ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ความลับของเพอซี่
ตอนที่2    ความลับของเพอซี่
    จอร์จเดินเข้ามาในห้องขณะที่ฉันกำลังนั่งผสมยาอยู่  ฉันมักขอใช้ห้องทดลองของพี่ชายปรุงยาใหม่ๆที่ยังไม่เคยเรียน ทุกคนในบ้านไม่ค่อยมายุ่งในห้องของพี่ชายฝาแฝดนัก ฉันจึงฝึกวิชาปรุงยาได้โดยไม่มีคำถามจากแม่ หรือเสียงบ่นจากรอน
    โดยพี่ชายทั้งสองมีข้อแม้ว่าฉันจะไม่บอกใครเรื่องของพวกเขาเช่นกัน แล้วบางครั้งเขาจำเป็นให้ฉันเป็นหนูทดทองของเล่นใหม่ๆ โดยแม่กับพ่อไม่รู้ แต่ฉันก็มีรู้สึกสนุกมากกว่าที่จะจำใจ เพราะเขามักให้ฉันเป็นคนหายาแก้ไขถ้าผิดพลาด
    “ปรุงยาอะไรอยู่หรือ....”
จอร์จถามเมื่อเห็นฉันทำหน้ายุ่ง...
    “ยาสมานแผลทันใจ...แต่นี่มันเกือบเดือนแล้วยังใช้ไม่ได้...”
ฉันบ่นอย่างหงุดหงิด จอร์จเหลือบมองหม้อยา
    “ไม่ได้ก็ไมเห็นเป็นไรนี่ เรายังไม่ใช้กัน ที่บ้านก็มีแล้ว แล้วอีกอย่างยาตัวนี้ยุ่งยากมาก ปกติก็ไม่มีใครทำ...” ฉันถอนหายใจนั่งลงที่พื้นอีกครั้งอย่างหงุดหงิด
    “ไม่เหมือนกันสักหน่อย..ยาที่บ้านก็ออกจะธรรมดา...ยาสมานเร็วทันใจคุณสมบัติพอๆน้ำตานกฟินิกซ์..เอ่อ...หนูหมายถึงถ้าทำได้ก็ดีซิ...ชาลีอุตส่าห์บอกสูตรนี้หนูก็อยากทำให้สำเร็จเท่านั้นเอง”
    จอร์จมองดูฉัน “จินนี่...ยังโกรธรอนอยู่หรือ หมอนั่นแค่ห่วงเธอเท่านั่นเอง”
    “เขาไม่ควรยุ่งเรื่องนี้”
    “ก็เธอเปลี่ยนไปนี่ เขาคงรู้สึกได้ที่เธอคุยเรื่องนี้กับพวกพี่ๆได้ แต่ไม่คุยกับรอน”
ฉันเงียบ....ก่อนบอกเบาๆ “หนูไม่คิดว่าเรื่องของหนูสำคัญนักหรอก..”
    “พี่รู้ว่าที่เธอโกรธจริงๆ เพราะว่ามีแฮรี่อยู่ด้วย...แต่เธอก็คิดเองนะถ้าไม่แคร์เค้าขนาดนั่นจะโมโหแบบนี้หรือ........”
ฉันพูดไม่ออก หันไปนั่งปรุงยาต่อไป
เสียงหัวเราะดังมาจากข้างล่างก็พอเดาได้แล้วว่าเฮอไมโอนี่ตามมาสมทบแล้ว จอร์จเดินออกไปจากห้อง ฉันบอกกับพี่ชาย
“หนูต้องอยู่ปรุงยาต่อ ...”จอร์จไม่ตอบ เขารู้ว่าฉันอยากอยู่คนเดียว
หลังจากพี่ชายเดินออกไปฉันรีบหยิบปริศนาคำทายมาอ่านอีกครั้ง ก่อนโยนกระดาษเข้าในไฟมองมันมอดไหม้กับตา
ฉันยังนั่งอ้อยอิ่งอยู่ในห้องนั้น แล้วได้ยินเสียงนกร้อง  ฉันลุกไปที่หน้าต่างมองเห็นนกอินทรีสีแดงเพลิงบินมาเกาะที่ขอบหน้าต่าง ยิ้มออกมาอย่างดีใจ
มันบินมาที่เตียงนอนแล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นร่างของชายที่ฉันคุ้นเคย เพอซี่ ฉันโผเข้ากอดพี่ชาย
    “ไง...ยังขี้แยเหมือนเดิมนะ” เพอซี่บอกลูบผมฉันเบาๆ
    “พี่ดูแย่มากนะ...พี่ได้รับบาดเจ็บ” ฉันมองที่ต้นแขนของพี่ชายเป็นแผลยาวเลือดซึมออกมีเพียงผ้าพันไว้อย่างลวกๆ
“ไม่เป็นไรมากแค่ถูกลูกหลงนิดหน่อย....”
    “เกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ ใช่เกี่ยวกับคุกอัคคาซัคหรือเปล่า”
    “วันก่อนพี่ได้ยินพวกแครบคุยกันว่าเมื่อคืนจะมีคนไปที่คุก เพื่อช่วยคน...พี่จึงแอบบินตามไปเมื่อไปถึงเห็นมีผู้เสพความตายอีกกลุ่มหนึ่งต่อสู้กับมือปราบมาร ที่จริงตอนแรกคิดว่าผู้เสพความตายจะไปช่วยนักโทษ แต่ตรงกันข้ามเขาจะไปฆ่านักโทษคนนั้น....พี่ได้ยินไม่ค่อยชัด...แต่ดูเหมือนว่าจะเกี่ยวกับศิลาอาถรรพ์อีกก้อนหนึ่ง”
    ฉันตกใจมาก “ก็ศราตราจารย์ดัมเบิลดอร์.ทำลายมันแล้ว.....ไม่ใช่หรือ”
“เรื่องนี้พี่ไม่รู้ แต่พี่รู้มาอย่างหนึ่ง...เรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับสาเหตุการตายของพ่อแม่แฮรี่ที่แท้จริงก็ได้”ฉันใจหายวาบ มากมองเพอซี่ด้วยความวิตก
    “พี่รู้ว่าเธอคิดยังไงจินนี่....แต่เธอต้องเข้มแข็งไว้ ตอนนี้พ่อแม่สูญเสียลูกหนึ่งคนดีกว่าเสียลูกทุกคน.......ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องของแฮรี่คนเดียว แต่ทุกคนต้องมีส่วนร่วม ส่วนเธอต้องฝึกคาถานั่นให้ได้....ถ้าเห็นท่าไม่ดีจะต้องบอกเรื่องนั่นกับพ่อแม่ให้หมด”
    ฉันพยักหน้าช้าๆ เพอซี่มองหมอปรุงยาที่บัดนี้กลายเป็นสีทองพวยพุ่งออกมา ฉันยิ้มกระยิ่มใจ
“ยาสมานแผลทันใจ...สำเร็จแล้ว หนูรอเป็นเดือน”
เพอซี่ลูบผมฉันแรงๆ หัวเราะออกมาเบาๆ
“เธอน่าไปทำงานที่โรงพยาบาลนะ”
    ฉันเดินไปเปิดหม้อดูน้ำยา เสกคาถาอีกครั้งให้อยู่ในขวด
“ลองใช้เลยดีกว่า” ฉันยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แต่เพอซี่ก็ยอมเป็นหนูทดลอง
หยดน้ำยาเพียงสองหยดก็สามารถสมานแผลที่เป็นทางยาวเริ่มสมานเป็นเนื้อเรียบ
    “พี่เก็บเอาไว้ใช้นะ” ฉันส่งขวดเล็กๆให้เขา เพอซี่มองขวดยา
“ถ้าเมื่อคืนมียาขวดนี้เทร็ดอาจไม่ตายก็ได้....พี่หมายถึงมือปราบมารที่ต่อสู้เมื่อคืน พี่ช่วยไม่ทัน” เพอซี่บอกเสียงเศร้าๆ
    “มีคนตายด้วยหรือ...”ฉันถามอย่างใจหาย “มิน่าพ่อรีบไปกระทรวง”
    “อย่าพยายามติดต่อกับพี่นะ มีข่าวอะไรพี่จะส่งข่าวมาเอง”
ฉันพยักหน้ารับปาก
ทั้งคู่มองไปที่ประตูเมื่อได้ยินเสียงคนขึ้นบันได ฉันหันมามองเพอซี่อีกครั้ง เขาก็แปลงร่างเป็นนกอินทรีสีเพลิงบินออกไป ประตูเปิดออกมาทันที  แฮรี่พรวดพลาดเข้ามาในห้อง เขาชะงัก มองฉันนิ่ง
    “จินนี่....เออ...เธอเป็นอะไร” ฉันยังงงอยู่แต่เมื่อรู้ตัวว่าแฮรี่มองเสื้ออยู่ ฉันมองเสื้อผ้าตัวเองก็รู้ว่ามีเลือดเพอซี่ติดอยู่ตอนกอดพี่ชาย
    “เออ....ไม่..ฉันไม่เป็นอะไรหรอกคะ เมื่อกี้มีนกฮูกส่งจดหมายมา..มันบาดเจ็บ.ฉันช่วยมันไว้ แล้วตอนนี้มันไปแล้ว”
    แฮรี่นิ่งคงชั่งใจควรเชื่อใจฉันดีไหม
    “เออ...มีอะไรหรือ” ฉันถามแฮรี่เหมือนนึกธุระออก
    “รอนให้มาตาม....เฮอร์มี่ มาแล้วอยากคุยกับเธอด้วย”
    “ได้ซิ ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วจะตามไ ป” แฮรี่พยักหน้า เดินออกจากห้อง
“เออ....พี่ค่ะ..” ฉันเรียกอย่างลังเล แฮรี่หันมา
    “อย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะคะ พี่ก็รู้ว่ารอนกับแม่เรื่องมากแค่ไหน”
    เขาสบตาฉันพยักหน้าแล้วเดินออกไป ฉันมองตามอย่างไม่สบายใจเลย
ตอนนี้ฉันเพียงหวังว่าจะไม่มีใครจับได้ว่าเพอซี่เป็นแอนนิเมจัส หรือเรื่องที่เขากำลังทำอยู่..
    จอร์จเดินเข้ามาในห้องขณะที่ฉันกำลังนั่งผสมยาอยู่  ฉันมักขอใช้ห้องทดลองของพี่ชายปรุงยาใหม่ๆที่ยังไม่เคยเรียน ทุกคนในบ้านไม่ค่อยมายุ่งในห้องของพี่ชายฝาแฝดนัก ฉันจึงฝึกวิชาปรุงยาได้โดยไม่มีคำถามจากแม่ หรือเสียงบ่นจากรอน
    โดยพี่ชายทั้งสองมีข้อแม้ว่าฉันจะไม่บอกใครเรื่องของพวกเขาเช่นกัน แล้วบางครั้งเขาจำเป็นให้ฉันเป็นหนูทดทองของเล่นใหม่ๆ โดยแม่กับพ่อไม่รู้ แต่ฉันก็มีรู้สึกสนุกมากกว่าที่จะจำใจ เพราะเขามักให้ฉันเป็นคนหายาแก้ไขถ้าผิดพลาด
    “ปรุงยาอะไรอยู่หรือ....”
จอร์จถามเมื่อเห็นฉันทำหน้ายุ่ง...
    “ยาสมานแผลทันใจ...แต่นี่มันเกือบเดือนแล้วยังใช้ไม่ได้...”
ฉันบ่นอย่างหงุดหงิด จอร์จเหลือบมองหม้อยา
    “ไม่ได้ก็ไมเห็นเป็นไรนี่ เรายังไม่ใช้กัน ที่บ้านก็มีแล้ว แล้วอีกอย่างยาตัวนี้ยุ่งยากมาก ปกติก็ไม่มีใครทำ...” ฉันถอนหายใจนั่งลงที่พื้นอีกครั้งอย่างหงุดหงิด
    “ไม่เหมือนกันสักหน่อย..ยาที่บ้านก็ออกจะธรรมดา...ยาสมานเร็วทันใจคุณสมบัติพอๆน้ำตานกฟินิกซ์..เอ่อ...หนูหมายถึงถ้าทำได้ก็ดีซิ...ชาลีอุตส่าห์บอกสูตรนี้หนูก็อยากทำให้สำเร็จเท่านั้นเอง”
    จอร์จมองดูฉัน “จินนี่...ยังโกรธรอนอยู่หรือ หมอนั่นแค่ห่วงเธอเท่านั่นเอง”
    “เขาไม่ควรยุ่งเรื่องนี้”
    “ก็เธอเปลี่ยนไปนี่ เขาคงรู้สึกได้ที่เธอคุยเรื่องนี้กับพวกพี่ๆได้ แต่ไม่คุยกับรอน”
ฉันเงียบ....ก่อนบอกเบาๆ “หนูไม่คิดว่าเรื่องของหนูสำคัญนักหรอก..”
    “พี่รู้ว่าที่เธอโกรธจริงๆ เพราะว่ามีแฮรี่อยู่ด้วย...แต่เธอก็คิดเองนะถ้าไม่แคร์เค้าขนาดนั่นจะโมโหแบบนี้หรือ........”
ฉันพูดไม่ออก หันไปนั่งปรุงยาต่อไป
เสียงหัวเราะดังมาจากข้างล่างก็พอเดาได้แล้วว่าเฮอไมโอนี่ตามมาสมทบแล้ว จอร์จเดินออกไปจากห้อง ฉันบอกกับพี่ชาย
“หนูต้องอยู่ปรุงยาต่อ ...”จอร์จไม่ตอบ เขารู้ว่าฉันอยากอยู่คนเดียว
หลังจากพี่ชายเดินออกไปฉันรีบหยิบปริศนาคำทายมาอ่านอีกครั้ง ก่อนโยนกระดาษเข้าในไฟมองมันมอดไหม้กับตา
ฉันยังนั่งอ้อยอิ่งอยู่ในห้องนั้น แล้วได้ยินเสียงนกร้อง  ฉันลุกไปที่หน้าต่างมองเห็นนกอินทรีสีแดงเพลิงบินมาเกาะที่ขอบหน้าต่าง ยิ้มออกมาอย่างดีใจ
มันบินมาที่เตียงนอนแล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นร่างของชายที่ฉันคุ้นเคย เพอซี่ ฉันโผเข้ากอดพี่ชาย
    “ไง...ยังขี้แยเหมือนเดิมนะ” เพอซี่บอกลูบผมฉันเบาๆ
    “พี่ดูแย่มากนะ...พี่ได้รับบาดเจ็บ” ฉันมองที่ต้นแขนของพี่ชายเป็นแผลยาวเลือดซึมออกมีเพียงผ้าพันไว้อย่างลวกๆ
“ไม่เป็นไรมากแค่ถูกลูกหลงนิดหน่อย....”
    “เกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ ใช่เกี่ยวกับคุกอัคคาซัคหรือเปล่า”
    “วันก่อนพี่ได้ยินพวกแครบคุยกันว่าเมื่อคืนจะมีคนไปที่คุก เพื่อช่วยคน...พี่จึงแอบบินตามไปเมื่อไปถึงเห็นมีผู้เสพความตายอีกกลุ่มหนึ่งต่อสู้กับมือปราบมาร ที่จริงตอนแรกคิดว่าผู้เสพความตายจะไปช่วยนักโทษ แต่ตรงกันข้ามเขาจะไปฆ่านักโทษคนนั้น....พี่ได้ยินไม่ค่อยชัด...แต่ดูเหมือนว่าจะเกี่ยวกับศิลาอาถรรพ์อีกก้อนหนึ่ง”
    ฉันตกใจมาก “ก็ศราตราจารย์ดัมเบิลดอร์.ทำลายมันแล้ว.....ไม่ใช่หรือ”
“เรื่องนี้พี่ไม่รู้ แต่พี่รู้มาอย่างหนึ่ง...เรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับสาเหตุการตายของพ่อแม่แฮรี่ที่แท้จริงก็ได้”ฉันใจหายวาบ มากมองเพอซี่ด้วยความวิตก
    “พี่รู้ว่าเธอคิดยังไงจินนี่....แต่เธอต้องเข้มแข็งไว้ ตอนนี้พ่อแม่สูญเสียลูกหนึ่งคนดีกว่าเสียลูกทุกคน.......ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องของแฮรี่คนเดียว แต่ทุกคนต้องมีส่วนร่วม ส่วนเธอต้องฝึกคาถานั่นให้ได้....ถ้าเห็นท่าไม่ดีจะต้องบอกเรื่องนั่นกับพ่อแม่ให้หมด”
    ฉันพยักหน้าช้าๆ เพอซี่มองหมอปรุงยาที่บัดนี้กลายเป็นสีทองพวยพุ่งออกมา ฉันยิ้มกระยิ่มใจ
“ยาสมานแผลทันใจ...สำเร็จแล้ว หนูรอเป็นเดือน”
เพอซี่ลูบผมฉันแรงๆ หัวเราะออกมาเบาๆ
“เธอน่าไปทำงานที่โรงพยาบาลนะ”
    ฉันเดินไปเปิดหม้อดูน้ำยา เสกคาถาอีกครั้งให้อยู่ในขวด
“ลองใช้เลยดีกว่า” ฉันยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แต่เพอซี่ก็ยอมเป็นหนูทดลอง
หยดน้ำยาเพียงสองหยดก็สามารถสมานแผลที่เป็นทางยาวเริ่มสมานเป็นเนื้อเรียบ
    “พี่เก็บเอาไว้ใช้นะ” ฉันส่งขวดเล็กๆให้เขา เพอซี่มองขวดยา
“ถ้าเมื่อคืนมียาขวดนี้เทร็ดอาจไม่ตายก็ได้....พี่หมายถึงมือปราบมารที่ต่อสู้เมื่อคืน พี่ช่วยไม่ทัน” เพอซี่บอกเสียงเศร้าๆ
    “มีคนตายด้วยหรือ...”ฉันถามอย่างใจหาย “มิน่าพ่อรีบไปกระทรวง”
    “อย่าพยายามติดต่อกับพี่นะ มีข่าวอะไรพี่จะส่งข่าวมาเอง”
ฉันพยักหน้ารับปาก
ทั้งคู่มองไปที่ประตูเมื่อได้ยินเสียงคนขึ้นบันได ฉันหันมามองเพอซี่อีกครั้ง เขาก็แปลงร่างเป็นนกอินทรีสีเพลิงบินออกไป ประตูเปิดออกมาทันที  แฮรี่พรวดพลาดเข้ามาในห้อง เขาชะงัก มองฉันนิ่ง
    “จินนี่....เออ...เธอเป็นอะไร” ฉันยังงงอยู่แต่เมื่อรู้ตัวว่าแฮรี่มองเสื้ออยู่ ฉันมองเสื้อผ้าตัวเองก็รู้ว่ามีเลือดเพอซี่ติดอยู่ตอนกอดพี่ชาย
    “เออ....ไม่..ฉันไม่เป็นอะไรหรอกคะ เมื่อกี้มีนกฮูกส่งจดหมายมา..มันบาดเจ็บ.ฉันช่วยมันไว้ แล้วตอนนี้มันไปแล้ว”
    แฮรี่นิ่งคงชั่งใจควรเชื่อใจฉันดีไหม
    “เออ...มีอะไรหรือ” ฉันถามแฮรี่เหมือนนึกธุระออก
    “รอนให้มาตาม....เฮอร์มี่ มาแล้วอยากคุยกับเธอด้วย”
    “ได้ซิ ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วจะตามไ ป” แฮรี่พยักหน้า เดินออกจากห้อง
“เออ....พี่ค่ะ..” ฉันเรียกอย่างลังเล แฮรี่หันมา
    “อย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะคะ พี่ก็รู้ว่ารอนกับแม่เรื่องมากแค่ไหน”
    เขาสบตาฉันพยักหน้าแล้วเดินออกไป ฉันมองตามอย่างไม่สบายใจเลย
ตอนนี้ฉันเพียงหวังว่าจะไม่มีใครจับได้ว่าเพอซี่เป็นแอนนิเมจัส หรือเรื่องที่เขากำลังทำอยู่..
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น