ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เรื่องที่เลวร้าย
ตอนที่6  เรื่องที่เลวร้าย
    ฉันมองไปตามถนนสายเล็กๆที่มีร้าน หรือแผงขายของเวทมนต์ที่เรียงรายข้างทาง มีพ่อมดแม่มดน้อยๆที่กำลังจะเปิดภาคเรียน จับจ่ายซื้อของ และมองของเล่นใหม่ๆอย่างสนุกสนาน
    “จินนี่”  เสียงเรียกของรอนดังมา ฉันมองไปตามเสียงเห็นรอน แฮรี่ และเฮอร์ไมโอนี่เดินมาทางฉัน ฉันไม่กล้าสบตากับแฮรี่
    “ตายจินนี่เกิดอะไรขึ้น ทำไมเนื้อตัวเธอเปื้อนแบบนี้”
เฮอร์ไมโอนี่ร้องเข้ามาดูฉันใกล้ๆ .....รอนมองฉันด้วยความเป็นห่วง
    ฉันหัวเราะเบาๆเหมือนเป็นเรื่องตลก
    “แย่จังเลย เมื่อกี้ใช้ผงฟูลมาตกลงน้ำโคลนพอดี.....เออพวกพี่ได้ของกันหรือยัง”
“ก็ดูบ้างแล้ว เดี๋ยวคุณป้าจะซื้อให้...” เฮอร์ไมโอนี่บอก
“แล้วตอนนี้แม่อยู่ไหนหรือค่ะ” ฉันถาม
“อยู่ร้านเสื้อผ้า เห็นบอกว่าจะหาซื้อไหมพรมถักเสื้อผ้ามั่ง”
รอนบอก ฉันนึกถึงเสื้อไหมพรมสีแดงที่มีอยู่เต็มตู้เสื้อผ้า
จู่ๆเฮอร์ไมโอนี่ร้องเหมือนนึกขึ้นได้ หันไปทางรอน
    “แย่แล้วรอน..ฉันลืมซื้อหนังสือว่าด้วยอำนาจ คู่มือพรีเฟค”
    “อะไรกันเฮอร์ไมโอนี่ เมื่อกี้ไปร้านหนังสือตั้งนานยังไม่ซื้อมาอีกหรือ”
รอนหงุดหงิด
    “งั้นให้แฮรี่กับจินนี่ ไปเดินดูของด้วยกันก็แล้วกัน ตอนเที่ยงเจอกันที่ร้านเดิม”
เฮอร์ไมโอนี่บอก พร้อมทั้งลากรอนออกไป
ฉันมองตามสองคน ร้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่กับแฮรี่สองคน
“ไปเถอะ...ฉันอยู่คนเดียวได้”ฉันบอกเบาๆ
“ถ้าเธอทำให้คนอื่นห่วงได้น้อยกว่านี้คงจะดีไม่น้อย”
เขาพูดอย่างไม่พอใจ พร้อมทั้งเดินออกนำ ฉันถอนหายใจเดินตามช้าๆ
“เธอควรหาที่ล้างหน้าล้างตาก่อนนะ....” เขาพูดลอยๆ ฉันอดรู้สึกน้อยใจไม่ได้ ฉันก็พอเดาสภาพแย่ๆของตัวเองได้หน้าตาคงเปื้อนเขม่าผงฟลู ผมยุ่ง เนื้อตัวเปื้อนดินโคลน ฉันหยุดเดินก้มหน้า แฮรี่หันมามอง
“ถ้าเธออายที่จะเดินกับฉันก็ไม่ต้องเดินก็ได้...” ฉันพูดเสียงเย็นไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปด้วยซ้ำ ตอนนี้ดูเหมือนมันดูเลวร้ายไปหมดสำหรับฉันที่หาทางออกให้ตัวเองไม่ได้
แฮรี่ชะงักเขามองดูฉัน เขากำลังตั้งสติและปรับอารมณ์อย่างรวดเร็ว เขาคงไม่คิดว่าฉันจะพูดอย่างนี้ออกมา พอๆกับที่ตัวเองพูดอย่างไม่ได้คิด ใช่เขาโกรธเขาข่มอารมณ์ไม่ให้บีบคอฉันตอนนี้ก็ได้
“จินนี่...”เขาเรียกชื่อฉันหลังจากที่นิ่งไปพักใหญ่ มองดูฉันตรงๆ
“ฉันไม่เคยอาย หรือรังเกียจที่จะเดินกับเธอไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหน ....”
เขาหยุดหายใจก่อนพูดต่อ
“แต่สิ่งที่ฉันรังเกียจคือที่คนหลอกลวงครอบครัวตัวเอง...เห็นครอบครัวตัวเองเป็นตัวอะไรสักอย่างที่ไม่มีความหมาย....”
“เธอปิดบังปัญหา หลายเรื่อง ทั้งๆที่ทุกคนเต็มใจจะช่วยเหลือเธอ”
“การปิดบังเรื่องติดต่อกับเพอซี่ หรืออะไรที่เธอกำลังทำไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายที่สุด แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือเราไม่รู้ว่าจะมีอะไรตามมาต่างหาก”
        “เธอได้แต่ว่าฉัน แต่ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย”
แฮรี่ตาเขียวมองฉันโมโหอย่างมาก
“ก็ไม่เข้าใจนะซิ เธอไม่เคยพูดไม่เคยบอกแล้วจะเข้าใจได้ยังไงเล่า!”
ฉันสบตากับเขานิ่ง บอกหรือ จะให้บอกอะไรได้
ฉันควรหายตัวไปตอนนี้ ฉันไม่อยากเผชิญหน้ากับเขาอีกต่อไปแล้ว ทุกเรื่องที่ผ่านมาฉันพอทนได้...แต่สิ่งเดียวที่ทนไม่ได้คือต้องถูกเขาเกลียด และ...สิ่งนั้น
อ่า....ฉันควรคิดถึงจุดจบของมันให้ดีๆ....ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะสายเกินไป ความอดทนของอดทน...ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับการเกลียดมากแค่ไหน..
“แฮรี่....จินนี่....” น้ำเสียงอ่อนหวานเรียกพวกเราเบาๆ มันเหมือนเสียงสวรรค์สำหรับฉันที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์กระอักกระอ่วนแบบนี้ ฉันแปลกใจอย่างมากเมื่อหันไปตามเสียง หญิงสาวผมยาวดำสลวยถึงกลางหลัง ดวงตากลมโต ยิ้มให้ฉันอย่างเป็นกันเอง แล้วเบนสายตามองแฮรี่
“สวัสดีจ๊ะ แฮรี่..”
“สวัสดี โช.” แฮรี่เองยิ้มเก้อๆ อย่างน้อยเขาก็ดูอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นโช แชง 
“สบายดีไหม”
ฉันมองโชที่ยิ้มให้แฮรี่อายๆ แล้วพยักหน้าตอบ
“เออ..พวกเธอตามสบาย...” ฉันมองทั้งสอง จะเดินออกมา
“จินนี่..เดี๋ยว.เออ..ฉันมีบางอย่างอยากจะคุยเธอ...”โชเรียก
ฉันสบตากับโชอย่างสนเท่ ฉันไม่เคยมีเรื่องเกี่ยวข้องกับโชเลย แม้แต่คุยก็ยังไม่เคย แน่ละแม้แต่หน้าฉันก็ยังไม่อยากเห็น
“มีอะไรหรือ...”
“เรื่องไมค์นะ...ไมเคิล คอนเนอร์...ฉันพูดตรงนี้ได้หรือเปล่า” โช ถามอย่างลังเลมองแฮรี่ ฉันยิ้มแม้จะแปลกใจมาก
“ได้ซิ...แฮรี่ก็เหมือนพี่ชายคนหนึ่ง....เขาจะรู้เรื่องของฉันก็ไม่แปลก” ไม่รู้ฉันว่าฉันอุปทานไปหรือเปล่าเมื่อเห็นแววตาเหมือนจะโล่งอกของโช ไม่สนใจว่าคนที่กล่าวพาดพิงถึงจะมองตามด้วยสายตาขุ่น ยืนขบเขี้ยวอยู่ข้างๆ
      “เธอคงไม่รู้ว่าไมค์กับฉันเป็นญาติกัน...”
ฉันแปลกใจกับข่าวใหม่ของโชจริงนี้จริงๆ
“เวลาเขาไม่สบายใจ หรือทำเรื่องไร้สาระลงไปมักมาคุยกับฉัน”
“เขาบอกกับฉันว่า เขาเสียใจที่ทำอะไรโง่ๆไปเมื่อปีที่แล้ว...”
“ใช่เขาทำตัวแย่มาก...” ฉันบอก
“แต่เขายังชอบเธออยู่...เขาอยากจะคืนดีกับเธอ แต่ไม่กล้า...เขารู้ว่าเธอโกรธเรื่องนี้มาก ตลอดเวลาเขามาปรึกษากับฉัน เขากลุ้มใจมาก” โชอธิบาย
“ก็เลยให้เธอมาคุยแทนงั้นซิ...งั้นก็ฝากไปบอกเค้าด้วยว่าถ้าอยากให้ฉันกลับไปมองเค้าอีก ก็ให้ไปคุยกับดีนเอง เพราะตอนนี้ฉันคบกับดีนอยู่ ถ้าดีนยอมเลิกกับฉันนะอาจจะกลับไปคิดเรื่องไมเคิลใหม่ก็ได้.....จบเรื่องฉันแล้วใช่ไหม พวกเธอคงมีเรื่องคุยกันต่อ”
ฉันบอกเสียงเข้มก่อน ก่อนผละตัวออกมาโดยไม่สนใจทั้งสองคนที่มองตามอย่างคาดไม่ถึง....บางทีโชอยากได้ยินคำนี้มากกว่า เธออาจจะไม่สนใจเลยว่าฉันกับไมเคิล จะคืนดีด้วยกันหรือไม่ แต่เธอแค่อยากบอกแฮรี่ว่าเธอกับไมเคิลไม่มีอะไรกันมากกว่า
แฮรี่เองก็คงคิดได้ หลังจากที่เขาสูญเสียซีเรียสอย่างกระทันหัน ว่าเวลาต้องเดินไปข้างหน้า สำหรับฉัน เหมือนกันเพราะแม้แต่เวลาเสียใจก็คงมีอีกได้ไม่นาน
แน่นอนสิ่งที่เลวร้ายที่สุดสำหรับฉันไม่ใช่การไม่รู้ผลหรอก...แต่เพราะฉันรู้บทสรุปของมันต่างหากจึงเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด
***********************************************
    ฉันมองไปตามถนนสายเล็กๆที่มีร้าน หรือแผงขายของเวทมนต์ที่เรียงรายข้างทาง มีพ่อมดแม่มดน้อยๆที่กำลังจะเปิดภาคเรียน จับจ่ายซื้อของ และมองของเล่นใหม่ๆอย่างสนุกสนาน
    “จินนี่”  เสียงเรียกของรอนดังมา ฉันมองไปตามเสียงเห็นรอน แฮรี่ และเฮอร์ไมโอนี่เดินมาทางฉัน ฉันไม่กล้าสบตากับแฮรี่
    “ตายจินนี่เกิดอะไรขึ้น ทำไมเนื้อตัวเธอเปื้อนแบบนี้”
เฮอร์ไมโอนี่ร้องเข้ามาดูฉันใกล้ๆ .....รอนมองฉันด้วยความเป็นห่วง
    ฉันหัวเราะเบาๆเหมือนเป็นเรื่องตลก
    “แย่จังเลย เมื่อกี้ใช้ผงฟูลมาตกลงน้ำโคลนพอดี.....เออพวกพี่ได้ของกันหรือยัง”
“ก็ดูบ้างแล้ว เดี๋ยวคุณป้าจะซื้อให้...” เฮอร์ไมโอนี่บอก
“แล้วตอนนี้แม่อยู่ไหนหรือค่ะ” ฉันถาม
“อยู่ร้านเสื้อผ้า เห็นบอกว่าจะหาซื้อไหมพรมถักเสื้อผ้ามั่ง”
รอนบอก ฉันนึกถึงเสื้อไหมพรมสีแดงที่มีอยู่เต็มตู้เสื้อผ้า
จู่ๆเฮอร์ไมโอนี่ร้องเหมือนนึกขึ้นได้ หันไปทางรอน
    “แย่แล้วรอน..ฉันลืมซื้อหนังสือว่าด้วยอำนาจ คู่มือพรีเฟค”
    “อะไรกันเฮอร์ไมโอนี่ เมื่อกี้ไปร้านหนังสือตั้งนานยังไม่ซื้อมาอีกหรือ”
รอนหงุดหงิด
    “งั้นให้แฮรี่กับจินนี่ ไปเดินดูของด้วยกันก็แล้วกัน ตอนเที่ยงเจอกันที่ร้านเดิม”
เฮอร์ไมโอนี่บอก พร้อมทั้งลากรอนออกไป
ฉันมองตามสองคน ร้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่กับแฮรี่สองคน
“ไปเถอะ...ฉันอยู่คนเดียวได้”ฉันบอกเบาๆ
“ถ้าเธอทำให้คนอื่นห่วงได้น้อยกว่านี้คงจะดีไม่น้อย”
เขาพูดอย่างไม่พอใจ พร้อมทั้งเดินออกนำ ฉันถอนหายใจเดินตามช้าๆ
“เธอควรหาที่ล้างหน้าล้างตาก่อนนะ....” เขาพูดลอยๆ ฉันอดรู้สึกน้อยใจไม่ได้ ฉันก็พอเดาสภาพแย่ๆของตัวเองได้หน้าตาคงเปื้อนเขม่าผงฟลู ผมยุ่ง เนื้อตัวเปื้อนดินโคลน ฉันหยุดเดินก้มหน้า แฮรี่หันมามอง
“ถ้าเธออายที่จะเดินกับฉันก็ไม่ต้องเดินก็ได้...” ฉันพูดเสียงเย็นไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปด้วยซ้ำ ตอนนี้ดูเหมือนมันดูเลวร้ายไปหมดสำหรับฉันที่หาทางออกให้ตัวเองไม่ได้
แฮรี่ชะงักเขามองดูฉัน เขากำลังตั้งสติและปรับอารมณ์อย่างรวดเร็ว เขาคงไม่คิดว่าฉันจะพูดอย่างนี้ออกมา พอๆกับที่ตัวเองพูดอย่างไม่ได้คิด ใช่เขาโกรธเขาข่มอารมณ์ไม่ให้บีบคอฉันตอนนี้ก็ได้
“จินนี่...”เขาเรียกชื่อฉันหลังจากที่นิ่งไปพักใหญ่ มองดูฉันตรงๆ
“ฉันไม่เคยอาย หรือรังเกียจที่จะเดินกับเธอไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหน ....”
เขาหยุดหายใจก่อนพูดต่อ
“แต่สิ่งที่ฉันรังเกียจคือที่คนหลอกลวงครอบครัวตัวเอง...เห็นครอบครัวตัวเองเป็นตัวอะไรสักอย่างที่ไม่มีความหมาย....”
“เธอปิดบังปัญหา หลายเรื่อง ทั้งๆที่ทุกคนเต็มใจจะช่วยเหลือเธอ”
“การปิดบังเรื่องติดต่อกับเพอซี่ หรืออะไรที่เธอกำลังทำไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายที่สุด แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือเราไม่รู้ว่าจะมีอะไรตามมาต่างหาก”
        “เธอได้แต่ว่าฉัน แต่ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย”
แฮรี่ตาเขียวมองฉันโมโหอย่างมาก
“ก็ไม่เข้าใจนะซิ เธอไม่เคยพูดไม่เคยบอกแล้วจะเข้าใจได้ยังไงเล่า!”
ฉันสบตากับเขานิ่ง บอกหรือ จะให้บอกอะไรได้
ฉันควรหายตัวไปตอนนี้ ฉันไม่อยากเผชิญหน้ากับเขาอีกต่อไปแล้ว ทุกเรื่องที่ผ่านมาฉันพอทนได้...แต่สิ่งเดียวที่ทนไม่ได้คือต้องถูกเขาเกลียด และ...สิ่งนั้น
อ่า....ฉันควรคิดถึงจุดจบของมันให้ดีๆ....ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะสายเกินไป ความอดทนของอดทน...ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับการเกลียดมากแค่ไหน..
“แฮรี่....จินนี่....” น้ำเสียงอ่อนหวานเรียกพวกเราเบาๆ มันเหมือนเสียงสวรรค์สำหรับฉันที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์กระอักกระอ่วนแบบนี้ ฉันแปลกใจอย่างมากเมื่อหันไปตามเสียง หญิงสาวผมยาวดำสลวยถึงกลางหลัง ดวงตากลมโต ยิ้มให้ฉันอย่างเป็นกันเอง แล้วเบนสายตามองแฮรี่
“สวัสดีจ๊ะ แฮรี่..”
“สวัสดี โช.” แฮรี่เองยิ้มเก้อๆ อย่างน้อยเขาก็ดูอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นโช แชง 
“สบายดีไหม”
ฉันมองโชที่ยิ้มให้แฮรี่อายๆ แล้วพยักหน้าตอบ
“เออ..พวกเธอตามสบาย...” ฉันมองทั้งสอง จะเดินออกมา
“จินนี่..เดี๋ยว.เออ..ฉันมีบางอย่างอยากจะคุยเธอ...”โชเรียก
ฉันสบตากับโชอย่างสนเท่ ฉันไม่เคยมีเรื่องเกี่ยวข้องกับโชเลย แม้แต่คุยก็ยังไม่เคย แน่ละแม้แต่หน้าฉันก็ยังไม่อยากเห็น
“มีอะไรหรือ...”
“เรื่องไมค์นะ...ไมเคิล คอนเนอร์...ฉันพูดตรงนี้ได้หรือเปล่า” โช ถามอย่างลังเลมองแฮรี่ ฉันยิ้มแม้จะแปลกใจมาก
“ได้ซิ...แฮรี่ก็เหมือนพี่ชายคนหนึ่ง....เขาจะรู้เรื่องของฉันก็ไม่แปลก” ไม่รู้ฉันว่าฉันอุปทานไปหรือเปล่าเมื่อเห็นแววตาเหมือนจะโล่งอกของโช ไม่สนใจว่าคนที่กล่าวพาดพิงถึงจะมองตามด้วยสายตาขุ่น ยืนขบเขี้ยวอยู่ข้างๆ
      “เธอคงไม่รู้ว่าไมค์กับฉันเป็นญาติกัน...”
ฉันแปลกใจกับข่าวใหม่ของโชจริงนี้จริงๆ
“เวลาเขาไม่สบายใจ หรือทำเรื่องไร้สาระลงไปมักมาคุยกับฉัน”
“เขาบอกกับฉันว่า เขาเสียใจที่ทำอะไรโง่ๆไปเมื่อปีที่แล้ว...”
“ใช่เขาทำตัวแย่มาก...” ฉันบอก
“แต่เขายังชอบเธออยู่...เขาอยากจะคืนดีกับเธอ แต่ไม่กล้า...เขารู้ว่าเธอโกรธเรื่องนี้มาก ตลอดเวลาเขามาปรึกษากับฉัน เขากลุ้มใจมาก” โชอธิบาย
“ก็เลยให้เธอมาคุยแทนงั้นซิ...งั้นก็ฝากไปบอกเค้าด้วยว่าถ้าอยากให้ฉันกลับไปมองเค้าอีก ก็ให้ไปคุยกับดีนเอง เพราะตอนนี้ฉันคบกับดีนอยู่ ถ้าดีนยอมเลิกกับฉันนะอาจจะกลับไปคิดเรื่องไมเคิลใหม่ก็ได้.....จบเรื่องฉันแล้วใช่ไหม พวกเธอคงมีเรื่องคุยกันต่อ”
ฉันบอกเสียงเข้มก่อน ก่อนผละตัวออกมาโดยไม่สนใจทั้งสองคนที่มองตามอย่างคาดไม่ถึง....บางทีโชอยากได้ยินคำนี้มากกว่า เธออาจจะไม่สนใจเลยว่าฉันกับไมเคิล จะคืนดีด้วยกันหรือไม่ แต่เธอแค่อยากบอกแฮรี่ว่าเธอกับไมเคิลไม่มีอะไรกันมากกว่า
แฮรี่เองก็คงคิดได้ หลังจากที่เขาสูญเสียซีเรียสอย่างกระทันหัน ว่าเวลาต้องเดินไปข้างหน้า สำหรับฉัน เหมือนกันเพราะแม้แต่เวลาเสียใจก็คงมีอีกได้ไม่นาน
แน่นอนสิ่งที่เลวร้ายที่สุดสำหรับฉันไม่ใช่การไม่รู้ผลหรอก...แต่เพราะฉันรู้บทสรุปของมันต่างหากจึงเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด
***********************************************
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น