ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Short Fic - KiHae] For Special Day

    ลำดับตอนที่ #1 : [SF]Once Upon a Time in Finland Ver. Special Happy New Year 2008 ch.1

    • อัปเดตล่าสุด 2 ม.ค. 51


     

    Title : Once Upon a Time in Finland  Ver.  Special  Happy New Year  2008

    Author : girlushine
    Category : Romance /Erotic
    Pairing : Kibum x Donghae [KiHae]
    Rating : YAOI :  PG -
    Author notes :
    ฟิคเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นระหว่างการไปเที่ยวปีใหม่ คือไม่ได้ไปฟินแลนด์ 555

    แต่ก่อนไปได้ดูรายการที่เค้าพาไปเที่ยวเลยถูกใจ  ยังไงมันก็แค่ SF ก็ลองอ่านเล่นๆ

    ถือซะว่าเป็นของขวัญจากไรเตอร์ละกันนะฮับ . .




     

     

     

    ประเทศฟินแลนด์

     

    ดินแดนหมื่นทะเลสาบ . .

     

    และต้นกำเนิด . . เรื่องราวของ . . ซานต้าครอส

     

     

     

    คุณลองจินตนาการตามดูสิ . .

     

    ภูมิอากาศอบอุ่น หนาวเย็นในแบบไทกาหรือกึ่งขั้วโลก

     

    หิมะสีขาวโพลนปกคลุมทั่วทุกพื้นที่  ต้นสนต้นใหญ่มหึมาสูงตะหง่าน

     

    ลานสกีกว้าง . . ผืนธารน้ำที่แข็งตัว . . ใส . . และเย็นเฉียบ . .

     

    ตุ๊กตาหิมะที่ถูกปั้นแต่งขึ้น . . ด้วยความคิดสร้างสรรค์ . . และสรรสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ

     

    พาหนะสำหรับเดินทางที่ไม่ใช่แค่ สัตว์ . . แต่เป็นเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยาก  อย่าง . .  กวางเรนเดียร์ . . หรือสุนัขไซบีเรียนฮัสกี้

     

     

     

     

    และ . . เมืองแลปแลนด์

     

    เมือง . . ที่สามารถตอบรับความหวังของเด็กๆทั่วโลกได้ . .  ด้วยรีสอร์ทที่ถูกเนรมิตขึ้นให้กลายเป็นหมู่บ้านซานตาครอส

     

     

     

    ซักครั้งก็คงดี . . ซักครั้งถ้ามีโอกาสได้ไปเยือนก็คงดีสินะ . .

     

     

     

     

     

     

    ///////////////////////////////////~*

     

     

     

     

     

    ทงเฮ  อย่าขึ้นไปเลยมันเย็นมากแล้วนะ!”

     

    ดวงตากลมแป๋วเว้าวอนเพื่อนรักตรงหน้าพร้อมไปกับการทั้งดึงทั้งรั้งแขนเล็กๆของเจ้าของชื่อไว้

    แต่เจ้าตัวคงจะดื้อดึงมากพอตัวแหละนะถึงทำให้คนรั้งไว้ต้องค้อนหน้าคว่ำด้วยเหนื่อยหน่ายเหลือจะทน

     

     

    แป๊บเดียวเองซองมิน! เนี่ย ถ้าซองมินไม่รั้งเราไว้ เราก็จะได้รีบไปรีบกลับไง!”

     

    ร่างบางสะบัดแขนออกแรงๆจนแทบจะเสียหลักล้มลงไป  แต่ก็คุ้มแหละนะเพราะยังไงก็สามารถ

    หลุดจากการถูกเหนี่ยวรั้งเอาไว้ได้สำเร็จ

     

     

    โธ่!~  ทงเฮ!  อย่าขึ้นไปเลย  อากาศมันชักดูแปรปรวน ฉันกลัวว่า....

     

     

    พอเลยซองมิน!  อย่าทำเป็นกระต่ายตื่นตูมไปหน่อยเลย

     

    และแล้วคนตัวเล็กในชุดเตรียมพร้อมสู้กับความหนาวทั้งหมวก เสื้อกางเกง  ผ้าพันคอ หรือแม้แต่รองเท้าสีแดงแปร๊ด

    ก็วาดขาก้าวขึ้นไปนั่งบนสโนโมบิลคันใหญ่คู่ใจพร้อมสตาร์ทเครื่อง . .

     

     

    เนี่ยฟ้าออกจะโปร่งซองมินอย่าคิดมากน่า  เราไปละนะ!”

     

     

    ดะ เดี๋ยวก่อน . . ทงเฮ . . ทงเฮ!!!!”

     

    พูดจบก็ไม่รีรอการถูกฉุดรั้งไว้แต่อย่างใด  . .

    มือเล็กบิดคันเร่งแรงๆก่อนจะขับออกไปอย่างเร็วโดยไม่สนใจเสียงตะโกนเรียกของซองมินอีก

     

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

    ฮ๊า!!!  วิเศษที่สุด!!!  อะไรจะมีความสุขเท่านี้น๊า!!”

     

    และเมื่อเดินทางมาได้ซักยี่สิบนาทีซึ่งไกลจากบ้านพักพอควร  ทงเฮก็เริ่มชะลอความเร็วให้ลดลงเพื่อดื่มด่ำ

    กับบรรยากาศดีๆรอบข้างที่เต็มไปด้วยต้นสนใหญ่ปกคลุมไปด้วยหิมะ  มือเล็กข้างหนึ่งจับแฮนด์เอาไว้มั่น

    และอีกข้างก็ไขว่คว้าหาปุยหิมะขาวนวลคล้ายนุ่นที่ค่อยๆโรยตัวลงมาพลางอ้าปากงับเล่นอย่างสนุกสนาน

    ราวกับกำลังชิมไอศกรีมเย็นเฉียบรสหวานก็ไม่ปาน

     

     

     

    เอ๋  ทำไมอากาศมันชัก . . แปลกๆล่ะ???”

     

    และเหมือนรับรู้ได้ถึงกระแสลมที่เปลี่ยนแปลงไป  รวมถึงต้นไม้ใหญ่ที่ลู่ลมไปมาดูน่ากลัว

    ทงเฮจึงหยุดรถลงเพื่อรอดูและจับทิศทางลม  นัยต์ตาสีอ่อนซุกซนกวาดมองไปทั่ว 

    นอกจากสีขาวของหิมะแล้วก็คงจะมีแต่ต้นสนสูงตะหง่านที่เรียงกันเป็นตับดูแน่นและหนาทึบ

    นั่นแหละมั้งที่คอยอยู่เป็นเพื่อนจนทำรู้สึกวังเวงแปลกๆ  ขาตั้งของรถถูกเอาลงแต่เครื่องที่ติดอยู่

    ก็ยังคงไม่ถูกดับแต่อย่างใด  ร่างบางห่อตัวพลางกระชับมือกอดอกไว้หลวมๆและนั่งแช่อยู่ซักพัก

    ก่อนจะตัดสินใจก้าวลงจากสโนโมบิล . .

     

     

     

    แย่แล้วสิ . . ทำไมตรงนี้มันไม่เหมือนเมื่อวานที่เคยมาเลยล่ะ??”

     

    หลังจากเดินสำรวจไปได้ไม่กี่ก้าว  ใบหน้าสวยก็เริ่มเจื่อนลงทันทีเมื่อรู้สึกถึงร่องรอยของหิมะ

    ที่ทับถมกันแปลกๆเหมือนกับบริเวณนี้เคยเกิดแลนด์สไลด์มาก่อน . .

     

     

    กรึง!!

     

    และแล้วเสียงประหลาดเหมือนเครื่องจักรหมดแรงทำงานก็ดังมาจากด้านหลัง 

    ทงเฮรีบหันกลับไปมองแล้วก็พบว่าสโนโมบิลที่ตัวเองได้อาศัยมาเกิดเครื่องดับลง

     

     

    อ้าว!!!?? ฉันจอดนานไปรึไงเนี่ย?”

     

    ร่างเล็กรีบวิ่งเข้าไปหาเจ้าพาหนะสีสวยที่พาเค้าขึ้นมา  ก่อนจะขึ้นไปนั่งและลองสตาร์ทใหม่

     

     

     

     

    .

     

    . .

     

    . . .

     

    . . . .

     

    . . . . .

     

     

     

    . . . . . . !!

     

     

    . . . . .  >0< !!!

     

     

     

     

    ไม่จริง!!!  ไม่จริงอะ  นี่มันสูงน๊า!!!  ฉันไม่อยากติดอยู่ที่นี่คนเดียว!!!”

     

    ร่างบางตะโกนโวยวายอย่างสุดเสียงเมื่อเริ่มรู้ว่าความซวยกำลังมาเยือน . .

    และไม่ว่าจะลองสตาร์ทกี่ครั้ง . . ก็ยังคงเหมือนเดิม . . ไม่ติด

     

     

     

    โอ๊ย!!  ทำไมจะต้องมาเสียเอาตอนนี้ด้วย!!!”

     

    ขาเล็กๆเดินเตะหิมะกระจัดกระจายเพราะชักหงุดหงิดและโมโห  ก็ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสโนโมบิลคันเก่ง

    และสภาพอากาศมันก็ช่างไม่เป็นใจซักอย่าง

     

     

     

    จากนั้นเวลาก็หมุนไป . . . จนท้องฟ้าสีครามที่เคยสดใสนั้นเริ่มสลัวขุ่นมัวด้วยกลุ่มเมฆหมอกสีเทาพัดมาพาครึ้ม

    หิมะ . . ที่แค่โปรยปรายให้ได้ชุ่มฉ่ำในตอนแรกก็กลับตกลงมาแรงขึ้น ๆ คล้ายกับเม็ดฝนเม็ดใหญ่พาให้คนที่อยู่ใต้ฟ้า

    ได้ตัวเปียกปอนไปหมด

     

     

     

    ฮึก.......ไม่เอานะ.....อย่าทำอย่างนี้สิ.......ติดเถอะนะ...ฮึก.....ซองมิน.....ช่วยเราด้วย

     

    และใบหน้าที่เป็นกังวลและห่วงใยของเพื่อนรักก็ลอยมาให้ได้รู้สึกสำนึกผิด 

    ทงเฮถอดแว่นอันใหญ่ที่สวมไว้อยู่ออกก่อนจะปาดน้ำตาที่รินออกมาเป็นทางเหมือนเด็กขี้แย . .

     

     

     

    ฮึก.....ฉันยังไม่อยากตาย....ฮึก...ซองมิน...ฮึก..มาช่วยฉันที

     

    เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังระงมทั่วบริเวณแต่ก็คงไม่ดังพอที่จะเอาชนะเสียงลมหวีดหวิวที่พัดปั่นป่วนโหมกระโชก

    ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆไปได้  ถึงตอนนี้แม้ว่าสติสัมปัชชัญญะจะลดน้อยถอยลงไปเท่าไหร่

    แต่สัญชาติญาณการเอาตัวรอดยังพอมี  ร่างบางจึงตัดสินใจเคลื่อนย้ายตัวไปนั่งทรุดแพะพิงอยู่กับลำต้นของสนใหญ่

    โดยอาศัยกิ่งก้านและใบของมันที่แผ่ออกเป็นที่หลบพายุหิมะ  . . แต่อุณหภูมิที่เริ่มลดลงเรื่อยๆและเสื้อผ้าหนาที่ตอนนี้

    เปียกชุ่มอย่างไม่สามารถจะช่วยบรรเทาความหนาวได้นี่สิ . . มันช่างน่าหวั่นใจ . . ร่างบางกระชับอ้อมกอดตัวเองเอาไว้แน่น

    . .  หนาวจนสั่นสะท้าน . . รู้สึกเหมือนกำลังจะแข็งตาย

     

     

     

    หนาวจังเลย . .  ซองมิน . . เราขอโทษ . .

     

     

    เราน่าจะเชื่อซองมินตั้งแต่แรก . .

     

     

    ซองมินไม่โกรธเรานะ . . . .

     

     

    ซองมิน เรารัก ซองมิน  . . ซองมินเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา . .

     

     

     

     

    และในที่สุดทงเฮก็ไม่สามารถทัดทานกับสภาพอากาศที่เลวร้ายได้

    . . ดวงตาคู่สวยเริ่มปรือลงช้าๆด้วยหนักอึ้งและจึงผล็อยหลับลงไปอย่างเหนื่อยล้าและอ่อนแรง

     

     

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

     

     

    แผล็บ ๆ . .  แผล็บ ๆ . .

     

     

     

    อื้อ...อื้ม.....

     

    เปลือกตาบางที่ปิดสนิทอยู่ค่อยๆเปิดขึ้นและกระพริบถี่เพื่อปรับโฟกัสให้รับกับภาพตรงหน้า

    ความชื้นแฉะที่เปียกบนผิวแก้มส่งผลให้ทงเฮขยับตัวอย่างช้าๆ

     

     

     

    คุณครับ  คุณครับ  คุณเป็นอะไรมั้ย?”

     

     

     

     

    เสียงใครกัน . .  เสียงซานตาครอสงั้นหรอ ?

     

     

    ไม่จริงใช่มั้ย ?  ถ้าฉันไม่ได้ฝัน  ฉันก็คงจะตายแล้ว . . แต่คนอย่างฉันได้ขึ้นสวรรค์เนี่ยนะ . .

     

     

    แต่ว่า . . ซานต้าไม่ได้อยู่บนสวรรค์นี่ . . แล้วเสียงนั่นเป็นของใครกัน . . ?

     

     

     

     

    คุณ ๆ  คุณไหวมั้ย?”

     

    เสียงหนาทุ้มยังคงพร่ำเรียกต่อไปโดยหวังที่จะให้คนที่นอนยังไม่ได้สติดีรู้สึกตัว

     

     

     

    อื้ม .... คะ คุณเป็นใครน่ะ ? .. แล้ว อ๊ะ.... น้องหมา ..คิกๆ.... จั๊กจี้ ~”

     

    ใบหน้าสวยหลบหลีกไปมาด้วยคงเป็นเพราะเจ้าสัตว์ที่ว่ามันกำลังลวมลามทงเฮ

    โดยการเลียหูเลียหน้าตาและแม้กระทั่งปากแดงๆไปมาจนร่างบางต้องขยับตัวหนี

     

     

     

    เรนเดียร์  ออกไป!!!”

     

    และเสียงหนาทุ้มนั่นที่สั่งอย่างหนักแน่นให้เจ้าสุนัขชื่อเรนเดียร์ออกไปนั้น  ก็ดูจะเรียกความสนใจให้ทงเฮ

    หันกลับมามองหลังจากกลิ้งตัวไปหลบมุดอยู่ใต้กองหมอนหนานุ่มบนเตียงกว้างได้ดี

     

     

     

    ขอโทษครับ  พอดีผมเลี้ยงมันอย่างนี้จนมันเคยตัวนะครับ

     

    ทงเฮลุกขึ้นมองคนแปลกหน้าด้วยท่าทีและสีหน้างุนงงเล็กน้อย  ร่างเล็กเอียงคอมองจนเพลิน

    ใบหน้าหล่อคมค่อนไปทางน่ารักด้วยแก้มอูมๆ  รอยยิ้มอบอุ่นแบบเต็มแก้มที่ส่งผลให้ดวงตากลมสีดำสนิท

    หยีเสียจนดูเหมือนอาตี๋เมืองฝรั่งในชุดเสื้อสเว็ตเตอร์สีขาว . . และภาษาพูดที่ทงเฮฟังรู้เรื่องอย่างชัดแจ้งเต็มสองหู

    โดยไม่ต้องอาศัยล่ามประจำตัวอย่างเพื่อนรักที่มาด้วยกันแปลให้ . . .   ใช่ . . .  คนๆนี้เป็นคนเกาหลี 

    แล้วที่นี่บ้านไม้ท่อนซุงหลังโต  . . กับเตียงนุ่มๆที่ตัวเองกำลังนอนอยู่

     

     

     

    รอดตายแล้วล่ะสิ! แล้วแถมคนช่วยชีวิตยังหล่อมากมายซะอย่างนี้อีก  . . ตกลงยังจะตะโกนว่า

    อะไรจะมีความสุขเท่านี้!! ได้อยู่ใช่มั้ย ??

     

     

     

     

    คุณครับๆ คุณไม่ได้เป็นอะไรแน่นะ??”

     

    และแล้วก็ถูกปลุกตื่นจากภวังค์จนได้เมื่อใบหน้าของคนที่หลงใหลอยู่เมื่อครู่ขยับเข้ามาใกล้จนเว้นระยะไว้เหลือแค่คืบ

     

     

     

    อะ อืม  ไม่เป็นอะไร  ขอบคุณมากนะที่ช่วยฉันไว้

     

    ใบหน้าสวยก้มงุดๆหลบสายตาที่มองมาอย่างเคอะเขิน  ผิวแก้มที่แดงฝาดรับกับอากาศหนาวยิ่งดูขึ้นสีจัดเข้าไปใหญ่

    คนที่ให้ที่พักอาศัยและให้ความช่วยเหลือจะรู้บ้างรึป่าวนะ  ว่าคนตรงนี้หัวใจมันกำลังเต้นโครมครามๆจนแทบจะ

    พังครืนทะลุออกมานอกอก

     

     

    จริงๆต้องขอบคุณเจ้าเรนเดียร์นะครับ  เพราะมันบังเอิญไปพบคุณเข้าในระหว่างเวลาเดินเล่นของมัน

     

    คิบอมหันมองไปยังสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ตัวสีขาวขนฟูตัวใหญ่ที่นั่งกระดิกหางให้อยู่ปลายเตียง

    ก่อนจะกลับมาส่งยิ้มนุ่มๆให้กับร่างบางที่พยักหน้ารับอย่างเข้าใจพลางหันไปยิ้มและโบกมือให้เจ้าขนปุยตัวโตนั่น

    เป็นเชิงขอบคุณ

     

     

    อ่อ  ผมลืมแนะนำตัว . . ผมคิม คิบอมครับ

     

    ร่างสูงยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อทักทายอย่างเป็นทางการกับมิตรภาพใหม่

     

     

     

    อะ .. อืม ฉันชื่อทงเฮ  ลี ทงเฮ

     

    ทงเฮยื่นมือไปจับตอบพร้อมกับรอยยิ้มหวานระคนเขิน  แต่แล้วก็ต้องหน้าร้อนฉ่าเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว

    จนต้องรีบชักมือกลับไวๆเมื่อคิบอมกระชับมือทงเฮไว้ทั้งแน่นและนานมากเกินไป . . ก็เกรงว่าหัวใจจะวายไปก่อนน่ะสินะ

     

     

     

    เรนเดียร์มันมาฉุดกระชากลากถูผมใหญ่  จนผมต้องขับสโนโมบิลฝ่าพายุหิมะตามมันไป  แล้วก็ไปพบกับคุณเข้า

     

     

     

    ......

     

    ร่างสูงเล่าไปพลางขยับตัวออกมาจากเตียงจนฟูกที่ยุบตัวลงไปกลับเด้งขึ้นมาก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบผ้านวมผืนหนา

    ที่ร่นลงมาบริเวณเอวของทงเฮห่มให้คนที่นั่งเคลิ้มพิงตัวกับหัวเตียง

     

     

    อืม  ขอบคุณ . . เอ่อ แล้ว . .

     

    ร่างบางดึงผ้าห่มกระชับอุ่นให้ตัวเองอีกแรงพลางก้มลงมองดูเสื้อไหมพรมสีเทาตัวสวยที่สวมใส่อยู่ . .

     

     

     

    อ่อ คือ ผมต้องขอโทษที่ถือวิสาสะนะครับ  แต่ผมคงให้คุณนอนทั้งเปียกๆอย่างนั้นไม่ได้

     

    คิบอมระบายยิ้มให้บางๆพลางก้มหัวให้เป็นเชิงขอโทษ

     

     

     

    คือ ฉันไม่ได้ว่าอะไร เพียงแค่อยากจะขอบคุณก็เท่านั้นน่ะ

     

     

    ไม่เป็นไรหรอกครับ . . ถ้าอย่างนั้นคุณทานซุปนี่ซักหน่อยนะครับ  แล้วจะได้นอนพักผ่อน

     

    คิบอมหยิบชามเซรามิกสีขาวที่บรรจุซุปอุ่นข้นสีส้มอ่อนพร้อมชิ้นแครอทหั่นขนาดลูกเต๋าเล็กๆโรยหน้า

    บนโต๊ะไม้ข้างเตียงให้ทงเฮรับไว้  ก่อนจะค่อยๆบรรจงจัดแจงวางผ้ากันเปื้อนสีฟ้าเข้มลายสก็อตวาง

    ลงบนตักทงเฮทันทีที่เจ้าตัวขึ้นขยับนั่งขัดสมาธิให้ดูถนัดถนี่มากยิ่งขึ้น 

     

     

    คุณใจดีจัง  คือฉัน . . เอ่อ . . ฉะ . . ฉันเกรงใจ . .

     

    ร่างบางยังคงอ้ำๆอึ้งๆไม่กล้าทานของที่รับมา

     

     

    อย่าเกรงใจไปเลยครับ  ถือซะว่าผมเป็นเพื่อนใหม่ของคุณไง . .

     

    คิบอมเอื้อมมือไปจับที่มือทงเฮเพื่อให้คนตัวเล็กเริ่มตักซุป

     

     

    อะ...อืม ขะ ขอบคุณอีกครั้งนะ

     

    หัวใจแทบจะแหวกอกออกมาเต้นเร่าๆ ร่างบางดึงมือออกจากการถูกเกาะกุมเร็วๆ

    พลางเสตาหลบด้วยหวั่นไหวจนคิบอมอดจะยิ้มขำไม่ได้

     

     

     

    “’งั้นทานเยอะๆนะครับ^^”

     

    ความใจดีของเจ้าของบ้านที่น่ารักช่างสร้างความประทับใจพาให้หัวใจดวงน้อยทงเฮพองโตทุกครั้งที่บังเอิญสบตา 

    หรือเผอิญถูกเนื้อต้องตัวกันโดยไม่ตั้งใจ  มือเล็กหยิบจับช้อนถือไว้ก่อนค่อยๆจะพยายามเอียงตัวเล็กน้อยเพราะกลัวว่า

    ท่าทีการรับประทานของตัวเองจะตลกเกินไป  และความกังวลสารพัดก็แล่นริ้วที่ขึ้นมาในสมองจนแทบจะไม่เป็นอันกิน 

    ท่าทางดูอึดอัดของทงเฮสำหรับคิบอมที่นั่งมองอยู่แม้ว่าเค้าจะรู้สึกได้  แต่ก็เพราะความน่ารักของคนตัวเล็กจึงยาก

    ที่จะตัดใจยอมปล่อยให้ร่างบางอยู่คนเดียว  พอๆกับทงเฮที่แม้ตัวเองเหมือนจะตกอยู่ในสภาพลำบากนิดหน่อย 

    ในการกินแต่ก็เต็มใจที่จะให้คิบอมนั่งอยู่ใกล้ๆเช่นกัน

     

     

     

    และในระหว่างมื้ออาหารของผู้พึ่งพิง  คิบอมก็พยายามชวนทงเฮพูดคุยเพื่อสร้างความเป็นกันเอง

    โดยอยากให้ทงเฮเปิดใจและทำตัวตามสบายมากขึ้น  จนทงเฮเองก็ยอมรับว่าเค้ารู้สึกดีกับผู้ชายคนนี้

    มากขึ้นเรื่อยๆและรวดเร็วอย่างไม่เคยเป็นอย่างนี้กับใครมาก่อน . .

     

     

     

    ทำไมคิบอมถึงมาอยู่ที่นี่คนเดียวล่ะ?”

     

    เริ่มจะยอมเปิดปากถามในสิ่งที่ตนเองอยากรู้ขึ้นมาบ้างหลังจากเป็นฝ่ายนิ่งเงียบ 

    คอยฟังและส่งยิ้มหวานให้คิบอมมาอยู่นาน

     

     

     

    ทุกปีพอถึงช่วงเทศกาลคริสมาสต์ผมก็มักจะขอพ่อแม่มาอยู่ที่นี่น่ะครับ

     

    คิบอมยิ้มไปตอบไปพลางเอื้อมมือไปหยิบชามซุปจากมือทงเฮทันทีอย่างไม่รีรอให้ร่างบางขอให้ช่วย

    เมื่อเห็นว่าซุปในชามหมดเกลี้ยงจนทงเฮต้องก้มหัวให้อีกสองสามครั้งอย่างแสดงความขอบคุณ

     

     

    แล้วพ่อแม่ไม่ว่าหรอ ??  ปีใหม่ทั้งทีท่านน่าอยากจะอยู่กับคิบอมนะ

     

    แววตาซุกซนช่างสงสัยยังคงจ้องมองคิบอมตาไม่กระพริบเหมือนอยากรู้อยากเห็นเสียมากมาย

     

     

    ฮะๆ ครับ  ท่านคงชินแล้วน่ะครับ  ท่านรู้ว่าผมรักที่นี่มาก แล้ว ....ผมหวงที่นี่มากด้วยนะ

     

    ถึงตอนนี้ทงเฮหน้าเจื่อนลงไปเล็กน้อยอย่างรู้สึกผิดยังไงบอกไม่ถูก

    ในใจก็ได้แต่คิดว่าคิบอมคงจะจำใจหน้าดูที่ยอมพาคนอย่างตัวเองเข้ามาเหยียบในบ้านสุดรัก

    ใบหน้าสวยสลดไปทันตาอย่างไม่เก็บอาการส่งผลให้คิบอมแอบลอบขำเล็กๆอย่างเอ็นดู

     

     

    .....แต่กับทงเฮผมเต็มใจนะ  ยังไงก็พักอยู่กับผมจนกว่าพายุหิมะจะสงบแล้วกันนะครับ

     

    คิบอมวาดยิ้มกว้างอย่างดูดีให้จนทงเฮสำลักความหล่อตัวแทบลอย  ร่างบางมองตามร่างสูงทุกอิริยาบถ

    ไม่ว่าจะหันหลังเดินไปเลิกม่านที่หน้าต่างเพื่อให้ดูความรุนแรงของพายุหิมะที่กำลังโหมกระหน่ำด้านนอก

    หรือจะเดินกลับมารินน้ำในกระบอกเก็บน้ำร้อนสีเงินลงแก้วแล้วยื่นให้

     

     

     

    อะ....อืม...

     

    มือเล็กรับแก้วมาถือไว้กับตัวก่อนจะก้มจรดริมฝีปากลงกับขอบแก้วมนอย่างไม่ยอมสบตา

    ร่างสูงยิ้มมุมปากนิดๆอย่างรู้ทันปฏิกิริยาเขินอายก่อนจะค่อยๆถอนตัวออกไปจากห้องพร้อมกับหยิบ

    ชามเปล่าไปเก็บยังห้องครัว

     

     

     

    เฮ้อๆ..ทงเฮ  ทำไมแกเป็นคนอย่างนี้น๊า  แกจะเขินไปไหนนักหนาเนี่ย!”

     

    บ่นงึมงำทำหน้าง้ำงออยู่กับตัวเองก่อนจะเริ่มยกน้ำเปล่าขึ้นดื่ม ....

     

     

     

    โอ๊ยๆ ร้อนๆๆๆ!!!!!!!!!!!!!!”

     

    ทั้งๆที่ก็รู้ว่าควันฟุ้งออกอย่างนั้นมันบ่งถึงอุณหภูมิของน้ำในแก้วได้ดีแต่ก็ยังดันทุรังดื่มเข้าไปเต็มคำ

    จนลวกปากพองให้ได้สะดุ้งกระชากแก้วออกจากปากเร็วๆจนหกรดมือ . . นั่นยิ่งทำให้หนักเข้าไปใหญ่

     

     

    ทงเฮ!!!!”

     

    และก็ทันท่วงทีเมื่อร่างสูงรีบวิ่งกลับเข้ามาในห้องอย่างตื่นตกใจเมื่อได้ยินเสียงโวยวาย 

    คิบอมถลาตัวเข้าไปนั่งด้านข้างจนเตียงยวบ  นัยต์ตาคมกวาดมองรอบแล้วก็เห็นหยดน้ำที่หกเลอะ

    ทั้งผ้าปูที่นอนและเสื้อตัวอุ่นของร่างบางจึงรีบดึงกระดาษทิชชู่ในกล่องบนโต๊ะใกล้เตียงมาซับให้

     

     

     

    ร้อนๆๆ อ๊า...ปากพองเลย!!”

     

    ทงเฮอ้าปากพลางแลบลิ้นออกมา  มือเล็กพัดโบกไวๆด้วยหวังว่าลมเล็กน้อยนั่นจะสามารถ

    บรรเทาอาการเจ็บปวดที่ลิ้นระบมได้

     

     

     

    มานี่!”

     

    แล้วก็เท่าทันใจคิดเมื่อคิบอมโน้มคอทงเฮเข้ามาประกบปาก  เรียวลิ้นอุ่นแทรกซึมลึกเข้าไปเกี่ยวกระหวัด

    กับลิ้นพองของอีกคนในโพรงปากอ่อนนุ่มทั้งเร่าร้อน หนักหน่วงและเนิ่นนานราวกับว่าวิธีนี้จะเป็นหนทาง

    เดียวที่จะสามารถสลายความเจ็บปวดให้จางหายไปได้

     

     

     

    เป็นยังไงบ้างครับ!!?  ดีขึ้นรึยัง!!??”

     

    คิบอมถอนริมฝีปากออกและถามไถ่ด้วยสีหน้าที่ยังคงเป็นห่วงไม่หาย

     

     

    อะ อืม...ดีขึ้นแล้ว

     

    ร่างบางนั่งหอบหน้าแดงซ่าน  ริมฝีปากสีหวานที่ตึงอิ่มมีเลือดซึมนิดๆด้วยคงเป็นเพราะแรงจูบของอีกคน 

    . . . ใครเค้าใช้ให้รักษากันด้วยวิธีนี้เล่าคิม คิบอม

     

     

     

    ดีจัง! ผมตกใจหมดเลย

     

    มืออุ่นทาบลงที่แก้มใสพลางใช้นิ้วหัวแม่มือคลึงแตะลงที่ริมฝีปากบางเฉียบที่ช้ำเล็กน้อยอย่างแผ่เบา

    สีหน้าและท่าทีเป็นห่วงมากผิดแผกจากการปฎิบัติต่อคนที่เพิ่งรู้จักกันมันทำให้ทงเฮรู้สึกมึนหัวติ้วๆลมแทบจับ

    . . ให้ตายเถอะเฟิร์สคิสนะ  หรืออีกคนเห็นเป็นเรื่องธรรมดากัน . . ต่อให้อยู่เมืองฝรั่งและเป็นวัฒนธรรมที่เค้า

    อาจจะเคยชิน . . แต่กับทงเฮไม่ใช่นี่ . .

     

     

    เอ่อ ....คือ

     

    ร่างบางอ้ำอึ้งพูดไม่ออก  ลมหายใจเริ่มติดๆขัดๆ . . จากที่ไม่ได้เป็นอะไรก็เริ่มรู้สึกเหมือนไข้จะจับก็เพราะ

    ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าเนี่ยแหละ

     

     

    ถ้าอย่างนั้นไม่เป็นอะไรแล้วนะครับ  เดี๋ยวผมออกไปเอาน้ำธรรมดามาให้คุณดื่มแทนดีกว่านะ

     

    น้ำเสียงยังคงเรียบเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  จนหัวใจที่เต้นโครมครามอยู่เมื่อครู่หล่นวูบเหมือนตกจากที่สูง  . .

    ดวงตากลมใสมองตามแผ่นหลังอีกคนจนเค้าเคลื่อนตัวออกไปนอกห้องถึงได้พรูลมหายใจออกมายาวเหยียด

     

     

     

    ฮ๊า!  อะไรกันเล่าคุณคิม คิบอม นั่นจูบแรกของฉันเลยน๊า

     

    กำปั้นเล็กๆทุกลงกับหมอนนิ่มที่ดึงมาวางไว้บนตักอย่างขัดใจกับอาการไม่รู้ร้อนรู้หนาวของคิบอม

     

     

     

    แต่ . . ใครจะรู้ว่าอาการแปลกๆแบบนี้ไม่ใช่กับทงเฮเท่านั้นหรอกที่เป็น

    เพียงแต่คนที่มายืนหน้าแดงแปร๊ดลามไปถึงหูแล้วทรุดลงนั่งพิงหลังกับบานประตูห้องอย่างคิบอมน่ะ

    . . เก็บอาการเก่งกว่าก็เท่านั้นเอง

     

     

     

    แผล็บ ๆ แผล็บ ๆ . . .

     

    อึ๋ย...~!  อะไรเล่าเรนเดียร์ ห้ามเลียปากนะ!!”

     

    ดูท่าเจ้าเรนเดียร์มันจะรู้ทันว่าตอนนี้เจ้านายของมันอารมณ์ดีขนาดไหน  จึงลุกขึ้นจากที่นอนอุ่น

    บริเวณหน้าเตาผิงไฟเข้ามาคลอเคลียเล่นพลางแลบลิ้นยาวๆเปื้อนน้ำลายเหนียวเหนอะเลีย

    ที่แก้มป่องๆให้นัวเนียไปหมด . . และก็เป็นอย่างที่ออกคำสั่งแหละนะ  ห้ามเลียปาก . .

    ก็ใครอยากจะให้รสชาติหวานล้ำที่เพิ่งได้ลองลิ้มชิมมาอย่างเหมือนลักไก่เล็กๆจางหายไปเร็วนักกันล่ะ

     

     

     

    ฮะๆ พอเลยแก ... ไปนอนทางนู๊นนะวันนี้  ห้ามนอนในห้อง  วันนี้ต้องให้คนสวยเค้านอนเข้าใจมั้ย?”

     

    มือใหญ่ลูบเบาๆอย่างเอ็นดูบนหัวเจ้าเรนเดียร์ไปพลางนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว . .

    และสายตาก็เหลือบมองไปยังนอกหน้าต่าง . . และปฏิทินบนผนังที่ถูกกากบาททับวันที่เลยผ่านมา

    จนมาหยุดอยู่ตรงวันที่ 30 ซึ่งก็ตรงกับวันนี้ . .

     

     

     

     

    ถ้าพายุหิมะสงบหลังปีใหม่ก็คงจะดีสิ

     

     

     

     

     

     

    2Be con 

    ปล. คาดว่าสองตอนจบฮับ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×