ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - my fairy ♡ haeeun -

    ลำดับตอนที่ #5 : #4: wondering where this thing could go

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.พ. 59


                    

    #4
    Wondering where this thing could go

              


     

                    07.30

                  เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่นดึงร่างของฮยอกแจให้ตื่นจากภวังค์ ดวงตากลมปรือขึ้นก่อนรู้สึกปวดจี๊ดที่หัว อาการปวดที่เหมือนดั่งกาน้ำร้อนใกล้จะระเบิดเต็มที จะขยับกายทีก็ลำบากเพราะอาการปวดที่มาจากไหนไม่รู้แผ่ซ่านไปทั่ว

                  มือเล็กยกขึ้นวางบนหน้าผากก่อนขยายดวงตากว้างอย่างตกใจ ความร้อนระเหยออกจากร่างจนรู้สึกหนักอึ้ง อาจเพราะยืนตากละอองฝนเมื่อวานถึงได้โดนพิษไข้บุกเข้าเล่นงาน 


                    ป่วยแบบนี้แล้วอยากกลับไปอ้อนแม่ที่บ้านจัง

     



     

     

                    “ฮยอกแจกินยาแล้วก็พักผ่อนเยอะๆนะ เดี๋ยวก็หาย”

                  ซองมินเอ่ยขึ้นผ่านสายโทรศัพท์ ดวงหน้าหวานยิ้มรับเบาๆ กับน้ำเสียงเป็นห่วงของเพื่อน ก่อนเบะปากคว่ำกับเสียงของเฮนรี่ที่ดังรอดเข้ามา

                   “ไอ้เหี้ยฮยอกแดกยาด้วยนะมึง เดี่ยวไอ้เฮตบกูที่กูดูแลมึงไม่ดีได้นะเว้ย”


                   ไอ้เพื่อนเวร


                   ตั้งแต่วันนั้นที่ร้านเหล้าสายตาของเพื่อนๆ ก็มองเขาแปลกไป มันไม่ใช่สายตาเกลียดชังหรือหมั่นไส้ หากแต่สายตาที่มองมาเหล่านั้นกลับเต็มไปด้วยความล้อเลียน


                เห้อ

                   

    “รู้แล้วๆ กูกินยาไปแล้วไอ้บ้านี่ วางก่อนนะมึง กูง่วงมาก”

    กดตัดสายพร้อมกับเปิดโหมดเงียบให้ปิดทั้งสั่นและเสียง กายเล็กเอนนอนลงเตียงซุกใบหน้าเข้ากับหมอนใบโต และใช้เวลาเพียงไม่นานฤทธิ์ยาก็ดึงสติคนป่วยเข้าสู่นิทรา

     

     

     

    17.40

    ดวงตากลมปรือขึ้นในเวลาที่ท้องฟ้าเริ่มกลายเป็นสีส้มเข้ม ยกมือแตะหน้าผากก็พบว่าความร้อนเริ่มจางลง มือเล็กเอื้อมคว้าหยิบโทรศัพท์เป็นสิ่งแรกก่อนขยายดวงตากว้าง

     

    32 miscalls

             14 messages


              และจำนวนไลน์อีกเยอะแยะที่ไล่อ่านไม่หมด ดวงหน้าหวานจุดประกายรอยยิ้มกว้างเมื่อเกือบทั้งหมดของการแจ้งเตือนมาจากคนคนนั้น... อีทงเฮ   


               “ไม่สบายหรอ”

               “กินยายัง”

               “พักผ่อนเยอะๆนะครับ”

               “ฮยอกแจ”

                 และอื่นๆ อีกมากมาย มือเล็กยกขึ้นนวดข้างแก้มเมื่อรู้สึกว่าตัวเองชักเริ่มจะยิ้มมากจนเมื่อยปาก หากแต่พยายามจะหุบยิ้มทีไรก็หยุดไม่ได้จนเริ่มนึกรำคาญตัวเอง ไม่รู้ว่าจะยิ้มบ้าอะไรนักหนา กับอีแค่ข้อความที่ดูเหมือนเป็นห่วงและใส่ใจของอีกคน     


                 สงสัยอีฮยอกแจคงใกล้เป็นบ้าแล้วจริงๆ 


                มือเล็กยังคงไล่กดอ่านทุกข้อความที่กระหน่ำเข้ามาจากทงเฮ และนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฮยอกแจมีความรู้สึกว่า


                 อยากให้ตัวเองป่วยหนักก็ครั้งนี้ละ ^^




     

     

                “เราขอโทษนะทงเฮ เราเพิ่งตื่น” นิ้วมือเล็กพิมพ์ข้อความตอบกลับในที่สุด รอเพียงไม่นานอีกฝ่ายก็ตอบกลับมาราวกับกำลังรอคอยข้อความจากเขาอยู่


                “ไข้ลดบ้างยัง”

                “อื้มรู้สึกดีขึ้นแล้ว”

                “อย่าลืมกินยานะ”

                “กินทำไมเยอะแยะ”

                “ฮยอกแจคุยอยู่กับเรา ฮยอกแจห้ามดื้อสิ”

                “เราไม่ได้ดื้อนะอีทงเฮ!!

               “ครับเชื่อแล้วครับ”

                หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ กับการตัดบทสนทนาของอีกคน ก่อนขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัยเมื่อมีข้อความเด้งขึ้น “ออกมาตรงระเบียงหน่อย”

                นิ้วมือเล็กพิมพ์ข้อความตอบกลับทันที

                “ทำไม?”

               

        

    ตุ้บ !



    อะไรบางอย่างดังกระทบประตูระเบียง ดวงหน้าหวานหันไปมองอย่างหวาดๆ ขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิมพร้อมขยับขาก้าวเดินตรงไป ไม่รู้ว่าแถวนี้มีเด็กมาเล่นซนหรือไรกัน ถ้ากระจกประตูเขาแตกขึ้นมาได้เสียค่าประกันบานแน่


    ตุ้บ!


    เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง ฮยอกแจแน่ใจว่าต้องมีคนโยนก้อนกินขึ้นมาแน่ มือเล็กเลื่อนหาเบอร์ยามใต้หอเพื่อวานให้ช่วยจัดการกับกลุ่มเด็กเมื่อยังคงปาก้อนหินไม่เลิก หากแต่ข้อความไลน์ล่าสุดของทงเฮก็ทำเอาเขาวางโทรศัพท์แล้วพุ่งตัวไปเปิดระเบียงแทบไม่ทัน

     

    “เร็วๆ สิฮยอกแจ เราอยากเจอนะ” 

     

    ดวงหน้าหวานชะโงกผ่านระเบียงแล้วพบกับชายหนุ่มเรือนผมสีเข้ม ฮยอกแจหลุดยิ้มขำเมื่ออีกฝ่ายกำลังยืนเงยหน้าขึ้นมองราวกำลังรอคอย มือเล็กท้าวคางกับระเบียงเพื่อพูดคุยกับคนที่เงยหน้าขึ้นมอง

    “ทำไมไม่บอกให้ลงไปข้างล่างละ” เสียงหวานตะโกนถาม

    “ก็เราไม่อยากให้คนป่วยเดินไกล ตรงระเบียงนี่แหละใกล้ๆ”

    เป็นอีกครั้งที่ฮยอกแจหลุดยิ้มกับผู้ชายคนนี้


    คนป่วยงั้นหรอ...

     

     

    หยุดยิ้มไม่ได้เลยจริงๆ ให้ตายสิ

     

     

    “แล้วอีกอย่างนะ ...”


    “...?”


    “เรามีอะไรจะให้ฮยอกแจดูด้วย” 

    ทงเฮพูดจบก็กางกระดาษที่อยู่ในมือ ดวงตาคมสีเข้มมองมาพร้อมรอยยิ้มที่เหมือนตรึงหัวใจดวงเล็กให้หยุดนิ่ง บนกระดาษสีขาวมีลายมือยุกยิกอย่างที่อ่านแล้วต้องยิ้มกว้างกว่าเดิม


                    

             “ฮยอกแจรีบๆ หายป่วยละ

    ทงเฮไม่อยากติดหวัดจากฮยอกแจน่ะ”



    คนป่วยพยักหน้าตอบรับข้อความนั้นเบาๆ ส่วนคนที่ยืนถือกระดาษด้านล่างก็ขยับวาดรอยยิ้มเบาๆ อย่างเช่นทุกที รอยยิ้มของทงเฮที่เหมือนมีเวทย์บางอย่าง

     

    เวททนตร์ที่เสกให้หัวใจดวงน้อย

     

     

    เต้นในจังหวะที่ผิดแปลกไป

     

     

     

    “หมายความว่ายังไงที่ว่าไม่อยากติดหวัดจากเรานะ่ห๊ะ!!” คนป่วยแกล้งตะคอกเสียงใส่ หากแต่ดูเหมือนฮยอกแจจะตกวิชาการแสดงเมื่อดวงหน้ากำลังประดับด้วยรอยยิ้มกว้าง มันช่างตรงกันข้ามเสียจริงเลยนะ ว่าไหม ?

     

    หากแต่ประโยคตอบกลับถัดมาของเขาน่ะสิ ....

     

     รอยยิ้มคงไม่ใช่สิ่งเดียวที่ประดับบนดวงหน้าหวานๆ ของคนป่วยซะแล้วสิ เพราะในเวลานี้ปรางแก้มใสกำลังผลัดสีแดงเรื่ออย่างน่ารักน่าชังในสายตาคนมอง

     

    สงสัยฮยอกแจคงต้องเข้าไปเช็คอาการป่วยกับคุณหมอวะหน่อยแล้ว ไม่รู้ว่าพิษไข้เล่นงานอีกหรือเปล่าหน้าถึงได้ร้อนขนาดนี้

     

     

     

     

     

     

    “ก็ถ้าเราจะเดินข้างๆ ฮยอกแจ เราก็ติดหวัดไปด้วยน่ะสิ เราให้ฮยอกแจป่วยไปคนเดียวดีกว่า ^^

     


    ทงเฮ...


    ..พาโบยา





    J

     

     

    _______________________________

    TBC

     

    ( - ก็ถ้าเราจะเดินข้างๆ ฮยอกแจ เราก็ติดหวัดน่ะสิ )





     

    อยากบอกฮยอกแจว่า นอกจากสีแดงๆ และก็ยิ้มแล้วยังมีตีนกาอีกด้วยนะ #สาบานว่าเมนฮยอกแจ -_-
    มาแก้คำผิดงะ อิอิ เออเราลองวางพล็อตแล้ว มันคงจบที่ตอน 28 นานไปป้ะ เราจะพยายามเร่งรัดให้สั้นลงอีกนิสนะเออ TvT




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×