ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ยาพิษ 1
ตอนที่ 15  ยาพิษ
      “จินนี่ จินนี่” เสียงเรียกฉันเบาๆหลายครั้งก่อนที่จะมีศอกกระทุ้งตามมา ฉันจึงรู้สึกตัว ฉันหันมองลูน่าเหม่อลอย เธอมุ้ยหน้าให้ฉัน ฉันจึงเงยหน้าขึ้นพบกับ สายตาคมเหมือนเหยี่ยว จมูกโตงุ้ม ผมดำเหลือบไม่เป็นทรงปรกหน้าเมื่อก้มมองดูฉัน
“มีสวีสลีย์!” เสียงทุ้มดังกังวานของศาสตราจารย์เสนป เรียกชื่อของฉันดังด้วยความไม่พอใจอย่างยิ่ง มันทำให้ฉันพอรู้สึกตัวบ้าง ทุกคนในห้องเรียนวิชาปรุงยาต่างหันมามองฉันเป็นตาเดียว นี่ไม่ใช่การเรียกชื่อฉันครั้งแรกในรอบยี่สิบนาที ฉันสบตามองศจ.เสนปด้วยสายตาว่างเปล่า แต่เขาคงอยากเสกให้ฉันเป็นตัวอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่มนุษย์
“หักกริฟฟินดอร์สิบคะแนน ถ้าเธอยังคิดว่าวิชานี้ไม่สำคัญ...”
ฉันนิ่ง แต่ลูน่านั่งกระสับกระส่าย มองฉันด้วยความไม่สบายใจ
“เธอเข้าใจที่ฉันพูดไหมมิสวีสลีย์..เธอถูกทำโทษให้อยู่ทบทวนการปรุงยาจากต้นมองส์ ใหม่ทั้งหมดในเย็นนี่จนกว่าจะสำเร็จ”
                    เขาพูดเสียงเข้ม นักเรียนในห้องต่างไม่กล้าเงยหน้าขึ้นจากหม้อปรุงยา
  ก่อนที่ความเดือดของเสนปจะพุ่งขึ้นไปมากกว่านี้  ชายหนุ่มผมสีทองพรีเฟ็คบ้าน    สลิธรีน เดินเข้ามาอย่างรวดเร็วในระหว่างชั่วโมงปรุงยาของนักเรียนปีห้า ทุกคนอดที่จะเหลียวมองด้วยความแปลกใจไม่ได้  ชั่วครู่หนึ่งที่สายตาของเขาสบตากับฉัน สีหน้าเคร่งเครียด เขาเดินตรงไปหาศาตราจารย์เสนปที่ปีนี้สอนควบสองวิชาคือวิชาปรุงยา และ วิชาป้องกันตัวจากศาตร์มืด เดรโกกระซิบบางอย่างกับเสนปเบาๆ ฉันเห็นความตึงเครียดเป็นทวีคูณจากเสนป เขาขบกรามแน่นจนเห็นเส้นเลือดเป็นรอยเขียวตามหน้าผาก
        แล้วเขาจึงหันมากวาดสายตามองทุกคน
“วันนี้เลิกเรียนเพียงเท่านี้ แล้วขอให้ทุกคนรีบตรงกลับเขาหอบ้านตนเอง”
นักเรียนในห้องต่างมีเสียงพึมพัมดังมา
“มัลฟอย เธอดูแลทางนี้”
        “ครับ” มัลฟอยพยักหน้า  เสนปหันหลังเดินผละออกไปจากห้องสอน มัลฟอยหันมา นักเรียนในบ้านสลิธรีนคนหนึ่งหันมาถามมัลฟอย
        “เกิดอะไรขึ้นอีกหรือ”
“ชั้นว่านายเอาเวลาที่ถาม เดินกลับไปหอก่อนที่ศาตราจารย์จะไปแล้วไม่พบนายดีกว่า” มัลฟอยตัดบทห้วนๆ นักเรียนคนนั้นถึงกับหน้าจ่อยทันที เดรโกกวาดสายตาดูนักเรียนปีห้าทยอยเดินออกจากห้อง
        ลูน่าเดินมาข้างๆฉัน
“จินนี่ เธอเป็นไงบ้าง......สีหน้าเธอไม่ดีเลย”
    ฉันเหลือบมองลูน่า แล้วหยิบหนังสือขึ้นมา
“เปล่านี่...”
ลูน่าแทบอยากจะร้องไห้ตรงนั้น
“จินนี่..ถ้าเธอยังโกรธชั้นเรื่องรอนอยู่ฉันก็จนใจนะ เธอจะโกรธชั้น ฉันบอกเธอเป็นร้อยๆรอบแล้วว่า รอนเขาแค่ห่วงเธอเท่านั้น ชั้นก็ห่วง ดูเธอตอนนี้ซิ...จินนี่”
        ลูน่าพูดแล้วหันสบตากับเดรโก
“ลูน่า....เธอวางใจเถอะเรื่องนั้นมันจบไปแล้ว ฉันไม่โกรธเธอจริงๆนะ แค่ช่วงนีฉันมีเรื่องต้องคิดนิดหน่อย..”
        ฉันมองลูน่าปลอบใจ เธอเข้ามากอดฉันเบาๆ ฉันยิ้ม
“ความจริงฉันโล่งอกไปเยอะเลย รอนรู้เรื่องแล้วอย่างน้อยเขาก็พยายามจะทำความเข้าใจอะไรหลายอย่างให้มากขึ้น เฮ้ย...แต่เขาก็น่ารำคาญชะมัด คอยดูแลเหมือนฉันเป็นเด็กๆ”
ลูน่าผละออกจากฉันหันไปมองเดรโก
“เกิดอะไรขึ้นแน่เดรโก....คงเรื่องใหญ่น่าดู”
เขาพยักหน้าช้าๆ
    “เมื่อกี้มีคนไปพบนกฮูก ที่เรือนพักนกฮูก ตายเกือบสามสิบตัว”
ฉันกับลูน่า สบตามัลฟอยนิ่งด้วยความตกใจ
    “นกฮูกตาย....”แล้วลูน่า หันเหลือบมองฉันทันที
“เธอคงไม่คิดว่าฉันจะทำอะไรโง่ๆแบบนั้นใช่ไหม”
    ฉันรีบพูดดักหน้า ลูน่าถึงกับส่ายศรีษะ
“ไม่รู้สิ จินนี่...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันเชื่อใจเธอ” เธอบอก
    “ลูน่าเธอควรกลับไปที่หอนอนก่อนนะ ถ้าอาจารย์มาตรวจจะลำบาก”
ฉันบอก ลูน่าลังเล มองเดรโกก่อนพยักหน้า
    “นี่เป็นครั้งแรกนะเดรโก ที่ฉันรู้สึกสบายใจที่เห็นนายอยู่ตรงนี้”
ลูน่าพูดขึ้นเบาๆยกไม้กายสิทธิ์เก็บไว้หลังหูซ้ายตามความเคยชิน
    “แล้วพวกเธอมีทางให้ชั้นเลือกไหม....”
เขาหันมาสบตาฉันอย่างมีความหมาย แต่สีหน้ายังเคร่งเครียด ลูน่าเดินผละออกไปก่อน
ฉันกับเดรโกเดินตามออกไปช้าๆ
    “เธอคงยังพูดไม่จบใช่ไหม”
ฉันเอ่ยขึ้นก่อน เดรโกพยักหน้า
    “เธอควรรู้เรื่องบางอย่างก่อน เกี่ยวกับแฮรี่”
เดรโกทิ้งระยะก่อนพูดต่อ
    “วันนี้ในวิชาแปลงร่าง จู่ๆเขาก็เจ็บแผลมากจนสลบไป”
ฉันถึงกับหยุดนิ่ง เหมือนไม่มีความรู้สึกความว่างเปล่าแผ่ไปทั่วร่างกายอีกครั้ง
    “การที่แฮรี่เจ็บแผลมันเกี่ยวกับเธอ นกฮูกที่โรงพักนกฮูกตายเพราะยาพิษจากต้นเลือดพิษ....มันก็คงเกี่ยวกับเธอ ยาพิษของเธอ....”
    เดรโกมองฉันนิ่งเหมือนค้นหาบางอย่าง ฉันพยักหน้าช้าๆยอมรับโดยดี
“ถึงเวลาแล้วจินนี่ วีสลีย์ เธอควรพูดความจริงในขณะที่เธอยังเป็นตัวของตัวเองในวันนี้”
    ฉันถึงกับหันหน้าสบตาเขาแทบทันที
    “เธอหมายถึงอะไร...ตัวของตัวเอง..เดรโก”
    “เธอรู้ว่าชั้นหมายถึงเรื่องอะไรจินนี่....” เขาพูดเสียงขรึมๆ แต่ฉันแทบหมดแรง
“เธอเจอเขาจริงๆใช่ไหมมัลฟอย.....ทอม  ริดเดิ้ล บนรถไฟ”
เดรโก ถึงกับขมวดคิ้ว ส่ายศรีษะ
    “ชั้นไม่เคยที่จะเจอใคร นอกจากเธอจินนี่  ชั้นเจอเธออีกคน  และเป็นคนเดียวกับที่อยู่บนไม้กวาดนั่น”
    เขาพูดช้าๆ ฉันทรุดตัวลงอย่างหมดแรง เดรโกจับแขนฉันไว้
“จินนี่..”
    “ไม่จริง...ก็ตอนนั้นฉันว่าตัวเองมีสติดีทุกอย่าง....ฉัน...กำลังจะเปลี่ยนไปมันรวดเร็วกว่าที่ฉันคิด ฉัน....”
    “จินนี่...ชั้นรู้ว่านั่นไม่ใช่ตัวเธอ”
    “เดรโก...ตอนนี้ฉันไม่แน่ใจตัวเองอะไรต่อไปแล้ว” ฉันถลกแขนเสื้อขึ้นถอดถุงมือข้างขวาออก มองรูปงูบาซิสก์ ที่ปรากฏขึ้น
    “มันไม่หายไปสักพักแล้ว เมื่อก่อนถ้ามันปรากฏขึ้นถ้าฉันใช้พลังออกไปมันจะหายไป แต่...ตอนนี้มันอยู่ตลอดเวลาและเริ่มปรากฏชัดขึ้น”
    ฉันบอกเดรโกแทบไม่รู้สึกตัวเลยว่าเสียงแหบพร่าแค่ไหน ฉันมองเดรโกที่ประคองฉันไว้ ฉันบีบแขนเขาแน่น
    “เดรโก....มีบางอย่างที่ฉันต้องบอกเธอ...มันสำคัญมาก...”
“ไม่...จินนี่...ยังไม่ต้องพูดอะไร..ชั้นจะพาเธอไปห้องพยาบาล”
เดรโกพยายามจะอุ้มฉันแต่ฉันจับแขนเขาแน่น
“ไม่....ตอนนี้ใครก็ช่วยชั้นไม่ได้แล้ว ฉันถูกพิษในร่างฉันมีพิษสองอย่างมันเป็นพิษงูบาซิสก์ กับพิษของแมงมุม ยาธรรมดารักษาฉันไม่ได้หรอก”
ฉันบอกอย่างแผ่วเบาเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย เดรโกพยายามตั้งสติ
“เธอบอกมา ชั้นต้องทำอย่างไร”
“ที่กระเป๋ากางเกง มีถุงยาห่อหนึ่งเธอคงเคยเห็น ”
ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ มือเขาก็จับกระเป๋ากางเกง
“นี่ใช่ไหม...” เขายกถุงสีดำ ฉันพยักหน้าช้าๆหมดแรง
“อย่ามองฉันอย่างนี้ซิเดรโก ไม่เห็นเหมือนกับเธอเลย”
“ชั้นแค่ไม่เข้าใจว่าคนประเภทไหน ที่กินยาพิษเป็นถุงๆ.....”
ยังที่เขาไม่ทันพูดจบ ฉับพลันฉันรับรู้ถึงพลังบางอย่างกระแทกผ่านเข้ามา เสียงของเดรโกก็ร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด มือจับหน้าอกแต่ยังประคองฉัน
“ปล่อยมือโสโครกของนายออกจากน้องสาวชั้นเดี๋ยวนี้”
เสียงของรอนดังขึ้น ชี้ไม้กายสิทธิ์มาทางเดรโก แต่เดรโกยิ้มเยียดมองไปทางรอน
“ถ้านายอยากเห็นน้องสาวนาย ถูกพิษกำเริบทรมานมากกว่านี้ก็ฆ่าชั้นตามสบาย”
รอนตกใจมองร่างฉันอย่างลังเล แล้ววิ่งมานั่งข้างมองฉันที่แทบไม่มีสติแล้ว หน้าของเขาซีดราวกับกระดาษแผ่นหนึ่ง
    “จินนี่ น้องเป็นอะไร” เขาร้องเสียงสั่น เดรโกประคองฉันขึ้นมา รอนสบตากับเดรโก เขาส่งฉันให้พี่ชายประคองต่อ
    “จินนี่...บอกมาเร็วต้องกินกี่เม็ด” เขาเทยาลงมือถึงกับมือสั่น รอนมองอย่างสงสัย
“นั่นยาอะไร”
    เดรโกไม่ตอบ เขาป้อนยาให้ฉันสองเม็ด รอนยื่นมือจะไปจับ
“นั่นยาอะไร นายเอายาอะไรให้จินนี่กิน” รอนตะโกนเสียงดังใส่หน้ามัลฟอย เมื่อเห็นฉันกุมท้องตัวเอง ตัวงอเป็นกุ้ง
    “หุบปากนายไปเลย รอน  แล้วเอามือของนายไปไกลๆยานี่ ถ้าไม่อยากถูกพิษตายไม่รู้ตัว...”
เดรโกปัดมือรอนออกไป ก้มมองดูฉันที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของรอนนิ่งๆ
รอนกอดฉันแน่นขึ้น ฉันรู้สึกถึงน้ำอุ่นๆที่ผ่านแขนเสื้อลงมา
    “จินนี่....น้องอย่าเป็นอะไรนะ..”
พี่ชายเสียงสั่นเครือ สักพักที่เดรโกมอง จับแขนเสื้อของรอน
    “ชั้นว่าก่อนที่จินนี่จะตายด้วยพิษกำเริบ เธอคงถูกนายรัดตายเพราะหายใจไม่ออก”
รอนเหมือนรู้สึกตัวเงยหน้าสบตาเดรโก คลายกอดฉัน
สักพักฉันเริ่มรู้สึกว่าร่างกายเริ่มปลอดโปร่งขึ้น ลืมตาขึ้นอีกครั้ง
    นี่เป็นครั้งแรกละมั่ง ที่ฉันเห็นรอยยิ้มจากดวงตาเขา รอยยิ้มที่ดีใจอย่างจริงใจเป็นครั้งแรกของเดรโก มัลฟอย
    “ชั้นรู้ว่าคนอย่างเธอคงไม่จบง่ายๆเพราะเรื่องนี้”
ฉันยิ้มกับเขาอย่างปลอดโปร่ง พยุงตัวขึ้นรอนมองฉันช่วยประคอง
    “หนูไม่เป็นอะไรแล้วค่ะพี่” ฉันยิ้มกับพี่ชาย เขาดึงฉันเขามากอดแน่น เหมือนกับวันที่เขาปรากฏตัวต่อหน้าฉันในห้องนอนของลูน่า เขาแค่กอดฉันไว้ไม่พูดอะไรสักคำ มีแต่ความอบอุ่นที่ไหลเอ่อเป็นน้ำตา
    “พี่ค่ะ....ถึงเวลาแล้ว....ที่ฉันจะเล่าความจริงทุกๆอย่างให้พวกพี่รู้....แล้วพวกพี่ก็หมดเวลามาทะเลาะกันอีกต่อไป นอกจากยอมรับความจริง”
    ฉันมองรอน กับเดรโก ยิ้มอย่างใจเย็น
.....................................................................................................................................
      “จินนี่ จินนี่” เสียงเรียกฉันเบาๆหลายครั้งก่อนที่จะมีศอกกระทุ้งตามมา ฉันจึงรู้สึกตัว ฉันหันมองลูน่าเหม่อลอย เธอมุ้ยหน้าให้ฉัน ฉันจึงเงยหน้าขึ้นพบกับ สายตาคมเหมือนเหยี่ยว จมูกโตงุ้ม ผมดำเหลือบไม่เป็นทรงปรกหน้าเมื่อก้มมองดูฉัน
“มีสวีสลีย์!” เสียงทุ้มดังกังวานของศาสตราจารย์เสนป เรียกชื่อของฉันดังด้วยความไม่พอใจอย่างยิ่ง มันทำให้ฉันพอรู้สึกตัวบ้าง ทุกคนในห้องเรียนวิชาปรุงยาต่างหันมามองฉันเป็นตาเดียว นี่ไม่ใช่การเรียกชื่อฉันครั้งแรกในรอบยี่สิบนาที ฉันสบตามองศจ.เสนปด้วยสายตาว่างเปล่า แต่เขาคงอยากเสกให้ฉันเป็นตัวอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่มนุษย์
“หักกริฟฟินดอร์สิบคะแนน ถ้าเธอยังคิดว่าวิชานี้ไม่สำคัญ...”
ฉันนิ่ง แต่ลูน่านั่งกระสับกระส่าย มองฉันด้วยความไม่สบายใจ
“เธอเข้าใจที่ฉันพูดไหมมิสวีสลีย์..เธอถูกทำโทษให้อยู่ทบทวนการปรุงยาจากต้นมองส์ ใหม่ทั้งหมดในเย็นนี่จนกว่าจะสำเร็จ”
                    เขาพูดเสียงเข้ม นักเรียนในห้องต่างไม่กล้าเงยหน้าขึ้นจากหม้อปรุงยา
  ก่อนที่ความเดือดของเสนปจะพุ่งขึ้นไปมากกว่านี้  ชายหนุ่มผมสีทองพรีเฟ็คบ้าน    สลิธรีน เดินเข้ามาอย่างรวดเร็วในระหว่างชั่วโมงปรุงยาของนักเรียนปีห้า ทุกคนอดที่จะเหลียวมองด้วยความแปลกใจไม่ได้  ชั่วครู่หนึ่งที่สายตาของเขาสบตากับฉัน สีหน้าเคร่งเครียด เขาเดินตรงไปหาศาตราจารย์เสนปที่ปีนี้สอนควบสองวิชาคือวิชาปรุงยา และ วิชาป้องกันตัวจากศาตร์มืด เดรโกกระซิบบางอย่างกับเสนปเบาๆ ฉันเห็นความตึงเครียดเป็นทวีคูณจากเสนป เขาขบกรามแน่นจนเห็นเส้นเลือดเป็นรอยเขียวตามหน้าผาก
        แล้วเขาจึงหันมากวาดสายตามองทุกคน
“วันนี้เลิกเรียนเพียงเท่านี้ แล้วขอให้ทุกคนรีบตรงกลับเขาหอบ้านตนเอง”
นักเรียนในห้องต่างมีเสียงพึมพัมดังมา
“มัลฟอย เธอดูแลทางนี้”
        “ครับ” มัลฟอยพยักหน้า  เสนปหันหลังเดินผละออกไปจากห้องสอน มัลฟอยหันมา นักเรียนในบ้านสลิธรีนคนหนึ่งหันมาถามมัลฟอย
        “เกิดอะไรขึ้นอีกหรือ”
“ชั้นว่านายเอาเวลาที่ถาม เดินกลับไปหอก่อนที่ศาตราจารย์จะไปแล้วไม่พบนายดีกว่า” มัลฟอยตัดบทห้วนๆ นักเรียนคนนั้นถึงกับหน้าจ่อยทันที เดรโกกวาดสายตาดูนักเรียนปีห้าทยอยเดินออกจากห้อง
        ลูน่าเดินมาข้างๆฉัน
“จินนี่ เธอเป็นไงบ้าง......สีหน้าเธอไม่ดีเลย”
    ฉันเหลือบมองลูน่า แล้วหยิบหนังสือขึ้นมา
“เปล่านี่...”
ลูน่าแทบอยากจะร้องไห้ตรงนั้น
“จินนี่..ถ้าเธอยังโกรธชั้นเรื่องรอนอยู่ฉันก็จนใจนะ เธอจะโกรธชั้น ฉันบอกเธอเป็นร้อยๆรอบแล้วว่า รอนเขาแค่ห่วงเธอเท่านั้น ชั้นก็ห่วง ดูเธอตอนนี้ซิ...จินนี่”
        ลูน่าพูดแล้วหันสบตากับเดรโก
“ลูน่า....เธอวางใจเถอะเรื่องนั้นมันจบไปแล้ว ฉันไม่โกรธเธอจริงๆนะ แค่ช่วงนีฉันมีเรื่องต้องคิดนิดหน่อย..”
        ฉันมองลูน่าปลอบใจ เธอเข้ามากอดฉันเบาๆ ฉันยิ้ม
“ความจริงฉันโล่งอกไปเยอะเลย รอนรู้เรื่องแล้วอย่างน้อยเขาก็พยายามจะทำความเข้าใจอะไรหลายอย่างให้มากขึ้น เฮ้ย...แต่เขาก็น่ารำคาญชะมัด คอยดูแลเหมือนฉันเป็นเด็กๆ”
ลูน่าผละออกจากฉันหันไปมองเดรโก
“เกิดอะไรขึ้นแน่เดรโก....คงเรื่องใหญ่น่าดู”
เขาพยักหน้าช้าๆ
    “เมื่อกี้มีคนไปพบนกฮูก ที่เรือนพักนกฮูก ตายเกือบสามสิบตัว”
ฉันกับลูน่า สบตามัลฟอยนิ่งด้วยความตกใจ
    “นกฮูกตาย....”แล้วลูน่า หันเหลือบมองฉันทันที
“เธอคงไม่คิดว่าฉันจะทำอะไรโง่ๆแบบนั้นใช่ไหม”
    ฉันรีบพูดดักหน้า ลูน่าถึงกับส่ายศรีษะ
“ไม่รู้สิ จินนี่...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันเชื่อใจเธอ” เธอบอก
    “ลูน่าเธอควรกลับไปที่หอนอนก่อนนะ ถ้าอาจารย์มาตรวจจะลำบาก”
ฉันบอก ลูน่าลังเล มองเดรโกก่อนพยักหน้า
    “นี่เป็นครั้งแรกนะเดรโก ที่ฉันรู้สึกสบายใจที่เห็นนายอยู่ตรงนี้”
ลูน่าพูดขึ้นเบาๆยกไม้กายสิทธิ์เก็บไว้หลังหูซ้ายตามความเคยชิน
    “แล้วพวกเธอมีทางให้ชั้นเลือกไหม....”
เขาหันมาสบตาฉันอย่างมีความหมาย แต่สีหน้ายังเคร่งเครียด ลูน่าเดินผละออกไปก่อน
ฉันกับเดรโกเดินตามออกไปช้าๆ
    “เธอคงยังพูดไม่จบใช่ไหม”
ฉันเอ่ยขึ้นก่อน เดรโกพยักหน้า
    “เธอควรรู้เรื่องบางอย่างก่อน เกี่ยวกับแฮรี่”
เดรโกทิ้งระยะก่อนพูดต่อ
    “วันนี้ในวิชาแปลงร่าง จู่ๆเขาก็เจ็บแผลมากจนสลบไป”
ฉันถึงกับหยุดนิ่ง เหมือนไม่มีความรู้สึกความว่างเปล่าแผ่ไปทั่วร่างกายอีกครั้ง
    “การที่แฮรี่เจ็บแผลมันเกี่ยวกับเธอ นกฮูกที่โรงพักนกฮูกตายเพราะยาพิษจากต้นเลือดพิษ....มันก็คงเกี่ยวกับเธอ ยาพิษของเธอ....”
    เดรโกมองฉันนิ่งเหมือนค้นหาบางอย่าง ฉันพยักหน้าช้าๆยอมรับโดยดี
“ถึงเวลาแล้วจินนี่ วีสลีย์ เธอควรพูดความจริงในขณะที่เธอยังเป็นตัวของตัวเองในวันนี้”
    ฉันถึงกับหันหน้าสบตาเขาแทบทันที
    “เธอหมายถึงอะไร...ตัวของตัวเอง..เดรโก”
    “เธอรู้ว่าชั้นหมายถึงเรื่องอะไรจินนี่....” เขาพูดเสียงขรึมๆ แต่ฉันแทบหมดแรง
“เธอเจอเขาจริงๆใช่ไหมมัลฟอย.....ทอม  ริดเดิ้ล บนรถไฟ”
เดรโก ถึงกับขมวดคิ้ว ส่ายศรีษะ
    “ชั้นไม่เคยที่จะเจอใคร นอกจากเธอจินนี่  ชั้นเจอเธออีกคน  และเป็นคนเดียวกับที่อยู่บนไม้กวาดนั่น”
    เขาพูดช้าๆ ฉันทรุดตัวลงอย่างหมดแรง เดรโกจับแขนฉันไว้
“จินนี่..”
    “ไม่จริง...ก็ตอนนั้นฉันว่าตัวเองมีสติดีทุกอย่าง....ฉัน...กำลังจะเปลี่ยนไปมันรวดเร็วกว่าที่ฉันคิด ฉัน....”
    “จินนี่...ชั้นรู้ว่านั่นไม่ใช่ตัวเธอ”
    “เดรโก...ตอนนี้ฉันไม่แน่ใจตัวเองอะไรต่อไปแล้ว” ฉันถลกแขนเสื้อขึ้นถอดถุงมือข้างขวาออก มองรูปงูบาซิสก์ ที่ปรากฏขึ้น
    “มันไม่หายไปสักพักแล้ว เมื่อก่อนถ้ามันปรากฏขึ้นถ้าฉันใช้พลังออกไปมันจะหายไป แต่...ตอนนี้มันอยู่ตลอดเวลาและเริ่มปรากฏชัดขึ้น”
    ฉันบอกเดรโกแทบไม่รู้สึกตัวเลยว่าเสียงแหบพร่าแค่ไหน ฉันมองเดรโกที่ประคองฉันไว้ ฉันบีบแขนเขาแน่น
    “เดรโก....มีบางอย่างที่ฉันต้องบอกเธอ...มันสำคัญมาก...”
“ไม่...จินนี่...ยังไม่ต้องพูดอะไร..ชั้นจะพาเธอไปห้องพยาบาล”
เดรโกพยายามจะอุ้มฉันแต่ฉันจับแขนเขาแน่น
“ไม่....ตอนนี้ใครก็ช่วยชั้นไม่ได้แล้ว ฉันถูกพิษในร่างฉันมีพิษสองอย่างมันเป็นพิษงูบาซิสก์ กับพิษของแมงมุม ยาธรรมดารักษาฉันไม่ได้หรอก”
ฉันบอกอย่างแผ่วเบาเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย เดรโกพยายามตั้งสติ
“เธอบอกมา ชั้นต้องทำอย่างไร”
“ที่กระเป๋ากางเกง มีถุงยาห่อหนึ่งเธอคงเคยเห็น ”
ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ มือเขาก็จับกระเป๋ากางเกง
“นี่ใช่ไหม...” เขายกถุงสีดำ ฉันพยักหน้าช้าๆหมดแรง
“อย่ามองฉันอย่างนี้ซิเดรโก ไม่เห็นเหมือนกับเธอเลย”
“ชั้นแค่ไม่เข้าใจว่าคนประเภทไหน ที่กินยาพิษเป็นถุงๆ.....”
ยังที่เขาไม่ทันพูดจบ ฉับพลันฉันรับรู้ถึงพลังบางอย่างกระแทกผ่านเข้ามา เสียงของเดรโกก็ร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด มือจับหน้าอกแต่ยังประคองฉัน
“ปล่อยมือโสโครกของนายออกจากน้องสาวชั้นเดี๋ยวนี้”
เสียงของรอนดังขึ้น ชี้ไม้กายสิทธิ์มาทางเดรโก แต่เดรโกยิ้มเยียดมองไปทางรอน
“ถ้านายอยากเห็นน้องสาวนาย ถูกพิษกำเริบทรมานมากกว่านี้ก็ฆ่าชั้นตามสบาย”
รอนตกใจมองร่างฉันอย่างลังเล แล้ววิ่งมานั่งข้างมองฉันที่แทบไม่มีสติแล้ว หน้าของเขาซีดราวกับกระดาษแผ่นหนึ่ง
    “จินนี่ น้องเป็นอะไร” เขาร้องเสียงสั่น เดรโกประคองฉันขึ้นมา รอนสบตากับเดรโก เขาส่งฉันให้พี่ชายประคองต่อ
    “จินนี่...บอกมาเร็วต้องกินกี่เม็ด” เขาเทยาลงมือถึงกับมือสั่น รอนมองอย่างสงสัย
“นั่นยาอะไร”
    เดรโกไม่ตอบ เขาป้อนยาให้ฉันสองเม็ด รอนยื่นมือจะไปจับ
“นั่นยาอะไร นายเอายาอะไรให้จินนี่กิน” รอนตะโกนเสียงดังใส่หน้ามัลฟอย เมื่อเห็นฉันกุมท้องตัวเอง ตัวงอเป็นกุ้ง
    “หุบปากนายไปเลย รอน  แล้วเอามือของนายไปไกลๆยานี่ ถ้าไม่อยากถูกพิษตายไม่รู้ตัว...”
เดรโกปัดมือรอนออกไป ก้มมองดูฉันที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของรอนนิ่งๆ
รอนกอดฉันแน่นขึ้น ฉันรู้สึกถึงน้ำอุ่นๆที่ผ่านแขนเสื้อลงมา
    “จินนี่....น้องอย่าเป็นอะไรนะ..”
พี่ชายเสียงสั่นเครือ สักพักที่เดรโกมอง จับแขนเสื้อของรอน
    “ชั้นว่าก่อนที่จินนี่จะตายด้วยพิษกำเริบ เธอคงถูกนายรัดตายเพราะหายใจไม่ออก”
รอนเหมือนรู้สึกตัวเงยหน้าสบตาเดรโก คลายกอดฉัน
สักพักฉันเริ่มรู้สึกว่าร่างกายเริ่มปลอดโปร่งขึ้น ลืมตาขึ้นอีกครั้ง
    นี่เป็นครั้งแรกละมั่ง ที่ฉันเห็นรอยยิ้มจากดวงตาเขา รอยยิ้มที่ดีใจอย่างจริงใจเป็นครั้งแรกของเดรโก มัลฟอย
    “ชั้นรู้ว่าคนอย่างเธอคงไม่จบง่ายๆเพราะเรื่องนี้”
ฉันยิ้มกับเขาอย่างปลอดโปร่ง พยุงตัวขึ้นรอนมองฉันช่วยประคอง
    “หนูไม่เป็นอะไรแล้วค่ะพี่” ฉันยิ้มกับพี่ชาย เขาดึงฉันเขามากอดแน่น เหมือนกับวันที่เขาปรากฏตัวต่อหน้าฉันในห้องนอนของลูน่า เขาแค่กอดฉันไว้ไม่พูดอะไรสักคำ มีแต่ความอบอุ่นที่ไหลเอ่อเป็นน้ำตา
    “พี่ค่ะ....ถึงเวลาแล้ว....ที่ฉันจะเล่าความจริงทุกๆอย่างให้พวกพี่รู้....แล้วพวกพี่ก็หมดเวลามาทะเลาะกันอีกต่อไป นอกจากยอมรับความจริง”
    ฉันมองรอน กับเดรโก ยิ้มอย่างใจเย็น
.....................................................................................................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น