คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่4 เด็กมีปัญหา(3)
ตอนที่ 4 เด็กมีปัญหา(3)
ห้องสมุดเป็นสถานที่ที่ผมชอบที่สุดเพราะมันสงบ ไม่วุ่นวาย ผมเดินไปยังโต๊ะที่อยู่ท้ายสุดที่เพิ่งจะมีคนลุกออกไป อิม แจบอม ได้เดินสวนกับผมไปโดยไม่ทักทาย ทำไมผมถึงรู้จักเขาน่ะเหรอครับเพราะเราเคยแข่งบาสด้วยกันเป็นทีมโรงเรียนน่ะครับแต่ไม่ได้สนิทกัน ชื่อของผมเขายังจำไม่ได้เลย...ช่วงใกล้แข่งเขาก็แค่เข้าซ้อมแล้วพอซ้อมเสร็จก็กลับบ้านทันที โดยไม่ทักทายหรือพูดคุยกับใครซักคน...ใช้ชีวิตเหมือนอากาศ...คำนี้เพื่อนในทีมเคยบอกมาครับว่าเขาใช้ชีวิตล่องลอยไปวันๆ
...ส่วนผม ก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่...
“มาร์คคึ...”
ผมเงยหน้ามองผู้มาเยือน..จีมินนั่นเอง...
“ว่าไง...ไม่มีชั่วโมงเรียนหรอ”
ผมถามคนอายุน้อยกว่า ใช่แล้วครับจีมินเป็นรุ่นน้องผมที่ผมกับเธอรู้จักกัน ก็เพราะจีมินเป็นเพื่อนสนิทกับแบมแบมเจ้าน้องตัวแสบ
“วันนี้ครูซอนให้เรียนรู้ด้วยตัวเองค่ะ”
“อืม...แล้ว...”
“อ๋อ แบมแบมหรอคะ...รายนั้นน่ะโดดไปแล้วค่ะ”
จีมินชิงตอบก่อนเหมือนรู้ว่าผมจะถามอะไร...ว่าแต่ เจ้านั่นโดดอีกแล้วหรอ...
“นี่อปปา...อ่านแต่หนังสือทุกวันไม่เบื่อบ้างหรอ”
จีมินถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ก็ไม่นี่”
คำตอบของผมทำให้จีมินถึงกับทำหน้าเหยเก พวกเด็กๆก็อย่างนี้แหละครับส่วนมากมักจะขยาดกับหนังสือนอกจากพวกหนอนหนังสือ เด็กเรียน แล้วก็พวกไม่มีอะไรทำเท่านั้นแหละที่จะจับมันขึ้นมาเป็นอย่างแรกเมื่อถึงเวลาว่าง ผมเองคงจะเป็นอย่างหลังนั่นแหละเป็นพวกไม่มีอะไรทำและไม่รู้จะทำอะไร ผมยังคงอ่านไปเรื่อยๆจนเริ่มรู้สึกว่ามีสายตาคู่หนึ่งยังคงมองอยู่
“แล้วเราล่ะ...ทำไมยังไม่ไปเรียนรู้ด้วยตัวเองอีก”
ผมถามจีมินที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมอีกครั้ง
“อปปาก็เห็นว่าแบมแบมไม่อยู่...แล้วชั้นจะไปนั่งกับใครล่ะ”
จีมินพูดเสียงหงอยๆ นี่นอกจากแบมแบมแล้ว เด็กคนนี้ไม่มีเพื่อนคนอื่นเลยใช่มั้ยเนี่ย
“ทำไมถึงไม่เป็นเพื่อนกับเด็กผู้หญิงล่ะ”
ผมตัดสินใจถามออกไปตรงๆ
“แล้วเป็นเพื่อนกับเด็กผู้ชายมันไม่ดีตรงไหนล่ะ”
จีมินสวนกลับทันทีแล้วทำแก้มป่องจนผมอดที่จะเอามือไปดึงไม่ได้..เหมือนกับแบมแบมเลยเนอะเด็กคนนี้...
“อปปา อ่า..อย่าดึงดิ”
ผมปล่อยมือออกจีมินรีบเอกมือตบแก้มเบาๆเหมือนว่าจะทำให้มันยุบลง ตลกชะมัดเด็กคนนี้
“อปปารู้มั้ย ว่าทำอย่างนี้ชั้นต้องเขม่นจากเพื่อนผู้หญิงอีกแน่ๆ”
“หืม..ทำไมล่ะ”
จีมินทำตาโตเหมือนจะถามว่าเรื่องแค่นี้ผมไม่รู้หรออะไรประมาณนี้
“อปปาเห็นผู้หญิงกลุ่มนั้นมั้ย”
จีมินพยักหน้าไปทางขวามีเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่งพอผมมองไปพวกเธอก็ก้มหน้าทันที
“เพื่อนในห้องหรอ”
จีมินพยักหน้าแล้วกระดิกนิ้วเรียกผมเป็นเชิงให้เอาหูมา
“พวกนั้นน่ะปลื้มอปปามากเลย...ชั้นอาจจะโดนตบได้เลยนะ”
ผมถอยกลับมานั่งตามเดิมพอจะเข้าใจความหมายของจีมิน
“อปปาเนี่ยนะไปหัดหล่อมาจากไหนเนี้ยะ”
“หล่อนี่มันต้องหัดด้วยหรอพี่เพิ่งรู้”
ผมพูดขำๆ
“อปปา อ่า...นอกจากจะไปหัดหล่อแล้ว ยังไปหัดกวนมาอีกหรอ”
ผมขำกับท่าทางของเด็กคนนี้มาก ก็ดีนะนานๆครั้งจะได้พูดคุยกับใครนานๆแบบนี้ปกติอยู่ในห้องเรียนผมก็แทบจะไม่คุยกับใครเลยนอกจากจะมีใครเข้ามาทักผมก่อน
“อปปาหัดยิ้มแบบนี้บ่อยๆซิ จะได้ไม่มีคนหาว่าอปปาหยิ่ง”
“หืม...มีคนว่าพี่อย่างนั้นหรอ”
ผมแกล้งถามไปอย่างนั้นแหละครับ ใช่ว่าผมจะไม่รู้ว่าคนอื่นมองผมเป็นอย่างไงแต่ผมเลือกที่จะไม่สนใจต่างหาก
“นี่แล้วทำไมอปปาไม่ไปคุยกับเพื่อนบ้างล่ะ...ชั้นเห็นทีไรอปปาก็อยู่คนเดียวไม่ก็อยู่กับแบมแบมเป็นอย่างนี้ทุกที”
“ก็ไม่มีใครมาคุยกับพี่นี่”
ผมพูดจบก็ก้มหน้าอ่านหนังสือต่อโดยที่จีมินยังคงพูดจาฉอเลาะอยู่ตรงข้ามผม
“นี่อปปา”
“หืม”
ผมตอบกลับขณะที่ตายังคงจ้องอยู่ที่ตัวหนังบรรทัดสุดท้ายของหน้า
“การรอให้คนอื่นมาคุยกับเราก่อนเนี่ย...มันนานจังเลยเนอะ”
“แล้วทำไมเราถึงไม่เข้าไปหาเขาก่อนละ”
ผมถามโดยที่ไม่เงยหน้ามองฝ่ายตรงข้าม..มันเหมือนเป็นคำถามที่ผมใช้ถามตัวเองด้วยเหมือนกัน..
“ใครว่าชั้นไม่ทำล่ะ..ชั้นน่ะกำลังพยายามอยู่นะ..พยายามทุกวันเลย”
เสียงของจีมินอยู่เศร้ามากผมว่าเธอต้องเศร้ามากแน่ๆ
“การรอ...กับการพยายามอย่างไหนมันเหนื่อยกว่ากันหรอ”
“ไม่รู้ซิ ตอนแรกชั้นก็แค่คิดว่าลองพยายามซักครั้งหนึ่งน่า...พอต่อมาชั้นก็พูดกับตัวเองอีกว่าเอาอีกซักครั้งน่า...จนตอนนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าชั้นพยายามมามากเท่าไหร่แล้ว”
จนตอนนี้ผมก็ยังรับรู้ได้ว่าเด็กคนนี้คงต้องผ่านเรื่องอะไรที่หนักหนามาแน่ๆ แต่เธอก็ยังคงเข้มแข็งกล้าที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่ง จนผมรู้สึกว่าทำไมตัวเองถึงไม่มีความกล้าเหมือนเธอบ้างนะ
“นี่อปปา...ถ้าเหงาก็ลองปิดหนังสือแล้วเงยหน้าขึ้นมาก็ได้นะ”
พูดจบจีมินก็ลุกเดินออกไป เป็นเวลานานเท่าไหร่ไม่รู้ที่สายตาผมยังคงจ้องที่บรรทัดสุดท้ายของหนังสือหน้านั้น ข้อความสั้นๆที่ผมรู้จักมันดี...ระหว่างทางของการรอ มีทั้งท้อ และเหงา....
หลังจากชั่วโมงเรียนของครูซอนผ่านไปผมก็กลับมาที่ห้องเรียน ซึ่งชั่วโมงต่อไปเป็นชั่วโมงเรียนสุดท้ายของวันนี้ เป็นวิชาที่ใครหลายๆคนชอบ แต่ผมกลับเกียจที่สุด
“แบมแบม แกไม่ไปเปลี่ยนชุดล่ะ ถึงชั่วโมงพละแล้วนะ”
เสียงจีมินเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของผมพูดขึ้นหลังจากที่ในห้องเหลือเราแค่สองคน เพราะคนอื่นๆต่างเปลี่ยนเสื้อผ้าลงไปที่โรงยิมเพื่อเรียนพละกันเรียบร้อยแล้ว
“แล้วแกไม่ไปเปลี่ยนก่อนล่ะ”
“เฮ้อ..”
พวกเราสองคนถอนหายใจพร้อมกัน ผมกับจีมินเราคล้ายกันครับทั้งนิสัยและเรื่องอื่นๆ จีมินไม่มีเพื่อนผู้หญิงเลย ส่วนผมก็ไม่มีเพื่อนผู้ชายเลย เราก็เลยคบกันแค่สองคนตอนแรกทั้งผมและจีมินก็ไม่ได้คิดอะไรอย่างน้อยพวกเราก็ยังเป็นเพื่อนของกันและกันใช่ไหมครับ แต่พอนานๆเข้าเพื่อนในห้องกลับมองพวกเราเป็นตัวประหลาดแปลกแยก...ผมไม่ชอบแบบนี้เลย...
“ไปเรียนกันเถอะ...ถ้าหนีเรียนบ่อยๆพวกเราแย่แน่ๆ”
ผมเห็นด้วยกับจีมินไม่ว่าจะช้าเร็วอย่างไงเราก็ต้องเผชิญหน้ากับมันอยู่ดี
....ที่โรงยิม...
ผมกับจีมินเราทั้งคู่เปลี่ยนเป็นชุดวอร์มเรียบร้อยแล้วครับ พอมาถึงที่โรงยิมครูฮงก็ให้พวกเราจับคู่กันเพื่อฝึกโยนบอล
“ค่อยยังชั่วหน่อยที่จับคู่ ไม่ได้จับกลุ่ม”
จีมินหันมากระซิบกับผม ใช่ครับโชคดีมากที่ได้จับคู่เพราะยังไงผมกับจีมินก็ต้องคู่กันอยู่แล้ว
“นักเรียนให้จับคู่ชายกับชาย หญิงกับหญิงนะ”
สิ้นเสียงของครูฮงทั้งผมและจีมินต่างมองหน้ากัน
“ช่วยไม่ได้ สู้สู้นะจีมิน”
“แกก็เหมือนกัน”
เราสองคนต่างให้กำลังใจกันและกัน จากนั้นจีมินก็เป็นฝ่ายเดินเข้าไปหากลุ่มผู้หญิง ส่วนผมก็เดินตรงเข้าไปหากลุ่มผู้ชายที่กำลังจับคู่กันอยู่ คงมีเหลือซักคนซิน่า ผมคิดอย่างนั้นแล้วเข้าไปหาพวกเขา
“มีใครเหลือจะคู่กับเรามั้ย”
ผมพูดอย่างร่าเริง แต่ดูพวกนี้มองผมดิ..ไม่เอาน่าแบมแบม ยิ้มเข้าไว้ อย่าคิดมาก...
“เอ่อ...มินวอน แกไม่มีคู่ไม่ใช่หรอวะ”
ผมหันไปทางมินวอนทันที เขาทำท่าอึกอัก
“เฮ้ยไรวะ ชั้นจะคู่กับจองชินโว้ย”
แล้วเขาก็เดินไปหาจองชินที่ทำท่างงๆ ผมก็เลยหันไปหาคนอื่นๆแต่ว่าพวกเขาก็ต่างมีคู่กันแล้วทั้งนั้น
...อะไรกันไม่เหลือซักคนเลยหรอ...
“เอ่อ...ตกลงไม่มีใครเหลือเลยใช่ป่ะ”
ผมลองถามดูอีกซักครั้ง แต่พวกเขากลับทำเป็นไม่สนใจผม มินวอนที่ตอนแรกจะเดินไปกลับเพื่อนของเขา เดินเข้ามาหาผมอีกครั้ง
“ถ้านายไม่มีคู่ก็ลองไปคู่กับยูคยอมดูซิ...เจ้านั่นน่ะก็คงยังไม่มีคู่หรอก”
ผมพยักหน้าให้กับมินวอนก่อนเขาจะเดินไป จากนั้นผมก็เดินไปหายูคยอมที่เอาแต่ก้มหน้าเล่นเกมส์โดยที่ไม่สนใจอะไร เท่าที่จำได้ผมไม่เคยคุยกับยูคยอมเลยทั้งที่เราอยู่ห้องเดียวกัน แต่ก็ไม่แปลกหรอกเพราะเพื่อนในห้องไม่ค่อยมีใครจะเข้ามาคุยกับผมซักเท่าไหร่
“นายยังไม่มีคู่ใช่ไหม”
“อืม”
เขาตอบโดยที่สายตายังคงจับจ้องที่เกมส์ในมือถืออยู่...เหอะพวกโลกส่วนตัวสูง...
“นี่งั้นนายคู่กับชั้นนะ”
“เออๆ”
เขายังคงตอบส่งๆไป...อะไรกันเจ้านี่ เกียจคนแบบนี้ชะมัด...
“นี่ครูฮงเรียกแล้ว รีบไปกันเถอะ”
ผมบอกแต่เขาก็ยังเฉยอยู่
“นี่ๆ คิม ยูคยอม”
ผมนั่งข้างๆแล้วสะกิดเขา เหมือนผมจะได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆออกมา
“อะไรกันหนักหนา ชั้นละเกลียดวิชานี้ชะมัด”
เขาบ่นแต่ก็ยอมลุกเดินออกไปโดยที่ไม่รอผม จนผมต้องรีบวิ่งตามไป เมื่อจับคู่เสร็จครูก็ให้พวกเราแยกกันซ้อม ผมกับยูคยอมเดินแยกมาตรงมุมที่ไม่ค่อยมีคน ความจริงเป็นผมที่เดินตามเขามาเสียมากว่า
“เอ้า!”
เขาโยนบอลมาให้ผมทันที จนบอลเกือบโดนหน้าผม
“งั้นเริ่มซ้อมกันเลยนะ”
ผมชวนแต่เหมือนเขาจะไม่ฟังผมเลยซักนิด กลับหยิบมือถือขึ้นมาเล่นเกมส์อีกต่างหาก
“นี่...ยูคยอม นายจะไม่ซ้อมหรอ”
เฮ้อ...ผมรู้สึกเหนื่อยกับคนคนนี้ซะแล้ว ไม่ซ้อมก็ไม่ซ้อมผมตัดสินใจนั่งลงข้างๆเขา แล้วมองดูเขาเล่นเกมส์ไปเรื่อยๆ โดยที่เจ้าตัวก็ยังไม่สนใจด้วยซ้ำว่าใครจะมองหรือไม่
“นายเล่นวนอยู่แต่ด่านเดิมๆไม่เบื่อหรอ”
ผมถามเขาหลังจากที่นั่งดูมาซักพัก แต่เขาก็ยังไม่ตอบอะไร
“นายเนี่ยนะ...ได้ฟังชั้นอยู่หรือเปล่า”
“เงียบเถอะน่า”
เขาพูดเหมือนรำคาญ
“เฮ้อ...เห็นมั้ยเนี่ยชั้นตายเลย”
ยูคยอมถอนหายใจแล้วยกมือถือให้ผมดู
“นายก็ยังอยู่ดีนี่...จะตายได้ไง”
“ย่าส์...นี่นายกวนชั้นหรอเจ้าเปี๊ยก”
ยูคยอมผลักผมอย่างแรกจนผมหงายหลัง...อะไรกันแค่พูดหยอกนิดเดียวเองทำไมหมอนี่ต้องรุนแรงด้วยนะ...
“เจ็บนะ..ทำไมนายต้องผลักชั้นด้วยเนี่ย”
“ก็นายมันกวนประสาท..ลุกขึ้นซิจะซ้อมไม่ใช่หรอ”
ยูคยอมลุกขึ้นแล้วโยนบอลมาให้ผมอีกครั้ง จากนั้นเราสองคนก็เริ่มซ้อมกัน
พลั่ก!
“โอ๊ย...นี่ยูคยอมโยนเบาๆหน่อยไม่ได้หรือไง”
“นี่เบาสุดแล้วนะ นายนั่นแหละไม่มีแรงเองเจ้าเปี๊ยก”
อีกแล้วเขาเรียนผมว่าเจ้าเปี๊ยกอีกแล้วผมไม่ชอบเลย
พลั่ก! คราวนี้เป็นผมที่เป็นฝ่ายโยน แต่ดูเหมือนว่าจะโยนแรงไปหน่อยยูคยอมเลยถึงกับเซ..ซะใจชะมัด...
“นี่แกคิดจะเอาคืนชั้นหรอ”
เขาเดินตรงมาหาผมแล้วผลักผมล้มลง เพื่อนในห้องต่างหันมามองผมเป็นตาเดียวซักพักจีมินก็วิ่งเข้ามาหาผม
“แบมแบม!เป็นไรมั้ย”
เธอเข้ามาช่วยผยุงผมขึ้น
“เลือดออกด้วยอ่ะ”
จีมินชี้ให้ผมดูที่ข้อศอกตัวเอง...เลือดจริงๆด้วย ทำไมยูคยอมถึงเล่นแรงจัง ฮือๆผมอยากร้องไห้จังเลย...
พอผมหันไปหายูคยอมหมอนั่นกลับหันหลังให้ผมโดยที่ไม่พูดอะไรซักคำ
“เกิดอะไรขึ้น!”
ครูฮงวิ่งเข้ามาดูผมทันทีที่รู้ว่าเกิดเรื่อง
“มีเลือดออกด้วยแฮะ...ใครพาเพื่อนไปห้องพยาบาลหน่อยซิ ส่วนยูคยอมเธอตามครูมา”
ครูฮงบอกแล้วหันไปพูดกับยูคยอมที่ยังคงหันหลังอยู่ ซักพักครูฮงก็เดินนำโดยมียูคยอมเดินตามไป
“ไปห้องพยาบาลเถอะแบมแบมเดี๋ยวชั้นพาไปเอง”
จีมินพูดกับผม...ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละก็เรามีกันอยู่สองคนนี่....
“ทะเลาะกับยูคยอมหรอ”
จีมินถามขึ้นหลังจากพาผมมาทำแผลที่ห้องพยาบาล
“ก็ไม่นี่...แล้วชั้นก็รู้สึกว่ายูคยอมไม่ได้ตั้งใจด้วย เฮ้อ...ทำไมเขาถึงไม่พูดอะไรเลยนะ”
“แล้วนายจะให้เขาพูดอะไรล่ะ นายกับเขาก็ไม่ได้สนิทกันซักหน่อย”
เธอพูดขณะที่กำลังทายาให้ผม
“อย่างน้อยก็น่าจะพูดว่า เป็นไรมั้ย หรือ ขอโทษนะชั้นไม่ได้ตั้งใจ”
“เขาคงยังไม่กล้าพอล่ะมั้ง”
“แค่ขอโทษแค่นี้อ่ะนะ”
ผมพูดอย่างสงสัยแค่เรื่องง่ายๆแค่นี้เนี่ยนะทำไมถึงไม่กล้าตัวก็ยังกะยักษ์
“บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขาก็ได้...ก็เหมือนกับพวกเราไงแค่จะเป็นเพื่อนกับคนในห้องยังยากเลย”
“นั่นซินะ...บางทีชั้นก็สงสัยว่าทำไมพวกเราถึงเข้ากับใครไม่ได้ซักที เป็นเพราะพวกเขาไม่อยากเป็นเพื่อนกับเราหรือว่าเราเองที่ไม่อยากคบกับพวกเขากันแน่”
บางทีปัญหาของผมก็คือการที่ผมยังไม่รู้ว่าการเริ่มต้นทำบางสิ่งบางอย่างมันต้องทำอะไรบ้าง ทุกครั้งที่ผมอยากจะเริ่มต้นทำอะไรหรือคุยกับใครผมมักจะไม่รู้ว่าควรเริ่มยังไงดี สุดท้ายผมก็ต้องปล่อยมันไปบอกกับตัวเองว่าช่างมันเถอะ แล้วค่อยคิดที่จะเริ่มใหม่อีกครั้ง...และมันก็กลับมาที่เดิมคือการที่ผมไม่เคยได้เริ่มทำอะไรเลย
ความคิดเห็น