ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จินนี่ วีสลีย์

    ลำดับตอนที่ #10 : ป่าต้องห้าม

    • อัปเดตล่าสุด 9 ธ.ค. 48


    ตอนที่10   ป่าต้องห้าม





             การเดินทางไปฮอกวอกต์ครั้งนี้ มันแตกต่างจากทุกครั้ง ไม่มีเสียงคุยกับรอนหรือกับเพื่อนๆ

    มีเพียงเสียงวู๊ดรถไฟที่พอจะทำให้ฉันได้สติบ้าง หลังจากที่ตกอยู่ในความเงียบคนเดียว

    หลังจากที่เก็บของแล้วฉันรีบใช้คาถาหายตัวแล้วมาหลบซุกอยู่คนเดียวเงียบๆที่ตู้เก็บของ

    ฉันไม่อยากเจอผู้คนหรือเรื่องใดๆเลย ฉันรู้สึกผิดมหันต์ที่รอนผู้ร่าเริงต้องเสียใจมากขนาดนี้ สำหรับฉันแล้วในบรรดาพี่ชายรอนเป็นเหมือนเพื่อนฉันมากที่สุด แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่แสดงว่าเอาใจฉันตลอดเวลา แต่ฉันก็รู้ว่าเขาเองห่วงใยฉันไม่แพ้พี่ชายคนอื่น เขาไม่ใช่คนที่แสแสร้ง หรือเก็บอารมณ์ได้ดีนัก แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้รอนเปลี่ยนไปมากเขาระเบิดอารมณ์ออกมากับเพอซี่อย่างไม่ยั้งมือ มันคงเป็นสิ่งเดียวที่พอช่วยทั้งเขาและเพอซี่ได้



    แล้วจู่ๆฉันก็รู้สึกปวดร้าวถึงหัวใจเมื่อนึกถึงสายตาของแฮรี่ สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดคือเขาเกลียดฉัน

    “ทรมานใช่ไหมจินนี่......”เสียงเบาหวิว ลอยมาจากที่ไกลแสนไกล

    “ทอม...”



    “อีกไม่นานหรอกจินนี่....เราจะได้พบกันอีก...”

    “....ฉันต้องทำสำเร็จ......”ฉันบอกด้วยเสียงเบาแทบขาดใจ ร่างกายปวดร้าวไป

    ทุกอนู “เธอจะไม่มีวันหลีกหนีชะตาของเราไปได้...ชีวิตเธอ...คือของชั้น...”

        เสียงเบาหวิวหายลอยไปพร้อมกับเสียงรถไฟ และสติของฉัน...

        “สำเร็จ....ทอม..ฉันต้องทำสำเร็จ..” ฉันเหมือนพูดอยู่ในความฝัน....

    ...ฉันกำลังเดิน ไป...เดินเข้าไปในป่าต้องห้ามท่ามกลางเงาครึมของต้นไม้ มีเพียงแสงสลัวของดวงจันทร์ที่ทอดแสงส่องลงมาอย่างอ่อนแรง

        มือขวาของฉันปวดร้าวแทบระเบิดออก แสงรูปงูบาซิสก์ปรากฏพันรอบข้อมือ

        “ปล่อยมันออกไปซิ....ปล่อยพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุดของเธอออกไป”

    เสียงดังก้องในความคิด...ฉันกัดฟัน



        “ทอม...ไม่...เธอตายไปแล้ว....”

        ร่างขอทอมปรากฏอย่างเลือนลาง เดินมาหยุดต่อหน้าฉัน

    “ใช่ชั้นยังไม่ตาย....ฉันอยู่กับเธอตลอดเวลา...”

    ฉันรู้สึกเจ็บที่กลางหน้าอกขึ้นมา

        “คงมีคำถามมากมายจากใจ....ของเธอ...ว่าทำไม”

        ฉันมองเขานิ่ง ภาพของทอมแม้เลือนลางแต่กลับแจ่มใจในจิตใจฉัน

    เขายื่นมือชี้มาที่ตัวฉัน



        “ถามใจเธอดูซิ...ว่าชั้นทำไมถึงยังอยู่....จิตใจที่ก้นบึ้งของเธอ..ความชั่วร้ายที่ยังหลบซ่อนอยู่..”

        ฉันรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ไปทั่วร่างกาย

        “แก..ไม่มีวันควบคุมฉันได้.....”

        “เธอแน่ใจหรือ...ด้วยอำนาจของลอร์ดโดโวมอ..ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้..”

        “แก..มันแค่ความทรงจำที่เลือนลาง..ไม่มีอำนาจใดที่ช่วยแกได้..ไม่อย่างนั้นร่างของแกก็ต้องรู้แล้ว..”

        ฉันตอบไปออย่างมีสติมากขึ้น ทอมสีหน้าเปลี่ยนไปแววตาโกรธแค้น

        “อย่าโอหังเลยจินนี่...เธอจะค่อยๆเปลี่ยนไปความชั่วร้ายจะปรากฏ ดวงดาวมฤตยูปรากฏ...ฉันจะเห็นเธอ...ดวงดาวของเธอชะตาของเธอ..ร่างที่แฮรี่จะไม่มีวันฆ่าได้”    ทอมหัวเราะอย่างผู้กำชัย



    คำพูดของเขาทำให้ฉันมึนงง ภาพในลูกแก้วพยากรณ์เหมือนปรากฏอยู่ตรงหน้าอีกครั้งฉันเหมือนขาดสติ

    “อะวาดา เคดาฟ – รา”

    คาถา คำสาปพิฆาตถูกปล่อยออกไป แสงงูบาซิสก์นับสิบตัว พุงเข้าหาทอมอย่างบ้าคลั่ง ผ่านตัวเขาออกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะเยาะ

    พร้อมกับทะลุผ่านต้นไม้ทึบ แมงมุมยักษ์ลูกหลานอาราก็อกที่รอหาเหยื่อที่หลงเข้ามา....มันคงดีใจได้กลิ่นอันหอมหวลของเนื้อมนุษย์….เนื้อของเด็กสาวที่พวกมันไม่เคยลิ้มลอง...ใครที่หลงผ่านมาจะไม่มีวันผ่านพ้นออกไปได้

    ขณะที่พวกมันกำลังเดินตรงไปหาเหยื่ออย่างกระหยิ่มใจนั้น พวกมันก็เห็นแสงหนึ่งพุ่งเข้ามา แสงงูนับสิบตัวผ่านพวกมัน...แม้แต่คิดในใจยังไม่ได้คิดว่าพวกมันตายแล้ว......อาหารมื้อนี้ของมันไกลเกินตัวมันไปแล้ว

    ฉันปล่อยคาถาไปอย่างบ้าคลั่ง ชี้ไปทางร่างทอมที่ปรากฏอีกทาง



    “ฆ่าชั้นให้ได้ซิจินนี่...อย่างนี้ถึงกับสมเป็นเธอ..ร่างที่ฉันรอคอย..”

    ฉันกัดฟัดด้วยความแค้นใจ...เจ็บใจที่ทำอะไรไม่ได้

    “ยิ่งเธอฆ่า...มากเท่าไหร่...ดวงดาวยิ่งจะสาดแสงแจ่มชัด วันที่เราพบกันก็จะเร็วขึ้น”........ไม้กายสิทธิ์ถูกชี้ไปอีกครั้ง ทอมยิ้มเยียด

    ก่อนที่ฉันจะท่องคาถาจบ    เสียงบางอย่างก็ดังขึ้น

    “ครูซิ-.....

    “ไม่!!!...จินนี่.....”  

    เพอซี่ปรากฏกายอยู่ข้างหน้าเหงื่อไหลท่วมตัวมองฉันหน้าซีด.....ยกมือห้าม

    แสงตราพรีเฟคส่องประกายจนฉันต้องหลบตาเมินไปทางอื่น



        “จินนี่...พี่เอง..เพอซี่..” เสียงของพี่ชายสั่นเหมือนเล่นควิดดิชมาสักสิบเกม

    ฉันยืนมองอย่างตะลึง.....กำลังจะฆ่าพี่ชายตัวเอง เพอซี่ค่อยๆเดินมาหาฉันทั้งทั้งที่ยังชี้ไม้ไปทางเขา

    “ลงมือ..ซิ...จินนี่...ไม่กล้าหรือ..” เสียงคอยยุยงอยู่ข้างๆ เพอซี่มองตามร่างที่เลือนลางของทอม

        “จินนี่......พี่เอง...เขาเป็นใคร...”

    ทอมมาปรากฏกายข้างๆเพอซี่



        “เธอควรแนะนำ...ให้พี่ชายเธอได้รู้...” ทอมบอก

    “เขาคือ...ทอม  ริดเดิ้ล”  ฉันบอกด้วยเสียงแผ่วเบา

    ชื่อนี้เหมือนทำให้เพอซี่เหมือนถูกคาถาสะกดนิ่งได้อีกครั้ง

    “ทอม ริดเดิ้ล....หรือ...ลอร์ด...”

    เสียงเพอซี่หายไปในลำคอ... เขาสบฉันดูสับสนวุ่นวาย

    “ไม่จ.....” เพอซี่ตะโกนด้วยความตกใจสุดขีด

    พร้อมกับที่ยกไม้ไปยังฝ่ายตรงข้ามพ้อมกัน

    “ครูซิโอ!!”เพอซี่ตะโกนเสียงดัง

        “อะวาดา เคดาฟ – รา”ฉันตะโกนสวน...แสงสว่างเจิดจ้าพุ่งไปทิศทางตรงกันข้าม ผ่านข้ามบ่าไปทางด้านหลังอย่างเฉียดฉิว

    “อ๊าก......”  “ตุ๊บ....”

        เสียงร้องโหยหวนดังไม่ถึงเสียววินาทีก็หายไปพร้อมกับเสียงหล่นจากที่สูง....ร่างแมงมุมยักษ์ตกมาจากต้นไม้แหลก อีกตัวยืนนิ่งมันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองตาย

    ฉันสบตามองเพอซี่ที่ยิ้มออกมาได้เป็นครั้งแรก เขากวาดสายตามองรอบด้านที่มีประกายตาแสงสีเหลืองส่องรอบตัว ร่างดำเมี้ยง ขายั้วเยี้ยเดินรอบล้อมตัวพวกเรา

    พวกเราเดินหันหลังชนกันโดยไม่ต้องพูดเตรียมพร้อมที่สู้กับสัตว์ยักษ์

    “ถ้า...ไม่ตามเธอมาคงไม่ได้เห็นอะไรน่าสนุกแบบนี้แน่”

    เพอซี่บอกด้วยความปลอดโปร่ง



    “ให้จบเรื่องตรงนี้ก่อนเถอะจินนี่...เรามีบัญชีเป็นห่างว่าวต้องสะสางกัน”

    ฉันหันไปยิ้มกับพี่ชาย

    แมงมุมตัวหนึ่งพุ่งมาทางฉันพร้อมกับที่พ่นของเหลวออกจากปากของมัน

    “งั้นก็รีบจัดการให้จบไวๆ....อะวาดา เคดาฟ – รา!!!”

    ฉันใช่คาถาคำสาปพิฆาตอีกครั้ง....อย่างสุดกำลังแสงสว่างเจิดจรัสรอบกาย แล้วหายไปเหลือเพียงความเงียบสงบ ฉันเห็นเพียงดวงตาของพี่ชายเป็นประกายท่ามกลางความมืด....เหมือนเป็นสัญญาระหว่างเราไม่ว่าอย่างไรเขาจะอยู่ข้างฉันตลอดไป....

    “จินนี่...จินนี่...”  เสียงของพี่ชายแผ่วเบาล่องลอยไปกับสายลม





    “จินนี่.....จินนี่ฟื้นแล้ว....” เสียงร้องเรียกอย่างตื่นเต้น....

    ฉันลืมตาช้าๆ เพื่อปรับแสง มองเพดานห้องโถงใหญ่ฉันรู้สึกคุ้นตา คงเป็นห้องพยาบาลที่โรงเรียนฮอกวอตแล้ว ฉันอดแปลกใจไม่ได้

    ฉันเบนสายตาไปตามเสียงอีกครั้งเฮอร์ไมโอนี่ นั่งข้างๆเตียงยิ้มด้วยความดีใจ รอนกับแฮรี่ยืนมองอยู่ที่ปลายเตียง รอนเหมือนมีอะไรจะพูดแต่เขาก็เงียบ

    ฉันมองพี่ชายหักห้ามใจตัวเองที่จะโผเข้ากอดเขา หักห้ามใจที่จะร้องไห้แสดงความอ่อนแอออกมา ฉันเบือนสายตาไปอีกทางก็ถึงกับขมวดคิ้ว เดรโก มัลฟอย ยืนกอดอกอยู่ไม่ไกล

    เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มบอกอย่างร่าเริง

    “เขาพาเธอมา....เดรโกพบเธอหลับอยู่”

    “ชั้นแค่มารอถามเธอว่าไปทำอะไรที่ตู้รถเก็บของบ้านสลิธรีน”

    เด็กหนุ่มผมสีทองถามเสียงขรึม

    ฉันมองทุกคนไหวไหล่น้อยๆ

    “ก็คงไปหาที่หลับมั่ง...”

    รอนมองฉัน สีหน้าเรียบเฉยแล้วเดินออกไป เฮอร์ไมโอนี่มองฉันอย่างผิดหวังกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เดิน ปาดน้ำตาออกไปด้วยอีกคน

    ฉันลุกขึ้นจากเตียง...

    “ฉันจะรีบไปงานเลี้ยงอยากเห็นเด็กใหม่ๆ....”

    แฮรี่มองฉันนิ่ง ฉันเมินหน้าหลบสายตาเขา เดินผ่านเขา

    แต่แฮรี่จับแขนฉันไว้ให้หยุด



        “ไม่มีงานเลี้ยงแล้ว.....”

        “หมายความว่า..” ฉันถามแฮรี่ เขาตอบด้วยเสียงเงียบขรึม

        “มันผ่านมาสามวัน....เธอหลับไปสามวันแล้ว”

        เสียงเขาเหมือนลมพัดลอยผ่านไป.......มันเหมือนกับว่าฉันไม่เคยได้ยินอะไรเลย..

    ...........................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×