ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิยาย(เอกเบส.ออยคิว.เชฟโน๊ต) No Gamer นักเเคสเกมหรือนักฆ่า..?

    ลำดับตอนที่ #6 : CH2

    • อัปเดตล่าสุด 20 ต.ค. 57


    B

    CH 2

    LBKxXCZ

    Writer Taik:

     ออยพาร่างไร้สติของคนในอ้อนแขนไปหลบอยู่ที่เชฟเตรียมไว้ มือแกร่งเปิดประตูบานไม้สลักออกมันเป็นห้องโถงกว้างมีเก้าอี้ซ้อนเป็นชั้นๆตั้งเรียงอย่างเป็นระเบียบภายในนี้มีคนอื่นๆอยู่ก่อนแล้วนั้นก็คือ เชฟ เอ็ม เรวี่ เจมส์ ฯ คนอื่นๆที่พอจำได้ในวงการนักแคสเกมอยู่

     

    “คิวเป็นอะไรมากมั้ย”

     เจมส์หูแมววิ่งเข้ามาหาคิวที่ในตอนนี้ออยกำลังอุ้มอยู่ในท่าเจ้าสาว “ไม่หรอก พี่แค่ทำให้คิวหลับไปนะ” เพราะหลังเสียงปืนคนที่ถูกยิงดันนั่งข้างๆคิวด้วยเนื้อตัวและเสื้อผ้าเลยเปรอะไปด้วยคราบเลือดของเหยื่อ ออยชินแล้วถึงแม้จะพึ่งเข้ามาเป็นพนักงาน(นักฆ่า)เต็มตัวก็เถอะ แต่สำหรับคนตัวเล็กนั้น ไม่

     

    “เจมส์ นายพาคิวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ซะออกทางประตูนู่นจะได้ไม่มีใครเห็น”

     เชฟสั่งในฐานะยศสูงกว่า เจมส์พยักหน้ารับคำแล้วประคองคิวไปประตูทางออกทั้งห้องมีเสียงโต้เถียงกันเรื่องที่เกิดขึ้นเชฟไปนั่งอยู่หัวมุมโต๊ะที่เอ็มเป็นคนจัดให้ ออยก็เดินไปนั่งข้างซ้ายในฐานะมือซ้ายของหัวหน้าองค์กรพนักงานทั้งห้องก็เดินมานั่งเก้าอี้ที่เอ็มจัดเตรียมไว้

     

    “นี้มันเรื่องอะไรกันน่ะ หัวหน้าทำไมมันถึงเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นละ?”

     กล้าเป็นคนเปิดประเด็นขึ้นหลังจากนั่งที่ตัวเองได้ไม่นานเชฟเอามือประสานกันและใช้ศอกท้าวกับพื้นโต๊ะดวงตาสีเงินส่องประกายแววดุดันเล็กน้อยและความจริงจังเสียจนน่ากลัว ออยมองไปทางกล้าแล้วหันมองเชฟที่กำลังเงียบเหมือนใช้ความคิด

     

    แอ๊ดดด...

     บานประตูถูกเปิดออกอีกครั้งออยแค่เหลือบตามองไปทางต้นเสียง ร่างของเอกที่พาดเบสไว้บนบ่า ใบหน้าคมฉายแววหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัดทำให้บรรยากาศภายในห้องครุกกรุ่นไปด้วยอารมณ์ยากจะเดาของนักฆ่ามือหนึ่งอย่างเอกไปแล้ว

     

    “เอกมานั่งสิ”

     ร่างสูงเงียบเป็นคำตอบแต่ก็ยอมวางร่างของเบสที่หลับไปด้วยฤทธิ์ของยาสลบ บนเบาะนุ่มสีน้ำเงินครามลูบปอยผมสีชมพูนั้นสองสามทีก็เดินมานั่งเก้าอี้ตัวขวาของตน สถานะการณ์กลับเข้าสู่หมวดปกติทั้งโต๊ะเริ่มโต้เถียงกันอีกครั้งยกเว้น เชฟ ออยและเอก

     

    “พี่คิดว่าเป็นฝีมือใคร”

     เอกถือสิทธิ์เรียกหัวหน้าได้อย่างสนิทสนมเพราะเขาเป็นคนสนิทมากพอๆกับออยที่พึ่งเข้าวงการนี้มา เชฟกรอกตามองไปรอบๆพยายามคิดในความเป็นไปได้เพราะก่อนที่เขาจะมางานนี้ก็ได้สั่งยกเลิกรายการฆ่าไปทั้งหมดเพื่อไม่ให้ตำรวจดมกลิ่นเจอ

     

    “พี่ว่าคงไม่ใช่คนในองค์กรเรา”

     เชฟสรุปเอาสั้นๆ ทุกสายตาในห้องหยุดอยู่ที่เชฟการโต้เถียงเมื่อครู่ได้เงียบลงแล้วสู่สถานะการณ์มาคุ...

     

    Oil Talk:

     ผมกวาดตามองสมาชิกทุกคนที่นั่งสงบเสงี่ยมแต่ในใจคงวิ่งเต้นเป็นคนโดนไฟลวก ไม่แปลกที่จะมีบรรยากาศมาคุเกิดขึ้นถ้าเป็นคนในองค์กรคงพอเคียร์ได้ง่ายๆแต่นี้ไม่ใช่ ผมตวัดตามองเอกที่ทำท่าครุนคิดไม่แพ้กันก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงเย็นที่เล่นเอาทุกคนสะดุ้งตัวไม่เว้นแม้แต่ผม

     

    “ก่อนจะมาที่นี้ เจมส์เขาโทรมาหาผมเราคุยเรื่องลูกน้องสังกัดผมที่โดนจับตัวสภาพสะบักสะบอมพอสมควรจากที่ฟังเจมส์มา น่าแปลกที่เจ้าพวกนั้นไม่น่าจะโดนตัวรวจจับได้ต่อให้สะบักสะบอมขนาดไหนก็เถอะแล้วผมก็รู้ความจริงเมื่อเจมส์เจมส์บอกมาว่าลูกน้องของผมโดนกับดัก”

     

      ทั้งห้องกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกเพราะคำพูดที่ใช้เป็นทางการและยังน้ำเสียงเยียบเย็นเหมือนแช่แข็งร่างให้ตกผลึกเป็นน้ำแข็งไปตลอดกาล ผมมองเอกที่ฉายแววตาฆ่าฟันอย่างเห็นได้ชัดมีอยู่สองอย่างสำหรับมันที่ไม่ยอมให้แตะต้อง(ยกเว้นเกม)ก็คือ เพื่อนรักแสนห่วงแกมหวง กับลูกน้องของมัน

     

    “กับดักที่เจมส์ว่าเป็นของนักฆ่าและยังเป็นขั้นสูงที่มีแต่คนระดับผมเท่านั้นถึงจะทำได้ ผมว่าหากคำสันนิฐานของหัวหน้าเป็นจริงเราก็ควรระมัดระวังเรื่องการทำงานให้มากขึ้น เพราะก็มีอยู่หลายองค์กรที่คิดจะโค่นล้มองค์กรเรา”

     พี่เชฟพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วยกับความคิดเห็นของเอก เรวี่ยกมือขึ้นเหมือนมีคำถามพี่เชฟพยักหน้าเชิงให้แสดงคำถามของคุณได้ ผมหันมองเรวี่เหมือนกับคนอื่นๆ

     

    “เราน่าจะยกเลิกรายการฆ่าไปสักพักน่ะค่ะ อย่าพึ่งเคลื่อนไหวสุ่มสี่สุ่มห้าถ้าหากเป็นฝีมือ องค์กรอื่นจริงพวกนั้นคงไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่”

     ผมคิดตามประโยคที่เรวี่บอกอันนี้ก็เห็นด้วยหากเราเคลื่อนไหวสุ่มสี่สุ่มห้าเรื่องมันคงแย่กว่านี้ พี่เชฟพยักหน้าช้าๆเหมือนจะขอเก็บความคิดเห็นเรื่องนี้ไปคิดอีกที คนอื่นๆเริ่มจับกลุ่มคุยกันอีกครั้งผมแค่กวาดตามองครั้งเดียวก็หันมาตรงหน้าหลับตาลงอย่างหนักอึ้งเหมือนทำงานมาซัก10ปี..

     

    ทำไมเรื่องแบบนี้มันชอบเกิดขึ้นพร้อมกันน่ะ...

     

    Ikkiw Talk:

     

     ผมลืมตาขึ้นช้าๆความหนักอึ้งของเปลือกตาทำให้ผมต้องยกมือขยี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ ผมยันตัวลุกขึ้นจากพื้นนุ่มๆสิ่งยังไม่แน่ชัดว่าเป็นเตียงนอนรึเปล่า เมื่อปรับระดับสายตาได้ผมก็มองไปรอบๆมันเป็นห้องนอนสีครีมสบายตาข้าวของถูกจัดอย่างเป็นระเบียบมือทั้งสองข้างของผมสัมผัสกับผืนผ้าหนานุ่มสีฟ้าอ่อน

     

    แล้วที่นี้มัน....ที่ไหนละ?

     

    แอ๊ดดด

     ผมหันหน้าไปทางประตูก็พบเจ้าของแรงกระทำกับบานไม้สีน้ำตาลทรงสีเหลี่ยมผืนผ้านั่น เจมส์กระดิกหูแมวพลางส่งสายตาประมาณว่า เข้าไปได้มั้ย?

     

    “อ้าว เจมส์เองเหรอเข้ามาสิ”

     เจมส์พยักหน้ารับแล้วเดินเข้ามาและหากสังเกตดีๆในมือเจมส์มีปลาเส้นบรรจุในซองชื่อทาโร่ด้วยดูจากปริมาณที่มากกว่าครึ่งแล้วคงพึ่งแกะไปได้ไม่นาน

     

    “พี่ออยบอกให้เราพาคิวที่สลบมานอนพักบ้านพี่เขาเนี้ย”

     

    เจมส์ยิ้มกว้างให้ผมที่นั่งบนเตียงนุ่ม.....แต่เดี๋ยวน่ะ....

     

    “เมื่อกี้เจมส์ว่าอะไรน่ะ ผมอยู่ที่ไหน..?”

     

    “ก็บ้านพี่ออยไง แล้วนี้ก็ห้องพี่ออยอีกต่างหาก”

     

    ฉ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

     

    ผมรู้สึกถึงพลังงานบางอย่างที่ก่อตัวที่หน้าเนียนๆของผมเป็นพลังงานความร้อนที่เกิดจากการได้ยินคำพูดหวานๆจากคนรักหรือจะเป็นเวลาที่เราโดนมุกหมอไม่รับเย็บ(หน้าแตก) ใช่.....มันคือความเขิน!! จะไม่ให้ผมเขินได้ไงละก็ที่นี้มันบ้านพี่ออยแล้วนี้ก็ห้องพี่ออยด้วย...

     

    “คิว คิวเป็นอะไรน่ะหน้าแดงไม่สบายเหรอ ระ...รอเดี๋ยวน่ะ เดี๋ยวเจมส์ไปหายามาให้”

    ยังไม่ทันเอ่ยปากห้ามคนตรงหน้าผมก็เดินริ้วออกนอกห้องไปเรียบร้อยแล้ว ประตูถูกปิดลงผมทรุดตัวนอนราบกับผิวนุ่มของเตียงดวงตาเหม่อมองเพดานแต่ในหัวกลับคิดเรื่องที่เกิดขึ้น

     

    ปัง!!!!

    หลังเสียงปืนนั่นความรู้สึกหนักไหล่ทำให้คิวละสายตาแทบไม่ทันมันเป็นศพชายวัยชราหรือลุงของผมหน้าผากเป็นรูกลมเลือดสีสดไหลทะลักเปรอะเสื้อผ้าสีดำสนิท ดวงตาสีทับทิมเบิกกว้างมันสั่นระริกมือเนียนยกกุมใบหน้าที่เปลื่อนเลือดสีแดง

     

    “อ๊า!!!!!!!!

    ร่างเล็กกรี๊ดลั่นราวคนไร้สติหัวส่ายโคลงไปมาเหมือนจะสลัดภาพโศกอนาฎกรรมตรงหน้านี้ให้หายไปจากหัว ภาพของหยาดโลหิตที่พุ่งเปรอะโดยรอบเหมือนลูกโป่งที่บรรจุน้ำถูกยิง เสียงหวานสะอื้นร่างกายคดราวกับคนที่หวาดกลัวคนตามล่า

     

    “คิว อิคคิว”

     เสียงของออยเอ่ยเรียกคนที่คดตัวหนีมือกุมหัวน้ำใสไหลอาบแก้มที่เปรอะไปด้วยหยาดเลือดมือแกร่งยื่นสัมผัสตัวของคิวเพื่อเรียกสติ ร่างเล็กสะดุ้งตัวโหยงใบหน้าซีดเผือกหันมองออยอย่างหวาดๆ ออยมองคิวด้วยสายตาเวทนาก่อนจะดึงตัวคิวมาไว้ในอ้อมแขน

     

    “คิว....หลับซะน่ะ”

     ราวกับการสะกดจิตคิวนิ่งสงัดไม่ใช่การนิ่งเหมือนคนที่มีความรู้สึกช้าแต่ร่างกายนั่นกระตุกตัวนิ่งอยู่ครั้งหนึ่งแล้วโน้มตัวลงในอก

    .

    .

    .

    .

     

    แล้วหลังจากนั้น....?

     

    เราก็มาอยู่นี้งั้นเหรอ????

     

     ผมยกมือทั้งสองกุมหูแล้วเลื่อนขึ้นไปกุมผมสีเงินคราม ดวงตาสีทับทิมระบายไปด้วยความสงสัยไปหมดผมมองห้องพี่ออยอีกครั้ง ขอยอมรับเลยว่าห้องพี่เขาดูเรียบร้อยกว่าห้องผมที่มีแม่บ้านจัดห้องให้ทุกวันเสียอีก ( - -)

     

    ฟุดฟิด

     

    เอ๊ะ กลิ่นอะไรน่ะ (O_O)

     

    ผมลองหลับตาดมกลิ่นที่ลอยจางในอากาศอีกครั้งมันเป็นกลิ่นที่หอมมากถึงจะเป็นน้ำหอมผู้ชายก็เถอะแต่พอผมดมกลิ่นนี้ก็รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ก็มัน.......เหมือนกลิ่นของพี่ออยเลยนี้....ผมอาจจะหลับตานานเกินไปก็ได้สติเลยล่องลอยคล้อยไปกลับกลิ่นผมเลยหงายหลังไปตามแรงของร่างกาย

     

     .....แต่ก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงความปวดจากการกระแทกกับผิวเตียงผมก็ได้กลิ่นน้ำหอมชัดขึ้นพร้อมร่างของคนที่ผมรู้จักดีอยู่บนเตียงกับผม สัมผัสอุ่นที่ช้อนแผ่นหลังประกอบกับสายลมอ่อนๆที่กระทบเนื้อ พี่ออยคงเข้ามาทางหน้าต่างสิน่ะ...

     

    ผมปรือตามองอย่างยากลำบากเหมือนร่างกายมันทรยศตัวเองที่ขยับไม่ได้ดั่งใจมันเหมือนกับในงานเพียงแค่เสียงกับกลิ่นน้ำหอมร่างกายก็อ่อนระทวยและจะหลับ ผมปรือตาได้สำเร็จแต่แค่เห็นหน้าพี่เขาพี่ออยกำลังยิ้ม ยิ้มเหมือนเอ็นดูผมมือเย็นของพี่เขาสัมผัสแก้มอุ่นของผม

     

    มือพี่ออยเย็นจัง...

     

    แต่.......ก็รู้สึกดี..

     

    “ฝันดีน่ะ ตัวเล็กของพี่”

     

    ร่างสูงพูดเสียงทุ่มแต่ก็ระบายความอ่อนโยนในน้ำเสียง.

     

    แล้วทุกอย่างก็มืดลงเมื่อสติของผมจมลงไปในก้นบึ้งของห่วงนิทรา..

    .

    .

    .

    .

    TBC.

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×