ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic got7 บังเอิญได้รัก(Incidentally love)

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่10 เพื่อนร่วมชะตากรรม

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ย. 57


    ตอนที่ 10  เพื่อนรวมชะตากรรม

    (แบมแบม)

     

    ผมลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากที่หมดสติไป  ผมสะบัดหัวเพื่อไล่ความมึนก่อนที่จะมองไปรอบๆ แต่ละคนยังคงไม่ฟื้นขึ้นมา ที่ผมฟื้นก่อนคนอื่นคงเป็นเพราะพี่ชายที่สลบอยู่ข้างๆ...มาร์คฮยอง...เพราะเพราะพี่เขาบอกให้ผมเอาหน้าซุกไว้ที่อกเขาทำให้ผมได้รับผลกระทบจากยาสลบที่คนพวกนั้นใช้เพียงเล็กน้อย  ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่กันนะ  ผมลองคิดทบทวนย้อนไปเมื่อประมาณสองชั่วโมงก่อน  ระหว่างทางที่ผมกำลังจะไปห้องเรียนบังเอิญเห็นยูคยอมรีบไปที่หลังโรงเรียน  ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ขาทั้งสองข้างของผมก้าวตามเขาไปจนกระทั่งถึงอาคารหลังนี้  จากนั้นผมก็ตามเข้าเขาไปข้างใน  แต่คงช้าไปเพราะผมดันหลงกับยูคยอม  ผมเดินมาเรื่อยๆจนถึงห้องหนึ่งพอก้าวเข้าไปก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างของผู้ชายคนหนึ่งสภาพของเขาตอนนั้นดูแย่มาก...ชินโจว...เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆผมก็ได้รู้ทันทีว่าเขาคือเพื่อนร่วมห้องของผม  แม้เราจะไม่เคยคุยกันก็เถอะแต่ผมก็จำเขาได้  ผมตัดสินใจแบกร่างของเขาออกมาเพราะผมรู้สึกว่าถ้ามัวรีรออยู่จะไม่เป็นการดีแน่ๆ  ผมพยายามพาร่างไร้สติของชินโจวออกมาแต่เหมือนโชคไม่เข้าข้างเอาซะเลยเมื่อจู่ๆก็มีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งมาดักข้างหน้าผม พอผมจะหันกลับไปก็มีอีกกลุ่มมาขวางไว้  ใบหน้าของพวกเขาถูกปิดบังไปด้วยหมวกโม่ง  จับมันไว้ เมื่อสิ้นเสียงคำพูดของใครซักคนก็มีคนเข้ามาจับตัวผมไว้แล้วแยกชินโจวออกไป  ถึงผมจะดิ้นมากแค่ไหนก็สู้แรงของพวกเขาไม่ได้...ไม่น่าเกิดมาตัวเล็กเลยจริงๆ...  พวกเขาจับผมกับชินโจวกับมาที่ห้องเดิมแล้วเหวี่ยงผมอย่างแรง  หลังจากที่พวกเขาเดินออกไปเฝ้าหน้าห้องผมจึงหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อโทรหามาร์คฮยองทันที  คนๆเดียวที่ผมจะพึ่งได้  แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรมากพวกเขาที่เดินเข้ามาก็ตรงมายึดมือถือผมไป  ไม่นานนักผมก็เห็นพวกเขาพาร่างที่หมดสติของคนสองคนเข้ามาแล้วเหวี่ยงสองคนนั้นลงกับพื้น...ยูคยอม...ผมตกใจเมื่อเห็นเพื่อนร่วมห้องที่ผมแอบตามมานอนอยู่ตรงหน้ากับผู้ชายอีกคนที่ผมไม่รู้จัก  และหลังจากนั้นพวกเขาก็พาผู้ชายอีกคนที่สลบไสลไม่แพ้กันเข้ามา....คนพวกนี้คืออาชญากรหรือไง...ความคิดนี้ทำให้ผมกลัวมากจนอยากจะร้องไห้  ตอนนี้ผมไม่อยากให้มาร์คฮยองมาที่นี่แล้วล่ะเพราะมันอันตรายเกินไป  แต่เหมือนคำขอของผมจะไม่เป็นผลเมื่อผมเห็นพวกนั้นพากันออกไปจากห้องอีกครั้ง จะเหลือก็เพียงคนสองคนที่เฝ้าอยู่หน้าห้อง...ต้องเป็นมาร์คฮยองแน่ๆ...และก็เป็นนริงอย่างที่ผมคิดเมื่อพวกเขาพาพี่ชายของผมมา  ทันทีที่มาร์คฮยองเห็นผมสีหน้าเขาดูตกใจมากและวิ่งเข้ามากอดผมทันที

    เป็นเวลาเนิ่นนานที่ผมนั่งคิดเรื่องราวก่อนหน้านี้  ผมหันไปดูทุกๆคนอีกครั้งจะทุกคนเริ่มขยับตัวกันบ้างแล้ว  ผมหันไปหาพี่ชายที่อยู่ข้างๆแล้วใช้มือเขย่าเขาเพื่อให้รู้สึกตัว...จะว่าไป  ผมถูกมัดอยู่ไม่ไช่หรอ...เมื่อมองที่มือและเท้าของตัวเองผมก็หันไปมองคนอื่นๆ...พวกเราถูกแก้มัดแล้วนี่...

    แบมแบม

    ผมละจากความสนใจเมื่อครู่แล้วหันไปหาต้นเสียงที่สบัดหัวไปมาเพื่อไล่ความมึน

    มาร์คฮยอง เป็นไงบ้าง

    มาร์คฮยองลุกขึ้นนั่งแล้วยกมือขึ้นมาลูบหน้า  ซักพักเขาก็ชะงักไปแล้วสังเกตที่มือและเท้าของตัวเองเหมือนผม 

    นายแก้มัดให้พี่หรอ

    ผมส่ายหน้าหลังจากที่มาร์คฮยองถามผม  คนอื่นๆที่ตอนนี้ฟื้นขึ้นมากันหมดแล้วต่างก็พากันสงสัย  ผมหันไปหายูคยอมที่ตอนนี้กำลังเขย่าร่างของชินโจวอยู่

    ชินโจว!  นายได้ยินฉันมั้ย

    ยูคยอมยังคงเรียกเพื่อนของเขาไปเรื่อยๆ

    นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะ!”

    คราวนี้คนที่ตาเฉี่ยวๆเป็นคนสบถขึ้นมา

    แล้วนายมาทำอะไรที่นี่เจบี

    อีกคนที่นั่งข้างๆเขาถามขึ้น

    ก็เจ้าเด็กมาปัญหานั่นเรียกมานะซิ

    คนที่ชื่อเจบีโบ้ยไปทางยูคยอม  ดูท่าพวกเขาจะรู้จักกัน

    เพื่อนนายเป็นไงบ้างยูคยอม

    คนที่ถามเจบีเมื่อกี้เดินเข้าไปถามยูคยอมแล้วนั่งลงข้างๆเขา 

    เขาไม่ตอบผมเลยฮยอง

    น้ำเสียงของยูคยอมดูเศร้ามาก  จนผมอดที่จะเดินไปหาเขาไม่ได้

    จะไปไหนแบมแบม

    มาร์คฮยองถามขึ้นเมื่อเห็นว่าผมลุกขึ้น

    พวกเขาอยู่ห้องเดียวกับผมครับ

    พูดจบผมก็เดินเข้าไปนั่งข้างๆยูคยอม  เขาหันมามองผมแว้บหนึ่งแล้วก็หันกลับไปมองยังร่างเพื่อนของเขา  ชินโจวดูแย่มากๆ ตอนนี้หน้าเขาซีดมากจนผมหน้าเสีย

    เราพาเขาไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ

    มาร์คฮยองเดินเข้ามาแล้วพูดขึ้น ทุกคนต่างพากันเห็นด้วย

    แล้วพวกนั้นล่ะ...พวกมันอาจจะอยู่ข้างนอกก็ได้นะ

    คนที่ดูหน้ามึนๆพูดขึ้นมา ตอนนี้พวกเราทุกคนมายืนรวมกันเหมือนจะช่วยกันคิดหาทาง

    มีใครมีมือถือไหม

    คนที่ชื่อเจบีถามขึ้น  แต่ทุกคนก็พากันส่ายหัว

    พวกมันยึดของฉันไปแล้ว  เพิ่งจะถอยมาใหม่เลยนะนั่น  ให้ตายเถอะ

    คนที่โดนจับมาคนสุดท้ายบ่นยืดยาว...เขานี่ขี้โวยวายชะมัด...

    ตึก ตึก ตึก

    เสียงฝีเท้าด้านนอกทำให้พวกเราทุกคนหันไปมองทางเดียวกัน

    หรือจะเป็นพวกนั้น

    คนที่หน้ามึนๆตาตี่ๆพูดขึ้นมา

    เดี๋ยวพวกแกเจอมาเฟียฮ่องกงแน่

    คนที่ขี้โวยวายเตรียมง้างหมัดรอ  พวกเราที่เหลือต่างพากันตั้งท่าเตรียมตัวลุยเต็มที่  ผมถูกมาร์คฮยองดึงมาอยู่ข้างหลังก็ได้แต่แอบมองอย่างกล้าๆกลัวๆ  ซักพักกลุ่มคนที่เข้ามากลับไม่ไช่คนกลุ่มเดิมที่จับพวกเรามาแต่เป็นพวกอาจารย์กับตำรวจ  ที่มีสีหน้าแปลกใจเมื่อเห็นพวกเรา

    ชินโจว!”

    ซักพักก็มีหญิงชายคู่หนึ่งที่ดูมีอายุแวกพวกอาจารย์ออกมาแล้วร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นสภาพของชินโจว

    ลูกแม่!...ทำไมเป็นอย่างนี้..

    เธอเข้ามากอดร่างของชินโจวแล้วร้องไห้คร่ำครวญ...แม่ของชินโจวงั้นเหรอ...

    พวกเธอทำอะไรเขา!”

    คราวนี้เป็นผู้ชายที่คาดว่าจะเป็นพ่อของชินโจวมองมาทางพวกเราแล้วตวาดขึ้นทำให้พวกอาจารย์ต้องเขามาห้าม

    ใจเย็นๆก่อนครับ  ยังไงเราก็ต้องสอบถามพวกเขาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น

    ครูฮงเป็นคนพูดขึ้น  แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอม

    พวกเราไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับครู

    เอาไว้คุยกันทีหลังนะจินยอง....ฉันว่ารีบพาชินโจวไปโรงพยาบาลก่อนเถอะคะ

    ครูซอนบอกคนที่ชื่อจนยอง แล้วหันกลับไปพูดกับพ่อแม่ของชินโจว  หลังจากที่ชินโจวถูกพาออกไปภายในห้องก็เหลือแค่ครูใหญ่  ครูปาร์ค และตำรวจอีกสองสามคน  กำลังจ้องมองมาที่พวกเรา

    ทำไมพวกเธอถึงมาอยู่ที่นี่

    ครูใหญ่เป็นคนเอ่ยปากถาม

    มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากเลยครับ  ถ้าผมเล่าไปครูคงไม่เชื่อแน่ๆ มันบังเอิญมากจริงๆที่พวกเรามาอยู่ที่นี่  จะว่าไปผมยังตกใจไม่หายเลยนะครับ

    นั่นซินะ  ความจริงฉันก็ตกใจเหมือนกันที่เจอเธออยู่ที่นี่ แจ็คสัน หวัง

    ครูใหญ่ตอบกลับทันทีหลังจากคนที่ชื่อแจ็คสัน หวัง หรือเจ้าคนชอบโวยวายพูดจบ

    ถ้างั้น  ผมคงต้องขอสอบปากคำเด็กๆพวกนี้หน่อยนะครับ

    ตำรวจคนหนึ่งพูดขึ้นมาแล้วหันมามองทางพวกเรา

    พวกเราไม่ได้ทำร้ายเขานะครับ

    ผู้ชายที่ดูท่าทางใจดีที่ชื่อจินยองค้านขึ้นทันที

    ฉันก็ไม่บอกว่าพวกเธอเป็นคนทำซักหน่อยนะ ก็แค่สอบปากคำผู้ต้องสงสัย

    ความสงสัยของคุณตำรวจก็คือเชื่อว่าพวกเราเป็นคนทำไปแล้วครึ่งหนึ่งไม่ไช่หรอครับ

    คนที่หน้ามึนๆพูดขึ้น...ใช่แล้วล่ะ ไม่ไช่แค่เขาที่รู้สึกแต่ผมก็รู้สึกเหมือนกันว่าใครๆต่างก็ปักใจเชื่อไปแล้วครึ่งหนึ่งว่าพวกเราเป็นคนทำ....

    นี่พวกเธออย่าเสียมารยาทนะ...เอาเป็นว่าพวกเธอทั้งหมดตามครูมาที่ห้องปกครองแล้วเราจะได้เริ่มสอบสวนกันซักทีว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร

    ครูใหญ่พูดจบก็เดินนำไปเป็นคนแรก จากนั้นคนอื่นๆก็เดินตามออกไปเหลือก็แค่ครูปาร์คที่ยังยืนดูพวกเราอยู่

    นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ!”

    แจ็คสันเริ่มโวยวายอีกครั้ง ไม่ต่างจากคนอื่นๆที่มีอารมณ์ไม่ต่างกัน

    ไปกันเถอะ

    มาร์คฮยองพูดแล้วจูงมือผมออกมา  พอคนอื่นๆเห็นก็ทยอยตามกันมา ผมมองทุกๆคนที่เดินตามมาอย่างไม่เต็มใจนัก

    คิดอะไรอยู่

    คำถามสั้นๆของมาร์คฮยองทำให้ผมหันกลับไปมองตามเสียงนั้น

    เปล่าหรอก...แค่คิดว่าทำไมต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ด้วย  มันไม่มีเหตุผลเลยซักนิด  ทั้งๆที่เดินอีกนิดก็จะถึงห้องเรียนแล้วแท้ๆ แต่ทำไมกันนะผมถึงเลือกที่จะมาทางนี้

    ผมพูดตามที่ตัวเองคิดจริงๆ

    แล้วเพราะอะไรล่ะ...ที่ทำให้นายมาทางนี้

    ก็แค่...รู้สึกไม่ค่อยดีที่จะปล่อยให้เจ้านั่นมาคนเดียว

    ผมพูดแล้วหันไปมองยูคยอมที่ตอนนี้ดูซึมๆ  คงเพราะเป็นห่วงชินโจวซินะ

    ความรู้สึกนั่นแหละ

    จู่ๆมาร์คฮยองก็พูดขึ้นมาอีกครั้งแล้วหันหน้ามามองผม

    ความรู้สึกนั่นแหละคือเหตุผล...เหมือนกับฉันที่รู้สึกเป็นห่วงนายและรู้สึกว่าปล่อยให้นายอยู่คนเดียวไม่ได้ยังไงล่ะ

    คำพูดของมาร์คฮยองทำให้ผมตื้นตันเอามากๆ  พี่ชายคนนี้มันจะคอยเป็นห่วงเป็นใยผมเสมอเลยซินะ  จากนี้ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกแค่ขอให้มีมาร์คฮยองอยู่ข้างๆก็พอแล้ว  แค่นี้...ผมก็ไม่กลัวแล้วล่ะ  ถ้าความรู้สึกที่มาร์คฮยองพูดขึ้นมันคือเหตุผลผมก็คงต้องยอมรับมันแล้วล่ะ 

     

    (แจ็คสัน)

     

    มันไม่บังเอิญไปหน่อยเหรอ

    ผมเกียจคำพูดนี้ที่สุด  ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะเวลาที่ผมพยายามอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นคำพูดนี้มักจะได้ยินอยู่เสมอมันเหมือนแปลว่า มันไม่น่าเชื่อนะ  อะไรประมาณนี้น่ะครับ  ตอนนี้ผมไม่ซิยังมีคนอื่นที่ร่วมชะตากรรมต้องสงสัยเดียวกันอีกหกคนพวกเราอยู่ที่ห้องปกครองที่แอร์เย็นเฉียบ มีครูใหญ่นั่งมองพวกเราอยู่ที่หน้าห้องและมีครูอีกสองสามคนคอยเฝ้าสังเกตการณ์ ยังไม่พอนะครับยังมีตำรวจอีกสามคนกำลังจ้องหน้าพวกผมเหมือนกับกำลังจะจับผิด

    ฉันจะถามเธออีกครั้งนะ แจ็คสัน หวัง เธอไปทำอะไรที่นั่น

    ตำรวจหน้าโหดถามผมพร้อมกับจ้องเขม็ง

    ก็ผมบอกไปแล้วนี่ครับว่าผมโดดเรียน แล้วบังเอิญเดินเข้าไปเจอะกับพวกอันธพาลโม่งดำ มันช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน  เนี่ยขนผมยังไม่หายลุกเลยนะครับ

    ผมพูดแล้วทำท่าที่คิดว่าน่าสงสารที่สุด

    ทำท่าแบบนั้นใครจะไปเชื่อ

    ไม่ทันที่ผมจะได้โชว์บีบน้ำตาก็มีเสียงแว่วๆมาจากข้างๆตัว...เจ้าลิงเมากล้วยนี่เอง...

    แกน่ะหยุดพูดไปเลย  นี่ฉันกำลังจะช่วยพวกเราทุกคนอยู่นะเฟ้ย

    ช่วยยังไงมิทราบ  ทำหน้ายังกะสุนัขดมอุนจิแบบนั้นใครจะไปสงสาร

    เจ้าลิงเมากล้วยนี่ปากร้ายชะมัด  ผมเลิกสนใจแล้วหันไปทำตาใสปิ๊งพยายามจะบีบน้ำตาให้คุณตำรวจเห็น  แต่ยังไม่ทันที่หยาดแรกจะไหลคุณตำรวจหน้าโหดก็หันไปหาเจ้าลิงเมากล้วยที่ยืนหน้าบูดอยู่ข้างๆผม

    แล้วเธอล่ะเข้าไปทำไม

    ผมบังเอิญได้ยินเสียงคนเรียกให้ช่วยก็เลยเดินเข้าไป

    เหตุผลของเจ้านั่นก็ไม่เห็นจะต่างจากผมซักเท่าไหร่เลย

    แล้วทำไมเธอไม่โทรเรียกตำรวจล่ะ  เธอคิดตัวเองเป็นซุปเปอร์ฮีโร่หรือไง

    ผมไม่ได้เอามือถือไปครับ

    สรุปว่าเป็นเรื่องบังเอิญอีกแล้วซินะ

    ตำรวจพูดแค่นั้นแล้วเดินไปสอบสวนคนต่อไปซึ่งเป็นเจ้าเด็กยักษ์ที่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนกับคนที่ถูกทำร้าย  ตำรวจหน้าโหดมองเจ้านั่นตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแล้วจับที่ปกคอเสื้อที่มีสัญลักษณ์แสดงระดับชั้น

    อยู่ปีหนึ่งเหรอ...ทำไมถึงเข้าไปในนั้นได้ล่ะ

    เธอเคยมีเรื่องกับชินโจวมาก่อนใช่ไหม คิม ยูคยอม

    ยังไม่ทันที่ตำรวจจะได้ถาม ครูใหญ่ก็พูดขึ้นซะก่อนทำให้คนอื่นๆต่างหันไปมองเจ้าเด็กที่ชื่อยูคยอมนั่นเป็นตาเดียว

    มีเรื่องงั้นเหรอ...เธอไม่ถูกกับเขาไช่ไหม

    ตำรวจหันมาถามเจ้านั่นอีกครั้งแต่เจ้าเด็กนั่นก็ยังไม่ตอบอะไร

    แต่เขาดีกันแล้วนะครับ  เรื่องก่อนหน้านั้นมันกลายเป็นอดีตไปแล้ว

    คนข้างๆยูคยอมจู่ๆก็พูดแทรกขึ้นมา เจ้านี่รู้สึกว่าผมจะเคยเห็นหน้านะเหมือนจะอยู่ปีเดียวกับผม

    พอเถอะจูเนียร์ฮยอง...ไม่ต้องพูดแล้วล่ะ

    ใช่แล้ว...เจ้านั่นชื่อจูเนียร์รู้สึกว่าจะสอบได้อันดับหนึ่งของระดับชั้นตลอดและยังเป็นนักเรียนดีเด่นอีกด้วย อย่างเจ้านั่นไม่น่าจะมาอยู่ที่ห้องนี้ได้เลยนะ

    การที่พวกเธอบอกว่าเป็นเพราะความบังเอิญหรืออะไรก็แล้วแต่แม้มันจะดูเชื่อถือยากไปซักหน่อย  แต่ทางตำรวจจะพยายามหาหลักฐานแล้วก็ข้อสรุปให้เร็วที่สุดแล้วกันนะ  ระหว่างนี้พวกคุณควรจะทำอย่างไรกับเด็กพวกนี้กันครับ

    หลังจากที่ตำรวจพูดกับพวกเราจบก็หันไปทางครูใหญ่

    เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่มากเลยนะ  เพราะผู้ปกครองทางฝ่ายนั้นดูท่าจะไม่ยอมง่ายๆ

    ครูใหญ่ทำท่าครุ่นคิด

    แต่ยังไงซะเด็กพวกนี้ก็เป็นนักเรียนนะครับ

    ครูคนที่น่าตาตลกๆพูดสวนขึ้นมา เอ....ผมจำชื่อเขาไม่ได้แฮะ

    ป่านนี้ผู้ปกครองของเด็กคนอื่นๆคงจะรู้กันหมดแล้วว่าโรงเรียนเรามีอันธพาล  แล้วอย่างนี้เขาจะกล้าให้ลูกพวกเขามาโรงเรียนอีกเหรอคะ

    ครูคนที่เป็นเลขาครูใหญ่พูดเสริมขึ้นมา

    ถ้าอย่างนั้นจะเป็นไรไหมครับถ้าเราจะพักการเรียนเด็กพวกนี้ไปก่อนซักระยะหนึ่ง

    คราวนี้เป็นตำรวจหน้าโหดพูดแนะ...ก็ดีนะ ไม่มาเรียนก็ดี...ทั้งๆที่ผมคิดแบบนี้มาตลอดแต่ทำไมพอได้ยินว่าจะพักการเรียนจริงๆ ผมถึงยิ้มไม่ออกนะ

    ได้ยังไงล่ะครับ  เด็กพวกนี้ไม่ได้เป็นอันธพาลซักหน่อย

    แต่พวกเขาเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่นะคะครูปาร์ค

    แค่ผู้ต้องสงสัย...ไม่ไช่ผู้ต้องหานะครับ

    คำพูดของครูปาร์คที่ดูจริงจังทำให้ทุกคนต่างมองหน้ากัน ทำไมครูคนนี้ถึงต้องเถียงเพื่อพวกเราด้วยนะ

    ผมขอร้องแหละครับ...ถ้าเด็กพวกนี้เป็นผู้บริสุทธิ์จริงๆ พวกเราจะไม่เสียใจไปตลอดชีวิตเหรอครับที่ทำแบบนี้กับเขา  อย่าเอาภาพที่เห็นมาตัดสินทุกอย่างซิครับ

    หลังจากครูปาร์คพูดจบทั้งตำรวจและครูใหญ่ก็มีสีหน้าสลดเล็กน้อย ย้ำ...เพียงเล็กน้อยเท่านั้นครับ

    พวกเธอกลับไปห้องเรียนก่อน

    หลังจากครุ่นคิดซักพักครูใหญ่ก็บอกให้พวกเรากลับไปที่ห้องเรียน ผมเดินออกมาแล้วมองหน้าแต่ละคนจะว่าไปยังไม่ได้ทำความรู้จักกันเลยนี่นา

    นี่ทุกคน

    เสียงเรียกของผมทำให้พวกเขาหันมามองเป็นตาเดียว

    สวัสดี...ฉันชื่อแจ็คสัน หวังนะ  ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนร่วมชะตากรรม

    ก็แนะนำไปแล้วนี่  จะพูดอีกทำไม

    ผมหันไปตามเสียงนั้น...เจ้าลิงเมากล้วยอีกแล้ว...

    ก็ดูท่าทางพวกนายจะยังจำชื่อฉันไม่ได้ไงล่ะ...โดยเฉพาะนาย  ยองแจ  ฉันเจอนายครั้งสองแล้วนะ

    ผมชี้ที่หน้ามึนๆของเขาที่ตอนนี้กำลังตกใจอะไรซักอย่าง

    จำชื่อได้ด้วยเหรอ

    ฉันไม่ไช่ปลาทองนะจะได้ความจำสั้น

    ผมพูดกับเขาจบผมก็หันไปหาคนอื่นๆต่อ...โอ๊ะ เจ้าตัวเล็กนั่นน่ารักจัง...ผมเดินไปที่เจ้าเด็กคนที่ตัวเล็กที่สุดผมว่าเจ้านี่น่ารักดีนะ

    หวัดดี  นายชื่ออะไรเหรอ

    ผมทักเขาแต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังงงๆอยู่

    แบมแบมไปเรียนเถอะ

    ยังไม่ทันที่เด็กน้อยของผมจะได้พูดอะไร ก็มีคนพูดแทรกพอผมเงยหน้ามองเขาก็เจอกับหน้าตาที่ไม่หล่อ...ไช่ครับไม่เห็นจะหล่อเลยซักนิดดด...

    ผมชื่อแบมแบมครับ  ส่วนนี่มาร์คฮยอง

    ผมละความสนใจจากใบหน้าขี้เหร่นั่นแล้วหันกลับมามองเจ้าตัวเล็ก...น่ารักน่าฟัดเสียจริง...เห็นแล้วอยากมีน้องชายบ้างจังเลย

    ไปเถอะแบมแบม

    เจ้าคนชื่อมาร์คนั่นจูงมือแบมแบมออกไปทันที...เชอะ น่าหมั่นไส้ชะมัด...พอผมหันกลับไปหาคนอื่นที่เหลือกับเจอแค่เจ้าลิงเมากล้วยยองแจที่ยืนหน้ามึนอยู่คนเดียว

    อ้าว  หายไปไหนกันแล้วล่ะ

    ใครจะไปสนใจคนเพี้ยนๆกันล่ะ

    พูดแค่นั้นยองแจก็เดินหนีผมไปอีกคน  แต่ก็ช่างเถอะเพราะอย่างไรผมก็ต้องได้เจอคนพวกนี้อีกแน่ๆไม่ไช่เพราะอยู่โรงเรียนเดียวกันแต่เพราะผมมีความรู้สึกว่าเรากำลังร่วมชะตากรรมเดียวกันต่างหาก

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×