ลำดับตอนที่ #21
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : พิษ
ตอนที่21  พิษ
    ลำแสงที่พุ่งตรง เจิดจ้าส่องสว่างเป็นรัศมี  ร่างของแฮกริดยักษ์ที่ค่อยๆกลายเป็นหินพร้อมกับลมหายใจที่หายไป
    ตรงหน้านั้นมีเด็กสาวผมสีแดงกำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาวาวโรจน์ เธอหันมามองมาทางฉันยิ้มให้ ฉันรับรู้ความสุขที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
    “ฉันรู้ว่าเธอชอบ..... แค่การสาปคน ฆ่าแมงมุม ยังไม่สนุกหรอก เธอยังสามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น..แสงแห่งดวงดาว จะรวมเราจะเป็นหนึ่งเดียว แก้แค้นผู้ที่ถือดาบ ห้าร้อยปีที่พวกเรารอคอยมา พลัง อำนาจแห่งอาณาจักรเวทมนต์บนโลกนี้ก็ไม่สามรถต่อต้านได้.........ใช่ไหม.....”
    เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งดังกังวาล  ฉันเพ่งมองภาพผู้หญิงผมแดงยาวสยายถึงพื้น ชุดคลุมสีดำ ฉันเห็นเธอชัดเจนยิ่งขึ้น ดวงตาเธอเป็นสีเพลิงที่สุมด้วยความเคียดแค้น กว่าดวงตาคู่ไหนๆ เธอเจ็บปวด ทรมาน  ใช่แล้วเธอหัวเราะ.....ฉันหัวเราะ...ภาพนั้นชั่งคุ้นตายิ่ง ความรู้สึก เหมือนเป็นหนึ่งเดียว อ่า ใช่....เธอคือฉันเอง.คือตัวฉันเอง..ดวงตาฉันเบิกกว้างด้วยความตกใจสุดขีด
    “ไม่.....ไม่..”
“จินนี่......จินนี่....” เสียงเรียกชื่อฉันอย่างแผ่วเบา ฉันรู้สึกถึงสัมผัสบางอย่าง มีมือหนึ่งกุมมือฉันไว้เบาๆ  สัมผัสที่ถ่ายยทอดความอบอุ่นในใจ...แต่แฝงด้วยความเจ็บปวดลึกๆ
    ฉันรู้สึกสับสนปั่นป่วน มองหน้าชายหนุ่มผมดำ สวมแว่นตา ที่มีแผลเป็นรูปสายฟ้ากลางหน้าผากก้มมองฉันอยู่ ฉันรู้สึกถึงความห่วงใย..แต่ดวงตาสีฟ้าราวกับท้องทะเลคู่นั้นก็มีคำถามมากมาย
    ฉันนิ่งมองสบตาเขาอยู่นาน
    “แฮรี่....”
ฉันเรียกชื่อเขาในลำคอ ยังงงงันกับภาพที่อยู่ข้างหน้า ทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
ฉันใช้คาถาสาปแฮกริดให้เป็นหิน  ใช้คาถาหายตัว  มานั่งข้างๆแฮรี่  แล้วฉันก็ได้ตระหนักถึงพลังอำนาจของตนเองว่าพลังที่มีอยู่อาจมีอำนาจเหนือคาถาใดๆในฮอกวอตส์ หลายครั้งที่ฉันใช้คาถา แต่ถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครหรือแม้กระทั่งพ่อมดที่ยิ่งใหญ่อย่างดัมเบิลดอร์จะจับได้ 
แต่ฉันก็ประมาทจนได้ ฉันเผลอหลับไป การใช้พลัง และคาถาเกินกำลังตน ทั้งๆที่ร่างกายไม่สมบูรณ์ ทำให้อ่อนล้าเกินไป แต่เรื่องที่เลวร้ายกว่านั้น นั่นคือมาปรากฏต่อหน้า คนชื่อ แฮรี่ พอตเตอร์
    ฉันลุกขึ้นนั่งรู้สึกปวดร้าวทั่วศรีษะ ภาพของหญิงสาวผมสีเปลวเพลิง แววตาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น ยังไม่ลบเลือนไปจากทรงจำตอนนี้ฉันไม่อาจแยกความจริงกับความฝันออกจากกันได้
    ปมเก่าๆยังไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ เรื่องราวใหม่ๆก็ถาโถมเข้ามา เหมือนคลื่นซัดลูกแล้วลูกเล่า......เขาบีบมือฉันเบาๆทำให้ฉันรู้สึกตัว
    “ฉันคอยเธอทั้งคืน...เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” เขาถาม แต่ฉันไม่มีคำตอบ ได้แต่หลบตาเขา
    “เธอมาอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่แล้ว”
    เขามองฉันอย่างคาดคั้น ฉันเมินหน้าหนี จะลุกขึ้น
    แต่แฮรี่จับมือฉันไว้แน่น
    “ปล่อย.....ฉันจะไปแล้ว”
    “ไม่ปล่อย เธอจะหลบหน้าชั้นไปไหนอีก วันนี้เราจะต้องคุยให้รู้เรื่อง”
เขาบอกเสียงเข้ม ยังไม่ปล่อยมือทั้งๆที่ฉันจะดึงมือกลับ
    “ชั้นจะไม่ถามเธอที่เที่ยวใช้คาถาหายตัวทั่วฮอกวอตส์โดยไม่มีใครจับได้ หรือมานอนข้างๆชั้นทั้งคืนแบบนี้”
    หน้าฉันถึงกับร้อนผ่าว ถลึงตามองเขา แล้วหลบตาทันที ใจฉันยิ่งเต้นแรงเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขาใกล้ๆ มองฉันไม่ละสายตา
    “ฟ้าจะสางแล้วฉันจะกลับห้อง”
    “จินนี่...”
ฉันไม่กล้าแม้ขยับตัว ฉันไม่เคยคิดว่าจะได้อยู่ใกล้ชิดเขาขนาดนี้ ได้ยินแม้เสียงหัวใจเต้นรัว ลมหายใจอุ่นๆ ของเขา  ชายหนุ่มรั้งตัวฉันเข้าไปกอดหลวมๆ
ฉันมองเขาอย่างคาดไม่ถึงใจกลับยิ่งเต้นไม่เป็นจังหวะ เหมือนกับฝันไป
“ชั้นแค่อยากบอกว่าเธอกำลังจะทำให้ชั้นประสาท เพราะห่วงเธอมาก”
เขาบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ข้างๆหู
“ชั้นเป็นห่วงเธอจริงๆนะจินนี่” เขาบอกย้ำด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ฉันไม่รู้ว่าน้ำตาตัวเองไหลออกมา ทั้งดีใจ น้อยใจเสียใจปนเป จนรู้สึกสับสน
“เธอห่วงโช...เธอเชื่อโช”
ทำไมฉันถึงพูดแบบนั้นออกไปก็ไม่รู้ตัว แต่ก็ทำให้เขาชะงัก สีหน้ายุ่งยากขึ้น
“มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอกนะ....ชั้น...”
“เธอตบหน้าฉันเพราะโช...” ฉันว่าเขาอย่างน้อยใจ ลุกขึ้นพรวด แฮรี่ลุกขึ้นตาม
เขาถอนหายใจ
    “จินนี่....เรื่องนั้น...”
    “แฮรี่ เธอไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแล้ว วันนั้นฉันต้องการทำร้ายโชจริง”
ฉันนิ่งพูดอย่างแผ่วเบา บางอย่างฉันไม่อยากโกหกเขาอีกต่อไป
    แฮรี่จับมือฉันเบาๆ ดวงตาสีท้องทะเลของเขาทำให้ฉันไม่อาจหลบสายตาได้ น้ำตาฉันไหล ไหลออกมาเป็นทาง เหมือนจะไม่หยุด
    เขายื่นมือปาดน้ำตาที่แก้มฉันเบาๆ
    “ทำไม...ทำไมเธอต้องมาทำดีกับฉันตอนนี้” ฉันตัดพ้อเบาๆ
    “ฉันขอโทษ....ขอโทษ...ที่บอกเธอช้าไป....”
เขาจับมือ ฉันอีกครั้ง  ดึงเบาๆให้หยุด  ฉัน ยืนนิ่งภาพบางอย่างผ่านเข้ามา
    “แฮรี่...เธอจะว่าอย่างไรถ้าฉันจะบอกว่า ยาพิษนั้นมันเป็นของฉัน...”
ฉันถามน้ำเสียงเย็นขึ้น ฉันผละจากเขามองเขาด้วยสายตาเย็นชาลง
    เขามองฉันอย่างงงงัน
    “สิ่งที่โชพูดถูกทั้งหมด ฉันต้องการทำร้ายโช....ฉันเกลียดเธอ”
    “ไม่เอาน่าจินนี่....ชั้นเชื่อใจเธอ..มันเรื่องเหลวไหล.”
ฉันสะบัดมือออกเบาๆ
    “เธอแน่ใจหรือว่าเชื่อฉัน    ความเชื่อใจไม่พอหรอกแฮรี่ เธอคิดว่ารอนกลุ้มใจแทบบ้าเพราะอะไร รอนรู้เรื่องทุกอย่าง”
ฉันยิ้มหยัน......
    “จินนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่..”
แฮรี่ร้องถามอย่างร้อนรน ฉันส่ายศีรษะ
    “มันเป็นชะตาของฉันแฮรี่...เห็นทีคราวนี้ฉันหลบนี้มันไม่พ้นจริงๆ”
ฉันร้อนตามร่างกายจนแทบระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ ความเครียดทำให้ อาการของพิษที่เริ่มกำเริบอีกครั้ง  หมดกำลัง ยาต้นเลือดพิษที่กินไปเมื่อวันก่อนแทบไม่มีผลเลย
    ตอนนี้ฉันเริ่มตระหนักแล้วว่าฉันเวลาของฉันได้ถึงที่สุดแล้ว  แสงดาวแห่งความตายเริ่มสว่างเจิดจ้ายามที่ไร้แสงของดวงเดือน
ฉันตกอยู่ในสภาพที่กดดันเช่นนี้ ยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนแอลงมากขึ้น
    เขามองดูฉันก้าว เข้ามาด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อยืนมาหาฉันอีกเขากลับกุมศีรษะ จับแผลที่หน้าผากตนเองด้วยความเจ็บปวด แต่เขาพยายามต่อสู้กับความเจ็บปวดนั้น ฉันมองอย่างตะลึง สักครู่เขาก็เป็นปกติอีกครั้ง
    “จินนี่...ฉันเห็นเขา...บางอย่างที่เขากำลังตามหา ฉันเห็นเขาคุยกับหางหอน”
ฉันเหมือนถูกฟ้าผ่าลงมาอีกครั้ง
    “เขากำลังตามหาคน คนที่สามารถทำให้เขาเป็นอมตะตลอดไป...ชั้นฝันถึงบ่อยมาก เขากำลังมีความสุขแต่แผลเป็นของชั้นกลับทวีความเจ็บปวดมากขึ้น”
    แฮรี่บอก.....ฉันแทบเหมือนคนวิกลจริต มองแฮรี่อย่างเหม่อลอย ทุกอย่างกำลังเดินตามเส้นทางแห่งโชคชะตาของมัน ภาพที่ฉันเห็นในลูกแก้วเริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น
    “แฮรี่....ฉันรู้ว่าเธอมีคำถามมากมาย....คำถามที่เธอไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้ ฉันเองเช่นกันแฮรี่....หลายเรื่องฉันไม่อาจหาคำตอบให้กับตัวเองได้.....”
    “จินนี่...เธอมีปัญหาอะไรเราจะช่วยกัน...ฉันจะช่วยเธอ”
เขาบอกอย่างหนักแน่น....ฉันมองแฮรี่ด้วยสายตาว่างเปล่า...ฉันจะตอบเขาได้อย่างไรว่าตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว...ฉันเพียงแต่หันหลังเดินไปทางหอหญิงอย่างช้าๆ
    แล้วฉันถึงกับชะงักเมื่อมีร่างสูงเดินมาโอบฉันจากข้างหลัง ฉันยืนนิ่งน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง  เขายิ่งกอดฉันแน่นมากกว่าเดิมโดยไม่มีคำพูดใดๆออกมา
    นานกว่าที่จะมีเสียงจากแฮรี่
    “อย่า...อย่าเดินหนีแบบนี้...ขอร้องล่ะ..”
    “แฮรี่...” ฉันเรียกชื่อเขาเบาๆหวิว
    ฉันมองไปข้างหน้าด้วยสายตาพร่ามัว ร่างชายหน่มในชุดคลุมของนักเรียนฮอกวอตส์ เดินปรากฏตัวออกมา เขายิ้มหัวเราะอย่างมีชัย....นานแล้วที่เขามาไม่ได้ปรากฏตัวออกมา
    “บอกเขาไปซิ...จินนี่มันสายไปแล้ว...เวลาของพวกเรามาถึงแล้ว..”
    ฉันมองร่างของทอมค่อยๆเลือนร่างไป อีกร่างหนึ่งมาปรากฏตัวแทน เธอยิ้มให้ฉันอย่างใจเย็น..ฉันรู้สึกถึงความอาฆาตแค้นบางอย่างที่ทะลุเข้าไปถึงขั้วหัวใจ ราวกับหลอมละลายให้ฉันเป็นหนึ่งเดียว
    “ไม่....ไม่...”
    ฉันตะโกนออกมา ส่ายศีรษะเหมือนคนบ้า
    “จินนี่...จินนี่..เธอ...เป็นอะไรไป...”
ร่างของฉันทรุดลงหมดเรี่ยวแรง แฮรี่ประคองฉันไว้ เบิ่งมองฉันด้วยสายตาตระหนก  ฉันเหมือนมีความรู้สึกเบาหวิว มีบางอย่างไหลออกมาทางจมูก.. ทางปาก ฉันยกมือปาด ฉันถึงรู้ว่านั่นคือเลือดสีแดงสด
    ฉันยกมือขวาขึ้น สัญลักษณ์ของทายาทสลิธรีน รูปงูบาซิลิสก์กลายเป็นพญางูสีแดง
แฮรี่ที่ประคองฉันอยู่ ถึงกับขบกรามแน่น ข่มความเจ็บปวดจากแผลเป็น ที่เกือบทำให้สมองเขาเกือบระเบิด
    “แฮรี่..เป็นอะไรไป....เจ็บแผลมากไหม....ฉัน...ขอโทษ...”
    แม้ฉันพูดจนแทบไม่มีเสียง แต่ฉันก็รู้สึกถึงว่าเลือดยิ่งกระอักมาตามเสียง
ฉันเห็นน้ำตาของแฮรี่ออกมาเป็นทาง อย่างเลือนลาง
    “หยุดพูดเถอะ...จินนี่...ฉันจะพาเธอไปหามาดามพอมฟรีย์...ไม่.....ไปหาดัมเบิลดอร์”
เขาพยายามจะอุ้มฉันขึ้น แต่ฉันจับมือเขาไว้ ฉันส่ายศีรษะ แตะที่แขนเขาเบาๆ
    “ฉัน...ไม่เป็นอะไรแฮรี่...แค่ได้รู้ว่าเธอห่วงใยแค่นี้ฉันก็ดีใจมาก...จริงๆนะ..”
    เขาประคองฉันขึ้น
    “ฉันหนีโชคชะตาตัวเองไม่พ้นหรอกแฮรี่....ฉันมีเกิดมาพร้อมกับดวงแห่งความตาย ฉันมีร่างที่ลอร์ดโวลดอมอร์ต้องการ ร่างที่อยู่เหนือคำทำนายของลูกแก้วพยากรณ์...”
    แฮรี่นิ่งชะงักไป เหมือนสับสน
    “เธอต้องฆ่าฉันซะ..ก่อนที่ฉันจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง”
“ก็ช่างโชคชะตาเธอ...เงียบซะชั้นไม่อยากฟัง”
    ร่างฉันเหมือนเบาหวิวล่องลอย ภาพที่เลือนร่างตามทางพอทำให้ฉันรู้ว่าเขาอุ้มร่างฉันออกจากหอกริฟฟินดอร์ แฮรี่ยิ่งเร่งฝีเท้าขึ้น เมื่อแฮรี่วิ่งผ่านมาทางตามระเบียง....
นกอินทรีสีแดงเพลิงตัวใหญ่บินวนรอบๆ  แล้วจึงโฉบลงมาจากทางหอคอย บินมาหยุดขวางหน้าแฮรี่ เขาถึงกับชะงักหยุดทันทีรู้สึกหวาดระแวง ถอยหลังไปตั้งหลักหลายก้าว นกอินทรีสีแดงเพลิงจับจ้องมายังร่างของฉัน แล้วค่อยๆกลายร่างเป็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ผมหยักโศกสีแดงเพลิงเช่นขนนก
    แฮรี่ยืนมองอย่างงุนงงชั่วครู่ ก่อนที่จะพึมพัมออกมาเบาๆ สายตามองตามร่างที่เดินตรงมาหาเขา สายตาจับจ้องที่ร่างที่อุ้มอยู่
    “เพอซี่...อนิสเมจัส.....”
    ชายหนุ่มที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นคนดูแลตัวเองมากที่สุด บัดนี้แทบไม่หลงเหลือเค้าเดิม นอกจากผมสีแดงที่บ่งบอกว่าคือวีสลีย์คนหนึ่ง หนวดเคราขึ้นครึม ผมเผ้าที่ดูรุงรังกว่าแฮกริด ดวงตาอิดโรย เหมือนคนที่อดนอนมาหลายคืน เสื้อผ้าขาด..ที่มีร่องรอยผ่านการต่อสู้อย่างหนักมา
    เพอซี่แทบไม่ได้มองเขาด้วยซ้ำสายตาเพียงจับจ้องร่างที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา
ฉันลืมตามองอย่างโรยแรง ยิ้มให้พี่ชายน้อยๆ เพอซี่มองฉันเขม็งขบกรามแน่น
    “วาง เธอลงก่อนเถอะ...”
    เขาบอกแฮรี่ด้วยเสียงแผ่วเบาจนเกือบแทบไม่ได้ยิน แฮรี่ลังเลแต่ทำตามเขาประคองฉันไว้ขณะที่วางกับพื้น
    “เพอซี่...จินนี่...เป็นอะไรกันแน่..” เขาถามเพอซี่อย่างร้อนนรน
พี่ชายมองฉัน ยื่นมือลูบเลือดที่ยังไหลออกทางปาก ไม่มีน้ำตาจากเขาแต่ฉันรู้สึกถึงมือสั่นเทายามเขาลูบแก้มฉันเบาๆ
“ทำไม...ทำไม....มันเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้...ไหนเธอว่าจนกว่าจันทรุปราคา...”
ฉันยื่นมือขวาให้พี่ชาย เพอซี่จับมือฉันไว้
“พี่ดูแย่กว่าฉันอีกนะ...”
“เพราะว่าเธอดูดีเสมอไงละจินนี่...”
เพอซี่บีบมือฉันเบาๆ ฉันยิ้มกับพี่ชาย เขาดึงถุงยาบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุม....
มีใบไม้เล็กๆสีแดงสดราวสีเลือด
    “หลังจากได้รับจดหมายของเธอ พี่ก็รีบบินไปที่กลางป่า..อะเมซอลบินไปทั้งวันทั้งคืน กว่าจะหามันมาได้ลำบากนะ มันแย่หน่อยนะถ้าเธอต้องกินมันสดๆ”
    เขายื่นให้ฉัน แฮรี่มองต้นเลือดพิษ...แล้วหันมองเพอซี่ พูดเสียงสั่นใจคอไม่ดี
“อะไรเพอซี่...นี่มันอะไร...”
    เพอซี่ขบกรามแน่น หันไปสบตากับเพื่อนน้องชาย
“ต้นเลือดพิษ ..”
    “นายจะฆ่าจินนี่หรือ” เขาระเบิดเสียงใส่เพอซี่ ปัดต้นเลือดพิษออกจากมือเพอซี่
“ฟังให้ดีนะ แฮรี่นายจะเที่ยวถูกต้นเลือดพิษแบบนี้ไม่ได้นะ อาจจะตายไม่รู้ตัว”
    พี่ชายบอกอย่างใจเย็น ยื่นมือไปหยิบต้นเลือดพิษ ที่ตกที่พื้น
“น้องคงต้องทนกินแล้ว..”
    เขายื่นใบไว้ในมือแล้วใช้ไม้กายสิทธิ์เสกให้มันกลายเป็นใบละเอียดเป็นผง ป้อนเข้าปากของฉัน ลิ้นของฉันด้านชากว่าที่จะรับรู้รสชาติใดๆได้
ฉันรู้ว่าแฮรี่คงตกใจมากแค่ไหน ที่เห็นฉันกินยาพิษร้ายแรง ความรู้สึกของเขาก็คงไม่ต่างจากที่เพอซี่ หรือรอนเห็นครั้งแรก  แต่ต่อมาพวกเขาก็จะชินกันไปเอง
    แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกันฉันรู้ เพอซี่รู้ยาพิษจะไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว ฉันจะไม่ตาย แต่ฉันอาจจะกลายเป็นอีกคน เมื่อตัวยาพิษซึมซาบผ่านกระแสเลือด ได้ไปยับยั้งการต่อสู้ของพิษทั้งสองที่อยู่ในร่างกาย
แต่มันก็ยิ่งสร้างความเจ็บปวดให้ฉันมากเป็นเท่าตัว ฉันถึงกับตัวงอเป็นกุ้ง ร้องอย่างทรมานออกมา
แฮรี่ สบตากับเพอซี่ แต่มือยังกอดร่างฉันไว้
“จินนี่..จินนี่..” เขาเขย่าร่างฉัน เรียกชื่อเสียงดัง
เพอซี่ยืนขึ้น เมินหน้าหนี ถอยหลังอย่างหมดแรง ไม่มีคำพูดใดๆออกมา
*******************************************************************.
    ลำแสงที่พุ่งตรง เจิดจ้าส่องสว่างเป็นรัศมี  ร่างของแฮกริดยักษ์ที่ค่อยๆกลายเป็นหินพร้อมกับลมหายใจที่หายไป
    ตรงหน้านั้นมีเด็กสาวผมสีแดงกำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาวาวโรจน์ เธอหันมามองมาทางฉันยิ้มให้ ฉันรับรู้ความสุขที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
    “ฉันรู้ว่าเธอชอบ..... แค่การสาปคน ฆ่าแมงมุม ยังไม่สนุกหรอก เธอยังสามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น..แสงแห่งดวงดาว จะรวมเราจะเป็นหนึ่งเดียว แก้แค้นผู้ที่ถือดาบ ห้าร้อยปีที่พวกเรารอคอยมา พลัง อำนาจแห่งอาณาจักรเวทมนต์บนโลกนี้ก็ไม่สามรถต่อต้านได้.........ใช่ไหม.....”
    เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งดังกังวาล  ฉันเพ่งมองภาพผู้หญิงผมแดงยาวสยายถึงพื้น ชุดคลุมสีดำ ฉันเห็นเธอชัดเจนยิ่งขึ้น ดวงตาเธอเป็นสีเพลิงที่สุมด้วยความเคียดแค้น กว่าดวงตาคู่ไหนๆ เธอเจ็บปวด ทรมาน  ใช่แล้วเธอหัวเราะ.....ฉันหัวเราะ...ภาพนั้นชั่งคุ้นตายิ่ง ความรู้สึก เหมือนเป็นหนึ่งเดียว อ่า ใช่....เธอคือฉันเอง.คือตัวฉันเอง..ดวงตาฉันเบิกกว้างด้วยความตกใจสุดขีด
    “ไม่.....ไม่..”
“จินนี่......จินนี่....” เสียงเรียกชื่อฉันอย่างแผ่วเบา ฉันรู้สึกถึงสัมผัสบางอย่าง มีมือหนึ่งกุมมือฉันไว้เบาๆ  สัมผัสที่ถ่ายยทอดความอบอุ่นในใจ...แต่แฝงด้วยความเจ็บปวดลึกๆ
    ฉันรู้สึกสับสนปั่นป่วน มองหน้าชายหนุ่มผมดำ สวมแว่นตา ที่มีแผลเป็นรูปสายฟ้ากลางหน้าผากก้มมองฉันอยู่ ฉันรู้สึกถึงความห่วงใย..แต่ดวงตาสีฟ้าราวกับท้องทะเลคู่นั้นก็มีคำถามมากมาย
    ฉันนิ่งมองสบตาเขาอยู่นาน
    “แฮรี่....”
ฉันเรียกชื่อเขาในลำคอ ยังงงงันกับภาพที่อยู่ข้างหน้า ทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
ฉันใช้คาถาสาปแฮกริดให้เป็นหิน  ใช้คาถาหายตัว  มานั่งข้างๆแฮรี่  แล้วฉันก็ได้ตระหนักถึงพลังอำนาจของตนเองว่าพลังที่มีอยู่อาจมีอำนาจเหนือคาถาใดๆในฮอกวอตส์ หลายครั้งที่ฉันใช้คาถา แต่ถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครหรือแม้กระทั่งพ่อมดที่ยิ่งใหญ่อย่างดัมเบิลดอร์จะจับได้ 
แต่ฉันก็ประมาทจนได้ ฉันเผลอหลับไป การใช้พลัง และคาถาเกินกำลังตน ทั้งๆที่ร่างกายไม่สมบูรณ์ ทำให้อ่อนล้าเกินไป แต่เรื่องที่เลวร้ายกว่านั้น นั่นคือมาปรากฏต่อหน้า คนชื่อ แฮรี่ พอตเตอร์
    ฉันลุกขึ้นนั่งรู้สึกปวดร้าวทั่วศรีษะ ภาพของหญิงสาวผมสีเปลวเพลิง แววตาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น ยังไม่ลบเลือนไปจากทรงจำตอนนี้ฉันไม่อาจแยกความจริงกับความฝันออกจากกันได้
    ปมเก่าๆยังไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ เรื่องราวใหม่ๆก็ถาโถมเข้ามา เหมือนคลื่นซัดลูกแล้วลูกเล่า......เขาบีบมือฉันเบาๆทำให้ฉันรู้สึกตัว
    “ฉันคอยเธอทั้งคืน...เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” เขาถาม แต่ฉันไม่มีคำตอบ ได้แต่หลบตาเขา
    “เธอมาอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่แล้ว”
    เขามองฉันอย่างคาดคั้น ฉันเมินหน้าหนี จะลุกขึ้น
    แต่แฮรี่จับมือฉันไว้แน่น
    “ปล่อย.....ฉันจะไปแล้ว”
    “ไม่ปล่อย เธอจะหลบหน้าชั้นไปไหนอีก วันนี้เราจะต้องคุยให้รู้เรื่อง”
เขาบอกเสียงเข้ม ยังไม่ปล่อยมือทั้งๆที่ฉันจะดึงมือกลับ
    “ชั้นจะไม่ถามเธอที่เที่ยวใช้คาถาหายตัวทั่วฮอกวอตส์โดยไม่มีใครจับได้ หรือมานอนข้างๆชั้นทั้งคืนแบบนี้”
    หน้าฉันถึงกับร้อนผ่าว ถลึงตามองเขา แล้วหลบตาทันที ใจฉันยิ่งเต้นแรงเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขาใกล้ๆ มองฉันไม่ละสายตา
    “ฟ้าจะสางแล้วฉันจะกลับห้อง”
    “จินนี่...”
ฉันไม่กล้าแม้ขยับตัว ฉันไม่เคยคิดว่าจะได้อยู่ใกล้ชิดเขาขนาดนี้ ได้ยินแม้เสียงหัวใจเต้นรัว ลมหายใจอุ่นๆ ของเขา  ชายหนุ่มรั้งตัวฉันเข้าไปกอดหลวมๆ
ฉันมองเขาอย่างคาดไม่ถึงใจกลับยิ่งเต้นไม่เป็นจังหวะ เหมือนกับฝันไป
“ชั้นแค่อยากบอกว่าเธอกำลังจะทำให้ชั้นประสาท เพราะห่วงเธอมาก”
เขาบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ข้างๆหู
“ชั้นเป็นห่วงเธอจริงๆนะจินนี่” เขาบอกย้ำด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ฉันไม่รู้ว่าน้ำตาตัวเองไหลออกมา ทั้งดีใจ น้อยใจเสียใจปนเป จนรู้สึกสับสน
“เธอห่วงโช...เธอเชื่อโช”
ทำไมฉันถึงพูดแบบนั้นออกไปก็ไม่รู้ตัว แต่ก็ทำให้เขาชะงัก สีหน้ายุ่งยากขึ้น
“มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอกนะ....ชั้น...”
“เธอตบหน้าฉันเพราะโช...” ฉันว่าเขาอย่างน้อยใจ ลุกขึ้นพรวด แฮรี่ลุกขึ้นตาม
เขาถอนหายใจ
    “จินนี่....เรื่องนั้น...”
    “แฮรี่ เธอไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแล้ว วันนั้นฉันต้องการทำร้ายโชจริง”
ฉันนิ่งพูดอย่างแผ่วเบา บางอย่างฉันไม่อยากโกหกเขาอีกต่อไป
    แฮรี่จับมือฉันเบาๆ ดวงตาสีท้องทะเลของเขาทำให้ฉันไม่อาจหลบสายตาได้ น้ำตาฉันไหล ไหลออกมาเป็นทาง เหมือนจะไม่หยุด
    เขายื่นมือปาดน้ำตาที่แก้มฉันเบาๆ
    “ทำไม...ทำไมเธอต้องมาทำดีกับฉันตอนนี้” ฉันตัดพ้อเบาๆ
    “ฉันขอโทษ....ขอโทษ...ที่บอกเธอช้าไป....”
เขาจับมือ ฉันอีกครั้ง  ดึงเบาๆให้หยุด  ฉัน ยืนนิ่งภาพบางอย่างผ่านเข้ามา
    “แฮรี่...เธอจะว่าอย่างไรถ้าฉันจะบอกว่า ยาพิษนั้นมันเป็นของฉัน...”
ฉันถามน้ำเสียงเย็นขึ้น ฉันผละจากเขามองเขาด้วยสายตาเย็นชาลง
    เขามองฉันอย่างงงงัน
    “สิ่งที่โชพูดถูกทั้งหมด ฉันต้องการทำร้ายโช....ฉันเกลียดเธอ”
    “ไม่เอาน่าจินนี่....ชั้นเชื่อใจเธอ..มันเรื่องเหลวไหล.”
ฉันสะบัดมือออกเบาๆ
    “เธอแน่ใจหรือว่าเชื่อฉัน    ความเชื่อใจไม่พอหรอกแฮรี่ เธอคิดว่ารอนกลุ้มใจแทบบ้าเพราะอะไร รอนรู้เรื่องทุกอย่าง”
ฉันยิ้มหยัน......
    “จินนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่..”
แฮรี่ร้องถามอย่างร้อนรน ฉันส่ายศีรษะ
    “มันเป็นชะตาของฉันแฮรี่...เห็นทีคราวนี้ฉันหลบนี้มันไม่พ้นจริงๆ”
ฉันร้อนตามร่างกายจนแทบระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ ความเครียดทำให้ อาการของพิษที่เริ่มกำเริบอีกครั้ง  หมดกำลัง ยาต้นเลือดพิษที่กินไปเมื่อวันก่อนแทบไม่มีผลเลย
    ตอนนี้ฉันเริ่มตระหนักแล้วว่าฉันเวลาของฉันได้ถึงที่สุดแล้ว  แสงดาวแห่งความตายเริ่มสว่างเจิดจ้ายามที่ไร้แสงของดวงเดือน
ฉันตกอยู่ในสภาพที่กดดันเช่นนี้ ยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนแอลงมากขึ้น
    เขามองดูฉันก้าว เข้ามาด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อยืนมาหาฉันอีกเขากลับกุมศีรษะ จับแผลที่หน้าผากตนเองด้วยความเจ็บปวด แต่เขาพยายามต่อสู้กับความเจ็บปวดนั้น ฉันมองอย่างตะลึง สักครู่เขาก็เป็นปกติอีกครั้ง
    “จินนี่...ฉันเห็นเขา...บางอย่างที่เขากำลังตามหา ฉันเห็นเขาคุยกับหางหอน”
ฉันเหมือนถูกฟ้าผ่าลงมาอีกครั้ง
    “เขากำลังตามหาคน คนที่สามารถทำให้เขาเป็นอมตะตลอดไป...ชั้นฝันถึงบ่อยมาก เขากำลังมีความสุขแต่แผลเป็นของชั้นกลับทวีความเจ็บปวดมากขึ้น”
    แฮรี่บอก.....ฉันแทบเหมือนคนวิกลจริต มองแฮรี่อย่างเหม่อลอย ทุกอย่างกำลังเดินตามเส้นทางแห่งโชคชะตาของมัน ภาพที่ฉันเห็นในลูกแก้วเริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น
    “แฮรี่....ฉันรู้ว่าเธอมีคำถามมากมาย....คำถามที่เธอไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้ ฉันเองเช่นกันแฮรี่....หลายเรื่องฉันไม่อาจหาคำตอบให้กับตัวเองได้.....”
    “จินนี่...เธอมีปัญหาอะไรเราจะช่วยกัน...ฉันจะช่วยเธอ”
เขาบอกอย่างหนักแน่น....ฉันมองแฮรี่ด้วยสายตาว่างเปล่า...ฉันจะตอบเขาได้อย่างไรว่าตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว...ฉันเพียงแต่หันหลังเดินไปทางหอหญิงอย่างช้าๆ
    แล้วฉันถึงกับชะงักเมื่อมีร่างสูงเดินมาโอบฉันจากข้างหลัง ฉันยืนนิ่งน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง  เขายิ่งกอดฉันแน่นมากกว่าเดิมโดยไม่มีคำพูดใดๆออกมา
    นานกว่าที่จะมีเสียงจากแฮรี่
    “อย่า...อย่าเดินหนีแบบนี้...ขอร้องล่ะ..”
    “แฮรี่...” ฉันเรียกชื่อเขาเบาๆหวิว
    ฉันมองไปข้างหน้าด้วยสายตาพร่ามัว ร่างชายหน่มในชุดคลุมของนักเรียนฮอกวอตส์ เดินปรากฏตัวออกมา เขายิ้มหัวเราะอย่างมีชัย....นานแล้วที่เขามาไม่ได้ปรากฏตัวออกมา
    “บอกเขาไปซิ...จินนี่มันสายไปแล้ว...เวลาของพวกเรามาถึงแล้ว..”
    ฉันมองร่างของทอมค่อยๆเลือนร่างไป อีกร่างหนึ่งมาปรากฏตัวแทน เธอยิ้มให้ฉันอย่างใจเย็น..ฉันรู้สึกถึงความอาฆาตแค้นบางอย่างที่ทะลุเข้าไปถึงขั้วหัวใจ ราวกับหลอมละลายให้ฉันเป็นหนึ่งเดียว
    “ไม่....ไม่...”
    ฉันตะโกนออกมา ส่ายศีรษะเหมือนคนบ้า
    “จินนี่...จินนี่..เธอ...เป็นอะไรไป...”
ร่างของฉันทรุดลงหมดเรี่ยวแรง แฮรี่ประคองฉันไว้ เบิ่งมองฉันด้วยสายตาตระหนก  ฉันเหมือนมีความรู้สึกเบาหวิว มีบางอย่างไหลออกมาทางจมูก.. ทางปาก ฉันยกมือปาด ฉันถึงรู้ว่านั่นคือเลือดสีแดงสด
    ฉันยกมือขวาขึ้น สัญลักษณ์ของทายาทสลิธรีน รูปงูบาซิลิสก์กลายเป็นพญางูสีแดง
แฮรี่ที่ประคองฉันอยู่ ถึงกับขบกรามแน่น ข่มความเจ็บปวดจากแผลเป็น ที่เกือบทำให้สมองเขาเกือบระเบิด
    “แฮรี่..เป็นอะไรไป....เจ็บแผลมากไหม....ฉัน...ขอโทษ...”
    แม้ฉันพูดจนแทบไม่มีเสียง แต่ฉันก็รู้สึกถึงว่าเลือดยิ่งกระอักมาตามเสียง
ฉันเห็นน้ำตาของแฮรี่ออกมาเป็นทาง อย่างเลือนลาง
    “หยุดพูดเถอะ...จินนี่...ฉันจะพาเธอไปหามาดามพอมฟรีย์...ไม่.....ไปหาดัมเบิลดอร์”
เขาพยายามจะอุ้มฉันขึ้น แต่ฉันจับมือเขาไว้ ฉันส่ายศีรษะ แตะที่แขนเขาเบาๆ
    “ฉัน...ไม่เป็นอะไรแฮรี่...แค่ได้รู้ว่าเธอห่วงใยแค่นี้ฉันก็ดีใจมาก...จริงๆนะ..”
    เขาประคองฉันขึ้น
    “ฉันหนีโชคชะตาตัวเองไม่พ้นหรอกแฮรี่....ฉันมีเกิดมาพร้อมกับดวงแห่งความตาย ฉันมีร่างที่ลอร์ดโวลดอมอร์ต้องการ ร่างที่อยู่เหนือคำทำนายของลูกแก้วพยากรณ์...”
    แฮรี่นิ่งชะงักไป เหมือนสับสน
    “เธอต้องฆ่าฉันซะ..ก่อนที่ฉันจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง”
“ก็ช่างโชคชะตาเธอ...เงียบซะชั้นไม่อยากฟัง”
    ร่างฉันเหมือนเบาหวิวล่องลอย ภาพที่เลือนร่างตามทางพอทำให้ฉันรู้ว่าเขาอุ้มร่างฉันออกจากหอกริฟฟินดอร์ แฮรี่ยิ่งเร่งฝีเท้าขึ้น เมื่อแฮรี่วิ่งผ่านมาทางตามระเบียง....
นกอินทรีสีแดงเพลิงตัวใหญ่บินวนรอบๆ  แล้วจึงโฉบลงมาจากทางหอคอย บินมาหยุดขวางหน้าแฮรี่ เขาถึงกับชะงักหยุดทันทีรู้สึกหวาดระแวง ถอยหลังไปตั้งหลักหลายก้าว นกอินทรีสีแดงเพลิงจับจ้องมายังร่างของฉัน แล้วค่อยๆกลายร่างเป็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ผมหยักโศกสีแดงเพลิงเช่นขนนก
    แฮรี่ยืนมองอย่างงุนงงชั่วครู่ ก่อนที่จะพึมพัมออกมาเบาๆ สายตามองตามร่างที่เดินตรงมาหาเขา สายตาจับจ้องที่ร่างที่อุ้มอยู่
    “เพอซี่...อนิสเมจัส.....”
    ชายหนุ่มที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นคนดูแลตัวเองมากที่สุด บัดนี้แทบไม่หลงเหลือเค้าเดิม นอกจากผมสีแดงที่บ่งบอกว่าคือวีสลีย์คนหนึ่ง หนวดเคราขึ้นครึม ผมเผ้าที่ดูรุงรังกว่าแฮกริด ดวงตาอิดโรย เหมือนคนที่อดนอนมาหลายคืน เสื้อผ้าขาด..ที่มีร่องรอยผ่านการต่อสู้อย่างหนักมา
    เพอซี่แทบไม่ได้มองเขาด้วยซ้ำสายตาเพียงจับจ้องร่างที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา
ฉันลืมตามองอย่างโรยแรง ยิ้มให้พี่ชายน้อยๆ เพอซี่มองฉันเขม็งขบกรามแน่น
    “วาง เธอลงก่อนเถอะ...”
    เขาบอกแฮรี่ด้วยเสียงแผ่วเบาจนเกือบแทบไม่ได้ยิน แฮรี่ลังเลแต่ทำตามเขาประคองฉันไว้ขณะที่วางกับพื้น
    “เพอซี่...จินนี่...เป็นอะไรกันแน่..” เขาถามเพอซี่อย่างร้อนนรน
พี่ชายมองฉัน ยื่นมือลูบเลือดที่ยังไหลออกทางปาก ไม่มีน้ำตาจากเขาแต่ฉันรู้สึกถึงมือสั่นเทายามเขาลูบแก้มฉันเบาๆ
“ทำไม...ทำไม....มันเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้...ไหนเธอว่าจนกว่าจันทรุปราคา...”
ฉันยื่นมือขวาให้พี่ชาย เพอซี่จับมือฉันไว้
“พี่ดูแย่กว่าฉันอีกนะ...”
“เพราะว่าเธอดูดีเสมอไงละจินนี่...”
เพอซี่บีบมือฉันเบาๆ ฉันยิ้มกับพี่ชาย เขาดึงถุงยาบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุม....
มีใบไม้เล็กๆสีแดงสดราวสีเลือด
    “หลังจากได้รับจดหมายของเธอ พี่ก็รีบบินไปที่กลางป่า..อะเมซอลบินไปทั้งวันทั้งคืน กว่าจะหามันมาได้ลำบากนะ มันแย่หน่อยนะถ้าเธอต้องกินมันสดๆ”
    เขายื่นให้ฉัน แฮรี่มองต้นเลือดพิษ...แล้วหันมองเพอซี่ พูดเสียงสั่นใจคอไม่ดี
“อะไรเพอซี่...นี่มันอะไร...”
    เพอซี่ขบกรามแน่น หันไปสบตากับเพื่อนน้องชาย
“ต้นเลือดพิษ ..”
    “นายจะฆ่าจินนี่หรือ” เขาระเบิดเสียงใส่เพอซี่ ปัดต้นเลือดพิษออกจากมือเพอซี่
“ฟังให้ดีนะ แฮรี่นายจะเที่ยวถูกต้นเลือดพิษแบบนี้ไม่ได้นะ อาจจะตายไม่รู้ตัว”
    พี่ชายบอกอย่างใจเย็น ยื่นมือไปหยิบต้นเลือดพิษ ที่ตกที่พื้น
“น้องคงต้องทนกินแล้ว..”
    เขายื่นใบไว้ในมือแล้วใช้ไม้กายสิทธิ์เสกให้มันกลายเป็นใบละเอียดเป็นผง ป้อนเข้าปากของฉัน ลิ้นของฉันด้านชากว่าที่จะรับรู้รสชาติใดๆได้
ฉันรู้ว่าแฮรี่คงตกใจมากแค่ไหน ที่เห็นฉันกินยาพิษร้ายแรง ความรู้สึกของเขาก็คงไม่ต่างจากที่เพอซี่ หรือรอนเห็นครั้งแรก  แต่ต่อมาพวกเขาก็จะชินกันไปเอง
    แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกันฉันรู้ เพอซี่รู้ยาพิษจะไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว ฉันจะไม่ตาย แต่ฉันอาจจะกลายเป็นอีกคน เมื่อตัวยาพิษซึมซาบผ่านกระแสเลือด ได้ไปยับยั้งการต่อสู้ของพิษทั้งสองที่อยู่ในร่างกาย
แต่มันก็ยิ่งสร้างความเจ็บปวดให้ฉันมากเป็นเท่าตัว ฉันถึงกับตัวงอเป็นกุ้ง ร้องอย่างทรมานออกมา
แฮรี่ สบตากับเพอซี่ แต่มือยังกอดร่างฉันไว้
“จินนี่..จินนี่..” เขาเขย่าร่างฉัน เรียกชื่อเสียงดัง
เพอซี่ยืนขึ้น เมินหน้าหนี ถอยหลังอย่างหมดแรง ไม่มีคำพูดใดๆออกมา
*******************************************************************.
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น