ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic got7 บังเอิญได้รัก(Incidentally love)

    ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่17 เรื่องคลี่คลาย

    • อัปเดตล่าสุด 26 ม.ค. 58


    ตอนที่ 17

     

    (แจ็คสัน)

     

    มันแปลกเกินไปนะแจ็คสันที่เธอจะทำได้ขนาดนี้

    ผมทำได้จริงๆนะครับ

    เธอแน่ใจนะว่าเธอไม่ได้โกงข้อสอบ

    แม้แต่ครู...ก็ไม่เชื่อผมเหรอครับ

    ครูก็อยากจะเชื่อนะ...เพียงแต่มันแปลกเกินไป

    นั่นแหละครับเขาเรียกว่าไม่เชื่อ

     เฮือก!  ผมสะดุ้งตื่นจากความฝันที่ผมพยายามจะหนีมาตลอด ทำไมจู่ๆถึงฝันขึ้นมานะ  ทั้งที่พยายามจะลืมมาตลอด ทำไมครูปาร์คถึงอยากรู้เรื่องพวกนี้ขึ้นมา  ผมใช้มือข้างหนึ่งขยี้หัวตัวเองแรงๆเผื่อว่าจะทำให้สิ่งที่รบกวนจิตใจมันจะกระจายหายไปบ้าง  แต่ก็ไม่เลยภาพในวันนั้นมันยังคงชัดเจน ผมนั่งสงบสติอารมณ์ซักพักก่อนเหลือบไปเห็นนาฬิกาแขวนในห้องนอนของตัวเอง  ห้าโมงแล้ว...ผมหนีออกมาจากโรงเรียนตั้งแต่ตอนเที่ยงเมื่อไม่รู้ว่าจะไปไหนผมก็ได้แต่กลับมาที่บ้านแล้วเข้าห้องไม่พูดไม่จากลับใครแม้แต่กับพ่อของตัวเอง

    ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอกผมจัดแจงสภาพของตัวเองให้ดีก่อนเดินไปเปิดมัน

    มีอะไร

    ผมพูดเสียงห้วนๆเพราะคนที่มาเปิดไม่ไช่ใครที่ไหนแต่เป็นพ่อของตัวเอง

    แกคิดจะพูดกับฉันดีๆซักวันไม่ได้เหรอ

    ผมไม่ตอบ คนตรงหน้าได้แต่ถอนหายใจเหมือนระอาใจแล้วเดินเข้ามาในห้องของผม

    แกมีปัญหาอะไรอีกหรือเปล่า  ปกติไม่เห็นกลับบ้านไวแบบนี้นี่  หรือว่าเพราะครูที่โรงเรียนอีก

    ไมไช่หรอกน่า!”

    ผมพูดเสียงแข็งกลับไปเพราะผมกลัวว่าคนคนนี้จะทำอะไรแบบตอนนั้นอีก

    งั้นเหรอ...ถ้าไม่ไช่แล้วแกมีปัญหากับใครอีกล่ะ  จะให้ฉันสั่งลูกน้องไปจัดการมั้ย

    เลิกจัดการอะไรแทนผมซักทีเถอะ

    ที่ฉันทำก็เพื่อแกนะ...แจ็คสัน

    ผมหันไปมองหน้าพ่อตรงๆ นี่น่ะเหรอทำเพื่อผม นี่น่ะเหรอที่เรียกว่าหวังดีกับผม ที่ผมอัดอั้นอยู่ทุกวันนี้ไม่ไช่เพราะเขาเหรอ  ผมไม่พูดอะไรออกไปเพราะจู่ๆก็รู้สึกว่าน้ำตามันเริ่มรื้นขึ้นมา ผมหันหลังให้เขาเพื่อที่จะซ่อนความอ่อนแอที่กำลังจะเกิด ผมร้องไม่ได้ ผมจะร้องไห้ไม่ได้

    เมื่อกี้มีคนมาหาแก...แต่ฉันคิดว่าแกคงไม่อยากเจอใครก็เลยบอกไปว่าไม่อยู่

    พ่อเดินมาข้างๆผมแล้วพูดขึ้น  ใครกัน...ใครกันที่มาที่นี่

    เขาบอกกับฉันว่าเป็นเพื่อนกับแก  นี่แกมีเพื่อนเยอะขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

    เขาพูดแค่นั้นแล้วเดินออกจากห้องผมไป  เพื่อนเหรอ...หรือว่าจะเป็นพวกนั้น  แล้วพวกนั้นรู้จักบ้านผมได้อย่างไร  นี่เขามาตามผมงั้นเหรอ  เพียงแค่ผมคิดว่ามีคนมาตามผมให้กลับไปใจของผมตื้นตันขึ้นมา นี่พวกเขามาตามผมจริงๆใช่ไหม

     

    (ปาร์ค จินยอง)

     

    แจ็คสันเขาเคยถูกเข้าใจผิดว่าโกงข้อสอบน่ะครับ  เพราะคะแนนสอบของเขาวิชาหนึ่งออกมาดีเกินไป พวกครูก็เลยสงสัยเขา เพราะปกติเขาไม่ค่อยสนใจเรียนเวลาสอบคะแนนก็ได้แค่กลางๆเท่านั้นมันก็เลย...ดูน่าสงสัยไปหน่อย

    แต่เขาก็ไม่ได้ทำจริงๆไม่ไช่เหรอ

    ครับ...ถึงพวกครูจะว่าอย่างไง แต่ผมก็เชื่อว่าเขาไม่มีทางทำเรื่องผิดแบบนั้นหรอกครับ เขาก็แค่พยายามมากขึ้นเพื่อแม่ที่กำลังป่วย

    เรื่องนี้เกี่ยวกับครูคิมด้วยไช่ไหม

    เพราะครูคิมก็เข้าใจผิดว่าเขาเป็นคนทำเหมือนกันครับ  พ่อของแจ็คสันบังเอิญรู้เรื่องก็เลย...ส่งลูกน้องให้มาทำร้ายครูคิมจนขาได้รับบาดเจ็บจนทุกวันนี้ครับ

    ผมนั่งนึกถึงเรื่องที่ผมได้สอบถามกับนิคเพื่อนของแจ็คสัน เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเรื่องที่ทำให้แจ็คสันต้องแบกรับมาตลอด ผมว่าครูคิมก็คงเป็นเหมือนกัน เขาคงจะรู้สึกผิดไม่น้อยที่ทำให้แจ็คสันต้องเป็นแบบนี้ 

    ต่างคนต่างรู้สึกผิดซินะ

    ว่าไงนะคะ

    ผมสะดุ้งออกจากภวังค์ทันทีเมื่อได้ยินเสียงครูซอนทักขึ้น

    เมื่อกี้ครูปาร์คบ่นว่าอะไรนะคะ เห็นทำหน้าเครียดเชียว

    ครูซอนถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

    ครูซอนเคยรู้สึกผิดกับอะไรจนอยากจะหนีไปหรือเปล่าครับ

    เคยซิคะ

    ครูซอนตอบผมกลับมาในทันที

    ฉันก็เคยทะเลาะกับเพื่อนในเรื่องที่เราเข้าใจผิดกันน่ะค่ะ  พอมารู้ตอนหลังว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจกันผิดฉันก็เกิดรู้สึกผิดขึ้นมาจนต้องเดินหนีออกมาจากกลุ่ม

    แล้วยังไงต่อครับ...ครูได้กลับไปหาเพื่อนอีกมั้ยครับ

    ผมถามเพราะความอยากรู้ ครูซอนยิ้มให้ผมเล็กน้อยก่อนตอบ

    กลับไปซิคะ...เพราะที่ฉันเดินหนีออกมามันเป็นความรู้สึกผิดไม่ไช่ความรู้สึกโกรธหรือเกลียดกัน

    ครูได้พูดอะไรกับเพื่อนมั้ยครับ  ตอนที่...กลับไปหาพวกเขา

    ขอโทษ...เพราะสิ่งที่มันติดค้างในใจฉันมาตลอดก็คือคำว่าขอโทษนี่แหละค่ะ ฉันต้องใช้ความกล้าอย่างมากเลยที่จะพูดมันออกมา พอได้พูดออกมาแล้วมันก็รู้สึกดีขึ้นมากเลยค่ะ

    ขอโทษงั้นเหรอ...ผมได้แต่คิดในใจเมื่อได้ฟังครูซอนพูด

    นี่ผมลืมเรื่องแบบนี้ไปได้ไงกัน...ผมขอตัวก่อนนะครับ

    ประโยคหลังผมพูดกับครูซอนก่อนที่จะเคลื่อนตัวออกจากห้องพักครูไปอย่างรวดเร็ว  ผมรู้แล้วว่าต้องทำอย่างไรให้เรื่องทุกอย่างมันดีขึ้นมา 

                    ผมเดินตรงไปยังห้องเรียนของตัวเอง เพื่อจะพบกับใครซักคนแต่เมื่อเข้าไปกลับไร้วี่แววของคนๆนั้น แจ็คสัน...นี่เจ้าเด็กนั่นไปไหนกันนะ

    วันนี้แจ็คสันไม่มาหรอกครับ

    ผมหันไปทางต้นเสียงเป็นเจบีที่เป็นคนพูดเหมือนเขารู้ว่าพบมองหาใคร

    แจ็คสันได้ติดต่อมาหาพวกเธอบ้างหรือเปล่า

    เด็กๆทุกคนต่างส่ายหน้า

    เมื่อวานพวกเราไปบ้านเขามาแต่พ่อของเขาบอกว่าแจ็คสันไม่อยู่บ้านครับ

    จูเนียร์พูด...เมื่อวานเด็กพวกนี้ไปตามแจ็คสันที่บ้านงั้นเหรอ...

    พวกเธอ...ช่วยอะไรหน่อยได้ไหม

    พวกเด็กๆมองผมด้วยความสงสัยว่าสิ่งที่ผมจะขอร้องนั้นคือเรื่องอะไร

    ช่วยไปตามแจ็คสันกลับมาโรงเรียนที่ได้ไหม

    ความเงียบปกคลุมทั่วห้องเมื่อผมพูดจบตอนนี้เด็กพวกนี้กำลังคิดอะไรกันอยู่นะ  ผมขอมากไปหรือเปล่านะ...ผมเริ่มกังวลขึ้นมาเล็กน้อย แต่ถ้าพวกเขาไม่ช่วยผมก็ไม่ว่าอะไรพวกเขาอยู่แล้ว เพราะยังไงซะเรื่องแบบนี้มันก็ไม่เกี่ยวกับพวกเขาตั้งแต่แรก ขณะที่ผมกำลังสับสนและคิดวุ่นวายอยู่กับตัวเองเสียงของพวกเด็กๆก็เริ่มดังขึ้น

    ถึงครูไม่บอก....พวกเราก็กะว่าวันนี้จะไปตามเจ้าบ้านั่นอยู่แล้ว

    ใช่ครับ...ถึงยังไงแจ็คสันฮยองก็เป็นเพื่อนร่วมห้องของพวกเรา

    จูเนียร์พูดตามด้วยยูคยอม

    ผมไม่อยากให้ที่นั่งข้างๆของผมต้องว่างไปตลอดหรอกนะ วังเวงชะมัด

    ยองแจพูดขณะที่มองเก้าอี้ข้างๆที่แจ็คสันเคยนั่ง

    มันเงียบเกินไปจริงๆนั่นแหละ...การที่เจ้านั่นไม่อยู่

    คำพูดของมาร์คทำให้แบมแบมและคนอื่นๆหันมองเขาทันที

    นี่มาร์คฮยองก็คิดถึงแจ็คสันฮยองเหมือนกันเหรอ

    แบมแบมพูดแหย่พี่ชายของเขาเหมือนคนที่โดนแหย่จะเพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปเขาจึงแสร้งหันหน้าไปทางอื่นจนคนอื่นๆหลุดขำกันเบาๆ

    นายไม่คิดจะพูดอะไรบ้างเหรอ  หัวหน้าอิม

    จูเนียร์หันไปพูดกับเพื่อนข้างตัวของเขาบ้าง เจบีเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนลุกขึ้นสร้างความแปลกใจให้กับทุกคนรวมถึงผมด้วย

    อะไรมองอะไรกัน...ฉันก็ต้องตามไปเช็คชื่อเจ้านั่นนะ เพราะฉันเป็นหัวหน้าห้องนี่ จริงไหมครับครู

    ประโยคหลังเจบีหันมาพูดกับผมยิ้มๆ  แจ็คสันเธอกำลังทำอะไรอยู่นะเธอรู้ไหมว่ามีคนอีกตั้งหกคนไม่ซิเจ็ดคนต่างหากกำลังคิดถึงเธออยู่

    งั้นฝากด้วยนะ

    ผมพูดแค่นั้นแล้วหันไปทางประตูห้องเพื่อที่จะเดินออกไป

    ครูไม่ไปกับพวกเราเหรอครับ

    ยองแจตะโกนถามผม

    ครูจะต้องจัดการกับเรื่องของทางนี้ก่อน ครูเชื่อว่าพวกเธอจะพาเขากลับมาที่นี่ได้ แล้วเจอกันนะ

    แม้พวกเขาจะยังงงๆกับคำพูดของผมแต่ซักพักพวกเขาก็พากันเดินออกไป มุ่งตรงไปยังที่ที่เพื่อนของเขารอคอยให้มีใครซักคนตามเขากลับมา

     

    (เจบี)

     

                    หลังจากแอบหนีออกมาจากโรงเรียนพวกผมก็ตรงไปยังที่เดิมที่ไปเมื่อวานก็คือ บ้านของแจ็คสัน เมื่อพวกเรามาถึงบ้านหลังใหญ่ก็พบกับคนคนเดิมที่เจอเมื่อวาน พ่อของแจ็คสัน และเขาก็ตอบพวกเรากลับมาเหมือนเดิมก็คือ...

    วันนี้เขาไม่อยู่บ้านหรอก พวกเธอกลับไปเถอะ

    พ่อของแจ็คสันพูดเสียงนิ่งๆ แล้วปิดประตูเดินเข้าบ้านไปปล่อยให้พวกผมยืนมองหน้ากันโดยไม่รู้จะทำอะไรต่อ

    คิม ยูคยอม! นั่นนายจะทำอะไร

    ผมหันไปตามเสียงแว๊ดของจูเนียร์ก็เห็นเจ้าเด็กยักษ์ยูคยอมกำลังปีนกำแพงเขาบ้านคนอื่น

    ผมก็จะเข้าไปหาแจ๊คสันฮยองไง  ผมว่าพ่อของแจ็คสันฮยองต้องโกหกแหงๆ

    ยูคยอมพูดแล้วพยายามจะกระโดดขึ้นกำแพงอีกครั้งแต่ไม่สำเร็จเพราะจูเนียร์รั้งแขนเขาลงมาซะก่อน

    แกจะบ้าเหรอ! เดี๋ยวเขาก็แจ้งตำรวจจับหรอก เรื่องเก่ายังไม่ได้เคลียร์จะเอาเรื่องใหม่ใส่ตัวอีกหรือไง

    จูเนียร์ว่ายืดยาวจนยูคยอมทำหน้าเซงๆแต่ก็หยุดการกระทำเมื่อครู่

    อ๊ะ! นั่นแจ็คสันฮยองนี่

    ทุกคนหันไปทางที่เจ้าเด็กน้อยแบมแบมชี้ ทันทีที่พวกเราหันไปแจ็คสันที่ชะเง้อมองทางหน้าต่างก็หลบเข้าไปในตัวห้องทันที

    แจ็คสันฮยองไปโรงเรียนกันเถอะคร้าบบบ!”

    แบมแบมยังคงตะโกนเรียกเขา แต่ก็ไร้เสียงตอบผมเห็นเพียงเงาสะท้อนกลับกระจกบานหน้าต่าง คงแอบฟังอยู่ซินะ...ผมคิดในใจ

    แจ็คสันฮยอง ได้ยินพวกเราไหมครับ!”

    ยูคยอมช่วยตะโกนเรียกอีกคน

    แจ็คสันฮยองคนไร้มารยาท อย่าเอาแต่เงียบซิ!”

    ยองแจที่นิ่งเงียบมาได้ซักพักคงทนไม่ไหวตะโกนขึ้นอีกคน ส่วนมาร์คกับจูเนียร์ได้แต่ยืนนิ่งๆเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนจูเนียร์จะถอนหายใจแล้วตะโกนขึ้นอีกคน

    ย่าส์!...เจ้าบ้าพลังถ้าแกไม่รีบลงมาฉันจะขึ้นไปลากแกบนห้องแล้วนะ!”

    คงจะไม่ยอมลงมาจริงๆ

    มาร์คพูดนิ่งๆ  ผมยืนดูคนอื่นๆพยายามตะโกนเรียกแจ็คสันครั้งแล้วครั้งเล่าแต่เจ้านั่นก็ไม่มีวี่แววจะยอมออกมาเจอพวกเราเลยซักนิด

    ไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเหรอหัวหน้าอิม

    จูเนียร์หันมาพูดห้วนๆใส่ผมพร้อมกับหอบแฮ่กๆไปด้วยเพราะเกิดจากการตะโกนโวกเวกเมื่อครู่ ผมจ้องบานหน้าตาที่คิดว่าน่าจะเป็นห้องของแจ็คสัน

    หวัง แจ็คสัน...ฉันรู้นะว่านายได้ยิน

    ผมเริ่มเอ่ยปากพูดขึ้นหลังจากที่เงียบมานานผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผมต้องพูดอะไรด้วยทั้งๆที่มันไม่ไช่เรื่องของผมซักนิด แต่พอผมเห็นทุกคนพยายามมันก็อดที่จะทำอะไรซักอย่างไม่ได้

    ไม่อยากกลับไปโรงเรียนแล้วหรือไง...ไม่อยากจะเล่นด้วยกันแล้วเหรอ ฉันไม่รู้ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นกับนายบ้าง ไม่รู้ว่าตอนนนี้นายรู้สึกแบบไหน แต่ฉันรู้อย่างเดียว...คือนายไม่อยากอยู่คนเดียวใช่ไหม ถ้าไม่อยากอยู่คนเดียวทำไมถึงไม่กลับมาล่ะเจ้าบ้า!”

    ท้ายประโยคผมตะโกนออกมาอย่างอัดอั้น...พูดขนาดนี้ถ้าไม่ยอมออกมานะฉันจะขึ้นไปฆ่าแกแจ็คสัน...

    แจ็คสันฮยองที่เคยบ้าบออยากทำอะไรก็ทำ คนๆนั้นไปอยู่ไหนซะแล้วล่ะ ผมน่ะ...ยังอยากจะเจอฮยองคนนั้นอยู่นะ ไหนบอกจะไม่ปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวไง

    ยองแจพูดน้ำตาคลอจนจูเนียร์ต้องเข้าไปปลอบเขา  พวกเราไม่ได้พูดหรือตะโกนอะไรกันอีก เหมือนแต่ละคนกำลังรอคนที่อยู่ภายในบ้านออกมา...ทุกคนกำลังเชื่อนายอยู่นะแจ็คสัน พวกเราเชื่อว่านายต้องออกมา...

    มาตะโกนหน้าบ้านคนอื่นเขา หนวกหูชะมัด

    พวกเราหันไปหาต้นเสียงที่ตอนนี้นั่งพูดอยู่บนกำแพงบ้าน

    ออกมาจนได้นะ ฮยองบ้า!”

    ยองแจตะโกนออกมาอย่างอัดอั้น แจ็คสันดูอึ้งๆนิดหน่อยที่เห็นยองแจทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เขาเผยรอยยิ้มออกมาก่อนจะกระโดดลงมาจากกำแพงมายืนตรงหน้าพวกเรา

    โทษทีนะพอดีฉันกำลังแต่งตัวอยู่เลยช้าไปหน่อย

    เขาพูดพร้อมขยับแน็คไทที่ผูกอย่างลวกๆให้เข้าที่

    มาได้ซักทีนะฉันเกือบจะตัดสินใจเช็คชื่อนายขาดอยู่แล้ว

    แต่ฉันก็มาแล้วนี่...ขอโทษนะที่ต้องให้มาตาม

    แจ็คสันพูดเสียงอ่อน

    นี่นายขอโทษเป็นด้วยเหรอ

    มาร์คที่เงียบมานานจู่ๆก็พูดกวนๆใส่แจ็คสัน จนเจ้าตัวหันมองขวับ

    เฮ้! ฉันก็เพิ่งสังเกตนะว่านายก็เป็นห่วงฉันด้วย อี้เอิ้นนน

    แจ็คสันล้อเขากลับ

    ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาหรอก

    งั้นเหรอ....แต่เมื่อกี้ฉันแอบเห็นนายมองตาละห้อยเลยนะตอนฉันไม่ยอมลงมา

    นี่แก...อยากตายใช่มั้ย

    เอ่ออ..ผมว่าเราไปโรงเรียนกันเถอะครับ นะนะ

    แบมแบมเข้ามาห้ามทั้งสองคนก่อนที่จะตีกันไม่มากกว่านี้ แต่ใช่ว่าพวกเขาจะเลิกเถียงกันทีเดียวตลอดทางที่เรากำลังนั่งรถเมล์กลับไปโรงเรียนทั้งมาร์คและแจ็คสันต่างก็หาเรื่องกัดกันแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆจนเจ้าตัวเล็กแบมแบมต้องคอยห้ามอยู่เสมอส่วนยองแจกับยูคยอมก็ช่วยกันยุแหย่เป็นระยะ ผมได้แต่ส่ายหน้ากับภาพที่เห็นนี่เหรอที่เมื่อกี้เศร้ากันแทบตายสุดท้ายก็กลับมายิ้มหัวเราะกันได้เหมือนเดิม

    มีความสุขใช่มั้ยล่ะ

    จูเนียร์ที่นั่งข้างๆผมจู่ๆก็พูดขึ้นมา

    อืม....ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้รู้สึกแบบนี้

    ฉันก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้ทำอะไรที่มันนอกกรอบแบบนี้  นายรู้แล้วใช่มั้ยเจบีว่าการที่เราสนใจคนอื่นมันไม่ได้ทำให้เราเจ็บเสมอไปนะ แต่มันอาจทำให้เรามีความสุขมากขึ้นก็ได้ อย่างที่พวกเราเป็นอยู่ตอนนี้ไง

    ผมเงียบไม่ได้พูดอะไรกับจูเนียร์ต่อ  บางทีผมก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าผมเปลี่ยนไปมากแค่นั้นตั้งแต่ได้รู้จักกับทุกคน บางครั้งผมก็กลัว...กลัวว่าวันหนึ่งถ้าทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมขึ้นมามันจะต้องเจ็บมากแน่ๆ แต่ในความกลัวนั้นมันทำให้ผมกลับคิดว่าถ้าเกิดไม่สู้กับมันผมก็ต้องเสียความสุขไปเหมือนกัน

     

    (ปาร์ค จินยอง)

     

    แจ็คสันมาโรงเรียนแล้วครับ

    จูเนียร์...

    ช่วยพาเขามาที่โรงยิมทีนะ

    หลังจากที่ผมอ่านข้อความของจูเนียร์จบและตอบเขาไป บุคคลที่ผมนัดเอาไว้ก็เดินเข้ามาหาผมพอดี

    นัดผมมาที่นี่มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ

    พอครูคิมมาถึงเขาก็เอ่ยปากถามผมทันที

    ผมอยากจะคุยเรื่องที่ค้างไว้น่ะครับ

    ครูคิมทำท่านึกซักพักก่อนจะพูดขึ้น

    เรื่องแจ็คสันเหรอครับ

    ผมพยักหน้า ครูคิมถอนหายใจเหมือนรู้สึกอึดอัด

    จริงๆแล้วมันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด  แต่ครูคนอื่นๆก็ไม่ยอมเชื่อกัน

    ครูคนอื่น...หมายถึงครูด้วยหรือเปล่าครับ

    ครูคิมหลับตาลงก่อนจะพยักหน้าให้ผมช้าๆ...เป็นอย่างที่ผมคิดไว้จริงๆ...

    มันเป็นความผิดของผมเองครับ...ที่ตอนแรกผมไม่ยอมเชื่อเขา ทั้งๆที่เด็กนั่นพยายามมากแค่ไหน

    คงกำลังรู้สึกผิดอยู่ใช่ไหมครับ...รู้สึกผิดเหมือนกับ...แจ็คสัน

    ครูคิมไม่ได้พูดอะไรต่อ ซักพักพวกเด็กๆก็พาแจ็คสันเข้ามาที่โรงยิมทั้งครูคิมและแจ็คสันเมื่อเห็นหน้ากันต่างคนต่างก็ทำตัวไม่ถูก แจ็คสันเตรียมจะหันหลังหนีแต่ก็ถูกยองแจกับมาร์คล็อคแขนเขาไว้คนละข้าง

    เลิกหนีได้แล้วแจ็คสัน

    คำพูดสั้นๆของผมทำให้เขาหยุดดิ้น แต่ก็ยังไม่กล้าเงยหน้าสบตากับครูคิม

    ทำไมถึงไม่ขอโทษกันล่ะ...ถ้ารู้สึกไม่ดีก็แค่พูดว่าขอโทษออกไปทุกอย่างก็จบไม่ไช่เหรอ

    ความเงียบยังคงปกคลุม ไม่มีใครปริปากพูดอะไร...ดื้อกันชะมัด...

    ครูคิมรู้มั้ยครับว่าวินาทีเดียวที่ครูไม่เชื่อในตัวนักเรียน มันก็จะทำให้นักเรียนคนนั้นจดจำไปตลอด แม้ว่าพวกครูจะมองเป็นเพียงเรื่องเล็ก แต่สำหรับนักเรียนแล้วมันเหมือนถูกมองเป็นคนผิดไปตลอด

    ครูคิมมองหน้าผมแววตาคู่นั้นของเขาเริ่มแดง แจ็คสันเองก็เหมือนกัน

    แจ็คสัน...คำพูดที่เธออยากจะพูด ถ้าเอาแต่หนีเธอก็จะไม่มีวันได้พูดมันนะ

    ผม....ขอโทษ...ผมขอโทษ ผมขอโทษจริงๆ ฮึก

    แจ็คสันพูดซ้ำๆจนมีเสียงสะอื้นที่พยายามจะกลั้นไว้หลุดออกมา

    ครูต่างหากที่ต้องขอโทษ...ทั้งๆที่เธอไม่ผิด  ทั้งที่เธอต้องพยายามมากขนาดนั้น แต่ครูกลับไม่เชื่อ...ครู...ขอโทษนะแจ็คสัน

    ครูคิมเดินไปจับไหล่แจ็คสันทั้งสองข้างที่กำลังสั่นอยู่

    เจ้าเด็กบ้าพลัง...อย่าเอาแต่ร้องไห้ซิ

    ครูคิมใช้มือข้างหนึ่งขยี้หัวแจ็คสันอย่างเอ็นดู

    ฮึก..ใครจะอยากร้องกันล่ะ..ผมน่ะ...อยากจะเข้าไปขอโทษครูตลอดที่เป็นต้นเหตุให้ครูต้องบาดเจ็บ แต่แค่คิดว่าครูกำลังจะมา ผมก็...ไม่กล้าจะเจอขึ้นมา

    ครูก็เหมือนเธอนั่นแหละ...ทั้งๆที่อยากจะขอโทษแต่ทุกครั้งที่เธอหนีไปครูกลับไม่มีแรงพอที่จะตามเธอกลับมา...ขอโทษนะแจ็คสันที่ทำให้รู้สึกไม่ดี

    ครูคิมพูดจบก็เข้าไปกอดแจ็คสันแล้วตบไหล่เขาเพื่อให้กำลังใจ

    กลับไปสนิทกันได้เหมือนเดิมแล้วนะ

    ผมเดินเข้าไปพูดกับเขาทั้งสอง ทั้งแจ็คสันและครูคิมหันมายิ้มให้กับผม

    ร้องไห้ซะหมดสภาพเลย

    ย่าส์...ชเว ยองแจ นายกล้าดียังไงมาว่าฉันฮะ พวกนายก็ด้วยจะหัวเราะอะไรกันหนักหนา

    แจ็คสันหันไปแว๊ดใส่เพื่อนของเขาที่กำลังหัวเราะกับสภาพของแจ็คสันที่ไม่เคยเห็นมาก่อน คลี่คลายได้ซักทีนะ ต่อไปก็กลับไปร่าเริงเหมือนเดิมล่ะแจ็คสัน  เป็นอย่างที่ครูซอนบอกไว้จริงๆแค่พูดว่าขอโทษก็สามารถดีกันได้แล้ว เพราะพวกเขาไม่ได้โกรธหรือเกลียดกันก็แค่เข้าใจผิดกันเท่านั้น...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×