คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่3 เด็กมีปัญหา(2)
ตอนที่ 3 เด็กมีปัญหา(2)
“เจ้าแจ็คสัน หวัง นั้นโดดเรียนอีกแล้วเหรอครับ คุณครูคิม”
“เฮ้อ...เจ้าเด็กนั่นจะมีปัญหาไปถึงไหนนะ”
เสียงพูดคุยของครูทำให้ผมหยุดฟังซักครู่ ครูคิม โจชอง มักจะพูดถึง...แจ็คสัน หวัง...ทุกครั้งเมื่อเลิกสอนห้อง 3-c ดูเหมือนว่าเจ้านี่จะมีปัญหากับครูคิมตลอดเลยนะ
“จินยอง”
“ครับ”
ผมละจากความสนใจเมื่อครู่แลัวหันไปตามเสียงเรียกของครูฮา อินซอก
“ครูฝากบอกอิมแจบอมหน่อยซิว่าให้ส่งการบ้านให้ตรงเวลาหน่อย”
“ได้ครับ..แล้วผมจะบอกให้”
ผมรับคำและทำความเคารพก่อนเดินออกมา...เจบีนี่จริงๆเลยบอกกี่ครั้งแล้วให้หัดส่งการบ้านซะบ้าง...
ผมเดินมาจนถึงห้อง 3-A ซึ่งเป็นห้องเรียนของผมเอง เมื่อมาถึงผมก็ตรงไปหาเจ้าเพื่อนตัวดีที่เอาแต่นั่งเล่นเกมส์โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
ปึง! ผมวางหนังสือบนโต๊ะของเขาอย่างแรงจนเจบีสะดุ้ง แล้วเงยหน้าขึ้นมามองผม
“ทำอะไรของนายฮะจูเนียร์ เห็นมั้ยเกือบชนะแล้วเนี้ย”
เจบีโวยวายพร้อมกับยกมือถือให้ผมดูเกมส์บ้าๆของมัน
“นายจะเล่นจนฟันหน้าเขาที่เลยใช่ม่ะ..ครูฮาบอกให้นายหัดส่งการบ้านบ้าง”
“โห...บอกว่าอย่าล้อเรื่องฟันหน้า..แล้วก็เลิกบ่นได้แล้วเดี๋ยวตีนกาก็ขึ้นหรอก”
ป้าป!
“โอ๊ย!”
เจบีร้องลั่นหลังจากชิมรสฝ่ามือพิฆาตของผมไปหนึ่งที
“เลิกเล่นแล้วหัดจริงจังกับชีวิตบ้างนะอิมแจบอม อย่าลืมสิพวกเราอยู่ชั้นปีสุดท้ายแล้วนะ เดี๋ยวก็ไม่จบหรอก”
เจบีถอนหายใจก่อนเก็บมือถือใส่ในกระเป๋ากางเกง
“นายก็เลิกบ่น แล้วก็เลิกสั่งให้ชั้นทำนู่นทำนี่ซักทีได้มั้ย...ยังไงชั้นก็สอบผ่านอยู่แล้วน่า”
พูดจบเจบีก็ลุกเดินออกไป...อย่างนี้ทุกทีเจบีไม่ค่อยจะสนในอะไรเลยแม้แต่ความห่วงใยของเพื่อน...
ผมกับเจบีเรารู้จักกันตั้งแต่ ม.ต้น พวกเราสนิทกันมา จนขึ้น ม.ปลาย เราตัดสินใจแชร์ห้องอยู่ด้วยกัน โดยมียูคยอมลูกพี่ลูกน้องของเจบีอยู่ด้วย แต่เหมือนยิ่งสนิทมากขึ้นเท่าไหร่มันยิ่งทำให้ผมรู้ว่าเพื่อนคนนี้ไม่เคยสนใจอะไรเลยแม้แต่ตัวเอง ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกใครเลยแม้แต่เพื่อนสนิทอย่างผม
...เหมือนเจบีมีเรื่องบางอย่างปิดซ่อนเอาไว้...
“นี่จูเนียร์..นายจะต่อมหาวิทยาลัยอะไรหรอ”
ผมหันหน้ามาหาต้นเสียงพบว่าเป็นอายอน
“อ่า..ชั้นยังไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลยน่ะ”
“แล้วกัน...ชั้นคิดว่านายเตรียมตัวไว้แล้วซะอีก”
อายอนทำหน้าผิดหวังสุดๆ
“แล้วทำไมเธอถึงไม่ถามเพื่อนคนอื่นล่ะ”
“ก็นะ...ชั้นเห็นายน่ะเรียนเก่งที่สุด เป็นหัวหน้าห้องที่มีความรับผิดชอบ จะทำอะไรก็ดูเป็นคนรอบคอบ ชั้นเลยตัดสินว่านายต้องวางแผนอนาคตไว้แล้วแน่ๆ”
อายอนพูดอธิบายยืดยาวตามแบบฉบับของเธอ
“อนาคตงั้นเหรอ...นั่นซิชั้นควรจะเริ่มวางแผนได้แล้วเนอะ”
“นายนี่นะ...ลืมอนาคตตัวเองได้ยังไง”
อายอนลุกออกไปหลังจากพูดจบ ผมได้แต่มองไปนอกหน้าต่าง
“ชั้นไม่ได้ลืมหรอก...เพียงแต่ยังไม่มีคนขีดเส้นไว้ให้ชั้นก็เท่านั้นเอง”
...ผมยังไม่รู้จริงๆว่าอนาคตผมควรจะทำอย่างไรเพราะทุกวันนี้ผมเพียงแค่ทำตามกฎระเบียบที่วางไว้และควรจะเป็นเท่านั้นเอง...
ผมเดินหลบเสียงบ่นของจูเนียร์มาฟุบหลับในห้องสมุด จูเนียร์มักจะพูดบ่นผมเสมอเมื่อผมคิดจะแหกกฎ หรือแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆน้อยๆ ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าหมอนั่นจะเครื่องครัดไปถึงไหน ชีวิตของผมก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับอยากจะทำอะไรทำ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องสนใจใครเลย
“นายไม่มีชั่วโมงเรียนหรือไง”
ผมลืมตาขึ้นหลังจากได้ยินเสียงทักจากผู้หญิงคนหนึ่ง
“เธอ...เป็นใคร”
ผู้หญิงตรงหน้าทำหน้าเซ็งๆ ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
“นี่นายจำชั้นไม่ได้จริงๆหรอ”
ผมพยายามจ้องหน้าเธออีกครั้งเผื่อจะนึกได้ ซึ่งเธอก็ทำท่าลุ้นไม่น้อย
“ชั้นไม่ยักจะจำได้ว่ามีเพื่อนสวยขนาดนี้”
เธอกลอกตาไปมาหลังจากได้ฟังคำตอบของผม ทำไงได้ก็ผมจำไม่ได้จริงๆนี่นา
“เฮ้อ...ชั้นจะถือว่าเป็นคำชมล่ะกัน”
“อืม...งั้นเดี๋ยวชั้นจะลองนึกอีกทีนะ”
“พอแระ...ถ้านึกไม่ออกก็ไม่ต้องพยายาม”
ดูเหมือนเธอคนนี้จะหมดความอดทนกับผมซะแล้ว
“ชั้น เบ ซูจี ห้อง 3-B ที่เคยเข้าไปขอเบอร์นายมาให้เพื่อน แล้วโดนนายปฏิเสธ เล่าขนาดนี้พอจะฟื้นความจำได้บ้างม่ะ”
“อ๋อ...เธอคนที่โดนชั้นปฏิเสธ”
ผมเริ่มนึกออกขึ้นมานิดหน่อย
“นายปฏิเสธเพื่อนชั้น...ไม่ ใช่ ชั้น”
ซูจี พยายามแก้ต่าง ทำไงได้ก็ผมมันหล่อไม่ใช่เล่นนี่สาวๆเลยเข้าหาเป็นธรรมดา...หึหึไม่อยากจะพูด...
“แล้วเธอมาทักชั้นทำไมล่ะ หรือว่า....จะขอเบอร์อีกรอบ บอกไว้ก่อนนะ ไม่ ให้”
“ไม่ได้ขอ”
แป่ว...ผมรู้สึกหน้าชาไปนิด
“ก็ชั้นรู้จักนาย ชั้นก็ต้องทักเป็นธรรมดา”
“ธรรมดางั้นหรอ...สมมติถ้าเธอรู้จักใครภายในวันเดียว แล้วเธอเจอเขาอีกครั้งเธอก็จะทักทายอย่างนั้นน่ะเหรอ”
ผมถามอย่างสงสัย
“ก็ใช่”
“ถึงแม้เขาจะจำเธอไม่ได้เนี่ยนะ”
ซูจีจ้องหน้าผมตรงๆมันยิ่งทำให้ผมงง
“ถ้าคนที่สนใจคนรอบข้างจริงๆเขาก็จะจำได้...เพียงแค่เอ่ยชื่อเขาก็นึกออก ยกเว้นคนที่ไม่คิดจะสนใจอะไรเลย ใช้ชีวิตล่องลอยเหมือนอากาศ”
“ชั้นเนี่ยนะไม่สนใจอะไรเลย”
ซูจีถอนหายใจออกมา เหมือนระอาใจกับผมเต็มที
“แม้แต่ตัวนายเองยังไม่รู้เลย...นี่ถามจริงเหอะนายเคยสนใจอะไรบ้างไหม”
เธอพูดจบแล้วลุกเดินออกไป ผมมองตามซูจีแล้วนึกถึงตัวเองขึ้นมา
“เธอไม่รู้หรอก...ยิ่งเราสนใจอะไรมากเราก็ยิ่งเจ็บมาก”
...ชีวิตของผมก็มีเพียงเท่านี้แหละครับ...
ความคิดเห็น