คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่6(100%)
By:มังกรวิญญาณ
CH 6 ต้องอยู่ด้วยกัน(เสดชั้นแน่หิมะน้อยเอ่ย..วะฮะฮะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ=[]=+<<ไรเตอร์รั่ว)
...........................................................................................................................................................
ทำไมรู้สึกใจเต้นเวลาเค้าทำเสียงเป็นห่วง เวลาเค้าสัมผัสและยามที่เค้าหันมามองเราด้วยน่ะ.....
............
.................................................................................................................................................
ในมี่สุดค่ำคืนที่โหดร้ายก็ผ่านพ้นแสงอาทิตย์เริ่มสาดส่องกระทบวัตถุบนผิวโลกเสียงนกกระพือปีกหาอาหารพืชชนิดต่างๆก็เริ่มจะสร้างอาหารในยามเช้าและผู้คนก็เริ่มตื่นขึ้น..
“เห๊ยๆๆๆ! รอกันด้วยสิเฟ้ย!!”บาคุระกำลังเร่งสปีดความเร็วในการบิน100/8กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพื่อให้ตามการบินของอาเทม “ข้าไม่มีเวลาแล้ว!!”อาเทมกล่าวก่อนจะเร่งสปีดเร็วมากกว่าเดิม
.....................................................
“ยูกิ!”
อาเทมเลื่อนประตูเสียงดังปั้งวิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปในห้องโดยมีบาคุระเดินกุมดั้งจมูกเดินเข้ามา “ไอฟาย..ท่าจะหยุดก็บอกบ้างสิว่ะ! แมร่งเอาซะกรูชนกับเสาไฟฟ้าเลยน่ะ”บาคุระนึกถึงตอนที่อาเทมหยุดกระทันหันแล้วเบรกไม่ทันชนเข้ากับเสาไฟฟ้าข้างหน้า..เต็ม เต็ม!
“อืออ...”ร่างบางครางน้อยๆเปลือกตาเริ่มขยับต้านความหนักอึ้งของเปลือกตา “ยูกิ!..ยูกิ!เจ้าไม่เป็นไรใช่มั้ย”อาเทมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าหวาน ร่างบางที่เห็นใบหน้าของอาเทมก็ผลักพี่แกเต็มแรง “นะ...นายเป็นใครกัน..?”อาเทมแทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน
“แล้ว...ที่นี้ที่ไหน..ชั้นมาอยู่ที่นี้ได้ไงกัน...?”ร่างบางกุมหัวทั้งสองข้างอาเทมยื่นมือหมายจะเข้าไปช่วยแต่ผลมันกลับกันมือบางป้องปัดมือของอาเทมเต็มแรงสายตาที่มองมาของร่างบางเหมือนมองเป็นคนอื่นเป็น
“ยูกิ...นี้เจ้า.....”มือหนาหมายจะเข้าไปจับแก้ม ยูกิหลับตาแน่นหลบมือนั้นเนื้อตัวสั่นกลัวน้อยๆ อาเทมแทบจะใจสลายในใจรู้สึกปวดราวอย่างบอกไม่ถูกมันทั้งเจ็บและทรมาน... “อย่างที่ท่านเห็น”เสียงหวานดังมาจากด้านหลังของพวกเค้าอาเทมและบาคะรุหันไปมองเสียงหวานเธอคือผู้หญิงที่เจอกับอาเทมในร่างของมังกร
“.....เค้าสูญเสียความทรงจำของท่านไป”เธอเดินเข้าไปข้างๆยูกิ ยูกิลงจากเตียงแล้วไปหลบหลังเธฮอย่างรวดเร็ว “แล้วทำไมมนุษย์นั้นถึงตัวสั่นละ”บาคุระเดินเข้าไปยืนข้างอาเทม
“.....คงเป็นเพราะเค้ากำลังกลัว..พวกท่านก็แค่อย่าไปแสดงอาการอะไรมากก็เท่านั้นแหละ”
“แล้วจะทำยังไงต่อเรื่องเจ้านี้นะ”อาเทมชูเกล็ดสีฟ้าครามให้เธอดูบาคุระมองอย่างฉงน แกไปเจอเบาะแสที่ไหนฟ่ะเนี่ย...บาคุระคิด “.....เราว่าพักเรื่องนั้นไว้ก่อนเพราเบาะแสแค่นั้นคงยังหาพวกนั้นไม่เจอ”เธอหันไปหายูกิ “เราต้องทำให้ความทรงจำของเค้ากลับมาให้เร็วที่สุด”มือเรียวขาวลูบแก้มเบาๆยูกิเข้าใกล้ฝ่ามือราวกับลูกแมว
อาเทมมองเธอด้วยสายตาออกอิจฉานิดๆเพราะเธอได้เข้าใกล้ยูกิมากกว่าตนซะอีก เธอยกมือสองข้างประกบแก้มทั้งสองของยูกิยูกิพยักหน้าช้าอย่างเข้าใจ “ยูกินี้อาเทม..และก็บาคุระ”ยูกิไล่ตามองที่เธอบอกอาเทมมองเข้าสบตากับยูกิแววตาคมสีแดงของเค้ามองลึกลงไปยังแววตาสีม่วงที่สูญเสียบางสิ่งไป
“นี้เจ้าน่ะ ข้าอยากให้ยูกิอยู่กับข้าสักพักใหญ่ๆหน่อย”อาเทมเดินเข้าไปอุ้มยูกิขึ้นเธอมองใบหน้าของยูกิที่ขึ้นสีแดงจัดๆเธออมยิ้มขึ้น “ได้สิแล้วแต่ท่านจะประสงค์”เมื่อเธอพูดคำสุภาพจบอาเทมก็กระโดดออกนอกหน้าต่างไปพร้อมกับยูกิแล้วกางปีกสีแดงใหญ่บินขึ้นท้องฟ้าไปเธอมองภาพนั้นก่อนจะก้าวเดินออกนอกห้องแต่หากไม่ติดว่าบาคุระเรียก
“เธอเป็นใครกันแน่...ทำไมเธอถึงรู้เรื่องของเจ้ามนุษย์นั้นดีซะเหลือเกินละ”
“เราว่า......ท่านอย่ารู้เลยดีกว่าน่ะ”
เธอหันมายิ้มหวานตาสีเพลิงคมกริบของเธอมองมาอย่างมีความหมายบางอย่างแฝงอยู่ก่อนจะเดินออกไปปล่อยให้บาคุระยืนเกาหัวแก๊กๆอยู่ในห้องคนเดียว
.........................................
“นี้นาย!ปล่อยชั้นลงไปน่ะ!!!”
ยูกิดิ้นไปมาพร้อมตวาดสั่งให้คนที่อุ้มปล่อยตนลงแต่ไร้วี่แววโต้กลับของร่างสูง อาเทมยังคงเฉยบินไปตามทางบ้านของยูกิ “ยูกิ.......”เสียงทุ่มของร่างสูงเอ่ยแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบแต่ก็ไม่พ้นที่ยูกิจะได้ยินร่างบางหยุดดิ้นโดยอัตโนมัติพร้อมมองหน้าของอาเทมอย่างเผลอตัว
“เจ้าจำข้าไม่ได้จริงๆรึ.....”แววตาสีทับทิมเซมองไปทางอื่น ไม่อยากแสดงความอ่อนแอทางจิตใจ....ให้คนตรงหน้าเห็น.... “แล้วชั้นจะจำได้ยังไง เพราะชั้นไม่รู้จักกับนายเลยน่ะ”ยูกิขมวดคิ้วเข้าหากัน “.....งั้นเหรอ..”หลังจากนั้นต่างฝ่ายก็เงียบ ไม่มีคำพูดใดๆเล็ดลอดออกมาจากปากของทั้งสองฝ่าย
มุมหนึ่งมีคนมองไปยังทั้งสองคนที่อยู่เหนือน่านฟ้าเงาดำทำท่าเหมือนง่างบางสิ่งที่อยู่ในมือเล็งไปยังแถวปีกของสีแดงเมื่อแน่ใจแล้วว่าเหยื่ออยู่ในพิกัศก็ปล่อยมืออีกด้านเสียงแหวกอากาศของวัตถุเรียวปลายแหลมพุ่งไปหาอาเทม
“!!!”อาเทมได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศพุ่งมาทางตนก็หลบได้อย่างฉิวเฉียดยูกิที่อยู่ในอ้อมแขนก็ตกใจเมื่อเห็นลูกธนูสีเงินพุ่งผ่านไป
“ชิ!พลาดเป้างั้นรึ”เสียงแตกหนุ่มสถบเบาๆก่อนจะกลับตัววิ่งหนีแต่ไม่พ้นที่อาเทมจะเห็นร่างสูงพุ่งไปยังด่านฟ้าที่มีคนท่าทางน่าสงสัยวิ่งไปเมื่อเท้าเหยียบลงพื้นอาเทมก็จัดแจงวางตัวยูกิอย่างรวดเร็วก่อนจะมองเพ่งไปยังประตูที่เงาดำจะหนีไป
“บ้าน่า!ก็จำได้ว่าไม่ได้ล็อกนี้”เงาดำร้องเสียงหลงมือทั้งสองพยายามกระชากบานประตูเมื่อไม่สำเร็จเงาดำก็หันไปแผลงศรใส่อาเทมร่างสูงหลบได้แต่ทิศทางที่ร่างสูงหลบลูกศรก็พุ่งตรงไปยังยูกิพริบตานั่นเองแสงสีแดงที่สร้อยคอของยูกิก็เปล่งขึ้น
“เหวอออ!!...”ยูกิยกแขนกันไว้เมื่อไม่รู้สึกเจ็บหรือแสบใดๆแขนบางก็ค่อยลดลงแล้วตาสีม่วงกลมก็ต้องเบิกกว้างเมื่อภาพตรงหน้ามันเป็นภาพที่ไม่น่าจะมีจริงอยู่บนโลก
...มังกรสีแดงขนาดใหญ่กำลังใช้ลำตัวที่ยาวเหยื้อดของมันป้องกันศรธนูไว้ฟันกรามคมของมังกรสีแดงกัดกระทบกันจนได้ยินเสียงขู่เล็ดลอดออกมาเป็นระยะ
“เอ๋ะ........”มือบางยกจับแก้มนวลที่มีน้ำตาไหลลงมายูกิไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองในตอนนี้เสียเหลือเกิน ทั้งที่เค้าไม่รู้จักกับสิ่งมีชีวิตตรงหน้าแต่ทำไมความรู้สึกดีใจปนโหยหามันถึงทะลักออกมาจากหัวใจของเค้า...
“เห๊อะ ใช่จริงๆด้วยสิน่ะ”เงาดำพูดพลางมองร่างขนาดใหญ่ของมังกรสีแดงใบหน้าที่ไม่รู้จะตื่นกลัวหรือดีใจกันแน่ “ไว้วันหลังเถอะ!ชั้นจะมาล่าหัวแกแล้วชั้นจะได้รวยเละก็คราวนี้ละ!!”เงาดำปาอาวุธลับใส่ก่อนจะจากไปกับเสียงหัวเราะที่บ้าคลั่ง
อาเทมสถบกรามหน่อยๆก่อนจะกลับคืนร่างเป็นมนุษย์ร่างสูงตรงไปยังยูกิที่นั่งร้องไห้อยู่ “เจ็บตรงไหนรึเปล่า”ถามอย่างเป็นห่วงเป็นใยแล้วสำรวจตามร่างกายยูกิมองการกระทำของอาเทมทุกประการทุกในใจตอนนี้ของยูกิรู้สึกดีเมื่อเวลาที่เค้าเป็นห่วงตนเอง
“ไม่...ไม่เป็นไรหรอกว่าแต่นายเถอะเป็นอะไรรึเปล่า”ยูกิมองสำรวจรอบตัวของอาเทม “ชั้นไม่เป็นไรหรอกแล้วนายร้องไห้ทำไมละ”นิ้วเรียวยกเกลี่ยน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนั้นเบาๆ “ชั้นไม่ได้ร้องซะหน่อยฝุ่นเข้าตาต่างหาก”ใบหน้าหวานเชิดหนีอย่างเขิลอายหัวใจรู้สึกเต้นแรงเวลาที่เค้าสัมผัสตัว
“เอาเถอะ ไปกันได้แล้วละ”รอยยิ้มคลี่น้อยๆก่อนจะอุ้มตัวยูกิอีกครั้งร่างบางถูกอุ้มโดยไม่ทันตั้งตัวแขนเรียวผวากอดคอร่างสูงโดยไม่ได้ตั้งใจ “ดะ....เด๋วก่อนเซ่!ชั้นมีเรื่องจะถามนายน่ะ!!”ถามไปเขิลไป
“อะไรรึ?”ร่างสูงเลิกคิ้วเล็กน้อย “นายนะ เป็นตัวอะไรกันแน่บินก็ได้แปลงเป็นสัตว์ประหลาดก็ได้”อาเทมกลั่นขำนิดๆเมื่อยูกิไม่รู้จักสัตว์เทพมายาในนิยาย
“ชั้น....เป็นมังกรเป็นเทพมังกรที่ปกครองที่แห่งนี้นะ”ปากบางอ้าค้างอาเทมแทบจะหลุดขำกับปฏิกิริยาของคนตรงหน้า “มังกร!มังกรที่อยู่ในเทพนิยายนั่นนะน่ะมันเป็นเรื่องแต่งไม่ใช่เหรอ”ร่างบางไม่เชื่อ “ก็เป็นเรื่องจริงไปแล้วนี้ทำไงได้ละ”อาเทมเซหน้าไปทางอื่นแต่เหตุผลที่หันไปทางอื่นคงไม่พ้นที่จะขำหรอก
“เอาเถอะยังไงก็ไปบ้านได้แล้วป่านนี้แม่ของเจ้าคงเป็นห่วงแล้วละ”พูดเสร็จก็กางปีกบินขึ้นอีกครั้ง อาเทมบินตรงไปยังบ้านด้วยความเร็วที่คงที่จนในที่สุดก็ถึงบ้านร่างสูงลงตรงประตูหน้าร้านปีกสีแดงหายไปก่อนที่อาเทมจะจับมือยูกิเปิดประตูร้านเข้าไปซึ่งๆหน้า(นี้แกยังไม่รู้จักแม่กับปู่ของยูกิไม่ใช่เร๊อะ!=[]=//ไรเตอร์)
“ไม่อยู่หรอกหรือเนี่ย”อาเทมกวาดสายตามองไปทั่วบ้านไม่พบวี่แววสิ่งมีชีวิตใดๆนอกจากพวกเค้า ยูกิเดินสำรวจไปรอบบ้านมองทุกซอกทุกมุมหาคนที่เคยอยู่ที่นี้ ก่อนจะไปสะดุดเห็นบางอย่างที่โต๊ะทานข้าว
“นี้อะไรนะ...”ยูกิหยิบซองจดหมายที่วางไว้อยู่บนโต๊ะจ่าหน้าซองถึงตัวเค้าเอง ‘แม่มาวางจดหมายถึงเราไว้งั้นเหรอ’เพื่อให้หายข้อข้องใจมือบางก็เปิดซองจดหมายแล้วนำเนื้อจดหมายมาอ่านสักพักนึง...
“เป็นอะไรไปเจ้านะ”อาเทมที่เดินสำรวจหลังบ้านแต่ไม่พบใครก็เข้ามาในบ้านเห็นยูกิถือแผ่นกระดาษไว้ใบนึง “อะไรงั้นรึ”อาเทมชะเงอมองเนื้อจดหมายเมื่ออ่านจบรอยยิ้มก็กระตุกทันที
ถึงยูกิลูกรัก
พอดีแม่ถูกรางวัลใหญ่ได้ไปเที่ยวรอบโลกแต่ตั๋วมันดันมีแค่สองใบปู่ลูกเค้าอยากไปด้วยเพราะอยากไปเห็นเกมในประเทศต่างๆแม่เลยให้ลูกอยู่คนเดียวเพราะเห็นว่าลูกโตพอที่จะอยู่คนเดียวได้แม่วางเงินไว้ในลิ้นชักน่ะลูกจะได้ไปซื้อของทานเองส่วนอาหารเช้าแม่ทำไว้ให้แล้วน่ะ
อ๊ะ!สุดท้ายแล้วแม่จะกลับมาหลัง1เดือนน่ะจ๊ะ^^
จากแม่
“มะ.....หมายความว่าไงกัน....?????”ยูกิถือเนื้อจดหมายสั่นๆในใจนึกอยากจะฆ่าคนให้รางวัลตั๋ว แล้วชั้นจะทำยังไงละเนี้ย!ต้องอยู่คนเดียวตั้งเดือนนึงให้โจวโนะอุจิมาค้างที่นี้ดีมั้ยน่ะ...
“งั้นข้าอยู่เป็นเพื่อนเจ้ามั้ยละ”ยูกิหันไปมองอาเทมอย่างรวดเร็วอาเทมคลี่ยิ้มให้ “ระ...เรื่องอะไรละ!ทำไมชั้นต้องให้นายมาอยู่ชั้นอยู่ที่นี้คนเดียวได้หรอก”ปากแข็งไปแต่ในใจคงอยากให้อยู่ “เหรอ.....แน่ใจน่ะ”อาเทมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆอย่างนึกสนุกยูกิหันหน้าไปทางอื่น “นะ...แน่ใจสิ!”เสียงหวานเอ่ยตะกุกตะกัก
“ไม่กลัวผีงั้นเหรอ”
“ผะ...ผีมีที่ไหนเหล้า!!!O[]O”
“มีสิข้าเคยมาตรงนี้อยู่.....ที่ตรงเนี้ยมีวิญญาณอาฆาตสิงอยู่ในบ้านของเจ้า...”อาเทมพูดโดยใช้น้ำเสียงหลอนๆปากของยูกิสั่นน้อยๆด้วยความกลัว “ชะ...ชั้นให้นายมาอยู่ด้วยก็ได้!!”เพราะความกลัวผี!ยูกิเลยตอบตกลงอาเทมยิ้มอย่างพอใจ
“งั้นไว้ตอนเย็นข้าจะมาเจ้าก็อยู่ที่นี้ไปก่อนละกัน”อาเทมกล่าวลาก่อนจะเดินออกไปปล่อยให้ยูกิกังวลอยู่กับเรื่องที่อาเทมเล่า
................................
“หึหึ...ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”ร่างสูงที่กลั่นหัวเราะนานก็ปลดปล่อยออกมายิ่งตอนที่เห็นใบหน้าตอนที่ตนเล่าว่าวิญญาณสิงอยู่ก็ยิ่งคำจนท้องแข็งน้ำตานี้เล็ดออกมาให้เห็นบาคุระที่บินอยู่ข้างๆก็มองเพื่อนอย่างประหลาดจู่ๆก็หัวเราะออกมาซะงั้น
“เจ้าขำอะไรกันนักกันหนาห่ะ”
“ขำเมียข้านะสิถึงจะเสียความทรงจำแต่ดันมากลัวไอวิญญาณที่ข้าแต่งขึ้นนะ”พูดแล้วก็ขำต่อ
“เฮ้อ...เอาเข้าไปแล้วเจ้าจะเอายังไงต่อเรื่องความทรงจำของมนุษย์นั้นละ”
“หืม ปล่อยไว้ซักพักละกัน”อาเทมหยุดขำทันทีที่บาคุระโผงเรื่องนี้ออกมา “ทำไมฟ่ะเจ้าไม่เศร้าเหรอที่เมียตัวเองเสียความทรงจำนะ”บาคุระขมวดคิ้ว “เศร้าสิ....”อาเทมเซตามองไปทางอื่น “แต่ถึงยังไงก็คงต้องปล่อยให้ยูกิหาความทรงจำด้วยตัวเองละ”เนตรทับทิมมองท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย...
..แต่ถึงยังไงข้าก็จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเจ้าได้อีก....
.....................................................................ล่วงเลยมาถึงยามเย็น.........................
'มาซะทีสิ!!!> <'
ตอนนี้ผมกำลังคลุมผ้าห่มโผล่เหลือเเต่หัวเพราะยังกลัวเรื่องที่อาเทมเล่าไว้ 'บ้านเรามีผีจริงๆเหรอ'คิดเเล้วสันหลังผมก็หนาวยะเยือกผมรีบผบเข้าไปในผ้าห่มทันทีรู้สึกเหมือนน้ำตาจะคลอเบ้า ก็ทำไงได้ละ มันกลัวผีอ่า!!!!!
//เเก๊ก//
นั้น!!!รึว่าอาเทมจะมาเเล้ว!+o+
ด้วยความดีใจ(ที่มีคนมาอยู่เป็นเพื่อน)ผมรีบลุกขึ้นวิ่งออกจากเตียงอย่างรวดเร็วไวเสียจนเจอร์รี่ยังยอมเเพ้(นอกเรื่องละ) ผมวิ่งลงมาจากบันไดก่อนจะวิ่งไปที่ประตูเเต่ปรากฎว่า
ว่างเปล่า....ไร้ผู้คน.....
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! [เห้ย!=[]=''//ไรเตอร์ยังตกใจ]
"เดี๋ยวน่ะ....ในเมื่อไม่มีใครมา....."ผมว่าพลางกรอกตาไปรอบๆ "เเล้วเมื่อกี้.....เสียงอะไร....?"พริบตานั่นสันหลังผมลุกวาบๆ เเม่เจ้าโว้ย จะไปที่ไหนก็ไปเลยน่ะคร้าบไม่ต้องมาหลอกมาหลอนผมก็ได้TT[]TT
//หมับ//
"กรี๊ด! ปล่อยผมไปเถอะครับอย่ามาหลอกมาหลอนผมเลยน้าาาาา~!!!!>[]<"
"คิก....คิก"
"เอ๋?"ผมที่ตอนนี้น้ำตาปริ่มเเทบจะไหลออกมาหันไปมองเสียงของคนที่หัวเราะคิกคิก อาเทม...!!!!!
"อะไรกัน เจ้านี้ขี้กลัวจริงๆ"เสียงในขณะที่เค้าพูดเหมือนกลั้นขำไว้ หน่อย~!เเกล้งผมงั้นเหรอ กลัวจนฉี่จะราดเเล้วเนี้ย!!!
"อะ...อาเทมนายนี้มัน!!"ผมกัดฟันกรอดอาเทมยิ้มเยาะผมเบาๆหน้าตาเหมือนจะสะใจมากกกกกกก!!!=_=****
"ฮึ่ม...!"ผมกัดริมฝีปากล่างอย่างนึกโกรธเค้าเลิกหยุดขำก่อนจะเดินมาคว้าตัวผมขึ้น จะเป็นยังไงต่อผมก็โวยสิครับ"นี้นาย! จะทำอะไรนะปล่อยน่ะโว้ยยยยยย!!!"ผมดิ้นไปมาในขณะที่เค้าคลี่ยิ้มบางๆให้จนผมเเทบจะตกภวังค์ไป"ข้าก็พาเจ้าไปทานอาหารนะสิ"ไม่ว่าเปล่า เค้าก็เดินออกจากบ้านโดยมีผมที่โดนอุ้มอยู่ในอ้อมเเขน
"ทานข้าว เเต่ชั้นยังไม่ได้เอาเงินมาเลยน่ะ"หรือว่าอาเทมจะเลี้ยง"ไม่เป็นไรข้าเลี้ยงเอง"เป็นไปตามคาด เสดชั้นละ ฮ่าๆชั้นจะกินให้นายกระเป๋าเเฟ้บเเน่ฮ่าๆๆๆๆๆๆ+[]+[ดูเเผนชั่วของมันยังงั้ยยังไงก็ไม่พ้นเรื่องกิัน- -=3<<ไรท์]
"อ๋อ บอกไว้ก่อนเลยว่าข้าเอาเงินมาเยอะไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีเงินทานข้าวน่ะ"อ้าว หมดกันเเผนการของชั้นเค้ามีการหันมายิ้มเหมือนรู้ด้วยว่าผมคิดอะไรอยู่เเล้ว......
..........................
ตอนนี้เป็นเวลาใกล้มืดแสงไฟที่ประดับตามทางเริ่มทยอยกันเปิดผู้คนเริ่มสัญจรกันกลับบ้านแต่คนที่ทำงานภาคกลางคืนก็ออกมากันให้ว่อน ร้านอาหารต่างๆก็เริ่มจะมีลูกค้าเยอะแยอะเต็มร้าน
“วิวในเมืองตอนกลางคืนก็สวยดีเนาะ”ยูกิพูดโดยสายตายังไม่ละจากวิวในเมืองที่เค้ามองจากมุมสูงโดยมีอาเทมเป็นคนอุ้มกำลังบินกินลมเล็กน้อย
“แต่วิวแบบเนี้ย คงสวยไม่เท่านายหรอก”ยูกิหันกลับไปมองอาเทมพร้อมใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีก่อนจะโวยดังๆ”สะ...สวยเสออะไรกันละ!!”ร่างสูงหัวเราะชอบใจในปฎิกิริยาของคนในอ้อมแขนของตนจนอดคิดไม่ได้เลยว่าท่าหากความทรงจำของคนในอ้อมแขนไม่กลับมาจะเป็นยังไงต่อไป
“เทม...อาเทม”คนที่ถูกเรียกชื่อได้สติแล้วหันไปมองยูกิที่ทำหน้าคล้ายๆจะเป็นห่วง”นายเป็นอะไรรึเปล่า”ไร้สิ่งคำตอบแต่กลับให้มาเพียงรอยยิ้มคลี่บางๆให้ ก่อนที่อาเทมจะร่อนลงที่หน้าร้านขายอาหารแห่งหนึ่ง(พี่แกชั่งไม่กลัวว่าใครจะเห็นเสียเหลือเกิ๊น)
//กริ๊ง//
“ยินดีต้อนรับค่า!!^^”
พอพวกเค้าเข้าร้านก็ได้ยินเสียงพนักงานต้อนรับสาวสวยมาทักทายอาเทมพายูกิไปนั่งที่โต๊ะติดหน้าต่างโต๊ะสุดท้ายในร้าน “วันนี้มีเมนูพิเศษน่ะค้า สำหรับคนที่มาเป็นคู่รักนะคะ”พอได้ยินอย่างนี้ยูกิก็อดคิดไม่ได้ว่าพนักงานสาวที่นี้(จิต)ปกติรึเปล่าพวกเค้ามาแค่สองคนแถมชายทั้งคู่ ก็ต้องเป็นเพื่อนกันสิไม่ก็พี่น้องอะไรทำนองนี้นะ[ไม่แน่หรอกน่ะก็เรื่องนี้มันYaoiนี้]
“งั้นผมเอาอาหารชุดนี้นะครับ”ยูกิชี้ภาพอาหารชุดที่อยู่ในสมุดเมนูพนักงานสาวยิ้มรับแล้วเขียนจดบนสมุดโน๊ตของเธอก่อนจะหันไปมองอาเทมที่เหม่อมองภาพวิวผ่านกระจก “อาเทม..นายจะเอาอะไรเหรอ”ยูกิขานชื่อเรียกอีกครั้งอาเทมหันมาเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะตอบพนักงานสาวว่าไม่เอาอะไรเมื่อได้คำตอบครบแล้วพนักงานสาวก็เดินไป
“................”บรรยากาศเริ่มเงียบกริบ(เฉพาะโต๊ะที่อาเทมกับยูกินั่ง)
‘อะไรกันเนี้ย เงียบตลอดเลยเราทำอะไรผิดรึไงกัน’ยูกิบ่นในใจแค่มานั่งสองคนก็ชักเริ่มจะอึดอัดเพราะไม่มีใครจะเปิดบทสนทนากันเลย
“นี้ยูกิ”
“หะ...หา”ยูกิแทบจะรับคำไม่ทันเมื่อจู่ๆคนตรงหน้าเค้าเรียกชื่อ อาเทมหันมาสบตาด้วยสีหน้าจริงจังอีกครั้งจริงจังจนยูกิที่มองเห็นแววตาเริ่มจะหวาดหวั่น อาเทมยื่นหน้าเข้ามาในระดับกลางเพราะมีโต๊ะคั่นไว้
“เจ้านะ......”แววตาเริ่มอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดอาเทมยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกแทบจะลุกขึ้นโต๊ะ ยูกิเริ่มหวั่นในการกระทำของคนตรงหน้าใบหน้าหวานเริ่มจะขึ้นสีชมพูอ่อนๆอาเทมเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ใกล้จนลมหายใจของตนกรัทบบนใบหน้าหวานเบาๆแต่มันก็มากพอที่จะทำให้ยูกิรู้สึกร้อมรุ่มในตัว
“อะ....อาเทม นะ....นายจะทำอะไรกันนะ”ยูกิเริ่มจะวอกแวกพยายามดันไหล่ให้คนตรงหน้าถอยห่างออกแต่ไม่เป็นผลคนตรงหน้ากลับถาโถมเข้ามาริมฝีปากประกบเม้นเข้าใส่ริมฝีปากบางดวงตากลมโตเบิกโพลงตกใจแทบจะเป็นลมเสียอาเทมถอนจูบออกมาสักครู่ก่อนจะประกบจูบอีกครั้งแต่คราวนี้เค้าสอดลิ้มเข้ามากวาดความหวานราวกับน้ำผึ้ง
“อืม..อืมมมม...”ลิ้มเรียวเกี่ยวตวัดหยอกล้อกันในปากจนเสียงของร่างบางครางต่ำอยู่ในลำคอโชคดีที่โต๊ะพวกเค้าอยู่ในสุดทำให้ผู้คนที่อยู่ในร้านไม่ทันสังเกตคนด้านนอกก็หาใช่จะสนการรุกของอาเทมเริ่มทวีคูณความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนยูกิเริ่มร้องครางในลำคอดังเพราะเริ่มจะขาดอากาศหายใจอาเทมเลยต้องถอนริมฝีปากออกอย่างนึกเสียดายในความหวาน
//หมับ//
จังหวะที่ถอนริมฝีปากออกมือเรียวก็ฟาดลงหมายจะใส่ใบหน้าที่หล่อคมแต่ร่างสูงกลับคว้าไว้ได้ แววตาของอาเทมจ้องมองยูกิที่มีท่าทีโกรธแค้นพลางหอบเอาอากาศเข้าปอด
“นายทำบ้าอะไรของนายนะ!”เสียงหวานกล่าวอย่างนึกโกรธเพราะการกระทำเมื่อตะกี้ “ไม่ได้ผลสินะ......”เสียงนุ่มเอ่ยอย่างแผ่วเบาเหมือนกระซิบให้ตนเอง “เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ”ยูกิที่เหมือนจะได้ยินสิ่งที่ร่างสูงพูดแต่มันฟังไม่ค่อยชัด
“เปล่า...ลืมเรื่องเมื่อกี้ไปเถอะ”
ว่าจบอาเทมก็หันไปสนใจวิวต่อปล่อยให้ยูกินั่งสงสัยปนโกรธนิดในโลกของตน
‘ให้ลืมเรื่องเมื่อกี้เหรอจะบ้ารึไง!!!มาจูบคนอื่นต่อหน้าสาธารณะชนแล้วให้ลืมเหรอ ให้ตายสินายคนนี้!!!’ยูกิคิดอย่างนึกเคืองในใจ‘แต่ทำไมความรู้สึกเราตอนที่เค้าจูบถึงดีอย่างบอกไม่ถูกน่ะ...คิดแล้วก็ยังไม่เข้าใจซักเท่าไร ‘หรือว่าเราชอบเค้าน่ะ’แล้วจู่ๆความคิดตื้นๆของยูกิก็เกิดขึ้นล่อซะคนคิดหน้าขึ้นสีแดงจัดจนจะร้อนอาเทมหันมามองก็นึกแปลก
“เจ้าเป็นอะไรไป หน้าแดงเชียว”ยูกิสะดุ้งตัวเล็กน้อย “ใคร ใครหน้าแดงมิทราบ!!!”ยูกิตวาดเสียงใสใส่ อาเทมยกยิ้มแสยะเล็กน้อย “รึว่าที่เมื่อกี้ข้าจูบเจ้าแล้วยังไม่พอใจ หึไม่เห็นต้องอายเลยนี้บอกตรงๆข้าก็ให้ได้น่ะ”ไม่ว่าปล่าวพลางเลียริมฝีปากอย่างนึกแกล้งยูกิที่เห็นอาเทมก็ขนลุกไปทั่วร่าง
“ไอ..ไอบ้า โรคจิตชั้นไม่คุยกับนายแล้ว!!!”ยูกิลุกเดินออกจากโต๊ะไปแต่คงหนีไม่พ้นจะไปห้องน้ำอาเทมหัวเราะคิกคักใหญ่ในความเขินอายของยูกิ “หึ.....แต่ยังไงก็ขอแกล้งให้สมใจเสียก่อนดีกว่า”อาเทมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในความคิดที่(ดัน)บังเกิด
//ตัดไปทางนั้น//
“ให้ตายสิ!คนอะไรบ้าชะมัด!!”ร่างบางสาวเท้าจ้ำๆอย่างนึกเคืองและอายในการกระทำแต่ละอย่างของร่างสูง แต่มันก็อดคิดไม่ได้ที่เรื่องเมื่อกี้ตนรู้สึดยังไง ‘มันเกี่ยวอะไรกับความทรงจำที่เค้าบอกเรารึเปล่าน่ะ’ยูกิอดนึกไปถึงเรื่องที่หญิงสาวบอกว่าความทรงจำของส่วนหนึ่งของตนหายไป
“โอ๊ย!” เพราะร่างบางมัวแต่เหม่อคิดทำให้ตนไปได้ชนเข้ากับใครบางคนยูกิเงยหน้าขึ้นมองคนที่ชนว่าจะขอโทดพอดีกับที่เค้าได้ยินเสียงคนที่ชนพูด “เห้ย!แกนะกล้าดียังไงมาชนชั้นห๊า!!!”ร่างของวัยรุ่นหนุ่มที่หน้าตาก็ถือว่าพอใช้ได้ร้องเสียงดังยังกับว่าใครดันไปเตะก้นพี่แก
“ขะ....ขอโทดน่ะครับ เป็นอะไรรึเปล่า”ร่างบางพูดเสียงแผ่วเพราะกลัวก็หน้าตาตอนนี้อย่างกับมาเฟียเนี้ยน่ะ “เป็นสิว่ะ ก็แกมา.......”วัยรุ่นหนุ่มหันไปเหมือนจะต่อว่าแต่เมื่อเห็นใบหน้าที่สวยเกินห้ามใจ(?)ก็อ้าปากค้างยูกิเอียงคอน้อยๆอย่างนึกงง
“อ๋อ ไม่เป็นไรครับ เออว่าแต่คุณเจ็บตรงไหนรึเปล่า”แล้วยูกิก็ต้องอึ้งกิมจิลิงแดรกกะปิได้หลายกระป๋องเพราะจากการใช้เสียง(ที่สะเออะดัดจริตให้เสียงหล่อ)กับลักษณะท่าทาง(ที่เมื่อกี้ยังกับนักเลง)เป็นคนละคน “เออ ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับถ้าอย่างงั้นผมขอตัวก่อนนะ”ยูกิขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะสายตาแปลกๆจากคนตรงหน้าก่อนจะตัดบทชิ่งเดินไป
“หึหึ เจอเหยื่อดีๆแล้ว”
รีดเดอร์ทุกท่านโปรดเข้าใจเนื่องด้วยการเปิดเรียนเทอมสองที่ท่านอาจารย์ทั้งหลายสั่งการบ้านพอที่จะไปแข่งชิงถ้วยสั่งการบ้านให้นักเรียนระดับประเทศยังได้(ชั้นว่าระดับโลกเลยละ- -//เพื่อนไรท์เตอร์)แถมเพราะเหตุไรท์เตอร์ได้เดินเข้าไปในบริเวณที่มีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสูงทำให้สมองด้านนิยายเกิดขัดข้องหรือพูดง่ายๆชิวๆว่าสมองตันนั้นเอง!!^O^[มันน่าภูมิใจมั้ยเนี้ย- -]
ความคิดเห็น