ลำดับตอนที่ #18
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : รอยร้าว
ตอนที่17 รอยร้าว
    มันไม่ยากเลยสำหรับฉันที่จะกลืนยาพิษ ร้ายแรงเม็ดหนึ่ง หรือจะหลายๆชนิดในโลกนี้ ฉันได้รู้ด้วยตัวฉันเองแล้วว่า ยาพิษใดๆก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรฉันได้นอกจากสร้างความเจ็บปวดเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง แล้วต่อไปมันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายฉัน
    ทุกคนได้แต่เพียงยืนมองดู โดยไม่ทันได้ห้าม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องปล่อยให้ทุกคนคิด ไม่เสียเวลาให้คนอื่นได้พิสูจน์ ฉันรู้ว่าทั้งศาตราจารย์ดัมเบิลดอร์ และ ศาตราจารย์เสนปต่างคอยจับผิดฉันอยู่
    ฉันยืนนิ่ง ขบฟันแน่น ต่อสู้กับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในร่างกาย สักครู่ก็เป็นปกติ
    ในที่สุดศาตราจารย์ดัมเบิลดอร์ได้แต่ถอนหายใจ เหลือบมองเสนป ก่อนกวาดสายตามองทุกคน และท้ายสุดก็หยุดมองที่โช แชง
    “แชง....จินนี่ได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว...หนูจะว่าอย่างไรบ้าง”
    โช แชง ยืนเงียบอยู่หล่อนไม่ยอมตอบได้แต่หลบตา ใจหล่อนเองก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี
    “จินนี่ ถ้าอย่างนั้นหนูพอบอกได้ไหมว่ายาที่เธอกินมันคืออะไร และเธอไปที่โรงนกฮูกตอนค่ำๆทำไม”
    ฉันยิ้ม พยักหน้า
    “มันไม่ใช่ยาค่ะ มันเป็นแค่ลูกกวาด....หนูรู้ว่าโชเองเข้าใจผิดมาตลอด...ถึงแม้ว่าคนเราอาจไม่ถูกชะตากันได้...แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะทำร้ายกันขนาดนั้นใช่ไหมค่ะ.....อีกอย่างหนูเองจะไปรู้จักยาพิษพวกนั้นได้อย่างไร....แค่วิชาปรุงยากับพืชสมุนไพร หนูก็เกือบตกแล้ว..”
    ท้ายสุดฉันหันสบตากับเสนป ที่ริมฝีปากเหยียดตรง ภายใต้สีหน้าที่เรียบเฉยคงต้องใช้ความคิดเป็นอย่างมาก คอยที่จะจ้องหาช่องว่างถ้าฉันพลาดเพียงสักนิด
“แล้วที่หนูไปที่โรงนกฮูกเพราะว่าไปส่งจดหมาย ให้กับพี่ชาย....แล้วใครจะไปนึกล่ะค่ะว่าจะเจอใครนัดเจอกันที่โรงนกฮูกค่ำมืดๆเหมือนกัน”
    ฉันรู้สึกสะใจ ที่อดแขวะทั้งสองไม่ได้โช กับแฮรี่ หันกลับมามองฉันบ้าง โช แชงถึงกับหน้าแดงด้วยความอับอาย ส่วนแฮรี่ยืนขบเขี้ยว อยู่ข้างๆ ฉันแสร้งทำทีไม่เห็น
    ดัมเบิลดอร์สบตากับอาจารย์ประจำบ้านทั้งสอง
“ผมว่าพวกเราคงต้องหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.....”
    เสนปเสนอ...ดัมเบิลดอร์พยักหน้าเห็นด้วย
“เด็กๆ ฉันรู้ว่าพวกเธอคงเสียเวลากันไม่น้อย แต่เพื่อความปลอดภัยของทุกๆ ชั้นหวังว่าพวกเธอคงเข้าใจ”
“ศาตราจารย์ครับแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ นกฮูกพวกนั้นตายเพราะอะไร”
    แฮรี่เอ่ยถามด้วยความร้อนรน
เสนปมองด้วยความไม่พอใจ แต่ไม่ได้ต่อว่าอะไร ศาตราจารย์มักกอนากัลสบตากับอาจรย์ใหญ่ก่อนตอบเอง
“ตายด้วยยาพิษ จากต้นเลือดพิษ...มันอยู่ในรางให้น้ำ เพียงแค่นกจิบน้ำก็ตายทันที”
ฉันฟังอย่างสงบนิ่ง เสียงเฮอร์ไมโอนี่เสริม
“หนูเคยอ่านหนังสือ ว่ายานี้เป็นยาพิษที่ร้ายแรงมาก ทั้งต้นมีสีแดงเหมือนเลือด ปกติลำต้นจะใช้เป็นพืชสมุนไพรแก้พิษได้ทุกชนิด แต่ดอกสีแดงสดของมันกลับเป็นยาพิษชนิดร้ายแรงที่สุดไม่มีกลิ่น ในสมัยก่อนเคยมีข่าวว่าเพียงดอกเดียวสามารถฆ่าคนได้เป็นร้อย แม้แต่พวกพ่อมดแม่มดที่ฝักใฝ่ในศาตร์มืดที่ไม่มีความชำนาญก็ไม่กล้าแตะต้อง”
ฉันเหลือบมองรอนที่สีหน้าเคร่งเครียด ขบกรามแน่น
ขณะที่ทุกคนตกอยู่ในความตึงเครียดนั้น ชายร่างใหญ่ผมเผ้า หนวดเครารุ่งรังเดินผ่านประตูเข้ามาในห้อง มองพวกเราอย่างแปลกใจ แล้วเขายิ้มให้กับทุกคน  แฮรี่เรียกชื่อเขาอย่างดีใจ
“แฮกริด...” แฮรี่แทบอยากกระโจนเข้ากอดเขา
ชายร่างยักษ์มองเด็กๆฉงน
“พวกเธอก็มาที่นี่ด้วยหรือ....แฮรี่วันนี้ชั้นได้ข่าวว่า...”
แฮกริดยกมือชี้ไปที่แผลเป็นที่หน้าผาก  แฮรี่ยิ้มเจื่อนๆ
“ผมไม่เป็นอะไร....ขอบคุณครับ”
แฮกริด ไหวไหล่น้อยๆตามแบบฉบับของเขา มองดูแฮรี่ด้วยความอ่อนโยน
“เธอก็รู้เวลาเธอเจ็บแผลเมื่อไหล่ มักเกิดเรื่องเสมอ....”แฮดดริคพูดกับก็รู้ว่าตัวเองพลาดไป
แฮรี่ถึงกับหน้าถอดสี
    “เออ...ขอโทษนะ....ชั้น..”
    “ไม่เป็นไรครับ...”เขาบอกมองชายร่างยักษ์ปลอบใจ
    “เอาล่ะเด็กๆ ตอนนี้คงหมดธุระของพวกเธอแล้ว....เฮอร์ไมโอนี่ รอน และเดรโก ในฐานะที่พวกเธอเป็นพรีเฟคของบ้าน ก่อนที่เรื่องจะกระจ่างชั้นอยากให้พวกเธอทำหน้าที่คอยดูแลนักเรียนทุกคนให้ดีที่สุดนะ”
    ศาตราจารย์ดัมเบิลดอร์สบตากับพรีเฟคทั้งสาม กำชับด้วยตนเองทั้งหมดรับปาก และทุกคนเหมือนรู้ตัวดี จึงขอตัวกลับ ฉันเดินตามออกเงียบๆแต่ก็อดหันมองดูแฮกริดอีกไม่ได้ ถ้าฉันไม่ได้คิดมากเขาเองก็มองมาทางฉัน มีบางอย่างในดวงตาของเขาที่ทำให้ฉันอดกังวลไม่ได้...
    แฮกริคถูกดัมเบิลดอร์เรียกเข้ามา บางอย่างต้องยืดเยื้อถ้าหาคนผิดไม่ได้.....และแฮกริดจะต้องรู้เรื่องมากกว่าที่ใครๆรู้
    พวกเราก้าวผ่านออกจากประตูห้องอาจารย์ใหญ่
    ทุกคนตกอยู่ในภาวะตึงเครียดมาก....รอนยังคงหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ เขาเหลือบมองฉัน แต่ไม่ได้เอ่ยอะไร
    “รอนเธอเป็นอะไร”
    เฮอร์ไมโอนี่ใจคอไม่ดีเมื่อเห็นรอนเป็นแบบนั้น แฮรี่เดินไปแตะที่บ่าเพื่อน แต่เขาปัดมือของแฮรี่ออก มองแฮรี่ด้วยสายตาเย็นชา
    “รอน...นาย...”
แฮรี่จะพูดแต่เขาพูดไม่ออก รอนเดินหนี เฮอร์ไมโอนี่มองเพื่อนทั้งสองทำอะไรไม่ถูก แล้วหันวิ่งตามรอนไป
    “รอนอย่าทำแบบนี้ซิ....ไม่ใช่ความผิดแฮรี่นะ”
เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงดัง รอนหยุดเดินทันที หันหน้ามองเพื่อน
    “ชั้นคิดว่าเธอทำเป็นไม่รู้ดีสักเรื่องจะได้ไหม ไม่ต้องยุ่งไปซะทุกเรื่องจะได้ไหม”
    รอนตะโกนใส่หน้าเฮอร์ไมโอนี่ เธอถึงกับช็อคนิ่งเงียบมองหน้ารอนน้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัว
แล้ววิ่งออกไป รอนยืนนิ่งอยู่ก่อนเดินผละออกไปอีกทาง
    “แฮรี่....”
    โช แชง เดินเข้าไปข้างๆเขาเรียกเบาๆ มองตามทั้งสอง
แฮรี่เงยหน้ามอง หันมาทางฉัน แววตาทุกข์ใจย่างหนัก ฉันรู้สึกใจหายวาบ อดนึกถึงคำพูดบางอย่างของเขาขึ้นมาไม่ได้ ถ้าขาไม่มีรอนเป็นเพื่อน เขาจะเป็นอย่างไร แม้ว่าแฮรี่จะดูเป็นคนเข้มแข็งแค่ไหน แต่แท้จริงแล้วเขาอ่อนไหวเรื่องนี้มาก
    “ฉันขอโทษนะแฮรี่...ชั้น...ไม่นึกว่ารอนไม่มีเหตุผลเลย”
    แฮรี่สีหน้าเงียบขรึมลง ถอนหายใจเสียงดัง อย่างหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้
    ฉันมองเขาอยู่นาน จนเขาหันมาสบตา หลายอย่างหลายเรื่อง หลายคำถาม หลายคำตอบ ที่ฉันอยากคุยกับเขามากมายเหลือเกิน
    แต่สิ่งที่ฉันทำได้ตอนนี้คือหลบจากสายตาที่มองดูฉันด้วยความสับสน
    “ไปกันเถอะเดรโก...”
ฉันเรียกเดรโกเบาๆ ก่อนเดินนำออกไป โดยไม่เห็นแฮรี่มองตาม แต่ได้ยินเสียงของเขาพูดกับโช
“.....ชั้นไปส่งเธอเอง ” พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่เดินจากไปอีกทาง
................................................................................................................
    มันไม่ยากเลยสำหรับฉันที่จะกลืนยาพิษ ร้ายแรงเม็ดหนึ่ง หรือจะหลายๆชนิดในโลกนี้ ฉันได้รู้ด้วยตัวฉันเองแล้วว่า ยาพิษใดๆก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรฉันได้นอกจากสร้างความเจ็บปวดเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง แล้วต่อไปมันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายฉัน
    ทุกคนได้แต่เพียงยืนมองดู โดยไม่ทันได้ห้าม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องปล่อยให้ทุกคนคิด ไม่เสียเวลาให้คนอื่นได้พิสูจน์ ฉันรู้ว่าทั้งศาตราจารย์ดัมเบิลดอร์ และ ศาตราจารย์เสนปต่างคอยจับผิดฉันอยู่
    ฉันยืนนิ่ง ขบฟันแน่น ต่อสู้กับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในร่างกาย สักครู่ก็เป็นปกติ
    ในที่สุดศาตราจารย์ดัมเบิลดอร์ได้แต่ถอนหายใจ เหลือบมองเสนป ก่อนกวาดสายตามองทุกคน และท้ายสุดก็หยุดมองที่โช แชง
    “แชง....จินนี่ได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว...หนูจะว่าอย่างไรบ้าง”
    โช แชง ยืนเงียบอยู่หล่อนไม่ยอมตอบได้แต่หลบตา ใจหล่อนเองก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี
    “จินนี่ ถ้าอย่างนั้นหนูพอบอกได้ไหมว่ายาที่เธอกินมันคืออะไร และเธอไปที่โรงนกฮูกตอนค่ำๆทำไม”
    ฉันยิ้ม พยักหน้า
    “มันไม่ใช่ยาค่ะ มันเป็นแค่ลูกกวาด....หนูรู้ว่าโชเองเข้าใจผิดมาตลอด...ถึงแม้ว่าคนเราอาจไม่ถูกชะตากันได้...แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะทำร้ายกันขนาดนั้นใช่ไหมค่ะ.....อีกอย่างหนูเองจะไปรู้จักยาพิษพวกนั้นได้อย่างไร....แค่วิชาปรุงยากับพืชสมุนไพร หนูก็เกือบตกแล้ว..”
    ท้ายสุดฉันหันสบตากับเสนป ที่ริมฝีปากเหยียดตรง ภายใต้สีหน้าที่เรียบเฉยคงต้องใช้ความคิดเป็นอย่างมาก คอยที่จะจ้องหาช่องว่างถ้าฉันพลาดเพียงสักนิด
“แล้วที่หนูไปที่โรงนกฮูกเพราะว่าไปส่งจดหมาย ให้กับพี่ชาย....แล้วใครจะไปนึกล่ะค่ะว่าจะเจอใครนัดเจอกันที่โรงนกฮูกค่ำมืดๆเหมือนกัน”
    ฉันรู้สึกสะใจ ที่อดแขวะทั้งสองไม่ได้โช กับแฮรี่ หันกลับมามองฉันบ้าง โช แชงถึงกับหน้าแดงด้วยความอับอาย ส่วนแฮรี่ยืนขบเขี้ยว อยู่ข้างๆ ฉันแสร้งทำทีไม่เห็น
    ดัมเบิลดอร์สบตากับอาจารย์ประจำบ้านทั้งสอง
“ผมว่าพวกเราคงต้องหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.....”
    เสนปเสนอ...ดัมเบิลดอร์พยักหน้าเห็นด้วย
“เด็กๆ ฉันรู้ว่าพวกเธอคงเสียเวลากันไม่น้อย แต่เพื่อความปลอดภัยของทุกๆ ชั้นหวังว่าพวกเธอคงเข้าใจ”
“ศาตราจารย์ครับแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ นกฮูกพวกนั้นตายเพราะอะไร”
    แฮรี่เอ่ยถามด้วยความร้อนรน
เสนปมองด้วยความไม่พอใจ แต่ไม่ได้ต่อว่าอะไร ศาตราจารย์มักกอนากัลสบตากับอาจรย์ใหญ่ก่อนตอบเอง
“ตายด้วยยาพิษ จากต้นเลือดพิษ...มันอยู่ในรางให้น้ำ เพียงแค่นกจิบน้ำก็ตายทันที”
ฉันฟังอย่างสงบนิ่ง เสียงเฮอร์ไมโอนี่เสริม
“หนูเคยอ่านหนังสือ ว่ายานี้เป็นยาพิษที่ร้ายแรงมาก ทั้งต้นมีสีแดงเหมือนเลือด ปกติลำต้นจะใช้เป็นพืชสมุนไพรแก้พิษได้ทุกชนิด แต่ดอกสีแดงสดของมันกลับเป็นยาพิษชนิดร้ายแรงที่สุดไม่มีกลิ่น ในสมัยก่อนเคยมีข่าวว่าเพียงดอกเดียวสามารถฆ่าคนได้เป็นร้อย แม้แต่พวกพ่อมดแม่มดที่ฝักใฝ่ในศาตร์มืดที่ไม่มีความชำนาญก็ไม่กล้าแตะต้อง”
ฉันเหลือบมองรอนที่สีหน้าเคร่งเครียด ขบกรามแน่น
ขณะที่ทุกคนตกอยู่ในความตึงเครียดนั้น ชายร่างใหญ่ผมเผ้า หนวดเครารุ่งรังเดินผ่านประตูเข้ามาในห้อง มองพวกเราอย่างแปลกใจ แล้วเขายิ้มให้กับทุกคน  แฮรี่เรียกชื่อเขาอย่างดีใจ
“แฮกริด...” แฮรี่แทบอยากกระโจนเข้ากอดเขา
ชายร่างยักษ์มองเด็กๆฉงน
“พวกเธอก็มาที่นี่ด้วยหรือ....แฮรี่วันนี้ชั้นได้ข่าวว่า...”
แฮกริดยกมือชี้ไปที่แผลเป็นที่หน้าผาก  แฮรี่ยิ้มเจื่อนๆ
“ผมไม่เป็นอะไร....ขอบคุณครับ”
แฮกริด ไหวไหล่น้อยๆตามแบบฉบับของเขา มองดูแฮรี่ด้วยความอ่อนโยน
“เธอก็รู้เวลาเธอเจ็บแผลเมื่อไหล่ มักเกิดเรื่องเสมอ....”แฮดดริคพูดกับก็รู้ว่าตัวเองพลาดไป
แฮรี่ถึงกับหน้าถอดสี
    “เออ...ขอโทษนะ....ชั้น..”
    “ไม่เป็นไรครับ...”เขาบอกมองชายร่างยักษ์ปลอบใจ
    “เอาล่ะเด็กๆ ตอนนี้คงหมดธุระของพวกเธอแล้ว....เฮอร์ไมโอนี่ รอน และเดรโก ในฐานะที่พวกเธอเป็นพรีเฟคของบ้าน ก่อนที่เรื่องจะกระจ่างชั้นอยากให้พวกเธอทำหน้าที่คอยดูแลนักเรียนทุกคนให้ดีที่สุดนะ”
    ศาตราจารย์ดัมเบิลดอร์สบตากับพรีเฟคทั้งสาม กำชับด้วยตนเองทั้งหมดรับปาก และทุกคนเหมือนรู้ตัวดี จึงขอตัวกลับ ฉันเดินตามออกเงียบๆแต่ก็อดหันมองดูแฮกริดอีกไม่ได้ ถ้าฉันไม่ได้คิดมากเขาเองก็มองมาทางฉัน มีบางอย่างในดวงตาของเขาที่ทำให้ฉันอดกังวลไม่ได้...
    แฮกริคถูกดัมเบิลดอร์เรียกเข้ามา บางอย่างต้องยืดเยื้อถ้าหาคนผิดไม่ได้.....และแฮกริดจะต้องรู้เรื่องมากกว่าที่ใครๆรู้
    พวกเราก้าวผ่านออกจากประตูห้องอาจารย์ใหญ่
    ทุกคนตกอยู่ในภาวะตึงเครียดมาก....รอนยังคงหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ เขาเหลือบมองฉัน แต่ไม่ได้เอ่ยอะไร
    “รอนเธอเป็นอะไร”
    เฮอร์ไมโอนี่ใจคอไม่ดีเมื่อเห็นรอนเป็นแบบนั้น แฮรี่เดินไปแตะที่บ่าเพื่อน แต่เขาปัดมือของแฮรี่ออก มองแฮรี่ด้วยสายตาเย็นชา
    “รอน...นาย...”
แฮรี่จะพูดแต่เขาพูดไม่ออก รอนเดินหนี เฮอร์ไมโอนี่มองเพื่อนทั้งสองทำอะไรไม่ถูก แล้วหันวิ่งตามรอนไป
    “รอนอย่าทำแบบนี้ซิ....ไม่ใช่ความผิดแฮรี่นะ”
เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงดัง รอนหยุดเดินทันที หันหน้ามองเพื่อน
    “ชั้นคิดว่าเธอทำเป็นไม่รู้ดีสักเรื่องจะได้ไหม ไม่ต้องยุ่งไปซะทุกเรื่องจะได้ไหม”
    รอนตะโกนใส่หน้าเฮอร์ไมโอนี่ เธอถึงกับช็อคนิ่งเงียบมองหน้ารอนน้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัว
แล้ววิ่งออกไป รอนยืนนิ่งอยู่ก่อนเดินผละออกไปอีกทาง
    “แฮรี่....”
    โช แชง เดินเข้าไปข้างๆเขาเรียกเบาๆ มองตามทั้งสอง
แฮรี่เงยหน้ามอง หันมาทางฉัน แววตาทุกข์ใจย่างหนัก ฉันรู้สึกใจหายวาบ อดนึกถึงคำพูดบางอย่างของเขาขึ้นมาไม่ได้ ถ้าขาไม่มีรอนเป็นเพื่อน เขาจะเป็นอย่างไร แม้ว่าแฮรี่จะดูเป็นคนเข้มแข็งแค่ไหน แต่แท้จริงแล้วเขาอ่อนไหวเรื่องนี้มาก
    “ฉันขอโทษนะแฮรี่...ชั้น...ไม่นึกว่ารอนไม่มีเหตุผลเลย”
    แฮรี่สีหน้าเงียบขรึมลง ถอนหายใจเสียงดัง อย่างหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้
    ฉันมองเขาอยู่นาน จนเขาหันมาสบตา หลายอย่างหลายเรื่อง หลายคำถาม หลายคำตอบ ที่ฉันอยากคุยกับเขามากมายเหลือเกิน
    แต่สิ่งที่ฉันทำได้ตอนนี้คือหลบจากสายตาที่มองดูฉันด้วยความสับสน
    “ไปกันเถอะเดรโก...”
ฉันเรียกเดรโกเบาๆ ก่อนเดินนำออกไป โดยไม่เห็นแฮรี่มองตาม แต่ได้ยินเสียงของเขาพูดกับโช
“.....ชั้นไปส่งเธอเอง ” พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่เดินจากไปอีกทาง
................................................................................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น