฟค กะ กิ๊ฟมี ยังไม่ค่อยมีเวลาแต่ง

    ดังนั้นก็ขออภัยด้วยละกันนะคะ ...

    ขอบคุณที่ยังมาแวะเยี่ยมเยือนเสมอ

    ก็อ่านไปเอาฮาละกันเนาะ ^^  รักคุณค่า

     

    ชอบคนอ่าน  รักคนคอมเม้น  ซารางเฮคนโหวต

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×