คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่6 โชคชะตา(พัคโนยง)
ตอนที่ 6 โชคชะตา (พัคโนยง)
การที่ใครบางคนที่เราไม่รู้จักได้เดินเข้ามาในชีวิตเรา โดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัวว่าเขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ พอรู้ตัวอีกทีเราก็ได้รู้จักเขาไปเสียแล้ว นี่แหละที่เขาเรียกว่าโชคชะตา ก็คงเหมือนกับผมคนขับรถเมล์ธรรมดาๆคนนึงที่โชคชะตากำหนดให้ผมได้พบกับผู้คนมากมาย จนทุกวันนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าโชคชะตาจะลิขิตชีวิตผมให้พบเจอกับอะไรอีก
“โย่ว! ขออนุญาติขึ้นรถครับคุณพัค โนยง”
เสียงที่ผมคุ้นเคยเอ่ยขึ้น ถ้าเดาไม่ผิดคงจะเป็นเจ้าเกรียนแจ็คสันแน่ๆ
“โอ๊ะ! มาแต่เช้าเลยนะพ่อหนุ่มฮ่องกง”
ผมทักทายกลับ แจ็คสันทำท่าตะเบ๊ะแล้วขึ้นมาบนรถแล้วมองหาที่นั่ง
“นั่งข้างยองแจก็ได้นะ...นี่เจ้าเด็กมกโพให้เจ้าหนุ่มฮ่องกงนั่งด้วยคนได้ใช่มั้ย”
ผมบอกแจ็คสัน แล้วตะโกนบอกยองแจซึ่งเจ้าเด็กมกโพที่เอาแต่นั่งอ่านหนังสือเงยหน้าขึ้นมามองผมมึนๆ แล้วก้มลงอ่านหนังสือต่อ
“เอ้า ยืนบื้ออะไรอยู่ล่ะไปกับกับเขาซิ”
ผมหันมาบอกกับแจ็คสันที่ยืนเกาหัวแกรกๆเหมือนกับงงอะไรซักอย่าง
“เดี๋ยวนะ...นั่นเขาอนุญาตให้ผมไปนั่งได้แล้วหรอฮยอง”
แจ็คสันถามผมด้วยความสงสัย
“ก็ใช่น่ะซิ”
“ทำหน้าอย่างกับลิงเมากล้วยอย่างนั้นเนี่ยนะ เรียกว่าอนุญาต”
ดูมันเปรียบเทียบซะผมงงไปด้วยเลย
“เออน่า....รีบๆไปนั่งได้แล้วชั้นจะได้ออกรถซักที”
“คร้าบบบ”
เจ้าเกรียนรับคำ แต่ก็ไม่วายเดินไปนั่งแบบงงๆ ซึ่งต่างกับเจ้าตี๋มกโพรายนั้นเอาแต่ก้มหน้าอ่านหนังสืออย่างเดียว
“ขอให้โชคดีกับวันนี้นะคร้าบบบ”
ผมพูดกับทุกคนบนรถแล้วสตาร์ทรถออกไป ระหว่างทางผมก็จอดให้คนลงบ้าง บางทีก็รับคนขึ้นมาบ้าง ซึ่งเช้าๆแบบนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกนักเรียนครับ ผมชอบมองเด็กๆใส่ชุดนักเรียนพากันพูดคุยสนุกสนาน พูดถึงเรื่องที่บ้านบ้างแหละที่โรงเรียนบ้างแหละหรือแม้แต่เรื่องรักๆใคร่ๆก็มีนะครับ เด็กๆนี่ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารักเสียจริง
“นี่นายอยู่ปี 2 งั้นหรอ”
ผมเห็นแจ็คสันเริ่มพูดคุยกับยองแจ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตี๋มกโพจะยังไม่สนใจ ที่ผมสามารถรู้ได้ก็เพราะทั้งสองคนนั่งอยู่เบาะหน้า ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับผม
“เฮ้! ชั้นเป็นรุ่นพี่นายนะสนใจกันหน่อยดิ”
แจ็คสันยังคงเรียกร้องความสนใจอีกครั้ง เฮ้อ...เจ้านี่จะอยู่เฉยๆไม่เป็นเลยใช่ไหมเนี่ย...
“ผมจะอ่านหนังสือครับ”
ยองแจคงทนไม่ไหวถึงตอบกลับมาแบบนิ่งๆ
“อ่านอยู่หน้าเดียวเนี่ยนะ”
ยองแจหันมามองแจ็คสันอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วก้มหน้าให้ความสนใจกับหนังสือต่อ
“ชิส์ เจ้าเด็กนี่ทำไมพูดด้วยแล้วไม่พูดด้วย นายไม่รู้จักชั้นหรือไง ชั้นแจ็คสัน หวัง หนุ่มฮ่องกงรูปหล่อนะเว้ย”
แจ็คสันยังคงพร่ำไปเรื่อย ผมส่ายหน้าขำๆกับพฤติกรรมของเขาตอนแรกผมก็อยากจะบอกให้เขาหยุดกวนนยองแจได้แล้ว แต่คิดอีกทีลองให้ยองแจได้รู้จักและเรียนรู้คนอื่นดูบ้างบางทีอาจทำให้เด็กคนนี้ได้รับอะไรใหม่ๆ ไม่ต้องจมอยู่กับสิ่งเดิมๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่จริงแล้วยองแจเจอกับอะไรมาบ้างแต่ผมรู้สึกได้ว่าเด็กคนนี้มีความเหงาอยู่รอบตัวตลอดเวลา
“นี่ๆ...หน้าเนี่ยแกอ่านนานเกินไปแล้วนะ”
เจ้าแจ็คสันชะเง้อหน้าไปมองหนังสือที่ยองแจอ่านใกล้ๆ จนเจ้าตัวเริ่มรำคาญ
“จะเอาไปอ่านเองม่ะ”
“เฮ้ย! นี่แกยอมพูดกับชั้นแล้วหรอ...โฮะๆๆ ในที่สุดความพยายามของชั้นก็สำเร็จ”
ยองแจทำท่าขนลุกกับแอคติ้งโอเว่อร์ของแจ็คสัน
“นายเรียกการก่อกวนคนอื่น ว่าความพยายามงั้นหรอ”
ยองแจพูดหน้านิ่งๆ ตาตี่ๆคู่นั้นหรี่มองแจ็คสันอย่างไม่ไว้ใจ
“นายต้องเรียกชั้นว่าฮยองซิ แจ็คสันฮยอง...ชั้นเป็นรุ่นพี่นายนะ”
แจ็คสันพยายามอวดอ้าง
“จะรู้จักไปทำไม...เราไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันซักหน่อย”
“ก็เราอยู่โรงเรียนเดียวกันไง ขึ้นรถคันเดียวกันด้วย เนี่ยนายเห็นมั้ยเรานั่งข้างกันด้วยนะ”
แจ็คสันพยายามยกเรื่องมาอธิบาย
“สุดท้ายเราก็แค่รู้จักกันไม่ใช่หรือไง”
“ก็เออไง รู้จักแล้วก็เป็นเพื่อนกัน”
คำพูดของแจ็คสันทำให้ยองแจมีสีหน้าแปลกไปเล็กน้อย ถ้าผมเดาไม่ผิดยองแจคงจะได้รับอะไรดีๆจากเจ้าเกรียนแจ็คสันไปบ้างแล้วล่ะ
“เป็นเพื่อนมันง่ายขนาดนั้นเลยหรอ”
“แล้วมันยากตรงไหนวะ ชั้นอยากจะรู้จักใครชั้นก็เดินเข้าไปบอกเขาตรงๆแล้วก็บอกเขาว่าต่อไปเราเป็นเพื่อนกันนะ แค่นี้เองนายนี่ไม่ฉลาดเลยนะ”
แจ็คสันอธิบายตามสไตล์ของเขาแต่ก็ไม่วายแอบจิกกัดยองแจเล็กน้อย
“งั้นทำไมนายถึงอยากรู้จักชั้นล่ะ”
“ย่าส์...เจ้านี่ชั้นบอกให้เรียกฮยองไงล่ะ”
แจ็คสันโวยวายเสียงดังโดยไม่เกรงใจคนรอบข้าง
“ก็บอกมาก่อนซิ”
“ก็นายเหลือที่นั่งไว้ให้ชั้นไงล่ะ”
“ผมไม่ได้เหลือไว้ให้ซักหน่อย...แต่ไม่มีใครอยากนั่งกับผมต่างหาก”
ยองแจก้มหน้าพูดเสียงอ่อยๆ
“ก็ชั้นเนี่ยไง”
แจ็คสันพูดสวนขึ้นทันทีจนยองแจเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัย
“ฮยองไม่ได้อยากนั่งกับผมซักหน่อย...ฮยองไม่มีทางเลือกต่างหาก”
ผมสังเกตเห็นขอบตาของเจ้าตี๋น้อยเริ่มแดงเหมือนจะร้องไห้ซึ่งเจ้าแจ็คสันเองก็คงเห็นเหมือนกัน แกจะทำยังไงต่อไปนะเจ้าแจ็คสัน ผมอยากจะรู้วิธีแก้ปัญหาของเจ้าเด็กเกรียนนี่ซะแล้วซิ
“ใครว่าชั้นไม่มีทางเลือก...ชั้นเลือกที่จะยืนก็ได้แต่ชั้นไม่ทำ ชั้นเลือกที่จะลงไปขึ้นคันอื่นก็ได้แต่ชั้นก็ไม่ทำ และชั้นก็เลือกที่จะโยนนายออกจากที่นั่งก็ได้...แต่ชั้นก็ไม่ทำ เพราะอะไรรู้มั้ย...”
ยองแจส่ายหน้าเมื่อแจ็คสันถามเขา
“เพราะชั้นไม่อยากอยู่คนเดียว ไม่อยากที่จะทำอะไรคนเดียวไงล่ะ”
แม้คำพูดของแจ็คสันจะดูโผงผางไปบ้างและดูเหมือนพูดออกไปโดยที่ไม่คิดอะไรแต่ผมว่ามันก็คงทำให้ยองแจได้ข้อคิดบางอย่างจากเด็กคนนี้ไปบ้างก็ได้
“เด็กๆถึงโรงเรียนแล้วนะ”
ผมพูดขึ้นเมื่อรถแล่นมาถึงหน้าโรงเรียน
“นี่...เจ้าลิงเมากล้วยแกรู้จักชั้นแล้วนะ ต่อไปถ้าเจอกันในโรงเรียนทักกันด้วยนะ เข้าใจ๊”
แจ็คสันพูดกับยองแจจบก็ลุกออกไปทันที เหลือก็แต่ยองแจที่ยังคงนั่งอยู่กับที่
“ยองแจ...ถึงโรงเรียนแล้วนะ ไม่เข้าไปเหรอ”
“ถึงเร็วจังนะครับ”
เขาหันมาพูดกับผมขณะที่กำลังเดินลงจากรถ
“ไม่ดีหรือไงอย่างน้อยเธอก็จะได้ไม่สายนะ”
“แต่บางที...ผมก็อาจจะยังไม่พร้อมก็ได้นี่ครับ”
เจ้าเด็กมกโพพูดจบก็เดินลงจากรถผมไป ขณะนี้รถเมล์ของผมจอดอยู่ที่หน้าโรงเรียนเด็กๆได้ซักพักแล้วครับ ผมมองดูเด็กๆทยอยลงรถไป มองดูแผ่นหลังของพวกเขาค่อยๆไกลออกไป จนพวกเขาเข้าไปในโรงเรียนกันหมด แล้วผมก็ค่อยเคลื่อนรถออกไป...ขอให้โชคดีและใช้ชีวิตในโรงเรียนให้มีความสุขนะเด็กๆ...รถเมล์ของชั้นส่งพวกนายได้แค่หน้าโรงเรียนส่วนเส้นทางที่เหลือพวกเธอต้องไปด้วยตัวเอง โชคชะตาอาจเป็นตัวกำหนดให้พวกเธอได้พบกัน อยู่ที่พวกเธอจะเลือกสานต่อหรือปล่อยมันไปเท่านั้นเอง...
ความคิดเห็น