ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - my fairy ♡ haeeun -

    ลำดับตอนที่ #3 : #2: somewhere only we know?

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.พ. 59




    #2

    Somewhere only we know?

     

     

     

     

     

     

    “ฮยอกแจทำไรอยู่”

     

    “ฮยอกแจกินข้าวยัง”

     

    “ฮยอกแจ เลิกเรียนยัง”

     

    และอีกมากมายสำหรับฮยอกแจฮยอกแจและฮยอกแจ ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงรำคาญและบล็อคไลน์ไปในที่สุด หากแต่ทำไมถึงไม่เป็นกับอีทงเฮ? เขาสามารถคุยกับอีกคนได้โดยไร้ความรู้สึกเบื่อหรือรำคาญใดๆ 


    ถ้าเป็นคนอื่นผมคงรำคาญและบล็อคไลน์นั้นไปในที่สุด หากแต่ทำไมถึงไม่เป็นกับอีทงเฮ? ผมสามารถคุยกับเขาโดยไร้ความรู้สึกเบื่อหรือรำคาญใดๆ หนำซ้ำยังตอบข้อความเขาทั้งวันอีก

     

    อ่านไม่ผิดหรอกครับ ผมคุยกับเขาทั้งวันจริงๆ 

     

    “คืนนี้ห้ามเบี้ยวนะเว้ย สกายบาร์นะไอ้มิน” เฮนรี่กำชับซองมินที่ตีสีหน้าเบื่อหน่ายแต่ก็ยอมพยักหน้า ก่อนเสียงนั้นจะหันมาทางเขา

    “ฮยอกแจมึงจะชวนพี่เยซองไปก็ได้นะ กูก็จะชวนไอ้คยูไปเหมือนกัน แล้วมึงก็อย่าแต่งสวยให้มากนักละ” เจ้าของเสียงเดินมากอดคอเขาแล้วยักคิ้วเบาๆ อย่างกวนประสาท ร่างบางตีหน้ายุ่งกลับไป 

     

    “กูเป็นผู้ชายนะสัด”


    ตรอกใส่หน้าแล้วหันไปมองซองมินที่ยิ้มล้อๆ ตรงมา แผงคิ้วเรียวขมวนมุ่นอย่างไม่เข้าใจ

     

     

     

    นี่ผมดูเป็นยังไงในสายตาพวกมัน? ผมเป็นผู้ชายนะครับ -_-; 

     

     

     

      

     

     

    “ฮยอกแจคืนนี้ไปกับพวกเฮนรี่ปะ” ทงเฮไลน์มาถามผมตอนเลิกเรียนพอดี

     

    “ไปดินานๆที ทงเฮไปปะ”

     

    “น่าจะ”

     

    ความหมายคำว่าน่าจะของทงเฮคือเขายังไม่มั่นใจ กระนั้นเขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจมากว่าอีกคนจะตัดสินใจอย่างไรจากนั้น เพราะฮยอกแจรู้ว่าทงเฮน่ะ

    ต้องมาแน่ๆ

     




     

     

    ------------------ my  fairy ----------------









     

    “เออกูถึงหน้าร้านแล้วอยู่ตรงไหนกันวะ” 

    ร่างเล็กของฮยอกแจกดวางโทรศัพท์เมื่อเห็นพี่รหัสกำลังยืนโบกมือหยอยๆ พร้อมแหกปากเรียกชื่อเขาดังลั่น ดวงตากลมกวาดมองคนรอบด้านที่เริ่มหันมาสนใจแล้วได้แต่ยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองอย่างอับอาย

       

    อายครับอาย อายที่มีพี่รหัสแบบอีพี่เยซองนี่แหละ

     

    ฮยอกแจเดินเข้าไปทักเพื่อนรวมถึงรุ่นพี่ก่อนที่เสียงจะหยุดลงเมื่อเจอเข้ากับคนคนหนึ่ง ทงเฮตบเบาะข้างกายเชิงให้เขานั่ง ริมฝีปากบางขยับรอยยิ้มเมื่อสิ่งที่คิดเป็นจริง


    เขาไม่ได้รู้ใจอีกฝ่ายหรอก ก็แค่รู้สึกได้ว่าทงเฮต้องมา


    “กินได้หรือเปล่า” 

    เมื่อหย่อนสะโพกนั่งลงคนข้างกายก็เอ่ยถามทันที นัยน์ตากลมมองแก้วน้ำสีอำพันพลางพยักหน้ารับ

    “ขอนิดเดียวเดี๋ยวเดินกลับไม่ไหว” 

    “เห้ยพวกมึงมองกล้อง ไอ้เหี้ยรี่มึงขยับซ้ายหน่อยดิวะ ยิ้มสวยๆ นะพวกมึงกูจะอัพลงไอจี เอ้า หนึ่ง สอง สาม!!!” พี่เยซองขึ้นยืนบนเก้าอี้พร้อมไม้เซลฟี่ เขาพยายามเอื้อมแขนสั้นๆ ให้ยาวที่สุดเพื่อจะได้เฟรมที่สวยงาม ฮยอกแจหัวเราะเบาๆ ก่อนชูสองนิ้วยิ้มสู้กล้อง

    หลังการถ่ายรูปผ่านพ้นพวกเราก็นั่งคุยกันโดยมีน้ำเมาในมือคนละแก้ว 

    “ไหวป่าว” เสียงทุ้มของทงเฮถามขึ้น ดวงตาสีเข้มมองปรางแก้มที่ขึ้นสีเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์อย่างตระหนก หัวเล็กส่ายเบาๆ พร้อมยกแก้วที่สี่ขึ้นจ่อปาก

    “มามาไอ้น้องรหัส มาชนแก้ววววว เหยดดดดด” 

    เยซองโพล่งขึ้นพร้อมชงเหล้าแก้วใหม่ส่งให้น้องรหัส ทว่าขณะที่มือเล็กกำลังเอื้อมรับ แก้วใบนั้นกลับถูกใครอีกคนคว้าตัดหน้า ฮยอกแจตวัดสายตามองทงเฮอย่างไม่พอใจ ก่อนชะงักไปกับน้ำเสียงห้วน 

    “พอก่อน ไม่ไหวแล้วนะ”



    หมอนี่เป็นอะไรไป..?

      

     

     

    ทงเฮวางแก้วเหล้าของฮยอกแจลงโต๊ะต่อหน้าเหวอๆ ของเยซอง มือใหญ่พยุงกายเล็กขึ้น “ผมพาฮยอกแจกลับก่อนนะครับ ขอโทษด้วยนะพี่” ทงเฮพูดลาทุกคนในโต๊ะพลางประคองร่างที่เริ่มโงนเงนไปที่รถ

     

    ชั่วขณะที่เขารู้สึกเหมือนโลกเอียง แต่มันก็แค่แปบเดียว ฮยอกแจพยายามเพ่งสมาธิไปกับการเดินโดยที่มีทงเฮประคองข้างกาย มือใหญ่เปิดบานประตูออกกว้างให้เขาได้เข้าไปภายในตัวรถ ฮยอกแจมองทุกการเคลื่อนไหวของทงเฮ ก่อนจะยกมือเล็กขึ้นทุบหัวตัวเองเมื่อเริ่มเห็นอีกฝ่ายมีสองหัว


    อ่า สงสัยจะดื่มหนักไปจริงๆ

     

    “นั่งนิ่งๆ ดิวะ” ทงเฮหันมาพูดเสียงแข็งพร้อมจับหัวเล็กที่กำลังเอนเอียงคล้ายตุ๊กตาล้มลุกให้หยุดนิ่ง ฮยอกแจหลุดขำเบาๆ โดยไม่สะทกสะท้านกับน้ำเสียงดุ

    "นิ่งๆ ดิวะ" น้ำเสียงยานคางที่หลุดมาจากกลีบปากคนเมาทำเอาคนขับรถเลิกคิ้วขึ้น ดวงตาสีเข้มปรายมองคนเมาที่ยังคงพึมพำพูดตามประโยคเมื่อกี้วนไปวนมาอย่างขบขัน

     เมาแล้วพูดตามคนอื่นงั้นหรอ? แปลกดีเหมือนกัน




     
        

                                       ------------------ my  fairy ----------------




     

    “ถึงแล้ว” เพียงไม่นานตัวรถก็เคลื่อนจอดหน้าหอพักแห่งหนึ่ง ดวงตาสีเข้มสบผสานดวงตาใสแน่นิ่งอย่างที่ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกแปลกๆ ฮยอกแจสร่างเมาเพียงนิดเมื่อได้นั่งรับลม ดวงตากลมยังคงมองลึกลงนัยน์ตาสีเข้ม มองลึกราวคนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

     

    นอกจากจะยิ้มมีเสน่ห์แล้ว



    ..ดวงตาของเขาเองก็ร้ายกาจพอๆ กัน

     

     

     

    “อ่า  ขอบใจนะ”

     


    “เดี๋ยว”

     

     

    มือที่กำลังเปิดประตูหยุดชะงัก ดวงหน้าหวานหันมามองยังเจ้าของเสียงพร้อมความสงสัยในแววตา กระนั้นทงเฮก็ไม่คิดปริปากขยายความจนฮยอกแจต้องขมวดคิ้วขึ้นเป็นเชิงสงสัยหนัก

    "มีอะไรหรือเปล่า?"

    ชายหนุ่มไม่ตอบ หากแต่กลับยื่นมือเข้าหาพร้อมวางแผ่วบนกลุ่มผมนิ่ม มือใหญ่ขยับโยกหัวเล็กพร้อมรอยยิ้มเบาๆ เพียงเสี่ยววินาที ก้อนเนื้อในอกเกิดอาการกระตุกถี่จนฮยอกแจจุกไปทั้งอก 

     

    “ฮยอกแจ ฝันดีนะครับ”

     

    กลีบปากเล็กเม้มแน่นหลังสิ้นน้ำเสียงอ่อนโยน ปรางแก้มใสผลัดสีเรื่ออย่างที่ดวงตาคมอ่อนแสงลง รอยยิ้มของทงเฮกว้างขึ้นจนเหมือนดึงกระชากสติฮยอกแจให้ปลิวกระเจิง มือเล็กกำแน่นพร้อมกับที่ผลุนผลันกายออกจากรถโดยไร้คำบอกลา 

    เหมือนดั่งคนสติหลุดหาย ฮยอกแจยังคงไม่สามารถรับรู้สิ่งอื่นใดได้นอกจากอาการประหลาดๆ ของตัวเอง สิ่งเดียวที่รับรู้ได้นั่นก็คือ


    เสียงหัวใจที่กำลังเต้นแรงอย่างคนเป็นบ้า


    และฮยอกแจก็มารู้สึกตัวอีกทีในตอนที่ความเจ็บจี๊ดกระจายทั่วหน้าผาก มือเล็กยกขึ้นลูบหน้าผากตัวเองเบาๆ เมื่อเจ้าตัวเผลอเดินชนกำแพงเข้า ขบริมฝีปากแล้วยืนเขย่าตัวเองอย่างต้องการเรียกสติ 


    ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ




    เขินจนเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ



     

     

    ________________________________________

    TBC



    ( - ฮยอกแจ ฝันดีนะครับ ♥ )

     

     

     

     

    อิอิ ฝันดีนะคะ 55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×