ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ป่าต้องห้าม
ตอนที่10  ป่าต้องห้าม
        การเดินทางไปฮอกวอกต์ครั้งนี้ มันแตกต่างจากทุกครั้ง ไม่มีเสียงคุยกับรอนหรือกับเพื่อนๆ
มีเพียงเสียงวู๊ดรถไฟที่พอจะทำให้ฉันได้สติบ้าง หลังจากที่ตกอยู่ในความเงียบคนเดียว
หลังจากที่เก็บของแล้วฉันรีบใช้คาถาหายตัวแล้วมาหลบซุกอยู่คนเดียวเงียบๆที่ตู้เก็บของ
ฉันไม่อยากเจอผู้คนหรือเรื่องใดๆเลย ฉันรู้สึกผิดมหันต์ที่รอนผู้ร่าเริงต้องเสียใจมากขนาดนี้ สำหรับฉันแล้วในบรรดาพี่ชายรอนเป็นเหมือนเพื่อนฉันมากที่สุด แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่แสดงว่าเอาใจฉันตลอดเวลา แต่ฉันก็รู้ว่าเขาเองห่วงใยฉันไม่แพ้พี่ชายคนอื่น เขาไม่ใช่คนที่แสแสร้ง หรือเก็บอารมณ์ได้ดีนัก แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้รอนเปลี่ยนไปมากเขาระเบิดอารมณ์ออกมากับเพอซี่อย่างไม่ยั้งมือ มันคงเป็นสิ่งเดียวที่พอช่วยทั้งเขาและเพอซี่ได้
แล้วจู่ๆฉันก็รู้สึกปวดร้าวถึงหัวใจเมื่อนึกถึงสายตาของแฮรี่ สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดคือเขาเกลียดฉัน
“ทรมานใช่ไหมจินนี่......”เสียงเบาหวิว ลอยมาจากที่ไกลแสนไกล
“ทอม...”
“อีกไม่นานหรอกจินนี่....เราจะได้พบกันอีก...”
“....ฉันต้องทำสำเร็จ......”ฉันบอกด้วยเสียงเบาแทบขาดใจ ร่างกายปวดร้าวไป
ทุกอนู “เธอจะไม่มีวันหลีกหนีชะตาของเราไปได้...ชีวิตเธอ...คือของชั้น...”
    เสียงเบาหวิวหายลอยไปพร้อมกับเสียงรถไฟ และสติของฉัน...
    “สำเร็จ....ทอม..ฉันต้องทำสำเร็จ..” ฉันเหมือนพูดอยู่ในความฝัน....
...ฉันกำลังเดิน ไป...เดินเข้าไปในป่าต้องห้ามท่ามกลางเงาครึมของต้นไม้ มีเพียงแสงสลัวของดวงจันทร์ที่ทอดแสงส่องลงมาอย่างอ่อนแรง
    มือขวาของฉันปวดร้าวแทบระเบิดออก แสงรูปงูบาซิสก์ปรากฏพันรอบข้อมือ
    “ปล่อยมันออกไปซิ....ปล่อยพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุดของเธอออกไป”
เสียงดังก้องในความคิด...ฉันกัดฟัน
    “ทอม...ไม่...เธอตายไปแล้ว....”
    ร่างขอทอมปรากฏอย่างเลือนลาง เดินมาหยุดต่อหน้าฉัน
“ใช่ชั้นยังไม่ตาย....ฉันอยู่กับเธอตลอดเวลา...”
ฉันรู้สึกเจ็บที่กลางหน้าอกขึ้นมา
    “คงมีคำถามมากมายจากใจ....ของเธอ...ว่าทำไม”
    ฉันมองเขานิ่ง ภาพของทอมแม้เลือนลางแต่กลับแจ่มใจในจิตใจฉัน
เขายื่นมือชี้มาที่ตัวฉัน
    “ถามใจเธอดูซิ...ว่าชั้นทำไมถึงยังอยู่....จิตใจที่ก้นบึ้งของเธอ..ความชั่วร้ายที่ยังหลบซ่อนอยู่..”
    ฉันรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ไปทั่วร่างกาย
    “แก..ไม่มีวันควบคุมฉันได้.....”
    “เธอแน่ใจหรือ...ด้วยอำนาจของลอร์ดโดโวมอ..ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้..”
    “แก..มันแค่ความทรงจำที่เลือนลาง..ไม่มีอำนาจใดที่ช่วยแกได้..ไม่อย่างนั้นร่างของแกก็ต้องรู้แล้ว..”
    ฉันตอบไปออย่างมีสติมากขึ้น ทอมสีหน้าเปลี่ยนไปแววตาโกรธแค้น
    “อย่าโอหังเลยจินนี่...เธอจะค่อยๆเปลี่ยนไปความชั่วร้ายจะปรากฏ ดวงดาวมฤตยูปรากฏ...ฉันจะเห็นเธอ...ดวงดาวของเธอชะตาของเธอ..ร่างที่แฮรี่จะไม่มีวันฆ่าได้”    ทอมหัวเราะอย่างผู้กำชัย
คำพูดของเขาทำให้ฉันมึนงง ภาพในลูกแก้วพยากรณ์เหมือนปรากฏอยู่ตรงหน้าอีกครั้งฉันเหมือนขาดสติ
“อะวาดา เคดาฟ รา”
คาถา คำสาปพิฆาตถูกปล่อยออกไป แสงงูบาซิสก์นับสิบตัว พุงเข้าหาทอมอย่างบ้าคลั่ง ผ่านตัวเขาออกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะเยาะ
พร้อมกับทะลุผ่านต้นไม้ทึบ แมงมุมยักษ์ลูกหลานอาราก็อกที่รอหาเหยื่อที่หลงเข้ามา....มันคงดีใจได้กลิ่นอันหอมหวลของเนื้อมนุษย์ .เนื้อของเด็กสาวที่พวกมันไม่เคยลิ้มลอง...ใครที่หลงผ่านมาจะไม่มีวันผ่านพ้นออกไปได้
ขณะที่พวกมันกำลังเดินตรงไปหาเหยื่ออย่างกระหยิ่มใจนั้น พวกมันก็เห็นแสงหนึ่งพุ่งเข้ามา แสงงูนับสิบตัวผ่านพวกมัน...แม้แต่คิดในใจยังไม่ได้คิดว่าพวกมันตายแล้ว......อาหารมื้อนี้ของมันไกลเกินตัวมันไปแล้ว
ฉันปล่อยคาถาไปอย่างบ้าคลั่ง ชี้ไปทางร่างทอมที่ปรากฏอีกทาง
“ฆ่าชั้นให้ได้ซิจินนี่...อย่างนี้ถึงกับสมเป็นเธอ..ร่างที่ฉันรอคอย..”
ฉันกัดฟัดด้วยความแค้นใจ...เจ็บใจที่ทำอะไรไม่ได้
“ยิ่งเธอฆ่า...มากเท่าไหร่...ดวงดาวยิ่งจะสาดแสงแจ่มชัด วันที่เราพบกันก็จะเร็วขึ้น”........ไม้กายสิทธิ์ถูกชี้ไปอีกครั้ง ทอมยิ้มเยียด
ก่อนที่ฉันจะท่องคาถาจบ    เสียงบางอย่างก็ดังขึ้น
“ครูซิ-.....
“ไม่!!!...จินนี่.....” 
เพอซี่ปรากฏกายอยู่ข้างหน้าเหงื่อไหลท่วมตัวมองฉันหน้าซีด.....ยกมือห้าม
แสงตราพรีเฟคส่องประกายจนฉันต้องหลบตาเมินไปทางอื่น
    “จินนี่...พี่เอง..เพอซี่..” เสียงของพี่ชายสั่นเหมือนเล่นควิดดิชมาสักสิบเกม
ฉันยืนมองอย่างตะลึง.....กำลังจะฆ่าพี่ชายตัวเอง เพอซี่ค่อยๆเดินมาหาฉันทั้งทั้งที่ยังชี้ไม้ไปทางเขา
“ลงมือ..ซิ...จินนี่...ไม่กล้าหรือ..” เสียงคอยยุยงอยู่ข้างๆ เพอซี่มองตามร่างที่เลือนลางของทอม
    “จินนี่......พี่เอง...เขาเป็นใคร...”
ทอมมาปรากฏกายข้างๆเพอซี่
    “เธอควรแนะนำ...ให้พี่ชายเธอได้รู้...” ทอมบอก
“เขาคือ...ทอม  ริดเดิ้ล”  ฉันบอกด้วยเสียงแผ่วเบา
ชื่อนี้เหมือนทำให้เพอซี่เหมือนถูกคาถาสะกดนิ่งได้อีกครั้ง
“ทอม ริดเดิ้ล....หรือ...ลอร์ด...”
เสียงเพอซี่หายไปในลำคอ... เขาสบฉันดูสับสนวุ่นวาย
“ไม่จ.....” เพอซี่ตะโกนด้วยความตกใจสุดขีด
พร้อมกับที่ยกไม้ไปยังฝ่ายตรงข้ามพ้อมกัน
“ครูซิโอ!!”เพอซี่ตะโกนเสียงดัง
    “อะวาดา เคดาฟ รา”ฉันตะโกนสวน...แสงสว่างเจิดจ้าพุ่งไปทิศทางตรงกันข้าม ผ่านข้ามบ่าไปทางด้านหลังอย่างเฉียดฉิว
“อ๊าก......”  “ตุ๊บ....”
    เสียงร้องโหยหวนดังไม่ถึงเสียววินาทีก็หายไปพร้อมกับเสียงหล่นจากที่สูง....ร่างแมงมุมยักษ์ตกมาจากต้นไม้แหลก อีกตัวยืนนิ่งมันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองตาย
ฉันสบตามองเพอซี่ที่ยิ้มออกมาได้เป็นครั้งแรก เขากวาดสายตามองรอบด้านที่มีประกายตาแสงสีเหลืองส่องรอบตัว ร่างดำเมี้ยง ขายั้วเยี้ยเดินรอบล้อมตัวพวกเรา
พวกเราเดินหันหลังชนกันโดยไม่ต้องพูดเตรียมพร้อมที่สู้กับสัตว์ยักษ์
“ถ้า...ไม่ตามเธอมาคงไม่ได้เห็นอะไรน่าสนุกแบบนี้แน่”
เพอซี่บอกด้วยความปลอดโปร่ง
“ให้จบเรื่องตรงนี้ก่อนเถอะจินนี่...เรามีบัญชีเป็นห่างว่าวต้องสะสางกัน”
ฉันหันไปยิ้มกับพี่ชาย
แมงมุมตัวหนึ่งพุ่งมาทางฉันพร้อมกับที่พ่นของเหลวออกจากปากของมัน
“งั้นก็รีบจัดการให้จบไวๆ....อะวาดา เคดาฟ รา!!!”
ฉันใช่คาถาคำสาปพิฆาตอีกครั้ง....อย่างสุดกำลังแสงสว่างเจิดจรัสรอบกาย แล้วหายไปเหลือเพียงความเงียบสงบ ฉันเห็นเพียงดวงตาของพี่ชายเป็นประกายท่ามกลางความมืด....เหมือนเป็นสัญญาระหว่างเราไม่ว่าอย่างไรเขาจะอยู่ข้างฉันตลอดไป....
“จินนี่...จินนี่...”  เสียงของพี่ชายแผ่วเบาล่องลอยไปกับสายลม
“จินนี่.....จินนี่ฟื้นแล้ว....” เสียงร้องเรียกอย่างตื่นเต้น....
ฉันลืมตาช้าๆ เพื่อปรับแสง มองเพดานห้องโถงใหญ่ฉันรู้สึกคุ้นตา คงเป็นห้องพยาบาลที่โรงเรียนฮอกวอตแล้ว ฉันอดแปลกใจไม่ได้
ฉันเบนสายตาไปตามเสียงอีกครั้งเฮอร์ไมโอนี่ นั่งข้างๆเตียงยิ้มด้วยความดีใจ รอนกับแฮรี่ยืนมองอยู่ที่ปลายเตียง รอนเหมือนมีอะไรจะพูดแต่เขาก็เงียบ
ฉันมองพี่ชายหักห้ามใจตัวเองที่จะโผเข้ากอดเขา หักห้ามใจที่จะร้องไห้แสดงความอ่อนแอออกมา ฉันเบือนสายตาไปอีกทางก็ถึงกับขมวดคิ้ว เดรโก มัลฟอย ยืนกอดอกอยู่ไม่ไกล
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มบอกอย่างร่าเริง
“เขาพาเธอมา....เดรโกพบเธอหลับอยู่”
“ชั้นแค่มารอถามเธอว่าไปทำอะไรที่ตู้รถเก็บของบ้านสลิธรีน”
เด็กหนุ่มผมสีทองถามเสียงขรึม
ฉันมองทุกคนไหวไหล่น้อยๆ
“ก็คงไปหาที่หลับมั่ง...”
รอนมองฉัน สีหน้าเรียบเฉยแล้วเดินออกไป เฮอร์ไมโอนี่มองฉันอย่างผิดหวังกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เดิน ปาดน้ำตาออกไปด้วยอีกคน
ฉันลุกขึ้นจากเตียง...
“ฉันจะรีบไปงานเลี้ยงอยากเห็นเด็กใหม่ๆ....”
แฮรี่มองฉันนิ่ง ฉันเมินหน้าหลบสายตาเขา เดินผ่านเขา
แต่แฮรี่จับแขนฉันไว้ให้หยุด
    “ไม่มีงานเลี้ยงแล้ว.....”
    “หมายความว่า..” ฉันถามแฮรี่ เขาตอบด้วยเสียงเงียบขรึม
    “มันผ่านมาสามวัน....เธอหลับไปสามวันแล้ว”
    เสียงเขาเหมือนลมพัดลอยผ่านไป.......มันเหมือนกับว่าฉันไม่เคยได้ยินอะไรเลย..
...........................................................................................................
        การเดินทางไปฮอกวอกต์ครั้งนี้ มันแตกต่างจากทุกครั้ง ไม่มีเสียงคุยกับรอนหรือกับเพื่อนๆ
มีเพียงเสียงวู๊ดรถไฟที่พอจะทำให้ฉันได้สติบ้าง หลังจากที่ตกอยู่ในความเงียบคนเดียว
หลังจากที่เก็บของแล้วฉันรีบใช้คาถาหายตัวแล้วมาหลบซุกอยู่คนเดียวเงียบๆที่ตู้เก็บของ
ฉันไม่อยากเจอผู้คนหรือเรื่องใดๆเลย ฉันรู้สึกผิดมหันต์ที่รอนผู้ร่าเริงต้องเสียใจมากขนาดนี้ สำหรับฉันแล้วในบรรดาพี่ชายรอนเป็นเหมือนเพื่อนฉันมากที่สุด แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่แสดงว่าเอาใจฉันตลอดเวลา แต่ฉันก็รู้ว่าเขาเองห่วงใยฉันไม่แพ้พี่ชายคนอื่น เขาไม่ใช่คนที่แสแสร้ง หรือเก็บอารมณ์ได้ดีนัก แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้รอนเปลี่ยนไปมากเขาระเบิดอารมณ์ออกมากับเพอซี่อย่างไม่ยั้งมือ มันคงเป็นสิ่งเดียวที่พอช่วยทั้งเขาและเพอซี่ได้
แล้วจู่ๆฉันก็รู้สึกปวดร้าวถึงหัวใจเมื่อนึกถึงสายตาของแฮรี่ สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดคือเขาเกลียดฉัน
“ทรมานใช่ไหมจินนี่......”เสียงเบาหวิว ลอยมาจากที่ไกลแสนไกล
“ทอม...”
“อีกไม่นานหรอกจินนี่....เราจะได้พบกันอีก...”
“....ฉันต้องทำสำเร็จ......”ฉันบอกด้วยเสียงเบาแทบขาดใจ ร่างกายปวดร้าวไป
ทุกอนู “เธอจะไม่มีวันหลีกหนีชะตาของเราไปได้...ชีวิตเธอ...คือของชั้น...”
    เสียงเบาหวิวหายลอยไปพร้อมกับเสียงรถไฟ และสติของฉัน...
    “สำเร็จ....ทอม..ฉันต้องทำสำเร็จ..” ฉันเหมือนพูดอยู่ในความฝัน....
...ฉันกำลังเดิน ไป...เดินเข้าไปในป่าต้องห้ามท่ามกลางเงาครึมของต้นไม้ มีเพียงแสงสลัวของดวงจันทร์ที่ทอดแสงส่องลงมาอย่างอ่อนแรง
    มือขวาของฉันปวดร้าวแทบระเบิดออก แสงรูปงูบาซิสก์ปรากฏพันรอบข้อมือ
    “ปล่อยมันออกไปซิ....ปล่อยพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุดของเธอออกไป”
เสียงดังก้องในความคิด...ฉันกัดฟัน
    “ทอม...ไม่...เธอตายไปแล้ว....”
    ร่างขอทอมปรากฏอย่างเลือนลาง เดินมาหยุดต่อหน้าฉัน
“ใช่ชั้นยังไม่ตาย....ฉันอยู่กับเธอตลอดเวลา...”
ฉันรู้สึกเจ็บที่กลางหน้าอกขึ้นมา
    “คงมีคำถามมากมายจากใจ....ของเธอ...ว่าทำไม”
    ฉันมองเขานิ่ง ภาพของทอมแม้เลือนลางแต่กลับแจ่มใจในจิตใจฉัน
เขายื่นมือชี้มาที่ตัวฉัน
    “ถามใจเธอดูซิ...ว่าชั้นทำไมถึงยังอยู่....จิตใจที่ก้นบึ้งของเธอ..ความชั่วร้ายที่ยังหลบซ่อนอยู่..”
    ฉันรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ไปทั่วร่างกาย
    “แก..ไม่มีวันควบคุมฉันได้.....”
    “เธอแน่ใจหรือ...ด้วยอำนาจของลอร์ดโดโวมอ..ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้..”
    “แก..มันแค่ความทรงจำที่เลือนลาง..ไม่มีอำนาจใดที่ช่วยแกได้..ไม่อย่างนั้นร่างของแกก็ต้องรู้แล้ว..”
    ฉันตอบไปออย่างมีสติมากขึ้น ทอมสีหน้าเปลี่ยนไปแววตาโกรธแค้น
    “อย่าโอหังเลยจินนี่...เธอจะค่อยๆเปลี่ยนไปความชั่วร้ายจะปรากฏ ดวงดาวมฤตยูปรากฏ...ฉันจะเห็นเธอ...ดวงดาวของเธอชะตาของเธอ..ร่างที่แฮรี่จะไม่มีวันฆ่าได้”    ทอมหัวเราะอย่างผู้กำชัย
คำพูดของเขาทำให้ฉันมึนงง ภาพในลูกแก้วพยากรณ์เหมือนปรากฏอยู่ตรงหน้าอีกครั้งฉันเหมือนขาดสติ
“อะวาดา เคดาฟ รา”
คาถา คำสาปพิฆาตถูกปล่อยออกไป แสงงูบาซิสก์นับสิบตัว พุงเข้าหาทอมอย่างบ้าคลั่ง ผ่านตัวเขาออกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะเยาะ
พร้อมกับทะลุผ่านต้นไม้ทึบ แมงมุมยักษ์ลูกหลานอาราก็อกที่รอหาเหยื่อที่หลงเข้ามา....มันคงดีใจได้กลิ่นอันหอมหวลของเนื้อมนุษย์ .เนื้อของเด็กสาวที่พวกมันไม่เคยลิ้มลอง...ใครที่หลงผ่านมาจะไม่มีวันผ่านพ้นออกไปได้
ขณะที่พวกมันกำลังเดินตรงไปหาเหยื่ออย่างกระหยิ่มใจนั้น พวกมันก็เห็นแสงหนึ่งพุ่งเข้ามา แสงงูนับสิบตัวผ่านพวกมัน...แม้แต่คิดในใจยังไม่ได้คิดว่าพวกมันตายแล้ว......อาหารมื้อนี้ของมันไกลเกินตัวมันไปแล้ว
ฉันปล่อยคาถาไปอย่างบ้าคลั่ง ชี้ไปทางร่างทอมที่ปรากฏอีกทาง
“ฆ่าชั้นให้ได้ซิจินนี่...อย่างนี้ถึงกับสมเป็นเธอ..ร่างที่ฉันรอคอย..”
ฉันกัดฟัดด้วยความแค้นใจ...เจ็บใจที่ทำอะไรไม่ได้
“ยิ่งเธอฆ่า...มากเท่าไหร่...ดวงดาวยิ่งจะสาดแสงแจ่มชัด วันที่เราพบกันก็จะเร็วขึ้น”........ไม้กายสิทธิ์ถูกชี้ไปอีกครั้ง ทอมยิ้มเยียด
ก่อนที่ฉันจะท่องคาถาจบ    เสียงบางอย่างก็ดังขึ้น
“ครูซิ-.....
“ไม่!!!...จินนี่.....” 
เพอซี่ปรากฏกายอยู่ข้างหน้าเหงื่อไหลท่วมตัวมองฉันหน้าซีด.....ยกมือห้าม
แสงตราพรีเฟคส่องประกายจนฉันต้องหลบตาเมินไปทางอื่น
    “จินนี่...พี่เอง..เพอซี่..” เสียงของพี่ชายสั่นเหมือนเล่นควิดดิชมาสักสิบเกม
ฉันยืนมองอย่างตะลึง.....กำลังจะฆ่าพี่ชายตัวเอง เพอซี่ค่อยๆเดินมาหาฉันทั้งทั้งที่ยังชี้ไม้ไปทางเขา
“ลงมือ..ซิ...จินนี่...ไม่กล้าหรือ..” เสียงคอยยุยงอยู่ข้างๆ เพอซี่มองตามร่างที่เลือนลางของทอม
    “จินนี่......พี่เอง...เขาเป็นใคร...”
ทอมมาปรากฏกายข้างๆเพอซี่
    “เธอควรแนะนำ...ให้พี่ชายเธอได้รู้...” ทอมบอก
“เขาคือ...ทอม  ริดเดิ้ล”  ฉันบอกด้วยเสียงแผ่วเบา
ชื่อนี้เหมือนทำให้เพอซี่เหมือนถูกคาถาสะกดนิ่งได้อีกครั้ง
“ทอม ริดเดิ้ล....หรือ...ลอร์ด...”
เสียงเพอซี่หายไปในลำคอ... เขาสบฉันดูสับสนวุ่นวาย
“ไม่จ.....” เพอซี่ตะโกนด้วยความตกใจสุดขีด
พร้อมกับที่ยกไม้ไปยังฝ่ายตรงข้ามพ้อมกัน
“ครูซิโอ!!”เพอซี่ตะโกนเสียงดัง
    “อะวาดา เคดาฟ รา”ฉันตะโกนสวน...แสงสว่างเจิดจ้าพุ่งไปทิศทางตรงกันข้าม ผ่านข้ามบ่าไปทางด้านหลังอย่างเฉียดฉิว
“อ๊าก......”  “ตุ๊บ....”
    เสียงร้องโหยหวนดังไม่ถึงเสียววินาทีก็หายไปพร้อมกับเสียงหล่นจากที่สูง....ร่างแมงมุมยักษ์ตกมาจากต้นไม้แหลก อีกตัวยืนนิ่งมันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองตาย
ฉันสบตามองเพอซี่ที่ยิ้มออกมาได้เป็นครั้งแรก เขากวาดสายตามองรอบด้านที่มีประกายตาแสงสีเหลืองส่องรอบตัว ร่างดำเมี้ยง ขายั้วเยี้ยเดินรอบล้อมตัวพวกเรา
พวกเราเดินหันหลังชนกันโดยไม่ต้องพูดเตรียมพร้อมที่สู้กับสัตว์ยักษ์
“ถ้า...ไม่ตามเธอมาคงไม่ได้เห็นอะไรน่าสนุกแบบนี้แน่”
เพอซี่บอกด้วยความปลอดโปร่ง
“ให้จบเรื่องตรงนี้ก่อนเถอะจินนี่...เรามีบัญชีเป็นห่างว่าวต้องสะสางกัน”
ฉันหันไปยิ้มกับพี่ชาย
แมงมุมตัวหนึ่งพุ่งมาทางฉันพร้อมกับที่พ่นของเหลวออกจากปากของมัน
“งั้นก็รีบจัดการให้จบไวๆ....อะวาดา เคดาฟ รา!!!”
ฉันใช่คาถาคำสาปพิฆาตอีกครั้ง....อย่างสุดกำลังแสงสว่างเจิดจรัสรอบกาย แล้วหายไปเหลือเพียงความเงียบสงบ ฉันเห็นเพียงดวงตาของพี่ชายเป็นประกายท่ามกลางความมืด....เหมือนเป็นสัญญาระหว่างเราไม่ว่าอย่างไรเขาจะอยู่ข้างฉันตลอดไป....
“จินนี่...จินนี่...”  เสียงของพี่ชายแผ่วเบาล่องลอยไปกับสายลม
“จินนี่.....จินนี่ฟื้นแล้ว....” เสียงร้องเรียกอย่างตื่นเต้น....
ฉันลืมตาช้าๆ เพื่อปรับแสง มองเพดานห้องโถงใหญ่ฉันรู้สึกคุ้นตา คงเป็นห้องพยาบาลที่โรงเรียนฮอกวอตแล้ว ฉันอดแปลกใจไม่ได้
ฉันเบนสายตาไปตามเสียงอีกครั้งเฮอร์ไมโอนี่ นั่งข้างๆเตียงยิ้มด้วยความดีใจ รอนกับแฮรี่ยืนมองอยู่ที่ปลายเตียง รอนเหมือนมีอะไรจะพูดแต่เขาก็เงียบ
ฉันมองพี่ชายหักห้ามใจตัวเองที่จะโผเข้ากอดเขา หักห้ามใจที่จะร้องไห้แสดงความอ่อนแอออกมา ฉันเบือนสายตาไปอีกทางก็ถึงกับขมวดคิ้ว เดรโก มัลฟอย ยืนกอดอกอยู่ไม่ไกล
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มบอกอย่างร่าเริง
“เขาพาเธอมา....เดรโกพบเธอหลับอยู่”
“ชั้นแค่มารอถามเธอว่าไปทำอะไรที่ตู้รถเก็บของบ้านสลิธรีน”
เด็กหนุ่มผมสีทองถามเสียงขรึม
ฉันมองทุกคนไหวไหล่น้อยๆ
“ก็คงไปหาที่หลับมั่ง...”
รอนมองฉัน สีหน้าเรียบเฉยแล้วเดินออกไป เฮอร์ไมโอนี่มองฉันอย่างผิดหวังกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เดิน ปาดน้ำตาออกไปด้วยอีกคน
ฉันลุกขึ้นจากเตียง...
“ฉันจะรีบไปงานเลี้ยงอยากเห็นเด็กใหม่ๆ....”
แฮรี่มองฉันนิ่ง ฉันเมินหน้าหลบสายตาเขา เดินผ่านเขา
แต่แฮรี่จับแขนฉันไว้ให้หยุด
    “ไม่มีงานเลี้ยงแล้ว.....”
    “หมายความว่า..” ฉันถามแฮรี่ เขาตอบด้วยเสียงเงียบขรึม
    “มันผ่านมาสามวัน....เธอหลับไปสามวันแล้ว”
    เสียงเขาเหมือนลมพัดลอยผ่านไป.......มันเหมือนกับว่าฉันไม่เคยได้ยินอะไรเลย..
...........................................................................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น