คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่13 เริ่มต้นมิตรภาพ
ตอนที่ 13 จุดเริ่มต้นมิตรภาพ
(ปาร์ค จินยอง)
“สวัสดีเด็กๆ”
ผมทักทายเหล่าเด็กๆ ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องเรียนที่แสนเงียบเหงา เนื่องจากแต่ละคนต่างตกอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเองไม่มีการเล่นหรือพูดคุยอะไรกันทั้งนั้น
“เฮ้อ...”
ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาเมื่อรู้สึกว่าบรรยากาศในห้องนี้ยังคงมืดมนอยู่เช่นเดิม
“เอิ่ม...พวกเธอไม่คิดจะทักครูหน่อยเหรอ”
ผมพูดขึ้นอีกครั้งเพื่อเรียกความสนใจจากเด็กๆ
“โย่ว...หวัดดีคร้าบบบ”
แจ็คสันหันมาทักผมเป็นคนแรก ตามมาด้วยคนอื่นๆที่ทำเพียงโค้งหัวให้เท่านั้น
“เป็นเด็กไม่ดีเลยนะ...พวกเธอต้องบอกทำความเคารพครูก่อนซิ ไหนหัวหน้าห้องล่ะ”
“เราไม่มีหัวหน้าห้องนี่ครับ”
จูเนียร์พูดขึ้นทำให้ผมนึกขึ้นได้...จริงซิ ห้องนี่ยังไม่มีหัวหน้าห้องนี่น่า...
“อ่า...งั้นเรามาเลือกหัวหน้าห้องกันดีกว่า ถ้าอยากจะเสนอชื่อใครก็บอกมาได้เลยนะ”
หลังจากผมพูดจบทุกคนก็ต่างมองหน้ากัน แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร...ให้มันได้อย่างนี้ซิ ผมคงต้องเลือกเองแล้วซินะ...หลังจากคิดได้ดังนั้น ผมก็มองไปรอบๆห้องเพื่อหาคนที่เหมาะสม แต่ก็ไม่รู้ว่าจะให้ใครเป็นดี เพราะผมเองก็ยังไม่รู้จักพวกเขาซักเท่าไหร่
“ผมขอเสนอได้ไหมครับ”
หลังจากที่ผมกำลังใช้ความคิด จูเนียร์ก็ยกมือแล้วพูดขึ้นผมจึงยิ้มให้แล้วพยักหน้าเป็นเชิงให้เขาพูดได้
“ผมขอเสนอ...อิมแจบอมครับ”
ผมหันไปมองคนข้างๆจูเนียร์ที่ตอนนี้มีท่าทางตกใจเล็กน้อย เขาคงไม่คิดว่าจูเนียร์จะเสนอชื่อเขา
“ย่าห์...เกี่ยวอะไรกับฉันล่ะเจ้าบ้า”
แจบอมโวยวายใส่เพื่อนของเขา
“เกี่ยวซิ...ก็นายจะได้เปลี่ยนตัวเองบ้างไง ไม่เบื่อบ้างเหรอที่ทำตัวแบบนี้ทุกวันน่ะ”
จูเนียร์ตอกกลับเพื่อนของเขา อืม...เปลี่ยนตัวเองเหรอ
“งั้นก็ตกลงตามนี้นะ...จากนี้ไปเธอคือหัวหน้าห้องนะอิมแจบอม”
“เดี๋ยวก่อนซิครับ...ผมยังไม่ได้ยินยอมเลยนะครับ บางทีอาจจะมีคนไม่เห็นด้วยก็ได้นะครับ”
แจบอมยังคงโวยวายต่อไป
“แต่ครูไม่เห็นว่าจะมีใครคัดค้านอะไรเลยนี่น่า”
“แต่ว่า...”
แจบอมพูดไม่ทันจบจูเนียร์ก็เอามือมาอุดปากเขาไว้ซะก่อน
“ชู่ว์...เงียบเถอะน่าเจบี เอ่อ...ครูครับแล้วรองหัวหน้าล่ะครับ”
หลังจากที่จูเนียร์หันไปบอกเพื่อน เขาก็หันมาถามผมต่อ
“เจ้านี่ไงครับ”
เป็นอิม แจบอม ที่พูดขึ้นหลังจากงัดมือจูเนียร์ออกจากปากเขาได้
“จินยองเหรอ...ก็ดีนะพวกเธอเป็นเพื่อนกันน่าจะสื่อสารกันง่าย”
“ครับ”
จูเนียร์รับคำอย่างเสียไม่ได้ หลังจากเลือกหัวหน้ากับรองหัวหน้าเสร็จเรียบร้อย ผมยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดูก็เห็นว่าได้เวลาแล้วจึงหันไปพูดกับพวกเด็กๆอีกครั้ง
“เอาล่ะ ได้เวลาเริ่มเรียนกันแล้ว พวกเธอ..come on!”
ผมพูดเสียงร่าเริงแล้วกวักมือให้พวกเขาตามมา แม้พวกเขาจะมีสีหน้าที่เบื่อหน่ายและงงๆแต่พวกเขาก็ยอมเดินตามมาแต่โดยดี ระหว่างทางที่ผมพาพวกเด็กๆเดินมาต้องเดินผ่านห้องเรียนหลายห้องซึ่งแต่ละห้องก็ต่างพากันมองด้วยความสงสัยว่าพวกเราจะไปไหนกันรวมถึงครูที่กำลังสอนอยู่ด้วย หนึ่งในนั้นก็คือครูคิมที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องปี 3-c เมื่อครูคิมเห็นผมเขาก็หยุดเพื่อทักทายกับผมทันที
“จะไปไหนกันเหรอครับครูปาร์ค”
ครูคิมเริ่มต้นคำถาม
“จะพาเด็กๆไปเรียนนอกสถานที่น่ะครับ”
“งั้นเหรอครับ...น่าสนุกดีนะครับ ว่าแต่...เรื่องนี้ขอครูใหญ่หรือยังครับ”
“ขอเหรอครับ...เราต้องทำเรื่องอย่างนั้นด้วยเหรอครับ”
ผมพูดด้วยความสงสัย ครูคิมมีสีหน้าตกใจกับคำถามของผม
“นี่ครูปาร์คไม่รู้เหรอครับว่าการที่จะพาเด็กออกไปทัศนศึกษาหรือไปเรียนนอกโรงเรียนต้องผ่านการอนุญาติจากครูใหญ่ก่อน...แล้วไหนจะต้องมีหนังสือขออนุญาติผู้ปกครองอีก เพราะถ้าเด็กๆเกิดเป็นอะไรขึ้นมาเราจะรับผิดชอบไม่ไหวนะครับ”
สิ่งที่ครูคิมพูดมาทำให้ผมนึกขึ้นได้
“อ่า...นี่ผมลืมเรื่องแบบนี้ไปได้ยังไงกันเนี่ย”
ผมรู้สึกว่าตัวเองโง่มากที่พลาดเรื่องแบบนี้ไป แต่จะถ้าผมจะล้มเลิกก็คงไม่ได้ ผมยิ้มให้กับครูคิมก่อนที่จะหันไปหาพวกเด็กๆ
“เอ่อ...เด็กๆวันนี้คงเรียนนอกสถานที่ไม่ได้แล้วล่ะ เดี๋ยวเรากลับไปห้องเรียนกันก่อนดีกว่านะ อ้าว...แล้วแจ็คสันหายไปไหนแล้วล่ะ”
ผมถามเมื่อมองดูแล้วเหมือนจะมีหนึ่งชีวิตที่หายไป
“เขาไปเข้าห้องน้ำครับ”
เป็นกันต์พิมุกเด็กไทยผู้แสนน่ารักตอบ
“อะไรกันไปไหนไม่ขออนุญาติกันก่อนเลยเจ้านี่”
“ครูก็ไม่ขออนุญาติครูใหญ่เหมือนกันไม่ไชเหรอครับ”
น้ำเสียงซื่อๆของเด็กไทยคนเดิมทำให้ผมยิ้มแหยๆอย่างบอกไม่ถูก ผมรู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะกวนผมหรอกแต่เขาพูดเพราะเขาหมายความอย่างนั้นจริงๆ
“เอ่อ...แจ็คสันเขาก็ไปด้วยเหรอครับ”
จู่ๆครูคิมก็พูดขึ้นมา
“ไปซิครับ...เขาก็เป็นหนึ่งในนักเรียนห้องนี้เหมือนกัน ครูคิม...สนิทกับแจ็คสันเหรอครับ”
“สนิทเหรอครับ...ผม...ก็ไม่แน่ใจแล้วเหมือนกัน”
เสียงพูดที่แสนเบาของครูคิมทำให้ผมนึกสงสัย ผมว่าระหว่างสองคนนี้ต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ
“อืม...งั้นผมขอตัวพาเจ้าพวกนี้กลับไปห้องเรียนก่อนนะครับ”
ผมกับครูคิมกล่าวลากันเล็กน้อยก่อนที่ผมจะพาเด็กๆเดินไปทางเดิมที่เดินมาและไม่ลืมที่จะเรียกแจ็คสันที่ห้องน้ำ ผมเดินพาเด็กๆเดินมาเรื่อยๆจนถึงประตูที่เป็นบันไดหนีไฟแล้วเปิดมันออกทันที
“ครูจะไปไหนครับ”
จูเนียร์ถามผมเป็นคนแรก
“ก็พาพวกเธอไปเรียนนอกสถานที่ไง”
“แต่ครูเพิ่งบอกครูคิมไปเองนี่ครับว่าจะกลับไปเรียนที่ห้อง”
“อ้าว...ครูพูดอย่างนั้นเหรอ”
ทำตอบซื่อๆ จนจูเนียร์และคนอื่นๆอึ้งไปตามๆกัน ทำไงได้ถ้าผมตั้งใจจะทำอะไรแล้วก็ต้องทำให้ได้ไม่อย่างนั้นมันจะค้างคาไปตลอดชีวิต
“เจ๋งดีแฮะ”
กันต์พิมุกพูดแล้ววิ่งลงบันไดไปเป็นคนแรก
“แบมแบม อย่าวิ่งลงบันไดอย่างนั้นซิ”
ต้วน อี้เอิ้น เดินลงตามไปติดๆพร้อมกับพูดดุเจ้าตัวเล็กที่วิ่งลงไปก่อนหน้าเล็กน้อย ตามด้วยคนอื่นๆที่เหลือ ยกเว้นจูเนียร์ที่ยังคงยืนนิ่งอยู่สีหน้ามีแววกังวงเล็กน้อย
“ไม่ไปเหรอจินยอง”
“มันดีแล้วเหรอครับครู...นี่พวกเรากำลังทำผิดกฎอยู่นะครับ”
เมื่อผมได้ยินสิ่งที่จูเนียร์พูดผมก็รู้ทันทีว่าสิ่งที่เจ้านี่กังวลและเป็นปัญหาอยู่ตลอดเวลาคืออะไร
“เธอคงเป็นเด็กดีมาตลอดซินะ”
คำพูดของผมทำให้จูเนียร์มีสีหน้าสงสัย ผมยิ้มแล้วเอามือวางบนหัวของเขา
“รู้มั้ย...บางครั้งการที่เราแหกกฎ ก็ไม่ได้แปลว่าเรากำลังกลายเป็นเด็กเกเรหรอกนะ เธอน่ะยังสูงไม่เท่าครูเลยนะ ดูซิ...ตัวก็เล็กกว่าครูอีก ทำไมถึงต้องแบกเรื่องกฎเกณฑ์มากมายไว้คนเดียวด้วยล่ะ”
จูเนียร์มองผมอย่างอึ้งๆ แล้วยิ้มออกมา ผมตบไหล่เขาเบาๆแล้วผายมือเป็นเชิงให้เขาลงบันไดไป เมื่อทุกคนมาถึงหน้าประตูโรงเรียนผมก็พาพวกเขาเดินออกไปยังป้ายรถเมล์ซึ่งตอนนี้มีรถคันหนึ่งจอดรออยู่นานแล้ว
“มาช้าจังนะ”
พัค โนยองเพื่อนรัก ทักทายผมทันทีที่ผมและเด็กๆเดินมาถึง
“โทษทีนะ...พอดีการจราจรติดขัด เด็กๆขึ้นรถได้”
ผมพูดด้วยอารมณ์ขันแล้วหันไปบอกเด็กๆที่เดินตามมา
“หัวหน้าอิม เช็คชื่อเพื่อนด้วยว่าขึ้นมากันครบหรือยัง”
ผมพูดพร้อมกับส่งสมุดเช็คชื่อให้กับเขา
“แค่เจ็ดคนนับเอาก็ได้นี่ครับ”
เขาบ่นเล็กน้อยแต่ก็ยอมเปิดสมุดแล้วเรียกชื่อเพื่อนที่ละคน
“ครูจะพาพวกเราะไปไหนครับ”
หลังจากเช็คชื่อเสร็จยองแจก็ถามขึ้นเป็นคนแรก
“ไปออกกำลังกาย”
หลังจากที่ผมบอกกับทุกคนว่าจะพาไปออกกำลังกายพวกเขาก็ต่างคิดว่าผมจะพาไปโรงยิม หรือศูนย์ฝึกต่างๆ แต่สิ่งที่พวกเขาคิดกลับผิดหมดเมื่อได้มาเห็นสถานที่จริง
“ร้านอุด้ง!”
เป็นครั้งแรกที่พวกเขาสามัคคีพูดพร้อมกัน ใช่แล้วครับวันนี้ผมพาพวกเขามาเรียนที่ร้านอุด้ง ทันทีที่เข้าไปในร้านก็พบกับพ่อค้าหน้าตี๋ตาตี่ยืนเชิดหน้ารออยู่เขาคือ จาง อูยอง
“หวัดดีครับครู”
“หวัดดีอูยอง”
ผมและเขาต่างทักทายซึ่งกันและกันเล็กน้อยก่อนที่ผมจะหันไปแนะนำเด็กแต่ละคนให้เขารู้จัก
“นี่เด็กนักเรียนห้องฉัน หัวหน้าห้องอิม แจบอม รองหัวหน้าปาร์ค จินยอง อืม...เรียกเขาว่าจูเนียร์ดีกว่านะเดี๋ยวสับสน ส่วนเจ้าหน้ามึนๆนั่นชื่อยองแจนะ แล้วก็มีเจ้าแจ็คสัน มาร์ค แล้วก็ แบมแบมกับยูคยอม”
เมื่อผมพูดจบทุกคนต่างยิ้มให้เพื่อเป็นการทักทายอูยอง
“หวัดดีทุกคน...มาเริ่มกันเลยมั้ย”
“เริ่มอะไรครับ”
จูเนียร์ถาม ซึ่งเป็นคำถามที่แต่ละคนสงสัยเหมือนกัน
“ตามมาทางนี้เลย”
อูยองพาเด็กๆไปทางหลังร้านซึ่งผมก็เดินตามไปด้วย หลังร้านเป็นลานกว้างๆเพื่อใช้เป็นที่ล้างจาน ตอนนี้ไม่มีพนักงานอยู่ซักคน
“อ้าว...คนล้างจานหายไปไหนหมดล่ะอูยอง”
ผมแกล้งทำเป็นถามเขา
“พวกเขาไปส่งอุด้งของนอกกันหมดครับ แย่จัง...ถ้าเกิดไม่มีคนล้างจานผมคงขายต่อไม่ได้แน่ๆ”
อูยองแสร้งตอบแล้วตีหน้าเศร้า จากนั้นก็หันไปหาเด็กๆที่ตอนนี้ยืนหน้ามึนกันอยู่
“ฝากด้วยนะทุกคน”
“ฝากอะไรครับ”
จูเนียร์เป็นคนถามอีกครั้ง แม้ว่าในใจเขาน่าจะรู้คำตอบดี
“ช่วยกันล้างจานพวกนี้ให้หมดนะทุกคน”
อูยอง พูดให้กระจ่าง ซึ่งสีหน้าแต่ละคนตอนนี้ดูอึ้งมากๆเพราะจานชามที่จะล้างไม่ไช่น้อยๆ
“แต่พวกเรามาเรียนนะครับครู มันไม่ได้อยู่ในบทเรียนนะครับ”
ยองแจแย้งขึ้นอีก
“อยู่ซิ...มันอยู่ในบทเรียนของครูไง อ๊ะๆถ้าวันนี้พวกเธอไม่ทำพรุ่งนี้และวันต่อๆไปครูก็จะพาพวกเธอมาอีกจนกว่าพวกเธอจะทำ เข้าใจ๋”
พวกเขาทำหน้าเซงๆแล้วก็ต่างแยกกันไปคนละมุม เหมือนกับว่าจะรีบๆทำให้มันเสร็จๆไป ผมกับอูยองได้แต่มองหน้ากันยิ้มๆแล้วพากันเดินออกมาจากตรงนั้น ปล่อยพื้นที่ว่างและเวลาเป็นเครื่องช่วยสอนพวกเขา
“จะดีเหรอครับ มันเหมือนผมใช้แรงงานเด็กเลยนะ”
อูยองพูดด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อย
“ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันรับผิดชอบเอง”
ผมพูดเพื่อให้เขาสบายใจขึ้น จาง อูยองมองหน้าผมแล้วถอนหายใจ
“รู้ไหม..ผมล่ะชอบคำนี้ของครูจริงๆ แต่ในเวลาเดียวกันผมก็ไม่ชอบมันด้วย”
คำพูดที่เข้าใจยากของอูยองทำให้ผมได้แต่หัวเราะแฮะๆ แล้วเราสองคนก็พากันไปนั่งพักเพื่อคุยเรื่องราวในอดีตโดยที่ผมไม่ลืมที่จะเรียกเพื่อนรักพัค โนยอง มาร่วมด้วย กลายเป็นว่าเราสามคนคุยกันอย่างสนุกสนาน โดยปล่อยให้เด็กอีกเจ็ดคนเชื่อมความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันในพื้นที่ว่างและเวลาที่ผมได้เตรียมไว้ให้
(มาร์ค)
หลังจากที่ครูปาร์คปล่อยให้พวกเราช่วยกันล้านจานชามกองโตกันตามลำพัง ทุกคนก็ต่างคนต่างทำ และแน่นอนผมต้องอยู่ใกล้กับแบมแบม เพราะผมไม่ไว้ใจที่จะปล่อยให้เขาทำคนเดียว ก็เจ้านี่น่ะนะ เพล้ง!
“อีกแล้วเหรอแบมแบม”
ผมพูดคำนี้เป็นรอบที่สามหลังจากที่เจ้าน้องชายตัวเล็กที่ยืนข้างๆทำจานแตกไปไม่รู้กี่ใบแล้ว
“ใบที่สี่แล้วนะเจ้าตัวเล็ก”
เป็นเสียงยองแจที่ล้างจานอยู่ไม่ไกลกันนักพูดขึ้น แบมแบมได้แต่หันไปยิ้มแหยๆให้แล้วหันกลับมาล้างจานเหมือนเดิม
“ไม่ต้องทำแล้ว เดี๋ยวฮยองทำเอง”
ผมพูดแล้วดันตัวเขาให้หลบไป แต่เจ้าตัวก็ยังดึงดันที่จะช่วยล้างอยู่อย่างนั้น
“คราวนี้ไม่ทำแตกแล้วฮะ”
“ฉันได้ยินนายพูดอย่างนี้มาสามรอบแล้วนะ”
ยูคยอมพูดด้วยน้ำเสียงเอือมๆ
“เงียบเหอะน่า! คิม ยูคยอม”
แบมแบมหันไปเอ็ดเพื่อนของเขา แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีที่อีกฝ่ายจะกลัวเลยซักนิด
“นี่แบมแบม เดี๋ยวฮยองช่วยนะ”
คราวนี้เป็นเจ้าแจ็คสันจอมกวนที่เดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วพูดขึ้น
“ฝั่งของนายเสร็จแล้วเหรอ”
ผมพูดเสียงนิ่งๆ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สะทกสะท้านอะไรเลย
“เดี๋ยวฉันช่วยแบมแบมเสร็จ ก็ค่อยกลับไปล้างต่อก็ได้ไม่เห็นเป็นไรเลย แค่นี้สบายมาก”
“แต่ฉันช่วยแล้ว ไม่เห็นหรือไง”
“โอ๊ะ..โทษทีพอดีออร่านายมันไม่ได้เข้ามาในสายตาฉันก็เลยไม่ทันเห็น”
คำพูดกวนๆของเขาทำให้ผมเริ่มอารมณ์ขึ้นมานิดๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกไป
“นี่พวกนายจะเถียงกันอีกนานมั้ย ถ้าไม่เสร็จฉันเล่นงานพวกนายแน่”
จูเนียร์โวยวายเมื่อได้ยินพวกเราเถียงกัน
“นายก็ทำของนายไปซิ ลูกผู้ชายเขากำลังเคลียร์กัน”
แจ็คสันเลิกสนใจผมแล้วหันไปเถียงกับจูเนียร์แทน ผมหันมาหาแบมแบมที่ตอนนี้ยืนหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว
“ตลกมากมั้ย”
“คร้าบบ”
แบมแบมตอบทะเล้นแล้วหันไปล้างจานต่อ ส่วนแจ็คสันตอนนี้เดินไปเผชิญหน้ากับจูเนียร์เรียบร้อยแล้ว โดยมีหัวหน้าอิมคั่นกลางเหมือนพยายามจะห้าม ซักพักแจ็คสันก็เดินกลับไปที่ของเขา
“นี่ยองแจเปิดน้ำทีซิ”
แจ็คสันตะโกนบอกยองแจที่นั่งใกล้ๆผม
“ฮยองก็เปิดเองซิ ขาไม่มีเหรอถึงเที่ยวใช้คนอื่นเขาน่ะ”
“ย่าห์...ก็ฉันอยู่ไกลกว่านะ”
แจ็คสันอ้างแล้วหยิบสายน้ำขึ้นมาถือเป็นไมค์ร้องเพลงตะโกนโวกเวก
“ชิส์...หาเรื่องใช้ผมน่ะซิไม่ว่า”
ยองแจบ่นๆแต่ก็ยอมเดินไปเปิดให้ แต่เพราะแจ็คสันไม่ทันรู้ว่ายองแจจะไปเปิดให้จู่ๆน้ำก็พุ่งใส่หน้าของเขาโดยที่ไม่ทันตั้งตัว
“ฮ่าาาาาาาาาาาาาาา”
ทันทีที่ยองแจหันมาเห็นเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที รวมถึงผมและคนอื่นๆด้วย
“นี่แกแกล้งฉันเหรอเจ้าลิงเมากล้วย”
ไม่ทันทียองแจจะอ้าปากพูดแจ็คสันก็หันสายน้ำแล้วฉีดมาทางที่ยองแจยืนหัวเราะอยู่ทันทีซึ่งจะไม่เป็นไรเลยถ้าไม่ไช่เพราะผมกับแบมแบมก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย ซ่าา.... เสียงน้ำกระทบกับบุคคลสามคนซึ่งก็คือยองแจ แบมแบม และผม
“นี่! มันโดนคนอื่นเห็นมั้ย”
ผมตะโกนออกไปขณะที่ใช้มือเช็ดน้ำบนใบหน้าตัวเอง ซ่าาา... คราวนี้ยองแจหยิบสายน้ำอีกอันที่เพิ่ง เปิด น้ำมาฉีดไปทางแจ็คสันที่ยืนหัวเราะร่าอยู่เพื่อเป็นการแก้แค้นแต่ก็ไม่วายที่จะโดนยูคยอมที่ยืนอยู่ ทาง นั้นไปด้วย ส่วนเจบีกับจูเนียร์พยายามจะเข้ามาห้ามแต่เหมือนว่าโชคไม่เข้าข้างเพราะนอกจากจะไม่มีใครฟังแล้วพวกเขายังโดนลูกหลังไปด้วย กลายเป็นว่าตอนนี้พวกเรากำลังทำสงครามน้ำกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
“พวกแกเล่นบ้าอะไรกันเนี่ยเสื้อฉันเปียกหมดแล้วนะ!”
ซ่าาา....ทันทีที่จูเนียร์โวยวายจบก็โดนน้ำฉีดเข้าหน้าเต็มๆ เมื่อเข้าหันไปดูตัวต้นเหตุก็พบว่าเป็นเจ้าเด็กยักษ์ยูคยอมเป็นคนฉีดมา
“โอะโอ...ผิดเป้าหมายไปหน่อย โทษทีฮะจูเนียร์ฮยอง”
“แก...เจ้ายักษ์ ตายซะเถอะ”
จูเนียร์เข้าไปแย่งสายฉีดน้ำจากยูคยอมอย่างเอาเป็นเอาตายส่วนเจบีที่ตอนแรกจะเข้ามาห้ามกลับทำเป็น ไม่รู้ไม่เห็นเลือกที่จะเดินเลี่ยงออกไป แต่ก็เหมือนไม่เป็นผล ซ่าาาา..... เสียงน้ำกระทบหลังที่เพิ่งจะหัน หนีไป เจบีหันกลับไปพร้อมกับใบหน้านิ่งๆเพื่อหาตัวคนร้าย
“โทษทีว่ะ...ผิดเป้าหมาย”
จูเนียร์พูดพร้อมกับยิ้มแหยๆ
“ฉันว่าทางที่ฉันยืนมันไม่มีเป้าหมายให้ฉีดนะ”
เจบีพูดนิ่งๆพร้อมกับเดินเข้าไปหาเพื่อนตัวดีเพื่อจะแย่งสายจากมือแต่จูเนียร์หลบทันทำให้เจบีต้องออกแรงดึงจนน้ำที่ยังคงไหลจากสายกระจายไปทั่วตามทิศทางที่พวกนั้นแย่งกัน สนุก...จู่ๆคำนี้ก็ปรากฎขึ้นในหัวผม อีกทั้งตอนนี้ผมและทุกคนกำลังหัวเราะด้วยความสนุกอย่างไม่รู้ตัว เพราะอะไรกันนะ
“มาร์คฮยองสนุกใช่มั้ยล่ะ”
ผมหันไปมองเจ้าตัวเล็กที่อยู่ข้างๆที่ตอนนี้มีสภาพเปียกปอนไม่ต่างจากผม
“นายเองก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ...พวกนั้นก็ด้วย”
“ใช่ครับ...ทุกคนตอนนี้สนุกกันมากเลย ไม่เหมือนเมื่อวันแรกที่เจอกัน”
ผมกับแบมแบมยืนมองภาพข้างหน้าแล้วยิ้มไปพร้อมกัน ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรที่ทำให้ผมต้องยิ้มตามไปด้วย พวกเขาก็เหมือนกันจะรู้ตัวกันบ้างไหมนะว่ากำลังสนุกกันแค่ไหน
(พัค โนยอง)
หลังจากที่ผมกับปาร์ค จินยอง แล้วก็อูยอง คุยกันได้ซักพักใหญ่พวกเราก็ตัดสินใจเข้าไปดูเด็กๆว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง เมื่อจินยองเปิดประตูเข้าไปก็มีกระแสน้ำพุ่งมาใส่หน้าเขาทันที ผมกับอูยองจึงรีบเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ภาพที่ผมเห็นเป็นเด็กๆทั้งเจ็ดคนกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน มีทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะคละเคล้ากันไป ช่างเป็นภาพที่สวยงามจริงๆ
“ย่าห์!...นี่พวกนายเล่นอะไรกันเนี่ย”
จินยองแกล้งโวยวาย ทำให้ทุกคนหันมามองแล้วพากันหัวเราะกับสภาพที่เปียกปอนของครูประจำชั้น
“นี่เปียกกันหมดแบบนี้เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”
ผมพูดด้วยความเป็นห่วง ทุกคนต่างก้มมองสภาพตัวเอง
“ทำไงดีล่ะพวกเราไม่มีชุดมาเปลี่ยนด้วยครับ”
จูเนียร์พูดเป็นคนแรก
“ที่ร้านมีชุดพนักงานให้เปลี่ยนน่าจะใช้ได้นะ”
อูยองเสนอความคิด ทำให้ตอนนี้ปาร์ค จินยองไล่ต้อนเด็กๆให้ไปเปลี่ยนชุด ส่วนพวกผมก็ไปช่วยกันเตรียมอาหาร เพราะนี่ก็ได้เวลาพักเที่ยงแล้ว ระหว่างทำอาหารปาร์ค จินยองก็ฮัมเพลงไปด้วยยิ้มไปด้วย จนผมกับอูยองนึกขำไม่ได้
“ดูท่าจะมีความสุขนะ”
ผมแกล้งแซวเพื่อนรัก
“ก็นะ...ได้เห็นทุกคนสนิทกันแบบนั้นมันทำให้ฉันสบายใจขึ้นมานิดหนึ่งน่ะ”
เขาพูดพร้อมกับคนซุปในหม้อไปด้วย
“เด็กผู้ชายก็เหมือนลูกหมาแหละครับ...นัวเนียกันแปปเดียวเดี๋ยวก็สนิทกัน เหมือนกับพวกผมไงครับ”
อูยองพูดเสริม ผมกับจินยอง ต่างเห็นด้วยในความคิดของอูยอง ตอนนี้อาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วทุกคนก็ประจำที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้วเช่นกันเมื่อเด็กๆเห็นอาหารตรงหน้าก็ต่างตาลุกวาวกันใหญ่
“เอาล่ะ...ทานกันให้เต็มที่เลยนะทุกคน”
อูยองพูดเพื่อเป็นการเปิดงาน แล้วพวกเราก็เริ่มลงมือกินกัน ผมและจินยองต่างก็มองดูเด็กๆด้วยความเอ็นดู
“โอ๊ะ...แกเขี่ยแตงกวาทิ้งทำไมเนี่ยยองแจ”
แจ็คสันถามยองแจด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเขานั่งเขี่ยบางอย่างออกจากข้าวห่อสาหร่าย
“ก็ผมไม่ชอบนี่”
ยองแจพูดหน้ามุ่ยแล้วชะโงกไปดูในชามข้าวของแจ็คสัน
“ฮยองเองก็กินแต่อาหารจืดๆ”
“ก็ฉันไม่กินเผ็ดนี่!”
แจ็คสันโวยกลับ
“นี่แจบอม จดไว้ซิว่ายองแจไม่กินแตงกวา แจ็คสันไม่กินเผ็ด”
จินยองพูดบอกเจบีที่ตอนนี้กำลังทำสีหน้างงๆกับคำสั่งครูประจำชั้น
“ทำไมต้องจดด้วยล่ะครับ ผมไม่ได้เป็นพ่อครัวซักหน่อย”
“แต่เธอเป็นหัวหน้าห้องนะ บอกให้จดก็จดเถอะน่า”
“หัวหน้าห้องที่ไหนเขาทำกันล่ะ...”
เจบีบ่นแต่ก็ยอมทำตาม
“จดของผมด้วยครับผมชอบกินไก่”
แบมแบมยกมือพูดทั้งที่กำลังเคี้ยวตุ้ยอย่างน่าเอ็นดู
“รู้แล้ว รู้แล้ว”
เจบีขานรับ
“มาร์คฮยองชอบกินซุปครับ”
แบมแบมชี้ไปที่พี่ชายข้างๆเขาแล้วพูดขึ้นอีก
“ช่างฉันเถอะน่า”
มาร์คพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“จดของผมด้วยช็อคโกแลตปั่น จดไว้เลยสามบรรทัด ขนาดอยู่ด้วยกันฮยองยังจำไม่ได้เลย”
ยูคยอมพูดเชิงแขวะ ทำให้เจบีหมั่นไส้จึงใช้ปากกาที่มือเขกหัวเขา
“ของฉันเป็นเนื้อสัตว์นะ”
จูเนียร์พูดเป็นคนสุดท้าย
“ชิส์...เจ้าพวกนี้ได้ทีเป็นไม่ได้”
ความคิดเห็น