ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จินนี่ วีสลีย์

    ลำดับตอนที่ #14 : ประวัติพ่อมดแม่มดชั่วร้ายในตำนานฉบับสมบูรณ์

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 47


    ตอนที่ 14 ประวัติพ่อมดแม่มดชั่วร้ายในตำนานฉบับสมบูรณ์



        “ลูน่า ลูน่า....ฉันเองฉันอยู่นี่” ฉันกระซิบเบาๆ ลูน่าที่เพิ่งเดิน ผ่านประตูทางเข้าออก หอนอนของเรเวนคอล หยุดชะงักหันรีหันขวางมองหาฉัน

        “จินนี่.....เธอเองหรือ...เธออยู่ไหน...”

        “ฉันใช้คาถาหายตัว เธอจำได้ไหมฉันบอกว่าจะมาหา..เธอที่นี่”

    ลูน่าหลบทางเดินให้เพื่อนคนอื่น



        “งั้นตามชั้นมาก่อนจินนี่ ตอนนี้ที่ห้องฉันไม่มีใครอยู่แล้ว”

        ลูน่าพูดจบก็หันหลังเดินกลับเข้าหอ ฉันเดินตามเข้าไป เธอเดินนำฉันผ่านห้องนั่งเล่นรวม แล้วไปทางห้องนอนหญิง เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วฉันถึงใช้ปรากฏร่าง

    ลูน่าเมื่อเห็นฉันฉันถึงกับถลาเข้ามาหา



        “จินนี่ เธอหายไปไหนมา ตั้งแต่วันนั้น....เธอไม่มาหาชั้นเลย...”

    ฉันเสยผมที่ยุ่งเหยิงยิ่งกว่าลูน่าแล้ว

        “วันนั้น..ฉันแค่อยากอยู่คนเดียวนะ ฉันเข้าไปป่าต้องห้าม...”

    ฉันบอกเรียบๆ แต่ลูน่าคงแทบอยากร้องไห้ออกมา โผเข้ากอดฉัน

        “โถ...จินนี่...”



        “ฉันไม่เห็นเป็นไรสักหน่อยลูน่า.....ใครมาทำอะไรฉันได้...เดี๋ยวนี้เจ้าแมงมุมยักษ์พวกนั้นมันเห็นฉันมันก็กลัวหัวหดแล้ว.....มันไปหาอาหารแต่มัน...แต่มันโชคร้ายที่เจอฉันก่อน ตอนแรกมันก็มาแค่ตัวเดียว แต่เพื่อนๆมันมาช่วย ฉันก็เลยจัดการหมด....”

        คราวนี้ลูน่าถึงกับทรุดนั่งลงบนเตียง น้ำตาไหลออกมา

    ฉันมองหล่อน...ยืนนิ่ง..



        “อย่าเสียใจเลยลูน่า...คิดในแง่ดีอย่างน้อยฉันช่วยกำจัดมันสัตว์ที่รอนเกลียด....ถ้าคิดในแง่ดีขึ้นอีกมันก็ยังเป็นสัตว์ไม่ใช่คน...”

        คราวนี้ลูน่ายิ่งปล่อยโฮออกมา

        “ทำไม...มันต้องมีทางแก้ไขซิ...”ลูน่าเงยหน้ามองฉัน

        “ฉันจะสารภาพกับเธอ วันนั้นที่เกิดเรื่อง....”

    “มันเป็นอุบัติเหตุ จินนี่ใครๆก็เห็น....เธอแค่หยุดไม่อยู่เท่านั้นทั้งรอน เฮอร์ไมโอนี่ แล้ว มัลฟอยต่างก็ยืนยันให้เธอ...มันเป็นอุบัติเหตุ”

    เธอบอกเสียงสั่น จับแขนฉันแน่น แต่ฉันส่ายศรีษะ

    “เปล่า....ลูน่า ตอนนี้ฉันโกหกตัวเองไม่ได้อีกแล้ว ในช่วงเวลานั้นฉันไม่ได้แค่อยากที่ชนะแฮรี่ หรือโช แต่ฉันอยากจะ....”

    “พอแล้วจินนี่ วีสลีย์...หยุดพูดเดี๋ยวนี้....” ลูน่าปัดของที่โต๊ะข้างเตียงหล่นกระจาย ยืนจังก้าต่อหน้าฉัน ตะโกนใส่หน้าฉัน

    “เธอจำให้ดีนะ เธอคือจินนี่ จินนี่วีสลีย์ เธอมีสติดีทุกอย่าง เธอเป็นคนบอกเองไม่ใช่หรือว่าเธอเป็นคนกำหนดชะตาตัวเอง...ไม่ใช่คำทำนายงี่เง่านั้น...”



    ลูน่าทรุดลงกับพื้น ทุบพื้นอย่างแรง

    “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้...”

    ฉันก้มลงจับบ่าลูน่า

    “ตอนนี้ฉันไม่เป็นไรแล้วลูน่า.....ฉันเป็นตัวของตัวเองที่สุด ฉันไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอกนะ ฉันสัญญากับเพอซี่แล้ว เมื่อเช้าฉันไปโรงนกฮูกส่งข่าวให้เพอซี่ ...”



    ลูน่าหันมากอดฉัน

    “ถ้าเพอซี่ ทำงานไม่สำเร็จล่ะ แล้วเธอจะเป็นยังไง”

    “ที่เพอซี่ เข้าหาพ่อของเดรโก มันก็แค่ความหวังอันน้อยนิด แต่ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่....ฉันก็มีแผนสำรองแล้ว....มันอยู่กับเธอ..ของที่ฉันให้เธอเอามาอยู่ที่ไหน...”

    ลูน่าทำท่างงๆ ก่อนเดินไปที่หีบเก็บของตัวเอง หยิบหนังสือเก่าๆเล่มใหญ่มามันถูกเก็บเป็นอย่างดี

    “นี่มันประวัติพ่อมดแม่มดชั่วร้ายในตำนานฉบับสมบูรณ์ เธอจะเอาไปทำไม มันจะเป็นแผนสำรองที่ไหน”

    ฉันรับหนังสือมาจากลูน่า มองดูลูบมันสายตาเป็นประกายบางอย่าง

    “ฉันหาหนังสือเล่มนี้มานานแล้ว มันเป็นหนังสือต้องห้ามแม้แต่ในห้องสมุดฮอกวอตส์ก็ไม่มี”

    ลูน่ามองฉันอย่างไม่สบายใจ ฉันก้มลงมองหน้าปกหนังสือ ที่เขียนอักขระโบราณไว้ มันเป็นคำเตือน....ผู้ใดไม่มีอำนาแเกร่งกล้า...อย่าหาญเปิดตำราเล่มนี้..



    “จินนี่ จะดีหรือ ขนาดพ่อฉันยังเก็บไว้ในห้องลับ”

    “ในหนังสือเล่มนี้ ไม่ปรากฏชื่อคนเขียน แต่เชื่อกันว่าคนเขียนก็คือมือปราบมารคนหนึ่ง เพื่อเป็นกรณีศึกษาให้กับเหล่ามือปราบมารรุ่นต่อๆมา แต่เมื่อใช้ได้ไม่นานทางกระทรวงเวทย์มนต์ต้องสั่งทำลายทิ้งทันที”

    ฉันอธิบายให้ลูน่าฟัง เธอมองฉันอย่างตั้งใจ

    “ทำไม”



    “เพราะว่าในหนังสือเล่มนี้นอกจากจะมีวิธีการปราบ...ไม่ซิต้องบอกว่าวิธีการกำจัด พ่อมดแม่มดชั่วแล้ว มันยังรวบรวมคาถาของพ่อมดแม่มดอยู่ในนั่นด้วย...”

    ลูน่าถึงกับอึ้ง มองดูฉัน

    “เธอหมายถึงคาถา ที่พวกนั้นใช้ฆ่าคนหรือ...”

    ฉันยิ้ม จ้องเพื่อน แล้วพยักหน้า

    “เธอ.....คงไม่...”



    “ใช่แล้ว...ลูน่าฉันจะฝึกคาถาพวกนั่น....”ฉันบอกเสียงเย็น สีหน้าจริงจัง

    ลูน่าถึงกับหน้าซีด ฉันมองเพื่อนแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ

    “นี่เธอเชื่อฉันด้วยหรือ...แค่ล้อเล่นนะ...”

    เธอมองฉันอย่างไม่เชื่อใจเท่าไหร่

    “เรื่องจริงก็คือฉันกำลังหาวิธีว่าจะกำจัดร่างนี้ ยังไง...ก่อนวันที่ฉันจะควบคุมตัวเองไม่ได้”

    ลูน่าถึงกับหัวเสียขึ้นมาอีก แย่งหนังสือออกมาจากมือของฉันแล้วโยนไปบนพื้น

    “นี่ซิแผนสำรองโง่ๆของเธอ ดูซิเธอพูดพูดเหมือนที่ไม่มีอะไรสำคัญเลย  หรือเธอไม่มีพ่อแม่ ไม่มีพี่ชาย ไม่มีเพื่อนๆอยู่ในโลกนี้”

    ฉันไหวไหล่น้อยๆ ก้มลงไปหยิบตำราโบราณขึ้นมา

    “หรือว่าเธอเห็นว่ามีวิธีดีกว่านี้...มันก็แค่แผนนึงนะลูน่า เพอซี่เห็นด้วยกับวิธีนี้ ที่เขาไปใกล้ชิดลูเซียส มัลฟอย เพราะเรื่องนี้ด้วย”

    คิ้วของเธอแทบติดกันเมื่อได้ยินฉันพูด



    “เพอซี่ไปตีสนิทกับมัลฟอยเพื่อหนังสือเล่มนี้หรือ....แล้วเธอรู้เรื่องตำราเล่มนี้ได้อย่างไร.”

    “ตอนที่ฉันถูกทอมควบคุมจิตใจนั้น เขาเคยพาฉันไปในความทรงจำของเขา ฉันได้ยินเขาพูดถึงหนังสือเล่มนี้ ความจริงตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะะใช้มันเพื่อฝึกคาถาโบราณ

    แต่ตอนหลังเขาเองก็ต้องการทำลายมันเช่นกัน”

        “ทำไม?”



    “เพราะว่าตอนนั้นมันเองก็อันตรายกับตัวทอมเองเช่นกัน แต่ตอนนี้เขากลายเป็นลอร์ดโวลเดอมอร์แล้ว มันไม่สำคัญอะไรสำหรับเขาอีกแล้ว เขาไม่ใช่แค่พ่อมดชั่วร้าย แต่ตตอนนี้เขาคือปีศาจร้าย เขาตายแล้วกลับมาอีกครั้ง”

    “แต่เธอต้องการหนังสือเล่มนี้...”

    “เพราะฉันยังเป็นแม่มดอยู่ ฉันสามารถตายได้ด้วยวิธีการอย่างหนึ่งอย่างใดในหนังสือเล่มนี้”ฉันเงียบไปสักครู่ ก่อนพูดต่อ

    “ หนังสือนี้เหลืออยู่เพียงสามเล่มเท่านั้น เล่มแรกอยู่ที่กระทรวงเวทมนต์ ฝ่ายมือปราบมารเป็นผู้เก็บรักษาไว้อย่างดี แม้เพอซี่จะใช้วิธีการอย่างไรก็ไม่สามารถเข้าถึง



        เล่มที่สองทอม ริลเดิ้ล ขโมยไปจากห้องสมุดฮอกวอตส์เมื่อห้าสิบปีที่แล้ว จึงอธิบายได้ว่าทำไมห้องสมุดเก่าแก่ที่นี่จึงไม่มีหนังสือเล่มนี้อยู่ ต่อมาเราเข้าใจว่าคงไปตกอยู่กับคนใดคนหนึ่งในสาวกของเขา”

        “เธอก็เลยคิดว่าเป็นมัลฟอย....” ลูน่าครุ่นคิด ฉันพยักหน้า

    “มัลฟอยเป็นผู้เสกความตายสาวกเอกของลอร์ดโวลเดอมอร์....เขาเป็นผู้กำความลับหลายอย่างไว้   แล้วเขายังเคยให้สมุดบันทึกความทรงจำกับฉันได้ หนังสือเล่มอื่นเขาก็น่าจะเป็นผู้รักษา”

        “แต่เพอซี่ก็หาไม่เจอ”

    “ฉันบอกแล้วว่านั่นแค่ความคาดหวังส่วนหนึ่ง...”



        “แล้วเธอรู้ว่าเล่มที่สามอยู่กับครอบครัวชั้นได้อย่างไร”

        ฉันยิ้มกว้าง

        “ถ้าจะมีคนสมควรครอบครองตำราโบราณ ก็มีแต่ครอบครัวเลิฟกู๊ดนี่แหล่ะ นับเป็นร้อยๆปีที่บรรพบุรุษของเธอหลงใหลในตำราโบราณ ปู่ทวดของเธอยิ่งเป็นคนหวงแหนของเก่าเป็นอย่างยิ่ง ย่อมไม่ทำลายตำราเล่มนี้แน่นอน มีครั้งหนึ่งฉันลองถามเธอ ถึงเรื่องหนังสือเล่มนี้ เธอก็บอกว่าที่บ้านมีตำราเก่าแก่ ฉันจึงแน่ใจว่าอีกเล่มต้องอยู่กับบ้านเธอ”



        “เธอหลอกแม้แต่ชั้น...ชั้น...เธอให้ชั้นเป็นคนเอามา นั้นซินะใครจะสงสัยลูกสาวตัวเอง....” ลูน่ามองฉันด้วยสายตาผิดหวัง

    “ลูน่า ฉันขอโทษจริงๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่หลอกเธอ แต่ที่ฉันคิดไม่ถึงที่เธอไม่รู้ว่ามันสำคัญแค่ไหน แล้ว..ตอนนี้...มันสำคัญกับฉันมาก”

    ฉันมองเพื่อนอย่างท้อใจ เมื่อเห็นท่าทางอย่างบึ้งตึงอยู่

    “ลูน่า...ฉัน..ไม่รู้จะพูดยังไงนะ แต่ฉันสัญญาได้อย่างหนึ่ง ฉันจะดูเฉพาะวิธีฆ่าพ่อมดแม่มดเท่านั้น ฉันจะไม่แตะต้อง เรื่องคาถาเลย”

    เธอเมินหน้าหนี ฉันหันไปอีกทางเมื่อได้ยินเสียงบางอย่าง กวาดสายตามองรอบๆรู้สึกถึงความผิดปกติ แต่ไม่เห็นใคร

    “ชั้นเองก็ขอโทษเธอด้วยจินนี่..”



    ลูน่าเอ่ยเสียงเย็นขึ้น ฉันมองอย่างสงสัย

    “ชั้นรับเรื่องนี้คนเดียวไม่ไหวแล้วจริงๆ ชั้นไม่โกรธเธอเรื่องนี้หรอก..ชั้นจะโกรธเธอไปทำไมในเมื่อเธอกำลังหาทางทำลายตัวเองอยู่...” หล่อนสบตาฉัน

    ฉันได้ยินเสียงจากข้างหลัง หันกลับไปอีกครั้ง  ร่างชายร่างสูงโปร่งคนหนึ่งปรากฏออกมา

    “...เรา..หายกันแล้วนะจินนี่...” เสียงลูน่าดังผ่านเข้ามา...



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×