ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic got7 บังเอิญได้รัก(Incidentally love)

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่5 เด็กมีปัญหา(4)

    • อัปเดตล่าสุด 14 ต.ค. 57


    ตอนที่ 5  เด็กมีปัญหา(4)

     

    อีกแล้วนะ คิม ยูคยอม...ทำไมเธอถึงชอบใช้ความรุนแรงนักนะ

    เสียงบ่นเดิมๆของครูฮงยังคงยืดยาวเหมือนเดิม  ตอนนี้ผมอยู่ที่ห้องพักครูตั้งแต่ผมเดินตามครูฮงมาผมก็โดนบ่นมาตลอดทาง...ชินซะแล้วล่ะ เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมโดนเรื่องแบบนี้...

    ผมไม่ได้ตั้งใจครับ

    คำเดิมๆที่ผมใช้ตอบทุกครั้งที่เกิดเรื่อง มันไม่ใช่คำแก้ตัวที่ผมใช้พูดเพื่อให้มันผ่านไป แต่ที่ผมพูดเพราะผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ  เพราะผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ

    เฮ้อ...เอาล่ะครั้งนี้ครูจะยอมเชื่อเธออีกครั้งแล้วกัน หวังว่าผู้ปกครองของ...เอ่อ...เพื่อนเธอชื่ออะไรนะ

    แบมแบมครับ

    ผมตอบ...อะไรกันแม้แต่ครูก็จำชื่อเจ้านี่ไม่ได้หรอเนี่ย นั่นซินะเด็กที่ไม่มีอะไรโดดเด่นแบบนั้นใครจะไปจำได้...

    อืมชื่อแบมแบมงั้นเหรอ  เฮ้อ...ถ้าผู้ปกครองของแบมแบมไม่เอาเรื่องก็ดีซินะ  ยังไงเธอก็ลองไปขอโทษเขาดูก่อนล่ะกัน

    ครับ

    ผมรับคำแล้วทำความเคารพครูฮงก่อนเดินออกมา

    เฮ้อ...จะให้ขอโทษเนี่ยนะ ใครจะไปทำ

    ผมเดินมาเรื่อยๆจนถึงห้องเรียนของตัวเอง พอเข้ามาก็เห็นทุกครั้งเก็บกระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้านกันแล้ว ผมเดินตรงเข้าไปที่โต๊ะตัวเองเพื่อเก็บกระเป๋า แล้วเหลือบมองโต๊ะที่อยู่ริมหน้าต่างตรงช่วงหลังห้องก็พบว่าไม่มีกระเป๋าอยู่แล้ว...เจ้านั่นคงกลับไปแล้วซินะ...

    เฮ้...ยูคยอม วันนี้เจ๋งว่ะแกล้งไม่คิดว่านายจะอยากแกล้งเจ้านั่นเหมือนกัน

    มินวอนเพื่อนร่วมห้องเริ่มพูดกับผมเป็นคนแรก

    ชั้นไม่ได้แกล้ง

    ผมตอบขณะที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋า

    ไม่ต้องมาอำหรอกน่า...เล่นผลักซะเต็มแรงขนาดนั้น

    มินวอนพูดอย่างเริงร่าจนผมเริ่มรำคาญเลยตัวปัญหาด้วยการเดินหนีออกไป แต่ไม่วายที่เจ้านั่นจะวิ่งตามมาอีก

    อ้าวยูคยอม...วันนี้เจ๋งสุดๆเลยว่ะ

    คราวนี้เป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งเดินเข้ามาทัก มันเป็นอย่างนี้ประจำแหละครับเมื่อผมมีเรื่องอะไรคนอื่นๆก็มักจะมาสนใจแต่เรื่องของผมแล้วก็ต่างตีความกันไปผิดๆเพราะเห็นว่าผมเป็นเหมือนพวกชอบใช้กำลังพวกเด็กผู้ชายเลยมักจะให้ผมเป็นเหมือนลูกพี่ ด้วยความที่ผมตัวสูงที่สุดและดูเหมือนกล้าที่สุด

    เนี่ยวันนี้ชั้นเห็นกับตาเลยนะว่ายูคยอมผลักเจ้าเปี๊ยกนั้นจนหงายหลังเลย

    เสียดายว่ะ ไม่เห็นตอนนั้น ฮ่าาาา

    เสียงพูดคุยของเจ้าพวกนี้ช่างน่ารำคาญชะมัดจนผมต้องหยิบหูฟังในกระเป๋าขึ้นมาใส่ไว้

    นี่ยูคยอม...วันนี้ไปเจ๋งๆกันมั้ย

    ยูคยอม คิม ยูคยอม

    ผมแกล้งไม่ได้ยินสิ่งที่พวกนั้นพูดแล้วเดินต่อไปเรื่อยๆเพื่อหวังว่าจะไปถึงป้ายรถเมล์ให้เร็วที่สุด

    สงสัยเข้าโลกส่วนตัวอีกแล้วแหงๆ

    อย่างนี้ทุกทีซิน่า...นายเป็นลูกพี่พวกเราเลยนะสนใจกันบ้างดิ

    สองคนนั้นยังคงพูดไม่หยุด...ฮึ ลูกพี่งั้นเหรอใครขอกันล่ะ...

    จะบอกให้นะที่เรายอมให้นายเพราะเห็นว่านายตัวใหญ่กว่าก็เท่านั้นแหละเจ้าบื้อเอ้ย

    ย่าส์...มินวอน แกพูดงี้เดี๋ยวก็โดนอัดหรอก

    มันไม่ได้ยินหรอกน่า

    ไม่ได้ยินงั้นเหรอ ผมหยุดเดินแล้วหันหน้าไปหาสองคนนั่น จนทั้งคู่สะดุ้งทำท่าเหมือนตกใจสุดขีด...แค่นี้เองนะ ชั้นยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ...

    เอ่อ..คือ...

    มินวอนเริ่มพูดตะกุกตะกัก

    รถมาแล้ว ชั้นไปล่ะนะ

    ผมพูดเพียงแค่นั้นแล้วขึ้นรถเมล์ไปทันที เมื่อขึ้นมาบนรถเมล์ผมก็มองหาที่นั่งทันที

    ยูคยอม...ทางนี้

    ผมหันไปทางเสียงเรียกเมื่อครู่ก็พบว่าจูเนียร์ฮยองชี้ให้ไปนั่งข้างๆเขาที่มันยังว่างอยู่ซึ่งเบาะข้างหน้าเป็นเจ้าเปี๊ยกที่ผมเพิ่งทำร้ายร่างกายเมื่อตอนบ่าย...เจ้าแบมแบม...

    ทำไมนายมาช้าจัง เกือบไม่ทันรถแล้วเห็นมั้ย

    ผมโดนจูเนียร์ฮยองบ่นทันทีเมื่อก้นสัมผัสกับเบาะ

    เอ่อ...พอดีมีเรื่องนิดหน่อยครับ

    ผมพยายามพูดอ้อมๆแต่ก็ไม่ได้โกหก  เพราะผมรู้ว่าถึงโกหกอย่างไงฮยองคนนี้ก็ต้องรู้อยู่ดี

    งั้นเหรอ...

    จูเนียร์ฮยองพูดแค่นั้น จนผมคิดว่ามันผิดปกติแต่จะว่าไปทำไมวันนี้เจบีฮยองถึงยังไม่กลับปกติจะกลับพร้อมกับจูเนียร์ฮยองตลอดเลยนี่

    แขนไปโดนอะไรมาน่ะแบมแบม

    ผมละจากความสนใจเมื่อครู่เลยมองไปยังเบาะข้างหน้าผม เห็นผู้ชายที่นั่งข้างๆแบมแบมถามเจ้าตัวขึ้น

    เอ่อ...ผมล้มตอนเรียนพละครับ

    ล้มเองหรอ

    คำถามที่ถูกถามที่แบมแบมอีกครั้ง...หมอนั่นจะตอบว่าไงกันนะ....

    ครับ

    ครับงั้นเหรอทำไมไม่บอกไปล่ะว่าโดนแกล้งเหมือนที่คนอื่นๆทำกันไงล่ะ...ฮึ หรือเพราะเห็นว่าชั้นอยู่ใกล้เลยไม่กล้าบอกไป...

    แกเป็นอะไรน่ะยูคยอม

    ผมสะดุ้งตัวนิดนึงก่อนหันไปหาจูเนียร์ฮยอง

    ก็เปล่านี่

    เปล่าอะไร...ชั้นเห็นแกนั่งเหม่ออยู่พักนึงแล้ว นี่แกกำลังคิดอะไรแผลงๆอีกแล้วใช่ม่ะ

    จูเนียร์ฮยองใช้นิ้วชี้มาที่หน้าผมเหมือนกับคาดคั้น

    นี่ฮยองจะใส่ร้ายอะไรผมอีกเนี่ย

    ชั้นเนี่ยนะใส่ร้ายนาย...ชั้นออกจะเป็นพี่ที่แสนดีไม่มีพี่ในไส้ของนายที่เอานายมาปล่อยทิ้งไว้กับชั้น เฮ้อ...ช่างเป็นเวรเป็นกรรมของชั้นแท้ๆคนนึงก็เด็กมีปัญหาส่วนอีกคนก็ฟันมีปัญหา

    จูเนียร์ฮยองพูดยืดยาวจนผมต้องหยิบหูฟังขึ้นมาใส่ไว้ รถเมล์เคลื่อนตัวออกไปเรื่อยๆบางครั้งก็จอดให้คนลงบางครั้งก็จอดรับคนขึ้น เวลาผ่านมาซักพักก็ถึงป้ายที่พวกผมจะต้องลง ขณะที่ผมกำลังเดินลงรถผมก็สังเกตเห็นว่าที่นั่งเบาะข้างหน้าผมนั่นว่างเปล่า...เจ้านั่น ลงไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ แล้วทำไมผมต้องสนใจด้วย...

    เฮ้อ...

    ผมถอนหายใจยาวๆเมื่อถึงห้องที่ผมมาอาศัยเขาอยู่อันที่จริงผมก็ช่วยแชร์ค่าห้องด้วยเหมือนกันครับ แต่ไปๆมาๆกลายเป็นว่าห้องนี้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของจูเนียร์ฮยองเจ้าระเบียบไปเสียแล้ว ขนาดเจบีฮยองยังต้องยอม

    ยังไม่ทันแก่เลยทำไมถึงถอนใจยาวขนาดนั้นล่ะ

    จูเนียร์ฮยองเดินมานั่งบนโซฟาข้างๆกับผมแล้วพูดขึ้นโดยที่สายตาจับจ้องที่ภาพในทีวี

    เหนื่อย

    คำสั้นๆที่ผมอยากจะพูดออกมาวันละหลายๆครั้ง แต่ไม่รู้จะพูดไปทำไมในเมื่อไม่มีใครอยากจะรับรู้

    เหนื่อยงั้นหรอ...กายเหนื่อยหรือใจเหนื่อยกันล่ะ

    จูเนียร์ฮยองถามต่อด้วยน้ำเสียงลอยๆคล้ายว่ากำลังพูดกับตัวเองไปด้วย

    วันนี้ผมทำให้เพื่อนต้องเจ็บตัวอีกแล้วล่ะ...

    แล้วเขาเป็นอะไรมากมั้ยล่ะ

    คราวนี้จูเนียร์ฮยองหันหน้ามาหาผม

    ผมเห็นเลือดเขาออกนิดหน่อย...แต่ผมไม่รู้ว่าเขาเจ็บมากมั้ย  เขาจะเจ็บมากมั้ยนะฮยอง...ถ้าฮยองล้มไปแบบนั้นฮยองจะเจ็บมั้ย

    ผมพูดเสียงสั่นสองมือของผมจับกันแน่น ซักพักผมก็รู้สึกถึงสัมผัสอุ่นๆจากมือคนข้างๆที่กำลังลูกหัวผมอยู่  จูเนียร์ฮยองกำลังปลอบผมอยู่ซินะ

    เจ็บซิเลือดออกขนาดนั้นน่ะ...

    จูเนียร์ฮยองตอบผมมา...นั่นซินะ ต้องเจ็บอยู่แล้ว เจ้านั่นตัวเล็กนิดเดียวเองทำไมจะไม่เจ็บล่ะ...

    แต่เดี๋ยวก็หาย...เพราะมันเจ็บแค่ที่แผลนี่ ไม่ได้เจ็บที่ตรงนี้ซักหน่อย

    จูเนียร์ฮยองชี้มาที่อกข้างซ้ายของผม

    หมายถึงนมน่ะเหรอ

    ป้าป! จากมือที่ลูบหัวเบาๆกลายเป็นตบมาอย่างแรง

    หัวใจเว้ย!  แกนี่มันน่านัก  เศร้าไปคนเดียวเลยไป

    งือ...ฮยองอ่ะอยู่เป็นเพื่อนก่อนดิ

    ผมดึงมือจูเนียร์ฮยองไว้ตอนที่เขาทำท่าจะเดินหนีไป  จนเขาเซกลับมานั่งที่เดิมแล้วโวยวายผมใหญ่

    ย่าส์...นี่แกจะฆ่าชั้นหรอ เจ้าเด็กมีปัญหา

    โธ่ฮยองอ่ะ..ก็ผมกำลังมีปัญหาจริงๆนี่

    ผมเห็นจูเนียร์ฮยองนวดขมับตัวเองซักพักก่อนหันกลับมาหาผม

    ถ้าแกไม่ได้ตั้งใจก็บอกเขาไปซิว่าไม่ได้ตั้งใจเรื่องจะได้จบๆ

    ก็มันไม่กล้านิ  ให้ไปต่อยคนยังกล้าซะกว่า

    คำพูดของผมทำให้จูเนียร์ฮยองเกือบจะฟาดผมอีกทีนึงแต่ผมยกมือห้ามไว้ซะก่อน

    การที่แกเข้าไปต่อยคนนั่นไม่ได้เรียกว่ากล้าโว้ย...เขาเรียกว่าควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ไม่มีสติ ไม่มีความคิด ชอบใช้แต่กำลัง พวกมีสมองใส่ไว้ให้นักหัว

    เฮ้ย...นี่ด่าป่ะเนี่ย

    สอนเว้ยไม่ได้ด่า

    ...มาเป็นชุดเนี่ยนะไม่ได้ด่า...ผมได้แต่คิดครับถ้าขืนพูดออกไปเนี่ยมีหวังโดนด่าหูชาแน่เลย 

    นี่คิมยูคยอม...มันจะไปยากอะไรนักหนาแค่เดินไปบอกเขาว่าขอโทษนะ เราไม่ได้ตั้งใจเนี่ยนะ

    ไม่ใช่ไม่กล้า...แต่กลัวเขาไม่เชื่อ

    ผมพูดเบาๆแต่ก็พอที่พี่ชายข้างๆจะได้ยิน

    แล้วนายเคยลองพูดไปหรือยังล่ะ

    ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยลองนะ...เมื่อก่อนผมมักจะพูดทุกครั้งตอนแรกพวกเขาก็บอกว่าไม่เป็นไรชั้นเข้าใจนายนะ...แต่พอลับหลังพวกเขากลับไปบอกคนอื่นว่าผมน่ะมันนักเลงชัดๆชอบใช้แต่กำลัง

    ผมพูดสิ่งที่อัดอั้นมานานเพราะเป็นอย่างนี้ไงผมถึงไม่อยากพูดอะไรอีกต่อไปแล้ว

    แต่สุดท้ายนายก็ได้อธิบายนะ...นายลองคิดดูซิระหว่างการที่นายพูดอธิบายแล้วผลลัพธ์ออกมาคือพวกเขาอาจจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ กับการที่นายปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างไปโดยไม่ได้อธิบายอะไรเลยแล้วสุดท้ายพวกเขาก็ไม่เข้าใจนาย...คิดว่าอย่างไหนมันดีกว่ากันล่ะ

    ผม...

    ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อมันจริงอย่างที่ฮยองพูดทุกอย่าง จู่ๆก็เหมือนน้ำตาจะไหลออกมา

    ลองเสี่ยงอีกซักครั้งซิยูคยอม

    ...ลองเสี่ยงดูงั้นหรอ  ผมควรจะลองเสี่ยงดูอีกซักครั้งใช่ไหม...

    ผมมองหน้าจูเนียร์ฮยองซักพักแล้วพยักหน้า  จูเนียร์ฮยองยิ้มให้ผมแล้วกอดเพื่อให้กำลังใจผม ผมมองแผ่นหลังเล็กๆของพี่ชายคนนี้แล้วพาลให้คิดว่าจูเนียร์ฮยองนี่สุดยอดจริงๆตัวก็เล็กกว่าเขาแต่กล้าที่จะคิดกล้าที่จะทำกล้าที่จะแก้ปัญหาต่างๆด้วยตัวเอง  ฮยองคนนี้เคยมีปัญหาที่แก้ไม่ได้บ้างหรือเปล่านะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×