คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : - 19 - ( 100% )
점점 다가설 수록
자꾸 겁이 나지만
이 사랑은 멈출수가 없나봐
แต่ยิ่งเข้าใกล้เธอเท่าไหร่
ฉันก็ยิ่งรู้สึกหวาดหวั่น
ว่าฉันคงไม่สามารถหยุดรักนี้ได้
ร่างสูงโปร่งของโอเซฮุนก้าวเท้าเข้ามาในบ้านอย่างคนเหม่อลอย ขายาวมุ่งตรงไปที่ห้องครัวเปิดตู้เย็นออกเพื่อหยิบกระป๋องเบียร์ก่อนจะเดินไปด้านข้างเปิดตู้เก็บเหล้าอย่างดีหยิบวิสกี้ที่ยังเต็มขวดแล้วสาวเท้ามุ่งเข้าห้องทันที
อึก
เซฮุนยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มพลางยกแขนเช็ดที่มุมปาก นัยน์ตาคมเสมองผ่านประตูกระจกรอดระเบียงมองท้องฟ้าที่มืดมนเช่นเดียวกับหัวใจดวงนี้ที่กำลังมืดมิด นัยน์ตาคมว่างเปล่าเหม่อลอยออกไปยากนักจะหาจุดหมายปลายทางพบ แม้ว่าแอลกอฮอล์จะแล่นอยู่ในกระแสเลือดสีข้นแต่ชายหนุ่มก็ยังคงสัมผัสได้ถึงความทรมานที่กำลังกลืนกินหัวใจ
เซฮุนก้มลงมองข้อนิ้วที่เต็มไปด้วยเลือดเนื่องจากการชกต่อยกำแพง ชายหนุ่มยอมรับกับตัวเองโดยไร้ข้อแม้ว่าในตอนนั้นโมโหจนเลือดขึ้นหน้าจนต้องระบายความโกรธเข้ากับผนังกำแพง ถึงแม้เหตุนี้อาจทำให้คนตัวเล็กต้องหวาดกลัวแต่ทว่าคงไม่มีสิ่งอื่นใดน่าวิตกไปมากกว่าหัวใจดวงนี้ที่กำลังบอบช้ำอย่างแสนสาหัส
นัยน์ตาคู่คมจ้องมองแหวนหมั้นที่สวมอยู่บนนิ้วเรียวยาว จ้องมองมันอยู่อย่างนั้นไม่ไหวติงไปไหนฉับพลันความกลัวก็ไหลเข้าสู่จิตใจ ความกลัวที่ถ้าหากวันใดวันหนึ่งแหวนวงนี้ไร้ซึ่งความต้องการ... ถ้าหากวันใดวันหนึ่งแหวนวงนี้ถูกละเลยกลายเป็นสิ่งไร้ความสำคัญ... ถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้นขึ้นมา...
หัวใจของโอเซฮุนก็คงไร้ซึ่งความหมายเหมือนกัน …
“... นายไม่รู้อะไรบ้างเลยรึไงกัน”
เสียงทุ้มเปล่งออกมาอย่างแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบของสายลม ฝ่ามือหนาเทวิสกี้ลงแก้วก่อนจะยกกระดกขึ้นดื่มแล้วกระแทกแก้วลงกับโต๊ะจนเกิดเสียง เปลือกตาคมปิดลงหลบซ่อนนัยน์ตาที่ฉาดชัดถึงความทุกข์ทรมาน หลบซ่อนและหลบหนีคำพูดร้ายกาจที่คอยแต่จะตอกย้ำย้ำยีหัวใจดวงแกร่งให้รวดร้าว
ความรวดร้าวที่แสนจะทรมาน ...
ชั่ววินาทีที่หัวใจแกร่งบีบรัดแน่นจนรู้สึกถึงความเจ็บปวด ชายหนุ่มรู้สึกอยากหลับตาลงแล้วพบว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงแค่ความฝัน แค่ความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง แต่ทว่าเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาก็ตระหนักแก่ใจดีถึงความเป็นจริงที่พบเจอ ทุกคำพูดทุกการกระทำและทุกความเจ็บปวดนั้นไม่เคยจากหายไปไหน มันยังคงมีชีวิตอยู่เพื่อทำลายหัวใจของเขาให้ย่อยยับทุกช่วงลมหายใจ
โอเซฮุนผู้ชายที่รู้สึกตัวช้าไปเพียงเสี้ยววินาทีเดียว
เสียงแก้ววิสกี้กระแทกกับโต๊ะดังขึ้นอีกครั้งท่ามกลางเสียงลมหายใจที่พรั่งพรูออกมา เซฮุนตัดสินใจแหงนใบหน้าขึ้นฟ้าเป็นการปิดกั้นหยาดแห่งความเสียใจไม่ให้ไหลลงมาตอกย้ำความเจ็บปวด และในวินาทีถัดมาเสียงแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบได้เอื้อนเอ่ยถ้อยคำส่งความนัยฝากไปกับสายลมให้ล่องลอยไปถึงผู้เป็นดั่งเจ้าของหัวใจ
“ลู่หาน ...”
“ถ้านายรู้สักนิดว่าฉันรักนายมากขนาดไหน... “
“... จะยังใจร้ายกับฉันอยู่ไหม”
( - honey ♡ caramel - )
ในยามเช้าลู่หานเดินเข้ามหาลัยพร้อมแบคฮยอน หลังจากที่เขาและเซฮุนทะเลาะกันในคืนของเมื่อวานแบคฮยอนที่แอบเฝ้าดูอยู่ก็เดินออกมากอดปลอบทันที ใบหน้าของลู่หานเต็มไปด้วยหยาดน้ำตามองดูแล้วน่าเป็นห่วงจนแบคฮยอนต้องพากลับบ้าน
และทันใดที่ลู่หานมาถึงบ้านน้ำตาที่กลั้นไว้ก็ไหลลงมาอีกระรอก ความเสียใจความเจ็บปวดถาโถมเข้าใส่จนกายเล็กสั่นสะอื้นอย่างน่าสงสาร ลู่หานไม่ชอบ ไม่ชอบความรู้สึกหวาดกลัวของตัวเอง ความกลัวที่ว่าหากเซฮุนได้หายไปตามคำกล่าวของเขาเข้าจริงๆ และหากวันนั้นกลายเป็นจริงขึ้นมาชีวิตของลู่หานจะเป็นอย่างไร ...
โอเซฮุนไม่ใช่คนที่มีอำนาจอะไร แต่น่าแปลกที่ดันมีอิทธิพลต่อหัวใจลู่หานเหลือเกิน
และกว่าจะเข้าเช้าวันใหม่ช่างเป็นค่ำคืนที่แสนทรมาน เขาต้องใช้ความพยายามอย่างหนักที่จะข่มตานอนแต่ช่างเป็นเรื่องที่ยากนักเมื่อหยาดน้ำตายังคงไหลรินตลอดทุกช่วงยาม ทุกภาพทุกคำพูดของเขาและเซฮุนรั้งแต่จะลอยวนเวียนเข้ามาทับถมความเจ็บปวดให้บอบช้ำมากขึ้น
เขาไม่รู้ว่าในตอนนี้สถานะระหว่างเซฮุนและพี่ซูจองอยู่ในขั้นไหน แต่เพียงแค่ได้เห็นว่าหญิงสาวคนนั้นกำลังเดินอยู่เคียงข้างผู้ชายคนที่เขามอบหัวใจให้ เพียงแค่ได้เห็นว่าที่ตรงที่เขาเคยยืนกำลังถูกแทนที่ด้วยใครอีกคน
เพียงเท่านั้น... ความเจ็บช้ำได้กลั่นกรองหยดน้ำตาเพื่อบรรเทาล้างความเจ็บปวด
หรือบางทีนี่อาจเป็นจุดจบระหว่างเขาและเซฮุน ในเมื่อเธอคนนั้นเคยเป็นหัวใจของโอเซฮุนมาก่อน ซึ่งต่างจากเขาโดยสิ้นเชิง ลู่หานเป็นเพียงแค่คู่หมั้นในนาม เป็นเจ้าของเซฮุนได้เพียงแค่ร่างกาย แต่ทว่าหัวใจนั้นมีเพียงแค่เขาคนเดียว แค่ลู่หานฝ่ายเดียวที่พยายามไขว่คว้าหัวใจของโอเซฮุนดั่งคนโง่เง่า…
คนโง่เง่าที่รู้ว่ายิ่งไขว่คว้าความรักมากเท่าใดก็เพียงพบแต่อากาศมากเท่านั้น
“ลู่หาน”
เสียงแบคฮยอนดังขึ้นข้างกายเรียกให้ลู่หานเงยหน้าขึ้นก็พบกับเซฮุนที่กำลังเดินตรงมา นัยน์ตากลมเกิดอาการสั่นไหวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเหลือบสายตาเห็นฝ่ามือหนาที่ถูกพันด้วยผ้ากอซ ข้างที่ต่อยกำแพงเมื่อวานนี้ ...
“ลู่หาน” เสียงเข้มดังเรียกคนตัวเล็กลู่หานสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงเรียกนั้น
“มีอะไร”
“เราต้องคุยกัน”
คุยงั้นหรอ? จะให้คุยเรื่องนายกับพี่ซูจองงั้นหรอ ...
“ฉันไม่คุย” ลู่หานเดินหันหลังหนีแต่ก็ต้องชะงักค้างเมื่อฝ่ามือของเซฮุนฉุดแขนบางไว้
“เราต้องคุยไม่งั้นฉันและนายก็จะไม่เข้าใจกันแบบนี้”
ยังมีอะไรที่ต้องเข้าใจเพิ่มอีกงั้นหรอ ..
“ลู่หานนายต้องฟัง..”
“พอเถอะ...” เสียวแผ่วเบาดังแทรกขึ้น
“ลู่หาน...”
“ฉันขอร้อง... หยุดเถอะนะ”
“ไม่! นายต้องฟังฉันก่อนลู่หาน มันมะ...”
“ได้โปรดเซฮุน...”
“...ฉันยังไม่พร้อมที่จะฟังอะไรทั้งนั้น”
เสียงใสเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาดั่งคนไร้เรี่ยวแรง ลู่หานแกะฝ่ามือหนาที่จับแขนออกก่อนจะก้าวเท้าเดินออกไปทิ้งให้ชายหนุ่มยืนมองตามแผ่นหลังเล็กด้วยหัวใจที่แตกสลาย ขายาวที่ตั้งใจจะมุ่งไปคว้าคนตัวเล็กเพื่อคุยกันให้รู้เรื่องต้องหยุดชะงักเมื่อถ้อยคำเมื่อครู่นี้ดังก้องในหัว
เพียงแค่คำอธิบายของผู้ชายที่ต้องการเรียกร้องความรักมันดูไม่น่าฟังขนาดนั้นเลยหรอ ...
ลู่หานที่เดินหนีออกมาหลบมุมเข้าด้านข้างเอนตัวพิงกำแพงอย่างคนอ่อนแรง เขายังไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น เขาไม่รู้ว่าเรื่องที่เซฮุนจะพูดนั้นคือเรื่องอะไร แต่ถ้าหากเป็นเรื่องของเซฮุนและพี่ซูจองละ ...
เพียงแค่คิดก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด
หัวใจดวงนี้ยังไม่เข้มแข็งพอที่จะฟังเรื่องราวของเซฮุนและพี่ซูจองมันยังคงอ่อนแอเกินไป และถ้าหากยิ่งได้ฟังจากปากเซฮุนเองหัวใจของเสี่ยวลู่หานคงไม่ต่างอะไรจากการตายทั้งเป็น
ลู่หานเม้มริมฝีปากแน่นกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลเล็ดรอดออกมา หัวใจบีบรัดแน่นขึ้นเพียงแค่คิดว่าต่อแต่นี้เซฮุนจะกลับไปดูแลซูจองเหมือนที่เคยทำ ต่อแต่นี้ข้างกายของลู่หานจะไร้ซึ่งร่างของโอเซฮุนข้างกาย ทำไมกัน...
เป็นเสี่ยวลู่หานคนนี้ไม่ได้งั้นหรอ ฉันคนนี้ก็รักนายไม่แพ้ใครเหมือนกันนะ ...
“ลู่หาน..”
“...แบคฮยอน”
ลู่หานหันไปมองเพื่อนสนิทคว้าร่างเพื่อนเข้ากอดแน่นอย่างต้องการหาที่พึ่ง และทันทีที่แบคฮยอนวางมือบนบ่าของลู่หานน้ำตาที่พยายามข่มไว้ก็พังทลายออกมาอย่างห้ามไม่ได้ คนตัวเล็กกอดคว้าร่างเพื่อนสนิทแน่นปล่อยเสียงร่ำไห้ออกมาอย่างไร้ความอาย นัยน์ตาสวยแดงกล่ำเต็มไปด้วยหยาดน้ำแห่งความปวดใจ
“แบคฮึกกูกูไม่อยากรู้สึกแบบนี้”
“แล้วทำไมมึงไม่ฟังเซฮุน”
“กูฮึกกูไม่พร้อมกูยังฮึกยังไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น”
แบคฮยอนที่กอดเพื่อนอยู่ลอบถอนหายใจออกมาเมื่อรู้ดีว่าเพื่อนเป็นคนหัวดื้อรั้นมากแค่ไหน ดื้อรั้นจนปิดหูปิดตาไม่รับฟังอะไรทั้งสิ้น
“มึงควรฟังเซฮุนพูดนะ บางทีมันอาจจะไม่ใช่อย่างที่มึงคิด”
“จะไม่ใช่ได้ไงฮึก ในเมื่อทุกอย่างชัดเจนขนาดนี้”
“ลู่หานแต่มึงจะหนีแบบนี้ไปตลอดไม่ได้นะ”
“แล้วกูต้องทำยังไงฮึก ในเมื่อฮึกกูรักมาก.. จนไม่อยากเสียเขาไปฮึก”
“ลู่หาน...”
แบคฮยอนเรียกชื่อเพื่อนเสียงแผ่วก่อนจะกอดรัดแน่นขึ้น ความรักเป็นสิ่งที่อ่อนไหวของมนุษย์ทุกคน และลู่หานในขณะนี้ก็กำลังพบเจอกับจุดอ่อนที่ขึ้นชื่อว่าความรักเช่นกัน แบคฮยอนได้แต่เฝ้าหวังว่าอ้อมกอดนี้จะช่วยเพื่อนที่กำลังร่ำไห้จากความทุกข์ทรมานเข้มแข็งขึ้นมาได้บ้าง... แม้สักนิดก็ยังดี
ลู่หานร้องไห้ภายใต้อ้อมกอดของแบคฮยอนด้วยหัวใจที่เจ็บปวด ร้องไห้จนกายบางสั่นสะท้าน ยิ่งร้องไห้ดังระงมมากเท่าไรยิ่งรู้สึกได้ถึงความรวดร้าวเท่านั้น ความรักที่เปรียบเสมือนมีดเล่มคมได้กรีดเฉือนหัวใจของลู่หานให้เจ็บช้ำอย่างทรมาน และเขาก็ไม่รู้จะขอโทษหัวใจตัวเองอย่างไรที่พาให้ไปพบเจอความเจ็บปวดจากการเผลอมอบความรักให้ผู้ชายคนนั้น “หมดหัวใจ”
เซฮุนหย่อนสะโพกนั่งลงร้านเหล้าแห่งหนึ่งย่านมหาวิทยาลัยสั่งบรั่นดีที่แรงที่สุดกระดกดื่มอย่างไม่ยั้งคิด สายตาพร่ามัวเหม่อลอยออกไปเพราะหัวใจที่หายไป หายไปเพราะถูกใครบางคนขโมยไปและไม่ได้กลับคืนมา ...
ฝ่ามือหนายังคงยกแก้วกระดกขึ้นดื่มอย่างต่อเนื่องแก้วแล้วแก้วเล่าที่ถูกรินรดผ่านริมฝีปากไหลลงสู่ลำคอแต่ก็ไม่สามารถชำระล้างพิษรักได้เลย เซฮุนไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ไม่รู้ว่าต้องใช้วิธีไหนเสี่ยวลู่หานถึงจะยอมฟัง เหมือนดั่งลู่หานได้โยนโซ่เข้ามาพันธนาการรัดกุมหัวใจเอาไว้ โซ่ตรวนใจที่ถูกรัดกุมโดยลู่หานกำลังบีบรัดแน่นให้รู้สึกทรมานไปทุกวินาที
หากจะบีบก็แสนรวดร้าว หากจะคลายก็แสนทุกข์ระทม ...
“เซฮุน..”
“หื้ม ใคร..” เซฮุนที่เริ่มมึนเมาเงยหน้าขึ้นมองคนที่เข้ามาทักเพ่งจ้องมองอย่างสงสัย แต่เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ถูกสั่งสมจึงทำให้สายตานั้นพร่ามัว
“ฉันซูจองไง”
“ซูจอง? ซูจอง... อ๋อ ซูจองนั่นเอง” เสียงมึนเมาเปล่งออกมาจากลำคอทำให้เธอมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างฉงนก่อนจะหย่อนสะโพกนั่งลงข้างเซฮุน
“นายเมา?”
“ม่ายม่าย”
“แล้ว... ลู่หานละ”
“ลู่หาน..”
“ยังไม่ได้คุยกันหรอ?”
“หึ.. เขาไม่ฟังฉัน ไม่ฟังอะไรฉันเลย”เซฮุนพูดพลางกระดกแก้วบรั่นดีเข้าปากอีกครั้ง เธอมองชายหนุ่มอย่างหวั่นใจ พอคาดเดาสถานการณ์ออกบ้าง
“ฉันจะทำยังไงดี ลู่หานฉันจะทำยังไงดีให้มีนายอยู่ข้างๆ”เซฮุนพูดออกมาอย่างคนเหม่อลอย ซูจองมองชายหนุ่มพลางเม้มริมฝีปากแน่น ยิ่งเธอเห็นเซฮุนเมามายและละเมอเรียกชื่อลู่หานเธอยิ่งเกิดความรู้สึกอิจฉา
อิจฉาในสิ่งที่เธอไม่เคยได้รับ แม้จะพยายามแทบตาย
“นายรู้ไหมลู่หานว่าฉันรักนายมากแค่ไหนกัน”
“...”
“แต่นายก็ไม่คิดจะฟังฉันเพราะอะไร แค่ฟังเสียงฉันนายยังไม่อยากจะฟังเลยรึไง”
“...”
“ฉันเป็นคู่หมั้นที่แย่จริงๆสินะ นายถึงพูดทำร้ายจิตใจฉันได้ขนาดนั้น”
“...”
“ลู่หานอ่า ... เสี่ยวลู่ของเซฮุนอย่าทิ้งฉันไปไหนนะ”
“...”
“เพราะฉันนะ...”
“...”
“ผู้ชายคนนี้รักนายจนแทบบ้าเลยละ”
“ฉันก็รักนายจนแทบบ้าเหมือนกันโอเซฮุน” ในที่สุดเธอก็พูดสวนขึ้นเมื่อทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป การที่ให้ฟังชายคนที่รักพร่ำบอกรักคนอื่นต่อหน้าเป็นสิ่งที่ยากนัก ถึงแม้จะตระหนักได้ถึงความดีมากแค่ไหน แต่ไม่ว่าจะยังไง ความรู้สึกภายในหัวใจก็ย่อมเอาชนะความดีที่เฝ้าเตือนตัวเองทั้งหมดนั้นได้เช่นกัน
“หื๊อออ”
“ฉันขอบใจนายมาเสมอที่ในตอนนั้นนายยอมคบกับฉันทั้งๆที่นาย... ไม่แม้แต่จะรักฉันเลยก็ตาม”
“ลู่หานอ่า…”
“ฉันทำทุกทาง พยายามทุกวิธี... แต่ก็ไม่สามารถยึดครองหัวใจนายได้เลยแม้สักเศษเสี้ยว”
“เสี่ยวลู่... ของเซฮุน”
“และฉันก็ขอบใจนายที่นายยอมทำหน้าที่แฟนให้ฉันจนกระทั่งฉันเรียนจบ”
“นายอยู่ที่ไหนกันลู่หาน...”
“แต่รู้ไหม...ฉันฮึกฉันหยุดรักนายไม่ได้เลยเซฮุน”
“ลู่หาน...ฉันรักนาย”
ซูจองเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อในเวลานี้สติของเซฮุนนั้นเต็มไปด้วยคำว่าลู่หาน เธอเจ็บจนทรมานอย่างแสนสาหัสที่ต้องทนฟังชายคนที่รักบอกรักคนอื่นต่อหน้า ทั้งๆที่ชายคนนี้เคยเป็นของเธอมาก่อน เหมือนดั่งมีมือปริศนาได้กระชากลมหายใจของเธอออกไปมันเจ็บจนไร้เรี่ยวแรงที่จะยืนและก้าวเดินต่อ น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ไหลออกมาช้าๆอย่างคนยอมแพ้ เธอยอมแพ้แล้ว เธอยอมแพ้ให้ความรู้สึกตัวเอง เธอยอมแพ้ให้หัวใจที่เจ็บเกินจะต้านทานความทรมานในครั้งนี้
ไม่มีใครบนโลกใบนี้รู้สึกยินดียามได้มองคนที่เรารักก้าวเดินไปพร้อมใครอีกคนที่ไม่ใช่ตัวเองหรอก
ใครก็อยากมีความสุขกับคนที่เรารักทั้งนั้น...
“ฉันอุตส่าห์ฮึกจะไม่แย่งนายมาจากเขาแล้วแท้ๆ”
“เสี่ยว..ลู่......”
“แต่นายกำลังทำให้ฉันอิจฉาเขาอิจฉาเขาจนอยากได้นายกลับคืนมาเหลือเกิน”
“ฟังฉันได้ไหมลู่หาน.....”
“ขอโทษนะเซฮุน...”
ซูจองพึมพำแผ่วเบาก่อนจะจับคางเซฮุนให้แหงนหน้าขึ้นรับจูบของเธอที่โน้มลงมา ซูจองประกบริมฝีปากตัวเองทาบทับริมฝีปากหนาอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากหนาที่เธอเคยสัมผัสเมื่อสองปีที่แล้วกับชายคนนี้ที่เคยเป็นของเธอมาก่อน และทันใดนั้นหยาดน้ำตาแห่งความเจ็บปวดก็ได้ไหลลงมาอีกรอบ ริมฝีปากบางจูบซึมซับรสจูบที่แสนขมขื่นและปวดใจพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลรินลงมา
ความรักไม่มีแม้ซึ่งผิดและถูก แม้เพียงได้รักแล้วก็คงคิดที่จะรักต่อไป ดั่งหัวใจของมนุษย์หากได้เจ็บปวดแล้วก็ยังคงเจ็บปวดต่อไป
และในตอนนั้นเองหญิงสาวได้หยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมากดเข้าโปรแกรมคาเมล่าก่อนจะกดถ่ายชัตเตอร์บันทึกภาพในมุมที่ดูเหมือนเธอกำลังถูกเซฮุนจู่โจม เมื่อถ่ายได้มุมแล้วจึงถอนใบหน้าออกมา
“ลู่หาน..”
“ฮึก”
ซูจองมองชายหนุ่มตรงหน้าที่เธอเพิ่งถอนจูบออกมาเรียกชื่อคนอื่นอย่างรู้สึกรังเกียจตัวเอง เธอรังเกียจตัวเองที่ทำอะไรได้น่าสมเพซขนาดนี้ แต่เพราะเป็นเซฮุนเธอถึงทำ เพราะเซฮุนคือชายคนที่ครอบครองพื้นที่ในหัวใจ และเธอไม่สามารถบังคับตัวเองให้ยึดมั่นในความดีได้อีกต่อไป เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนหนึ่งที่รักผู้ชายคนนี้แม้ว่าเขาจะรักคนอื่นไปแล้วก็ตาม
แต่เธอก็ยังคงรักเขา และนี่ก็คือความรักที่หากจะเจ็บปวดมากเท่าไรก็ยากนักจะหักห้ามใจให้มีรัก
ถึงแม้ว่าเธอจะทำใจเข้มแข็งมองดูเขารักกับคนอื่นได้ แต่เธอไม่สามารถทำใจเข้มแข็งห้ามตัวเองให้รู้สึกอิจฉาได้ เธออิจฉาทุกอย่างที่เซฮุนทำให้ลู่หาน อิจฉาความรักที่เซฮุนมีให้ลู่หาน
เพราะเธอไม่เคยได้สัมผัสความรักของโอเซฮุนเลย ...
ซูจองล้วงหยิบโทรศัพท์ของเซฮุนออกมาจากกระเป๋าเสื้อเลื่อนหาเบอร์ลู่หานแล้วกดเมมเบอร์ไว้ในโทรศัพท์ตัวเอง ไม่รอช้าเธอกดส่งข้อความหาลู่หานพร้อมแนบรูปที่เธอเพิ่งถ่ายเมื่อกี้ ถึงแม้ว่าเธอจะกดส่งรูปไปแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ดีว่าอีกไม่นานผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอได้กลายเป็นบุคคลที่ทำลายความรักระหว่างคนสองคนโดยสมบูรณ์แบบ แต่น่าแปลกที่ใบหน้าสวยกลับไร้ซึ่งรอยยิ้มแห่งความสุข
และเพียงไม่นานเธอก็กดส่งข้อความหาลู่หานอีกครั้ง
‘ผู้ชายคนนี้ฉันขอคืนได้ไหม :: จอง ซูจอง’
- - - - - - - - - - ( - honey ♡ caramel - ) - - - - - - - - - -
♡ สำหรับหนังสือเหลือเวลาโอนอีกสามอาทิตย์เท่านั้นนะคะ รีบเลย ....
... ปิดโอนวันที่ 23 กุมภานะ ...
♡ ลงตัวอย่างตอนพิเศษที่มีแค่ในเล่มแล้ว จิ้ม https://docs.google.com/document/d/1mYgcobe8PjJnR0LArJm8DIKOmMsV8ISLLdS8mIFuFZc/edit
♡ สปอยพาร์ทตอนต่อไป
"เขามาทวงฉันขนาดนี้"
"ยังจะให้ฉันหน้าด้านเก็บนายไว้อีกหรอ"
♡ขอโฆษณาฟิคอีกเรื่อง อัพตอน5 ครบ100%แล้ว
Cheesy Almond HunHan ft.ChanBaek (นายแบบเซฮุน-เจ๊ลู่หาน)
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1056456
{ - AS FOR TALK &
ตอนนี้คือแบบ โอ้ยยยยยยยยย ซูจองมาแล้วนะตะเอง
เซฮุนไปหาลู่หานแต่ลู่ก็ยังไม่อยากฟัง ขอร้องเซฮุนให้หยุดพูดเพราะกลัวกับสิ่งที่เซฮุนจะพูด
แต่ถ้าเราเป็นลู่หานเราก็คงพูดแบบนั้น เราก็คงกลัวเหมือนกัน
แบบพอเรารักใครมาก ก็คงไม่อยากฟังคำที่ทำให้เราเจ็บปวดนักหรอก
แล้วเซฮุนก็เหมือนนิ่งไปเลยพอได้ยิ่งลู่หานพูดแบบนั้น แต่มีใครสังเกตไหมฮุนไมได้ยอมแพ้นะ
ยังคงมาง้อลู่หานมาหาลู่หานเพื่ออธิบายอยู่ถึงแม้จะได้ยินคำที่ทำให้ตัวเองเจ็บตลอดก็เถอะ
แต่อาจเป็นเพราะรักเลยยอมทนฟังคำที่เจ็บปวดตลอด
แต่ปัญหาก็คือลู่ยังไงม่ยอมฟัง เพราะยังกลัวอยู่ ลู่หานยังต่อสู้กับใจตัวเองไม่ได้
ส่วนฮุนก็แบบเข้าใจปะตอนที่แล้วลู่พูดว่าถอนหมั้น ครั้งนี้ลู่ขอร้องให้ฮุนหยุดพูด
โหโคตรเจ็บเลยไปเมาย้อมใจไง แต่โชคดันไม่เข้าข้างเจอซูจอง
แล้วยิ่งโชคร้ายใหญ่เมื่อซูจองอดทนไม่ได้อีกต่อไป อดทนที่จะมองคนที่เรารักก้าวเดินไปกับคนอื่น
แล้วยิ่งตัวเองเคยได้รับสิทธิเป็นแฟนเซฮุน ถึงฮุนจะไม่ได้รักแต่ก็ได้เป็นแฟนกันแล้วซูจองก็รักฮุนมาก
เลยพยายามทำทุกอย่างพยายามแทบตายแต่เซฮุนก็ไม่เคยรัก แล้วพอเจอลู่หานเซฮุนดันกลับรักลู่ทั้งๆที่ลู่แทบไม่ต้องพยายามแบบซูจองเลย ไม่ต้องหาวิธีทำให้ฮุนรัก ฮุนก็รักลู่แล้ว
เจอแบบนี้มันก็เจ็บใช่ไหมละ แล้วยิ่งต้องมานั่งฟังฮุนบอกรักลู่หานซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก ใครบ้างจะไม่เจ็บ ...
ความอิจฉาเป็นภัยอันตรายของความรัก เพราะความอิจฉาทำให้มนุษย์ทุกคนหลงผิดยอมทำอะไรผิดๆเพื่อให้ตัวเองได้มีในสิ่งที่ต้องการ มันน่ากลัวจริงๆนะ
ส่งท้ายสักนิด อย่าลืมว่าความรักไม่มีผิดหรือถูก แต่มันอยู่ที่ว่าคนทั้งสองคนจะรักและเข้าใจกันได้มากเท่าไหนแค่นั้น
ทอล์คตอนนี้ดูสวยจังเลยอะ 555555555555555555555555555555555555555
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์กำลังใจกันนะคะ ขอบคุณสำหรับการสนับสนุน ขอบคุณที่โหวตให้
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกัน ขอบคุณสำหรับ #ฮนครม ขอบคุณที่อยู่อ่านมาถึงตอนนี้
เหลืออีกสามตอนจะจบแล้ว ใจหายสุดๆๆๆๆๆๆ รักคนอ่านทุกคนนะคะ ^^
ความคิดเห็น