ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { exo } mischance in destiny (chanbaek feat.kris)

    ลำดับตอนที่ #4 : "ความบังเอิญ" - การเดินทางวันที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 58


    การเดินทางวันที่ 2

    D-12

    (chanyeol part)

    ผมตื่นขึ้นพร้อมๆกับแบคฮยอน รู้สึกขนลุกแปลกๆที่เห็นเรานอนข้างกันโดยไม่มีหายนะตามมาหลังจากตื่นขึ้น

    วันนี้ผมวางแพลนไว้ว่าจะไปถ้ำพุงช้าง ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่ผมจะตามถ่ายรูปให้ฮาคยองจนกว่าจะนั่งรถไปกระบี่และใช้เวลาสองอาทิตย์ที่เหลือต่อจากนี้ตระเวนเที่ยวเพื่อเก็บภาพตามจังหวัดอื่นๆให้ครบ

     ไอ้เชี่ยกูแปรงฟันอยู่ แล้วมึงเข้ามาเยี่ยวเนี่ยนะ!”

    ก็กูปวดอ่ะ จะให้อั้นแล้วฉี่รดที่นอนไหม

    ผมไม่สนใจ วิ่งอย่างรีบร้อนเข้าไปปลดกางเกงและปล่อยทุกข์ออกมาทันที แบคฮยอนยกขาขึ้นถีบผมเบาๆและจิ๊จ๊ะปากนิดหน่อย ก่อนจะหันไปแปรงฟันหน้ากระจกและล้างหน้าล้างตาตามปกติ พอต่างคนต่างทำภารกิจเสร็จแล้ว ผมก็ออกมาเตรียมของ

    ผมเตรียมกล้องของฮาคยองมาคล้องไว้ที่คอตัวเองเรียบร้อยหลังจากหยิบเงินจำนวนหนึ่งติดกระเป๋ามาด้วยเผื่อจะฉุกเฉิน เหลือบไปมองแบคฮยอนที่ถือกระดานไม้ไว้ในมือ มีกระเป๋าเป้หนึ่งใบที่ใส่อะไรสักอย่างเยอะพอสมควร

    มึงจะไปไหนวะ

    ผมถามเพราะอยากรู้ เอาจริงๆผมก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่ามันมาที่นี่ทำไม และเราก็ดันบังเอิญมาที่เดียวกันพอดี ทั้งๆที่มันก็มีที่เที่ยวทั่วประเทศไทย มึงจะขึ้นเหนือขึ้นเขาอะไรก็ไม่แปลก..

     ดั๊น..มาจบลงที่ทะเลเหมือนกันซะงั้น

    ไปพังงาอ่ะ” ผมหันขวับไปมองมันทันที มองอย่างอึ้งๆ อึ้งในโชคชะตาและความบังเอิญที่เหมือนความตั้งใจแปลกๆ

    เฮ้ย มึงจะไปกระบี่ ไประนอง ไประยาไปห่าไปเหวอะไรก็ได้ กูจะไม่แคลงใจอะไรเลย ทำไมเสือกไปที่เดียวกันอีกวะ!!

    เหมือนกันว่ะ

    เรามองหน้ากันนิ่งๆ มันนิ่งมากจนกลายเป็นผมที่หลุดหัวเราะออกมาด้วยความตลกของโชคชะตา

    กูว่าเราสะบัดกันไม่หลุดแล้วจริงๆว่ะ

    แบคฮยอนทำหน้าเหยเกเหมือนไม่อยากจะยอมรับ คิดว่าทริปนี้จะมีแค่ผมคนเดียวซะอีก ได้ศัตรูพ่วงมาเป็นเพื่อนร่วมเดินทางเฉยเลยเว้ย

    ไปพังงา? แล้วมึงจะไปที่ไหน” ผมถามอีก ขณะที่ดึงคีย์การ์ดออกมาและเดินไปที่ลิฟท์พร้อมๆกับแบคฮยอน

    ถ้ำ” ตอบสั้นๆเพราะเจ้าตัวกำลังเหลาดินสอหลายๆแท่งใส่ลงไปในกระเป๋า ผมแหวออกมาอย่างดังและถามด้วยสีหน้าหวาดๆ

    อย่าบอกกูนะว่าถ้ำพุงช้าง…”

    กูล้อเล่นนะ อย่ารับมุขกูล่ะ..

    เออ กูไปถ้ำนั้นแหละ ที่เดียวกันอีกดิ?”

    ผมตบหน้าผากตัวเองแรงๆก่อนจะยอมทำใจ เอาเหอะ ไปกับมันคงไม่มีอะไรแย่เท่าไหร่หรอก นอนข้างกันมาทั้งคืน ถึงจะไม่ใช่เตียงเดียวกัน ดีแค่แล้วไหนที่แม่งไม่กลิ้งลงมาทับผม

    เออ” ผมขานตอบ

    เฮ้อ..กูก็ว่าหนีไม่พ้นแล้วจริงๆ

    เราต่างทำสีหน้าปลงตกกันทั้งคู่ ที่ไม่โวยวายเพราะโวยมาจนเหนื่อยแล้วต่างหาก แย้งไปก็ไม่ช่วยอะไร ถึงจะไม่อยากมีอีกฝ่ายร่วมทางไปด้วยแต่นั้นก็ต้องจำยอม เพราะผมคงจะเปลี่ยนแผนไปที่อื่นไม่ได้แล้วด้วย

    ตลกดีเหมือนกัน คนที่ขับรถชนกันและทะเลาะกันจะเป็นจะตาย กลับต้องมานั่งรถไปเที่ยวด้วยกันแถมยังพูดคุยกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกต่างหาก โคตรจะไม่ใช่เรื่องปกติของคนสองคนเลยเหอะ

    ผมนั่งรถไปพังงาร่วมชั่วโมง โชคดีที่วันนี้อากาศเย็นๆไม่ร้อนมาก เลยทำให้การนั่งรถตากลมไปพังงาของผมค่อนข้างโอเคอยู่พอสมควร

    มึงแวะกินอะไรกันก่อนปะ” ผมชวนและเริ่มมองหาร้านอาหาร แบคฮยอนส่ายหัวและเพยิดหน้าไปทางข้างหน้าแทน

    ถึงแล้วนั่นน่ะ  บ่นมากจริงๆเลยนะมึง

    ผมขมุบขมิบปากตามอย่างหมั่นไส้ เราลงจากรถและเดินเข้าไปหน้าถ้ำ ตอนนี้ผมทำตัวเหมือนนักท่องเที่ยวที่อยากออกมาตระเวนหาอารมณ์สุนทรีย์ แต่จริงๆแล้วโคตรไม่ใช่ กูมาทำภารกิจครับ

    เราเดินเข้าไปในถ้ำพุงช้าง มันจะต้องนั่งเรือแคนูเข้าไปเพราะที่นี่เป็นถ้ำที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำทะเล หลังจากนั้นก็ต้องต่อด้วยการนั่งแพไม้ไผ่ที่ผมโคตรจะเสียว  โว๊ย!! ฮาคยองนะฮาคยอง!

    พอลงจากแพไม้ไผ่แล้วก็ต้องเดินทางเท้าต่ออีกเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เดินไปพักไป ดีที่มีไกด์ทัวร์นำอยู่ข้างหน้า พวกผมเลยเข้าไปเนียนๆบ้างอะไรบ้าง พอเขาแจกน้ำก็แอบไปจิ๊กมาดื่ม ทำตัวชั่วในยามนี้จะดีที่สุดครับ

    ภายในถ้ำมีหินย้อย หินงอก หินสารพัดหินที่ห้อยเป็นรูปร่างต่างๆ ผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศรอบๆตัวเพราะไม่เคยมาสถานที่จำพวกนี้เลยสักครั้ง คิดได้อย่างนั้น มือก็รีบหยิบกล้องของฮาคยองขึ้นมากดถ่ายรัวๆ วางอยู่ในมุมที่พอเหมาะ ไม่รู้ว่ามุมไหนเป็นมุมไหนบ้าง..ก็กดถ่ายแม่งไปเหอะครับ

    แต่ผมก็พยายามจับกล้องด้วยความทุลักทุเลเต็มที่เพื่อเก็บภาพสวยๆราวกับช่างภาพฝีมือดี(?)ไปฝากผู้ป่วยที่รออยู่

    แบคฮยอนเดินมองอะไรไปรอบๆนานแล้ว เราไม่ได้พูดอะไรกันสักพัก เหมือนกำลังตกอยู่ในความคิดและโลกของตัวเอง จนมาถึงจุดพักเล็กๆและผมก็เริ่มเมื่อยขา

    เหนื่อยว่ะ โคตรไกลเลย

    ผมบ่นและหยิบขวดน้ำออกมาราดหน้าตัวเองให้หายร้อน เมื่อรู้สึกว่าน่าจะเก็บภาพไปเยอะพอสมควรแล้วผมก็หาทางออกทันที แต่แบคฮยอนยังคงนั่งอยู่นิ่งๆ มือไม้พลิ้วไหวไปตามดินสอที่เขาบรรจงวาด

    ผมแอบชะเง้อหน้าไปดูภาพวาดที่ร่างเล็กละเมียดละไมอยู่นาน แอบตกใจนิดหน่อยที่มันออกมาเพอร์เฟ็คมากจนผมทึ่ง ลายเส้นอะไรต่างๆขีดเขียนลงไป มันดูลงตัวทำให้กลิ่นไอธรรมชาติลอยออกมาทันทีที่มอง

    โคตรเซียนเลยนี่หว่า

    เฮ้ย มึงวาดรูปเก่งอ่ะ เดี๋ยววาดให้กูหน่อยดิ จ้างเลย

    แบคฮยอนหันมาเบะปากใส่แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เขาก้มๆเงยๆอยู่สักพักก็เก็บกระดานวาดรูปลงก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินมายืนข้างๆผม

    กลับเหอะ สี่โมงล่ะ

    ผมว่าภาคใต้ของประเทศไทยน่าเที่ยวมากเลย แหล่งธรรมชาติดีๆที่มนุษย์ไม่ไปก้าวก่ายจะเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดสำหรับผม และมันก็น่าจะเป็นชายฝั่งทะเลอันดามันและเกาะต่างๆแถวนี้แหละ

    ผมมองนาฬิกาข้อมือสลับกับผู้คนที่เริ่มทยอยเดินกลับออกมาจากในป่า แบคฮยอนยื่นปากล่างออกมานิดหน่อยขณะที่ชะโงกหน้ามาดูนาฬิกาบนข้อมือผม เหมือนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เพราะเขาชอบทำหน้าแบบนี้เวลาเงียบๆและคิดอะไรในหัว

    แล้วผมไปรู้เรื่องมันดีได้ไงวะ 

    มึงจะแยกกับกูเลยไหม?” แบคฮยอนถาม  ขณะที่เราก็พากันเดินออกจากถ้ำพุงช้างเหมือนๆกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ

    แล้วแต่มึงอ่ะ ผมไม่ได้มองหน้ามัน เพราะกำลังระมัดระวังในการเดินออกจากถ้ำเป็นอย่างมาก เมื่อออกมาได้แล้ว ผมก็หันกลับไปหาแบคฮยอนที่กำลังเดินตามออกมาช้าๆ

    เขาเดินมายืนข้างๆผมและจ้องหน้าด้วยความกวนตีน

    งั้นกูแยก..ไปละ บาย เขาเดินดุ่มๆนำหน้าผมไปและทำท่าจะแยกไปอีกทาง ผมเห็นแบบนั้นก็ชะงักอยู่ครู่หนึ่ง คิดอะไรได้ก็เลยเดินตามไปกระชากแขนเล็กๆนั่นมาใกล้ตัว

    คิดไปคิดมา มีมันไปด้วยก็ไม่แย่อะไรเท่าไหร่ อย่างน้อยก็มีเพื่อนคุยระหว่างเดินทางด้วย แบคฮยอนมองผมงงๆ และพยายามสะบัดแขนออก

    ปล่อยดิเฮ้ย

    ไม่ต้องหรอก ไปๆด้วยกันแม่งนี่แหละ

    นี่ต้องไปด้วยกันอีกเหรอ?”

    เออ ไหนๆก็มาถึงขนาดนี้ล่ะไอ้ห่า” 

    อยากอยู่กับกูเหรอ? มันยิ้มล้อก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ผมทำท่าจะถุ้ยน้ำลายใส่หน้าแม่งแต่ตีหน้านิ่งๆตอบกลับไป

    สุดๆ

    อุ๊ย ดีใจจัง

    ดูหน้ากูนิดนึง ไปได้แล้วไอ้ห่า

    ผมผลักหัวมันจนกระเด็น ก่อนจะรีบวิ่งหนีพร้อมหัวเราะร่วน เพราะแบคฮยอนกำลังวิ่งเอากระดานไม้แข็งๆนั่นจะมาฟาดหัวผมให้แตกกันไปข้าง

    เราเดินออกมาจากเขตอุทยานสักพักแล้ว สายตาผมเหลือบไปเห็นที่เช่ารถเช่าเรือต่างๆนาๆอยู่อีกฝั่ง นั่นจึงเป็นสิ่งเบี่ยงเบนความสนใจของผมทันที

    เฮ้ยๆ ไปเช่ารถมาขี่เล่นกัน” ผมพูดด้วยความสนอกสนใจ ส่วนแบคฮยอนก็เบ้หน้า

    ไม่เอาอ่ะ มึงขับเร็วแบบนั้น ถ้าพากูไปชนใครเขาอีกล่ะ

    โอ๊ยย คงไม่มีใครโง่ขับเลนส์ซ้ายเหมือนมึงหรอกครับ” ผมหัวเราะล้อเลียนเลยทำให้แบคฮยอนต้องยกเท้าขึ้นมากระทืบนิ้วตีนผมจนต้องร้องจ๊ากออกมาดังๆ

    มึงจิตปะวะ ไอ้สัด เจ็บตีน!”

    ก็มึงชอบกวนตีนอ่ะ!”

    ผมขมุบขมิบปากตามก่อนจะวิ่งข้ามฝั่งโดยลากแขนเล็กให้ตามมาด้วย ผมยืนคุยกับเจ้าของร้านสักพักก่อนจะตัดสินใจเช่ารถตู้โฟล์คสวาเกนมาขับเล่น ตกลงราคาเสร็จเรียบร้อยผมก็รับกุญแจมาทันที

    ผมเข้าไปนั่งประจำที่คนขับและเช็คสภาพรถนิดหน่อย จากนั้นก็พารถตู้โฟล์คสวาเกนสีฟ้าอ่อนคลาสสิคโลดแล่นไปตามริมถนนข้างๆชายฝั่งทะเลทันที

    ผมผ่อนแรงฝ่าเท้าไม่ให้เหยียบคันเร่งจนมิด เพราะมีแบคฮยอนนั่งอยู่ข้างๆและคอยจำจี้จำชัยอยู่ไม่ห่างนั่นเอง

    นี่มึงจะไปไหนอ่ะ

    เขาถามและมองบรรยากาศรอบๆไปด้วย เนื่องจากเริ่มเย็นแล้ว ดวงอาทิตย์ก็กำลังจะลับขอบฟ้าไปเรื่อยๆ ส่วนลมเย็นๆที่พัดมาจากชายฝั่งทะเลทำให้การขับรถชมวิวของผมเป็นไปด้วยความสุข

    ว่าจะไปเขา แต่ไม่ทันละ

    ผมขับไปตามถนนเรื่อยๆ ชักเริ่มตงิดใจเมื่อปลายเส้นทางเริ่มมืดเข้าทุกทีๆจนแสงไฟฟ้าข้างทางค่อยๆเลือยหายไปทีละต้น..

    นี่มึงจะไปไหนเนี่ย!?”

    ผมเกาหัวแกรกๆเมื่อรู้ชะตาตัวเองว่าเข้าขั้นวิกฤติซะแล้ว อย่างแรกผมจะตายเพราะแบคฮยอน และอย่างที่สองผมอาจจะหาทางยูเทิร์นไม่เจอและคาดว่าจะต้องนอนค้างในรถก็เป็นได้

    แต่ผมว่า..ผมจะตายเพราะอย่างแรกเป็นแน่แท้ แม่งต้องด่ากูจนหูดับตับไหม้แน่นอน!

    ที่กลับรถอยู่ตรงไหนวะ

    ผมเอี้ยวตัวหันไปมองรอบๆข้างทางที่ตอนนี้มีแต่ต้นไม้ขึ้นรกร้าง รอบข้างมืดสนิทมีก็แต่แสงไฟหน้ารถของผมที่สาดส่องพอให้คลำทางไปได้เท่านั้น ตอนนี้ผมหยุดรถก่อนจะคิดหาทางวนรถกลับ แต่เพราะมันเป็นถนนสายเดียว เหมือนจะให้ขับมุ่งหน้าไปเรื่อยๆโดยไม่มีทางวนกลับงั้นเหรอ...?

     ผมคิดว่าจะลองขับไปเรื่อยๆ เมื่อเจอทางแยกให้เลี้ยวไปถึงตัวเมืองได้ก็จะวนกลับตรงนั้นเลย

    เฮ้ยมึง..กูขอโทษ กูหลงทางว่ะ

    เฮ้ยยยยยยยย ไม่หลงตรงนี้ดิ นี่ป่านะเว้ย!”

     แบคฮยอนถดขาตัวเองมากอดไว้ทันที ก่อนจะรีบหมุนกระจกปิดอย่างไว เสียงจิ้งหรีดเรไรร้องวีดวิ้วกันระงมไปทั่วบริเวณ ถึงผมจะแอบกลัวอยู่นิดๆแต่ก็ต้องแข็งแกร่งเข้าไว้

    โห่ ไม่หลงง่ายๆหรอก อย่างน้อยก็แค่รอ..”

    รอเชี้ยไร!”

    รอถึงเช้าแล้วค่อยออกไง” ผมยกแขนขึ้นกันหัวตัวเองทันทีเหมือนรู้ว่าพอพูดจบ จะต้องโดนประทุษร้ายจากคนข้างๆ

    กูไม่เล่นนะเว้ย ขับไปเหอะ เดี๋ยวก็เจอเองอ่ะ

    เสียงเขาสั่นๆพลางมองไปรอบๆและปิดหูปิดตาไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น ผมตัดสินใจขับรถไปเรื่อยๆ แถวนี้แม่งไฟฟ้าเข้าไม่ถึงหรืออะไรวะ ไอ้ห่า นี่กูมาล่าท้าผีหรือเปล่า เชี่ยเอ๊ย..

               "พี่ป๋องผมไม่ไหวแล้วพี่ เอาทีมงานมารับผมที โฮกกกกกก"

                ป๊าบ!

                "พี่ป๋องพ่อง!! ยังจะเล่นอีกนะมึง!!!" ผมลูบหัวตัวเองปอยๆและตั้งหน้าขับรถต่อไป กูอุตส่าห์ทำให้บรรยากาศแม่งดีขึ้นแท้ๆ โดนตบจนหัวสั่นเลย

    ยิ่งเห็นบรรยากาศแบบนี้ หัวผมก็พาลนึกไปถึงหนังผีที่ตัวเองชอบดูบ่อยๆ ถ้าแม่งมีคนมายืนโบกข้างทางนี่ใช่เลย..

    ชานยอลๆ

    แบคฮยอนตีไหล่ผมรัวๆและพเยิดหน้าไปทางด้านซ้ายมือของตัวเอง ผมเหลือบตาไปมอง ก่อนจะพบผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่นิ่งๆริมถนน เขาคนนั้นมีท่าทางมอมแมม ไม่มีของติดตัวมาสักชิ้น ท่าทางผอมโซดูไม่มีแรงแถมยังยืนก้มหน้าอีกต่างหาก สงสัยว่าจะยืนอยู่นานแล้วด้วย..

    ห่าเอ๊ยมายืนเหี้ยไรตอนนี้ครับพี่..

    อย่าเรียกแม่งขึ้นรถนะไอ้ห่า..”

    เรียกก็เหี้ยละ

    ผมร้องเตือนและบังคับใจตัวเองไม่ให้สั่นไปตามมือไม้ แบคฮยอนดึงประตูรถไว้และถอยร่างตัวเองมาอยู่ใกล้ๆผม ผมไม่กล้ามองหน้าผู้ชายคนนั้น เพราะกลัวจะเจอช็อตที่แม่งเงยหน้าขึ้นมาแล้วจะเป็นแบบที่ตัวเองจินตนาการไว้

    ตอนนี้เรากำลังขับรถใกล้เขาเรื่อยๆแล้ว

    พอทีอย่างนี้แล้วก็ไม่ขับเร็วๆล่ะวะไอ้สัด!”

    แบคฮยอนดึงประตูไว้แน่น ผมก็อยากจะเหยียบสักร้อยแปดสิบแม่งไปเลย แต่ก็อย่างที่รู้ รถรุ่นนี้ความเร็วมันได้แค่นี้เท่านั้น

    นี่กูเร็วสุดแล้ว มันเร็วได้เท่านี้อ่ะ!”

    ผมรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก เมื่อขับเข้าใกล้ผู้ชายคนนั้นเข้าทุกที มือไม้ชื้นแฉะไปด้วยเหงื่อ ก่อนจะแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเองอย่างกดดัน

    และอย่างที่คิด..ไอ้ผู้ชายคนนั้นแม่งเงยหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระโดดมายืนกลางถนน!

    เหี้ย!” เราอุทานออกมาพร้อมๆกัน แบคฮยอนเกี่ยวแขนผมไว้และพึมพำท่องบทสวดไม่หยุดปาก ผมกำพวงมาลัยแน่นและพยายามบีบแตรไล่

    พ่อมึงเหอะบีบแตรไล่ผีเนี่ยนะ ชานยอลทำไรสักอย่างดิ!”

    แบคฮยอนกอดผมแน่น ส่วนผมก็ได้แต่คิดลนลานทำอะไรไม่ถูกยิ่งกว่าเดิม เมื่อเขาคนนั้นเดินลากข้อเท้าของตัวเองมายืนข้างๆฝั่งผม

    ไอ้เหี้ยแม่งเดินมาแล้วอ่ะ….” ผมรีบดึงประตูไว้ จะเลื่อนมือไปหมุนกระจกปิดก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะผู้ชายคนนั้นมายืนก้มหน้าข้างๆกระจกรถผมนิ่งๆ ผมได้กลิ่นเหม็นอับโชยขึ้นมาทันทีจนต้องย่นจมูก

    มึงกูกลัวอ่ะ..” แบคฮยอนถดตัวไปติดกับประตูอีกฝั่ง ผมขเยิบตัวหนีและกลืนน้ำลายลงคออึกๆ พยายามตั้งสติให้ตัวเอง

    ต้..องการอะไรครั..

                "เขาอยากได้บุญไงไอ้เหี้ย ถามห่าไรวะน่ะ..ทำไงดีอ่ะ.." แบคฮยอนเสียงสั่นเลยพาลให้ผมใจแป้วไปด้วย 

    ..มหาวัดไม่ค่อยเจอ นอกจากบุญแล้วอยากได้อะไรไหมครั..

    ผมถามเสียงสั่น รีบกดปลดล็อคประตูและถอยมือตัวเองกลับมา เขาคนนั้นเงยหน้าขึ้นช้าๆ แต่สภาพหน้าเขายังดูดีกว่าที่ผมคิดไว้ตอนแรก ทว่าริมฝีปากที่ฉีกกว้างของเขาที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าขาวซีดนั่นเกือบจะทำให้ผมหงายตึง

    ไอ้เหี้ย…”

    ผมถอยตัวไปติดกับแบคฮยอนจนแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียว ส่วนผู้ชายคนนั้นก็ค่อยๆหุบยิ้มลง ก่อนจะยกมือขึ้นกุมท้องตัวเองไว้และทำหน้าโอดโอย

    โอยหิวข้าว…”

    และเท่านั้นผมกับแบคฮยอนก็อ้าปากค้างก่อนจะหันมองหน้ากันงงๆ ผมค่อยๆพาร่างตัวเองมานั่งบนเบาะคนขับดีๆและเจรจากับเขาใหม่

                เฮ้ย! แม่งไม่ใช่ผีนี่หว่า..คล้ายๆคนบ้าอะไรทำนองนั้น

    เฮ้ย อะไรวะเนี่ย

    แฮ่..โทษที คิดว่าจะหลอกไม่ได้ผล

    เฮ้ย เดี๋ยวๆๆ

    ผมห้ามไม่ทัน เพราะไอ้บ้านั่นมันวิ่งขึ้นมานั่งเบาะหลังซะแล้ว นี่คือสรุป..?

    ผมกับแบคฮยอนมองหน้ากันสักพักก่อนจะเอี้ยวตัวหันไปมองผู้ชายคนนั้นที่ตอนนี้กำลังซุกซนอยู่กับรถโฟล์คสวาเกนของผม

    นี่มึง..ไม่ใช่ผี?”

    “..มั้ง

    เฮ้ย!!!!"  

                 หรือแม่งเป็นผีแต่แกล้งเป็นคนแล้วให้ผมพาไปส่งจุดที่มันตายวะ..โอ๊ย กูนี่ก็บ้าตามแม่งไปด้วยแล้วเนี่ย!

     

                “คือแม่งบ้าใช่ปะวะ?” แบคฮยอนถามและปาดเหงื่อที่ไหลตามใบหน้าออก ผมส่ายหน้าพรึ่บๆและเกาหัวงงๆ ก่อนจะตัดสินใจออกรถเพื่อหาทางออกจากถนนเส้นนี้ให้ไวที่สุด

    ไม่รู้ว่ะ กูว่ารีบไปส่งแม่งแล้วทิ้งไว้ข้างทางเหมือนเดิมเหอะ ไอ้เหี้ยเมื่อกี้กูเกือบตาย

    สุดท้ายผมก็ขับออกมาจนเจอทางออกจนได้ เราเลี้ยวมาตรงถนนเส้นใหญ่ที่จะตัดเข้าไปภายในเมืองและหยุดลงที่หน้าร้านกับข้าวร้านหนึ่ง ผมหันไปบอกไอ้คนบ้าแปลกหน้านั่น

    ลงไปเลย อย่างด่วนครับ” ผมหัวเราะแค่นๆและเอื้อมตัวไปเปิดประตูให้มันด้วย มันยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มผมและยิ้มกว้างๆออกมา ก่อนจะกระโดดลงไปทันที

    ยี๋!!! ไอ้เหี้ย โดนใครหอมแก้มไม่โดนนะไอ้สัด!!” ผมรีบถูแก้มตัวเองแรงๆจนกลายเป็นริ้วรอยแดงพรืด แบคฮยอนรัวหัวเราะและชี้ไม้ชี้มือมาที่แก้มผมอย่างล้อเลียน

    ควาย สมน้ำหน้า ฮ่าๆๆ

    ผมเอามือที่ถูแก้มตัวเองยื่นไปป้ายหน้าแบคฮยอนบ้างจนมันต้องถดหัวหนี พอจะเอาไปแตะขามันมันก็รีบยกหนีอย่างไว ผมหัวเราะหึๆก่อนจะคว้าท้ายทอยแบคฮยอนและรั้งหน้าเขาเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะเอียงหน้าตัวเองให้ซีกแก้มข้างขวาที่โดนไอ้บ้านั่นหอมแก้มตรงกับริมฝีปากแบคฮยอนพอดี

    กูจะร้องไห้ ฮืออออ

    แบคฮยอนยื้อหน้าไปมาจนผมผ่อนแรงที่มือและปล่อยคอเขาออกในที่สุด เมื่อผ่อนแรงโดยที่เจ้าตัวไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากเขาก็โน้มมาแตะลงที่แก้มผมเบาๆ..

    จุ๊บ..

    เราอึ้งกันไปพักใหญ่ๆก่อนที่ผมจะกลบเกลื่อนด้วยการหันมาขับรถแทน..

    ตึก..ตักตึก..ตัก

    ภายในความเงียบของถนนและภายในรถ..มีแต่เสียงแบบนี้ลอยวนเวียนให้ผมได้ยิน

    มึงเล่นไรเนี่ย” แบคฮยอนถูปากตัวเองแรงๆและหันเหหน้าไปทางอื่น

    ก...ก็ไม่ได้กะจะให้โดนนี่หว่า

     

    ห้องพัก

    มึงจะไปไหนอีกเนี่ย

    ไม่ไปละ

     แบคฮยอนพยักหน้าหงึกๆเหมือนรับรู้ หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลย เหมือนไม่มีเรื่องมาเปิดประเด็นมากกว่า เนื่องจากเราอึ้งกับสถานการณ์ที่เพิ่งเจอมาทั้งหมด และอึ้งกับฉากสุดท้ายที่เล่นกันในรถด้วย...

    ถึงห้องแล้ว ผมรู้สึกเมื่อยล้าตามตัวอย่างที่ควรเป็น ก็เล่นเดินทั้งวันไม่หยุดแบบนี้ ใครไม่ล้าแม่งก็โคตรดีดเลยเหอะ ผมกระโดดลงบนเตียงนุ่มๆของโรงแรมระดับห้าดาวและนอนค้างอยู่ท่านั้นราวๆสิบนาทีได้ มันเมื่อยจนไม่อยากลุกเดินไปไหน

    แบคฮยอนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดธรรมดาๆแต่ดึงดูดผมแปลกๆ ความจริงแบคฮยอนตัวเล็กมาก เขาผิวขาวแถมยังหน้าหวานอีกด้วย นี่ถ้าไว้ผมยาวระต้นคออีกนิด ผมเด็ดมาเป็นกิ๊กเลยนะเนี่ย

    แบคฮยอนเดินอย่างอ่อนแรงตรงมาทางผม เขานั่งลงบนเตียงก่อนจะเอนตัวพิงกับหลังผมนอนไปทั้งอย่างนั้น จนผมต้องกระทุ้งศอกเพื่อสะกิดแบคฮยอนเบาๆ

    เฮ้ย กูยังไม่ได้อาบน้ำเลย

    ก็ไปอาบดิ

    ก็มึงนอนทับอยู่อ่ะ กูลุกมึงล้มเลยนะสัด

    ผมชันตัวขึ้นและพลิกร่างเปลี่ยนให้ตัวเองกลับมานอนหงาย มันเลยทำให้แบคฮยอนที่กำลังเอนหลังพิงผมอยู่ ต้องล้มตัวลงนอนบนอกผมอย่างช่วยไม่ได้

    เรานอนค้างไว้อย่างนั้น เขาคงเหนื่อยเกินไปที่จะลุกขึ้นมาด่าผมฉอดๆเหมือนปกติ..

    โคตรเกย์เลยว่ะ กูกับมึงเนี่ย"

    ผมพูดติดตลกและขำเสริมไปด้วยเบาๆ แบคฮยอนค่อยๆพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น ก่อนจะถีบผมให้หล่นจากเตียง ส่วนเจ้าตัวก็เข้าไปยึดอาณาเขตซะเอง ร่างบางสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนหนาและคุดคู้ร่างนอนคลุมโปงอยู่อย่างนั้น

    ผมขยี้เส้นผมนุ่มๆจนยุ่งเหยิงด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำเพราะขาเรียวๆนั่นทำท่าจะยกขึ้นถีบผมอีกรอบ

    แต่ทำไมพออาบน้ำเสร็จ แล้วมันหายง่วงเป็นปลิดทิ้งเลยวะ..

                ผมนอนไม่หลับ ถึงแม้เพลียขนาดไหนก็ตาม คิดได้อย่างนั้นจึงพาตัวเองเดินลงมาชั้นล่างเพื่อดูภูเก็ตยามค่ำคืน มันก็เหมือนทั่วๆไปแหละครับ แค่ที่นี่จะดูครึกครื้นกว่า ถนนคราคร่ำไปด้วยชาวต่างชาติมากหน้าหลายตา พูดง่ายๆ แถวนี้ก็ย่านหลอกแดกฝรั่งดีๆนี่เองแหละ

    ผมเดินไปเรื่อยๆและสอดส่องสายตาไปทั่วๆ จะเที่ยงคืนแล้ว ร้านเหล้ายังเต็มขนัดอยู่เลย คอเหล้านี่มันทั่วโลกเลยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นชาวชาติอะไรก็ตาม
     
                หรือจะทำเหล้าปั่นขายที่รถดีวะ ก็เจ๋งดีนะ หารายได้ระหว่างมาเที่ยวซะเลย!!

    Rrrrrrrrrrrrrrrrrr

    ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เบอร์ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอวอลโฟนไม่คุ้นเอาเสียเลย

    ฮัลโหล

    แล้วกูจะกดรับทำไมวะเนี่ย 

    (..มึง)

    เป็นเสียงของแบคฮยอนที่งัวเงียเต็มที่ ผมเบิกตากว้างนิดหน่อยเหมือนตกใจที่เป็นไอ้หมาแบคในปลายสาย ไปเอาเบอร์กูมาจากไหนว่ะนั่น

    มีไร แล้วเอาเบอร์กูมาได้ไงอ่ะ

    (นามบัตรมึงในรถไง)

    อ้าวแอบจิ๊กของกูไปตอนไหนวะ อันตรายห่าๆเลยนะเนี่ยมึงอ่ะ

    ผมนึกไปถึงสภาพข้าวของในรถตัวเอง มันมีนามบัตรเสียบไว้ที่หน้าคอลโซนรถจริงๆ และเขาคงจะแอบหยิบไว้กันเรื่องรถล่ะมั้ง เผื่อมีปัญหา..คงกะจะโทรจิกให้ผมมารับผิดชอบเต็มที่ 

    (เออ..แต่ตอนนี้มึงอยู่ไหนอ่ะ..)” เสียงเหมือนคนฝืนตื่นขึ้นมาคุยยังไงยังงั้น ผมขำให้กับปลายสายนิดๆก่อนจะชะงักขาที่ก้าวเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย

    ทำไมผมต้องหยุดเดิน..?

    กูออกมาเดินเล่น

    (มึง)

    เหี้ยไรอีกครับเพื่อน” ผมกลั้วหัวเราะเพราะรู้สึกตลกในน้ำเสียงงัวเงียของมัน ปกติแบคฮยอนจะตั้งหน้าตั้งตาแว๊ดใส่ผมตลอดเวลา พอมาได้ยินน้ำเสียงเหมือนคนไม่มีแรงแบบนี้มันเลยรู้สึกจี้ๆไงไม่รู้

    (กลับมาเหอะ..)

     “อะไรของมึงวะ นอนไปเหอะ อีกสักพักเดี๋ยวกูก็กลับ หรืออยากแดกไร เดี๋ยวกูซื้อขึ้นไปให้ ผมกำลังจะออกเดินต่อ แต่ประโยคถัดมากลับเป็นสิ่งที่ทำให้ผมต้องหันหลังกลับและเดินย้อนกลับไปทางเดิมทันที

    (กูนอนคนเดียวไม่ได้อ่ะกูเหงา)

    ไม่รู้ทำไมความรู้สึกกำลังบอกผมว่าให้รีบๆเดินกลับไปห้องพักซะเดี๋ยวนี้ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกแปลกๆกับน้ำเสียงอ้อนวอนนั่นด้วย

     “อ่ะโด่ว..พอทีแบบนี้ล่ะมาคิดถึงกู ปล่อยให้นอนคนเดียวแม่งเลย

    (ไม่เอา….)

    ใจผมเต้นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม ไม่รู้และไม่เข้าใจตัวเองอย่างแรงว่าผมจะรีบเดินกลับไปที่ห้องเพื่อใคร ก็แค่แบคฮยอน แค่ผมกำลังทิ้งแบคฮยอนไว้ที่ห้องแค่นั้น

    จากตอนแรกที่เดิน..กลับกลายเป็นวิ่งเร็วๆแทน

    ผมยังไม่วางสาย แบคฮยอนก็เช่นกัน ตอนนี้ผมกำลังเดินไปที่ห้องด้วยอาการหอบหนักๆเพราะวิ่งมาไกลเกิน ถึงอย่างนั้นเสียงเล็กๆอู้อี้ๆก็ดังตามมาในปลายสายอีก

    (กลับมายัง ถ้าอีกห้านาทีมึงไม่กลับมา ก็กลับไปนอนห้องมึงเลย)

    ยังไม่ถึงไหนเลยเนี่ย นอนไปเลยๆ ไม่ต้องรอๆ

    ผมแกล้งพูดทั้งๆที่ยืนอยู่หน้าห้องแล้วแต่ยังไม่เปิดเข้าไป แอบหัวเราะเบาๆเมื่อได้ยินเสียงกระเง้ากระงอดดังมาจากในห้องจริงๆและสะท้อนอีกรอบจากโทรศัพท์

    (ไม่เอาแบบนี้ดิ..กลับมาได้แล้ว กูเหงาอ่ะ กูนอนไม่ได้ ปกติกูไม่เคยนอนคนเดียว ไม่เอาๆๆ กลับมาๆๆ)

    ผมกลั้นขำและตัดสินใจเปิดประตูห้องเข้าไปก่อนจะกดตัดสายทิ้ง ยืนมองแบคฮยอนที่ลุกขึ้นมานั่งกอดหมอนข้างทั้งที่ตายังปรือๆ

    ไอ้เหี้ยหลอกกู..”

    นอนไปมึงอ่ะ

                ผมหัวเราะเสียงขึ้นจมูกและดันหน้าผากเล็กนั่นเบาๆ ร่างแบคฮยอนโอนอ่อนไปตามแรงผลักผมอย่างง่ายดายเพราะเจ้าตัวก็แทบจะไม่มีแรงลุกขึ้นมานั่งอยู่แล้ว

    มึงก็นอนด้วยดิ..”

    ยั่วกูอีก” 

    ผมพูดขำๆ ขณะที่เดินไปปิดไฟในห้องและทิ้งตัวนอนลงข้างๆเขาบ้าง พอกลับมาถึงห้องก็เริ่มง่วงแล้วเหมือนกันเว้ยเฮ้ย เออดีเหมือนกัน ถือโอกาสนอนข้างบนแม่งเลย อุ่นด้วย มีคนนอนข้างๆด้วยถึงจะเป็นผู้ชายก็เหอะครับ

    ผมเริ่มเคลิ้มจะหลับ เอาเท้าเขี่ยผ้าห่มขึ้นมาห่มตัวเองบ้างเพราะเริ่มหนาว ขยับกายให้พอเหมาะพอเจาะก่อนจะดำดิ่งลงสู่ห้วงนิทรา ทว่าเสียงเล็กๆที่ดังอู้อี้ข้างๆก็ทะลุเข้ามาในโสตประสาทผมก่อนที่มันจะดับไป

    อย่าไปไหนอีกนะมึงอย่าทิ้งกู…”
                 
    (chanyeol part end)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×