ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : คำถาม
ตอนที่ 11     คำถาม
            คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าในโลกแห่งเวทมนต์นี้พ่อมดที่ทุกคนยำเกรงและทรงพลังอำนาจมากที่สุดคือดัมเบิลดอร์ ผู้ที่แม้แต่ลอร์ดโวลเดอมอร์ยังไม่อยากที่จะเผชิญหน้าด้วย ผู้ที่เคยสัมผัสถึงรังสีความชั่วร้ายของทอม ริดเดิ้ล เมื่อห้าสิบปีที่แล้ว...
    ตั้งแต่ฉันเห็นภาพในแพนซิฟของทอม ที่คอยจับตาดูทอม ตั้งแต่นั้นมาฉันคอยหลีกเลี่ยงที่ต้องเผชิญหน้ากับเขาเช่นกัน คำเตือนของทอมที่ต้องอยู่ห่างศาตราจาร์ดัมเบิลดอร์เป็นสิ่งที่ฉันไม่ใส่ใจไม่ได้ เขาไม่ใช่เพียงพ่อมดชราที่พลังชีวิตจะลดลงตามอายุไข
แต่กลับเป็นพ่อมดที่นับวันจะประมาทไม่ได้....ไม่เคยมีใครรู้ถึงความเป็นมาของดัมเบิลดอร์....เขาอยู่ที่ฮอกต์วอตมานานนับปีโดยมีเหตุผลบางอย่าง...
แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรอะไรก็ตาม ในส่วนลึกของฉันคอยบอกว่ามันไม่เป็นเป็นผลดีกับฉันเลย......แล้วตอนนี้ชายชราผมสีเทา..เครายาวถึงอก แววตาอบอุ่น ใจดี แต่ฉันรู้ว่าสายตาของเขาอาจคอยสอดส่องอะไรบางอย่าง ทอดสายตามองฉันอยู่
มันไม่ค่อยยุติธรรมเลย ที่ฉันต้องพบกับบุคคลที่ไม่อยากเผชิญหน้าในยามที่อ่อนแอเช่นนี้ ฉันกลัวเขาจะรู้ถึงสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงฉันกับทอม ...และลอร์ดโวลเดอมอร์....
“ถ้าเธอจะคิดให้ดัมเบิลดอร์..ช่วยเธอคิดผิดแล้ว..ตาเฒ่านั้นทำทุกอย่างเพื่อเฝ้าฮอกตวอตมาครึ่งค่อนชีวิตเพราะมีจุดประสงค์....ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์จะไม่ปล่อยแม้เป็นเรื่องเล็กน้อย”
    เสียงทอมยังก้องอยู่ในความคิดฉันตลอดเวลา
    ฉันเงยหน้าสบตากับดัมเบิลดอร์....ยิ้มให้เขาน้อยๆ  เขายิ้มมองมาด้วยสายตาห่วงใย
    “มิสวีสลีย์....ดีใจที่เห็นเธอฟื้น....ไม่ซิตื่น...ฉันกังวลใจมาก ที่เห็นหนูหลับไปนาน..แล้วกำลังตัดสินใจจะส่งข่าวไปหาพ่อกับแม่เธอ...”
    ฉันทำท่าหน้าตื่น..ตกใจ
    “ไม่นะ..ค่ะอย่าบอกแม่กับพ่อนะค่ะศาตราจารย์...หนูไม่ดีเอง”
ฉันอึกอัก เขามองฉันอย่างสงสัย ฉันหลบตา
    เขาก้มหน้ามาใกล้ๆเหมือนกระซิบยิ้มปลอบใจ
    “ความลับหรือ..มิสวิสลีย์”
ฉันเลียริมฝีปาก สายตามองผ่านไปยังปลายเตียงที่เห็นแฮรี่ กับเดรโก ยืนอยู่คนล่ะมุมของเตียงพยาบาล
    “ถ้าหนูบอกไป...เออ..ไม่...”
    ฉันทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ตาร้อนผ่าวที่ขอบตา
    “มิสวีสลีย์...หนูมีอะไรพูดมาเถอะ..”
“ถ้าหนูบอกเฟร็ด...กับ.....จอร์จ...”
    “เกี่ยวข้องกับพี่ชายหนูหรือ....”ดัมเบิลดอร์ถาม
ฉันพยักหน้าช้าๆ
“มันเป็นลูกอมยาสลบที่พวกพี่เคยทดลอง แต่ยังไม่สำเร็จ...แล้วหนูไปเจอเข้า..หนูไม่รู้ว่ามันเป็นลูกอมยาสลบหนูลืมมันแล้วด้วยซ้ำ.....ตอนอยู่บนรถไฟเลยกินเข้าไป...”
    ดัมเบิลเดอร์มองฉัน ไม่ได้พูดอะไรออกมา ฉันจับมือเขา แล้วฉันจึงรู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดอย่างที่สุด  มือฉันถึงกับร้อนผ่าวไปถึงต้นแขน เขาหรี่ตามองฉันนิ่งชั่วขณะ
    ฉันไม่ปล่อยให้เขาคิดมาก ร้องไห้ออกมา
    “เฟร็ดกับจอร์จไม่ผิดนะค่ะ...เขาเลิกทดลองไปนานแล้ว.....หนูผิดเองที่กินอะไรไม่ดูให้ดีๆเลยเป็นเรื่องใหญ่ ทำให้ทุกคนคนเป็นห่วง...หนูขอโทษนะค่ะศาตราจารย์”
ฉันป้ายน้ำตาสะอื้นเบาๆ ศาตราจารย์ตบบ่าฉันเบาๆ
    “หนูไม่เป็นอะไร ก็ดีแล้วมิสวีสลีย์”
    ฉันสบตาชายชราแล้วพยักหน้า
    “ความปลอดภัยของนักเรียนเด็กๆที่นี่...เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด...”
ดัมเบิลดอร์ กวาดสายตามองไปรอบๆห้องมองแฮรี่  เดรโก แล้วจึงหันมามองฉันอีกครั้ง
    “แต่ ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าหนูไปหลับอยู่ที่ตู้รถไฟเก็บของบ้านสลิธรีนได้อย่างไร...”
    ฉันแทบอยากจะบ้าตายเมื่อเจอคำถามแบบนี้..เริ่มโมโหดัมเบิลดอร์ และคิดว่าเขาเป็นตาเฒ่าชอบสอดรู้ขึ้นมาจริงๆ ฉันมองแฮรี่ที่เมินหน้าหนีเมื่อสบตากับฉันอย่างไม่ตั้งใจ แล้วมองเดรโก
    ฉันก้มหน้าหลบตาศาตราจารย์
    “หนูคง...ปิดไม่ได้แล้วค่ะ....ความจริง..”
ฉันมองไปทางเดรโกอีกครั้ง....ที่ยืนกอดอกอยู่ ฉันมองเขานิ่ง
    “ความจริง....หนู..หนู..กับเดรก..เออ..เดรโก..ติดต่อกันมาสักพักแล้วค่ะ หนูนัดกับเดรกที่.....แล้ว...”
คนที่ถูกเอ่ยชื่อถึงกับสำลักออกมาแห้งๆ  เหลือบสายตามองมาทางฉัน
    แต่ฉันกลับได้ยินอีกเสียงหนึ่งที่เดินผละออกไป
    “อือ...เข้าใจล่ะ....”
เสียงแหบๆเอ่ยขึ้น ยิ้มให้ฉัน
    “เรื่องของเด็กหนุ่มสาว กลับตามไม่ทัน...ฉันคงแก่แล้วจริงๆ”
    อาจารย์ใหญ่ลูบผมฉันเบาๆ ยิ้มแล้วหันหลังกลับเดินออกไป
    ฉันมองตามร่างสูงใหญ่ ท่าทางเกรงขามในชุดคลุมสีดำออกไป ทางประตู
แล้วสายตาต้องชะงัก เมื่อเห็นโทมัส ดีน ถือดอกกุหลาบนิ่งอยู่ ท่าทางทำอะไรไม่ถูก เขาเข้ามาตอนไหน..ไม่ทราบ.....แต่คงทันที่จะได้ยินอะไรที่ทำให้เขาเสียใจได้
    เขามองช่ออกกุหลาบสีแดงสดใส เหมือนตัดสินใจ แล้วเดินก้าวเข้ามาหา
ฉันมองเขาพูดไม่ออกเช่นกันที่เห็นท่าทางของเขา
เขาฝืนยิ้ม ฉันยิ้มน้อยๆตอบ  เขาก้มมองดูกุหลาบอีกครั้ง สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนหันมายิ้มอีกครั้ง ยื่นดอกกุหลาบให้
    “เธอเคยบอกในจดหมาย ว่าชอบกุหลาบสีแดงมาก...ชั้น..แค่คิดว่าเธอจะตื่นมาพบกับมัน....แต่..มันคงไม่มีความหมายอะไรแล้ว..ฉันมันโง่ไปเอง..”
    ฉันมองกุหลาบนิ่งพูดไม่ออก ฉันรู้ว่าให้ความหวังเขาไปมาก พอๆกับที่ให้โอกาสตัวเองที่จะหลบหลีกได้
    “ดอกกุหลาบสวยมาก...” ฉันพูดจากใจจริง และรู้สึกถึงความจริงใจของผู้ให้ บางที่คนที่ฉันรู้สึกๆด้วย มีแต่ดีน ที่ให้ความจริงใจกับันมากที่สุด ฉันถึงไม่ได้ปฏิเสธเขาไปตั้งแต่แรกเมื่อเขาเปิดใจกับฉัน
    “ดีใจที่เธอไม่เป็นอะไรนะ....ฉันคงต้องไปแล้ว..”
เขาสบตาฉันด้วยความปวดร้าว ฉันสงสารเขาจับใจ
    “ดีน...”
    “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว...จินนี่...บางอย่างไม่ต้องพูดออกมาก็ได้...ชั้นเข้าใจสถานการณ์ดี”
    “ขอโทษนะดีน...”ฉันบอกสียงเบาไม่กล้ามองเขาที่เดินออกไป
    สักพักใหญ่ๆกว่าที่ฉันจะเงยหน้ามาอีกครั้ง ก็พบเด็กหนุ่มผมสีทองยืน มือล้วงกระเป๋าทั้งสองข้างอยู่ปลายเตียง
    “..ไอ้หมอนั่นเทียวไปเทียว..ตั้งแต่วันแรกแล้ว...”
    “แล้ว เธอทำไมยังอยู่ที่นี่อีก” ฉันถามห้วนๆไม่จำเป็นต้องแสแสร้งอะไรอีก
“ถ้าชั้นไม่อยู่ เธอจะได้ข้ออ้างสวยๆหรือ....หรือเธอจะใช้ชื่อแฮรี่ดี”
    เขามองฉันตรงๆ ฉันเงียบเมินหน้าไปทางอื่น
    “แต่..คงยากนะดูพวกเธอมีปัญหาแก้ไม่ได้อยู่......”
    ฉันลุกขึ้นยืน ยิ้มเย็นกับเดรโก
    “เรื่องนี้ เป็นเรื่องของฉัน” ฉันจะเดินออกไป
    “มันจะเป็นเรื่องของพวกวีสลีย์ ถ้าทั้งเธอ และ พี่ชายไม่ดึงครอบครัวเราเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย...”
    ฉันหยุดนิ่ง
    “แล้วทำไมเด็กบ้านกริฟฟินดอร์ ถึงมีรูปงู สัญลักษณ์บ้านสลิธรีนที่บนมือ...”
มัลฟอยเดิน อ้อมมาหยุดที่ตรงหน้า มองฉันตรงๆ ยื่นของถุงบางอย่างต่อหน้าฉัน
    “หรือ...มันเกี่ยวข้อง อะไรกับยาพิษในถุงนี้”
    ฉันถึงกับขมวดคิ้ว มองถุงที่ใส่ส่วนผสมยาต่างๆ ฉันลืมมันสนิทหลังจากที่หมดสติไป แล้วเดรโกคงจะพบมัน พร้อมๆกับที่เห็นบาซิสก์ปรากฏตอนฉันไม่รู้เรื่อง
    แล้วเรื่องราวต่างๆ ที่เขาพบรบกวนจิตใจจึงต้องให้เขาวนเวียนอยู่แถวนี้
    “ปัญหาทุกปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องมีคำตอบเสมอไปหรอกนะเดรโก..แต่ขอให้เธอรู้ว่า เรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปมันเกี่ยวข้องกับทุกคน.....โดยเฉพาะบ้านกริฟฟินดอร์ และบ้านสลิธรีน....”
    ฉันสบตากับเขาตรงๆ ฉันยื่นมือขวาออกไป ไม่มีรูปอะไรปรากฏ แต่ฉันรู้ว่าเด็กเลือดบ้านสลิธรีนอย่างเดรโก คงสัมผัสถึงกลิ่นอายการต่อสู้ได้
......................................................
            คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าในโลกแห่งเวทมนต์นี้พ่อมดที่ทุกคนยำเกรงและทรงพลังอำนาจมากที่สุดคือดัมเบิลดอร์ ผู้ที่แม้แต่ลอร์ดโวลเดอมอร์ยังไม่อยากที่จะเผชิญหน้าด้วย ผู้ที่เคยสัมผัสถึงรังสีความชั่วร้ายของทอม ริดเดิ้ล เมื่อห้าสิบปีที่แล้ว...
    ตั้งแต่ฉันเห็นภาพในแพนซิฟของทอม ที่คอยจับตาดูทอม ตั้งแต่นั้นมาฉันคอยหลีกเลี่ยงที่ต้องเผชิญหน้ากับเขาเช่นกัน คำเตือนของทอมที่ต้องอยู่ห่างศาตราจาร์ดัมเบิลดอร์เป็นสิ่งที่ฉันไม่ใส่ใจไม่ได้ เขาไม่ใช่เพียงพ่อมดชราที่พลังชีวิตจะลดลงตามอายุไข
แต่กลับเป็นพ่อมดที่นับวันจะประมาทไม่ได้....ไม่เคยมีใครรู้ถึงความเป็นมาของดัมเบิลดอร์....เขาอยู่ที่ฮอกต์วอตมานานนับปีโดยมีเหตุผลบางอย่าง...
แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรอะไรก็ตาม ในส่วนลึกของฉันคอยบอกว่ามันไม่เป็นเป็นผลดีกับฉันเลย......แล้วตอนนี้ชายชราผมสีเทา..เครายาวถึงอก แววตาอบอุ่น ใจดี แต่ฉันรู้ว่าสายตาของเขาอาจคอยสอดส่องอะไรบางอย่าง ทอดสายตามองฉันอยู่
มันไม่ค่อยยุติธรรมเลย ที่ฉันต้องพบกับบุคคลที่ไม่อยากเผชิญหน้าในยามที่อ่อนแอเช่นนี้ ฉันกลัวเขาจะรู้ถึงสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงฉันกับทอม ...และลอร์ดโวลเดอมอร์....
“ถ้าเธอจะคิดให้ดัมเบิลดอร์..ช่วยเธอคิดผิดแล้ว..ตาเฒ่านั้นทำทุกอย่างเพื่อเฝ้าฮอกตวอตมาครึ่งค่อนชีวิตเพราะมีจุดประสงค์....ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์จะไม่ปล่อยแม้เป็นเรื่องเล็กน้อย”
    เสียงทอมยังก้องอยู่ในความคิดฉันตลอดเวลา
    ฉันเงยหน้าสบตากับดัมเบิลดอร์....ยิ้มให้เขาน้อยๆ  เขายิ้มมองมาด้วยสายตาห่วงใย
    “มิสวีสลีย์....ดีใจที่เห็นเธอฟื้น....ไม่ซิตื่น...ฉันกังวลใจมาก ที่เห็นหนูหลับไปนาน..แล้วกำลังตัดสินใจจะส่งข่าวไปหาพ่อกับแม่เธอ...”
    ฉันทำท่าหน้าตื่น..ตกใจ
    “ไม่นะ..ค่ะอย่าบอกแม่กับพ่อนะค่ะศาตราจารย์...หนูไม่ดีเอง”
ฉันอึกอัก เขามองฉันอย่างสงสัย ฉันหลบตา
    เขาก้มหน้ามาใกล้ๆเหมือนกระซิบยิ้มปลอบใจ
    “ความลับหรือ..มิสวิสลีย์”
ฉันเลียริมฝีปาก สายตามองผ่านไปยังปลายเตียงที่เห็นแฮรี่ กับเดรโก ยืนอยู่คนล่ะมุมของเตียงพยาบาล
    “ถ้าหนูบอกไป...เออ..ไม่...”
    ฉันทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ตาร้อนผ่าวที่ขอบตา
    “มิสวีสลีย์...หนูมีอะไรพูดมาเถอะ..”
“ถ้าหนูบอกเฟร็ด...กับ.....จอร์จ...”
    “เกี่ยวข้องกับพี่ชายหนูหรือ....”ดัมเบิลดอร์ถาม
ฉันพยักหน้าช้าๆ
“มันเป็นลูกอมยาสลบที่พวกพี่เคยทดลอง แต่ยังไม่สำเร็จ...แล้วหนูไปเจอเข้า..หนูไม่รู้ว่ามันเป็นลูกอมยาสลบหนูลืมมันแล้วด้วยซ้ำ.....ตอนอยู่บนรถไฟเลยกินเข้าไป...”
    ดัมเบิลเดอร์มองฉัน ไม่ได้พูดอะไรออกมา ฉันจับมือเขา แล้วฉันจึงรู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดอย่างที่สุด  มือฉันถึงกับร้อนผ่าวไปถึงต้นแขน เขาหรี่ตามองฉันนิ่งชั่วขณะ
    ฉันไม่ปล่อยให้เขาคิดมาก ร้องไห้ออกมา
    “เฟร็ดกับจอร์จไม่ผิดนะค่ะ...เขาเลิกทดลองไปนานแล้ว.....หนูผิดเองที่กินอะไรไม่ดูให้ดีๆเลยเป็นเรื่องใหญ่ ทำให้ทุกคนคนเป็นห่วง...หนูขอโทษนะค่ะศาตราจารย์”
ฉันป้ายน้ำตาสะอื้นเบาๆ ศาตราจารย์ตบบ่าฉันเบาๆ
    “หนูไม่เป็นอะไร ก็ดีแล้วมิสวีสลีย์”
    ฉันสบตาชายชราแล้วพยักหน้า
    “ความปลอดภัยของนักเรียนเด็กๆที่นี่...เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด...”
ดัมเบิลดอร์ กวาดสายตามองไปรอบๆห้องมองแฮรี่  เดรโก แล้วจึงหันมามองฉันอีกครั้ง
    “แต่ ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าหนูไปหลับอยู่ที่ตู้รถไฟเก็บของบ้านสลิธรีนได้อย่างไร...”
    ฉันแทบอยากจะบ้าตายเมื่อเจอคำถามแบบนี้..เริ่มโมโหดัมเบิลดอร์ และคิดว่าเขาเป็นตาเฒ่าชอบสอดรู้ขึ้นมาจริงๆ ฉันมองแฮรี่ที่เมินหน้าหนีเมื่อสบตากับฉันอย่างไม่ตั้งใจ แล้วมองเดรโก
    ฉันก้มหน้าหลบตาศาตราจารย์
    “หนูคง...ปิดไม่ได้แล้วค่ะ....ความจริง..”
ฉันมองไปทางเดรโกอีกครั้ง....ที่ยืนกอดอกอยู่ ฉันมองเขานิ่ง
    “ความจริง....หนู..หนู..กับเดรก..เออ..เดรโก..ติดต่อกันมาสักพักแล้วค่ะ หนูนัดกับเดรกที่.....แล้ว...”
คนที่ถูกเอ่ยชื่อถึงกับสำลักออกมาแห้งๆ  เหลือบสายตามองมาทางฉัน
    แต่ฉันกลับได้ยินอีกเสียงหนึ่งที่เดินผละออกไป
    “อือ...เข้าใจล่ะ....”
เสียงแหบๆเอ่ยขึ้น ยิ้มให้ฉัน
    “เรื่องของเด็กหนุ่มสาว กลับตามไม่ทัน...ฉันคงแก่แล้วจริงๆ”
    อาจารย์ใหญ่ลูบผมฉันเบาๆ ยิ้มแล้วหันหลังกลับเดินออกไป
    ฉันมองตามร่างสูงใหญ่ ท่าทางเกรงขามในชุดคลุมสีดำออกไป ทางประตู
แล้วสายตาต้องชะงัก เมื่อเห็นโทมัส ดีน ถือดอกกุหลาบนิ่งอยู่ ท่าทางทำอะไรไม่ถูก เขาเข้ามาตอนไหน..ไม่ทราบ.....แต่คงทันที่จะได้ยินอะไรที่ทำให้เขาเสียใจได้
    เขามองช่ออกกุหลาบสีแดงสดใส เหมือนตัดสินใจ แล้วเดินก้าวเข้ามาหา
ฉันมองเขาพูดไม่ออกเช่นกันที่เห็นท่าทางของเขา
เขาฝืนยิ้ม ฉันยิ้มน้อยๆตอบ  เขาก้มมองดูกุหลาบอีกครั้ง สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนหันมายิ้มอีกครั้ง ยื่นดอกกุหลาบให้
    “เธอเคยบอกในจดหมาย ว่าชอบกุหลาบสีแดงมาก...ชั้น..แค่คิดว่าเธอจะตื่นมาพบกับมัน....แต่..มันคงไม่มีความหมายอะไรแล้ว..ฉันมันโง่ไปเอง..”
    ฉันมองกุหลาบนิ่งพูดไม่ออก ฉันรู้ว่าให้ความหวังเขาไปมาก พอๆกับที่ให้โอกาสตัวเองที่จะหลบหลีกได้
    “ดอกกุหลาบสวยมาก...” ฉันพูดจากใจจริง และรู้สึกถึงความจริงใจของผู้ให้ บางที่คนที่ฉันรู้สึกๆด้วย มีแต่ดีน ที่ให้ความจริงใจกับันมากที่สุด ฉันถึงไม่ได้ปฏิเสธเขาไปตั้งแต่แรกเมื่อเขาเปิดใจกับฉัน
    “ดีใจที่เธอไม่เป็นอะไรนะ....ฉันคงต้องไปแล้ว..”
เขาสบตาฉันด้วยความปวดร้าว ฉันสงสารเขาจับใจ
    “ดีน...”
    “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว...จินนี่...บางอย่างไม่ต้องพูดออกมาก็ได้...ชั้นเข้าใจสถานการณ์ดี”
    “ขอโทษนะดีน...”ฉันบอกสียงเบาไม่กล้ามองเขาที่เดินออกไป
    สักพักใหญ่ๆกว่าที่ฉันจะเงยหน้ามาอีกครั้ง ก็พบเด็กหนุ่มผมสีทองยืน มือล้วงกระเป๋าทั้งสองข้างอยู่ปลายเตียง
    “..ไอ้หมอนั่นเทียวไปเทียว..ตั้งแต่วันแรกแล้ว...”
    “แล้ว เธอทำไมยังอยู่ที่นี่อีก” ฉันถามห้วนๆไม่จำเป็นต้องแสแสร้งอะไรอีก
“ถ้าชั้นไม่อยู่ เธอจะได้ข้ออ้างสวยๆหรือ....หรือเธอจะใช้ชื่อแฮรี่ดี”
    เขามองฉันตรงๆ ฉันเงียบเมินหน้าไปทางอื่น
    “แต่..คงยากนะดูพวกเธอมีปัญหาแก้ไม่ได้อยู่......”
    ฉันลุกขึ้นยืน ยิ้มเย็นกับเดรโก
    “เรื่องนี้ เป็นเรื่องของฉัน” ฉันจะเดินออกไป
    “มันจะเป็นเรื่องของพวกวีสลีย์ ถ้าทั้งเธอ และ พี่ชายไม่ดึงครอบครัวเราเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย...”
    ฉันหยุดนิ่ง
    “แล้วทำไมเด็กบ้านกริฟฟินดอร์ ถึงมีรูปงู สัญลักษณ์บ้านสลิธรีนที่บนมือ...”
มัลฟอยเดิน อ้อมมาหยุดที่ตรงหน้า มองฉันตรงๆ ยื่นของถุงบางอย่างต่อหน้าฉัน
    “หรือ...มันเกี่ยวข้อง อะไรกับยาพิษในถุงนี้”
    ฉันถึงกับขมวดคิ้ว มองถุงที่ใส่ส่วนผสมยาต่างๆ ฉันลืมมันสนิทหลังจากที่หมดสติไป แล้วเดรโกคงจะพบมัน พร้อมๆกับที่เห็นบาซิสก์ปรากฏตอนฉันไม่รู้เรื่อง
    แล้วเรื่องราวต่างๆ ที่เขาพบรบกวนจิตใจจึงต้องให้เขาวนเวียนอยู่แถวนี้
    “ปัญหาทุกปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องมีคำตอบเสมอไปหรอกนะเดรโก..แต่ขอให้เธอรู้ว่า เรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปมันเกี่ยวข้องกับทุกคน.....โดยเฉพาะบ้านกริฟฟินดอร์ และบ้านสลิธรีน....”
    ฉันสบตากับเขาตรงๆ ฉันยื่นมือขวาออกไป ไม่มีรูปอะไรปรากฏ แต่ฉันรู้ว่าเด็กเลือดบ้านสลิธรีนอย่างเดรโก คงสัมผัสถึงกลิ่นอายการต่อสู้ได้
......................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น