ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic[AtemxYugi]_Dragon of red_

    ลำดับตอนที่ #10 : บทที่6(100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 345
      4
      19 ธ.ค. 56

    Fanfic_Dragon of Red

     

    By:มังกรวิญญาณ

     

    CH 6 ต้องอยู่ด้วยกัน(เสดชั้นแน่หิมะน้อยเอ่ย..วะฮะฮะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ=[]=+<<ไรเตอร์รั่ว)

    ...........................................................................................................................................................

    ทำไมรู้สึกใจเต้นเวลาเค้าทำเสียงเป็นห่วง เวลาเค้าสัมผัสและยามที่เค้าหันมามองเราด้วยน่ะ.....

    ............

    .................................................................................................................................................

     

     

     

     

    ในมี่สุดค่ำคืนที่โหดร้ายก็ผ่านพ้นแสงอาทิตย์เริ่มสาดส่องกระทบวัตถุบนผิวโลกเสียงนกกระพือปีกหาอาหารพืชชนิดต่างๆก็เริ่มจะสร้างอาหารในยามเช้าและผู้คนก็เริ่มตื่นขึ้น..

     

    เห๊ยๆๆๆ! รอกันด้วยสิเฟ้ย!!”บาคุระกำลังเร่งสปีดความเร็วในการบิน100/8กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพื่อให้ตามการบินของอาเทม ข้าไม่มีเวลาแล้ว!!”อาเทมกล่าวก่อนจะเร่งสปีดเร็วมากกว่าเดิม

     

    .....................................................

     

    ยูกิ!”

    อาเทมเลื่อนประตูเสียงดังปั้งวิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปในห้องโดยมีบาคุระเดินกุมดั้งจมูกเดินเข้ามา ไอฟาย..ท่าจะหยุดก็บอกบ้างสิว่ะ! แมร่งเอาซะกรูชนกับเสาไฟฟ้าเลยน่ะบาคุระนึกถึงตอนที่อาเทมหยุดกระทันหันแล้วเบรกไม่ทันชนเข้ากับเสาไฟฟ้าข้างหน้า..เต็ม เต็ม!

     

    อืออ...ร่างบางครางน้อยๆเปลือกตาเริ่มขยับต้านความหนักอึ้งของเปลือกตา ยูกิ!..ยูกิ!เจ้าไม่เป็นไรใช่มั้ยอาเทมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าหวาน ร่างบางที่เห็นใบหน้าของอาเทมก็ผลักพี่แกเต็มแรง นะ...นายเป็นใครกัน..?อาเทมแทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน

     

    แล้ว...ที่นี้ที่ไหน..ชั้นมาอยู่ที่นี้ได้ไงกัน...?ร่างบางกุมหัวทั้งสองข้างอาเทมยื่นมือหมายจะเข้าไปช่วยแต่ผลมันกลับกันมือบางป้องปัดมือของอาเทมเต็มแรงสายตาที่มองมาของร่างบางเหมือนมองเป็นคนอื่นเป็น

     

     

    ยูกิ...นี้เจ้า.....มือหนาหมายจะเข้าไปจับแก้ม ยูกิหลับตาแน่นหลบมือนั้นเนื้อตัวสั่นกลัวน้อยๆ อาเทมแทบจะใจสลายในใจรู้สึกปวดราวอย่างบอกไม่ถูกมันทั้งเจ็บและทรมาน... อย่างที่ท่านเห็นเสียงหวานดังมาจากด้านหลังของพวกเค้าอาเทมและบาคะรุหันไปมองเสียงหวานเธอคือผู้หญิงที่เจอกับอาเทมในร่างของมังกร

     

    .....เค้าสูญเสียความทรงจำของท่านไปเธอเดินเข้าไปข้างๆยูกิ ยูกิลงจากเตียงแล้วไปหลบหลังเธฮอย่างรวดเร็ว แล้วทำไมมนุษย์นั้นถึงตัวสั่นละบาคุระเดินเข้าไปยืนข้างอาเทม

     

    .....คงเป็นเพราะเค้ากำลังกลัว..พวกท่านก็แค่อย่าไปแสดงอาการอะไรมากก็เท่านั้นแหละ

     

    แล้วจะทำยังไงต่อเรื่องเจ้านี้นะอาเทมชูเกล็ดสีฟ้าครามให้เธอดูบาคุระมองอย่างฉงน แกไปเจอเบาะแสที่ไหนฟ่ะเนี่ย...บาคุระคิด .....เราว่าพักเรื่องนั้นไว้ก่อนเพราเบาะแสแค่นั้นคงยังหาพวกนั้นไม่เจอเธอหันไปหายูกิ เราต้องทำให้ความทรงจำของเค้ากลับมาให้เร็วที่สุดมือเรียวขาวลูบแก้มเบาๆยูกิเข้าใกล้ฝ่ามือราวกับลูกแมว

     

    อาเทมมองเธอด้วยสายตาออกอิจฉานิดๆเพราะเธอได้เข้าใกล้ยูกิมากกว่าตนซะอีก เธอยกมือสองข้างประกบแก้มทั้งสองของยูกิยูกิพยักหน้าช้าอย่างเข้าใจ ยูกินี้อาเทม..และก็บาคุระยูกิไล่ตามองที่เธอบอกอาเทมมองเข้าสบตากับยูกิแววตาคมสีแดงของเค้ามองลึกลงไปยังแววตาสีม่วงที่สูญเสียบางสิ่งไป

     

    นี้เจ้าน่ะ ข้าอยากให้ยูกิอยู่กับข้าสักพักใหญ่ๆหน่อยอาเทมเดินเข้าไปอุ้มยูกิขึ้นเธอมองใบหน้าของยูกิที่ขึ้นสีแดงจัดๆเธออมยิ้มขึ้น ได้สิแล้วแต่ท่านจะประสงค์เมื่อเธอพูดคำสุภาพจบอาเทมก็กระโดดออกนอกหน้าต่างไปพร้อมกับยูกิแล้วกางปีกสีแดงใหญ่บินขึ้นท้องฟ้าไปเธอมองภาพนั้นก่อนจะก้าวเดินออกนอกห้องแต่หากไม่ติดว่าบาคุระเรียก

     

    เธอเป็นใครกันแน่...ทำไมเธอถึงรู้เรื่องของเจ้ามนุษย์นั้นดีซะเหลือเกินละ

     

    เราว่า......ท่านอย่ารู้เลยดีกว่าน่ะ

     เธอหันมายิ้มหวานตาสีเพลิงคมกริบของเธอมองมาอย่างมีความหมายบางอย่างแฝงอยู่ก่อนจะเดินออกไปปล่อยให้บาคุระยืนเกาหัวแก๊กๆอยู่ในห้องคนเดียว

     

    .........................................

     

    นี้นาย!ปล่อยชั้นลงไปน่ะ!!!”

     

     ยูกิดิ้นไปมาพร้อมตวาดสั่งให้คนที่อุ้มปล่อยตนลงแต่ไร้วี่แววโต้กลับของร่างสูง อาเทมยังคงเฉยบินไปตามทางบ้านของยูกิ ยูกิ.......เสียงทุ่มของร่างสูงเอ่ยแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบแต่ก็ไม่พ้นที่ยูกิจะได้ยินร่างบางหยุดดิ้นโดยอัตโนมัติพร้อมมองหน้าของอาเทมอย่างเผลอตัว

     

    เจ้าจำข้าไม่ได้จริงๆรึ.....แววตาสีทับทิมเซมองไปทางอื่น ไม่อยากแสดงความอ่อนแอทางจิตใจ....ให้คนตรงหน้าเห็น.... แล้วชั้นจะจำได้ยังไง เพราะชั้นไม่รู้จักกับนายเลยน่ะยูกิขมวดคิ้วเข้าหากัน .....งั้นเหรอ..หลังจากนั้นต่างฝ่ายก็เงียบ ไม่มีคำพูดใดๆเล็ดลอดออกมาจากปากของทั้งสองฝ่าย

     

    มุมหนึ่งมีคนมองไปยังทั้งสองคนที่อยู่เหนือน่านฟ้าเงาดำทำท่าเหมือนง่างบางสิ่งที่อยู่ในมือเล็งไปยังแถวปีกของสีแดงเมื่อแน่ใจแล้วว่าเหยื่ออยู่ในพิกัศก็ปล่อยมืออีกด้านเสียงแหวกอากาศของวัตถุเรียวปลายแหลมพุ่งไปหาอาเทม

     

    “!!!”อาเทมได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศพุ่งมาทางตนก็หลบได้อย่างฉิวเฉียดยูกิที่อยู่ในอ้อมแขนก็ตกใจเมื่อเห็นลูกธนูสีเงินพุ่งผ่านไป

     

    ชิ!พลาดเป้างั้นรึเสียงแตกหนุ่มสถบเบาๆก่อนจะกลับตัววิ่งหนีแต่ไม่พ้นที่อาเทมจะเห็นร่างสูงพุ่งไปยังด่านฟ้าที่มีคนท่าทางน่าสงสัยวิ่งไปเมื่อเท้าเหยียบลงพื้นอาเทมก็จัดแจงวางตัวยูกิอย่างรวดเร็วก่อนจะมองเพ่งไปยังประตูที่เงาดำจะหนีไป

     

    บ้าน่า!ก็จำได้ว่าไม่ได้ล็อกนี้เงาดำร้องเสียงหลงมือทั้งสองพยายามกระชากบานประตูเมื่อไม่สำเร็จเงาดำก็หันไปแผลงศรใส่อาเทมร่างสูงหลบได้แต่ทิศทางที่ร่างสูงหลบลูกศรก็พุ่งตรงไปยังยูกิพริบตานั่นเองแสงสีแดงที่สร้อยคอของยูกิก็เปล่งขึ้น

     

    เหวอออ!!...ยูกิยกแขนกันไว้เมื่อไม่รู้สึกเจ็บหรือแสบใดๆแขนบางก็ค่อยลดลงแล้วตาสีม่วงกลมก็ต้องเบิกกว้างเมื่อภาพตรงหน้ามันเป็นภาพที่ไม่น่าจะมีจริงอยู่บนโลก

     

    ...มังกรสีแดงขนาดใหญ่กำลังใช้ลำตัวที่ยาวเหยื้อดของมันป้องกันศรธนูไว้ฟันกรามคมของมังกรสีแดงกัดกระทบกันจนได้ยินเสียงขู่เล็ดลอดออกมาเป็นระยะ

     

    เอ๋ะ........มือบางยกจับแก้มนวลที่มีน้ำตาไหลลงมายูกิไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองในตอนนี้เสียเหลือเกิน ทั้งที่เค้าไม่รู้จักกับสิ่งมีชีวิตตรงหน้าแต่ทำไมความรู้สึกดีใจปนโหยหามันถึงทะลักออกมาจากหัวใจของเค้า...

     

    เห๊อะ ใช่จริงๆด้วยสิน่ะเงาดำพูดพลางมองร่างขนาดใหญ่ของมังกรสีแดงใบหน้าที่ไม่รู้จะตื่นกลัวหรือดีใจกันแน่ ไว้วันหลังเถอะ!ชั้นจะมาล่าหัวแกแล้วชั้นจะได้รวยเละก็คราวนี้ละ!!”เงาดำปาอาวุธลับใส่ก่อนจะจากไปกับเสียงหัวเราะที่บ้าคลั่ง

     

     อาเทมสถบกรามหน่อยๆก่อนจะกลับคืนร่างเป็นมนุษย์ร่างสูงตรงไปยังยูกิที่นั่งร้องไห้อยู่ เจ็บตรงไหนรึเปล่าถามอย่างเป็นห่วงเป็นใยแล้วสำรวจตามร่างกายยูกิมองการกระทำของอาเทมทุกประการทุกในใจตอนนี้ของยูกิรู้สึกดีเมื่อเวลาที่เค้าเป็นห่วงตนเอง

     

    ไม่...ไม่เป็นไรหรอกว่าแต่นายเถอะเป็นอะไรรึเปล่ายูกิมองสำรวจรอบตัวของอาเทม ชั้นไม่เป็นไรหรอกแล้วนายร้องไห้ทำไมละนิ้วเรียวยกเกลี่ยน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนั้นเบาๆ ชั้นไม่ได้ร้องซะหน่อยฝุ่นเข้าตาต่างหากใบหน้าหวานเชิดหนีอย่างเขิลอายหัวใจรู้สึกเต้นแรงเวลาที่เค้าสัมผัสตัว

     

    เอาเถอะ ไปกันได้แล้วละรอยยิ้มคลี่น้อยๆก่อนจะอุ้มตัวยูกิอีกครั้งร่างบางถูกอุ้มโดยไม่ทันตั้งตัวแขนเรียวผวากอดคอร่างสูงโดยไม่ได้ตั้งใจ ดะ....เด๋วก่อนเซ่!ชั้นมีเรื่องจะถามนายน่ะ!!”ถามไปเขิลไป

     

    อะไรรึ?ร่างสูงเลิกคิ้วเล็กน้อย นายนะ เป็นตัวอะไรกันแน่บินก็ได้แปลงเป็นสัตว์ประหลาดก็ได้อาเทมกลั่นขำนิดๆเมื่อยูกิไม่รู้จักสัตว์เทพมายาในนิยาย

     

    ชั้น....เป็นมังกรเป็นเทพมังกรที่ปกครองที่แห่งนี้นะปากบางอ้าค้างอาเทมแทบจะหลุดขำกับปฏิกิริยาของคนตรงหน้า มังกร!มังกรที่อยู่ในเทพนิยายนั่นนะน่ะมันเป็นเรื่องแต่งไม่ใช่เหรอร่างบางไม่เชื่อ ก็เป็นเรื่องจริงไปแล้วนี้ทำไงได้ละอาเทมเซหน้าไปทางอื่นแต่เหตุผลที่หันไปทางอื่นคงไม่พ้นที่จะขำหรอก

     

    เอาเถอะยังไงก็ไปบ้านได้แล้วป่านนี้แม่ของเจ้าคงเป็นห่วงแล้วละพูดเสร็จก็กางปีกบินขึ้นอีกครั้ง อาเทมบินตรงไปยังบ้านด้วยความเร็วที่คงที่จนในที่สุดก็ถึงบ้านร่างสูงลงตรงประตูหน้าร้านปีกสีแดงหายไปก่อนที่อาเทมจะจับมือยูกิเปิดประตูร้านเข้าไปซึ่งๆหน้า(นี้แกยังไม่รู้จักแม่กับปู่ของยูกิไม่ใช่เร๊อะ!=[]=//ไรเตอร์)

     

    ไม่อยู่หรอกหรือเนี่ยอาเทมกวาดสายตามองไปทั่วบ้านไม่พบวี่แววสิ่งมีชีวิตใดๆนอกจากพวกเค้า ยูกิเดินสำรวจไปรอบบ้านมองทุกซอกทุกมุมหาคนที่เคยอยู่ที่นี้ ก่อนจะไปสะดุดเห็นบางอย่างที่โต๊ะทานข้าว

     

     

    นี้อะไรนะ...ยูกิหยิบซองจดหมายที่วางไว้อยู่บนโต๊ะจ่าหน้าซองถึงตัวเค้าเอง แม่มาวางจดหมายถึงเราไว้งั้นเหรอเพื่อให้หายข้อข้องใจมือบางก็เปิดซองจดหมายแล้วนำเนื้อจดหมายมาอ่านสักพักนึง...

     

     

    เป็นอะไรไปเจ้านะอาเทมที่เดินสำรวจหลังบ้านแต่ไม่พบใครก็เข้ามาในบ้านเห็นยูกิถือแผ่นกระดาษไว้ใบนึง อะไรงั้นรึอาเทมชะเงอมองเนื้อจดหมายเมื่ออ่านจบรอยยิ้มก็กระตุกทันที

     

    ถึงยูกิลูกรัก

     

     พอดีแม่ถูกรางวัลใหญ่ได้ไปเที่ยวรอบโลกแต่ตั๋วมันดันมีแค่สองใบปู่ลูกเค้าอยากไปด้วยเพราะอยากไปเห็นเกมในประเทศต่างๆแม่เลยให้ลูกอยู่คนเดียวเพราะเห็นว่าลูกโตพอที่จะอยู่คนเดียวได้แม่วางเงินไว้ในลิ้นชักน่ะลูกจะได้ไปซื้อของทานเองส่วนอาหารเช้าแม่ทำไว้ให้แล้วน่ะ

                                                      อ๊ะ!สุดท้ายแล้วแม่จะกลับมาหลัง1เดือนน่ะจ๊ะ^^

                                                                                                           

     

     

                                                                                                                               จากแม่

     

    มะ.....หมายความว่าไงกัน....?????ยูกิถือเนื้อจดหมายสั่นๆในใจนึกอยากจะฆ่าคนให้รางวัลตั๋ว แล้วชั้นจะทำยังไงละเนี้ย!ต้องอยู่คนเดียวตั้งเดือนนึงให้โจวโนะอุจิมาค้างที่นี้ดีมั้ยน่ะ...

     

    งั้นข้าอยู่เป็นเพื่อนเจ้ามั้ยละยูกิหันไปมองอาเทมอย่างรวดเร็วอาเทมคลี่ยิ้มให้ ระ...เรื่องอะไรละ!ทำไมชั้นต้องให้นายมาอยู่ชั้นอยู่ที่นี้คนเดียวได้หรอกปากแข็งไปแต่ในใจคงอยากให้อยู่ เหรอ.....แน่ใจน่ะอาเทมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆอย่างนึกสนุกยูกิหันหน้าไปทางอื่น นะ...แน่ใจสิ!”เสียงหวานเอ่ยตะกุกตะกัก

    ไม่กลัวผีงั้นเหรอ

     

    ผะ...ผีมีที่ไหนเหล้า!!!O[]O”

     

    มีสิข้าเคยมาตรงนี้อยู่.....ที่ตรงเนี้ยมีวิญญาณอาฆาตสิงอยู่ในบ้านของเจ้า...อาเทมพูดโดยใช้น้ำเสียงหลอนๆปากของยูกิสั่นน้อยๆด้วยความกลัว ชะ...ชั้นให้นายมาอยู่ด้วยก็ได้!!”เพราะความกลัวผี!ยูกิเลยตอบตกลงอาเทมยิ้มอย่างพอใจ

     

    งั้นไว้ตอนเย็นข้าจะมาเจ้าก็อยู่ที่นี้ไปก่อนละกันอาเทมกล่าวลาก่อนจะเดินออกไปปล่อยให้ยูกิกังวลอยู่กับเรื่องที่อาเทมเล่า

     

    ................................

     

    หึหึ...ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆร่างสูงที่กลั่นหัวเราะนานก็ปลดปล่อยออกมายิ่งตอนที่เห็นใบหน้าตอนที่ตนเล่าว่าวิญญาณสิงอยู่ก็ยิ่งคำจนท้องแข็งน้ำตานี้เล็ดออกมาให้เห็นบาคุระที่บินอยู่ข้างๆก็มองเพื่อนอย่างประหลาดจู่ๆก็หัวเราะออกมาซะงั้น

     

    เจ้าขำอะไรกันนักกันหนาห่ะ

     

    ขำเมียข้านะสิถึงจะเสียความทรงจำแต่ดันมากลัวไอวิญญาณที่ข้าแต่งขึ้นนะพูดแล้วก็ขำต่อ

     

    เฮ้อ...เอาเข้าไปแล้วเจ้าจะเอายังไงต่อเรื่องความทรงจำของมนุษย์นั้นละ

    หืม ปล่อยไว้ซักพักละกันอาเทมหยุดขำทันทีที่บาคุระโผงเรื่องนี้ออกมา ทำไมฟ่ะเจ้าไม่เศร้าเหรอที่เมียตัวเองเสียความทรงจำนะบาคุระขมวดคิ้ว เศร้าสิ....อาเทมเซตามองไปทางอื่น แต่ถึงยังไงก็คงต้องปล่อยให้ยูกิหาความทรงจำด้วยตัวเองละเนตรทับทิมมองท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย...

     

    ..แต่ถึงยังไงข้าก็จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเจ้าได้อีก....

     

    .....................................................................ล่วงเลยมาถึงยามเย็น.........................

    'มาซะทีสิ!!!> <'
    ตอนนี้ผมกำลังคลุมผ้าห่มโผล่เหลือเเต่หัวเพราะยังกลัวเรื่องที่อาเทมเล่าไว้ 'บ้านเรามีผีจริงๆเหรอ'คิดเเล้วสันหลังผมก็หนาวยะเยือกผมรีบผบเข้าไปในผ้าห่มทันทีรู้สึกเหมือนน้ำตาจะคลอเบ้า ก็ทำไงได้ละ มันกลัวผีอ่า!!!!!

    //เเก๊ก//
    นั้น!!!รึว่าอาเทมจะมาเเล้ว!+o+
    ด้วยความดีใจ(ที่มีคนมาอยู่เป็นเพื่อน)ผมรีบลุกขึ้นวิ่งออกจากเตียงอย่างรวดเร็วไวเสียจนเจอร์รี่ยังยอมเเพ้(นอกเรื่องละ) ผมวิ่งลงมาจากบันไดก่อนจะวิ่งไปที่ประตูเเต่ปรากฎว่า

    ว่างเปล่า....ไร้ผู้คน.....

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! [เห้ย!=[]=''//ไรเตอร์ยังตกใจ]

    "เดี๋ยวน่ะ....ในเมื่อไม่มีใครมา....."ผมว่าพลางกรอกตาไปรอบๆ "เเล้วเมื่อกี้.....เสียงอะไร....?"พริบตานั่นสันหลังผมลุกวาบๆ เเม่เจ้าโว้ย จะไปที่ไหนก็ไปเลยน่ะคร้าบไม่ต้องมาหลอกมาหลอนผมก็ได้TT[]TT

    //หมับ//

    "กรี๊ด! ปล่อยผมไปเถอะครับอย่ามาหลอกมาหลอนผมเลยน้าาาาา~!!!!>[]<"


    "คิก....คิก"

     
    "เอ๋?"ผมที่ตอนนี้น้ำตาปริ่มเเทบจะไหลออกมาหันไปมองเสียงของคนที่หัวเราะคิกคิก อาเทม...!!!!!

    "อะไรกัน เจ้านี้ขี้กลัวจริงๆ"เสียงในขณะที่เค้าพูดเหมือนกลั้นขำไว้ หน่อย~!เเกล้งผมงั้นเหรอ กลัวจนฉี่จะราดเเล้วเนี้ย!!!
    "อะ...อาเทมนายนี้มัน!!"ผมกัดฟันกรอดอาเทมยิ้มเยาะผมเบาๆหน้าตาเหมือนจะสะใจมากกกกกกก!!!=_=****


    "ฮึ่ม...!"ผมกัดริมฝีปากล่างอย่างนึกโกรธเค้าเลิกหยุดขำก่อนจะเดินมาคว้าตัวผมขึ้น จะเป็นยังไงต่อผมก็โวยสิครับ"นี้นาย! จะทำอะไรนะปล่อยน่ะโว้ยยยยยย!!!"ผมดิ้นไปมาในขณะที่เค้าคลี่ยิ้มบางๆให้จนผมเเทบจะตกภวังค์ไป"ข้าก็พาเจ้าไปทานอาหารนะสิ"ไม่ว่าเปล่า เค้าก็เดินออกจากบ้านโดยมีผมที่โดนอุ้มอยู่ในอ้อมเเขน

    "ทานข้าว เเต่ชั้นยังไม่ได้เอาเงินมาเลยน่ะ"หรือว่าอาเทมจะเลี้ยง"ไม่เป็นไรข้าเลี้ยงเอง"เป็นไปตามคาด เสดชั้นละ ฮ่าๆชั้นจะกินให้นายกระเป๋าเเฟ้บเเน่ฮ่าๆๆๆๆๆๆ+[]+[ดูเเผนชั่วของมันยังงั้ยยังไงก็ไม่พ้นเรื่องกิัน- -=3<<ไรท์]

    "อ๋อ บอกไว้ก่อนเลยว่าข้าเอาเงินมาเยอะไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีเงินทานข้าวน่ะ"อ้าว หมดกันเเผนการของชั้นเค้ามีการหันมายิ้มเหมือนรู้ด้วยว่าผมคิดอะไรอยู่เเล้ว......

    ..........................
     

    ตอนนี้เป็นเวลาใกล้มืดแสงไฟที่ประดับตามทางเริ่มทยอยกันเปิดผู้คนเริ่มสัญจรกันกลับบ้านแต่คนที่ทำงานภาคกลางคืนก็ออกมากันให้ว่อน ร้านอาหารต่างๆก็เริ่มจะมีลูกค้าเยอะแยอะเต็มร้าน

    “วิวในเมืองตอนกลางคืนก็สวยดีเนาะ”ยูกิพูดโดยสายตายังไม่ละจากวิวในเมืองที่เค้ามองจากมุมสูงโดยมีอาเทมเป็นคนอุ้มกำลังบินกินลมเล็กน้อย

    “แต่วิวแบบเนี้ย คงสวยไม่เท่านายหรอก”ยูกิหันกลับไปมองอาเทมพร้อมใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีก่อนจะโวยดังๆ”สะ...สวยเสออะไรกันละ!!”ร่างสูงหัวเราะชอบใจในปฎิกิริยาของคนในอ้อมแขนของตนจนอดคิดไม่ได้เลยว่าท่าหากความทรงจำของคนในอ้อมแขนไม่กลับมาจะเป็นยังไงต่อไป

    “เทม...อาเทม”คนที่ถูกเรียกชื่อได้สติแล้วหันไปมองยูกิที่ทำหน้าคล้ายๆจะเป็นห่วง”นายเป็นอะไรรึเปล่า”ไร้สิ่งคำตอบแต่กลับให้มาเพียงรอยยิ้มคลี่บางๆให้ ก่อนที่อาเทมจะร่อนลงที่หน้าร้านขายอาหารแห่งหนึ่ง(พี่แกชั่งไม่กลัวว่าใครจะเห็นเสียเหลือเกิ๊น)

    //กริ๊ง//

    “ยินดีต้อนรับค่า!!^^

     พอพวกเค้าเข้าร้านก็ได้ยินเสียงพนักงานต้อนรับสาวสวยมาทักทายอาเทมพายูกิไปนั่งที่โต๊ะติดหน้าต่างโต๊ะสุดท้ายในร้าน “วันนี้มีเมนูพิเศษน่ะค้า สำหรับคนที่มาเป็นคู่รักนะคะ”พอได้ยินอย่างนี้ยูกิก็อดคิดไม่ได้ว่าพนักงานสาวที่นี้(จิต)ปกติรึเปล่าพวกเค้ามาแค่สองคนแถมชายทั้งคู่ ก็ต้องเป็นเพื่อนกันสิไม่ก็พี่น้องอะไรทำนองนี้นะ[ไม่แน่หรอกน่ะก็เรื่องนี้มันYaoiนี้]

    “งั้นผมเอาอาหารชุดนี้นะครับ”ยูกิชี้ภาพอาหารชุดที่อยู่ในสมุดเมนูพนักงานสาวยิ้มรับแล้วเขียนจดบนสมุดโน๊ตของเธอก่อนจะหันไปมองอาเทมที่เหม่อมองภาพวิวผ่านกระจก “อาเทม..นายจะเอาอะไรเหรอ”ยูกิขานชื่อเรียกอีกครั้งอาเทมหันมาเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะตอบพนักงานสาวว่าไม่เอาอะไรเมื่อได้คำตอบครบแล้วพนักงานสาวก็เดินไป

    “................”บรรยากาศเริ่มเงียบกริบ(เฉพาะโต๊ะที่อาเทมกับยูกินั่ง)

    อะไรกันเนี้ย เงียบตลอดเลยเราทำอะไรผิดรึไงกันยูกิบ่นในใจแค่มานั่งสองคนก็ชักเริ่มจะอึดอัดเพราะไม่มีใครจะเปิดบทสนทนากันเลย

    “นี้ยูกิ”

    “หะ...หา”ยูกิแทบจะรับคำไม่ทันเมื่อจู่ๆคนตรงหน้าเค้าเรียกชื่อ อาเทมหันมาสบตาด้วยสีหน้าจริงจังอีกครั้งจริงจังจนยูกิที่มองเห็นแววตาเริ่มจะหวาดหวั่น อาเทมยื่นหน้าเข้ามาในระดับกลางเพราะมีโต๊ะคั่นไว้

    “เจ้านะ......”แววตาเริ่มอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดอาเทมยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกแทบจะลุกขึ้นโต๊ะ ยูกิเริ่มหวั่นในการกระทำของคนตรงหน้าใบหน้าหวานเริ่มจะขึ้นสีชมพูอ่อนๆอาเทมเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ใกล้จนลมหายใจของตนกรัทบบนใบหน้าหวานเบาๆแต่มันก็มากพอที่จะทำให้ยูกิรู้สึกร้อมรุ่มในตัว

    “อะ....อาเทม นะ....นายจะทำอะไรกันนะ”ยูกิเริ่มจะวอกแวกพยายามดันไหล่ให้คนตรงหน้าถอยห่างออกแต่ไม่เป็นผลคนตรงหน้ากลับถาโถมเข้ามาริมฝีปากประกบเม้นเข้าใส่ริมฝีปากบางดวงตากลมโตเบิกโพลงตกใจแทบจะเป็นลมเสียอาเทมถอนจูบออกมาสักครู่ก่อนจะประกบจูบอีกครั้งแต่คราวนี้เค้าสอดลิ้มเข้ามากวาดความหวานราวกับน้ำผึ้ง

     

    “อืม..อืมมมม...”ลิ้มเรียวเกี่ยวตวัดหยอกล้อกันในปากจนเสียงของร่างบางครางต่ำอยู่ในลำคอโชคดีที่โต๊ะพวกเค้าอยู่ในสุดทำให้ผู้คนที่อยู่ในร้านไม่ทันสังเกตคนด้านนอกก็หาใช่จะสนการรุกของอาเทมเริ่มทวีคูณความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนยูกิเริ่มร้องครางในลำคอดังเพราะเริ่มจะขาดอากาศหายใจอาเทมเลยต้องถอนริมฝีปากออกอย่างนึกเสียดายในความหวาน

    //หมับ// 

    จังหวะที่ถอนริมฝีปากออกมือเรียวก็ฟาดลงหมายจะใส่ใบหน้าที่หล่อคมแต่ร่างสูงกลับคว้าไว้ได้ แววตาของอาเทมจ้องมองยูกิที่มีท่าทีโกรธแค้นพลางหอบเอาอากาศเข้าปอด

    “นายทำบ้าอะไรของนายนะ!”เสียงหวานกล่าวอย่างนึกโกรธเพราะการกระทำเมื่อตะกี้ “ไม่ได้ผลสินะ......”เสียงนุ่มเอ่ยอย่างแผ่วเบาเหมือนกระซิบให้ตนเอง “เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ”ยูกิที่เหมือนจะได้ยินสิ่งที่ร่างสูงพูดแต่มันฟังไม่ค่อยชัด

    “เปล่า...ลืมเรื่องเมื่อกี้ไปเถอะ”

    ว่าจบอาเทมก็หันไปสนใจวิวต่อปล่อยให้ยูกินั่งสงสัยปนโกรธนิดในโลกของตน

     ให้ลืมเรื่องเมื่อกี้เหรอจะบ้ารึไง!!!มาจูบคนอื่นต่อหน้าสาธารณะชนแล้วให้ลืมเหรอ ให้ตายสินายคนนี้!!!’ยูกิคิดอย่างนึกเคืองในใจแต่ทำไมความรู้สึกเราตอนที่เค้าจูบถึงดีอย่างบอกไม่ถูกน่ะ...คิดแล้วก็ยังไม่เข้าใจซักเท่าไร หรือว่าเราชอบเค้าน่ะแล้วจู่ๆความคิดตื้นๆของยูกิก็เกิดขึ้นล่อซะคนคิดหน้าขึ้นสีแดงจัดจนจะร้อนอาเทมหันมามองก็นึกแปลก

    “เจ้าเป็นอะไรไป หน้าแดงเชียว”ยูกิสะดุ้งตัวเล็กน้อย “ใคร ใครหน้าแดงมิทราบ!!!”ยูกิตวาดเสียงใสใส่ อาเทมยกยิ้มแสยะเล็กน้อย “รึว่าที่เมื่อกี้ข้าจูบเจ้าแล้วยังไม่พอใจ หึไม่เห็นต้องอายเลยนี้บอกตรงๆข้าก็ให้ได้น่ะ”ไม่ว่าปล่าวพลางเลียริมฝีปากอย่างนึกแกล้งยูกิที่เห็นอาเทมก็ขนลุกไปทั่วร่าง

    “ไอ..ไอบ้า โรคจิตชั้นไม่คุยกับนายแล้ว!!!”ยูกิลุกเดินออกจากโต๊ะไปแต่คงหนีไม่พ้นจะไปห้องน้ำอาเทมหัวเราะคิกคักใหญ่ในความเขินอายของยูกิ “หึ.....แต่ยังไงก็ขอแกล้งให้สมใจเสียก่อนดีกว่า”อาเทมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในความคิดที่(ดัน)บังเกิด

    //ตัดไปทางนั้น//

    “ให้ตายสิ!คนอะไรบ้าชะมัด!!”ร่างบางสาวเท้าจ้ำๆอย่างนึกเคืองและอายในการกระทำแต่ละอย่างของร่างสูง แต่มันก็อดคิดไม่ได้ที่เรื่องเมื่อกี้ตนรู้สึดยังไง มันเกี่ยวอะไรกับความทรงจำที่เค้าบอกเรารึเปล่าน่ะยูกิอดนึกไปถึงเรื่องที่หญิงสาวบอกว่าความทรงจำของส่วนหนึ่งของตนหายไป

    “โอ๊ย!” เพราะร่างบางมัวแต่เหม่อคิดทำให้ตนไปได้ชนเข้ากับใครบางคนยูกิเงยหน้าขึ้นมองคนที่ชนว่าจะขอโทดพอดีกับที่เค้าได้ยินเสียงคนที่ชนพูด “เห้ย!แกนะกล้าดียังไงมาชนชั้นห๊า!!!”ร่างของวัยรุ่นหนุ่มที่หน้าตาก็ถือว่าพอใช้ได้ร้องเสียงดังยังกับว่าใครดันไปเตะก้นพี่แก

    “ขะ....ขอโทดน่ะครับ เป็นอะไรรึเปล่า”ร่างบางพูดเสียงแผ่วเพราะกลัวก็หน้าตาตอนนี้อย่างกับมาเฟียเนี้ยน่ะ “เป็นสิว่ะ ก็แกมา.......”วัยรุ่นหนุ่มหันไปเหมือนจะต่อว่าแต่เมื่อเห็นใบหน้าที่สวยเกินห้ามใจ(?)ก็อ้าปากค้างยูกิเอียงคอน้อยๆอย่างนึกงง

    “อ๋อ ไม่เป็นไรครับ เออว่าแต่คุณเจ็บตรงไหนรึเปล่า”แล้วยูกิก็ต้องอึ้งกิมจิลิงแดรกกะปิได้หลายกระป๋องเพราะจากการใช้เสียง(ที่สะเออะดัดจริตให้เสียงหล่อ)กับลักษณะท่าทาง(ที่เมื่อกี้ยังกับนักเลง)เป็นคนละคน “เออ ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับถ้าอย่างงั้นผมขอตัวก่อนนะ”ยูกิขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะสายตาแปลกๆจากคนตรงหน้าก่อนจะตัดบทชิ่งเดินไป

     

    “หึหึ เจอเหยื่อดีๆแล้ว”

    รีดเดอร์ทุกท่านโปรดเข้าใจเนื่องด้วยการเปิดเรียนเทอมสองที่ท่านอาจารย์ทั้งหลายสั่งการบ้านพอที่จะไปแข่งชิงถ้วยสั่งการบ้านให้นักเรียนระดับประเทศยังได้(ชั้นว่าระดับโลกเลยละ- -//เพื่อนไรท์เตอร์)แถมเพราะเหตุไรท์เตอร์ได้เดินเข้าไปในบริเวณที่มีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสูงทำให้สมองด้านนิยายเกิดขัดข้องหรือพูดง่ายๆชิวๆว่าสมองตันนั้นเอง!!^O^[มันน่าภูมิใจมั้ยเนี้ย- -]

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×