ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิยาย(เอกเบส.ออยคิว.เชฟโน๊ต) No Gamer นักเเคสเกมหรือนักฆ่า..?

    ลำดับตอนที่ #2 : AekBest หมาป่าห่มหนังเเกะ Into 02

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ย. 57


    Minor!
     

      HRK*GMXIII หมาป่าห่มหนังแกะ

     

     กาลครั้งหนึ่งมีหมาป่าตัวหนึ่งมันเร่ร่อนอย่างไร้จุดหมาย ร่างกายผอมโซและกระหายเหยื่อมันเดินไปเจอฟามร์แกะแห่งหนึ่งแต่ฝูงแกะตกใจและหนีมันเหตุเพราะเป็นหมาป่า มันจึงออกอุบายเอาหนังแกะมาสวมทับร่างปะปนเข้าฝูง ยามแกะพลัดลงออกจากกลุ่มหม่าป่าที่สวมอาทรณ์แกะก็กระโจนขย้ำเหยื่อทันทีเขี้ยวเงินกัดกระชากเนื้อของเหยื่อลิ้มร้อนสัมผัสรสเลือดอันหอมหวานของเหยื่อผู้โง่เขลา....

     

    ...หมาป่าอาทรณ์แกะ......

    เปรียบเหมือน คนเลวที่สวมหน้ากากคนดี...

     

    .....ผมก็เหมือนกัน......

     

    .

    .

    .

     

    ไม่สิ

     

    .

    .

    ผมนี้แหละคือหมาป่าห่มหนังแกะ...

    .

    .

    .

     

     

     

     

     ราตรีคืบคลานปกคลุมและย้อมผืนนภาให้เป็นสีดำสนิทร่างของชายหนุ่มนอนนิ่งเสียงลมหายใจยังคงปกติข้างๆร่างนั้นก็มีเงาดำขนาดเท่าคนนั่งมองดวงตาสีเพลิงเปล่งประกายในราตรีจ้องร่างของชายหนุ่มร่างบางไว้

     

    “อือ~

     เหมือนรู้ว่าถูกจ้อง.... เบสเลยค่อยๆปรือตาขึ้นดวงตาสีวอลนัทยังพร่าเลือนจากอาการง่วงกระพริบตาสองสามทีก็เห็นเอกมองตน แม้จะมืดเขาก็เหมือนเห็นรอยยิ้มจางๆจากร่างสูง เบสยันตัวขึ้นนั่งบนเตียงนิ้วเรียวขยี้ตาอีกข้างที่ยังปรืออยู่

     

    “เบส.....”

     

     เอกเอ่ยเสียงเศร้าเบสหันมองเพื่อนตนทันทีเมื่อสายตาปรับระดับกลับภาพเบื้องหน้าได้แล้ว เขาเห็นเอกใส่ชุดดำทั้งตัวชุดเหมือนไว้อาลัยให้คนตายใช่....มันเป็นสูทดำของทางการเบสอ้าปากจะเอ่ยถามว่าแต่งตัวแบบนี้ทำไม?

     

    “ฟ้า......เขาตายแล้วน่ะ”

     

     เปรียบเหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางใจดวงตาน้ำตาลอ่อนเบิกกว้างและสั่นเครือ ร่างกายชาไร้ความรู้สึกยกเว้นใบหน้าที่ร้อนผ่าวโดยเฉพาะดวงตาสองข้างของเขา “ไม่จริง......ทำไมละเอก ทำไมน้องฟ้าถึงตายละ!!”คราวนี้ร่างบางขยับเข้าหาเอกกระชากคอเสื้อไม่สนว่าปกเสื้อมันจะยับยู่ยี้จากการขยำรึไม่

     

    “ฟ้า....ฟ้าเขาโดนฆ่า ข่าวมันออกตอนเย็นวันนี้....”

     

    “แล้วทำไมมึงไม่บอกกู มึงให้กูหลับต่อทำไม!!

     เอกเม้มปากเหมือนไม่อยากจะพูด “ก็กู.....ไม่อยากเห็นน้ำตามึงนี้....กูไม่อยากให้มึงร้องไห้”เอกยกมือเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเนียนใบหน้ายามเศร้ามันทำให้เขาปวดใจยิ่งหนัก..........

     

     

    .......ซะเมื่อไรละ...

     

     เอกยกยิ้มอยู่ในใจซ่อนความรู้สึกรื่นรมย์ไว้ในก้นบึ้ง ตอนนี้เขากำลังเล่นละครอยู่เป็นฉากๆหนึ่งที่เขาจะแสดงการเสียน้ำตาแกล้งตีหน้าเศร้าเมื่อรู้ว่าแฟนเก่าเพื่อนตาย อย่างเขาน่ะเหรอจะไปสงสารยัยนั้น หึ ไม่มีทางซะหรอก

     

     เอกยังคงสวมบทคนนึกเห็นใจต่อไป เบสก้มหน้าซบอกแกร่งร้องไห้ฟูมฟายอีกรอบในอ้อมแขนที่อบอุ่น เอกคลี่ยิ้มชั่วเพราะเบสไม่อาจเห็นสีหน้าเขาในตอนนี้เอกจึงถอดหน้ากากออกได้ในใจยังคงรู้สึกยินดีในการตายของฟ้า หากถามว่าทำไมเขาถึงไม่คิดจะเหลียวแลหล่อนนั้นก็เพราะ....

     

     

    เขาเกลียดเธอตั้งแต่แรกเห็น..

     

    ฟ้าเป็นนักศึกษาสาวที่ภายนอกดูใสซื่อแต่ภายในเธอมันเลวสุดๆ ฟ้ามักคบผู้ชายไปทั่วหลอกให้รักแล้วทิ้งไปบางคนต้องหมดตัวก็เพื่อเธอที่โปรยมารยาร้อยเลห์ของผู้หญิง ผู้ชายบางคนก็ฆ่าตัวตายจากการที่เธอหักอกไป เอกจึงไม่สนใจเธอซักเท่าไหร่เพราะคิดว่าเธอคงไม่กล้าที่จะมาก้าวก่ายเขาและก็ถูกเพราะฟ้าไม่มาก้าวก่ายเขาเลยแต่มันกลับเป็น เบส เพื่อนสนิทที่ห่วงปานหวงของเขาเอกเลยยิ่งทวีความเกียดมากขึ้นอีกแต่ก็แสดงอาการอะไรมากไม่ได้เพราะเขาเห็นเบสดูชอบฟ้าเอกเลยลองดูสิว่าจะคบกับเบสได้นานแค่ไหน

     

    ผลปรากฏเป็นที่แน่ชัด

    ว่าพวกเขาคบกันไปไม่ถึง4เดือน

     

    แต่สิ่งที่ทำให้เอกเกลียดจนสั่งให้ออยไปฆ่ายัยนั้นเป็นเพราะเธอทำให้เบสร้องไห้ ที่ผ่านมาคนอื่นที่โดนฟ้าบอกเลิกต่อให้ร้องไห้จนน้ำในตัวแห้งเหือดหรือน้ำตาจะเป็นเลือดเขาก็ไม่(ค่อย)คิดที่จะสนใจเท่าไหร่ถ้าห่วงก็แค่ห่วงแบบทางการ แต่เบสแตกต่างกันออกไปเมื่อตอนที่ร่างบางวิ่งเข้ามากอดระบายหยาดน้ำตาของเขาออกมาก็ทำให้เอกใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวและยิ่งทำให้ไฟในอกร้อนจนแผดเผาจากความแค้นมากยิ่งขึ้นเมื่อรู้ตัวตนเหตุของเรื่อง

     

     

     ถ้าไม่เพราะได้ยิน....

     

    เอกยังจำคำพูดแต่ละคำของฟ้าได้ดีเพราะแต่ละคำของเธอแฝงไปด้วยความสะใจเป็นที่สุด....ตอนนั้น เอกปลีกตัวขอไปส่งงานก่อนกินข้าวกับเบส ห้องที่เอกเดินผ่านนั้นคือห้องที่ฟ้าอยู่เธอกรีดเสียงหัวเราะดังไปทั่วห้องเรียนโดยมีเพื่อนสาวอีกสองคนที่หัวเราะสมทบตาเอกจึงหยุดเดินแล้วเข้าไปใกล้พอที่จะได้ยินโดยที่ไม่มีใครเห็นเขาได้

     

    “แล้วไอหัวชมพูนั้นเป็นยังไงบ้างละ”

     

    “เป็นไงนะเหรอ หึ! ก็คงพร่ำเพ้อเหมือนคนอื่นๆนั้นแหละ ไม่แน่น่ะอาจจะโดดตึกตายแล้วก็ได้ ฮ่าๆๆๆ”

     

      ดวงตาสีแดงลุกเป็นเพลิงหรี่ลงอย่างน่ากลัวเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเยาะตอนท้ายมือหยาบกำแน่นแน่นจนเล็บจิกลงที่เนื้อนวลเขียวช้ำไปหมดแต่ก็ไม่เท่าความเจ็บในหัวใจได้เลย เอกเหลือบหางตาลอบมองฟ้าในใบหน้าปีศาจร้าย

     

     ริมฝีปากเรียวคลี่ยิ้มอ่อนๆแต่มันกลับแฝงแววฆาตกรไว้เอกพึ่งคิดได้ว่ามีร้านเปิดใหม่อยู่ซึ่งร้านนั้นเขาเป็นคนถือหุ้นเสียส่วนใหญ่เอกเดินห่างจากห้องนั้นไปซัก9-10เมตรแล้วล้วงสมารท์โฟนสีดำลวดลายแดงออกมาจากกระเป๋ากางเกงเลื่อนเบอร์ที่ตนรู้จักดีเพราะเขาก็เป็นคนในวงการนักแคสเกมเหมือนกัน

     

    เชฟ...

     

    แกร๊ก

     

    ว่าไง?

     

    “ผมมีเรื่องอยากจะให้พี่ช่วยหน่อยน่ะ”

     

    ว่ามาดิ

     

    “พี่จำร้านอาหารเปิดใหม่ในมอผมได้ป่ะ ร้านที่พี่เป็นหุ้นส่วนด้วยนะ”

     

    เออๆจำได้ ทำไม คราวนี้อยากฆ่าใครอีกละ

    เอกยิ้มอย่างพอใจเมื่อรุ่นพี่ของเขาถามคำถามได้ตรงประเด็น ได้ยินไม่ผิดหรอกเพราะร้านที่เชฟเขาเปิดให้สามารถให้บริการลูกค้าได้ทุกอย่างตามที่ลูกค้าสั่ง รวมทั้งการฆ่าคนด้วยและแน่นอนเอกใช้บริการร้านนี้ไม่ต่ำกว่า3ครั้งแต่เป็นที่อื่นน่ะ รายการคนตายที่เอกสั่งนั้นคือคนที่ทำให้เบสต้องเจ็บปวดต้องทำให้เบสเสียน้ำตาและแต่ละรายไม่ได้อยู่ในสภาพดีกันทั้งสิ้นเพราะเขาบอกให้ตกแต่ง อาหาร(ศพ)ให้สวยงามซักนิด

     

    “รู้ใจผมจริงน่ะพี่เชฟ เอาเป็นว่าผมอยากจ้างให้พนักงานฆ่าคนๆหนึ่งให้หน่อยน่ะครับ”

     

    ชื่ออะไรละ?

     

    “ฟ้าครับ คนที่ผมเล่าให้ฟังว่าเธอร้ายกาจแค่ไหนน่ะ”

     

    อ๋อ ยัยนั้นน่ะเหรอได้เดี๋ยวพี่ส่งเจมส์ไปให้

     

    “ไม่เอาเจมส์”

     

    อ้าว แกก็น่าจะรู้ฝีมือการฆ่าของเจมส์ดีขนาดไหนน่ะ อย่าง3รายการแรกยังจัดการศพปิดข่าวไม่ให้ออกสื่อได้เก่งขนาดนั้นเลยนะ

     

    “ไม่ได้ๆ ไอไก่มันมาโวยวายกับผมรอบหนึ่ง แล้วว่าผมไม่ให้เจมส์มีเวลาจู๋จี๋กับมันเลย”

     

    เออ ก็จริงแล้วนายอยากให้ใครเป็นคนฆ่าละ

     

    “อืม.....”

    เอกทำท่าครุ่นคิดจะเอาระดับใครมาสังหารโหดยัยฟ้าดี ก่อนเอกจะปิ๊งความคิดใหม่ได้ ไม่สิ...ต้องเรียกว่าแผนการถึงจะถูกริมฝีปากที่ย่นเมื่อครู่ก็กลับมาคลี่รอยโค้งปานแสยะอีกครั้ง

     

    “คิว.....”

     

    นายจะบ้ารึไงอิคคิวไม่ได้อยู่ในพนักงานร้านพี่น่ะ

     

    “ก็จริงของพี่ คิวมันไม่ได้อยู่ในรายชื่อพนักงาน”

    เอกยังคงยิ้มปานแสยะอยู่อย่างนั้น ก่อนจะส่งเสียงหัวเราะในลำคอทำให้ผู้ถือสายเหงื่อตกเม็ดใหญ่เพราะเขารู้นิสัยคนโทรมาดีเห็นเป็นนักแคสเกมส์ชื่อดังอารมณ์ดีกวนเอาโล่ตีนทองอย่างนี้ก็มีด้านมืดที่ซ่อนเล้นความน่ากลัวไว้เหมือนกัน

     

     ยกตัวอย่างจากรายการที่สั่งแล้ว แต่ละศพมีสภาพที่เรียกได้ว่าไม่ควรเข้าไปมองจริงๆเพราะแต่ละอย่างที่เอกบอกให้ตกแต่งอะไรบ้างก็ทำเอาเจมส์ขนลุกซู่ถึงเขาจะรับคำสั่งให้ฆ่าตามรายการที่สั่งมาหลายครั้งแต่ก็อดเสียวหลังไม่ได้จากรายการและยิ่งตกใจเมื่อคนสั่งก็คือเอก Heart rocker นักแคสเกมผู้โด่งดังแล้วละก็...

     “แต่ผมไม่ได้บอกให้คิวไปฆ่าเธอเสียหน่อย”

    เชฟถอนหายใจอยู่ในอกดวงตาสีอ่อนหลุบต่ำอย่างเหนื่อยใจ แล้วก็ต้องกลับมาตาค้างอีกครั้ง

     

    “ผมแค่ต้องการให้คิวมาเป็น ตัวล่อต่างหาก เพราะงานนี้ผมอยากให้ออยมันลงมือมากกว่า”

    เชฟได้ยินแล้วใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ดีที่สติยังดึงมันไว้ทัน

    นายลืมไปแล้วรึไงว่าออยมันพึ่งเข้ามาเป็นพนักงานไม่นาน

     

    “ผมไม่ลืมหรอกครับ แต่ถ้ายังฆ่าเหยื่อโดยไม่มีข่าวมันก็น่าสงสัยแย่สิ?”

     

    ‘?’

    เชฟนึกแปลกใจก็ในเมื่ออยู่วงการอย่างนี้เรื่องฆ่าฟันเป็นเรื่องปกติก็จริงแต่ก็ไม่เคยเผยแผ่ไปโลกภายนอกเลยซักครั้ง แล้วนี้ปลายสายเขาต้องการอะไรกันแน่?

    “ก็แค่ปล่อยข่าวไปว่ามีฆาตรกรแหกคุกออกมาเดินป้วนเปี้ยนแถวมหาลัยของผมเจอฟ้าแล้วจับฆ่าอะไรทำนองเนี้ย”

     

    จะเอางั้นเหรอ?

     ผู้อาวุโสกว่าถามเพื่อความแน่ใจก็ในเมื่อเอกเป็นพวกชอบอยากรู้อยากลองอะไรที่เป็นกฎก็ชอบแหกไปหมดรวมทั้งเรื่องนี้ เพราะในวงการนักฆ่าบัญญัติไว้เลยว่า ห้ามให้เรื่องภายในรั่วไหลได้

    เอกยิ้มเยาะเมื่อรู้ได้ว่าเชฟไม่ห้ามตนก่อนจะกลับมาตีหน้าเหี้ยมเอ่ยคำตอบด้วยเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความคับแค้น

     

    “แน่นอนครับ”

     

    .

    .

    .

    .


    .

    แล้วก็เป็นไปตามแผนที่เอกบอก เชฟใช้เส้นสายเล็กน้อยบอกให้อาจารย์ปล่อยนักศึกษาชั้นปี1ที่คิวเรียนออกมาช่วยงานร้านอาหารต่างๆเพื่อฝึกไว้ใช้งานยามตกอับ(?) แล้วเชฟยังบอกให้อาจารย์ปล่อยพวกรุ่นพี่ปี3ออกมาเดินเผ่นผานได้อีก ออยที่ไม่รับรู้อะไรก็เดินไปช่วยคิวด้วยความรู้สึกบางอย่าง? เอกที่จับจุดรับรู้ก็คลี่ยิ้มในใจเมื่อมันเป็นไปตามแผนของเขา

     

     แล้วละครฉากหนี่งก็เกิดขึ้นเบสทำตาเป็นประกายเมื่อเห็นร้านใหม่ก็อ้อนเขาให้ไปนั่งทานด้วยกัน เอกแสร้งทำหน้าเหนื่อยใจในความขี้อ้อน(ที่บางครั้งจะออกมาสักครั้งนึง)ของเบสพวกเขาเลือกนั่งโต๊ะคู่ก่อนที่ออยบริกรหนุ่มสวมชุดเด็กเสริฟเดินมารับออเดอร์

     

     แล้วหลังจากที่สั่งรายการอาหารเสร็จเบสก็ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างไม่รับรู้ต่อสิ่งใดกินเพราะหิวหรือกินเพื่อจะลืมความเจ็บปวด? เอกคิดอย่างขำๆดวงตาสีเพลิงฉายแววครุนคิดว่ารายการที่สั่งไปจะออกมาเป็นอย่างไร

     

     แล้วผลก็ออกมาเป็นดังคาด…….

     

    เอกสวมหน้ากากผู้เห็นใจอีกครั้งเมื่อเขาดันให้เบสออกจากอกกว้างของเขา แม้ในใจอยากให้มันเป็นอย่างนี้อีกสักพักก็เถอะ “ไปเบสไปอาบน้ำกูเตรียมชุดให้แล้ว” เบสหยักหน้าตอบรับเบาๆดวงตากลมเผยความอ้างว้างในแววตาสีน้ำตาลอ่อนก่อนจะลากสังขารหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป

     

    Rrrrrrrrrrrrrrrr~

    เอกละสายตาจากประตูห้องน้ำเป็นเครื่องสมารท์โฟนของเขา เหลือบมองเจ้าของเบอร์ก่อนจะบรรจงกดรับสายแนบหูกรอกเสียงขบขันของเขาลงไป

     

    5โลคร้าบบบ”

     

    นี้ไม่ใช่เวลามาเล่นน่ะพี่เอก!!!!’

     เสียงที่แผดออกมาทางลำโพงขนาด3เซนแต่ความดังไม่เล็กเท่าตาเห็นแล้วยิ่งเสียงที่คนตะโกนกลับมาอีก เอกเอาสมารท์โฟนห่างจากหูชั่วครู่ความมึนยังคงขาดหายๆจากเสียง

     

     “เบาๆหน่อยเบสเค้าอยู่ในห้อง ผมยังไม่อยากให้เค้าได้ยินอะไรที่ไม่สมควร”

     เอกยังได้ยินเสียงต่อว่าที่แผดมาจากเครื่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเท่าฝ่ามือ ก็กรอกเสียงเย็นในฉบับนักการเมืองจอมเผด็จการ เจ้าของสายสะดุ้งตัวเฮือกเล็กน้อยเพราะคนที่คุยในตอนแรกเปลี่ยนอารมณ์ได้ไวจนน่ากลัว

     

    สมกับเป็นผู้ครองตำแหน่งนักฆ่าอันดับ1…..

    เจมส์นักฆ่าหนึ่งในท็อป10ของวงการโลกมืดคิดในใจอย่างหวาดหวั่นดวงตาสีน้ำเงินไหววูบเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเสียงเย็นยะเยือกจากร่างสูง

     

    “แล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

     

    “อะ...เออ ก็ข่าวตอนเย็นนั้นแหละ ตำรวจเขาพบของกลางที่สาวไปถึงพี่ออยได้แล้วน่ะครับ”

    เจมส์เอ่ยเสียงตะกุกตะกักเพราะยังกลัวเรื่องอารมณ์ของเอกอยู่ ร่างสูงเงียบไปสักพักทวนคำพูดเรื่องของกลางที่ร่างบางบอก ยังเหลือของกลางอีกงั้นรึ? เราก็ส่งคนไปเก็บกวาดของกลางกับผู้เห็นเหตุการณ์แล้วนี้??? เอกแสดงความสับสนอยู่ครู่ก่อนจะกรอกเสียงเดิมของเขาให้รุ่นน้องฟัง

     

    “เดี๋ยวพี่จะให้คนไปจัดการให้”

     

    ไม่ได้หรอกพี่ เพราะคนของพี่ถูกตำรวจจับไปได้หมดแล้ว


    “ว่าไงน่ะ!?”

     

    คนของผมเขาบอกมาเมื่อ5นาทีก่อนหน้านี้นะครับ

    เจมส์กรอกเสียงพลางมองกลุ่มชุลมุนด้านล่าง ตอนนี้เจมส์อยู่บนด่านฟ้าของตึกสูงใจกลางเมืองมองเห็นฝูงชนและตำรวจที่ออกมาจากตึกพร้อมชายชุดดำกลุ่มหนึ่ง

     

    “บ้าน่า คนกลุ่มนั้นพี่ฝึกมาอย่างดีเลยน่ะจะถูกจับได้ยังไงกัน”

     เอกเอ่ยเสียงสั่นเพราะมันไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าลูกน้องที่เขาฝึกเป็นอย่างดีจะถูกตำรวจในเมืองนี้จับตัวได้เพราะต่อให้เอาFBIหรือCIA มาลูกน้องของเขาก็สามารถหนีออกมาได้อย่างสบายๆ

     

    ผมมองเห็นสภาพลูกน้องพี่แล้ว เหมือนเขาพึ่งโดนกับดักมาแถมยังเป็นแบบที่พวกนักฆ่าใช้กันซะด้วยสิ

     

    “? หมายความว่ายังไง”

    เอกสะกิดคำว่า นักฆ่าในประโยคบอกเล่าของเจมส์ แปลกต่อให้เป็นกับดักของนักฆ่าพวกลูกน้องก็น่าจะเอาตัวรอดมาได้นี้ต่อให้มาในสภาพไม่ครบ32ก็เถอะ

     

    “มันเป็นแบบไหนละฮึ?”

     

    ระ เรื่องนี้ผมก็บอกไม่ได้เหมือนกันละพี่ เพราะตอนที่ผมให้ลูกน้องไปสำรวจเศษซากกับดักที่วางก็ถูกทำลายจากระเบิดแล้วไม่เหลือแม้แต่ผง ผมว่ามันต้องเป็นกับดักขั้นสูงที่มีแต่คนระดับพี่เท่านั้นถึงจะสร้างได้

     

    กับดักขั้นสูงเหรอ.....

     

     เอกทวนคำหากเป็นอย่างที่เจมส์พูดจริงคนในระดับเขาก็มีเพียงหยิบมือแล้วคนสร้างกับดักจำพวกนั้นก็มีแค่พี่เชฟเอ็ม ไก่ และยังเรวี่อีก คนถือสายเงียบจากการใช้ความคิดโดยไม่รู้เลยว่ามีคนเดินเข้ามาใกล้ๆ

     

    “เอก”

     

    !!!

     เจ้าของชื่อตากระตุกวูบหันไปมองคนเรียกอย่างตกใจเบสชะงักมือที่กำลังยื่นไปแตะบ่านั้นไว้ริมฝีปากคลี่ยิ้มอ่อนๆเป็นเชิงว่า มึงเป็นอะไร? เอกลอบถอนหายใจแล้วปรับเปลี่ยนโหมดธรรมดาๆนั้นคือไม่เงียบเกินไปและไม่เฮฮาเกินไป

     

    “ใครโทรมาเหรอ?”

     

    “เจมส์น่ะ มันโทรมาคุยเรื่องงานศพของน้องฟ้า”

     

     เจ้าของชื่อเอ่ยเสียงใสๆตอบรับเมื่อเอกพาแถ เบสพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าร่างสูงพูดคุยในโทรศัพท์สองสามประโยคแล้วกดวางสายนั่งรอเบสที่กำลังใส่เสื้อผ้าอยู่บนเตียง

     

     ดวงตาคมจับจ้องเรือนร่างทุกตารางนิ้วไม่ว่าจะแผ่นหลังเนียนเอวที่คอดแม้จะไม่เล็กเหมือนผู้หญิงก็ดูดีไปอีกแบบขาเรียวยาวขาวนวลตา เอกมองเบสตั้งแต่หัวจรดเท้าใช้สายตาดุจหมาป่ามองเบสอย่างกระหายในบางอย่าง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้.....เขาจะยังถอดอาทรณ์ตอนนี้ไม่ได้

     

     เมื่อเบสใส่ชุดเสร็จก็หันกลับมาเอกคลี่ยิ้มรับร่างบางเดินไปหยิบของใช้จำเป็น เอกเองก็ลุกขึ้นเดินไปหยิบกุญแจห้องกับกุญแจรถมอไซต์ตัวเอง ทั้งสองก้าวออกจากบ้านและไปที่จอดรถมอไซต์ของเอก แต่ก่อนที่ร่างบางจะได้ซ้อนท้ายเขาก็เอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง

     

    “มึงเคยได้ยินเรื่องหมาป่าห่มหนังแกะมั้ย?”

     

    “?”

     

    “เรื่องราวของหมาป่าที่สวมหนังแกะหลอกฝูงแกะให้ตายใจพอเผลอก็จับเหยื่อกิน....”

     เอกมองสีหน้าเบสไม่ค่อยชัดเพราะตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแต่เขาก็แปรน้ำเสียงที่ออกเศร้าๆนั้นได้ไม่ยากเอกรู้เรื่องนี้ดีเพราะเขาก็เป็นแบบนั้นสวมอาทรณ์แกะและหลอกผู้คนไปทั่วสวมหน้ากากคนดีปกปิดความรู้สึกกระหายในตัวคนตรงหน้า ใช่.....แกะตัวนั้นก็คือเบสเองแหละ

     

    “ไปเถอะเบส”

     หัวเล็กโคลงรับเบาๆก่อนจะนั่งซ้อนท้ายมอไซต์คันแดงนั่น

     

     เรื่องราวมันไม่ได้จบแค่นั้นหรอกน่ะ...

     

     ใบหน้าเนียนของเบสค่อยๆประดับรอยยิ้มปีศาจดวงตาสีวอลนัทเปล่งประกายพราว...

     

     เพราะถึงแม้หมาป่าจะสวมหนังแกะปกปิดร่างตัวเองยังไงก็ไม่สามารถปิดหางของตนได้พอแกะเห็นก็รู้ได้ทันทีว่านั้นคือหมาป่าและยิ่งเขาเป็นแกะที่หมาป่าเล็งไว้เบสจะไม่ยอมให้หมาป่าหลอกเขาหรือปั่นหัวแน่ 

     แต่เบสก็ต้องตกใจเมื่อผู้เคราะห์ร้ายทั้งสามเสียชีวิตในสภาพที่ไม่สวยหรูเท่าไหร่ แม้จะไม่รู้ว่าทำได้ยังไงแต่ก็รู้ได้ชัดว่าเป็นฝีมือของเอก

     

    เพราะเพื่อนที่เขาแอบรักแม้จะขี้อ้อนเป็นเด็กๆ แต่นิสัยด้านในเป็นคนเลือกแล้วทำจริงในเมื่อครั้งหนึ่งเขาเคยสัญญาว่าจะฆ่าคนที่ทำให้เบสต้องร้องไห้....

    .

    .

    เบสยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจในผลงานชิ้นนี้ของเอกด้วย เขาก็แค่แกล้งบีบน้ำตาตีหน้าเศร้าเหมือนกับพ่อหมาป่าที่สวมหน้ากากคนเห็นใจให้เขา แขนเรียวบางเกาะเอวแกร่งแน่นขึ้นจากแรงอาชาที่เร่งเครื่องไปตามพื้นถนนสีดำนี้ใบหน้าหวานโคลงซบกับแผ่นหลังแกร่งนั้น

     

    .

    .

    .

    .

     

     

    ไหนขอดูหน่อยเถอะคุณหมาป่า ว่าคุณจะหลอกแกะน้อยอย่างผมได้นานเท่าไหร่กัน

     

    _______________________________Fin_________________________


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×