ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ซ้อมป้องกัน
"โอ้ยย เป็นผูร้ายสนุกกว่าตั้งเยอะ นี่ก็ได้แต่ยืนรอ เก็บไปกี่คนละล่ะ" เฟลิโอน่า เกรเดเวล ที่มีตำแหน่งเป็นถึง เสนาธิการฝ่ายซ้ายประจำป้อม งานครั้งนี้เธอกับโร ในถานะ เสนาธิการ ซ้ายและขวาก็เป็นคนคิดวางแผนกันเอง ผลก็ออกมาดีเกินคาด ทั้งวันมานี่ ยังไม่มีใครบุกข้ามรั้วโรงเรียนไปได้ซักราย
"นายก็ใจเย็นๆหน่อยสิเฟริน เหลืออย่างมากก็แค่ 6 คน ใช่มะไอ้โร"คิลพูดให้กำลังใจเพื่่อนสาวที่ยืนปาดเหงื่อไปมา
"ถ้าฉันคำนวนไม่ผิดเหลือแค่4รายเท่านั้น" ขอทานหนุ่มที่ตอนนี้ หน้าคมเข้มแดงด้วยความร้อน ตอบพลางจิบน้ำชาอย่างสบายใจ
"ถ้าพวกเราไม่ได้ต้องมายืนอยู่ตรงกำแพงนี่เนี่ยนะฉันจะไม่บ่นเลย ก็มันร้อนซะขนาดนี้" ตัวยุ่งพูดแล้วใช้มือเรียวพัดไปพัดมาให้เย็นขึ้นบ้าง
ทั้งสามถูกส่งมาดูด้านหน้า เพราะ ทั้งหมดลงมติว่าพวกที่จะเข้ามาด้านหน้าไม่ใช่พวกที่ฝีมือธรรมดา ที่จะโผล่เข้ามาโดยไม่เกรงกลัวอะไรเลย
'ดูสิ คาโลยังได้ไปยอดปราสาทเพราะเป็นหัวหน้าป้อม แล้วเสนาธิการล่ะ!!!'
เฟรินคิดขึ้นมาด้วยความโกรธ
"แค่สี่คนปล่อยเข้าไปหน่อยสิ น่าเบื่อจะตายยังไม่เห็นมีใครโดนกาหน้าเลย" นักฆ่ารักสนุก พูดแล้วขำก้ากขึ้นมา
"ใครจะเหมือนแกละคิล เข้าไปฆ่าเค้าแต่กลับโดนสาวน้อยสุดสวยอย่างเรนอนฆ่ากลับ555" เฟรินพูดขณะควงผ่าปฐพี่ไปในมืออย่างเพลิดเพลิน
"ไอ้เฟรินพูดให้มันดีๆหน่อยนะ ฉันก็แค่....."พูดไม่ทันจบประโยคเฟรินก็ตะโกนลั่นสั่งผู้คุมกฎในปกครองทันที
"เฮ้ย!!!ไอ้คิลแกไปทางโน้น ฉันไปทั้งนั้นเอง"พูดจบทั้งสองก็รีบวิ่งตรงไปมุมกำแพงคนละมุมที่มีผู้บุกรุกเข้ามา
ทำเอาโรวางแก้วน้ำชาลุกมาคุมประตูหน้าแทบไม่ทัน 'พวกนี้บอกอะไรกันบ้างมีมั้ย?' โรคิดอย่างปลงๆ
.................................................................................................................................................................................................................
"สวัสดีครับพี่คงจะเป็น คิลมัส ฟีลมัส เดอะ คืลเลอร์ ออฟ ซาเรส สินะ" เด็กหนุ่มในตาสีฟ้าหม่น ผมสีบลอน ดวงหน้าที่หล่อแต่ไม่คมคาย ริมฝีปากเข้ารูปกล่าวทักทายกล่าวทักทาย หลังจากปีนข้ามกำแพงมา
"ผม จัสติน ดิกิลเรย์ เดอะ คิลเลอร์ ออฟ เอเธนส์" จัสตินพูดพลาง แสยะยิ้มสยอง
"ขอดูฝีมือทายาทตระกูลฟีมัสหน่อยนะครับ" เมื่อจบคำพูด ทายาทนักฆ่า แห่ง เอเธนส์ ก็พุ่งตัวเข้าไปพร้อมดาบเรียวเล็กในมือ
"แล้วนายจะรู้" คิลกระชากตัวหลบด้วยความเร็วที่เหนือกว่า มีดสั้นของเจ้าของปรากฏอยู่ในมือ มีดสั้นที่เนื้อมีดมีสีขาวมุกเป็นประกาย
ด้ามสีม่วงเข้มเข้ากับตาผู้ใช้ มีคำว่า ฟีลมัส สลัก อยู่ในตัวดาบ
แล้วการประลองศักศรีของสองตระกูลก็เริ่มต้นขึ้น...
..................................................................................................................................................................................................................
"เสนาธิการซ้ายของป้อมเป็นเกียรติที่ได้บท่าน องค์หญิงเฟลิโอน่า" น้ำเสียงของหญิงสาวที่ยืนคู่กับฝาแฝดเด็หนุ่มผู้ชายอีกคน ทั้งสองมีนัยน์ตาสีทอง ผมสีดำสนิท เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มดูน่ารัก แต่นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเข้มแข็ง ส่วนเด็กหนุ่ม หน้าตาคมเข้มจมูกเป็นสันชวนน่าหลงใหล นัยน์ตาแฝงประกายอ่อนโยน และ สงบเงียบ
"เป็นเกียรติเช่นกันที่จะได้ประดาบกับท่านทั้งสอง เจนาฟ และ มาเจียร์ เดอ วอริเออร์ ออฟ เวนอล"
เฟรินพูดด้วยสรรพนามที่อีกฝ่ายใช้มาก่อน ท่าทางสง่าราวพยาหงส์ในขณะนี้ ทำเอาผู้เฝ้าดูการประลองของนักดาบชั้นเยี่ยม กับ ฝีมือดาบของธิดาความมืดที่โค่นได้ยาก หลงใหลไปกับสเน่ห์ ของผู้ที่บัดนี้สมเป็น เจ้าหญิงเต็มตัว ทิ้งมาดหัวขโมยคนเก่าไปสิ้นเชิง
"จันทราสวรรค์"นักดาบแห่งเสนอลทั้งสองรีบเรียกดาบที่เหมือนกัน ดาบที่มีเนื้อดาบสีเหลืองนวล เหมือนแสงจันทร์ ด้ามดาบ มีอัญมณีสีต่างๆประดับ อยู่ เป็นดาบคู่ที่ สมกับความเป็นเวนอลอย่างมาก
"ผ่าปฐพี"ดาบใหญ่ในตำนาน เข้าสู่มือของผู้เป็นนาย
เฟรินเชิดคางพร้อมตวัดมือข้างที่ว่างขึ้น
ทันใดนั้นบริเวณที่ทั้งสามยืนอยู่ ด้านในมุมของกำแพงโรงเรียนก็กลายเป็นสนามประลองขนาดย่อมทันที
การประลองท่ามกลางสายตาฝูงชนแห่งเอดินเบิร์กก็เริ่มขึ้น...
..............................................................................................................................
'นี่ก็เหลืออีกแค่ 1 สินะ' โรคิดในใจขณะกวาดสายตาไปมาอยู่บนยดกำแพงสูง
"วี้ดด......" เสียงลมพัดอย่างผิดปกติ
บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าปรากฏเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา นัยน์ตาสีเทา ผมสีแดงเข้ม กำลังเดินเข้ามาทางประตู
"จะบุกรุกเข้าเอดินเบิร์กนะ......มันไม่ง่ายอย่างที่นายคิดหรอกนะ เดริก เจนัส เดอะ เมจิกเชียล ออฟ โรมัน" น้ำเสียงเน้นชัดคำว่า 'มันไม่ง่าย' และชื่อของฝ่ายผู้บุกรุก มาพร้อมกับร่างของขอทานหนุ่มกับใบหน้าสลัก ตามรกตคู่สวยดั่งเพชรน้ำงาม ทำเอาสาวๆนอกกำแพงกรี้ดกันแทบสลบ แต่ใครจะรู้ว่า รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ปรากฏบนริมฝีปากได้รูปนั้น แสดงให้เห็นว่า เวลานี้ขอทานกำมะลอไม่ใช่คนที่ง่ายจะชนะ
".........งั้นพี่ก็ห้ามผมสิ" คำที่ทำเอาขอทานหนุ่มกระตุกยิ้มเหี้ยมบนใบหน้า
..............................................................................................................................
"เคร้ง"เสียงมีดสั้นปะทะกับดาบเรียว ในมือนักฆ่า แห่ง เอเธนส์
ผู้เป็นรองบัดนี้ได้แต่ตั้งรับกับความเร็วแสงของทายาท ตระกูล ฟีลมัส
จัสตินถอยกรูไปถึงกำแพงก่อนที่สายฟ้าสีม่วงจะฟาดลงมาเกิดระเบิดทำให้กำแพงพังลงเป็นแถบ
"ทีนี้นายจะยอมแพ้รึยังล่ะ" คิลพูดด้วยน้ำเสียงอยอกล้อเหมือนเด็กๆ
"มันไม่ง่ายอย่างที่พี่คิดนักหรอก"
'อะไรกันหมอนี่..'
ร่างของผู้ที่น่าจะไม่สามารถลุกขึ้นได้ด้วยซ้ำ ยืนขึ้นมาปัดฝุ่นที่แขน แผลที่เคยมีทั่วตัวหายไป เหลือเพียงรอยเลือดเปื้อนเป็นหย่อมๆ
"พี่คงยังไม่รู้นี่แหละพรสวรรค์ของคนตระกูล ดิกิลเรย์" นักฆ่าแห่งเอเธนส์พูดราวกับเสียงกระซิบ
'ทำร้ายภายนอกไม่ได้ก็ต้องใช้เวทย์'คิลคิดพลางเรียกคทาออกมาแล้วบริกรรมคาถาทันที
ปรากฏมังกรเวทย์สีม่วงอยู่ตรงหน้าผู้เป็นนาย พร้อมพ่นไฟไปอย่างคู่ต่อสู่
จัสตินสร้างเกราะเวทย์สีทองขึ้นมากัน ไฟทั้งหมดเปลี่ยนเป็นฝุ่นขี้เถ้าก่อนปลิวหายไป
คิลใช้โอกาศที่ฝ่ายตรงข้ามมัวจัดการกับไฟ ไปช็อตไฟฟ้าเข้าที่คอของเจ้าตัว
"นี่แหละฟีลมัส"เสียงกระซิบข้างหูจัสตินก่อนจะหมดสติลงไปกองกับพื้น............
..............................................................................................................................
"เคร้งๆๆ" เสียงดาบใหญ่ปะทะดาบเรียวอีกสอง
เฟรินกระชากหลบดาบสองดาบที่ผัดกันรุก
'เพลงดาบคู่แห่งเวนอล'
มาเจียร์พุ่งดาบตรงมาที่แขนของเฟริน แต่ความเร็วยังไม่มากพอจึงทำได้เพียงเรียกเลือด บนต้นแขนเท่านั้น
เมื่อรับมาอยู่นาน ฝ่ายเฟรินจึงเริ่มบุกโดยมีสองดาบไขว้กันไว้
"เคร้ง" เสียงดาบของมาเจียร์หล่อกระทบลงพื้น
เฟรินใช้จังหวะนั้นปักดาบลงพื้น
"ผ่าปฐพี"แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินพุ่งไปหามาเจียร์ที่ล้มลงกับพื้นส่งผลให้ นักรบหญิงแห่งเวนอลสลบไป
เจนาฟจึงเริ่มใช้เพลงดาบเดี่ยว ดาบเหลืองนวลส่องแสง สีนวลเหมือนแสงจันทร์
"จันทราสวรรค์"
ดาบเรียวพุ่งเข้าหาเฟรินพร้อมแสงที่สว่างจ้าจนแสบตา
เฟรินกระชากหลบด้วยความเร็วของหัวขโมยเก่าแล้วฟาดผ่าปฐพีลงพื้นอีกครั้ง
แรงระเบิดทำให้นักรบอีกหนึ่งแห่งเวนอลลงไปกองกับพื้นพร้อมกำแพงที่พังทลาย เกิดฝุ่นตลบอบอวลไปหมด
"ท่านคงรู้ผลกันแล้วสินะเหล่านักรบแห่งเวนอล"....
.............................................................................................................................
ขอทานสูงศักดิ์ ลอยตัวขึ้นพร้อมกับแสงสีเขียวที่เปล่งออกมาจากพื้นดิน
"ซี่ๆๆ...." ปรากฏงูขนาดยักษ์อยู่บนพื้นหน้าประตูทางเข้า ถึงสองตัว
งูยักษ์สีเขียวมรกตส่งเสียงน่ากลลัวดังระงมไปทั่ว
"วินไลด์" ผู้บุกรุกยกมือสองข้างขึ้นก่อเกิดพายุหมุนสองลูกพัดตรงไปยังร่างของ เสนาธิการขวาคนสำคัญ
โรรีบสร้างเกราะเวทย์หนาหลายชั้นขึ้นมา
เกราะเวทย์ชั้นแรกเริ่มร้าว โรจึงสั่งงูตััวแรกเข้ามารับพายุสองลูก
พายุและงูยักษ์ตัวแรกก็หายไป
งูตัวที่สองเริ่มจู่โจมเข้ารัดตัวผู้บุกรุก แขนของเดริกหัก ไปข้างหนึ่งก่อนลมเริ่มกรีดร่างของงูยักษ์ เลือดแดงสดกระเซ็นไปทั่ว บริเวณของการต่อสู้
เมื่อร่างของงูเริ่มสลายไป โรจัดการพุ่งพลังเวทย์เข้าสู่ตัวของเดริก
เกราะเวทย์สีฟ้าที่เดริกสร้างขึ้นมาไมม่สามารถต้านทานพลังมหาศาลของ ทริสทอร์ผู้นี้ได้ แรงระเบิดของแรงปะทะ ทำให้เดริกเองล้อมลงก่อนหมดสติไป
'จบแล้วสินะ' ร่างของขอทานค่อยลอยต่ำลงมาก่อนเข้าไปดูอาการของรุ่นน้องร่วมป้อม
.............................................................................................................................
อ้าก+_+"" ตอนแรกว่าจะทำเป็นตอนซ้อมบุกด้วยแต่มันดันยาวไปซะได้ เฮ้ออจบซะทีตอนนี้หลังจากดองมาได้วันนึง555
"นายก็ใจเย็นๆหน่อยสิเฟริน เหลืออย่างมากก็แค่ 6 คน ใช่มะไอ้โร"คิลพูดให้กำลังใจเพื่่อนสาวที่ยืนปาดเหงื่อไปมา
"ถ้าฉันคำนวนไม่ผิดเหลือแค่4รายเท่านั้น" ขอทานหนุ่มที่ตอนนี้ หน้าคมเข้มแดงด้วยความร้อน ตอบพลางจิบน้ำชาอย่างสบายใจ
"ถ้าพวกเราไม่ได้ต้องมายืนอยู่ตรงกำแพงนี่เนี่ยนะฉันจะไม่บ่นเลย ก็มันร้อนซะขนาดนี้" ตัวยุ่งพูดแล้วใช้มือเรียวพัดไปพัดมาให้เย็นขึ้นบ้าง
ทั้งสามถูกส่งมาดูด้านหน้า เพราะ ทั้งหมดลงมติว่าพวกที่จะเข้ามาด้านหน้าไม่ใช่พวกที่ฝีมือธรรมดา ที่จะโผล่เข้ามาโดยไม่เกรงกลัวอะไรเลย
'ดูสิ คาโลยังได้ไปยอดปราสาทเพราะเป็นหัวหน้าป้อม แล้วเสนาธิการล่ะ!!!'
เฟรินคิดขึ้นมาด้วยความโกรธ
"แค่สี่คนปล่อยเข้าไปหน่อยสิ น่าเบื่อจะตายยังไม่เห็นมีใครโดนกาหน้าเลย" นักฆ่ารักสนุก พูดแล้วขำก้ากขึ้นมา
"ใครจะเหมือนแกละคิล เข้าไปฆ่าเค้าแต่กลับโดนสาวน้อยสุดสวยอย่างเรนอนฆ่ากลับ555" เฟรินพูดขณะควงผ่าปฐพี่ไปในมืออย่างเพลิดเพลิน
"ไอ้เฟรินพูดให้มันดีๆหน่อยนะ ฉันก็แค่....."พูดไม่ทันจบประโยคเฟรินก็ตะโกนลั่นสั่งผู้คุมกฎในปกครองทันที
"เฮ้ย!!!ไอ้คิลแกไปทางโน้น ฉันไปทั้งนั้นเอง"พูดจบทั้งสองก็รีบวิ่งตรงไปมุมกำแพงคนละมุมที่มีผู้บุกรุกเข้ามา
ทำเอาโรวางแก้วน้ำชาลุกมาคุมประตูหน้าแทบไม่ทัน 'พวกนี้บอกอะไรกันบ้างมีมั้ย?' โรคิดอย่างปลงๆ
.................................................................................................................................................................................................................
"สวัสดีครับพี่คงจะเป็น คิลมัส ฟีลมัส เดอะ คืลเลอร์ ออฟ ซาเรส สินะ" เด็กหนุ่มในตาสีฟ้าหม่น ผมสีบลอน ดวงหน้าที่หล่อแต่ไม่คมคาย ริมฝีปากเข้ารูปกล่าวทักทายกล่าวทักทาย หลังจากปีนข้ามกำแพงมา
"ผม จัสติน ดิกิลเรย์ เดอะ คิลเลอร์ ออฟ เอเธนส์" จัสตินพูดพลาง แสยะยิ้มสยอง
"ขอดูฝีมือทายาทตระกูลฟีมัสหน่อยนะครับ" เมื่อจบคำพูด ทายาทนักฆ่า แห่ง เอเธนส์ ก็พุ่งตัวเข้าไปพร้อมดาบเรียวเล็กในมือ
"แล้วนายจะรู้" คิลกระชากตัวหลบด้วยความเร็วที่เหนือกว่า มีดสั้นของเจ้าของปรากฏอยู่ในมือ มีดสั้นที่เนื้อมีดมีสีขาวมุกเป็นประกาย
ด้ามสีม่วงเข้มเข้ากับตาผู้ใช้ มีคำว่า ฟีลมัส สลัก อยู่ในตัวดาบ
แล้วการประลองศักศรีของสองตระกูลก็เริ่มต้นขึ้น...
..................................................................................................................................................................................................................
"เสนาธิการซ้ายของป้อมเป็นเกียรติที่ได้บท่าน องค์หญิงเฟลิโอน่า" น้ำเสียงของหญิงสาวที่ยืนคู่กับฝาแฝดเด็หนุ่มผู้ชายอีกคน ทั้งสองมีนัยน์ตาสีทอง ผมสีดำสนิท เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มดูน่ารัก แต่นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเข้มแข็ง ส่วนเด็กหนุ่ม หน้าตาคมเข้มจมูกเป็นสันชวนน่าหลงใหล นัยน์ตาแฝงประกายอ่อนโยน และ สงบเงียบ
"เป็นเกียรติเช่นกันที่จะได้ประดาบกับท่านทั้งสอง เจนาฟ และ มาเจียร์ เดอ วอริเออร์ ออฟ เวนอล"
เฟรินพูดด้วยสรรพนามที่อีกฝ่ายใช้มาก่อน ท่าทางสง่าราวพยาหงส์ในขณะนี้ ทำเอาผู้เฝ้าดูการประลองของนักดาบชั้นเยี่ยม กับ ฝีมือดาบของธิดาความมืดที่โค่นได้ยาก หลงใหลไปกับสเน่ห์ ของผู้ที่บัดนี้สมเป็น เจ้าหญิงเต็มตัว ทิ้งมาดหัวขโมยคนเก่าไปสิ้นเชิง
"จันทราสวรรค์"นักดาบแห่งเสนอลทั้งสองรีบเรียกดาบที่เหมือนกัน ดาบที่มีเนื้อดาบสีเหลืองนวล เหมือนแสงจันทร์ ด้ามดาบ มีอัญมณีสีต่างๆประดับ อยู่ เป็นดาบคู่ที่ สมกับความเป็นเวนอลอย่างมาก
"ผ่าปฐพี"ดาบใหญ่ในตำนาน เข้าสู่มือของผู้เป็นนาย
เฟรินเชิดคางพร้อมตวัดมือข้างที่ว่างขึ้น
ทันใดนั้นบริเวณที่ทั้งสามยืนอยู่ ด้านในมุมของกำแพงโรงเรียนก็กลายเป็นสนามประลองขนาดย่อมทันที
การประลองท่ามกลางสายตาฝูงชนแห่งเอดินเบิร์กก็เริ่มขึ้น...
..............................................................................................................................
'นี่ก็เหลืออีกแค่ 1 สินะ' โรคิดในใจขณะกวาดสายตาไปมาอยู่บนยดกำแพงสูง
"วี้ดด......" เสียงลมพัดอย่างผิดปกติ
บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าปรากฏเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา นัยน์ตาสีเทา ผมสีแดงเข้ม กำลังเดินเข้ามาทางประตู
"จะบุกรุกเข้าเอดินเบิร์กนะ......มันไม่ง่ายอย่างที่นายคิดหรอกนะ เดริก เจนัส เดอะ เมจิกเชียล ออฟ โรมัน" น้ำเสียงเน้นชัดคำว่า 'มันไม่ง่าย' และชื่อของฝ่ายผู้บุกรุก มาพร้อมกับร่างของขอทานหนุ่มกับใบหน้าสลัก ตามรกตคู่สวยดั่งเพชรน้ำงาม ทำเอาสาวๆนอกกำแพงกรี้ดกันแทบสลบ แต่ใครจะรู้ว่า รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ปรากฏบนริมฝีปากได้รูปนั้น แสดงให้เห็นว่า เวลานี้ขอทานกำมะลอไม่ใช่คนที่ง่ายจะชนะ
".........งั้นพี่ก็ห้ามผมสิ" คำที่ทำเอาขอทานหนุ่มกระตุกยิ้มเหี้ยมบนใบหน้า
..............................................................................................................................
"เคร้ง"เสียงมีดสั้นปะทะกับดาบเรียว ในมือนักฆ่า แห่ง เอเธนส์
ผู้เป็นรองบัดนี้ได้แต่ตั้งรับกับความเร็วแสงของทายาท ตระกูล ฟีลมัส
จัสตินถอยกรูไปถึงกำแพงก่อนที่สายฟ้าสีม่วงจะฟาดลงมาเกิดระเบิดทำให้กำแพงพังลงเป็นแถบ
"ทีนี้นายจะยอมแพ้รึยังล่ะ" คิลพูดด้วยน้ำเสียงอยอกล้อเหมือนเด็กๆ
"มันไม่ง่ายอย่างที่พี่คิดนักหรอก"
'อะไรกันหมอนี่..'
ร่างของผู้ที่น่าจะไม่สามารถลุกขึ้นได้ด้วยซ้ำ ยืนขึ้นมาปัดฝุ่นที่แขน แผลที่เคยมีทั่วตัวหายไป เหลือเพียงรอยเลือดเปื้อนเป็นหย่อมๆ
"พี่คงยังไม่รู้นี่แหละพรสวรรค์ของคนตระกูล ดิกิลเรย์" นักฆ่าแห่งเอเธนส์พูดราวกับเสียงกระซิบ
'ทำร้ายภายนอกไม่ได้ก็ต้องใช้เวทย์'คิลคิดพลางเรียกคทาออกมาแล้วบริกรรมคาถาทันที
ปรากฏมังกรเวทย์สีม่วงอยู่ตรงหน้าผู้เป็นนาย พร้อมพ่นไฟไปอย่างคู่ต่อสู่
จัสตินสร้างเกราะเวทย์สีทองขึ้นมากัน ไฟทั้งหมดเปลี่ยนเป็นฝุ่นขี้เถ้าก่อนปลิวหายไป
คิลใช้โอกาศที่ฝ่ายตรงข้ามมัวจัดการกับไฟ ไปช็อตไฟฟ้าเข้าที่คอของเจ้าตัว
"นี่แหละฟีลมัส"เสียงกระซิบข้างหูจัสตินก่อนจะหมดสติลงไปกองกับพื้น............
..............................................................................................................................
"เคร้งๆๆ" เสียงดาบใหญ่ปะทะดาบเรียวอีกสอง
เฟรินกระชากหลบดาบสองดาบที่ผัดกันรุก
'เพลงดาบคู่แห่งเวนอล'
มาเจียร์พุ่งดาบตรงมาที่แขนของเฟริน แต่ความเร็วยังไม่มากพอจึงทำได้เพียงเรียกเลือด บนต้นแขนเท่านั้น
เมื่อรับมาอยู่นาน ฝ่ายเฟรินจึงเริ่มบุกโดยมีสองดาบไขว้กันไว้
"เคร้ง" เสียงดาบของมาเจียร์หล่อกระทบลงพื้น
เฟรินใช้จังหวะนั้นปักดาบลงพื้น
"ผ่าปฐพี"แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินพุ่งไปหามาเจียร์ที่ล้มลงกับพื้นส่งผลให้ นักรบหญิงแห่งเวนอลสลบไป
เจนาฟจึงเริ่มใช้เพลงดาบเดี่ยว ดาบเหลืองนวลส่องแสง สีนวลเหมือนแสงจันทร์
"จันทราสวรรค์"
ดาบเรียวพุ่งเข้าหาเฟรินพร้อมแสงที่สว่างจ้าจนแสบตา
เฟรินกระชากหลบด้วยความเร็วของหัวขโมยเก่าแล้วฟาดผ่าปฐพีลงพื้นอีกครั้ง
แรงระเบิดทำให้นักรบอีกหนึ่งแห่งเวนอลลงไปกองกับพื้นพร้อมกำแพงที่พังทลาย เกิดฝุ่นตลบอบอวลไปหมด
"ท่านคงรู้ผลกันแล้วสินะเหล่านักรบแห่งเวนอล"....
.............................................................................................................................
ขอทานสูงศักดิ์ ลอยตัวขึ้นพร้อมกับแสงสีเขียวที่เปล่งออกมาจากพื้นดิน
"ซี่ๆๆ...." ปรากฏงูขนาดยักษ์อยู่บนพื้นหน้าประตูทางเข้า ถึงสองตัว
งูยักษ์สีเขียวมรกตส่งเสียงน่ากลลัวดังระงมไปทั่ว
"วินไลด์" ผู้บุกรุกยกมือสองข้างขึ้นก่อเกิดพายุหมุนสองลูกพัดตรงไปยังร่างของ เสนาธิการขวาคนสำคัญ
โรรีบสร้างเกราะเวทย์หนาหลายชั้นขึ้นมา
เกราะเวทย์ชั้นแรกเริ่มร้าว โรจึงสั่งงูตััวแรกเข้ามารับพายุสองลูก
พายุและงูยักษ์ตัวแรกก็หายไป
งูตัวที่สองเริ่มจู่โจมเข้ารัดตัวผู้บุกรุก แขนของเดริกหัก ไปข้างหนึ่งก่อนลมเริ่มกรีดร่างของงูยักษ์ เลือดแดงสดกระเซ็นไปทั่ว บริเวณของการต่อสู้
เมื่อร่างของงูเริ่มสลายไป โรจัดการพุ่งพลังเวทย์เข้าสู่ตัวของเดริก
เกราะเวทย์สีฟ้าที่เดริกสร้างขึ้นมาไมม่สามารถต้านทานพลังมหาศาลของ ทริสทอร์ผู้นี้ได้ แรงระเบิดของแรงปะทะ ทำให้เดริกเองล้อมลงก่อนหมดสติไป
'จบแล้วสินะ' ร่างของขอทานค่อยลอยต่ำลงมาก่อนเข้าไปดูอาการของรุ่นน้องร่วมป้อม
.............................................................................................................................
อ้าก+_+"" ตอนแรกว่าจะทำเป็นตอนซ้อมบุกด้วยแต่มันดันยาวไปซะได้ เฮ้ออจบซะทีตอนนี้หลังจากดองมาได้วันนึง555
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น