ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - the kingdom of ashura ♡ hunhan -

    ลำดับตอนที่ #3 : - 2 - ( 100% )

    • อัปเดตล่าสุด 24 มี.ค. 58


    Chapter Two

    And the next thing you know you are trying to be nice และหลังจากนั้น คุณก็พยายามทำตัวเป็นคนดี

     






     

                    ราวถูกสาปให้ตัวแข็งค้าง

                    ความรู้สึกของลู่หานในเวลานี้ที่เพียงแค่เผชิญสายตาคมกริบและร้อยยิ้มเหี้ยมโหดจากชายผู้เป็นหัวหน้าไกเซอร์ ชายที่เลื่องชื่อเรื่องความอำมหิตและชั่วร้ายที่สุด

                    “กูบอกว่าพักกลางวันให้มาหาไง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรอ?”

                    ประโยคแรกของเซฮุนดังกระแทกหน้าลู่หานที่ยืนสั่นด้วยความหวาดกลัว คนตัวเล็กยืนตัวลีบมือเรียวทั้งสองกำแน่นจนเหงื่อชื้นอย่างที่ทำให้คนตัวสูงกระตุกยิ้มลึก

                    “หรือต้องให้ไปกระชากหัวมาถึงจำได้ว่ากูพูดอะไรไป”

                    ดวงตาคมวาวโรจน์อย่างโกรธเกรี้ยวที่ร่างเล็กขัดใจตั้งแต่คำสั่งแรก แล้วไหนจะท่าทีก้มหน้างุดยืนตัวสั่นไม่ยอมตอบคำถามนั้นก็ยิ่งทำให้ดวงตาสีอัลมอนด์วาววับด้วยแรงเพลิง

                    “กูถามทำไมไม่พูด!!!!!

                    หากแต่คนถูกตะคอกใส่ยังคงยืนตัวสั่นบีบมือแน่นเหมือนเดิม

                    ลู่หานกลัวผู้ชายคนนี้น่ากลัวเกินไป


                 ปัง!




              “เป็นใบ้รึไง!!!!!!


                    คนหัวเสียถีบเก้าอี้หงายล้มลงพื้นดังลั่นอย่างที่ทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งโหยงหนัก ดวงตาเรียวภายใต้กรอบแว่นสั่นระริกราวถูกพายุลูกใหญ่พัดกระฉ่อน ปากเล็กเผยอขึ้นเล็กน้อยอย่างตื่นกลัว

                    กลัวจนเสียงหาย

                    และคนที่ยืนรอคำตอบยิ่งฉุนหนักกว่าเดิมเมื่อร่างตรงหน้าทำแค่ยืนอ้าปากพะงาบๆ ไม่ยอมตอบคำถามเสียที ขายาวก้าวเดินดุ่มๆ เข้าประชิดคนตัวเล็กอย่างรวดเร็วพลางยกฝ่ามือหยาบกร้านขึ้นสูงก่อนที่จะ



                  เพี๊ยะ!!!!!



                    “จะพูดได้หรือยัง!!!!!!!

                    ฝ่ามือหนาตบเข้าเต็มแรงที่แก้มนิ่มจนใบหน้าหวานหันตามแรง แก้มนวลขึ้นสีแดงฉานอย่างที่รู้สึกเจ็บชาไปทั้งด้าน ดวงตาที่อัดแน่นไปด้วยความหวาดกลัวผลิน้ำใสไหลลงจากม่านตา มือเรียวยกกุมแก้มข้างที่โดนตบแนบแน่น

                    ฮึก ลู่หานเจ็บ ทำลู่หานทำไม

                    “เห้ยไอ้ฮุนใจเย็นหน่อยดิวะ แค่เมื่อกี้ตอนคุยกันว่ามึง(ตัด)ก็สั่นเป็นลูกหมาแล้ว”

                    คริสหันไปปรามเพื่อนเมื่อเห็นท่าทียืนกุมแก้มร้องไห้เงียบๆ น้ำตาไหลนองเต็มหน้าของคนตัวเล็ก เห็นแบบนี้แล้วมันอดไม่ได้จริงๆ จะว่าสมเพชก็สมเพช หมั่นไส้ก็หมั่นไส้ แต่ท่าทีร้องไห้กับดวงตาใสๆใต้กรอบแว่นที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว อาการเสียขวัญ ความตื่นตระหนกแล้วอดไม่ได้ที่จะสงสาร

                    หากแต่คริสคงไม่รู้ว่าคำพูดนั้นได้จุดประกายเพลิงแก่พญามัจจุราชที่ชื่อว่าโอเซฮุน



                    “(ตัด)? ฟังแค่นี้ก็กลัวแล้วหรือวะ? เหอะ”

                    เสียงทุ้มถามทวนเอ่ยติดหัวเราะ ดวงตาไร้อารมณ์มองคนตัวเล็กที่ยืนกุมแก้มแล้วกระตุกยิ้มร้ายลึก เขาว่าเขามีวิธีลงโทษคนที่กล้าขัดใจและทำให้อารมณ์เสียแต่หัววันแล้วละ

                    และเมื่อชายหนุ่มผมสีขาวสว่างเจ้าของดวงตาสีอัลมอนด์คิดได้ก็จัดการล้วงมือลงกระเป๋ากางเกงก่อนหยิบอะไรบางอย่างออกมา

                    บางอย่างที่ทำให้ไกเซอร์ทั้งสามที่กำลังเฝ้ามองกระตุกยิ้มร้ายตามๆ กัน

                    “ไอ้เหี้ยฮุนแม่งเด็ดวะ”

                    คิมจงอินหัวเราะในทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือเซฮุน หลอดใสๆ ที่ถูกบรรจุลงในกระบอกฉีดยาขนาดเล็ก ปลายเข็มแหลมยาวถูกสวมด้วยปอกเล็กๆ เตรียมพร้อมใช้งานทุกเมื่อ

                    สารเสพติดชนิดหลอนประสาทที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นรวมถึงพวกเขาทั้งสี่ด้วย


                    “หึ ลอง(ตัด)หน่อยไหมหื้ม... ไอ้ขี้ข้า”


                    เพียงประโยคเดียวกายของลู่หานก็กระตุกรัวอย่างตื่นกลัวพร้อมดวงตาที่เบิกโพลงอย่าหวาดผวาทันที ขาเล็กก้าวถอยหลังช้าๆ เมื่อรู้ว่าหลอดใสที่อยู่ในมือชายตรงหน้าคือสารเสพติดที่ตนไม่เคยคิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว

                    หากแต่ในเวลานี้มันกลับอยู่ตรงหน้าเขา เจ้าหลอดนั่นอยู่ตรงหน้าเขาในมือพญามัจจุราชที่เปรียบดั่งเจ้าของชีวิต

                    “มะไม่”

                    “พูดได้แล้วหรือ?”

                    หากแต่พญามัจจุราชกลับกระตุกยิ้มร้ายอย่างชอบใจในท่าทีหวาดกลัวของร่างเล็ก ขายาวก้าวเข้าใกล้ตามประชิดร่างน้อยที่ถอยหลังราวสัตว์ป่ากำลังล่าเหยื่อ ดวงตาคมวาววับอย่างถูกใจกับท่าทีหวาดกลัว

                    กลัวเข้าไป กลัวกูจนอยู่ที่นี่ไม่ได้เลยยิ่งดี!


                    “ยะอย่าทำผม”

                    เสียงหวานติดสั่นพร้อมดวงตาเรียวรีเบิกโพลงกว้าง ใบหน้าขาวซีดเผือดและฝ่ามือเย็นยะเยือกหากแต่เต็มไปด้วยเหงื่อไหลซึมยิ่งบอกได้ดีว่าร่างน้อยนี่หวาดขยาดมากเพียงใด

                    หากแต่มีหรือที่หัวหน้าไกเซอร์จะสงสาร เพราะยิ่งมีท่าทีหวาดกลัวมากเท่าใด เขายิ่งพอใจมากเท่านั้น

                    “หึ” เซฮุนหัวเราะหยันในลำคอพลางยกมือขึ้นเพื่อส่งสัญญาณไปยังเพื่อนสนิทที่เหมือนกำลังรอคอยจังหวะนี้มานาน


                    หมับ


                    “ปะปล่อยผม! ฮึกปล่อย”

                    “อย่าดิ้นดิวะเหี้ยเอ้ย!

                    จงอินตะคอกใส่ร่างเล็กที่เขาและคริสดิ่งเข้าไปล็อคแขนคนละข้าง แรงมหาศาลอย่างชายชาตรีที่ล็อคกายไว้ยิ่งทำให้หัวใจดวงเล็กหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เหงื่อเม็ดใสผุดตามไรผมจนไหลย้อย ริมฝีปากบางขบเม้มเข้าหากันแน่นอย่างหวาดกลัวเต็มทน

                    “ฮึกอย่า อย่าทำผมเลยครับคุณเซฮุน”

                    ราวลูกกวางกำลังร้องขอชีวิตต่อหน้าพญาราชสีห์ป่าผู้หิวโหย และมีหรือผู้หิวโหยจะปล่อยเหยื่ออันโอชะให้ลอยหลุดมือ ลู่หานมองท่าทีฮึกห้าวด้วยหัวใจที่เต้นแรงปนบีบรัดแน่นอย่างขวัญกระเจิงราวจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

                    ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยลู่หานด้วย อึ๊กลู่หานกลัว

                    “แล้วมึงจะจิตใจร้องขอยาจากกูไม่หยุดหึ” เสียงทุ้มจากเจ้าของนัยน์ตาสีอัลมอนด์ดังขึ้นเมื่อหยุดอยู่ตรงหน้าลู่หาน มือหนายกบีบคางคนตัวเล็กที่สั่นไปมาให้อยู่นิ่งพลางบีบแน่นดันเงยขึ้น

                    “ฮึกดะได้โปรดคุณเซฮุน”

                    “มึงห้ามอะไรกูตอนนี้ไม่ทันแล้ว” เสียงทุ้มยังว่าต่อ ริมฝีปากหยักกดลึกร้ายมุมปากจ้องลึกไปยังดวงตาใสนองน้ำตาที่ถูกกรอบแว่นอันโตบังหน้าแล้วต้องรู้สึกขัดใจ

                    สายตาสั้นหนักจนมองไม่เห็นเลยหรือไงถึงได้ตัดเลนส์หนาและใหญ่ขนาดนี้


                    “ผมยอมแล้วฮึกยอมแล้วครับคุณเซฮุน ปล่อยผมเถอะครับฮึก ได้โปรด”

                    เสียงติดสั่นร้องขอวิงวอนชายร่างสูงที่ยืนกดยิ้มมองมาด้วยสายตาเหี้ยมโหด และนั่นทำให้รู้ว่าแสงสว่างของคำขอนั้นช่างลิบหลี่เสียเหลือเกิน


                    สายตาที่มองมาราวไม่รู้สึกรู้สาอะไร สายตาที่มองมาราวกับว่า เขาไม่ใช่มนุษย์



                    เพราะลู่หานคนนี้เป็นตัวเชื้อโรคในสายตาพวกเขาอย่างงั้นหรือ





                    “แค่แปบเดียวมึงก็จะมีความสุข” ทว่าเสียงทุ้มกลับเอ่ยขึ้นพร้อมยกแขนข้างที่จับหลอดฉีดยาใสไว้มั่น ดวงตาเรียวเบิกโพลงพร้อมหัวใจที่กระหน่ำเต้นรัวเร็วราวจะหลุดออกมาเมื่อเห็นว่าเซฮุนยกแขนเตรียมแทงเข็มบรรจุสารเสพติดลงมา และภาพสุดท้ายก่อนที่เปลือกตาจะหุบลงแน่นก็คือรอยยิ้มเหี้ยมโหดจากพญาไกเซอร์...


                    “อย่า!!!!!!!!!!!!!!!



                    ทว่าขณะที่เข็มกำลังดิ่งลแทงเข้าสู่ผิวเนื้อขาวนั้น…





                    หมับ





                    “หยุดแกล้งมันเท่านี้แหละ”

    ทันใดนั้นดวงตานองน้ำตาที่หลับปี๋ก็ปรือขึ้นช้าๆ และในวินาทีต่อมาหัวใจดวงน้อยก็ติดปีกกระหน่ำเต้นรัวอย่างบ้าคลั่งเมื่อพบว่าในตอนนี้ตนรอดจากน้ำมือของพญาไกเซอร์ที่ชื่อว่าโอเซฮุนแล้ว ...ลู่หานรอดแล้ว...

    และหัวใจดวงน้อยจะไม่กระหน่ำเต้นลิงโลดอย่างยินดีเลยถ้าไม่พบว่ามีคนเข้ามาจับข้อมือห้ามพญาไกเซอร์เพื่อช่วยเขาไว้ทัน เจ้าของกลุ่มเรือนผมสีรัตติกาลสวยงามเช่นเดียวกับนัยน์ตา และยิ่งพบว่าชายคนนั้นคือใครหัวใจดวงเล็กยิ่งสูบฉีดเลือดหนักกว่าเดิม


    ปาร์ค ชานยอล



     “ทำเหี้ยไรของมึงไอ้ชานยอล!!!!”

    คนเอาแต่ใจโดยกำเนิดอย่างเซฮุนไม่คิดยอม ดวงตาคมกริบจ้องเพื่อนสนิทแน่นิ่งอย่างเอาเรื่อง มือหยาบกระชากให้หลุดจากการจับก่อนหันมองหน้าอีกคนตรงๆ

    ทำไมมันถึงเข้ามาช่วยไอ้ตัวเชื้อโรค


    “มึงแกล้งมันแรงไป”

    “นี่คือสิ่งที่มันสมควรได้รับต่างหาก!!!!

    “แต่เหี้ยนี่ก็แค่เด็กนักเรียนทุนธรรมดาๆ ทำไมมึงอคติกับมันจังวะ!!

    “ก็เพราะว่ามันไม่สำเหนียกตัวเองไง!!! คนจนๆอย่างมันไม่สมควรเข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้ กูรังเกียจเข้าใจไหม!!!!!

    เสียงทุ้มจากเซฮุนที่ตะโกนดังลั่นราวตอกย้ำความจริงของร่างเล็กที่ยังคงยืนมองสงครามเย็นของเพื่อนสนทด้วยท่าทีหวาดระแวง

    “แต่มึงก็ไม่ควรทำลายอนาคตมันด้วยวิธีเหี้ยๆ แบบนี้”

    “มึงกำลังปกป้องมันอยู่หรอ”

    “กูเปล่า ถึงกูจะเลวแต่กูก็ไม่เคยคิดเอาสันดานของตัวเองยัดให้คนอื่นวะ”

    เพียงคำพูดเดียวของเพื่อนสนิทก็เหมือนถูกโดนตบหน้าเข้าอย่างจัง ชานยอลมองหน้าเซฮุนก่อนละสายตาหันมองคนตัวเล็กที่ยืนตัวสั่นอย่างขวัญหายอยู่ด้านหลัง ชานยอลถอนหายใจพรือก่อนตัดสินใจจับข้อมือเล็กแล้วลากเดินออกมาโดยทิ้งให้อีกสามคนมองตามอย่างไม่เข้าใจ


    แต่ถึงอย่างไรก็คงไม่เท่าโอเซฮุนที่ยืนกัดฟันกรอดอยู่ด้านหลัง




    มันไม่จบอยู่แค่นี้แน่ไอ้เชื้อโรค




     







     

     

    ร่างเล็กถูกคนตัวโตลากเดินออกมายังสวนหลังโรงเรียนที่ไร้ผู้คน ดวงตากลมภายใต้กรอบแว่นนองไปด้วยหยาดน้ำใสที่ไหลลงเพราะความหวาดกลัว อีกทั้งอาการแตกตื่นที่ยังตกค้างพาให้ร่างน้อยสั่นเทิ้มไปทั้งกาย

    ผู้ชายคนนั้นเป็นปีศาจชัดๆ

    ฮึก

    และในที่สุดเสียงสะอื้นก็หลุดดัง คนตัวสูงหยุดกึกพร้อมหมุนหันมองร่างเล็กที่ยอมปล่อยให้จูงมือลากเดินออกมา ซึ่งดูเหมือนเจ้าตัวจะไว้วางใจชายหนุ่มเสีจนสนิทโดยที่อาจลืมไปว่าชายคนนี้ก็คือหนึ่งในไกเซอร์เหมือนกัน

    หยุดร้องได้หรือยัง

    เสียงทุ้มเอ่ยถามร่างที่ยืนยกมือทั้งสองปิดหน้าปิดตาบดบังใบหน้าเปื้อนน้ำตา หากแต่คนถามก็จำต้องพ่นลมหายใจยาวเหยียดเมื่อคำพูดนั้นดูเหมือนจะไม่มีผลใดๆ ต่อร่างน้อยนี้

    “...อึ๊กฮึก

    นี่ กูบอกให้หยุดร้องไง

    “...ฮึก ...ฮื้อ

    ชานยอลมองเด็กขี้แยที่สูงแค่หน้าอกก้มหน้าก้มตาร้องไห้ฟูมฟายไม่หยุด ไม่ต่างกับเด็กห้าขวบที่ปล่อยมาหนึ่งก้อนแล้วก้อนหลังย่อมตามมาเรื่อยๆ

    ใช่ว่าลู่หานไม่ได้ยิน แต่เขาก็อายเกินกว่าจะเงยใบหน้าเลอะน้ำตาสู้หน้าชายหนุ่ม โดยไม่รู้ตัว... ท่าทีเขินอายฉบับเด็กขี้แยกลับตกอยู่ในดวงตาคมสีรัตติกาลที่จ้องมองอยู่ตลอด

    หยุดร้องเถอะ ไม่มีอะไรแล้วน้ำเสียงอบอุ่นเปรยขึ้นพร้อมแววตาอ่อนแสง มือหนายกขึ้นช้าๆ วางบนเรือนผมนิ่มแผ่วอย่างที่ทำให้คนสะอื้นค่อยเงยหน้าขึ้นมองเพื่อรับฟังคำพูดถัดมาจำไว้อยู่กับกูมึงจะปลอดภัย

    คำพูดที่พาให้หัวใจดวงเล็กสั่นไหว



    ถ้าลู่หานอยู่กับคุณชานยอลลู่หานจะปลอดภัยใช่ไหมครับ?


    ขะขอบคุณอึ๊กนะครับ คุณชานยอล

    ริมฝีปากหยักยกขึ้นเล็กน้อยกับคำพูดดังผะแผ่ว มือหนาลูบเรือนผมนุ่มไปมาราวปลอบประโลมคนขี้แยให้รู้ว่าต่อแต่นี้ไป… จะไม่มีใครทำอะไรร่างน้อยนี้ได้

    ขี้แยหรอมึงน่ะใบหน้าเรียบนิ่งไร้ความรู้สึกหากแต่น้ำเสียงช่างแสนอบอุ่น อุ่นซ่านไปถึงหัวใจดวงน้อยให้สั่นไหว ปรางแก้มใสเห่อขึ้นสีเรื่ออย่างน่าชังก่อนขมุบขมิบตอบ

    กะก็ผมกลัวฮึกกลัว... ผมกลัวคะคุณเซฮุนเพียงแค่ย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ในห้องไกเซอร์ คนขี้แยก็ปล่อยบ่อน้ำตาไหลทะลักอีกรอบอย่างที่คนมองต้องขมวดคิ้ว

    ร้องอีกแล้ว

    น้ำเสียงเข้มขึ้นอย่างที่ทำให้คนตัวเล็กรีบยกมือเช็ดหน้าถูไปมาแรงๆ ชานยอลที่ยังไม่ละสายตาจากดวงหน้าหวานได้แต่ส่ายหน้ากับความขี้แยนี้

    ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าเด็กนักเรียนทุนนี่ไม่ได้น่ารังเกียจอย่างที่คิด... ไม่เลย

    เช็ดแบบนั้นหน้าก็แดงหมดน่ะสิ

    เสียงทุ้มเอ่ยติดดุยกมือห้ามมือเล็กอย่างนึกหวั่นว่าใบหน้านี้จะเกิดรอยแผล และเป็นอีกครั้งที่เขารู้สึกขัดใจกับดวงตาใสภายใต้กรอบแว่นที่เอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำตา

    ขอโทษครับคุณชานยอล

    มานี่มา

    มือหนาจัดการดึงร่างเด็กขี้แยเข้าใกล้พลางย่อเข่าลงให้ใบหน้าอยู่เสมอดวงหน้าเล็ก แผงคิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อพบว่าดวงตาภายใต้กรอบแว่นคู่นั้นยังคงผลิหยาดน้ำใสไม่หยุด ...ร้องได้ร้องดีจริงๆ
     

    อะเอ่อคุณชานยอล…”

    เสียงหวานหลุดร้องเมื่อชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีรัตติกาลยกมือดึงแว่นกรอบโตที่บดบังดวงตาออก และทันทีที่ไร้กรอบเลนส์ภาพตรงหน้าก็พร่ามัวขึ้นทันตา เขามองไม่รู้เรื่องสักอย่าง ไม่รู้แม้กระทั่งว่าคนตรงหน้ากำลังแสดงสีหน้าอย่างไรในเวลานี้

    คุณชานยอลต้องมองว่าเราขี้เหร่และเฉิ่มเชยอย่างที่คนอื่นว่าแน่เลย


    คุณชานยอลคืนแว่นผมทีครับ อะเอ่อผมมองไม่เห็น…”


    เสียงหวานยังคงพูดกับเงาตะคุ่มตรงหน้า ใบหน้ารื่นน้ำตาหรี่สายตาลงเพื่อมองให้ชัดขึ้นแต่ก็ไร้ผลอยู่ดี

    โดยที่ลู่หานไม่มีวันรู้ตัว

    เจ้าของดวงตาคมสีรัตติกาลที่ถูกคนตัวเล็กเอ่ยร้องขอแว่นคืนกำลังมองดวงหน้าหวานด้วยลมหายใจติดขัดโครงหน้าของเด็กนักเรียนทุนเฉิ่มๆ เชยๆ กับแว่นตากรอบโตหนาเต๊อะ หากแต่ใครเล่าจะรู้ว่าพอไร้เลนส์แว่นจะดูคลับคล้ายนางฟ้าตัวน้อยๆ ได้ถึงขนาดนี้

    ไอ้เหี้ยเอ้ย! นี่นะหรือนักเรียนทุนเฉิ่มๆเชยๆ ทำไมน่ารักน่าแดกได้ขนาดนี้วะแม่ง!

    คะคุณชานยอลครับ ผมมองอะไรไม่รู้เรื่องเลยจริงๆนะครับ…”

    และมีหรือที่คนกำลังหลุดหลงไปกับความงดงามของลูกเป็ดขี้เหร่จะรู้สึกตัว ชานยอลจดจ้องโครงหน้าหวานเจ้าของผิวขาวเนียนละเอียดด้วยหัวใจเต้นผิดจังหวะ คิ้วเรียวเล็กรับกับจมูกโด่งเล็กที่ปลายรั้นขึ้นอย่างน่ารัก ริมฝีปากบางกระจับอมชมพูเฉกเช่นเดียวกับปรางแก้มใสที่ขึ้นสีระเรื่อ ดวงตากลมแดงปูนเพราะผ่านการร้องไห้สั่นระริกอย่างหวาดกลัวเมื่อกำลังมองไม่ชัด

    ราวลูกกลางตัวน้อยๆ ที่กำลังสั่นหวาดกลัวพญาราชสีห์

    ทั้งน่ากลั่นแกล้งและน่าทำลายในเวลาเดียวกัน


    ให้ตายเถอะ

    ในที่สุดเสียงทุ้มก็สบถออกมาอย่างหัวเสียเมื่อรู้ตัวว่าหัวใจอันแข็งแกร่งกำลังเต้นแรงเพราะเด็กเฉิ่มไร้กรอบแว่นคนนี มือหนายกขึ้นปิดหน้าตัวเองก่อนลูบไปมาราวเรียกสติที่หลุดหาย

    เรียกสติกลับมาเหมือนเดิมได้แต่เรียกเสียงหัวใจกลับมาเต้นปกติเหมือนเดิมไม่ได้


    สัญชาตญาณของราชสีห์อย่างเขากำลังรู้สึกอยากรังแกร่างน้อยตรงหน้านี้รังแกให้มอดไหม้



    อ๊ะคุณชานยอล

    เสียงหวานร้องเมื่อสัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่มที่แก้มซีกซ้ายก่อนผละไปด้านขวา แม้มองไม่เห็นแต่ลู่หานก็รู้ว่าชายตรงหน้ากำลังเช็ดคราบน้ำตาให้เขาอยู่

    คุณชานยอลใจดีจังเลย

    ต่อไปนี้มึงต้องระวังตัวให้ดีเสียงทุ้มว่าเมื่อเช็ดน้ำตาให้ร่างน้อยเสร็จ ดวงตาคมสีรัตติกาลยังคงจดจ้องใบหน้างดงามตรงหน้าราวหลงลืม

    ราวกับเพชรอัญมณีล้ำค่า

    ขะขอบคุณครับคุณชานยอล

    สัมผัสที่อ่อนโยนทำให้ร่างเล็กเสียงสั่นกระทันหัน หัวใจดวงน้อยเต้นรัวแรงเมื่อยังคงสัมผัสได้ถึงฝ่ามืออบอุ่นที่อยู่ข้างแก้มวนลูบไล้ไปมา

    ลู่หานเขินลู่หานกำลังเขินคุณชานยอลงื้อ

    บอกตามตรงเลยวะ

    มือหนาที่ลูบไล้ข้างแก้มขาวเลื่อนสัมผัสปอยผมก่อนจับทัดใบหูเล็กอย่างเชื่องช้า สัมผัสอ่อนหวานที่ยิ้งทำให้หัวใจดวงเล็กเต้นโครมครามอย่างบ้าคลั่ง

    คุณชานยอลอย่าอ่อนโยนกับลู่หานแบบนี้

    กูไม่อยากเห็นมึงต้องถูกรังแกแบบนี้อีกแล้ว

    ดวงตาสีรัตติกาลฉายแสงอ่อนโยนมองแก้มใสแดงระเรื่อด้วยหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ มือหยาบกร้านเลื่อนลงลูบแก้มแดงใสแผ่ว

    สัมผัสที่กำลังผูกมัดหัวใจคนทั้งคู่


    ไม่ต้องกลัว... ต่อไปนี้กูจะเป็นองครักษ์ให้มึงเอง



    สัมผัสสุดท้ายก่อนชายหนุ่มร่างสูงจะวางแว่นกรอบหนาบนฝ่ามือนุ่มแล้วหมุนกายจากไป สัมผัสที่กระชากหัวใจลู่หานให้ลอยตามแผ่นหลังของชายหนุ่มไปทั้งดวง


    จุ้บ


            สัมผัสอุ่นร้อนที่ประทับข้างแก้มเพียงเสี้ยววินาทีหากแต่ตราตรึงลึกลงในหัวใจคนทั้งคู่

    คุณชานยอลขอบคุณนะครับ

    ร่างเล็กหยิบแว่นขึ้นสวมก่อนมองตามแผ่นหลังกว้างของคนที่ขโมยหัวใจไปพลางยกมือกุมอกข้างซ้ายแน่น และนับแต่นั้นร่างน้อยก็เกิดคำถามขึ้นในหัวใจตัวเอง


    ทำไมหัวใจถึงเต้นแรงแบบนี้นะ แกกำลังเป็นอะไรไปอย่างนั้นหรือ?




               แต่ถึงอย่างไรคำพูดนั้นก็ช่างตราตรึงหัวใจดวงเล็กเสียเหลือเกิน... คำพูดที่เปรียบเหมือนดั่งคำมั่นสัญญา







    องครักษ์ที่คอยพิทักษ์เจ้าหญิงกวางน้อย








    โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่า










    เจ้าชายผู้แสนโหดร้ายกำลังจ้องมายังเจ้าหญิงกวางน้อยด้วยแววตายากจะอ่านความรู้สึก

     

     

     


















     

    ในที่สุดวันเปิดเทอมวันแรกของลู่หานก็จบลง ร่างเล็กเดินออกจากห้องพร้อมเพื่อนใหม่อย่างคยองซู เด็กหนุ่มใบหน้าน่ารักทีทันทีที่เห็นเขาเดินเข้ามาก็ยิงคำถามใส่รัวทันที

    และมีหรือที่ลู่หานจะพูดว่าตัวเองเกือบตายในห้องไกเซอร์น่ะ

    เอ่อคยองซูคือผมต้องขึ้นรถเมล์ตรงนี้น่ะ

    ทั้งคู่หยุดอยู่หน้าป้ายรถเมล์ ใบหน้าสวมแว่นหนาเตอะหันมองเพื่อนใหม่ที่ส่งยิ้มโบกมือลาให้ก่อนก้าวขาขึ้นรถประจำทาง และเป้าหมายของเด็กนักเรียนทุนคนนี้ก็ไม่ใช่ทางกลับบ้านเสียด้วยสิ

    เด็กนักเรียนจนๆ อย่างเขาไม่มีเงินมากพอที่จะใช้ชีวิตได้อย่างสบายๆ หรอก

    สวัสดีครับคุณปาร์คลู่หานโค้งทักทายเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ได้เข้ามาหารายได้เสริมในช่วงเย็นหลังเลิกเรียน ชายหนุ่มมีอายุยกยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนเอ่ย

    รีบไปแต่งตัวเถอะ วันนี้ท่าทางลูกค้าจะเยอะเป็นพิเศษ เหนื่อยหน่อยนะลู่หาน

    ครับคุณปาร์ค

    และก็จริงอย่างที่ชายเจ้าของร้านได้ว่าไว้ วันนี้ลูกค้าแน่นร้านเป็นพิเศษทำเอาผู้ช่วยพ่อครัวใหญ่อย่างเขาหมุนตัวแทบไม่ทัน นอกจากการเรียนก็คงมีแต่การทำอาหารนี่ละที่เขารู้สึกชอบมากเป็นพิเศษ

    อ่าได้ทำอะไรที่ชอบแล้วมีความสุขจังเลย

    จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงตกค่ำ ร้านอาหารปิดลงพร้อมกับที่ลู่หานรับเงินจ้างประจำวันก้าวเดินออกจากร้านด้วยรอยยิ้ม มือเรียวยัดซองเงินใส่กระเป๋าเป๋นักเรียนมือสองก่อนยกนิ้วดันกรอบแว่นชิดหน้า

    “ทำไมถึงมืดจังเลยนะ”

    เสียงหวานพึมพำพร้อมแหงนใบหน้าเงยมองท้องฟ้าสีมืด มือทั้งสองกำสายกะเป๋าพลางก้าวเดินตามทางไปเรื่อยๆ

    “อ่า วันนี้ดาวสวยจัง

    เสียงหวานเอ่ยกับตัวเองพร้อมรอยยิ้มกว้างเมื่อค่ำคืนนี้ปรากฎหมู่ดาวมากมายบนท้องฟ้ากว้าง โดยไม่ได้ตระหนักเลยว่าทุกคำพูดนั้นได้ลอยเข้าสู่หูใครบ้างคน


    ใครบางคนที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดมิด



    ฟู่




    “แค่กๆ”


    คนที่กำลังยิ้มกว้างเงยหน้าขึ้นมองดาวจำต้องหยุดชะงักเปลี่ยนมายืนไอทันทีเมื่อจู่ๆ ก็ได้กลิ่นเหม็นของควัน มือเรียวยกปิดจมูกพลางโบกไปมาเพื่อปัดป่ายกลุ่มควันออกไป

    ผมแพ้ควัน โดยเฉพาะควันบุหรี่ลู่หานจะแพ้มากๆ

    “แค่กๆ”

    หึ

    เสียงหัวเราะหยันที่ดังขึ้นทำให้คนที่กำลังยกมือปิดจมูกหันมอง ทันใดนั้นดวงตาสวยภายใต้กรอบแว่นหนาก็จำต้องเบิกโพลงกวางอย่างตื่นตกใจ แม้จะเป็นร่างที่ยืนพิงกำแพงอยู่ในมุมมืดๆ เล็กๆ แต่ลู่หานก็จำได้ดี

    ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจที่อันตรายที่สุด

    “มาทำไรแถวนี้ไอ้เชื้อโรค”


    ชายที่เจ้าหญิงกวางน้อยนั้นกลัวจับหัวใจ



    “คะคุณเซฮุน


    ริมฝีปากที่คีบมวนบุหรี่กระตุกขึ้นยามที่ได้ยินน้ำเสียงติดสั่น ดวงตาคมสีอัลมอนด์ที่ยิ่งสวยสดในความมืดวาววับราวเจอของเล่นถูกใจ ขายาวก้าวออกจากมุมมืดอับแสงตรงดิ่งมายังร่างน้อยที่ยืนตัวสั่นระริก

    พญาซาตานกำลังเชยชมความกลัวของลูกกวางตัวน้อยลูกกวางหน้าโง่ที่หลงเข้ามาติดกับ!

    เออกูเอง

    ร่างสูงที่ไล่ต้อนร่างเล็กว่าพลางพ่นควันบุหรี่ในปากออกมา กลุ่มควันสีเทาที่ทำเอาร่างเล็กคันคอยิบๆ จนต้องไอออกมาไม่หยุด และยิ่งร่างสูงคุกคามเข้ามาใกล้มากเพียงใดกลิ่นกายที่เหม็นครุไปด้วยกลิ่นบุหรี่ยิ่งทำเอาร่างน้อยหอบหายใจแรง ไอจนตัวโยน

    แค่กๆ แค่กๆ แค่กๆ

    ท่าทีไอไม่หยุดจนหน้าแดงตาแดงทำเอาชายหนุ่มฉงนใจ เอ่ยถามราวไม่รู้สึกยี่หระ

    มึงแพ้?”

    คะแค่กๆครับ

    ตอบไปพรางไอไปอย่างน่าสงสาร หากแต่กลับดูน่าสนุกในสายตาเซฮุน มือหยาบกร้านยกดันกำแพงหน่วงเหนี่ยวคนตัวเล็กให้ไร้ทางหนีรอด ใบหน้าคมโน้มต่ำกระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูขาว

    ทำไมยังไม่กลับบ้าน

    เอ่ยถามก่อนเลื่อนใบหน้าพ่นควันบุหรี่ที่ตกค้างในปากใส่ร่างเล็กที่ยังยืนไอค่อกแค่กไม่หยุดจนกายเอนไปมา ทว่าเพียงเสี้ยววินาทีเพียงวินาทีเดียวเท่านั้นที่กายแกร่งชะงักไปกับกลิ่นหอมอ่อนหวานที่ลอยแตะจมูก

    กลิ่นอะไร กลิ่นหอมที่ชวนตรึงใจนี้มาจากไหนกัน?

    ผะผมแค่กๆ ต้องทะทำงานแค่กๆ พิเศษครับ

    และยิ่งเหมือนพูด ก็ยิ่งไอหนักมากกว่าเดิมจนเซฮุนกระตุกยิ้มลึก มืออีกข้างที่คีบมวนบุหรี่ยกจรดปากก่อนดูดเข้าปอดลึก ดวงตาคมสีอัลมอนด์สวยมองร่างที่เฉิ่มเชยที่สวมแว่นหนาเตอะผมหน้าม้ายาวปิดไปครึ่งหน้าอย่างขยาดปนรังเกียจ

    “มีคนรับตัวเชื้อโรคอย่างมึงเข้าทำงานด้วยหรอ

    ปีศาจร้ายว่าพลางพ่นควันบุหรี่ใส่ร่างเล็กอย่างที่ทำให้เด็กเฉิ่มต้องไอออกมาเสียยกใหญ่ มือเล็กยกเกาะชายเสื้ออีกคนเพื่อพยุงตัวแน่น ใบหน้าหวานแดงก่ำรู้สึกแสบตาแสบคอไปหมด

    “แถวนี้มีม่านรูด ไปขายตัวแถวนั้นรึไง?”

    แค่กๆๆๆๆ

    แม้จะอยากเงยหน้ามองคนที่ช่างต่อว่าเขาด้วยคำดูถูกนั้น แต่ก็ช่างยากเย็นเหลือเกินเมื่อกลิ่นควันบุหรี่ยังคงลอยให้แสบคอแสบจมูกอยู่อย่างนี้

    ทำไมคุณเซฮุนถึงใจร้ายกับลู่หานจัง

    “แต่ใครเขาจะซื้อตัวเชื้อโรคสกปรกๆ อย่างมึงกัน”

    ร่างน้อยไอหนักกว่าเดิมจนแดงลามไปถึงหู เซฮุนก้มมองร่างเด็กเฉิ่มที่ไอเสียงดังราวลูกคอจะออกมาวิ่งข้างนอกอย่างพอใจ มือหนาจับเชยคางเล็กที่ใบหน้าแดงเถือกพลันกระตุกยิ้มลึก

    รอยยิ้มที่พาเอาร่างเล็กขนลุกวาบ

    “เหอะ น่าสงสารชิบหายเลยวะ น้ำเสียงทุ้มว่าพลางหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน มองเด็กเฉิ่มตรงหน้าด้วยสายตาดูแคลน

    แค่กๆๆ

    กูจะทำให้มึงสำลักควันบุหรี่ตายห่าไปเลยดีไหม?” ร่างสูงว่าพลางอัดควันบุหรี่เข้าปอดอีกครั้ง หากแต่คราวนี้เขากลับเก็บควันไว้ในปากแน่นและในวินาทีต่อมาชายหนุ่มก็ทำในสิ่งที่ลู่หานไม่เคยคาดคิด




    อุ๊บอื้อ




    มือหนาบีบคางเล็กให้อ้าปากก่อนกดริมฝีปากลงมาอย่างรวดเร็ว เซฮุนปล่อยควันบุหรี่ที่อมไว้ในปากพ่นใส่ลู่หานที่ยกมือบางขึ้นทุบอกแกร่งรัวอย่างทรมาน หากแต่เมื่อเจ้าหญิงลูกกวางน้อยได้ตกอยู่ในเงื้อมมือเจ้าชายปีศาจแล้วมีหรือที่จะหนีรอด

    รสชาติควันบุหรี่ที่ควรขมปร่าหากแต่เมื่อสัมผัสกับริมฝีปากเล็กกับหวานขึ้นจับใจ รสชาติหวานที่ชักชวนให้ลิ้นชื้นสอดใส่เข้าไปฉกชิมให้ลึกขึ้นอย่าเผลอไผลเผลอลอง มือหยาบกร้านที่วางขนาบกำแพงเลื่อนลงลูบเอวเล็กคอดกิ่วที่เซฮุนเองก็นึกแปลกใจว่านี่หรือเอวผู้ชาย

    บางเสียจนกลัวว่าจะหักติดคามือ

    คนที่แพ้ควันบุหรี่แสบคอขึ้นทันทีเมื่อพิษของมันลอยละล่องอยู่ภายใน ความรู้สึกที่ควรพะอืดพะอมเพราะกลิ่นเหม็น หากแต่ไม่นานหากแต่ไม่นานก็สัมผัสได้ถึงรสชาติหวานล้ำอย่างที่ไม่เคยพานพบมาก่อน รสชาติความหอมหวานละมุนที่ชวนลุ่มหลงเสียยิ่งกว่าไอศกรีมรสวนิลลาของโปรด หวานเสียจนมือเล็กที่เกาะชายเสื้อเลื่อนขึ้นสัมผัสอกแกร่งกอดรัดรอบคอตามการชักจูงของอีกคน

    ทั้งหวาน ทั้งร้อน ทั้งน่าหลงใหล

    อื้อ

    เสียงหวานครางกระเส่าอย่างคนไม่ประสีในรสจูบ ลิ้นชื้นเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กดูดดื่มความหอมหวานดั่งเกสรดอกไม้ยามเช้า หอมหวานจนกินไม่รู้จักเบื่อ หอมหวานจนเริ่มแน่ใจว่ากลิ่นหอมก่อนหน้านี้มาจากร่างในอ้อมแขนไม่ผิดแน่

    ทั้งคู่ลุ่มหลงในรสจูบกันและกันโดยที่ไม่มีใครรู้สึกตัว เสียงครางอื้ออึงปนเสียงดังจ้วบจ้าบดังให้ได้ยินเป็นระรอกอย่างที่เพิ่มกองเพลิงให้ลุกโชน รสจูบที่ไร้ความอ่อนโยนมีเพียงแค่ความใคร่ในกันและกันและยิ่งทำให้ทั้งคู่มัวเมามากขึ้น

    ฮ่าอื้อ

    ลู่หานสูมดลมหายใจเข้าปอดทันทีที่ถูกผละออก ทว่าไม่นานก็ถูกปีศาจร้ายช่วงชิงความหอมหวานในโพลงปากอีกครั้ง รสจูบครั้งที่สองที่ร้อนแรงกว่าเดิมเป็นเท่าตัวเริ่มขึ้น มือไม้ที่อยู่ไม่สุขลูบไล้กายเล็กคอดกิ่วปั้นท้ายกลมตึงอย่างเพลินมือ ร่างกายนุ่มนิ่มในอ้อมอกที่เหมือนเชื้อเพลิงชั้นดีโยนเข้ากองไฟให้ลุกโชน

    สองลิ้นเกี่ยวตวัดกันภายในและยิ่งลิ้นเล็กที่คอยถดหนีก็ยิ่งทำให้สัญชาตญาณไล่ล่าของปีศาจที่ชื่อโอเซฮุนโหมเลิง ปากหยักดูดเม้มกลีบปากบางจนบวมเจ่อเมื่อตนตักตวงความหวานล่ำจนหนำใจในที่สุด

    แฮ่กๆ

    จากเสียงไอค่อกแค่กแปรเปลี่ยนเป็นเสียงหอบหายใจภายในไม่กี่นาที ดวงตาคมสีอัลมอนด์วาววับจ้องลึกไปยังดวงตากลมภายใต้กรอบแว่นนิ่งนาน  ริมฝีปากหยักที่ผละออกหากแต่ยังคอยดูดคลึงกลีบปากบางบวมอยู่อย่างนั้นราวติดใจ การกระทำหวาบหวามที่ไม่เคยได้รับมาก่อนพาเอาเด็กเฉิ่มแก้มเห่อแดงหนักกว่าเดิม

    “ทำไม ถึงอยากแบบนี้ได้วะ

    เสียงทุ้มพึมพำแหบพร่าอย่างที่ทำให้เด็กเฉิ่มขนลุกซู่ สันจมูกโด่งไล้สูดดมกลิ่นหอมอ่อนหวานที่ลอยแตะจมูกอย่างเย้ายวน  ความหอมหวานราวเกสรดอกไม้ที่เปรียบเหมือนยาพิษให้เขาลุ่มหลง และใช่ โอเซฮุนกำลังเสพติดกลิ่นหอมนี้

    “แฮ่กๆ อื้อคะคุณเซฮุน แฮ่กๆ ยะอย่าครับ”

    เสียงหวานเอ่ยท้วงเมื่อปีศาจร้ายยังไม่หยุดคุกคาม เซฮุนสูดลมหายใจลึกก่อนหันหน้าหนีร่างเล็กที่สั่นระริกแดงเรื่อไปทั้งตัว อาการที่ไม่ต่างจากกำลังยั่วเขาโดยไม่รู้ตัว

    และเพราะไม่รู้ตัวมันเลยทำให้ดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลเป็นเท่าตัว


    ให้ตายเถอะเป็นเหี้ยไรของกูวะแม่ง!!!!!



    ถ้ายังไม่อยากโดนกูปล้ำตอนนี้ก็รีบวิ่งหนีออกไปซะ

    เสียงทุ้มกดต่ำ คนที่ยังหอบหายใจอยู่ช้อนมองอีกคนอย่างไม่เข้าใจ เขาปรับอารมณ์ตามชายคนนี้ไม่ทันเลยจริงๆ ทว่าใบหน้าแดงก่ำกับท่าทีใสซื่อไร้เดียงสานั่นกลับยิ่งทำให้ความอดทนของโอเซฮุนหายไป



                 อยากโดนกูปล้ำนักรึไงวะ!!!!!”


    คนตัวเล็กสะดุ้งโหยงกับท่าทางและน้ำเสียงน่ากลัว รีบวิ่งปรื๋อออกไปทันทีทิ้งให้ร่างของหัวหน้าไกเซอร์ที่กำลังหงุดหงิดกับตัวเองทุบกำแพงระบายอารมณ์ดังลั่น ดวงตาคมสั่นไหวมองมือตัวเองก่อนกำแน่นอย่างไม่เข้าใจ

    “ทำไมถึงหยุดตัวเองไม่ได้...”

    ถามกับตัวเองอย่างข้องแคลงเมื่อรสชาติหอมหวานยังติดปลายลิ้น ความหอมหวานที่พาให้กายร้อนวูบวาบ ความหอมหวานที่ยากเกินจะหักห้ามหัวใจที่ร้องลั่น ความจริงที่ยากจะยอมรับแต่ก็ต้องยอมรับเพราะเพียงแค่หลับตาลงร่างนุ่มนิ่มหอมหวานก็ลอยเข้ามาในหัว


                  กร็อด...

     

    “บัดซบเอ้ย!!!!!!!!!!!!

    เสียงทุ้มคำรามลั่นท้องฟ้ารัตติกาล เจ้าชายปีศาจแหงนดวงหน้าคมเข้มขึ้นพลางยกฝ่ามือลูบหน้าที่กำลังสับสนของตัวเอง เขาใช้เวลารวบรวมความคิดความรู้สึกตัวเองเพียงชั่วครู่ และเพียงไม่นาน ดวงตาคมสั่นไหวก็กลับมาฉายแววมืดสนิทไร้ความรู้สึกดังเดิม... ดวงตาแห่งพญาไกเซอร์


    ราวปีศาจร้ายกลับฟื้นคืนชีพ


    คนที่เขารังเกียจจงชังและไม่อยากเห็นหน้าที่สุด





    แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น




     

    ชายหนุ่มหัวหน้าไกเซอร์เอ่ยตอกย้ำกับตัวเอง ...ทว่าโชคชะตาก็ไม่รู้ว่าจะเห็นด้วยกับคำพูดนั้นหรือไม่ครั้งเดียวจริงๆ อย่างนั้นนะหรือ



    มือหนาล้วงมวนบุหรี่ขึ้นจุดก่อนจับคาบไว้ที่ปาก เซฮุนอัดมวนบุหรี่เข้าปอดเพื่อให้ลืมความรู้สึกแปลกประหลาดที่ตีขึ้นสู่หัวใจอันโหดเหี้ยม หัวใจโหดร้ายที่มืดถมึนดับความสั่นไหวลง หัวสมองนึกไปยังรายชื่อคู่นอนที่ตั้งใจว่าคืนนี้จะฟิตหนักให้หยุดคิดถึงความหอมติดจมูกนั้นเสียที



    แม้ท้องฟ้านี้จะมืดมิดเพียงใด ทว่าในส่วนลึกของแววตาไร้ความรู้สึกคู่นี้ก็ยังมองเห็นความสับสน


     
     

    พรุ่งนี้กูฆ่ามึงแน่ไอ้ตัวเชื้อโรค






     

    แม้จะเป็นอาการสั่นไหวเพียงน้อยนิดก็ตาม













                                                                                                                                






     






     

    -----------------------------------------------------------------



     

     

    ASHURAHUNHAN
    ( Next Chapter  ‘ไอ้เฉิ่มนี้เป็นตัวเชื้อโรคของกู มึงห้ามแตะ’ 

    )


     

     

    23/3/2014

    ถึงคนแบนฟิค: >  มึงสนุกมากไหมคะอีเ-ี้ยยยยยยยยยย 

    แบนทีสองตอนรวด อีบ้ากะจะไม่ให้กูได้มีฟิคอัพให้คนอ่านเข้ามาอ่านเลยสินะ

    มึงเห็นไหมว่าฟิคกฟุมีแค่สามตอน แล้วแบนทีเดียวสองตอน อยากจะตะโกนใส่หน้าว่าแ-่ง      แต่ทำได้แค่ ไรงะ?

    คือแบนกูทำไมนี่ตอบที   แบนจนเหลือแค่อินโทรตอนเดียว #พ่อ-งง-

    แล้วลบออกไปเยอะมากกกกกก จนแทบไใ่เหลือเค้าโครงต้นฉบับเลย

    หงิดมากกกกกก  เราวางคาแรคเตอร์ฮุนเป็นคนหยาบและเถื่อน ตอนนี้ฮุนไม่เหมือนคนหยาบตามที่เราวางไว้เลยอะ

    เราจะหาเว็บอื่นลงต้นฉบับแบบที่แรงๆ และเถื่อนในที่วางไว้จริงๆนะคะ

    ไม่งั้นก็รออ่านในเบ่มเลย เราหงุดกงิดมากจริงๆ

    แล้วพี่เว็บแบนก็ไม่บอกด้วยว่าเราต้องแก้ตรงไหน กูเลยตัดแม่งหมด โมโหมาก!!!!

    ขอบคุณสำหรับพื้นที่ระบายค่ะ!!! -_-

     

     

     

     

    12/3/2015
    ฮัลโหลลลลลล เพิ่งมากเขียนทอร์คตอน11โมงครึ่ง ทั้งๆที่อัพเมื่อวานเกือบๆตีสี่ #ขำหนักมาก
    ความจริงตอนนี้พิมพ์เสร็จนานแล้ว ตั้งใจจะอัพวันจันทร์หรืออังคาร
    แต่ปรากฎว่า!! พอดีนังนี่เพิ่งถอยไอแพดมาใหม่ค่ะ
    ละไอแพดอะไรเด่นคะ? เล่นเกมโคตรมันจนไม่หลับไม่นอนทีเดียวแหละเธอ!!!
    ฉันละกลุ้มจิตกลุ้มใจ #ปาไอแพด
    ตอนนี้ชัดเจนแล้วนะคะว่าชานลู่เขาหวั่นไหวแล้ว ชานยอลก็เปผ็นไกเซอร์คนแรกที่เห็นหน้าพี่ลู่ด้วย!
    สวยจนอึ้งเลยละเซ่!! >_<
    คนต่อไปที่จะได้เห็นหน้าพี่ลู่จริงๆจะเป็นใครกันน่า *0*
    อ่อ มีแต่คอมเม้นท์ว่าชานลู่ๆ แกๆ นี่มันฟิคฮุนฮานนะยะ!!!
    แต่ก็ช่างมันคิคิ มีคนบอกว่าบทของชานยอลควรเป็นคริสมากกว่า แต่ทำไมเราไม่เลือกคริส?
    เพราะตอนนี้เราหลงความหล่อของปาร์คยอลอยู่ค่ะ T-T
    ชานยอลเขาหล่อแบดนะ ถ้าไม่ยิ้ม
    5555555555
    ให้อิงจากรูปที่ใช้แต่งนะคะ
    พาร์ทที่เหลือแซ่บมากขอบอกละตัวเธอ!!!!!!
    รออ่านกันะคะ >_< 
    สุดท้าย ขอบคุณทุกกำลังใจที่มห้กันมา เราดีใจมากกกก ที่มีคนชอบเรื่องนี้
    แต่ตอนแรกๆก็ออกแนวตันๆ นะ แต่ตอนนี้พล็อื่นละ คุคุ-..-
    เจอกันเร็วๆนี้นะคะ จะพยายามรีบมาอัพน่า >_< ฟิ้ว! #หรีไปเล่นเกม 






    -------------------------------------




    อันยองยามดึกค่าาาาาา คิดถึงเก๊าไหม *u*
    บอกเลยว่ารู้สึกดีใจมากที่มีคนชอบเรื่องนี้เยอะ แอร๊ยยย เจ๊ปลื้มมม >O<
    ตอนนี้พ่อฮุนของเราแสดงด้านแบดออกมาซะแล้ว แหมเจอกันยังไม่พ้นวันฮุนก็เลวใส่ลูู่ขาแล้วงะ
    แล้วดูท่าฮุนจะจงเกลียดจงชังลู่ขาของเจ๊มาก!!!! อย่าให้ถึงตาลู่ขาเอาคืนนะ หึหึ
    ตอนนี้มีใครเดาออกยังว่าพระรองของเราคือชานยอลลลลล *O* 
    โดยส่วนตัวถ้าบทแบดๆ เลวๆ ชอบชานยอลมาก ปล.ช่วงนี้หลงความหล่อของปรี้ชานด้วยแง้ววว >///<
    ส่วนพาร์ทที่เหลือแบ่งเป็นอีกสองพาร์ทนะ มีตอนลูลู่กับยอลงุ้งงิ้งกัน แอร๊ยยยยย
    เจ๊ขอเชียร์ค่ะ ปล.มีใครดูออกยังว่าชานยอลดูพิเศษในสายตาลูลู่เขางะ
    ส่วนอีกอันเป็นตอนพี่ฮูนเอาคืนค่ะ! อะไรนะนังฮุนจะทำร้ายลู่อีกแล้วหรือ????
    ไม่นะอุ๊ปซ์ว้ายกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
    ปล.หนังสือฟองดูกับฮนครม ยังมีสต็อคอยู่นะ ใครต้องการติดต่อเจ๊มาเลยค่ะ

    ไปก่อนนะคะ จะไปอาบน้ำ เหม็นเต่ามาก อย่าลืมเม้น ฝันดีนะคะ
    รักและขอบคุณทุกคน จุ้บๆ


     

     

                   

     

    CR.SQW
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×