ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เรื่องที่คาดไม่ถึง
ตอนที่7  เรื่องที่คาดไม่ถึง
      เรื่องที่เกิดขึ้นในตรอกไดแอกกอนเมื่อวันก่อนยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับแฮรี่แย่ลงไปอีก  ฉันรู้ว่าทั้งรอน เฮอร์ไมโอนี่ต่างพากันสงสัยที่ฉันเอาแต่เก็บตัวเงียบ แต่เพราะว่าใกล้ถึงวันเปิดเทอมทุกคนต่างพากันวุ่นวายเกี่ยวกับเรื่องวิชาใหม่ๆ และงานเตรียมตัวมากมายของพรีเฟค พวกเขาจึงไม่วุ่นวายกับฉันนัก
                          ฉันเองก็ไปขลุกอยู่ห้องเฟร็ดกับจอร์จ ซึ่งทำให้ฉันสบายใจ แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะไม่เห็นฉันเป็นหนูทดลองแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังหาวิธีที่จะได้ของเล่นใหม่ตลอดเวลา
    ฉันเองเพิ่งรู้ตอนนี้จอร์จเกิดสนใจหนังสือวิทยาศาตร์ของพวกมักเกิ้ล เขาได้มาโดยบังเอิญตอนแอบไปเที่ยวในเมืองครั้งที่แล้ว แล้วเขาก็เกิดสนใจขึ้นมาอย่างจริงๆจัง
แล้วพวกเขาต้องปิดเรื่องนี้ให้สนิท การทดลองแปลกๆเริ่มขึ้นโดยฉันมีส่วนร่วมด้วยความเต็มใจ และผลของมันก็คือห้องระเบิดไปครึ่งห้อง
ทุกคนที่อยู่ในบ้านต่างกรูขึ้นมาในห้องนอนเฟร็ดกับจอร์จ ด้วยความตกใจ แต่เมื่อพวกเราเห็นสภาพที่ขมุกขมอม ผมเผ้ายุ่งเหยิงมีกลิ่นไหม้เส้นผม ก็หัวเราะออกมา
แม่ที่เปิดประตูเข้ามาในห้องที่ข้าวของกระจุยกระจาย ทั้งหนังสือตำรากระจายเกลื่อนกลาด หม้อยาระเบิดแม่ถึงกับพูดไม่ออกนิ่งไปอยู่นานกว่าจะนึกคำด่าลูกทั้งสามให้สะใจ
“เฟร็ด! จอร์จ! เกิดอะไรขึ้นนี่?” แม่กวาดสายตามองลูกชายฝาแฝดทีละคน
“เราแค่ทดลองอะไรกันนิดหน่อยค่ะ”
ฉันตอบแทน เสยผมที่ตกลงมาปรกหน้า
หันไปมองที่ประตูเห็นรอน เฮอร์ไมโอนี่ และแฮรี่โผล่เข้ามาทุกคนเมื่อเห็นสภาพห้องแล้ว สีหน้าก็ไม่ต่างอะไรกับแม่เมื่อครู่
    “อะไรหรือจินนี่...” รอนถามขึ้นหน้าตาตื่นๆ
    “การทดลองล้มเหลวนิดหน่อยนะ” ฉันมองรอนหันไปยิ้มกับจอร์จที่ตอนนี้สีหน้าไม่ค่อยดีแล้ว    
    แม่ถลึงตามองฉัน
    “จินนี่...นี่ลูกก็เป็นไปกับพี่ๆอีกคนหรือ”
แม่บอกอย่างไม่พอใจ ฉันจึงได้แต่เงียบลง อย่างน้อยก็รู้สึกสบายใจบ้างที่ได้ทำอะไรแผลงๆลงไป ฉันคิดว่าตัวเองคงเหมือนพี่ชายทั้งสองมากขึ้นทุกที
“ทำห้องให้เหมือนเดิม...”แม่สั่ง หันไปมองทางเฟร็ดกับจอร์จลูกชายทั้งสองได้แต่สบตากัน
“ห้องพังแบบนี้จะใช้คาถากลับคืนได้ยังไง”
เฟร็ดบ่นอุบ แม่หันเหลือบมองอีกที
“ถ้าใช้คาถาไม่ได้ ก็ทำเองซิ แม่กลับมาอีกครั้งห้องต้องเหมือนเดิม”
แม่ออกคำสั่งเสียงเข้มพร้อมเดินออกไปจากห้อง
“ไม่เห็นยากเลยนี่น่าก็ใช้คาถาทำความสะอาด”
ฉันเดินไปคว้าไม้กายสิทธิ์จากเฟร็ดอย่างลืมตัว พี่ชายดูงงๆ
“จินนี่มันกลับคืนเหมือนเดิมไม่ได้หรอก..”
จอร์จร้องเตือน แต่ในใจฉันบอกว่ามันเรื่องเล็ก ฉันกำลังทำอะไร โบกไม้กายสิทธิ์ ใช่........ฉันไม่ควรทำแต่ฉันควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว
“ครูอาบัส!”
ฉันท่องคาถาออกไปอย่างมีอนุภาพที่สุด พลังความร้อนแผ่ซ่านจากทั่วตัวไหลผ่านแขนรวมไปที่มือ สู่ปลายไม้ พลังแผ่กระจายทั่วห้องเกิดเป็นแสงสีขาวเจิดจ้าชั่วครู่ก็หายไป ห้องนอนของฝาแฝดสะอาดเอี่ยม เหมือนกับไม่เคยเกิดอะไรขึ้น ไม่มีหม้อยาที่แตกกระจาย ไม่มีผ้าม่านไหม้ ไม่มีเศษกระดาษที่กราดเกลื่อน มันดูดีมากเหมือนกับห้องใหม่ๆห้องหนึ่งทีเดียว
พลังของฉันรวมกลับมาอยู่ที่นิ้วมือ พร้อมๆกับสติของฉัน ทุกคนกำลังมองฉันเป็นตาเดียว
“ก็เห็นไหม ง่ายนิดเดียวก็แค่คาถาทำความสะอาด”
มันก็คงเป็นคำพูดที่ดีที่สุดตอนนี้ ฉันยิ้มมองทุกคน รอนดูเหมือนคาดไม่ถึงมาก่อน แฮรี่ก็คงมองฉันนิ่ง
“จินนี่...ทำไม” จอร์จมองฉันอย่างไม่สบายใจ เฟร็ดจับบ่าฉันสีหน้าจริงจัง
“น้องก็รู้ว่ามันไม่ใช่ แค่คาถาทำความสะอาด..”เฟร็ดพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แต่มันยอดมาก....ว้าว...เยี่ยมที่สุดเลย ไม่นึกเลยว่าคาถาทำความสะอาดของน้องจะได้ผลเกินคาด”แล้วเปลี่ยนเป็นร่าเริงขึ้นมา หันมาทางรอน
“ชั้นบอกแล้วใช่ไหมรอน นายต้องฝึกคาถานี้บ่อยๆจะได้ไม่โดนแม่ดุเวลานายทำห้องเละ จินนี่มาช่วยเราบ่อยๆ”
รอนมองฉันอย่างไม่อยากจะเชื่อนัก หันไปสบตากับเพื่อนทั้งสอง แล้วออกไปจากห้อง
เฟร็ดรอจนทั้งสามออกไปหมดจึงหันมาสบตากับจอร์จ สีหน้าเงียบขรึมลง
    “ว่าไงจินนี่....ตอนนี้มีอะไรจะบอกเราได้หรือยัง”
จอร์จมองหน้าฉันนั่งลงบนเตียง
    “ก็....ห้องพี่เป็นที่ฝึกวิชาได้ดีนี่นา...”
    “เธอรู้ว่านั่นไม่ใช่...คำตอบ...ถ้าจะให้ถามกันตรงๆก็ได้นะ...”เฟร็ดเดินมาโอบบ่าฉัน ดึงไปนั่งติดกับจอร์จที่นั่งอยู่บนเตียงแล้วนั่งทิ้งตัวประกบ มือยังโอบบ่าฉันอยู่ หรือเรียกว่ากดบ่าฉันไม่ให้หนีไปไหนก็ได้
    “เธอคิดว่าเราเป็นพี่ชายที่ดีไหม...”เฟร็ดถาม ฉันพยักหน้าจ่อยๆ
“แล้วดีสนิทเหมือนเพอซี่ไหม...”  ฉันนิ่งถอนหายใจคิดหนัก
“ไม่ตอบ...แสดงว่าเรายังไม่ใช่พี่น้องที่ดีพอซิ” เฟร็ดพูดแต่น้ำเสียงไม่ได้เคร่งเครียดนัก
    “โถ..พี่อย่าถามอย่างนี้ซิค่ะ” แทบอย่างร้องไห้ออกมา
    “ก็ได้ งั้นเปลี่ยนคำถามใหม่ เธอคิดว่า รอน เฮอร์มี่ แล้วแฮรี่จะเชื่อที่พี่พูดเมื่อกี้ไหม” ฉันถอนหายใจอีกส่ายศรีษะ
    “ใช่ พวกเขาไม่เชื่อพี่หรอกนะ..... พี่ด้วย  เพียงแต่ไม่มีใครอยากพูดอะไรเท่านั้น  พวกเขามาถามพี่ว่าเธอทำอะไรอยู่”
    ฉันมองหน้าพี่ชายอดแปลกใจไม่ได้
    “พี่ขอเดาว่า แฮรี่คงรู้เรื่องอะไรบางอย่างเรื่องเธอกับเพอซี่ เธอถึงหลบหน้าเขาแบบนี้ ใช่ไหม”
    “ใช่....”
    “น้องติดต่อกับเพอซี่อยู่..?...”
    ฉันพยักหน้า
    “เขาสอนคาถากับน้อง....”
    ฉันไม่ตอบ
    “ทำไม....เพอซี่กำลังทำอะไรอยู่กันแน่”เฟร็ดขยับตัว ยืนขึ้น
ฉันมองหน้าพี่ชายงงๆ เขายิ้ม
    “ยังไงเราก็เป็นน้องชายเขานะ ไอ้หมอนั่นมันแค่บ้าหลักการ หยิ่งยะโส
ก็แค่นั้น แต่...”
    “เราเป็นวีสลีย์นะ....เราเป็นเลือดบริสุทธิ์พอๆกับพวกมัลฟอย...”
คำพูดของฉันทำให้พี่ชายทั้งสองถึงกับเงียบสนิท ฉันมองทั้งสองที่ยังอยู่ในอาการเหมือนถูกฟ้าผ่า
    “ทำไมเราจะเชื่อในเรี่องเลือดบริสุทธิ์ไม่ได้” ฉันพูดเสียงเย็น
    “น้อง....จินนี่” น้ำเสียงของจอร์จแทบหายตามกับลำคอ
    “พื่คิดว่าใครกันที่สามารถเปิดประตูห้องแห่งความลับได้ ถ้าไม่ใช่ทายาทสิริธอรีน สายเลือดที่บริสุทธิ์”
    “แต่ตอนนั้นเธอถูกทอม ควบคุมจิตใจ”
    “นั้นมันก็แค่คำพูดของทอม...กับแฮรี่ แล้วลองถามหนูซิว่าได้ถูกสะกดจริงไหม
ได้ร่วมมือกับเค้าหรือเปล่า....”
เสียงโครม พร้อมๆกับที่ประตูห้องพังเข้ามา รอนมองดูฉันเหมือนคนไม่เคยรู้จักมาก่อน เฮอร์ไมโอนี่ยืนงงงัน
    ฉันสบตาแฮรี่นิ่ง บางอย่าง...มีบางอย่างที่ไม่อาจพูดมาได้
    ความรู้สึก ผิดหวัง เศร้าใจ  เกลียดชัง
    บางอย่างที่ต้องรับมันให้ได้ก่อนที่อะไรจะเลวร้ายกว่านี้  ความเสียใจความโกรธเกลียดเคียดแค้น 
อีกไม่นานมันจะจบลงไปพร้อมกับตัวฉัน พร้อมๆกับเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด....................................................................................................................
      เรื่องที่เกิดขึ้นในตรอกไดแอกกอนเมื่อวันก่อนยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับแฮรี่แย่ลงไปอีก  ฉันรู้ว่าทั้งรอน เฮอร์ไมโอนี่ต่างพากันสงสัยที่ฉันเอาแต่เก็บตัวเงียบ แต่เพราะว่าใกล้ถึงวันเปิดเทอมทุกคนต่างพากันวุ่นวายเกี่ยวกับเรื่องวิชาใหม่ๆ และงานเตรียมตัวมากมายของพรีเฟค พวกเขาจึงไม่วุ่นวายกับฉันนัก
                          ฉันเองก็ไปขลุกอยู่ห้องเฟร็ดกับจอร์จ ซึ่งทำให้ฉันสบายใจ แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะไม่เห็นฉันเป็นหนูทดลองแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังหาวิธีที่จะได้ของเล่นใหม่ตลอดเวลา
    ฉันเองเพิ่งรู้ตอนนี้จอร์จเกิดสนใจหนังสือวิทยาศาตร์ของพวกมักเกิ้ล เขาได้มาโดยบังเอิญตอนแอบไปเที่ยวในเมืองครั้งที่แล้ว แล้วเขาก็เกิดสนใจขึ้นมาอย่างจริงๆจัง
แล้วพวกเขาต้องปิดเรื่องนี้ให้สนิท การทดลองแปลกๆเริ่มขึ้นโดยฉันมีส่วนร่วมด้วยความเต็มใจ และผลของมันก็คือห้องระเบิดไปครึ่งห้อง
ทุกคนที่อยู่ในบ้านต่างกรูขึ้นมาในห้องนอนเฟร็ดกับจอร์จ ด้วยความตกใจ แต่เมื่อพวกเราเห็นสภาพที่ขมุกขมอม ผมเผ้ายุ่งเหยิงมีกลิ่นไหม้เส้นผม ก็หัวเราะออกมา
แม่ที่เปิดประตูเข้ามาในห้องที่ข้าวของกระจุยกระจาย ทั้งหนังสือตำรากระจายเกลื่อนกลาด หม้อยาระเบิดแม่ถึงกับพูดไม่ออกนิ่งไปอยู่นานกว่าจะนึกคำด่าลูกทั้งสามให้สะใจ
“เฟร็ด! จอร์จ! เกิดอะไรขึ้นนี่?” แม่กวาดสายตามองลูกชายฝาแฝดทีละคน
“เราแค่ทดลองอะไรกันนิดหน่อยค่ะ”
ฉันตอบแทน เสยผมที่ตกลงมาปรกหน้า
หันไปมองที่ประตูเห็นรอน เฮอร์ไมโอนี่ และแฮรี่โผล่เข้ามาทุกคนเมื่อเห็นสภาพห้องแล้ว สีหน้าก็ไม่ต่างอะไรกับแม่เมื่อครู่
    “อะไรหรือจินนี่...” รอนถามขึ้นหน้าตาตื่นๆ
    “การทดลองล้มเหลวนิดหน่อยนะ” ฉันมองรอนหันไปยิ้มกับจอร์จที่ตอนนี้สีหน้าไม่ค่อยดีแล้ว    
    แม่ถลึงตามองฉัน
    “จินนี่...นี่ลูกก็เป็นไปกับพี่ๆอีกคนหรือ”
แม่บอกอย่างไม่พอใจ ฉันจึงได้แต่เงียบลง อย่างน้อยก็รู้สึกสบายใจบ้างที่ได้ทำอะไรแผลงๆลงไป ฉันคิดว่าตัวเองคงเหมือนพี่ชายทั้งสองมากขึ้นทุกที
“ทำห้องให้เหมือนเดิม...”แม่สั่ง หันไปมองทางเฟร็ดกับจอร์จลูกชายทั้งสองได้แต่สบตากัน
“ห้องพังแบบนี้จะใช้คาถากลับคืนได้ยังไง”
เฟร็ดบ่นอุบ แม่หันเหลือบมองอีกที
“ถ้าใช้คาถาไม่ได้ ก็ทำเองซิ แม่กลับมาอีกครั้งห้องต้องเหมือนเดิม”
แม่ออกคำสั่งเสียงเข้มพร้อมเดินออกไปจากห้อง
“ไม่เห็นยากเลยนี่น่าก็ใช้คาถาทำความสะอาด”
ฉันเดินไปคว้าไม้กายสิทธิ์จากเฟร็ดอย่างลืมตัว พี่ชายดูงงๆ
“จินนี่มันกลับคืนเหมือนเดิมไม่ได้หรอก..”
จอร์จร้องเตือน แต่ในใจฉันบอกว่ามันเรื่องเล็ก ฉันกำลังทำอะไร โบกไม้กายสิทธิ์ ใช่........ฉันไม่ควรทำแต่ฉันควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว
“ครูอาบัส!”
ฉันท่องคาถาออกไปอย่างมีอนุภาพที่สุด พลังความร้อนแผ่ซ่านจากทั่วตัวไหลผ่านแขนรวมไปที่มือ สู่ปลายไม้ พลังแผ่กระจายทั่วห้องเกิดเป็นแสงสีขาวเจิดจ้าชั่วครู่ก็หายไป ห้องนอนของฝาแฝดสะอาดเอี่ยม เหมือนกับไม่เคยเกิดอะไรขึ้น ไม่มีหม้อยาที่แตกกระจาย ไม่มีผ้าม่านไหม้ ไม่มีเศษกระดาษที่กราดเกลื่อน มันดูดีมากเหมือนกับห้องใหม่ๆห้องหนึ่งทีเดียว
พลังของฉันรวมกลับมาอยู่ที่นิ้วมือ พร้อมๆกับสติของฉัน ทุกคนกำลังมองฉันเป็นตาเดียว
“ก็เห็นไหม ง่ายนิดเดียวก็แค่คาถาทำความสะอาด”
มันก็คงเป็นคำพูดที่ดีที่สุดตอนนี้ ฉันยิ้มมองทุกคน รอนดูเหมือนคาดไม่ถึงมาก่อน แฮรี่ก็คงมองฉันนิ่ง
“จินนี่...ทำไม” จอร์จมองฉันอย่างไม่สบายใจ เฟร็ดจับบ่าฉันสีหน้าจริงจัง
“น้องก็รู้ว่ามันไม่ใช่ แค่คาถาทำความสะอาด..”เฟร็ดพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แต่มันยอดมาก....ว้าว...เยี่ยมที่สุดเลย ไม่นึกเลยว่าคาถาทำความสะอาดของน้องจะได้ผลเกินคาด”แล้วเปลี่ยนเป็นร่าเริงขึ้นมา หันมาทางรอน
“ชั้นบอกแล้วใช่ไหมรอน นายต้องฝึกคาถานี้บ่อยๆจะได้ไม่โดนแม่ดุเวลานายทำห้องเละ จินนี่มาช่วยเราบ่อยๆ”
รอนมองฉันอย่างไม่อยากจะเชื่อนัก หันไปสบตากับเพื่อนทั้งสอง แล้วออกไปจากห้อง
เฟร็ดรอจนทั้งสามออกไปหมดจึงหันมาสบตากับจอร์จ สีหน้าเงียบขรึมลง
    “ว่าไงจินนี่....ตอนนี้มีอะไรจะบอกเราได้หรือยัง”
จอร์จมองหน้าฉันนั่งลงบนเตียง
    “ก็....ห้องพี่เป็นที่ฝึกวิชาได้ดีนี่นา...”
    “เธอรู้ว่านั่นไม่ใช่...คำตอบ...ถ้าจะให้ถามกันตรงๆก็ได้นะ...”เฟร็ดเดินมาโอบบ่าฉัน ดึงไปนั่งติดกับจอร์จที่นั่งอยู่บนเตียงแล้วนั่งทิ้งตัวประกบ มือยังโอบบ่าฉันอยู่ หรือเรียกว่ากดบ่าฉันไม่ให้หนีไปไหนก็ได้
    “เธอคิดว่าเราเป็นพี่ชายที่ดีไหม...”เฟร็ดถาม ฉันพยักหน้าจ่อยๆ
“แล้วดีสนิทเหมือนเพอซี่ไหม...”  ฉันนิ่งถอนหายใจคิดหนัก
“ไม่ตอบ...แสดงว่าเรายังไม่ใช่พี่น้องที่ดีพอซิ” เฟร็ดพูดแต่น้ำเสียงไม่ได้เคร่งเครียดนัก
    “โถ..พี่อย่าถามอย่างนี้ซิค่ะ” แทบอย่างร้องไห้ออกมา
    “ก็ได้ งั้นเปลี่ยนคำถามใหม่ เธอคิดว่า รอน เฮอร์มี่ แล้วแฮรี่จะเชื่อที่พี่พูดเมื่อกี้ไหม” ฉันถอนหายใจอีกส่ายศรีษะ
    “ใช่ พวกเขาไม่เชื่อพี่หรอกนะ..... พี่ด้วย  เพียงแต่ไม่มีใครอยากพูดอะไรเท่านั้น  พวกเขามาถามพี่ว่าเธอทำอะไรอยู่”
    ฉันมองหน้าพี่ชายอดแปลกใจไม่ได้
    “พี่ขอเดาว่า แฮรี่คงรู้เรื่องอะไรบางอย่างเรื่องเธอกับเพอซี่ เธอถึงหลบหน้าเขาแบบนี้ ใช่ไหม”
    “ใช่....”
    “น้องติดต่อกับเพอซี่อยู่..?...”
    ฉันพยักหน้า
    “เขาสอนคาถากับน้อง....”
    ฉันไม่ตอบ
    “ทำไม....เพอซี่กำลังทำอะไรอยู่กันแน่”เฟร็ดขยับตัว ยืนขึ้น
ฉันมองหน้าพี่ชายงงๆ เขายิ้ม
    “ยังไงเราก็เป็นน้องชายเขานะ ไอ้หมอนั่นมันแค่บ้าหลักการ หยิ่งยะโส
ก็แค่นั้น แต่...”
    “เราเป็นวีสลีย์นะ....เราเป็นเลือดบริสุทธิ์พอๆกับพวกมัลฟอย...”
คำพูดของฉันทำให้พี่ชายทั้งสองถึงกับเงียบสนิท ฉันมองทั้งสองที่ยังอยู่ในอาการเหมือนถูกฟ้าผ่า
    “ทำไมเราจะเชื่อในเรี่องเลือดบริสุทธิ์ไม่ได้” ฉันพูดเสียงเย็น
    “น้อง....จินนี่” น้ำเสียงของจอร์จแทบหายตามกับลำคอ
    “พื่คิดว่าใครกันที่สามารถเปิดประตูห้องแห่งความลับได้ ถ้าไม่ใช่ทายาทสิริธอรีน สายเลือดที่บริสุทธิ์”
    “แต่ตอนนั้นเธอถูกทอม ควบคุมจิตใจ”
    “นั้นมันก็แค่คำพูดของทอม...กับแฮรี่ แล้วลองถามหนูซิว่าได้ถูกสะกดจริงไหม
ได้ร่วมมือกับเค้าหรือเปล่า....”
เสียงโครม พร้อมๆกับที่ประตูห้องพังเข้ามา รอนมองดูฉันเหมือนคนไม่เคยรู้จักมาก่อน เฮอร์ไมโอนี่ยืนงงงัน
    ฉันสบตาแฮรี่นิ่ง บางอย่าง...มีบางอย่างที่ไม่อาจพูดมาได้
    ความรู้สึก ผิดหวัง เศร้าใจ  เกลียดชัง
    บางอย่างที่ต้องรับมันให้ได้ก่อนที่อะไรจะเลวร้ายกว่านี้  ความเสียใจความโกรธเกลียดเคียดแค้น 
อีกไม่นานมันจะจบลงไปพร้อมกับตัวฉัน พร้อมๆกับเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด....................................................................................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น