คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : การพบกัน
หลังจากที่ได้ทอดพระเนตรเห็นขบวนการนำเสด็จโอรสแห่งฟรอส คามินเจ้าชายผู้สง่างามก็อดคลางเคลงในใจมิได้ ใช่ว่าเขาจะไม่รู้จักเมืองฟรอส แต่จากสิ่งที่เขาได้เคยได้ยินได้ฟังชาวเมืองฟรอสต่างกล่าวถึงแต่ราชาฮามิสเป็นผู้ทรงคุณธรรมมีโอรสองค์โตคือเจ้าชายเฮอรันและมเหสีฝ่ายซ้ายวิเวียงกับเจ้าหญิงน้อยแซนดร้า แต่ไม่ยักรู้ว่าราชาฮามิสมีบุตรชายอีกคนแต่เหตุใดจึงไม่เคยถูกกล่าวถึงในบทสนทนาของชาวฟรอสบ้าง…
“พระองค์ทรงคิดการใดอยู่พระเจ้าค่ะ”
เอเดนองค์รักษ์คนสนิทของเจ้าชายกล่าวขึ้น เพราะหลังจากเจ้าชายทรงทอดพระเนตรเห็นขบวนเสด็จเชลยแห่งฟรอส ก็เอาแต่จ้องมองเจ้าชายรูปงามผู้นั้นอย่างไม่ละสายตาจนกระทั่งเจ้าชายผู้นั้นเดินหายเข้าไปกับเหล่าเสนาชั้นผู้ใหญ่ คาดว่าคงนำตัวไปพบท่านราชาเป็นแน่
“เจ้าเคยได้ยินเรื่องกล่าวถึงบุตรชายคนเล็กของราชาฮามิสหรือไม่...เอเดน”
เจ้าชายตรัสถาม
“กระหม่อมมิเคยได้ยินเลยว่าองค์ราชาแห่งฟรอสทรงมีบุตรชายคนเล็กพระเจ้าค่ะ”
เอเดนตอบตามสิ่งที่ตนเองได้เคยรับรู้มา
“งั้นรึ...”
“เจ้าชายทรงคิดสิ่งใดอยู่พระเจ้าค่ะ”
เจ้าชายคามินไม่ตอบในสิ่งที่องค์รักษ์ถามแต่ทรงมุ่งหน้าไปยังห้องโถงใหญ่ที่เหล่าเสนาพาเจ้าชายต่างเมืองเข้าไป
เมื่อมาถึงที่หมายเจ้าชายแห่งแองเคอก็มุ่งตรงเข้าไปทันทีโดยไม่สนใจเสียงห้ามของเหล่าเสนาอวดีทั้งหลาย
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่...คามิน”
สิ้นเสียงของผู้เป็นบิดาเจ้าชายคามินจึงทำความเคารพก่อนตอบ
“ลูกเพียงแต่อยากจะได้ทำความรู้จักกับเจ้าชายที่จะมาพำนักอยู่ที่แองเคอก็เพียงเท่านั้น”
“งั้นรึ...เช่นนั้นเจ้าจงรู้จักไว้นี่คือบุตรของราชาฮามิสแห่งฟรอสนามว่า เฮอเช่ย์”
สิ้นเสียงราชา เฮอเช่ย์จึงจำต้องหันมาทำความรู้จักด้วยความจำใจเนื่องเพราะไม่อยากจะมีปัญหากับผู้ใดทั้งตอนนี้และในภายหน้า
“หม่อมชั้นเฮอเช่ย์ ยินดีที่ได้รู้จัก”
เมื่อเฮอเช่ย์หันมาทำความรู้จักทำให้เจ้าชายแห่งแองเคอได้พินินพิเคราะห์เจ้าชายองค์นี้ชัดๆ ดวงหน้างดงามราวกับจันทร์กระจ่าง ดวงตาหวานซึ้งผู้ใดได้มองต้องถูกสะกดราวกับต้องมนต์ ริมฝีปากสีสวยราวกับบุปผาชาติแรกแย้ม นี่หรือคือเจ้าชายแห่งฟรอสบอกว่าเป็นเจ้าหญิงจะเห็นว่าเหมาะกว่า
“และนี่คือคามินบุตรคนเล็กของข้า”
เจ้าชายคามินชะงักเล็กน้อยเหมือนเมื่อครู่ได้ตกอยู่ในภวังค์บางอย่าง
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”
เจ้าชายตอบกลับด้วยเสียงเรียบนิ่งแต่สายตาก็ยังมิวายทอดพระเนตรบุรุษตรงหน้าอย่างมิวางตา
“เจ้าคงสงสัยว่าราชาฮามิสมีบุตรคนเล็กด้วยหรือ เช่นข้าใช่หรือไม่”
ราชาแอนิคอนตรัสขึ้นเหมือนทรงรู้ว่าลูกของตนคิดอะไรอยู่
“เจ้ามิต้องกังวลไปหรอกยังไงซะฟรอสก็คงมิกล้าเล่นตุกติกกับแองเคอหรอก...เจ้าคิดเช่นนั้นไหมเจ้าชาย”
ประโยคหลังองค์ราชาหันไปตรัสกับผู้มาจากต่างเมือง
“ข้ามิขอให้ความเห็นแต่อย่างใด...แค่ขอใช่ชีวิตในฐานะเชลยเพื่อรักษาเมืองฟรอสไว้ให้ได้แต่เพียงเท่านี้”
เฮอเช่ย์กล่าวอย่างเฉยชาราวกับไร้ความรู้สึกหรือไม่อยากรับรู้สิ่งใดๆ
“เชลยงั้นรึ...จริงๆข้าไม่อยากให้เจ้าคิดอย่างนั้นซักเท่าไหร่แต่ข้าคงห้ามความคิดใครไม่ได้...เอาเถอะเจ้ามาเหนื่อยๆเดี๋ยวข้าจะให้คนพาเจ้าไปยังที่พักของเจ้าและข้าหวังว่าเจ้านะชอบมัน”
“เช่นนั้น...ลูกขอเป็นผู้พาองค์ชายไปเองได้หรือไม่”
เจ้าชายคามินตรัสถาม ราชานึกสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรแค่เพียงพยักหน้าแล้วเดินออกไปจากห้องโถงเพราะทรงเสร็จสิ้นธุระแล้ว
ด้านเฮอเช่ย์เมื่อได้อยู่กับเจ้าชายคามินเพียงสองคนจึงพูดขึ้นมา
“ท่านไม่จำเป็นต้องเป็นภาระพาข้าไป”
“เหตุใดจึงคิดเช่นนั้น...ข้าเพียงแต่ต้องต้องรับแขกจากต่างเมืองให้ดีเพียงเท่านั้น”
เจ้าชายคามินตอบ
“เรียกว่าเชลยเห็นจะสมควรกว่ากระมัง”
“วาจาเจ้าช่างประชดประชันยิ่งหนัก”
“ข้าแค่พูดตามสิ่งที่ควรจะเป็น”
เฮอเช่ย์ยังคงเฉยชาเช่นเดิมมิได้เกรงกลัวเจ้าชายเลยแม้แต่น้อย
“เช่นนั้นเจ้าก็ควรจะตามข้ามาได้แล้วในเมื่อสิ่งที่ควรจะเป็นตอนนี้คือข้าต้องพาเจ้าไปยังที่พัก”
พูดเพียงเท่านี้เจ้าชายแห่งแองเคอก็ทรงเดินนำไปทิ้งความฉงนใจให้กับเฮอเช่ย์
“ตกลงท่านเข้าใจที่ข้าพูดไหมเนี่ย”
ความคิดเห็น