ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic got7 บังเอิญได้รัก(Incidentally love)

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่8 บังเอิญโลกกลม(2)

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 57


    ตอนที่ 8 บังเอิญโลกกลม(2)

     

    (เจบี)

     

    ....ฮยองช่วยผมด้วย ผมอยู่ที่ตึกร้างหลังโรงเรียน...

    ยูคยอม

    ข้อความที่ผมได้รับจากยูคยอมทำให้ผมตกใจ...เจ้านั่นไปก่อเรื่องอะไรอีกแล้วล่ะ... ผมไม่รอช้าที่จะโทรกลับไปหาเขา

    ฮัลโหล ฮยอง

    ยูคยอมรับสายเสียงของเขาเบามากเหมือนกับว่ากลัวใครจะมาได้ยิน

    แกไปทำอะไรที่นั่น คิมยูคยอม

    เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะครับ  ตอนนี้ฮยองรีบพาคนมาช่วยผมเลยนะ พามาเยอะๆยิ่งดี

    ยูคยอมพูดอย่างร้อนรน...เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าเด็กนี่กันแน่นะเนี่ย....

    จะให้ชั้นพาใครไปช่วยแกล่ะ ช่วยขยายความชั้นหน่อยได้มั้ย ตอนนี้งงไปหมดแล้วเนี่ย

    โธ่...ฮยองอย่าเซ้าซี้ได้มั้ยอ่า..(เจ้าเด็กโข่งระวัง!)เฮ้ย!”

    ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด

    ยูคยอมพูดไม่ทันจบก็มีเสียงแทรกเข้ามาแล้วสายก็ถูกตัดไป

    ยูคยอม...คิม ยูคยอม

    ผมพยายามจะเรียกเขาทั้งที่รู้ว่าไร้ประโยชน์เพราะสายได้ถูกตัดออกไปแล้ว...นี่มันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย..

    จะว่าเป็นเรื่องล้อเล่นก็ไม่น่าไช่เพราะปกติเจ้าเด็กนี่ไม่ค่อยจะเล่นกับผมซักเท่าไหร่หรอกแล้วก็ไม่ค่อยโทรหาผมด้วย ถ้ามีอะไรก็จะคุยกับจูเนียร์ซะมากกว่า  ผมไม่รอช้าที่จะลุกออกไปยังสถานที่ที่เจ้านั่นบอก  แต่ขณะที่ผมกำลังจะเดินออกจากห้องก็มีใครคนหนึ่งเข้ามาขวางไว้

    นายจะไปไหนน่ะ...ครูชอนสั่งให้เราทำแบบฝึกหัดอยู่ในห้องนะ

    จูเนียร์บอกกับผม ซึ่งมันเป็นปกติอยู่แล้วที่เจ้านี่จะคอยจ้ำจี้จำไชผม

    ชั้นไปแปปเดียว...เดี๋ยวมา

    ผมบอกไป  จูเนียร์ทำท่าครุ่นคิดซักพักแล้วพูดต่อ

    งั้นเหรอ...งั้นก็ไปสิ

    เขาพูดจบก็หลีกทางให้ผมไป...แปลก  ปกติแล้วเจ้านี้ต้องถามนู้นถามนี่จนกว่าตัวเองจะได้คำตอบที่ต้องการนี่น่า...แต่ผมไม่มีเวลาไปคิดอะไรมาก  ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผมต้องไปถึงที่ตึกร้างนั่นซะก่อนไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

                    เมื่อผมไปถึงที่หมาย ผมก็มองสำรวจไปรอบๆก่อนเป็นอันดับแรก แต่ก็ไม่มีวี่แววของใครซักคน...บรรยากาศที่นี่วังเวงชะมัด เจ้าเด็กนั่นมาทำอะไรที่แบบนี้กันนะ...

    นี่คิมยูคยอม  นายอยู่ไหนน่ะ

    ผมส่งเสียงเรียกเขาจากด้านนอก แต่ก็ไม่ได้รับเสียงตอบกลับมา...อย่าบอกนะว่าชั้นต้องเข้าไปในตึก...

    เฮ้อ...เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย

    ผมถอนใจแล้วเกาหัวอย่างสับสน  จากนั้นผมก็ตัดสินใจเดินเข้าไปข้างในตัวอาคาร  ผมเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆจนขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง

    ยูคยอม

    ผมเรียกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมาเลย พอโทรกลับไปก็ติดต่อไม่ได้

    ตึก ตึก ตึก

    ใครน่ะ!”

    ผมหันไปถามเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนวิ่งผ่านข้างหลังผมไป...ไม่เห็นมีใครซักคน...

    ยูคยอม...นั่นนายเหรอ  เล่นอะไรของแกน่ะออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ

    ผมพูดแกมขู่ออกไปเพราะคิดว่าต้องเป็นเจ้ายูคยอมคิดแกล้งอะไรผมแน่ๆ

    ถ้าชั้นจับแกได้  ชั้นจัดการแกแน่

    คำพูดของผมถูกส่งไปอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีใครเดินออกมาหา  ผมจึงต้องเป็นฝ่ายเดินไปหาเอง

    นี่คิมยูคยอม...อั๊กกก!”

    ยังที่ผมไม่ทันจะพูดจบก็เหมือนโดนใครก็ไม่รู้เอาอะไรฟาดที่ต้นคอ ตอนนี้ผมรู้สึกมึนมากๆพยายามจะหันไปหาคนๆนั้นแต่ภาพมันเบลอเหลือเกินเบลอจนไม่สามารถจับภาพใบหน้าของคนๆนั้นได้ ซักพักผมก็เริ่มยืนไม่ไหวและไม่รับรู้อะไรอีกเลย.....

     

     

    (จูเนียร์)

     

    ชั้นไปแปปเดียว...เดี๋ยวมา

    คำพูดของอิมแจบอมคนนี้เชื่อไม่ได้เลยซักนิด  ทั้งๆที่ผมจะลองเชื่อเขาดูซักครั้ง แต่มันก็เหมือนเดิมคือเขาไม่คิดจะรักษาคำพูดของตัวเองเลย หลายครั้งที่ผมหันไปมองโต๊ะข้างๆที่เป็นที่นั่งประจำของเขา เผื่อว่าเขาอาจจะกลับมาเงียบๆ แต่ก็ผมกับความว่างเปล่าทุกครั้ง

    เฮ้อ....

    ผมถอนใจอีกครั้งเมื่อยกนาฬิกาที่ข้อมือดู...นี่จะเที่ยงแล้วนะเจบี  นายยังไม่กลับมาอีกหรอ....ใช่แล้วครับผมนั่งรอเขาตั้งแต่ชั่วโมงเรียนเมื่อครู่จบลง จนตอนนี้ก็ปาไปเที่ยงกว่าแล้ว  ไม่รู้ป่านนี้หมอนั่นไปทำอะไรอยู่นะ

    นี่จูเนียร์...นายไม่ไปกินข้าวหรอ  หรือรอเจบี

    เป็นอายอนที่เดินเข้ามาถามผม

    ไม่หรอก   ชั้นแค่ไม่หิวเท่านั้นเอง

    อะไรกัน...นี่นายจะไม่กินข้าวเที่ยงจริงๆหรอ  รู้มั้ยมันเป็นมื้อที่สำคัญมากเลยนะ

    อายอนพูดด้วยท่าทางมั่นใจ

    ชั้นคิดว่าน่าจะเป็นมื้อเช้ามากกว่านะ

    ผมบอกและขำกับท่าทางของเธอ

    ชิส์...นี่ชั้นเอาชนะความฉลาดของนายไม่ได้เลยไช่มั้ยเนี่ย

    ชั้นก็ไม่ได้ฉลาดอะไรมากมายซักหน่อย

    คำพูดของผมทำให้เธอถึงกลับกรอกตาไปมาอย่างเซ็งๆ

    นายนี่นะ....บางทีชั้นก็ยังสงสัยว่ามีอะไรที่คนอย่างนายทำไม่ได้อีก  รู้มั้ยคนในห้องต่างอิจฉานายกันทั้งนั้นเลยนะ

    งั้นเหรอ...ชั้นเนี่ยนะน่าอิจฉา

    ก็ไช่น่ะสิ

    อายอนพูดอย่างกระตือรือร้น...ผมเนี่ยนะน่าอิจฉา บางทีผมก็รู้สึกว่าผมเป็นคนที่น่าสงสารต่างหาก....

    นายจะไม่ไปกินข้าวจริงๆหรอ

    อืม

    งั้น...ชั้นไปนะ  อ่อ..ถ้านายจะรอเจบีน่ะไม่ต้องรอแล้วล่ะ  เพราะชั้นเห็นหมอนั่นเดินไปทางหลังโรงเรียนตั้งแต่ที่ชั้นไปเข้าห้องน้ำแล้ว  สงสัยคงแอบปีนกำแพงหนีไปข้างนอกแล้วแหงๆ

    อายอนพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วก็เดินจากไปกลับกลุ่มเพื่อนของเธอที่ยืนรออยู่หน้าห้อง...หลังโรงเรียนงั้นหรอ  นี่นายแอบโดดเรียนอีกแล้วหรออิมแจบอม...

                    ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ผมต้องเดินมาถึงที่นี่  เพราะคำพูดของอายอนหรือเพราะผมอยากลองที่จะมองสิ่งที่เจบีทำดูบ้าง  หลังโรงเรียนของเรามันเป็นที่ที่เหมาะจะหนีเวลาไม่อยากเรียนจริงๆด้วย  เพราะความรกของหญ้าทำให้ไม่น่าจะมีใครอยากเดินมาเล่นทางนี้ซักเท่าไหร่  ผมเดินสำรวจไปเรื่อยๆ จนเกือบจะถึงกำแพงที่คาดว่าเจบีน่าจะปีนหนีจากทางนี้  ไม่ไกลกันมีตึกเก่าๆตั้งอยู่เป็นตึกที่ทางโรงเรียนไม่ใช้แล้วล่ะครับเพราะมันถูกสร้างตั้งแต่โรงเรียนนี้เพิ่งก่อตั้งใหม่ๆตั้งแต่ผมยังเป็นทารกได้มั้ง  ตอนนี้มันถูกใช้เป็นที่เก็บของ  ไม่ซิ...ต้องพูดว่าที่ทิ้งขยะถึงจะถูกเพราะเท่าที่สังเกตดูของที่มาไว้ที่นี่คงจะไม่มีใครอยากเอาไปใช้ใหม่แล้วล่ะ  ผมเดินไปใกล้อาคารเก่าหลังนั้น...จะมีอะไรอยู่ข้างในบ้างนะ...คำถามบ้าๆผุดขึ้นในหัวของผม แล้วผมจะอยากรู้ไปทำไม สองขาของผมก้าวหลังจากที่ยืนมองตัวอาคารหลังนี้อยู่นานก็ตัดสินใจกลับหลังเพื่อที่จะกลับไปยังห้องเรียนเหมือนเดิม แต่ทว่าผมก็ต้องตกใจเมื่อพบกับผู้มาใหม่ที่เดินเข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียง

    โอ๊ะ

    คำอุทานหลุดจากปากผมเล็กน้อยเพราะตกใจ ซึ่งอีกฝ่ายก็ดูตกใจไม่แพ้กัน

    นายที่อยู่ห้อง 2 นี่

    เป็นผมที่เอ่ยทักเขาก่อน  มาร์ค...ผมจำได้ผู้ชายคนนี้ชื่อมาร์คอยู่ห้อง 2  ที่ผมจำได้เพราะพวกสาวๆในห้องไม่ซิเกือบทั้งโรงเรียนเลยก็กว่าได้ต่างก็ปลื้มเขากันทั้งนั้นรวมถึงอายอนเพื่อนในห้องผมด้วย  หลังจากที่ผมถามเขาไปเขาก็ได้แต่ทำหน้ามึนๆแล้วมองเข้าไปในตึกนั่นเหมือนสงสัยอะไรซักอย่าง

    ...เขาดูหยิ่งมากเลยนะ  เหมือนที่คนอื่นๆพูดกันเลย....

    นายจะเข้าไปข้างในหรอ

    ผมถามเขาเมื่อเห็นว่าเขาเดินผ่านหน้าผมไปเพื่อมุ่งตรงไปยังทางเข้าตึก  แต่เขาก็ยังคงไม่ตอบอะไรผมเลย....อะไรกันคนคนนี้ ไร้มารยาทชะมัด...

    รีบไปไหนมั้ย

    ฮะ..

    ผมสะดุ้งจากความคิดตัวเองเมื่อได้ยินเสียงที่เขาพูดออกมา

    ถามชั้นหรอ

    ผมชี้มาที่หน้าตัวเอง  แล้วเขาก็พยักหน้ากลับมา

    ไม่รีบหรอก

    ผมตอบหลังจากที่คิดซักพัก  ตอบไปอย่างนั้นทั้งที่รู้ว่าจะมีชั่วโมงเรียนในอีกไม่นานนัก  ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงบอกออกไปแบบนั้นรู้แต่ว่าผมยังไม่อยากเข้าไปเรียนตอนนี้ 

    หนึ่งชั่วโมง

    ผมหันไปสนใจกับคำพูดของคนตรงหน้าอีกครั้งอย่างไม่เข้าใจ

    หนึ่งชั่วโมง  ถ้าชั้นไม่ออกมาช่วยโทร.ไปบอกตำรวจที

    เขาพูดจบก็วิ่งเข้าไปในตึกนั้นทันที  นี่มันเรื่องอะไรกันแน่  ทำไมต้องแจ้งตำรวจด้วย...เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับเจบีหรือเปล่านะ หมอนั่นมาทางนี้นี่...ความคิดของผมทำให้ผมรู้สึกสับสนและร้อนรนขึ้นมา  ถ้าเกิดเจบีเข้าไปอยู่ในนั้นจริงคงไม่ไช่เรื่องดีแน่  เพราะเท่าที่ฟังจากมาร์คพูดท่าทางเรื่องนี้จะใหญ่เอาการ  ด้วยความสับสนทำให้ผมยืนรออยู่กับที่ไม่ไหว  ผมตัดสินใจก้าวขาทั้งสองข้างเดินเข้าไปในตัวอาคารที่มาร์คเพิ่งจะวิ่งเข้าไป  ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างแต่ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ทำให้ผมต้องเข้าไป  ไม่เป็นไรไช่ไหมถ้าผมจะขอออกจากกรอบที่ตีไว้มาก้าวหนึ่ง...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×