ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic got7 บังเอิญได้รัก(Incidentally love)

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่6 โชคชะตา(พัคโนยง)

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 57


    ตอนที่ 6 โชคชะตา (พัคโนยง)

     

                    การที่ใครบางคนที่เราไม่รู้จักได้เดินเข้ามาในชีวิตเรา  โดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัวว่าเขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่  พอรู้ตัวอีกทีเราก็ได้รู้จักเขาไปเสียแล้ว นี่แหละที่เขาเรียกว่าโชคชะตา  ก็คงเหมือนกับผมคนขับรถเมล์ธรรมดาๆคนนึงที่โชคชะตากำหนดให้ผมได้พบกับผู้คนมากมาย จนทุกวันนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าโชคชะตาจะลิขิตชีวิตผมให้พบเจอกับอะไรอีก

    โย่ว!  ขออนุญาติขึ้นรถครับคุณพัค โนยง

    เสียงที่ผมคุ้นเคยเอ่ยขึ้น ถ้าเดาไม่ผิดคงจะเป็นเจ้าเกรียนแจ็คสันแน่ๆ

    โอ๊ะมาแต่เช้าเลยนะพ่อหนุ่มฮ่องกง

    ผมทักทายกลับ แจ็คสันทำท่าตะเบ๊ะแล้วขึ้นมาบนรถแล้วมองหาที่นั่ง

    นั่งข้างยองแจก็ได้นะ...นี่เจ้าเด็กมกโพให้เจ้าหนุ่มฮ่องกงนั่งด้วยคนได้ใช่มั้ย

    ผมบอกแจ็คสัน แล้วตะโกนบอกยองแจซึ่งเจ้าเด็กมกโพที่เอาแต่นั่งอ่านหนังสือเงยหน้าขึ้นมามองผมมึนๆ แล้วก้มลงอ่านหนังสือต่อ

    เอ้า  ยืนบื้ออะไรอยู่ล่ะไปกับกับเขาซิ

    ผมหันมาบอกกับแจ็คสันที่ยืนเกาหัวแกรกๆเหมือนกับงงอะไรซักอย่าง

    เดี๋ยวนะ...นั่นเขาอนุญาตให้ผมไปนั่งได้แล้วหรอฮยอง

    แจ็คสันถามผมด้วยความสงสัย

    ก็ใช่น่ะซิ

    ทำหน้าอย่างกับลิงเมากล้วยอย่างนั้นเนี่ยนะ เรียกว่าอนุญาต

    ดูมันเปรียบเทียบซะผมงงไปด้วยเลย

    เออน่า....รีบๆไปนั่งได้แล้วชั้นจะได้ออกรถซักที

    คร้าบบบ

    เจ้าเกรียนรับคำ แต่ก็ไม่วายเดินไปนั่งแบบงงๆ ซึ่งต่างกับเจ้าตี๋มกโพรายนั้นเอาแต่ก้มหน้าอ่านหนังสืออย่างเดียว

    ขอให้โชคดีกับวันนี้นะคร้าบบบ

    ผมพูดกับทุกคนบนรถแล้วสตาร์ทรถออกไป  ระหว่างทางผมก็จอดให้คนลงบ้าง บางทีก็รับคนขึ้นมาบ้าง  ซึ่งเช้าๆแบบนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกนักเรียนครับ  ผมชอบมองเด็กๆใส่ชุดนักเรียนพากันพูดคุยสนุกสนาน พูดถึงเรื่องที่บ้านบ้างแหละที่โรงเรียนบ้างแหละหรือแม้แต่เรื่องรักๆใคร่ๆก็มีนะครับ  เด็กๆนี่ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารักเสียจริง

     

    นี่นายอยู่ปี 2 งั้นหรอ

    ผมเห็นแจ็คสันเริ่มพูดคุยกับยองแจ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตี๋มกโพจะยังไม่สนใจ ที่ผมสามารถรู้ได้ก็เพราะทั้งสองคนนั่งอยู่เบาะหน้า  ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับผม

    เฮ้!  ชั้นเป็นรุ่นพี่นายนะสนใจกันหน่อยดิ

    แจ็คสันยังคงเรียกร้องความสนใจอีกครั้ง เฮ้อ...เจ้านี่จะอยู่เฉยๆไม่เป็นเลยใช่ไหมเนี่ย...

    ผมจะอ่านหนังสือครับ

    ยองแจคงทนไม่ไหวถึงตอบกลับมาแบบนิ่งๆ

    อ่านอยู่หน้าเดียวเนี่ยนะ

    ยองแจหันมามองแจ็คสันอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วก้มหน้าให้ความสนใจกับหนังสือต่อ

    ชิส์  เจ้าเด็กนี่ทำไมพูดด้วยแล้วไม่พูดด้วย นายไม่รู้จักชั้นหรือไง ชั้นแจ็คสัน หวัง หนุ่มฮ่องกงรูปหล่อนะเว้ย

    แจ็คสันยังคงพร่ำไปเรื่อย ผมส่ายหน้าขำๆกับพฤติกรรมของเขาตอนแรกผมก็อยากจะบอกให้เขาหยุดกวนนยองแจได้แล้ว  แต่คิดอีกทีลองให้ยองแจได้รู้จักและเรียนรู้คนอื่นดูบ้างบางทีอาจทำให้เด็กคนนี้ได้รับอะไรใหม่ๆ ไม่ต้องจมอยู่กับสิ่งเดิมๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่จริงแล้วยองแจเจอกับอะไรมาบ้างแต่ผมรู้สึกได้ว่าเด็กคนนี้มีความเหงาอยู่รอบตัวตลอดเวลา

    นี่ๆ...หน้าเนี่ยแกอ่านนานเกินไปแล้วนะ

    เจ้าแจ็คสันชะเง้อหน้าไปมองหนังสือที่ยองแจอ่านใกล้ๆ  จนเจ้าตัวเริ่มรำคาญ

    จะเอาไปอ่านเองม่ะ

    เฮ้ย! นี่แกยอมพูดกับชั้นแล้วหรอ...โฮะๆๆ ในที่สุดความพยายามของชั้นก็สำเร็จ

    ยองแจทำท่าขนลุกกับแอคติ้งโอเว่อร์ของแจ็คสัน 

    นายเรียกการก่อกวนคนอื่น ว่าความพยายามงั้นหรอ

    ยองแจพูดหน้านิ่งๆ ตาตี่ๆคู่นั้นหรี่มองแจ็คสันอย่างไม่ไว้ใจ

    นายต้องเรียกชั้นว่าฮยองซิ  แจ็คสันฮยอง...ชั้นเป็นรุ่นพี่นายนะ

    แจ็คสันพยายามอวดอ้าง

    จะรู้จักไปทำไม...เราไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันซักหน่อย

    ก็เราอยู่โรงเรียนเดียวกันไง ขึ้นรถคันเดียวกันด้วย  เนี่ยนายเห็นมั้ยเรานั่งข้างกันด้วยนะ

    แจ็คสันพยายามยกเรื่องมาอธิบาย

    สุดท้ายเราก็แค่รู้จักกันไม่ใช่หรือไง

    ก็เออไง  รู้จักแล้วก็เป็นเพื่อนกัน

    คำพูดของแจ็คสันทำให้ยองแจมีสีหน้าแปลกไปเล็กน้อย ถ้าผมเดาไม่ผิดยองแจคงจะได้รับอะไรดีๆจากเจ้าเกรียนแจ็คสันไปบ้างแล้วล่ะ

    เป็นเพื่อนมันง่ายขนาดนั้นเลยหรอ

    แล้วมันยากตรงไหนวะ  ชั้นอยากจะรู้จักใครชั้นก็เดินเข้าไปบอกเขาตรงๆแล้วก็บอกเขาว่าต่อไปเราเป็นเพื่อนกันนะ แค่นี้เองนายนี่ไม่ฉลาดเลยนะ

    แจ็คสันอธิบายตามสไตล์ของเขาแต่ก็ไม่วายแอบจิกกัดยองแจเล็กน้อย

    งั้นทำไมนายถึงอยากรู้จักชั้นล่ะ

    ย่าส์...เจ้านี่ชั้นบอกให้เรียกฮยองไงล่ะ

    แจ็คสันโวยวายเสียงดังโดยไม่เกรงใจคนรอบข้าง

    ก็บอกมาก่อนซิ

    ก็นายเหลือที่นั่งไว้ให้ชั้นไงล่ะ

    ผมไม่ได้เหลือไว้ให้ซักหน่อย...แต่ไม่มีใครอยากนั่งกับผมต่างหาก

    ยองแจก้มหน้าพูดเสียงอ่อยๆ

    ก็ชั้นเนี่ยไง

    แจ็คสันพูดสวนขึ้นทันทีจนยองแจเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัย

    ฮยองไม่ได้อยากนั่งกับผมซักหน่อย...ฮยองไม่มีทางเลือกต่างหาก

    ผมสังเกตเห็นขอบตาของเจ้าตี๋น้อยเริ่มแดงเหมือนจะร้องไห้ซึ่งเจ้าแจ็คสันเองก็คงเห็นเหมือนกัน แกจะทำยังไงต่อไปนะเจ้าแจ็คสัน ผมอยากจะรู้วิธีแก้ปัญหาของเจ้าเด็กเกรียนนี่ซะแล้วซิ

    ใครว่าชั้นไม่มีทางเลือก...ชั้นเลือกที่จะยืนก็ได้แต่ชั้นไม่ทำ  ชั้นเลือกที่จะลงไปขึ้นคันอื่นก็ได้แต่ชั้นก็ไม่ทำ และชั้นก็เลือกที่จะโยนนายออกจากที่นั่งก็ได้...แต่ชั้นก็ไม่ทำ  เพราะอะไรรู้มั้ย...

    ยองแจส่ายหน้าเมื่อแจ็คสันถามเขา

    เพราะชั้นไม่อยากอยู่คนเดียว ไม่อยากที่จะทำอะไรคนเดียวไงล่ะ

    แม้คำพูดของแจ็คสันจะดูโผงผางไปบ้างและดูเหมือนพูดออกไปโดยที่ไม่คิดอะไรแต่ผมว่ามันก็คงทำให้ยองแจได้ข้อคิดบางอย่างจากเด็กคนนี้ไปบ้างก็ได้

    เด็กๆถึงโรงเรียนแล้วนะ

    ผมพูดขึ้นเมื่อรถแล่นมาถึงหน้าโรงเรียน 

    นี่...เจ้าลิงเมากล้วยแกรู้จักชั้นแล้วนะ ต่อไปถ้าเจอกันในโรงเรียนทักกันด้วยนะ เข้าใจ๊

    แจ็คสันพูดกับยองแจจบก็ลุกออกไปทันที  เหลือก็แต่ยองแจที่ยังคงนั่งอยู่กับที่

    ยองแจ...ถึงโรงเรียนแล้วนะ ไม่เข้าไปเหรอ

    ถึงเร็วจังนะครับ

    เขาหันมาพูดกับผมขณะที่กำลังเดินลงจากรถ

    ไม่ดีหรือไงอย่างน้อยเธอก็จะได้ไม่สายนะ

    แต่บางที...ผมก็อาจจะยังไม่พร้อมก็ได้นี่ครับ

    เจ้าเด็กมกโพพูดจบก็เดินลงจากรถผมไป ขณะนี้รถเมล์ของผมจอดอยู่ที่หน้าโรงเรียนเด็กๆได้ซักพักแล้วครับ ผมมองดูเด็กๆทยอยลงรถไป มองดูแผ่นหลังของพวกเขาค่อยๆไกลออกไป จนพวกเขาเข้าไปในโรงเรียนกันหมด แล้วผมก็ค่อยเคลื่อนรถออกไป...ขอให้โชคดีและใช้ชีวิตในโรงเรียนให้มีความสุขนะเด็กๆ...รถเมล์ของชั้นส่งพวกนายได้แค่หน้าโรงเรียนส่วนเส้นทางที่เหลือพวกเธอต้องไปด้วยตัวเอง โชคชะตาอาจเป็นตัวกำหนดให้พวกเธอได้พบกัน อยู่ที่พวกเธอจะเลือกสานต่อหรือปล่อยมันไปเท่านั้นเอง...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×