คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่8 บังเอิญโลกกลม(2)
ตอนที่ 8 บังเอิญโลกกลม(2)
(เจบี)
....ฮยองช่วยผมด้วย ผมอยู่ที่ตึกร้างหลังโรงเรียน...
ยูคยอม
ข้อความที่ผมได้รับจากยูคยอมทำให้ผมตกใจ...เจ้านั่นไปก่อเรื่องอะไรอีกแล้วล่ะ... ผมไม่รอช้าที่จะโทรกลับไปหาเขา
“ฮัลโหล ฮยอง”
ยูคยอมรับสายเสียงของเขาเบามากเหมือนกับว่ากลัวใครจะมาได้ยิน
“แกไปทำอะไรที่นั่น คิมยูคยอม”
“เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะครับ ตอนนี้ฮยองรีบพาคนมาช่วยผมเลยนะ พามาเยอะๆยิ่งดี”
ยูคยอมพูดอย่างร้อนรน...เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าเด็กนี่กันแน่นะเนี่ย....
“จะให้ชั้นพาใครไปช่วยแกล่ะ ช่วยขยายความชั้นหน่อยได้มั้ย ตอนนี้งงไปหมดแล้วเนี่ย”
“โธ่...ฮยองอย่าเซ้าซี้ได้มั้ยอ่า..(เจ้าเด็กโข่งระวัง!)…เฮ้ย!”
ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด
ยูคยอมพูดไม่ทันจบก็มีเสียงแทรกเข้ามาแล้วสายก็ถูกตัดไป
“ยูคยอม...คิม ยูคยอม”
ผมพยายามจะเรียกเขาทั้งที่รู้ว่าไร้ประโยชน์เพราะสายได้ถูกตัดออกไปแล้ว...นี่มันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย..
จะว่าเป็นเรื่องล้อเล่นก็ไม่น่าไช่เพราะปกติเจ้าเด็กนี่ไม่ค่อยจะเล่นกับผมซักเท่าไหร่หรอกแล้วก็ไม่ค่อยโทรหาผมด้วย ถ้ามีอะไรก็จะคุยกับจูเนียร์ซะมากกว่า ผมไม่รอช้าที่จะลุกออกไปยังสถานที่ที่เจ้านั่นบอก แต่ขณะที่ผมกำลังจะเดินออกจากห้องก็มีใครคนหนึ่งเข้ามาขวางไว้
“นายจะไปไหนน่ะ...ครูชอนสั่งให้เราทำแบบฝึกหัดอยู่ในห้องนะ”
จูเนียร์บอกกับผม ซึ่งมันเป็นปกติอยู่แล้วที่เจ้านี่จะคอยจ้ำจี้จำไชผม
“ชั้นไปแปปเดียว...เดี๋ยวมา”
ผมบอกไป จูเนียร์ทำท่าครุ่นคิดซักพักแล้วพูดต่อ
“งั้นเหรอ...งั้นก็ไปสิ”
เขาพูดจบก็หลีกทางให้ผมไป...แปลก ปกติแล้วเจ้านี้ต้องถามนู้นถามนี่จนกว่าตัวเองจะได้คำตอบที่ต้องการนี่น่า...แต่ผมไม่มีเวลาไปคิดอะไรมาก ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผมต้องไปถึงที่ตึกร้างนั่นซะก่อนไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อผมไปถึงที่หมาย ผมก็มองสำรวจไปรอบๆก่อนเป็นอันดับแรก แต่ก็ไม่มีวี่แววของใครซักคน...บรรยากาศที่นี่วังเวงชะมัด เจ้าเด็กนั่นมาทำอะไรที่แบบนี้กันนะ...
“นี่คิมยูคยอม นายอยู่ไหนน่ะ”
ผมส่งเสียงเรียกเขาจากด้านนอก แต่ก็ไม่ได้รับเสียงตอบกลับมา...อย่าบอกนะว่าชั้นต้องเข้าไปในตึก...
“เฮ้อ...เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย”
ผมถอนใจแล้วเกาหัวอย่างสับสน จากนั้นผมก็ตัดสินใจเดินเข้าไปข้างในตัวอาคาร ผมเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆจนขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง
“ยูคยอม”
ผมเรียกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมาเลย พอโทรกลับไปก็ติดต่อไม่ได้
ตึก ตึก ตึก
“ใครน่ะ!”
ผมหันไปถามเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนวิ่งผ่านข้างหลังผมไป...ไม่เห็นมีใครซักคน...
“ยูคยอม...นั่นนายเหรอ เล่นอะไรของแกน่ะออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ”
ผมพูดแกมขู่ออกไปเพราะคิดว่าต้องเป็นเจ้ายูคยอมคิดแกล้งอะไรผมแน่ๆ
“ถ้าชั้นจับแกได้ ชั้นจัดการแกแน่”
คำพูดของผมถูกส่งไปอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีใครเดินออกมาหา ผมจึงต้องเป็นฝ่ายเดินไปหาเอง
“นี่คิมยูคยอม...อั๊กกก!”
ยังที่ผมไม่ทันจะพูดจบก็เหมือนโดนใครก็ไม่รู้เอาอะไรฟาดที่ต้นคอ ตอนนี้ผมรู้สึกมึนมากๆพยายามจะหันไปหาคนๆนั้นแต่ภาพมันเบลอเหลือเกินเบลอจนไม่สามารถจับภาพใบหน้าของคนๆนั้นได้ ซักพักผมก็เริ่มยืนไม่ไหวและไม่รับรู้อะไรอีกเลย.....
(จูเนียร์)
ชั้นไปแปปเดียว...เดี๋ยวมา
คำพูดของอิมแจบอมคนนี้เชื่อไม่ได้เลยซักนิด ทั้งๆที่ผมจะลองเชื่อเขาดูซักครั้ง แต่มันก็เหมือนเดิมคือเขาไม่คิดจะรักษาคำพูดของตัวเองเลย หลายครั้งที่ผมหันไปมองโต๊ะข้างๆที่เป็นที่นั่งประจำของเขา เผื่อว่าเขาอาจจะกลับมาเงียบๆ แต่ก็ผมกับความว่างเปล่าทุกครั้ง
“เฮ้อ....”
ผมถอนใจอีกครั้งเมื่อยกนาฬิกาที่ข้อมือดู...นี่จะเที่ยงแล้วนะเจบี นายยังไม่กลับมาอีกหรอ....ใช่แล้วครับผมนั่งรอเขาตั้งแต่ชั่วโมงเรียนเมื่อครู่จบลง จนตอนนี้ก็ปาไปเที่ยงกว่าแล้ว ไม่รู้ป่านนี้หมอนั่นไปทำอะไรอยู่นะ
“นี่จูเนียร์...นายไม่ไปกินข้าวหรอ หรือรอเจบี”
เป็นอายอนที่เดินเข้ามาถามผม
“ไม่หรอก ชั้นแค่ไม่หิวเท่านั้นเอง”
“อะไรกัน...นี่นายจะไม่กินข้าวเที่ยงจริงๆหรอ รู้มั้ยมันเป็นมื้อที่สำคัญมากเลยนะ”
อายอนพูดด้วยท่าทางมั่นใจ
“ชั้นคิดว่าน่าจะเป็นมื้อเช้ามากกว่านะ”
ผมบอกและขำกับท่าทางของเธอ
“ชิส์...นี่ชั้นเอาชนะความฉลาดของนายไม่ได้เลยไช่มั้ยเนี่ย”
“ชั้นก็ไม่ได้ฉลาดอะไรมากมายซักหน่อย”
คำพูดของผมทำให้เธอถึงกลับกรอกตาไปมาอย่างเซ็งๆ
“นายนี่นะ....บางทีชั้นก็ยังสงสัยว่ามีอะไรที่คนอย่างนายทำไม่ได้อีก รู้มั้ยคนในห้องต่างอิจฉานายกันทั้งนั้นเลยนะ”
“งั้นเหรอ...ชั้นเนี่ยนะน่าอิจฉา”
“ก็ไช่น่ะสิ”
อายอนพูดอย่างกระตือรือร้น...ผมเนี่ยนะน่าอิจฉา บางทีผมก็รู้สึกว่าผมเป็นคนที่น่าสงสารต่างหาก....
“นายจะไม่ไปกินข้าวจริงๆหรอ”
“อืม”
“งั้น...ชั้นไปนะ อ่อ..ถ้านายจะรอเจบีน่ะไม่ต้องรอแล้วล่ะ เพราะชั้นเห็นหมอนั่นเดินไปทางหลังโรงเรียนตั้งแต่ที่ชั้นไปเข้าห้องน้ำแล้ว สงสัยคงแอบปีนกำแพงหนีไปข้างนอกแล้วแหงๆ”
อายอนพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วก็เดินจากไปกลับกลุ่มเพื่อนของเธอที่ยืนรออยู่หน้าห้อง...หลังโรงเรียนงั้นหรอ นี่นายแอบโดดเรียนอีกแล้วหรออิมแจบอม...
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ผมต้องเดินมาถึงที่นี่ เพราะคำพูดของอายอนหรือเพราะผมอยากลองที่จะมองสิ่งที่เจบีทำดูบ้าง หลังโรงเรียนของเรามันเป็นที่ที่เหมาะจะหนีเวลาไม่อยากเรียนจริงๆด้วย เพราะความรกของหญ้าทำให้ไม่น่าจะมีใครอยากเดินมาเล่นทางนี้ซักเท่าไหร่ ผมเดินสำรวจไปเรื่อยๆ จนเกือบจะถึงกำแพงที่คาดว่าเจบีน่าจะปีนหนีจากทางนี้ ไม่ไกลกันมีตึกเก่าๆตั้งอยู่เป็นตึกที่ทางโรงเรียนไม่ใช้แล้วล่ะครับเพราะมันถูกสร้างตั้งแต่โรงเรียนนี้เพิ่งก่อตั้งใหม่ๆตั้งแต่ผมยังเป็นทารกได้มั้ง ตอนนี้มันถูกใช้เป็นที่เก็บของ ไม่ซิ...ต้องพูดว่าที่ทิ้งขยะถึงจะถูกเพราะเท่าที่สังเกตดูของที่มาไว้ที่นี่คงจะไม่มีใครอยากเอาไปใช้ใหม่แล้วล่ะ ผมเดินไปใกล้อาคารเก่าหลังนั้น...จะมีอะไรอยู่ข้างในบ้างนะ...คำถามบ้าๆผุดขึ้นในหัวของผม แล้วผมจะอยากรู้ไปทำไม สองขาของผมก้าวหลังจากที่ยืนมองตัวอาคารหลังนี้อยู่นานก็ตัดสินใจกลับหลังเพื่อที่จะกลับไปยังห้องเรียนเหมือนเดิม แต่ทว่าผมก็ต้องตกใจเมื่อพบกับผู้มาใหม่ที่เดินเข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียง
“โอ๊ะ”
คำอุทานหลุดจากปากผมเล็กน้อยเพราะตกใจ ซึ่งอีกฝ่ายก็ดูตกใจไม่แพ้กัน
“นายที่อยู่ห้อง 2 นี่”
เป็นผมที่เอ่ยทักเขาก่อน มาร์ค...ผมจำได้ผู้ชายคนนี้ชื่อมาร์คอยู่ห้อง 2 ที่ผมจำได้เพราะพวกสาวๆในห้องไม่ซิเกือบทั้งโรงเรียนเลยก็กว่าได้ต่างก็ปลื้มเขากันทั้งนั้นรวมถึงอายอนเพื่อนในห้องผมด้วย หลังจากที่ผมถามเขาไปเขาก็ได้แต่ทำหน้ามึนๆแล้วมองเข้าไปในตึกนั่นเหมือนสงสัยอะไรซักอย่าง
...เขาดูหยิ่งมากเลยนะ เหมือนที่คนอื่นๆพูดกันเลย....
“นายจะเข้าไปข้างในหรอ”
ผมถามเขาเมื่อเห็นว่าเขาเดินผ่านหน้าผมไปเพื่อมุ่งตรงไปยังทางเข้าตึก แต่เขาก็ยังคงไม่ตอบอะไรผมเลย....อะไรกันคนคนนี้ ไร้มารยาทชะมัด...
“รีบไปไหนมั้ย”
“ฮะ..”
ผมสะดุ้งจากความคิดตัวเองเมื่อได้ยินเสียงที่เขาพูดออกมา
“ถามชั้นหรอ”
ผมชี้มาที่หน้าตัวเอง แล้วเขาก็พยักหน้ากลับมา
“ไม่รีบหรอก”
ผมตอบหลังจากที่คิดซักพัก ตอบไปอย่างนั้นทั้งที่รู้ว่าจะมีชั่วโมงเรียนในอีกไม่นานนัก ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงบอกออกไปแบบนั้นรู้แต่ว่าผมยังไม่อยากเข้าไปเรียนตอนนี้
“หนึ่งชั่วโมง”
ผมหันไปสนใจกับคำพูดของคนตรงหน้าอีกครั้งอย่างไม่เข้าใจ
“หนึ่งชั่วโมง ถ้าชั้นไม่ออกมาช่วยโทร.ไปบอกตำรวจที”
เขาพูดจบก็วิ่งเข้าไปในตึกนั้นทันที นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ทำไมต้องแจ้งตำรวจด้วย...เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับเจบีหรือเปล่านะ หมอนั่นมาทางนี้นี่...ความคิดของผมทำให้ผมรู้สึกสับสนและร้อนรนขึ้นมา ถ้าเกิดเจบีเข้าไปอยู่ในนั้นจริงคงไม่ไช่เรื่องดีแน่ เพราะเท่าที่ฟังจากมาร์คพูดท่าทางเรื่องนี้จะใหญ่เอาการ ด้วยความสับสนทำให้ผมยืนรออยู่กับที่ไม่ไหว ผมตัดสินใจก้าวขาทั้งสองข้างเดินเข้าไปในตัวอาคารที่มาร์คเพิ่งจะวิ่งเข้าไป ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างแต่ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ทำให้ผมต้องเข้าไป ไม่เป็นไรไช่ไหมถ้าผมจะขอออกจากกรอบที่ตีไว้มาก้าวหนึ่ง...
ความคิดเห็น