คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : - special ; คนไข้พิเศษของคุณหมอโอ -
; คนไข้พิเศษของคุณหมอโอ
หกปีแล้ว… กาลเวลาผ่านไปได้เปลี่ยนจากนักศึกษาแพทย์ธรรมดาอย่างผมให้กลายเป็นคุณหมออย่างเต็มรูปแบบ จากที่เคยสวมเพียงแค่เสื้อกราวน์ธรรมดาแต่ทว่าในตอนนี้ต้องถือแฟ้มเอกสารของคนไข้และสวมหูฟังเสียงหัวใจตลอดเวลา
“เท่าที่ตรวจดูอาการคร่าวๆแล้ว ตอนนี้กำลังเป็นโรคไข้หวัดนะครับ ต้องกินยา และพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวัน อย่าหักโหมทำงานหนักมากเกินไป”
“แต่ผมคิดว่า… เวลาพักผ่อนของผมแทบไม่มีเลยน่ะสิครับ”
“หื้ม? ทำไมกันละครับ ถ้าพักผ่อนน้อยจะส่งผลต่อสุขภาพคุณ ทำให้คุณป่วยไม่หายสักทีนะ”
“ก็ผมต้องไปทำงานแต่เช้ากว่าจะเลิกงานก็เย็นแล้ว ไหนจะต้องมารับมือกับแฟนอีกละ”
“รับมือกับแฟน?”
“ก็แฟนผมน่ะเขาชอบหักโหมทุกคืนเลยละครับ ขนาดผมบอกว่าเหนื่อยเขาก็ยังไม่หยุดอีก พอรู้ตัวอีกทีก็เช้าวันใหม่แล้วละครับ”
“งั้นคุณคนไข้เสี่ยวลู่หานจะบอกว่าแฟนคุณผิดงั้นหรอ?”
“ยังไม่ได้พูดเลยนะคุณหมอโอ -^-”
ปั๊ก!!!!!
“ก็ดูที่นายพูดสิ พูดแบบนี้มันโยนความผิดมาให้ฉันชัดๆเลยนะ ฉันไม่ใช่คนที่ทำให้นายป่วยแบบนี้สักหน่อย!”เซฮุนขมวดคิ้ววางแฟ้มคนไข้ลงบนโต๊ะเสียงดัง
คนไข้รายพิเศษน่ะ ตรวจฟรีรักษาฟรี
“แล้วมันจริงไหมละที่ฉันพูดอะ นายทำให้ฉันไม่สบายจนต้องหยุดงานยังไม่สำนึกอีกนะ!!”
ลู่หานพ่นลมหายใจออกมา การทะเลาะกันระหว่างเขาและเซฮุนกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วละ -_-
“ถ้าจะผิดก็โทษที่ตัวเองเถอะลู่หาน นายชอบทำหน้ายั่วชอบทำตัวน่าเอาทุกครั้งเลยนิ ใครมันจะอดใจไหวละวะ!!”
พูดอะไรออกมา… คนอะไรไร้ยางอายที่สุด
“งั้นฉันกลับก่อนละ”
“เดี๋ยวไปส่งรอฉันเก็บของก่อน”
“นายไม่ต้องตรวจคนไข้ต่อรึไง?”
“ในโรงพยาบาลมีหมออีกตั้งเยอะแยะ เมียไข้ขึ้งสูงขนาดนี้จะไม่ดูแลได้ยังไง”
“พูดจาอะไรบ้าๆ”
ในขณะที่เซฮุนกำลังเก็บของอยู่นั้นนัยน์ตาคมก็เหลือบขึ้นมองคนตัวเล็กที่นั่งรออยู่บนโซฟาพลันต้องกระตุกยิ้มออกมาบางเบา
“ด่าฉันว่าบ้าก็เลิกหน้าแดงก่อนเถอะลู่หาน”
ก็เพราะเป็นแบบนี้นี่ไง…
ถึงได้รักและห่วงมากขนาดนี้
“คุณหมอโอคะ! เอ่อขอประทานโทษคะดิฉันไม่ทราบว่าคุณลู่หานอยู่ด้านใน” ประตูห้องที่ถูกเปิดพรวดเข้ามาโดยพยาบาลสาวทำให้คนทั้งคู่ภายในห้องต้องหันมามองอย่างสงสัย
“มีอะไรหรอชองอา” เซฮุนเอ่ยถามพยาบาลสาวเลขาของตนอย่างแปลกใจกับท่าทีเร่งรีบของเธอ
“ดิฉันลืมแจ้งคุณหมอโอว่าวันนี้มีนัดตรวจคนไข้ที่ตึกบีห้องวีไอพีสองสี่หกคะ ดิฉันขอโทษจริงๆกับความสะเพร่าในการทำงานของดิฉัน” เธอว่าพลางก้มหัวลงอย่างสำนึกผิดเซฮุนยกฝ่ามือขึ้นแล้วโบกไปมาอย่างไม่ถือสา
“ไม่เป็นไร ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
“คะ”
พยาบาลสาวเดินออกไปเหลือแต่เซฮุนที่หันไปหยิบแฟ้มเอกสารแทนก่อนจะคว้าฝ่ามือนุ่มของลู่หานเดินจูงออกจากห้องพร้อมกัน
“ฉันจะนั่งรออยู่ที่ห้อง นายไปเถอะ”
“ถ้าฉันทิ้งนายไว้คนเดียวแล้วไข้ขึ้นมาจะทำยังไง ใครจะดูแลนาย ไปกับฉันนั่นแหละ”
คนตัวเล็กที่เดินตามหลังอมยิ้มออกมาเล็กน้อยกับเสียงแข็งๆของเซฮุนที่ฉายความเป็นห่วงอย่างชัดเจน
ก็เพราะเป็นแบบนี้นี่ไง
ถึงได้รักมากขนาดนี้
ก๊อกก๊อกก๊อก
“สวัสดีครับ ขอโทษที่หมอมาช้านะครับ”
“ไม่เป็นไรคะคุณหมอ” คนไข้สาวดีกรีนางแบบสุดฮอตอย่างชเว จองอึนที่ถูกเข้ารักษาที่โรงพยาบาลอย่างกะทันหันหลังจากที่เธอหักโหมทำงานหนักมากไปจนร่างกายอ่อนเพลียล้มพับ
ลู่หานเดินตามหลังเซฮุนเข้ามายืนมองทั้งคู่อยู่ด้านหลังใบหน้าสวยฉีกรอยยิ้มเล็กน้อยยามที่ได้มองเซฮุนในชุดเสื้อกราวน์สีขาวสะอาดกำลังถามไถ่อาการและตรวจสุขภาพของคนไข้ ในฝ่ามือหนาถือแฟ้มคนไข้พร้อมกับปากกาคอยขีดเขียนข้อมูลไปมา
มีแฟนเป็นหมอนี่เท่ห์ชะมัดเลยเนอะ
“อาการของคุณดีขึ้นแล้วน่ะครับ คาดว่าอีกสามวันก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ เดี๋ยววันนี้หมอจะเปลี่ยนหลอดน้ำเกลือและฉีดยานะครับ”
“ฉะฉีดยาหรอคะคุณหมอ?”
“ครับฉีดยา มันไม่เจ็บหรอกครับคุณไม่ต้องรู้สึกกลัวไปหรอก”
คุณหมอโอเอ่ยกับคนไข้ที่มีท่าทางสั่นผวาก่อนจะยิ้มปลอบใจเธอ หญิงสาวหน้าแดงขึ้นอย่างกะทันหันกับรอยยิ้มอ่อนโยนของหมอหนุ่มตรงหน้าที่ถึงแม้ว่าจะหยิบหลอดฉีดยาขึ้นมาแล้วก็ยังไม่รู้สึกกลัวใดๆ
ก็หน้าตาของหมอคนนี้น่ามองกว่านิน่า…
ลู่หานขมวดคิ้วเล็กน้อยรู้สึกได้ถึงอากัปกิริยาที่แปลกไปของคนไข้สาว เป็นแบบนี้ตลอดให้ตายเถอะ ไม่ว่าจะคนไข้สาวกี่รายต่อกี่รายก็พ่ายแพ้ให้กับความอ่อนโยนของหมอโอของเขาตลอด!!
ชักจะหงุดหงิดแล้วนะ -_-
“อย่ามองที่เข็มนะครับ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแล้วแค่อึดใจเดียว หมอขออนุญาตนะครับ” เซฮุนเอ่ยกับคนไข้พลางจับท่อนแขนของเธอมาทาแอลกอฮอล์เพื่อเตรียมทำการฉีดยา
“ถะถ้างั้นขอมองหน้าคุณหมอได้ไหมคะอะเอ่อคุณหมอ…”
“ได้สิครับ เรียกผมว่าคุณหมอโอนะครับ” หญิงสาวหน้าแดงขึ้นยามที่หมอหนุ่มได้ส่งยิ้มให้เธอ ถึงแม้ว่าเข็มที่หวาดกลัวนักหนาได้แทงเข้ามาภายในเลือดเนื้อหากแต่ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆ
ลู่หานที่ยืนมองอยู่แอบเบ้ปากออกมามองคนไข้สาวสวยที่นั่งหน้าแดงใส่คุณหมอของเขาอย่างออกหน้าออกตา หมั่นไส้โว้ยยยยยยยยยยยยยยยย
กูก็ไม่สบายอยู่เหมือนกันนะ !!!
ออเซาะกันเข้าไปเถอะอย่าให้เอาคืนบ้างก็แล้วกัน!
“เสร็จแล้วนะครับหมอบอกแล้วเห็นไหมว่าไม่เจ็บหรอก”
คนไข้สาวเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อเธอไม่รู้สึกเจ็บของที่คุณหมอว่าจริงๆจะให้รู้สึกได้ยังไงในเมื่อเธอทุ่มสมาธิไปกับการมองหน้าคุณหมอไปหมดแล้วนะ
“งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ เชิญพักผ่อนตามสบายเลยนะครับ”
“เอ่อดะเดี๋ยวคะ”
เซฮุนที่กำลังหันหลังกลับมามองหน้าคนไข้เล็กน้อย
“ครับ?”
“คะคือว่าคุณหมอกลับดีๆนะคะ”
เซฮุนยิ้มรับกับคำกล่าวของเธฮก่อนจะหมุนตัวกลับไปเพื่อพาคนตัวเล็กเจ้าของหัวใจกลับบ้านหากแต่ทว่าใบหน้าสีซีดที่แสดงอาการบูดบึ้งทำให้หมอหนุ่มต้องรู้สึกสงสัย
ทำอะไรผิดมารึเปล่าวะ… ก็ไม่นี่
“กลับกันเถอะ เดินไหวไหม”
“ไหว” ลู่หานเบี่ยงลำตัวหนีอ้อมแขนของเซฮุนเมื่อคนตัวโตกว่าทำท่าจะเดินเข้ามาประคองยิ่งทำให้เซฮุนต้องสงสัยหนักกว่าเดิม
“เป็นอะไร?”
“เปล่า”
ลู่หานตอบเสียงห้วนยิ่งทำให้เซฮุนแน่ใจว่ากำลังถูกคนตัวเล็กตรงหน้างอนเข้าเต็มเปา
“นี่ลู่หานเป็นอะไรก็พูดกันมาดีๆสิ”
“จะให้ฉันพูดใช่ไหมละได้เลยโอเซฮุนฉันจะพูดเดี๋ยวนี้แหละ”
ลู่หานที่เดินนำหน้าเซฮุนหมุนตัวกลับมาประชันหน้ากับร่างสูงนัยน์ตาเรียวใสจ้องเขม็งมองเซฮุนอย่างกินเลือดกินเนื้อก่อนที่เสียงใสจะเหวออกมาดังลั่น
“ฉันหงุดหงิดที่นายเป็นหมอ! ฉันหงุดหงิดที่นายหน้าตาดีจนใครๆก็ชอบก็อยากได้ ผู้หญิงทุกคนมองหน้านายแล้วต้องหน้าแดงเหมือนที่ฉันเคยเป็น! นายเป็นหมอนายต้องดูแลคนไข้และฉันจะไม่รู้สึกหงุดหงิดเลยถ้ายัยพวกนั้นไม่ทำท่าเหมือนจะชอบนายแบบนั้น!!!! แล้วยิ่งนายไปยิ้มให้ยัยพวกนั้นมันยิ่งทำให้ฉันหงุดหงิดเข้าใจไหมไอ้หมอเวร!!!!!!!”
เซฮุนกระพริบตาปริบๆมองคนตัวเล็กที่ยืนจังก้าพูดรัวใส่เขาอย่างคนอัดอั้นแล้วต้องระบายยิ้มออกมา ต้นเหตุก็มาจากความหึงล้วนๆสินะ
ทำไมถึงชอบทำตัวน่ารักนักนะ เห้อ
… แค่นี้ฉันก็รักนายมากจนแทบบ้าแล้วนะลู่หาน
“มีสามีหล่อก็ทำใจหน่อยสิครับคุณหมอหมา J”
“เหอะ นี่ฉันกำลังหงุดหงิดนายอยู่นะ มาง้อฉันด้วยไอ้หมอเฮงซวย!!!!!!!!!!!”
เซฮุนมองามหลังลู่หานที่เดินดุ๊กๆออกไป ใบหน้าคมฉายรอยยิ้มออกมาบางเบากับความน่ารักของลู่หานที่ไม่เคยลดน้อยลงเลยสักครั้งเดียว ก่อนจะเดินก้าวเท้าตามหลังคนตัวเล็กไปในหัวสมองก็พลางคิดหาวิธีง้อภรรยาคนน่ารักไปด้วยเช่นกัน
ความรักที่แม้นานวันเข้าก็ไม่เคยเปรเปลี่ยน หากจะเปลี่ยนก็คงมีแต่มากขึ้นและมากขึ้น
เซฮุนลู่หาน พ่อแง้แม่งอนยังไงก็ยังงั้นนั่นแหละ ♥
“ลู่หาน”
“…”
“หายงอนฉันเถอะนะ”
“…”
“นี่ลู่หานอ่า ลู่หานของคุณหมอโอ~”
“…”
“ที่รักครับ”
ฟึบ!
กายเล็กผุดลุกจากโซฟาคว้าแฟ้มเอกสารรายงานสถิติประจำเดือนที่ได้รับมอบหมายก่อนจะก้าวเดินดุ่มๆไปที่โต๊ะอ่านหนังสืออีกด้านหนึ่งของห้องเดือดร้อนเซฮุนคุณหมอรูปหล่อที่ตามง้อต้องลุกขึ้นตาม
“ลู่หานอ่า~ โกรธฉันแล้วนายมีความสุขหรอ ดูสิคิ้วขมวดแล้วนะเดี๋ยวตีนกาก็ขึ้นมากกว่าเดิมหรอก”
“นี่!!!!!!!!!”
เสียงหวานตวาดดังลั่น ลู่หานหมุนกายมาหาเซฮุนที่ยืนยิ้มแฉ่งค้ำหัวอยู่อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรพลอยทำให้แผงคิ้วเรียวบนใบหน้าสวยขมวดเข้าหากันเป็นปมทันที
“ไม่มีงานการทำรึไง เป็นหัวหน้าแผนกERมันว่างนักรึไงห๊ะ!!!”
“ก็นายงอนแบบนี้จะให้ฉันไปทำงานรึไง?”
“อ๋อความผิดฉันสินะโอเซฮุน!!!!!!!!”
“ฉันไม่ได้ว่านายซะหน่อย อย่าตีคำพูดฉันไปผิดๆแบบนี้สิ!!!!!!!!!”
“อ๋อ ฉันตีความผิดสินะ! ใช่เซ่! ฉันผิดทุกอย่างนั่นแหละ!!!!!!!!!!”
“นายกำลังชวนฉันทะเลาะนะ!!!!!”
“ก็มันน่าโมโหไหมเล่า!!!!!!!”
“แล้วคิดว่ามันน่าโมโหไหมเล่านี่ฉันตามง้อนายมาตั้งแต่เย็นจนป่านนี้จะสี่ทุ่มแล้วนะ!!!!!!”
“ถ้าการง้อฉันมันลำบากนักก็ไม่ต้องง้อ!!!!!!!”
“เอองั้นฉันก็จะไม่ง้อ!!!!!!”
“ฮึ้ย!!”
สองเสียงลมหายใจพ่นออกมาพร้อมกันก่อนที่ใบหน้าทั้งคู่จะหันไปคนละทาง
เซฮุนปรายสายตามองลู่หานที่กระแทกตัวนั่งลงกับเก้าอี้แล้วทำรายงานของตัวเองต่ออย่างไม่สะทกสะท้านอะไร นัยน์ตาคมกรอกขึ้นฟ้าอย่างหงุดหงิดก่อนเดินจ้ำอ้าวกลับไปที่โซฟาที่เดิม
ขายาวยกขึ้นพาดกับโต๊ะก่อนหยิบแฟ้มเอกสารเคสคนไข้ขึ้นมาอ่านต่อ ตั้งแต่เขาและลู่หานเรียนจบก็ตกลงปลงใจอยู่ด้วยกันโดยการซื้อบ้านหลังใหม่ในย่านคังนัมใกล้สถานที่ทำงานของพวกเขาทั้งคู่
ชีวิตหลังแต่งงานผ่านไปด้วยดีไม่มีอะไรหวือหวาตามประสาของพวกเขาทั้งคู่ เซฮุนเรียนจบและฝึกทำงานเป็นแพทย์ฝึกหัดไม่กี่ปีก็ได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าแผนกอาจเป็นเพราะความฉลาดเฉลียวหัวไวและช่างสังเกตุของเขาที่เหมาะแก่การเป็นหัวหน้าหมอในแผนกERที่ไม่ว่าเมื่อไหร่จะเกิดเคสอะไรก็มีแต่คนตามตัวเรียกคุณหมอโอให้วุ่น
ส่วนลู่หานก็เปิดคลีนิคสัตว์กับเพื่อนตรงข้ามห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางคังนัมที่มีลูกค้าประจำไม่ซ้ำหน้า คลินิคสัตว์ที่มีคนพาเหล่าเจ้าตัวน้อยมารักษาและดูแลจนเกือบตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
การใช้ชีวิตของพวกเขาดำเนินผ่านไปด้วยดีในแต่ละวัน ทว่าโอเซฮุนและเสี่ยวลู่หานเป็นยังไงตั้งแต่ตอนก่อนนู๊นก็ยังเป็นยังงั้นไม่เคยเปลี่ยน อีกคนหนึ่งก็ชอบแกล้งอีกคนหนึ่งก็ชอบเอาชนะ และนั่นก็คงไม่แปลกอะไรที่พวกเขาจะทะเลาะกันเหมือนเช่นในครานี้
“ฮึ!”
เสียงทุ้มพ่นออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นลู่หานเดินเข้าห้องนอนก่อนจะตามมาด้วยเสียงกระแทกประตูดังลั่น
ปัง!!!!!!
“เห้อ”
มือหนาโยนแฟ้มที่กำลังอ่านลงบนโต๊ะก่อนยกฝ่ามือขึ้นขยี้หัวตัวเองแรงๆอย่างคนไร้หนทาง
ง้อแล้วนะ!! ไม่ใช่ไม่ง้อ!!!!!
“แม่งเอ่ย”
เป็นอีกครั้งที่เสียงทุ้มสบถออกมา เอื้อมหยิบแฟ้มขึ้นมาอ่านอีกครั้ง พยายามอย่างหนักที่จะเพ่งสมาธิไล่อ่านทีละตัวอักษร
ปึง!
“โว้ยยย ไอ้เตี้ยนะไอ้เตี้ย!”
และเป็นอีกครั้งที่แฟ้มเอกสารลงไปกองบนโต๊ะโดยฝีมือของเซฮุน แผงคิ้วเรียวผูกกันเป็นปมอย่างหงุดหงิด และในที่สุดเสียงหัวใจก็ชนะทุกสิ้ง กายสูงผุดลุกขึ้นยืนสาวเท้าเดินไปหยุดตรงหน้าประตูห้องนอนที่เมื่อไม่นานมานี้ได้กลืนกินร่างเล็กเจ้าของหัวใจเข้าไป
“ถ้าไม่รักไม่ยอมขนาดนี้หรอกนะเชื่อเขาเลย!!”
ถึงจะทำบ่น ทำแกล้ง ทำเมินเขาไปก็เท่านั้นแหละ
ในเมื่อทุกวินาทีหัวใจก็เต้นเป็นแค่เสียง‘ลู่หาน ลู่หาน’ อยู่แบบนี้น่ะ-_-
แกร๊ก
บานประตูถูกเปิดออก นัยน์ตาคมกวาดส่องหาร่างเล็กจนมาหยุดอยู่ที่บนเตียงที่มีร่างน้อยของลู่หานนอนมุดอยู่ใต้ผ้าห่มริมซ้ายที่เหลือพื้นที่ริมขวาไว้ให้เขานอนเช่นทุกที
เท้าหนาก้าวเข้าไปใกล้ก่อนปีนขึ้นเตียงฝั่งขวานั่งเอนแผ่นหลังพิงหัวเตียงโดยใช้หมอนหนุนหลัง
“ลู่หาน”
เสียงทุ้มเรียกแผ่วเบาทว่าร่างเล็กกลับไร้ฎิกิริยาโต้ตอบเดือดร้อนฝ่ามือหนาต้องเอื้อมไปสะกิดแขนเรียวเล็ก ทว่า…
“หืม ตัวร้อนหรอ?”
สัญชาติญาณคนเป็นหมอถูกปลุกขึ้นทันที มือหนาเอื้อมสัมผัสหน้าผากมนก็ต้องชักออกทันทีกับความร้อนจัดก่อนผุดกายลุกขึ้นหยิบกะละมังและผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นเพื่อใช้ลดไข้ทันที
“ลู่หานนะลู่หาน อวดเก่งจนได้เรื่อง” นึกหงุดหงิดตัวเองที่รู้ดีว่าอีกคนป่วยแต่ก็ยังชวนทะเลาะพร่ำเพื่อจนไข้อีกคนขึ้นสูง
เซฮุนจัดการเช็ดตัวให้ลู่หานอย่างคล่องแคล่วก่อนแปะเจลลดไข้ลงบนหน้าผากมน กายแกร่งหมุนตัวไปด้านหลังควานหากระปุกยาลดไข้ที่ชั้นยาแล้วค่อยรินน้ำอุ่นใส่แก้ว
ฟึบ
เซฮุนขึ้นไปนั่งบนเตียงอีกครั้งทว่าครั้งนี้กลับช้อนร่างปวกเปียกของลู่หานเข้ามาในอ้อมแขนปล่อยให้ร่างน้อนพิงแผ่นอกกว้างของตัวเอง มือหนาหยิบเม็ดยาขึ้นอมในปากแล้วตามด้วยยกแก้วน้ำขึ้นอมไว้
“อึก”
ฝ่ามือหนาบีบแก้มใสให้อีกคนเผยอปากขึ้นก่อนโน้มตัวลงประกบจูบลงมา ริมฝีปากหยักปล่อยเม็ดยาและน้ำไหลผ่านเข้าสู่โพลงปากเล็กจับใบหน้าใสแหงนขึ้นให้เม็ดยาและน้ำไหลล่วงลงคอก่อนส่งลิ้นชื้นตามดุนดันปิดท้าย
ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่คราที่ได้ดูดกลืนริมฝีปากเล็กก็ไม่เคยหยุดความหลงใหลได้เลยสักครา ลิ้นชื้นกวาดทั่วโพลงปากบางที่ยังหลงเหลือรสขมจากยาอย่างหลงละเมอ ริมฝีปากหยักดูดเม้มกลีบปากบางจนเกิดเสียงและเคลือบมันวาว
“อื้อ”
อาจเป็นเพราะถูกขโมยอากาศหายใจมากไปจึงทำให้ลู่หานรู้สึกตัว เปลือกตาบางปรือขึ้นอย่างช้าๆจ้องนัยน์ตาคมที่ปรือมองสอดผสานสายตาอยู่เช่นกัน และทันใดนั้นเปลือกตาบางก็ค่อยๆปรือลงอีกครั้งพร้อมกับลิ้นเล็กที่ยกขึ้นสู้ฉกใส่ลิ้นชื้นที่รออย่างใจจดใจจ่อ
จากกายเล็กที่ลดความร้อนลงบ้างแล้วดูท่าจะลุกเป็นไฟอีกรอบเมื่อกายแกร่งเอนร่างบางลงจนแผ่นหลังแนบชิดผืนเตียง สองริมฝีปากสอดผสานขับเคลื่อนเป็นจังหวะจ้วบจ้าบสองใบหน้าเอนเอียงสาดใส่จุมพิตให้ลึกซึ้งและร้อนเร่ามากขึ้น คุณหมอหนุ่มที่แบกถือจรรญาบรรณแพทย์ไว้บนบ่าดูท่าจะไม่สนใจร่างเล็กที่กำลังรุกร้อนเป็นไฟทั้งร่าง
แต่คงไม่ใช่ร้อนเพราะพิษไข้เป็นแน่
“อ๊ะ”
เสียงหวานร้องครางเมื่อฝ่ามือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อตัวบางลูบไล้ท้องน้อยจนลู่หานเสียววูบวาบ ปรางแก้มใสที่เคยแดงเพราะพิษไข้กลับแดงขึ้นอีกครั้งเพราะแรงอารมณ์ ริมฝีปากหยักถอนลิ้นจากโพลงปากบางเปลี่ยนมาซุกไซ้สันจมูกโด่งลงซอกคอขาวที่เย้ายวนพลางแนบริมฝีปากขบกัดหลังใบหูขาวจนเท้าเล็กจิกกับผืนเตียง
“ซะเซฮุนอื้อ”
ยิ่งเสียงร้องเรียกชื่อดังใช่ว่าเซฮุนจะสนใจ กลับฝังรอยจูบทั่วซอกคอขาวจนบัดนี้ลามปามลงมาที่แผ่นอกขาว ความหอมหวานลอยเข้าจมูกจนยากนักที่จะหยุดลิ้มลอง ทว่าฝ่ามือเล็กที่ทุบไหล่แกร่งรัวก็ต้องทำให้หมอหนุ่มดึงจรรยาบรรณที่โยนทิ้งไปกลับมาอีกครั้ง
“ไอ้หมอหื่น แฮ่ก ฉันอ๊ะ ป่วยอยู่นะ”
ราวกับเทปหยุดหมุน ร่างของเซฮุนชะงักกึกก่อนยืดตัวลุกขึ้นนั่งทันที ฝ่ามือหนายกขึ้นตบหน้าผากตัวเองดังแปะก่อนสูดลมหายใจเข้าลึกๆอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูง
ถือว่าโชคดีที่โอน้อยยังไม่ตื่น…
…ไม่งั้นคนป่วยได้หยุดงานแน่
“ฉัน…ขอโทษ”
ลู่หานเงียบไปอึดใจมองแผ่นหลังของเซฮุนก่อนยกฝ่ามือขึ้นสัมผัสแผ่นเจลที่แปะบนหน้าผากแล้วปล่อยรอยยิ้มบางเบา
“อื้ม”
เซฮุนเอี่ยวใบหน้ากลับมามองคนที่นอนอมยิ้มแล้วต้องหลุดยิ้มตาม ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง หัวใจดวงนี้ก็เรียกร้องแต่คนคนนี้เสมอ ซึ่งไม่ต้องถามหาเหตุผลว่าทำไม ก็เพราะหัวใจของเขารักคนคนนี้จะไร้ที่ว่างนะสิ
“ไข้ลดลงมาแล้วนะ” นายแพทย์วินิจฉัยให้คนไข้พิเศษฟัง
ลู่หานไม่ตอบคำพูดของหมอหนุ่มกลับผุดกายลุกขึ้นนั่งเอนตัวซบใบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้างของหมอหนุ่มด้วยรอยยิ้ม ยกแขนเรียวสอดรัดเอวสอบแน่นพลางซุกไซ้ใบหน้ากับแผ่นหลังอุ่นอย่างออดอ้อน
“ฮึ” เสียงทุ้มหลุดหัวเราะในลำคอกับคนตัวเล็กที่ถูแก้มกับแผ่นหลังเขาคล้ายลูกแมวตัวน้อย
...เป็นหมอแมวแล้วเรียนรู้วิธีอ้อนจากแมวมาด้วยรึไงนะคนเรา
“ทำตัวแบบนี้อยากป่วยหนักกว่าเดิมหรอหืม” ใบหน้าคมเอี่ยวไปพูดกับคนตัวเล็กที่ยังคงแนบใบหน้ากับแผ่นหลังแกร่ง
“เป็นหมอแล้วยังจะทะลึ่งอีก” แขนเล็กกอดรัดเอวสอบแน่นขึ้นจนใบหน้าคมต้องเผยรอยยิ้มกว้างตามออกมา
“ถ้าไม่ใชเมียก็ไม่ทะลึ่งหรอก”
ฉ่า
“...หมอบ้า”
เสียงใสบ่นงึมงำปรางแก้มใสขึ้นสีแดงกับคำพูดนั้นก่อนยกฝ่ามือเล็กอันอ่อนแรงตีแผ่นหลังกว้างเบาๆ
“ฮึ”
ฟึบ
เสียงทุ้มหลุดหัวเราะในลำคอก่อนยกลำแขนขึ้นดันร่างเล็กที่ซบแผ่นหลังให้เข้ามาในอ้อมแขนแล้วกอดรัดร่างเล็กแน่นวางคางทับบนหัวทุยของคนตัวเล็กที่นั่งเม้มริมฝีปากฉับอย่างเขินอาย
“เห้อลู่หาน ขนาดฉันกอดนายอยู่แบบนี้ฉันยังสัมผัสได้ถึงไข้ของนายเลย”
“คุณหมอโอเก่งจังเลยน้า~”
“ก็ฉันเป็นหมอนี่”
“ฉัน…อยากจะป่วยไปทุกวันเลย”
“หืม”
“จริงๆนะ ถ้ามันจะทำให้นายได้ดูแลฉันได้อย่างใกล้ชิดแบบนี้” เสียงใสว่าอย่างน้อยใจจนหมอหนุ่มอดไม่ได้ที่จะลอบถอนหายใจออกมาก่อนตามด้วยรอยยิ้มบางเบาในความเอ็นดูคนตัวเล็กที่นั่งนิ่งในอ้อมแขนแกร่ง
“ลู่หาน… นายอย่าลืมสิว่าฉันเป็นหมอ ฉันเป็นคุณหมอโอหัวหน้าแผนกERนะ ถ้าจะให้ฉันเกี่ยงเรื่องรับคนไข้เพศหญิงหรือชายก็ไม่ได้ เมื่อพวกเขาบาดเจ็บฉันก็ต้องรักษา มันคือจรรญาบรรณของแพทย์ทุกคนที่ควรมี…”
“แต่…ฉันหวงนายนี่”
โอเซฮุนคงยังไม่เคยบอกใครใช่ไหมครับ
ผมชอบเวลาที่ลู่หานไม่สบายที่สุด เขาจะขี้อ้อน เขาจะพูดจาน่ารัก
…หัวใจของผมสั่นเหมือนกำลังเป็นบ้าเลย
“นายไม่จำเป็นต้องหวงฉันลู่หาน…”
“เพราะนายคือคนไข้พิเศษของฉัน และฉันก็ไม่เคยรักษาคนไข้ที่ไหนด้วยวิธีนี้นอกจากนาย”
ตอนแรกผมก็สงสัยว่าวิธีไหนกันที่เขาใช้รักษาคนไข้พิเศษอย่างผม
แต่เมื่อผมไม่สามารถเปล่งเสียงถามเขาออกมาได้…
นั่นแหละ ผมถึงได้เข้าใจว่าผมเป็นคนไข้พิเศษของเขาจริงๆ J
สองริมฝีปากสอดผสานขับเคลื่อนเป็นจังหวะเดียวกันอีกครั้ง สองลิ้นอุ่นเปรียบดั่งทำนองบรรเลงบทเพลงแห่นอุ่นไอรักให้ลอยอบอวลโบกพัดไปทั่ว สองฝ่ามือกอบกุมมอบความอบอุ่นส่งผ่านสื่อถึงกันและกัน หัวใจสองดวงเต้นเป็นจังหวะเดียวกันถี่รัวและหนักแน่นราวกับมีคนเข้ามาจุดพลุลูกใหญ่อยู่กลางหัวใจ รู้สึกเหมือนร่างกำลังลอยขึ้นฟ้าเพียงเพราะจุมพิตแสนหอมหวานที่อีกคนมอบให้
“อื้อ”
ริมฝีปากหยักชักจูงนำกลีบปากบางตอบรับจุมพิตอย่างหวานละมุน กลีบปากหนาแทะเล็มดูดคลึงหยอกเย้าริมฝีปากบางอย่างมัวเมาก่อนต้องถอนออกมาเมื่อรู้สึกได้ถึงปฎิกิริยานิ่งเฉยจากอีกคนที่ผิดปกติ ทันใดที่นัยน์ตาคมปรับม่านโฟกัสมองเห็นร่างเล็กของคนในอ้อมกอดชัดเจนก็ต้องหลุดหัวเราะในลำคออย่างไร้ข้อกังขา
“หลับซะแล้ว”
ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบกลุ่มผมบางก่อนดันร่างเล็กที่ผล็อยหลับในอ้อมกอดวางลงกับเตียงไม่ให้อีกคนรู้สึกตัว
“ฮึ”
และเป็นอีกครั้งที่คนตัวสูงหลุดหัวเราะในลำคอยามได้จ้องมองหมอแมวที่นิสัยขี้อ้อนไม่ต่างกันหลับตาพริ้ม ฝ่ามือหนาเกลี่ยปอยผมเล็กก่อนทัดเข้าที่ใบหูขาว…
“ลู่หาน”
“ถ้านายรู้ว่าทุกครั้งที่ฉันจูบนายชีพจรของฉันเต้น120-160ครั้งต่อวินาทีนายจะขำฉันไหม” หมอหนุ่มพูดกับคนที่นอนหลับตาพริ้มพลางหลุดหัวเราะในลำคอบางเบากับคำพูดทฤษฎีแพทย์ของตน
เกิดเป็นหมอก็ต้องบอกรักแบบหมอหมอสิครับ
“นายจะรู้ไหมว่าแค่ฉันได้สัมผัสนายทุกวันแบบนี้อะดรีนัลเมดัลลาในตัวของฉันมันก็สร้างอะดรีนาลินขึ้นมาเยอะขนาดไหน..? ฮอร์โมนเหล่านั้นส่งผลต่อหลอดเลือดแดงที่เลี้ยงเข้าสู่หัวใจของฉัน… มันทำให้ฉันใจเต้นไม่เป็นส่ำ ทำให้หัวใจของฉันค่อยๆเต้นถี่รัวขึ้นเรื่อยๆ ความดันของฉันก็พุ่งสูงขึ้น...”
“...หัวใจของฉันมันสร้างอะดรีนาลินกับนายแค่คนเดียว”
“ถ้างั้นคุณหมอโอคนนี้คงจะโคตรรักนายเลยละลู่หาน ♥”
100 %
#ฮนครม
ยังมีหนังสือสต็อกเหลืออยู่นะ!!
http://my.dek-d.com/gingggg/story/viewlongc.php?id=1004693&chapter=30
ใครที่พลาดรอบที่แล้วไปซื้อได้เลยคะ
พร้อมส่งทุกวันหลังการโอนเงิน!!
จะบอกว่ามีพล็อตตอนพิเศษมาแหละสำหรับเรื่องนี้ อิอิ
คิดถึงคุณหมอจุงเลยยยยยยยยยยยยยยยยยย แอร๊บบบบบบบบ
ช่วงนี้แต่งแต่ลู่หานหื่นๆ มันจะตีกันหมดละ โถ่ววว
ขอให้ฟินกับตอนนี้นะคะ ขอบคุณทุกกำลังใจเลย >< จ้วบบบบ
ความคิดเห็น