ลำดับตอนที่ #23
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : ไอปีศาจ
ตอนที่ 23 ไอปีศาจ
    แสงประกายดาบสีน้ำเงิน    เปร่งประกายอำมหิตแทง เข้าไปที่หัวใจ เสียงแหลมร้องกรีดดังโหยหวนด้วยความจ็บปวด แววตาอาฆาตของผู้ถูกกระทำเปร่งประกายความอำมหิตแฉกเช่นเดียวกับ ผู้ลงดาบ แววตาของกริฟฟินดอร์ พ่อมดขาว มองร่างที่ลงไปกับพื้น เลือดไหลทะลักนองพื้นราวกับสายน้ำ
    “ก็อดดริด ข้าขอสาปแช่งเจ้า สักวันข้าจะฆ่าพวกเจ้า รัศมีของดวงดาว แห่งความตายจะไม่มีวันดับ เมื่อนั้น เจตนารมณ์แห่งดวงดาวจะพาความหายนะมาทั่วทุกหนแห่ง ท้องฟ้าจะกลายเป็นสีดำตลอดไป”
    จงแก้แค้น  แก้แค้น ผู้ถือดาบ
    ไอเวรี่.....เจ้าคือ ไอเวรี่ เจ้าคือข้า เราคือหนึ่งเดียว
    “ไม่....ฉันคือ จินนี่ วีสลีย์”
ฉันร้องบอก มองร่างที่เลือนลาง อยู่ข้างหน้า แม่มดผมสีแดง ดวงตาเย็นชา มีแววอาฆาตลุกโชน เธอยื่นมือ ขาวซีด ยื่นจับที่แก้ม ฉันไม่อาจที่จะขยับร่างกายได้ ความหนาวเหน็บราวอยู่ท่ามกลางหิมะ หนาวเข้าไปถึงขั้วหัวใจ
   
.....แก้แค้น...จงแก้แค้น...
ฉันหลับตารับรู้ถึงความปวดร้าว เจ็บปวด เคียดแค้นที่ครอบคลุมทั่วจิตใจ
    ภาพประกายดาบตวัด ลงมาผ่านแทงทะลุเข้าที่กลางหัวใจ มันเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่อาจหลุดพ้นได้ นอกจากความรู้สึกที่ทรมาน
    .....จงปลดปล่อยตัวเอง...แก้แค้นผู้ถือดาบ..เท่านั้น..แล้วจะไม่มีใครขัดขวางเธอได้อีกต่อไป..
    “ใช่....แก้แค้นผู้ถือดาบ.”
    ฉันเหมือนเห็นมองตัวเองอีกคนที่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
....เธอรู้ว่าใคร..
“ฉันรู้ว่าใคร....” ฉันตอบ ใช่ร่างฉันตอบฉันรู้...รู้มาตลอดเวลา แต่...ฉันเจ็บปวดมาก วิญญาณฉันไม่อาจที่จะทานได้ต่อไป หยุดซะแล้วปล่อยฉันไป
“จินนี่...จินนี่...”
เสียงสั่นเทาเรียกชื่อฉันซ้ำแล้วซ้ำ ฉันปวดร้าวเข้าไปถึงหัวใจ หยดน้ำอุ่นๆ ทำให้ฉันรู้สึกตัว ลืมตาโพลง มีของเหลวบางอย่างไหลออกมาทางปาก ทางจมูก ความทรมานเกิดขึ้นไม่นานฉันกลับรู้สึกปลอดโปร่งขึ้น
“เพอซี่ ....จินนี่..ลืมตาแล้ว..” แฮรี่ ระล่ำระลักบอก เพอซี่ ที่อยู่ใกล้ๆ เขาก้มมอง ยื่นมือเช็ดเลือด ที่ไหลออกมาเปื้อนหน้าตา
“มันไม่ได้ผลใช่ไหม...จินนี่ ต้นเลือดพิษนั่น”
เสียงพี่ชายสั่นเครือ น้ำตาไหลเป็นทาง
“เพอซี่ ...มันได้ผล...ฉันไม่เป็นอะไร...แต่จงรีบฆ่าฉันเถอะ”
ฉันได้ยินเสียงตัวเองพูดอย่างแผ่วเบา
อีกทางหนึ่งฉันได้ยินเสียงฝีเท้า หลายคนคนเดินตรงมาทางนี้ แม้ฉันเจ็บจวนตายแต่กลับได้ยินเสียงฝีเท้าชัดเจน ใช่ศจ. ดัมเบิลดอร์ ศจ.เสนป ใคร...อีก อ่า..รอน เฮอร์ไมโอนี่ เดรโก
แล้วนั้นใครคนสุดท้ายเสียงฝีเท้าหนัก ฉุนเฉียวกว่าทุกคน แฮกดริด ...เขาเดินมาได้อย่างไร เขาควรเป็นหินยืนนิ่งอยู่ หินไม่มีขา แต่คนมีขา ใช่ฉันพลาดไปแล้ว หลังจากเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน ดัมเบิลดอร์คงเตรียมการณ์ไว้ตลอดเวลา ต้นแมนแดรกต้องพร้อมที่จะใช้ตลอดเวลา
แล้วในที่สุดเสียงฝีเท้าทั้งหมดก็มาหยุดอยู่ไม่ใกล้ๆ พร้อมกับเสียงของรอนที่วิ่งเข้ามา มองเพอซี่ ก้มมองดูฉัน
“จินนี่....แฮรี่ ...จินนี่เป็นอะไร”
เขาพลักอกแฮรี่ที่นั่งหมดแรง กระชากคอเสื้อเพื่อนเขย่าอย่างแรง เพอซี่ประคองฉันขึ้นให้นั่ง
เดรโกสลัด มือออกจากเสนป แล้ววิ่งมาพร้อมกับเฮอไมโอนี่
ฉันมองดูทุกคนด้วยสายตาว่างเปล่า พร้อมกับร่างกายที่เป็นอิสระขึ้น สายตาทอดมองตรงไปยังดัมเบิลดอร์ ยิ้มเยียด พร้อมกับลุกขึ้นยืน ทุกคนชะงัก
“ไม่นึกว่าจะเป็นเธอเลยจริงๆ”
เสียงของพ่อมดที่ดูแลฮอกวอตส์ กล่าวเสียงเย็น
“จินนี่ ไปกับชั้น...”
“ให้อาจารย์ฆ่าฉัน นะหรือ.....สายไปล่ะมั่ง..” เสียงฉันเย็นชาราวกับไม่ใช่ตัวฉันเอง
“ยังมีเวลา  อีกสิบวัน..จินนี่”
ฉันเดินตรงไปข้างหน้า ดัมเบิลดอร์ เหลือบมองแฮกดริก ที่สบตาฉันอย่างหวาดระแวง
“รู้สึกอย่างไรบ้าง สำหรับยักษ์ แค่คาถาคำสาปให้เป็นหิน คงไม่มีผล”
“จินนี่...จินนี่ทำไมพูดกับแฮกดริดอย่างนั้น....เขารักเธอมากนะ เธอทำกับเขาขนาดนี้แล้วเขาก็เสียใจมากแล้ว”
เฮอร์ไมโอนี่พูด ร่างของแฮกดริดสั่นระริก เธอโผเข้ากอดรอนที่อยู่ใกล้ๆ
“สายไปแล้ว เธอไม่ใช่จินนี่แล้ว”
เดรโกพูดออกมาลอยๆ แฮรี่หันมองหน้าคู่แค้นมาตลอด ขบกรามแน่น ทั้งสองสบตากัน
“นายพูดอะไรเหลวไหล” แฮรี่ตะคอกใส่หน้าเดรโก ที่บัดนี้เขากลับสุขุมใจเย็นขึ้น
“นายรู้แฮรี่ นายอาจจะรู้มากกว่าทุกคน แผลเป็นของนาย บอกเรื่องราวมากกว่านั้น”
เสียงของเดรโกเคร่งขรึม สบตากับเขา
“ไม่...ชั้นเชื่อจินนี่” แฮรี่ตะโกนบอกอีกครั้ง เขาวิ่งตรงมาหาฉัน
“เราไปกันจินนี่...” เขาคว้าข้อมือฉัน ดึงฉันเบา แต่ฉันเหลือบมองเขา ยิ้มอย่างเย็นชา โผเข้ากอดเขา กระซิบข้างหูเบาๆ
“เธอควรเชื่อเดรโกนะ...แต่......น่าเสียดายมันสายไปเสียแล้ว”
สวบ.....เสียงหนึ่งดังท่ามกลางความเงียบงัน
ดวงตาแฮรี่เบิกโพลงด้วยความคาดไม่ถึง ฉันถอยหลังออกมา เลือดไหลออกมาเป็นทางที่มือถือมีดเล่มเล็กชุ่มไปด้วยเลือด
“คนเดียวที่สามารถดึงดาบกริฟฟินดอร์ จากหมวกคัดสรร ได้คือทายาทที่แท้จริงของกริฟฟินดอร์ ผู้ถือดาบคือคนที่จะทำลายแผนการณ์ทุกอย่าง”
ฉันดึงมีดออกมา ทุกคนมองตะลึง
“แฮรี่...แฮรี่ ไม่......ไม่...”เฮอร์ ไมโอนี่ร้องเสียงหลง ตะโกนเสียงดัง
“เอกซ์เปลลิอาร์มัส”
เสียงของเพอซี่ดัง พร้อมกับชี้ไม้กายสิทธิ์ มาที่น้องสาว ทำให้มีดคมกริบเบื้อนเลือดที่อยู่ในมือหล่นลงไป
“เพอซี่..รอน....ฉันไม่อยากเป็นศัตรูกับพวกพี่ เรามาร่วมมือกัน ฉันจะทำให้ทุกคนมีอำนาจ ประตูปีศาจจะเปิดพวกเราจะครอบครองทุกสิ่ง “
ฉันสบตาเพอซี่
“มันแย่หน่อย ที่พี่ชายเธอไม่สนใจ จินนี่ถ้าเธอพอมีสติให้คิดถึงครอบครัวเราไว้ พ่อแม่ พี่ๆทุกคน เพื่อนที่รักเธอ”
เพอซี่ร้องบอกเสียงเคร่งเครียด สายตามองแฮรี่ที่ทรุดอยู่ข้างๆ เลือดไหลนอง
ฉันดึงไม้กายสิทธิ์ออกจากเอวชี้ไปที่แฮรี่ ทุกคนมองชายหนุ่มที่ร้องด้วยความเจ็บปวด รอนคลายมือจากเฮอร์ไมโอนี่ที่ร้องไห้ เขายื่นไม้กายสิทธิ์มาที่ฉัน พร้อมที่จะปล่อยคาถาทุกวินาทีเหมือนทุกคน
“พวกเธอคิดว่าจะทำอะไรฉันได้หรือ น่าเสียดายที่พวกเธอยังไม่รู้บ้างอย่าง ร่างนี้ถูกคุ้มครองด้วยไอปีศาจ ไม่ว่าอย่างไรเธอไม่สามรถทำอะไรร่างนี้ได้ ฮอกวอตส์คือประตูทางเข้า ดินแดนมรณะ พวกเธอจะหาทางกำจัดฉันด้วยวิธีไหน....หึ...ไม่มีทางเป็นไปได้”
“เพราะอย่างนี้ ลอร์ดโวลเดอมอร์ถึงตามหาเธอ .ตามหาร่างที่ฆ่าไม่ตาย..ถ้าเขาสามารถครอบครองร่างเธอได้ก่อนคืนเดือนมืด ก็ไม่มีใครสามารถทำลายเขาได้”
แฮรี่ที่ยังพอมีสติ ถามขึ้นอย่างยากเย็น
“แต่ฉันไม่เข้าใจ ทอม ริดเดิ้ล รู้เรื่องเธอ แต่ทำไมลอร์ดโวลเดอร์มอไม่รู้เรื่องเธอ เขายังตามหาเธอ”
“เพราะว่า ทอมแค่ความทรงจำโง่ๆ เขาคงคิดไม่ถึงว่า เขาจะพาฉันไปพบความลับของตัวเอง แต่ต้องขอบใจเธอนะแฮรี่ เธอช่วยกำจัดเขาแทนฉัน”
ดัมเบิลดอร์มองมาที่ฉัน
“เธอคิดว่าเธอจะทำอะไรต่อ จินนี่ พลังที่ยิ่งใหญ่ของเธอทำอะไรได้บ้าง”
“ฉันจะฆ่าทุกคนที่ขัดขวาง”
ฉันบอกเสียงเย็น พร้อมทั้งชี้ไม้ไปที่ดัมเบอดอร์
    “พ่อแม่ ของเธอ หรือพี่ชายของเธอ หรือจินนี่ เธอจะทำกับพวกเขา เหมือนที่ทำกับแฮรี่ หรือแฮกดริกหรือ”
“ทุกคน..”
น้ำเสียงอำมหิตเปร่งออกไป ฉันแน่ใจว่าตัวเองพูดออกไป ไร้ความรู้สึกไร้สิ่งผูกพันธ์ ไร้แม้ซึ่งตัวตนของตัวเอง ความรู้สึกว่างเปล่าเย็นชา
รอนเหมือนแทบจะคลุ้มคลั่ง เขาเรียกชื่อฉันซ้ำแล้วซ้ำอีก
“จินนี่.....จินนี่...ขอร้องคืนสติเถอะน้องสาวของพี่”
เขาร้องออกมาอย่างหมดหนทาง เพอซี่เหลือบมองรอน ยื่นมือปรามน้องชาย
“รอนตอนนี้ตั้งสติให้ดี  เราต้องช่วยกันทำให้สถานการณ์ดีขึ้นไม่ใช่ ทำให้ยุ่งยากมากขึ้น”
เสียงเตือนสติทำให้รอนสงบลงอีกครั้ง แต่มือเขายังสั่นระริก  มองดูแฮรี่ที่หายใจรวยระริน เริ่มหมดแรงเพราะเสียเลือดมาก
   
    แสงประกายดาบสีน้ำเงิน    เปร่งประกายอำมหิตแทง เข้าไปที่หัวใจ เสียงแหลมร้องกรีดดังโหยหวนด้วยความจ็บปวด แววตาอาฆาตของผู้ถูกกระทำเปร่งประกายความอำมหิตแฉกเช่นเดียวกับ ผู้ลงดาบ แววตาของกริฟฟินดอร์ พ่อมดขาว มองร่างที่ลงไปกับพื้น เลือดไหลทะลักนองพื้นราวกับสายน้ำ
    “ก็อดดริด ข้าขอสาปแช่งเจ้า สักวันข้าจะฆ่าพวกเจ้า รัศมีของดวงดาว แห่งความตายจะไม่มีวันดับ เมื่อนั้น เจตนารมณ์แห่งดวงดาวจะพาความหายนะมาทั่วทุกหนแห่ง ท้องฟ้าจะกลายเป็นสีดำตลอดไป”
    จงแก้แค้น  แก้แค้น ผู้ถือดาบ
    ไอเวรี่.....เจ้าคือ ไอเวรี่ เจ้าคือข้า เราคือหนึ่งเดียว
    “ไม่....ฉันคือ จินนี่ วีสลีย์”
ฉันร้องบอก มองร่างที่เลือนลาง อยู่ข้างหน้า แม่มดผมสีแดง ดวงตาเย็นชา มีแววอาฆาตลุกโชน เธอยื่นมือ ขาวซีด ยื่นจับที่แก้ม ฉันไม่อาจที่จะขยับร่างกายได้ ความหนาวเหน็บราวอยู่ท่ามกลางหิมะ หนาวเข้าไปถึงขั้วหัวใจ
   
.....แก้แค้น...จงแก้แค้น...
ฉันหลับตารับรู้ถึงความปวดร้าว เจ็บปวด เคียดแค้นที่ครอบคลุมทั่วจิตใจ
    ภาพประกายดาบตวัด ลงมาผ่านแทงทะลุเข้าที่กลางหัวใจ มันเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่อาจหลุดพ้นได้ นอกจากความรู้สึกที่ทรมาน
    .....จงปลดปล่อยตัวเอง...แก้แค้นผู้ถือดาบ..เท่านั้น..แล้วจะไม่มีใครขัดขวางเธอได้อีกต่อไป..
    “ใช่....แก้แค้นผู้ถือดาบ.”
    ฉันเหมือนเห็นมองตัวเองอีกคนที่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
....เธอรู้ว่าใคร..
“ฉันรู้ว่าใคร....” ฉันตอบ ใช่ร่างฉันตอบฉันรู้...รู้มาตลอดเวลา แต่...ฉันเจ็บปวดมาก วิญญาณฉันไม่อาจที่จะทานได้ต่อไป หยุดซะแล้วปล่อยฉันไป
“จินนี่...จินนี่...”
เสียงสั่นเทาเรียกชื่อฉันซ้ำแล้วซ้ำ ฉันปวดร้าวเข้าไปถึงหัวใจ หยดน้ำอุ่นๆ ทำให้ฉันรู้สึกตัว ลืมตาโพลง มีของเหลวบางอย่างไหลออกมาทางปาก ทางจมูก ความทรมานเกิดขึ้นไม่นานฉันกลับรู้สึกปลอดโปร่งขึ้น
“เพอซี่ ....จินนี่..ลืมตาแล้ว..” แฮรี่ ระล่ำระลักบอก เพอซี่ ที่อยู่ใกล้ๆ เขาก้มมอง ยื่นมือเช็ดเลือด ที่ไหลออกมาเปื้อนหน้าตา
“มันไม่ได้ผลใช่ไหม...จินนี่ ต้นเลือดพิษนั่น”
เสียงพี่ชายสั่นเครือ น้ำตาไหลเป็นทาง
“เพอซี่ ...มันได้ผล...ฉันไม่เป็นอะไร...แต่จงรีบฆ่าฉันเถอะ”
ฉันได้ยินเสียงตัวเองพูดอย่างแผ่วเบา
อีกทางหนึ่งฉันได้ยินเสียงฝีเท้า หลายคนคนเดินตรงมาทางนี้ แม้ฉันเจ็บจวนตายแต่กลับได้ยินเสียงฝีเท้าชัดเจน ใช่ศจ. ดัมเบิลดอร์ ศจ.เสนป ใคร...อีก อ่า..รอน เฮอร์ไมโอนี่ เดรโก
แล้วนั้นใครคนสุดท้ายเสียงฝีเท้าหนัก ฉุนเฉียวกว่าทุกคน แฮกดริด ...เขาเดินมาได้อย่างไร เขาควรเป็นหินยืนนิ่งอยู่ หินไม่มีขา แต่คนมีขา ใช่ฉันพลาดไปแล้ว หลังจากเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน ดัมเบิลดอร์คงเตรียมการณ์ไว้ตลอดเวลา ต้นแมนแดรกต้องพร้อมที่จะใช้ตลอดเวลา
แล้วในที่สุดเสียงฝีเท้าทั้งหมดก็มาหยุดอยู่ไม่ใกล้ๆ พร้อมกับเสียงของรอนที่วิ่งเข้ามา มองเพอซี่ ก้มมองดูฉัน
“จินนี่....แฮรี่ ...จินนี่เป็นอะไร”
เขาพลักอกแฮรี่ที่นั่งหมดแรง กระชากคอเสื้อเพื่อนเขย่าอย่างแรง เพอซี่ประคองฉันขึ้นให้นั่ง
เดรโกสลัด มือออกจากเสนป แล้ววิ่งมาพร้อมกับเฮอไมโอนี่
ฉันมองดูทุกคนด้วยสายตาว่างเปล่า พร้อมกับร่างกายที่เป็นอิสระขึ้น สายตาทอดมองตรงไปยังดัมเบิลดอร์ ยิ้มเยียด พร้อมกับลุกขึ้นยืน ทุกคนชะงัก
“ไม่นึกว่าจะเป็นเธอเลยจริงๆ”
เสียงของพ่อมดที่ดูแลฮอกวอตส์ กล่าวเสียงเย็น
“จินนี่ ไปกับชั้น...”
“ให้อาจารย์ฆ่าฉัน นะหรือ.....สายไปล่ะมั่ง..” เสียงฉันเย็นชาราวกับไม่ใช่ตัวฉันเอง
“ยังมีเวลา  อีกสิบวัน..จินนี่”
ฉันเดินตรงไปข้างหน้า ดัมเบิลดอร์ เหลือบมองแฮกดริก ที่สบตาฉันอย่างหวาดระแวง
“รู้สึกอย่างไรบ้าง สำหรับยักษ์ แค่คาถาคำสาปให้เป็นหิน คงไม่มีผล”
“จินนี่...จินนี่ทำไมพูดกับแฮกดริดอย่างนั้น....เขารักเธอมากนะ เธอทำกับเขาขนาดนี้แล้วเขาก็เสียใจมากแล้ว”
เฮอร์ไมโอนี่พูด ร่างของแฮกดริดสั่นระริก เธอโผเข้ากอดรอนที่อยู่ใกล้ๆ
“สายไปแล้ว เธอไม่ใช่จินนี่แล้ว”
เดรโกพูดออกมาลอยๆ แฮรี่หันมองหน้าคู่แค้นมาตลอด ขบกรามแน่น ทั้งสองสบตากัน
“นายพูดอะไรเหลวไหล” แฮรี่ตะคอกใส่หน้าเดรโก ที่บัดนี้เขากลับสุขุมใจเย็นขึ้น
“นายรู้แฮรี่ นายอาจจะรู้มากกว่าทุกคน แผลเป็นของนาย บอกเรื่องราวมากกว่านั้น”
เสียงของเดรโกเคร่งขรึม สบตากับเขา
“ไม่...ชั้นเชื่อจินนี่” แฮรี่ตะโกนบอกอีกครั้ง เขาวิ่งตรงมาหาฉัน
“เราไปกันจินนี่...” เขาคว้าข้อมือฉัน ดึงฉันเบา แต่ฉันเหลือบมองเขา ยิ้มอย่างเย็นชา โผเข้ากอดเขา กระซิบข้างหูเบาๆ
“เธอควรเชื่อเดรโกนะ...แต่......น่าเสียดายมันสายไปเสียแล้ว”
สวบ.....เสียงหนึ่งดังท่ามกลางความเงียบงัน
ดวงตาแฮรี่เบิกโพลงด้วยความคาดไม่ถึง ฉันถอยหลังออกมา เลือดไหลออกมาเป็นทางที่มือถือมีดเล่มเล็กชุ่มไปด้วยเลือด
“คนเดียวที่สามารถดึงดาบกริฟฟินดอร์ จากหมวกคัดสรร ได้คือทายาทที่แท้จริงของกริฟฟินดอร์ ผู้ถือดาบคือคนที่จะทำลายแผนการณ์ทุกอย่าง”
ฉันดึงมีดออกมา ทุกคนมองตะลึง
“แฮรี่...แฮรี่ ไม่......ไม่...”เฮอร์ ไมโอนี่ร้องเสียงหลง ตะโกนเสียงดัง
“เอกซ์เปลลิอาร์มัส”
เสียงของเพอซี่ดัง พร้อมกับชี้ไม้กายสิทธิ์ มาที่น้องสาว ทำให้มีดคมกริบเบื้อนเลือดที่อยู่ในมือหล่นลงไป
“เพอซี่..รอน....ฉันไม่อยากเป็นศัตรูกับพวกพี่ เรามาร่วมมือกัน ฉันจะทำให้ทุกคนมีอำนาจ ประตูปีศาจจะเปิดพวกเราจะครอบครองทุกสิ่ง “
ฉันสบตาเพอซี่
“มันแย่หน่อย ที่พี่ชายเธอไม่สนใจ จินนี่ถ้าเธอพอมีสติให้คิดถึงครอบครัวเราไว้ พ่อแม่ พี่ๆทุกคน เพื่อนที่รักเธอ”
เพอซี่ร้องบอกเสียงเคร่งเครียด สายตามองแฮรี่ที่ทรุดอยู่ข้างๆ เลือดไหลนอง
ฉันดึงไม้กายสิทธิ์ออกจากเอวชี้ไปที่แฮรี่ ทุกคนมองชายหนุ่มที่ร้องด้วยความเจ็บปวด รอนคลายมือจากเฮอร์ไมโอนี่ที่ร้องไห้ เขายื่นไม้กายสิทธิ์มาที่ฉัน พร้อมที่จะปล่อยคาถาทุกวินาทีเหมือนทุกคน
“พวกเธอคิดว่าจะทำอะไรฉันได้หรือ น่าเสียดายที่พวกเธอยังไม่รู้บ้างอย่าง ร่างนี้ถูกคุ้มครองด้วยไอปีศาจ ไม่ว่าอย่างไรเธอไม่สามรถทำอะไรร่างนี้ได้ ฮอกวอตส์คือประตูทางเข้า ดินแดนมรณะ พวกเธอจะหาทางกำจัดฉันด้วยวิธีไหน....หึ...ไม่มีทางเป็นไปได้”
“เพราะอย่างนี้ ลอร์ดโวลเดอมอร์ถึงตามหาเธอ .ตามหาร่างที่ฆ่าไม่ตาย..ถ้าเขาสามารถครอบครองร่างเธอได้ก่อนคืนเดือนมืด ก็ไม่มีใครสามารถทำลายเขาได้”
แฮรี่ที่ยังพอมีสติ ถามขึ้นอย่างยากเย็น
“แต่ฉันไม่เข้าใจ ทอม ริดเดิ้ล รู้เรื่องเธอ แต่ทำไมลอร์ดโวลเดอร์มอไม่รู้เรื่องเธอ เขายังตามหาเธอ”
“เพราะว่า ทอมแค่ความทรงจำโง่ๆ เขาคงคิดไม่ถึงว่า เขาจะพาฉันไปพบความลับของตัวเอง แต่ต้องขอบใจเธอนะแฮรี่ เธอช่วยกำจัดเขาแทนฉัน”
ดัมเบิลดอร์มองมาที่ฉัน
“เธอคิดว่าเธอจะทำอะไรต่อ จินนี่ พลังที่ยิ่งใหญ่ของเธอทำอะไรได้บ้าง”
“ฉันจะฆ่าทุกคนที่ขัดขวาง”
ฉันบอกเสียงเย็น พร้อมทั้งชี้ไม้ไปที่ดัมเบอดอร์
    “พ่อแม่ ของเธอ หรือพี่ชายของเธอ หรือจินนี่ เธอจะทำกับพวกเขา เหมือนที่ทำกับแฮรี่ หรือแฮกดริกหรือ”
“ทุกคน..”
น้ำเสียงอำมหิตเปร่งออกไป ฉันแน่ใจว่าตัวเองพูดออกไป ไร้ความรู้สึกไร้สิ่งผูกพันธ์ ไร้แม้ซึ่งตัวตนของตัวเอง ความรู้สึกว่างเปล่าเย็นชา
รอนเหมือนแทบจะคลุ้มคลั่ง เขาเรียกชื่อฉันซ้ำแล้วซ้ำอีก
“จินนี่.....จินนี่...ขอร้องคืนสติเถอะน้องสาวของพี่”
เขาร้องออกมาอย่างหมดหนทาง เพอซี่เหลือบมองรอน ยื่นมือปรามน้องชาย
“รอนตอนนี้ตั้งสติให้ดี  เราต้องช่วยกันทำให้สถานการณ์ดีขึ้นไม่ใช่ ทำให้ยุ่งยากมากขึ้น”
เสียงเตือนสติทำให้รอนสงบลงอีกครั้ง แต่มือเขายังสั่นระริก  มองดูแฮรี่ที่หายใจรวยระริน เริ่มหมดแรงเพราะเสียเลือดมาก
   
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น