ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Valencia , เจ้าหญิงนิรนาม

    ลำดับตอนที่ #3 : เจ้าชาย

    • อัปเดตล่าสุด 5 ต.ค. 54


                                                  เจ้าชาย

     

    ยามรุ่งอรุณ กลิ่นดอกไม้หอมกรุ่นโชยมาแตะที่ปลายจมูก ปลุกวาเลนท์เซียให้ตื่นจากห้วงนิทรา ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนหนาวเหน็บในยามเช้า ทำให้ร่างกายของเธอสั่นเทา อาจเป็นเพราะผ้าคลุมไหลผืนบางนั้นไม่สามารถปกคลุ่มร่างกายของเธอให้อบอุ่นจากสายลมหนาวได้

    ภายในห้องอันกว้างใหญ่ หญิงสาวมองไปรอบๆห้องนั้นก่อนจะก้าวเท้าเดินไปยังระเบียงหน้าต่างของห้อง

    ดอกไม้ในสวนของปราสาท ทำให้เธอนึกหวนกลับไปยังช่วงเวลาอันแสนสุขของเธอ และ ครอบครัว ดอกไม้นานาพันธุ์ที่เธอและท่านแม่ของเธอ บรรจงปลูกขึ้นมา ในครานี้ดอกไม้เหล่านั้นเจริญเติบโตขึ้นมากแล้ว

    ก๊อก ก๊อก!

    เสียงเคาะที่ดังมาจากทางด้านของประตู เรียกสติที่ตกอยู่ในภวังค์ในเธอรู้สึกตัว

    วาเลนท์เซีย เจ้าตื่นหรือยัง? เสียงอันคุ้นหูเอ่ยขึ้น ทั้งที่เธอยังไม่ได้เปิดประตูเสียด้วยซ้ำ

    ราเควล์ นั่นเจ้าหรือ? ฉันเอ่ยถาม

    ใช่ ข้าเอง เมื่อราเควล์ตอบ เธอก็เปิดประตูไม้ขนาดใหญ่ออก และภาพที่เธอเห็นนั้นคือ ราเควล์ยืนยิ้มต้อนรับอยู่ที่หน้าประตูเสียแล้ว

    อรุณสวัสดิ์ ราเควล์พูดพร้อมกับมอบรอยยิ้มมิตรภาพให้กับเธออีกครั้ง

    มีเรื่องอะไรแต่เช้าอย่างนั้นหรือ? เธอถาม

    เจ้าชายต้องการพบกับเจ้าโดยด่วน ข้าก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด หรือเจ้าไปทำเรื่องอะไรไว้อย่างนั้นหรือ? และสิ่งที่เขาราเควล์บอกกับเธอ ทำให้ฉันรู้สึกถึงความผิดปกติทางระบบหายใจของตนเอง อาจเพราะความเป็นกังวลที่จะเข้าพบกับบุคคลที่เป็นกบฏ ลอบสังหารท่านพ่อและท่านแม่ หรือเป็นเพราะ ใบหน้าเคร่งขรึมที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มของชายหนุ่มคนดั่งกล่าวเมื่อคืนนั้น ที่ทำให้เธอ  รู้สึกหวั่นเกรง วาเลนท์เซีย เจ้ายังฟังข้าอยู่ไหม? ราเควล์เอ่ยทักขึ้นอีกครั้ง

    ขอบใจเจ้ามากที่มาบอกข้าแต่เช้า ไม่นานข้าจะตามไปและเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่หญิงสาวต้องการ รอยยิ้มแห่งความพึงพอใจก็ผุดขึ้นบนใบหน้าของเธอ

    หลังจากที่ราเควล์เดินจากไป สิ่งแรกที่ฉุกคิดได้นั้นคือการแต่งตัวเพื่อยั่วยวนแก่สายตา

    วาเลนท์เซียเดินทอดน่องไปตามทางยาวของแนวปราสาท ผู้คนมากหน้าหลายตา ล้วนแล้วแต่เป็นคนแปลกหน้าที่เธอไม่เคยเห็น

    เธอเดินเรื่อยจนเวลาต่อมา เธอหยุดอยู่ยัง ทางเข้าของท้องพระโรง สถานที่แห่งนี้ เคยเป็นสถานที่ที่เธอเคยเต้นรำเพื่อเป็นการแสดงถวายท่านพ่อ และ ท่านแม่ เนื่องในวันเกิดวันครบรอบอายุสิบสามปีของเธอ

    เธอย่างกรายเข้าไปในท้องพระโรงอย่างเชื่องช้า และแล้วทุกสายตาก็จ้องมองมาที่เธอ

    ยินดีต้อนรับ วาเลนท์เซียเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหน้าของเธอ เป็นผู้ชายร่างใหญ่แข็งแกร่ง ดูไปช่างคุ้นตาเสียเหลือเกิน

    นี่เจ้า นะหรือคือราชาแห่งอนาตาเซีย เธอไม่อยากจะเชื่อสายตาของตนเอง ชายหนุ่มผู้นั้นที่เธอพบกับเขา ในเวลานี้เขาได้ขึ้นไปนั่งอยู่ยังตำแหน่งที่ท่านพ่อของเธอเคยประทับอยู่

    นี่นะหรือ กบฏแผ่นดิน

    เหอะ! คาดไม่ถึงสินะ สาวน้อยแววตาและวาจาเย้ยหยันของเขามองไปยังวาเลนท์เซียอย่างดูถูกดูแคลน ไม่เพคะ! หากแต่หม่อมฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าท่านจะเป็นราชา คำพูดไม่กี่คำของเธอที่แฝงไปด้วยนัยความแค้น เธอจ้องมองไปยังตาคู่นั้นของเขาอย่างไม่เกรงกลัว

    ข้าบอกกับเจ้าแล้ว ว่าเจ้าควรจะเรียกข้าว่าเจ้าชาย

    เพคะ เจ้าชาย!” อาจจะต้องกัดฟันดังกรอดในการเอ่ยสนทนากับเจ้ากบฏนั่น แต่เพื่อทุกอย่างที่ได้คืนมาแล้วนั้น อาจจะคุ้มเสียยิ่งกว่า วาเลนท์เซียคิดในใจ

    วาเลนท์เซีย นั่นคือชื่อของเจ้าใช่หรือไม่?

    เพคะ นั่นคือชื่อเสียงเรียงนามของข้า

    ไพเราะยิ่งนัก ข้าขอแสดงความยินดีที่ได้รู้จักนามของเจ้า ส่วนข้า เจ้าชายกาเรทธ์ เพียงแต่เขาแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น อย่างไม่เกรงต่อสิ่งใด เขาคิดว่าเขาคือผู้ที่จะสามารถชนะทุกอย่างเพียงผู้เดียวอย่างนั้นหรือ หญิงสาวตระหนักเสมอว่าเขาคงจะภาคภูสิใจ ที่สามารถแย่งชิงทุกสิ่งอย่างของท่านพ่อของธอไป

    ขอบพระทัย เพคะเจ้าชาย ที่ยอมลดศักดิ์อันสูงส่งเผื่อสนทนากับหญิงสามัญชนต่างเมืองอย่างข้า

    ข้าไม่ถือตัวกับผู้ใดในบรรยากาศที่มาคุนั้น วาแลนท์เซียและกาเรทธ์ฟาดฟันกันด้วยนัยน์ตาที่ไม่เกรงกลัวซึ่งกันและกัน

    ท่านมิถือตัว ช่างเป็นองค์ราชาที่น่าเลื่อมไสเสียจริงเนื่องจากนัยน์ตาห้ามปรามของราเควล์ วาเลนท์เซียจึงต้องเปลี่ยนศัพท์นามนำหน้าชื่อของกาเรทธ์

    จะเป็นเจ้าเป็นนาย เป็นหญิงสามัญชนหรือจะเป็นนางซ่องนางโรง ข้าก็ไม่ถือตัวเพราะทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นคนเช่นกันทั้งนั้น ด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างนั้นทำให้รู้ว่ากาเรทธ์จงใจกล้าวหาเธอโดยตรง

    ข้ายอมฟังถ้อยคำดูถูกเช่นนั้นเพื่อนสิ่งใดกัน วาเลนท์เซียคิดในใจ

     ถ้าเช่นนั้น ข้าก็ขอถวายตัวเพื่อเป็นข้าทาสบริวารของเจ้าชายด้วยนะเพคะเธอมอบรอยยิ้มมุมปากให้กับชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์ตรงหน้า ก่อนจะน้อมตัวลงเพื่อถวายความเคารพผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าชายแห่ง อนาตาเซีย

    ข้าไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมีหญิงงามอย่างเธอ มาขอเข้าเฝ้าเพื่อที่จะถวายตัวเป็นทาส ช่างน่าแปลกเสียจริงๆ

    หากแต่ข้าก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเช่นกัน ว่าจะได้เข้าเฝ้าเจ้าชายเพื่อเหตุนี้ แต่ข้าไม่มีทางเลือก

    อย่างนั้นหรือ แต่เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจว่า เจ้าเข้าถวายตัวให้กับข้านั้น ก็เปรียบว่าเจ้าได้เป็นนางถวายตัวของข้าแล้ว เจ้าจะยอมเสียศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงอย่างนั้นหรือ?นัยน์ตาไม่ไว้วางใจนักของกาเรทธ์บ่งบอกว่าเขาไม่ไว้ใจวาเลนท์เซียเลยสักนิด

    ข้าบอกกับเจ้าชายแล้ว ว่าข้าไม่มีทางเลือก ข้าเดินทางมาไกลจากต่างเมือง เดินทางเข้ามายัง อนาตาเซียแต่เพียงผู้เดียว ในอาณาจักรแห่งนี้ข้ารู้จักเพียงราเควล์ราเควล์สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกหญิงสาวกล่าวถึงเจ้าชายจะยังทรงใจกับหญิงสาวตัวคนเดียวไร้ซึ่งญาติมิตรอย่างข้าเชียวหรือ การใช้มายาเพื่อลวงให้อีกฝ่ายหลงเชื่อ เป็นสิ่งไม่ดี แต่เป็นความคิดที่ฉลาดนักสำหรับหญิงสาว หญิงงามอย่างเจ้า มิน่าทำตัวเช่นนี้เลย กาเรทธ์เอ่ย

    หากแต่ข้ามีทางเลิกอื่นใด ข้าจะไม่ยอมทำลายศักดิ์ศรีตนเองเช่นนี้หรอก หญิงสาวกล่าวในขณะที่ยังไม่ลดละสายตาออกจากชายหนุ่ม

    เหตุใดเจ้าจึงอยากเป็นนางถวายตัวของข้านัก กาเรทธ์ไถ่ถามอย่างไม่ละสายตาเช่นกัน

    ข้าบอกท่านแล้ว ว่าข้าไม่ทางเลือก

    หากเจ้ายืนยันเช่นนั้น ข้าเองก็ไม่มีปัญหาเพราะข้าเป็นชายข้าย่อมไม่เสียหาย แต่หญิงอย่างเจ้า คงจะเสียหายมิน้อย กาเรทธ์ยังคงสร้างความกดดันให้กับวาเลนท์เซียอย่างต่อเนื่อง

    ข้าขอยืนยัน!” หญิงสาวตะคอกด้วยน้ำสียงแข็งกร้าว พร้อมกับลุกพรวดพลาดออกไปโดยไม่สนใจชายหนุ่มที่มียศถาบรรดาศักดิ์สูงกว่าเลยแม้แต่น้อย

    หลังจากที่เสียงประตูไม้ขนาดใหญ่ของ ท้องพระโรงปิด ความเงียบสงัดที่กอบกุมในใจของกาเรทธ์ทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้ ว่าวาเลนท์เซีย หญิงงามจากแดนไกลนั้นต้องสิ่งใดกันแน่ และการที่หญิงสาวผู้ที่มีนัยน์ตาแข็งกร้าวเช่นนี้จะมาเสนอตัวเป็นนางถวายตัวให้กับเขานั้นเห็นจะเป็นเรื่องยาก

    เจ้าชาย พระองค์จะทรงทำเช่นไรต่อไป? ราเควล์ สหายคนสนิทเอ่ยถามกาเรทธ์

    ข้าก็จะรับข้อเสนอของนางสิ ข้าก็อยากจะรู้นักว่านางจะเก่งจริงอย่างที่ปากว่าหรือไม่กาเรทธ์

                ล่าวพร้อมกับพิจารณาสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น

    แต่ข้าว่านางดูไร้เดียงสาราเควล์ยังคงพยามยามเกลี้ยกล่อมให้กาเรทธ์เปลี่ยนแปลงความคิด

    ข้าว่า นางดูมีบางอย่างที่ต่างไปจากหญิงอื่น  นางดูเย้อหยิ่งและหวงศักดิ์ศรี แต่นางกับมายื่นข้อเสนอเพื่อเป็นนางถวายตัวให้ข้า เจ้าไม่คิดว่ามันแปลกบ้างหรือ?

    แต่ข้าว่า แววตาของนางดูไร้ความรู้สึก เหมือนกับนางมีเรื่องเลวร้ายอยู่ภายในใจ นางคงต้องการหาบางสิ่งบางอย่างเพื่อทดแทนสิ่งที่หายไปเสียมากกว่า

    ข้าว่านะ เจ้าเลิกปกป้องนางเสียเถอะ เพราะไม่ว่าอย่างไรข้าก็ไม่เปลี่ยนใจหรอก ข้าเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่านางจะทนข้าได้สักแค่ไหน!”

    เมื่อกาเรทธ์พูดจบ ราเควล์ก็ถอนหายในเฮือกใหญ่ เพราะความดื้อรั้นของเจ้าชายผู้เป็นเพื่อนสนิทของเขา

    นางพักอยู่ที่ใด? กาเรทธ์เอ่ยถามก่อนที่ราเควล์จะเดินออกจากท้องพระโรงไป

    นางพักอยู่ที่เรือนตะวันออก ราเควล์ตอบทั้งที่หันหลังให้กับเพื่อนสนิทของตน

     ช้าว่านางดูจะไว้ใจเจ้านะราเควล์ ฉะนั้นเจ้าจงไปบอกนางย้ายมาอยู่วังใน เรือนใกล้ๆข้า

    หลังจากที่กาเรทธ์พูดจบนั้น ราเควล์ก็เดินออกไปอย่างเงียบเฉย ไม่มีแม้แต่เสียงถอนลมหายใจเหมือนกับครั้งไหนๆ

     

    ห้วงของความรู้สึกในเวลานี้นั้น วาเลนท์เซียรู้สึกรังเกียจจิตใจของตนเองเหลือเกินที่ได้กล่าวถ้อยคำที่น่ารังเกียจนั้นออกไป เพียงเพราะว่าต้องการจะเอาชนะกาเรทธ์ชายหนุ่มที่แย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากชีวิตของเธอ

    สิ่งเดียวที่ข้าต้องการ คือข้าต้องการทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของข้าคืนมา เจ้าคนชั่วคนนั้นไม่สมควรที่จะยืนอยู่ยังบัลลังก์ของท่านพ่อของข้าเลยแม้แต่น้อย

    ความรู้สึกของหญิงสาวยังคงแข็งกร้าว

    ภายในจิตใต้สำนึกถึงแม้จะมีความเคียดแค้น แต่ยังแฝงไปด้วยความว่างเปล่าที่ยากจะทำความเข้าใจได้ เพียงเพราะว่า รอยแผลภายในอดีตนั้นได้สร้างความร้าวฉานภายในจิตใจทำให้เด็กสาวในครั้งนั้น เติบโตขึ้นเป็นหญิงสาวที่จมอยู่กับปมของความแค้น

    หากเปรียบเทียบแล้วเธอคงเป็นหญิงสาวที่น่าสงสารมากที่สุด เพราะเธอต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก และด้วยเส้นทางที่ไม่มีแม้แต่ทางเลือก เธอจึงต้องก้าวผ่านช่วงเวลาที่ตกต่ำของชีวิต เพื่อเข้าเป็นนางถวายตัวกับชายที่นางเรียกเขาว่า กบฏ

     

    แสงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณทอจ้า ปลุกวาเลนท์เซียให้ตื่นจางภวังค์ของความเศร้า คราบน้ำตาที่เปียกแก้มยังคงมีให้เห็นอยู่ทุกวัน จนเธอเริ่มจะคุ้นชินกับเพื่อนสนิทที่ตื่นขึ้นมาก็ได้พบกันแล้ว

    ถึงแม้ภายในใจจะหม่นหมองมากเท่าไร แต่เธอไม่เคยลืมเลยว่า เธอมาที่นี่เพื่อสิ่งใด การอาบน้ำและแต่งตัวอย่างเธอถวายตัวนั้นคือสิ่งที่ศักดิ์เจ้าหญิงไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง แต่เธอจะสนใจไปเพื่ออะไร ในเมื่อผู้คนในเมืองนี้ต่างถูกล้างสมอง และจำเธอไม่ได้เสียแล้ว

    ทางเดินที่ลาดยาวเต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา แต่แล้วทุกสายตาก็จับจ้องมองมาที่เธออย่างสงสัย อาจเป็นเพราะเครื่องประทินโฉมของเธอนั้นช่างสะดุดตาผู้คนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเหล่าชายหนุ่มก็ต่างสงสัยโห่ร้องใส่เธอพันละวัน

    ข้าว่าเจ้าไม่ควรแต่งตัวมาเพื่อล้อตาล้อใจชายในเมืองนี้นักหรอกนะเสียงอันคุ้นชินจากทางด้านหลัง

    ข้าก็ไมเห็นว่าจะแปลก ที่เมืองของข้าหญิงชาวเมืองก็แต่งตัวเช่นนี้ด้วยกันทั้งนั้น หรือเจ้าว่ามันแปลกไปหรือ? วาเลนท์เซียเอ่ยถามราเควล์

    เจ้าลองมองไปรอบๆ เจ้าจะเห็นถึงความแตกต่าง

    ข้าก็ไม่เห็นว่าจะต่างกันตรงไหน หญิงสาวกล่าวก่อนจะยิ้มยียวนให้กับชายหนุ่มอย่างไม่แยแส

    เจ้าเป็นหญิงประเภทใดกัน บางครั้งเจ้าก็แลดูอ่อนต่อโลก แต่บางครั้งเจ้าก็ดูกร่านโลกเสียเกินหญิง

    เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ ราเควล์ หญิงสาวยังคงยิ้มอย่างยียวน

    ข้าไม่ไว้ใจเจ้าวาเลนท์เซียจากชายหนุ่มที่ดูจะเป็นคนยิ้มง่าย ในเวลานี้คงไม่ใช่ช่วงเวลาที่เขาจะยิ้มให้กับหญิงสาวตรงหน้าแล้ว เพราะสิ่งที่วาเลนท์เซียได้กระทำไปนั้น ช่างไม่น่าไว้วางใจไปเสียทุกอย่าง

    นั่นก็เป็นความคิดส่วนของเจ้านะ แล้วแต่เจ้าจะคิดก็แล้วกัน ข้าไปล่ะ เธอกล่าวก่อนจะเดินจากไปโดยไม่สนสีหน้าแคลงใจของชายหนุ่มแม้แต่น้อย

    หวังว่าเจ้าคงไม่ผลักตนเองลงเหวหรอกนะ วาเลนท์เซียราเควล์พึมพำอย่างเรียบเฉย แต่ร่างบางของหญิงสาวคงไม่มีโอกาสได้ยิน

     

    ณ ตำหนักวังหลวง ที่ประทับของเจ้าชายกาเรทธ์

    นี่เจ้า ! เจ้า !” เสียงหนึ่งเอ่ยเรียกวาเลนท์เซียจากทางด้านหลัง แต่ด้วยความที่เสียงนั้นไม่ได้เอ่ยเรียกชื่อสียงเรียงนามของเธอ เธอจึงไม่แน่ใจนักว่าเสียงนั้นเรียกเธอหรือไม่

    เธอหันไปมองทางต้นเสียง พบหญิงสาวในชุดชาวเมือง ดวงตากลมโตดำขลับ จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากบางอมชมพู ของเธอช่างทำให้เธอดูสวยงามและมีเสน่ห์นัก

    เจ้าเรียกข้าหรือ ?วาเลนท์เซียเอ่ยถามพร้อมกับชี้นิ้วเข้าใส่ตนเอง

    ใช่ เจ้านั่นแหละ เจ้าชายกำลังให้พวกข้าออกตามหาเจ้าอยู่หญิงสาวแต่งตัวด้วยชุดชาววังกล่าวบอกเธอก่อนที่จะเดินนำหน้าเธอไปตามทางลาดยาวของทางเข้าตำหนัก

    ตามหาข้างั้นหรือ? แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าหญิงที่เจ้าชายต้องการพบนั่นคือข้า?

    มีเจ้าเพียงผู้เดียวที่กล้าทำเรื่องราวที่หญิงชาวเมืองนางอื่นๆนั้นไม่กล้าทำ และอีกอย่างนั้นเรื่องของเจ้า หญิงสาวต่างเมือง ที่เข้าถวายตัวกับเจ้าชายโดยไร้สาเหตุนั้น ไม่เรื่องที่ไม่เคยปรากฏที่อนาตาเซ๊ยมาก่อนเลยหญิงชาววังอธิบายให้วาเลนท์เซียฟัง

    งั้นหรือ ? อย่างไรก็ขอบใจเจ้ามากที่บอกข่าวคราวแก่ข้า ข้าชื่อวาเลนท์เซีย หญิงสาวกล่าวขอบคุณพร้อมกับมอบรอยยิ้มหวานให้กับเพื่อนใหม่

    ข้าชื่อ ซีเรีย ..  ข้าพาเจ้ามาถึงที่หมายแล้ว ข้าคงต้องไปแล้วล่ะ ไว้พบกันคราวหน้าก็แล้วกันเพื่อนใหม่ของข้า ซีเรียยิ้มให้กับวาเลนท์เซียพร้อมกับเดินจากไป

    หลักจากที่ซีเรียเดินจากไป คงจะได้เวลาแล้วที่เธอจะต้องก้าวผ่านความเกรงกลัว เพื่อเข้าไปหากาเรทธ์

    ก๊อก ก๊อก

    วาเลนท์เซียเคาะประตูเพื่อมารยาท และเพื่อเป็นการให้เกียรติ แก่ผู้ที่มีศักดิ์สูงกว่าตนเองในเวลานี้

    มาแล้วหรือ เจ้าหญิงของข้า ?กาเรทธ์เอ่ยหลังจากที่วาเลนท์เซียเปิดประตูไม้ขนาดใหญ่ของตำหนักเข้าไป

    เธอมองไปยังร่างสูงของกาเรทธ์ก่อนจะถวายบังคมด้วยการย่อเข่าอย่างสง่างาม ดวงตาเรียวสวยตวัดมองใบหน้าของชายหนุ่มอย่างพิสมัย ริมฝีปากบากผมชมพูอวบอิ่ม อมยิ้มหวายอย่างเย้ายวน

    เจ้าชายให้คนไปตามข้าหรือ?เธอเอ่ยชายหนุ่มพร้อมกับเดินตรงเข้าไปหาอย่างว่าง่าย

    ข้าเฝ้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน กาเรทธ์ใช้มือข้างหนึ่งของเขาคว้าเข้าที่ขอมือเรียวของวาเลนท์เซีย พร้อมกับออกแรงดึงให้ร่างบางเสียหลักและตรงเข้ามาหา

    ท่านต้องการข้างั้นหรือ ?หญิงสาวเอ่ยถาม ด้วยสีหน้าแววตายั่วยวนนัก คงจะเป็นเรื่องยากถ้าหากชายฉกรรจ์อย่างกาเรทธ์นั้นจะหักห้ามจิตใจไว้ได้

    ชายหนุ่มไม่ได้เอ่ยตอบอะไรออกไป แต่กลับเข้าประทับริมฝีปากร้อนระอุของตนเข้ากับริมฝีปากบางของหญิงสาวอย่างดูดดื่ม ลิ้นร้อนของเขาส่งผ่านเข้าเพื่อสำรวจความหวานเฉกเช่นชอกโกแลตร้อนภายในร่างของหญิงสาว มือาของหน้าซุกไซ้ไปทั่วร่าง พร้อมกับฉีกเสื้อผ้าที่ถูกตัดเย็บมาอย่างปราณีตขาดกระจุยกระจาย

    กาเรทธ์ใช้วงแขนอันแข็งแกร่งของตนช้อนร่างเล็กของวาเลนท์เซียไว้แอบอกและยกร่างของเธอไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่ แต่ริมฝีปากของเขากลับไม่ได้เลิกราจากการประทับจูบลงบนใบหน้าของหญิงสาวเลย

    เขาวางเธอลงอย่างอ่อนโยนก่อนจะทาบทับร่างของเธอด้วยร่างกายที่แข็งแรงของเขา ริมฝีปากร้อนระอุผละออกจากริมฝีปากบางของเธอ ก่อนจะให้ความสนใจกับต้นคอยาวระหงนั่น เขาดูดด่ำรสชาติความหอมของน้ำหอมกลิ่นพิเศษที่หญิงชาวเมืองธรรมดาจะได้ใช้พรมร่างกาย และยิ่งกลิ่นเหล่านี้ถูกพรมไว้ยังร่างของวาเลนท์เซีย ยิ่งน่าพิสมัยนัก

    กาเรทธ์ผละออกจากร่างของหญิงสาวเมื่อสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลง จากร่างที่ยืนแน่นิ่งยอมให้เขาประทับริมฝีปาก แต่ในเวลานี้กลับดิ้นพล่าน พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาเปียกเต็มเนียนแก้มขาวเนียนของเธอ

    กาเรท์ผละออกด้วยความตกใจ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นตกตะลึงเล็กน้อย ที่ร่างบางตรงหน้าปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาอย่างไม่อาจยับยั้งได้ ความไม่เข้าใจกำลังเข้ากอบกุมหัวใจของเขา อาจเป็นเพราะความเป็นสุภาพบุรุษที่ได้สาบาลตนไว้แล้วว่า จะไม่ยอมขืนใจหญิงสาวผู้ใดก็ตามที่ไม่พร้อมจะร่วมนอนกับตน

    วาเลนท์เซีย ทำไมเจ้าไม่ยอมข้า เจ้าถวายตัวให้ข้าแล้ว เจ้าจะผิดคำพูดอย่างนั้นหรือ ? กาเรทธ์เอ่ยถามหลังจากที่ผละออกจากร่างบางนั้น

    ข้าเพิ่งจะคิดได้ว่า ข้าไม่ควรยอมเสียความเป็นหญิงบริสุทธิ์ เพื่อคนชั่วอย่างเจ้า ด้วยความขาดสติวาเลนท์เซียจึงปล่อยน้ำตาที่เก็บกลั้นเอาไว้ออกมา พร้อมพูดจาต่อว่ากาเรทธ์อย่างไม่ทันรู้ตัว

    เจ้าว่าอย่างไรนะ?!” ราเกทธ์ตวาดลั่น

    เจ้ายังไม่รู้ตัวเจ้าอีกหรือว่าเจ้านั้นจิตใจเลวร้ายเพียงใด เจ้าทำร้ายผู้คนบริสุทธิ์ไปมากมายเท่าไหร่ เจ้าไม่เคยสำนึกบ้างเลยหรือ?วาเลนท์เซียยังคงกล่าวต่อว่าทั้งนั้นตาที่เปียกแก้ม

    เจ้าว่าข้าเองนะวาเลนท์เซีย เจ้าจงจำคำพูดของเจ้าไว้ เจ้าว่าข้าเลวร้าย ข้าชั่วช้า ได้ ! ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้นข้าจะทำทุกอย่างที่เจ้าได้กล่าวไว้เพราะข้าถือว่าเจ้าต้องการ อย่าได้บังอาจมาทำปากดีต่อข้า เจ้าคือนางโลม นางโลมที่ไร้ศักดิ์ศรี !” ราเกทธ์ตวาดลั่นอีกครั้ง ก่อนจะเดินหนีร่างบางที่เปลือยเปล่าไป

    วาเลนท์เซียปล่อยน้ำตาออกมาอีกครั้ง ก่อนจะแบบหน้าลงที่หมอนใหญ่สีขาว ตัวสั่นเทาด้วยความกลัว และความแค้น

    เธอไม่รู้เลยว่ายังมีใครอีกคนหนึ่งที่คอยมองเธออยู่ตลอดเวลา และในเวลานี้เมื่อเสียงสะอื้นของเธอดังระงมไปทั่วห้อง ยิ่งทำให้เขารู้สึกเหมือนกับถูกคมมืดกรีดลงไปที่หัวใจ

    ราเควล์ไม่อาจเดินจากไปได้ ถ้าหากเสียงร้องไห้ของเพื่อนคนใหม่ของเขายังคงร้องไห้ด้วยเสียงที่สั่นระริก เขาคงทำได้เพียงแค่รอเวลาให้หญิงสาวอ่นเพลียหมดแรงจากการร้องไห้ และหลับไป

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×