คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : - 1 -
1
คนหนึ่งคนที่วนเวียนอยู่รอบๆ ตัวเรา
ก็ไม่ต่างอะไรจาก “สายลม”
“เสี่ยวลู่ลงมากินข้าวได้แล้วนะ”
เสียงของผู้ให้กำเนิดดังขึ้นหน้าห้อง ลู่หานเปิดประตูสาวเท้าเดินลงไปนั่งที่โต๊ะอาหารพร้อมหน้าครอบครัวซึ่งมีพ่อแม่และพี่ชาย คุณพ่อของเขาท่านได้รับสืบทอดมรดกโรงพยาบาลเอกชนมาจากคุณปู่ และพี่ชายของเขาตอนนี้ก็เรียนจบแพทย์กำลังศึกษางานอยู่ที่นั่นเตรียมตัวรับหน้าที่สืบต่อจากคุณพ่ออีกที ในเมื่อมีพี่ชายคนงามรับหน้าที่ต่อแล้ว มันเรื่องอะไรที่เขาจะต้องเรียนแพทย์ละใช่ไหม? แต่ตอนนี้ผมเป็นนักศึกษาคณะสัตวแพทยศาสตร์ครับ
“ม๊าครับ ผมไปเรียนแล้วนะ” ลู่หานลุกขึ้นยืนเดินอ้อมไปหาผู้เป็นแม่ก้มลงหอมแก้มนุ่มก่อนจะโค้งหัวลงลาพ่อที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ยามเช้าอยู่อีกด้านหนึ่งแล้วสาวเท้าพาร่างบอบบางไปหาพี่ชายที่ยืนรอไปส่งเขาเข้าเรียนอยู่ที่หน้าประตู
ลู่หานเข้ามานั่งในรถของพี่ชายซึ่งมีหน้าที่คอยไปส่งที่หน้ามหาวิทยาลัยทุกวันก่อนไปทำงาน คนตัวเล็กเข้ามานั่งในรถสักพักก็ปิดเปลือกตาตาลงในขณะที่โลหะสี่ล้อได้เคลื่อนตัวออกมา
เหตุการณ์เมื่อคืนแล่นเข้ามาในหัวภาพที่โอเซฮุนลากเขาแล้วจับโยนใส่รถของเจ้าตัวอย่างแรงก่อนที่จะขับรถมาส่งที่หน้าบ้าน เขาได้แต่สงสัยตัวเองว่าไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้ร่วมกับโอเซฮุนแต่ชาติปางก่อนหรือเปล่า ชาตินี้ถึงได้ตามมาจองลาญจองผลาญกันอยู่เรื่อย
กูเบื่อขี้หน้ามึงเต็มทนแล้วนะโอเซฮุน -________-
เซฮุนเรียนแพทย์ซึ่งตึกก็ตั้งอยู่ข้างๆเขา ครอบครัวของเราค่อนข้างสนิทกัน หรือความจริงจะบอกว่าสนิทกันมากก็ได้ลู่หานเลยรู้จักเซฮุนตั้งแต่ยังพูดเกาหลีได้ไม่คล่อง ตอนเด็กๆ เซฮุนก็คอยแกล้งเขาจนร้องไห้อยู่ทุกครั้ง ตอนเรียนอนุบาลก็ขโมยตุ๊กตาไปแล้วโยนให้หมาฟัด! ตอนงานกีฬาสีประถมเขาแข่งฟุตบอลกับห้องของเซฮุนแต่หมอนั่นแกล้งสกัดขาเขาจนล้มกลางสนามทำให้ทีมของเขาต้องพ่ายแพ้! แต่เราทั้งคู่ก็ต้องห่างกันตอนเรียนมัธยม ในตอนนั้นเขาเองก็ดีใจแทบตายที่บ่วงชีวิตได้สะบัดผู้ชายที่ชื่อโอเซฮุนหลุดออกจากวงโคจรเสียที
แต่ไฉนพอจบมัธยมปลายปีสาม ชีวิตของเสี่ยวลู่หานที่ควรจะสุขสบายกลับรู้สึกเหมือนตกเหวครั้งใหญ่เมื่อครอบครัวของเขาและเซฮุนอยู่ๆ ก็เกิดคึกแบบพิเรนทร์จับเขาและเซฮุนมาเป็นคู่หมั้นกัน และเป็นที่แน่นอนว่าพวกเราทั้งคู่ไม่สามารถเอ่ยปากปฏิเสธได้เลยแม้แต่น้อย
“ขอบคุณครับพี่คริส” ลู่หานหันไปบอกลาพี่ชายแล้วสะพายกระเป๋าลงจากรถ ขาเล็กพาร่างบอบบางเดินเข้ามาในห้องก็เห็นแบคฮยอนเพื่อนสนิทนั่งอยู่ก่อนแล้ว ไม่รู้ว่ามันมองหาอะไรตรงหน้าต่างนักหนาคอที่ชะเง้อออกไปอยู่นี่แทบหลุดออกมาจากบ่ามันอยู่แล้ว
“เห้ย!!!!”ลู่หานร้องเสียงดังข้างใบหูเพื่อนตัวเล็กพลางผลักไหล่เบาๆ แบคฮยอนสะดุ้งแล้วหันมามองหน้าคนกระทำตื่นๆ ดวงตาใสจ้องเขม็งมาที่เจ้าตัวก่อนจะถอนหายใจออกมา
“ไอ้เหี้ยลู่! กูตกใจหมดสัด!!”เจ้าของเสียงแหลมๆ หันมาตะโกนใส่หน้าอีกคนดังลั่น
“เมื่อกี้มองอะไร คอจะหลุดออกจากบ่าแล้ว”
“ปะ เปล่า ไม่มีอะไร”แบคฮยอนเอ่ยตะกุกตะกัก ซึ่งนั่นทำให้อีกคนสงสัยไม่น้อย แต่ก็ไม่คิดจะซักถามต่อในเมื่อเพื่อนตัวเล็กของเขายังไม่อยากพูด เจ้าตัวก็จะไม่ถามต่อ
“เออลู่หาน กูอยากไปทำงานบ้านมึง”จบคำเอ่ยของแบคฮยอนก็เรียกอาการคิ้วขมวดที่ใบหน้าของลู่หานทันที
“ไปทำไม”
“ก็ก็.. รายงานวิชาอาจารย์วิคไง ไปทำบ้านมึงสะดวกดี หนังสือเย้อเยอะ!”
อีกคนไม่ได้ตอบกลับไปเพียงแค่พยักหน้าเป็นอันเข้าใจ ก่อนที่จะหันไปสนใจทางหน้าห้องแทนเมื่ออาจารย์ประจำวิชาได้ก้าวเข้ามาสู่ห้องเรียน
( - honey ♡ caramel - )
ลู่หานและแบคฮยอนเดินเข้าไปในร้านกาแฟชื่อดังในมหาลัยหลังเลิกเรียน พวกเขาสองคนมาร้านนี้เป็นประจำในช่วงเวลาเลิกเรียนเพื่อมาซื้อชาหรือกาแฟสักแก้วเป็นการพักสมองหลังจากที่รับวิชาอะไรที่หนักๆ ในแต่ละวัน
เมื่อสั่งรายการอาหารเสร็จทั้งคู่ก็มานั่งรอที่โต๊ะ และในไม่นานขนมปังไอศกรีมและชาหอมๆ ก็มาเสิร์ฟ ทั้งสองนั่งคุยกันไปสักพักก่อนจะมีเสียงกระดิ่งทางหน้าประตูดังขึ้นเรียกให้ลู่หานผู้ที่นั่งหันหน้าเข้าหาบานประตูต้องเงยหน้ามองทันใดนั้นก็ต้องเบิกดวงตาใสกว้างขึ้นด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่นั้นคือใคร
ไ อ้ เ หี้ ย เ อ่ ย T________T
ดวงตาใสโฟกัสเห็นโอเซฮุนกับเพื่อนของเขาที่มีผิวสีคล้ำกำลังยืนสั่งอาหารอยู่หน้าเค้าเตอร์ ใบหน้าเรียวคมของเซฮุนกำลังใช้สายตามองสำรวจรอบๆ ร้านเพื่อหาที่นั่งอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ และเมื่อพบว่าคนตัวสูงกำลังมองมาบริเวณที่ตนนั่งอยู่ก็รีบก้มหน้าลงหลบสายตาคมคู่นั้นแทบทันทีก่อนจะแอบเหล่สายตาไปมองทางเซฮุนอีกครั้งก็พบว่าเซฮุนกำลังก้าวเท้าเดินตรงมาทางนี้เสียแล้ว …
ฟะฟรัคแล้วไงไอ้ลู่ T____T
“เออแบค! เดี๋ยวกูมานะห้องน้ำแปบ!”ร่างบางเด้งตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีเมื่อเห็นว่าเซฮุนอยู่ไม่ไกลจากโต๊ะ คนตัวเล็กรีบก้มหน้างุดเดินจ้ำอ้าวออกมานอกร้านทันทีโดยไม่รอคำตอบตกลงหรือแม้แต่ใบหน้าที่ฉายความฉงนของแบคฮยอนเลยแม้แต่น้อย
เมื่อพ้นจากร้านกาแฟนั่นแล้ว ลู่หานก็ยืนพิงผนังกำแพงก่อนจะปิดเปลือกตาลงพลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่เมื่อลืมตาขึ้นดวงตากลมใสดั่งกวางน้อยก็ต้องเบิกโพลงขึ้นทันทีด้วยความตกใจเป็นครั้งที่สองของวัน เมื่อในตอนนี้ใบหน้าเรียวคมและสายตาดุดันของโอเซฮุนได้อยู่ตรงหน้าเป็นอันที่เรียบร้อยแล้ว
มึงไม่เข้าใจกูรึไง ว่ากูหนีมึงอยู่เนี้ย T[]T!!!
“รีบออกมาทำไม ทำเหมือนหนีอะไรอยู่อย่างนั้นแหละ”เซฮุนหรี่สายตาคมที่เล็กอยู่แล้ว ให้เล็กลงยิ่งกว่าเดิม
อ่า .. ก็หนีมึงอยู่นั่นแหละ!
“อ่อดูเหมือนเพื่อนของนายยังไม่รู้สินะว่าฉันเป็นคู่หมั้นนาย”คนตัวสูงกว่าเอ่ยพลางหัวเราะออกมาเบาๆ
ใครจะไปกล้าบอกเพื่อนตัวเองกันละว่ามีคู่หมั้นแล้วT^T
“อ่า อย่างนี้มันก็น่าสนุกดีนะ คู่หมั้นลับๆ เนี่ย”เซฮุนเอ่ยขึ้นพลางยิ้มออกมา ดวงตาก็พลันสุกใสขึ้นอย่างคนมีความสุขที่ได้แกล้งคนตัวเล็ก
ไอ้บ้า โอ - เซ - ฮุน TvT!
“อื้ม งั้นเรามาทำให้คนอื่นสงสัยกันเถอะ”
เสี่ยวลู่หานกระพริบดวงตากลมโตของตนเองเพียงแค่ชั่วครู่ก็ต้องเบิกตาใสกว้างขึ้น เมื่อใบหน้าคมของคนตรงหน้าโน้มลงมาจรดริมฝีปากลงบนปากบางของเจ้าตัว คนตัวเล็กที่โดนคู่หมั้นล่วงละเมิดทางริมฝีปากอยู่นั้นได้แต่ยืนนิ่งอย่างคนที่ถูกแช่แข็งไว้ เซฮุนเอื้อมมือเรียวของตนไปคว้าเอวบางคู่หมั้นไว้ก็ได้แต่นึกแปลกใจที่ไม่เคยรับรู้เลยว่าคู่หมั้นของตนเองนั้นหุ่นบางน่าถนอมมากเพียงใด ร่างสูงจับใบหน้าเรียวเล็กให้เงยหน้าขึ้นรับความหอมหวานให้ถนัดมากขึ้น เม้มริมฝีปากบางจนเกิดเสียงจ้วบจ๊าบ จงใจดูดคลึงให้ปากแดงนั้นบวมเจ่อขึ้นอย่างสังเกตได้ชัด ลู่หานเพียงแค่หลับตาปี๊รู้สึกได้ถึงความร้อนระอุที่กำลังลามระเรื่อไปทั่วใบหน้าขาวผ่องของตนเอง
ผลั๊ก !
“อะ ไอ ไอ้เซฮุน ไอ้บ้า!!!”
เมื่อคนตัวบางได้สติก็ผลักอกแกร่งออกห่างจากตัวทันที เม้มริมฝีปากที่บวมเจ่อของตัวเองอยู่แล้วให้บวมแดงยิ่งขึ้นกว่าเดิม ใบหน้าน่ารักก้มลงจนชิดคางพวงแก้มสองข้างแดงระเรื่อน่ามองจนทำให้ร่างสูงที่มองอยู่รู้สึกอยากก้มลงไปฉกฉวยความหอม แต่ก็ต้องให้เป็นเพียงแค่ความคิดเมื่อคนตัวเล็กเดินฉับๆ ก้าวเท้าออกไปจากตรงนี้แล้ว แต่คนตัวสูงก็ยังมิวาย ...
“ปากแดงเจ่อแบบนี้ถ้ามีคนถาม คุณคู่หมั้นจะบอกว่าไปโดนอะไรมาน๊า ~ ”
เซฮุนหลุดหัวเราะออกมาเมื่อพบว่าคำแซวของตนเมื่อครู่นี้ทำให้ร่าบางที่เดินอยู่นั้นออกตัววิ่งหนีแทนทันที คนเอ่ยแซวยังคงยืนเอามือล้วงกระเป๋าก่อนจะก้าวเดินช้าๆ ออกไปจากที่ตรงนี้ ใบหน้าเรียวสะท้อนความสุขที่ฉายออกมาจากดวงตาคมและรอยยิ้มบางเบาตรงริมฝีปากพลอยทำให้ผู้คนที่พบเห็นรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่หนุ่มฮอตคณะแพทยศาสตร์เดินยิ้มไม่หุบอยู่ตลอดทาง
... การมีคู่หมั้น ...
... บางทีก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดไว้สินะ J
( - honey ♡ caramel - )
“ลู่หาน มึงโอเคนะ”แบคฮยอนที่ตอนนี้นั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่กลางบ้านของเพื่อนสนิทเอ่ยถามอีกคนอย่างเป็นห่วง จะไม่ให้ห่วงได้ไงในเมื่อเพื่อนของเขาไปเข้าห้องน้ำกลับมาก็ลากเขาออกมาจากร้านมุ่งตรงดิ่งกลับบ้านทันที ใบหน้าของเพื่อนสนิทที่เดี๋ยวก็แดง เดี๋ยวก็ซีดลง ปากก็บวมแดงจนน่าสงสัย แต่ถ้าจะให้ถามตอนนี้ลู่หานคงได้แต่ส่ายหัวจนผมยุ่งเหยิงไม่ตอบคำถามเป็นแน่
ก็ลู่หานตอนนี้ดูเหมือนคนมีสติดีที่ไหนกันละ...
“บะแบค แบค กูกูโอเคดี แฮ่ๆ”ลู่หานหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทแล้วหัวเราะแห้งๆ ออกมาก่อนจะยกมือบางมาลูบที่ริมฝีปากตัวเองเบาๆ ฉับพลันใบหน้าใสก็ร้อนระอุขึ้นอีกคราอย่างน่าหวั่น คนตัวเล็กยกฝ่ามือขึ้นมาตบแก้มตัวเองเบาๆ เป็นการเรียกสติให้กลับมา
“กูว่ามึงควรไปเช็คประสาทนะ”แบคฮยอนหันมามองลู่หานด้วยหางตาก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในครัว ทิ้งเพื่อนสนิทที่ยังคงนั่งตบแก้มตัวเองไปมาจนเริ่มเกิดรอยแดงอยู่ที่เดิม
ยิ่งลู่หานคิดย้อนไปเหตุการณ์เมื่อครู่ใบหน้าขาวใสก็ยิ่งเห่อแดง ริมฝีปากที่ยังคงบวมเจ่อขบเม้มเข้าหากันแน่น ความรู้สึกร้อนผ่าวยังคงติดอยู่ที่ริมฝีปาก รวมทั้งดวงตาคมของเซฮุนเวลาที่มองเขานั้นยังคงฉายชัดอยู่ในหัวสมองอย่างชัดเจน ลู่หานรู้ตัวดีว่าคู่หมั้นนั้นจงใจจะแกล้งเขาเล่น แต่ทว่าอาการแบบนี้มันเป็นครั้งแรกที่เขาเคยได้รับ
อาการที่ว่าเดี๋ยวรู้สึกร้อน เดี๋ยวรู้สึกเย็น อย่างคนทำอะไรไม่ถูก
ถ้าเขาเจอเซฮุนอีกรอบเมื่อไหร่ สาบานได้เลย
เขาจะอัดให้น่วม !!!
“โอ้ย!ลู่หานมึงเป็นอะไรของมึงเนี่ย!!”เสี่ยวลู่หานผู้ที่ยังคงเรียกสติกลับมาไม่ได้หยุดตบแก้มตัวเองแล้วหันมาขยี้เส้นผมสีคาราเมลจนยุ่งเหยิงแทนก่อนที่จะเด้งตัวลุกขึ้นจากโซฟาเมื่อได้ยินเสียงรถที่คุ้นเคยจอดลงที่หน้าบ้าน
“พี่คริส!! มาพอดีเลย มาช่วยคิดหัวข้อรายงานให้น้องหน่อย”ลู่หานที่ปรับเปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็ววิ่งออกไปทางหน้าประตูเมื่อรู้ว่าผู้เป็นพี่ชายกลับมาจากทำงานแล้ว
“โหไรเนี่ย ให้ช่วยทำงานแล้วมีค่าจ้างปะ”
“เงินเดือนตัวเองแทบล้นกระเป๋าแล้วจะมาขอค่าจ้างอะไรน้องห๊ะ!!”เมื่อได้ยินคนเป็นน้องตอบกลับเช่นนั้นคริสก็หัวเราะออกมาก่อนจะเดินเข้าไปนั่งที่โซฟาข้างๆ ลู่หาน ซึ่งเจ้าตัวก็ถือกระดาษและปากกาเตรียมพร้อมขอคำปรึกษาคนเป็นพี่ในการทำรายงานแล้วเรียบร้อย
“ทำคนเดียวหรอเรา งานมันดูหนักไปนะ”คริสหันไปถามลู่หานเมื่อพบว่าเนื้อหางานนั้นค่อนข้างเยอะ ถ้าหากต้องทำคนเดียว
“เปล่าอ่ะลู่ทำกับแบค มันหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้”คริสยิ้มออกมาบางเบาเมื่อได้ยินชื่อเพื่อนสนิทของน้องชายตัวเอง ที่ในบางครั้งเขาก็นึกสงสัยอยู่ไม่น้อยกับท่าทางที่ดูเหมือนจะเกรงกลัวเขาทุกครั้งที่ได้พบกัน
“อ้าวไอ้แบค ยืนทำไมมานั่งนี่สิ!”ลู่หานตะโกนเรียกเพื่อนสนิทตัวเองที่ยืนนิ่งเบิกดวงตากว้างอยู่หน้าประตูห้องโถง มือน้อยๆของแบคฮยอนที่กำลังถือแก้วโกโก้ร้อนไว้นั้นสั่นจนเจ้าตัวกลัวว่าจะทำหกราดมือตนเอง ปากบางที่อ้าขยับเป็นคำพูดช้าๆ ที่เขาใช้เรียกผู้ชายคนทำงานตรงหน้าที่ลู่หานไม่สามารถจับใจความได้ มีเพียงแค่ผู้ชายที่เพิ่งกลับมาจากการทำงานเท่านั้นที่สามารถเข้าใจในสิ่งที่คนตัวเล็กตรงหน้ากำลังจะสื่อ
“พะ พี่พี่หมอ”
ปากบางๆ ที่เวลาขยับเรียกเขานั้น ...
... มันดูน่ารักจริงๆ
- - - - - - - - - - ( - honey ♡ caramel - ) - - - - - - - - - -
( - งั้นเรามาทำให้คนอื่นสงสัยกัน ♥ )
{ - AS FOR TALK & }
THE WRITER TO ALL MY READERs
กรี้ดดดดดดดดดดด กรี้ดฮุนฮานมากบ่องตง - ///////// -
อยากได้ผู้ชายแบบโอเซฮุนคะ !!!!!!!!!!!
เซฮุนเรื่องนี้สนองนี้ดตัวเอง ปากแข็ง ขี้แกล้ง แต่ลึกๆ ก็.... นะ ช่างสารพัด สารเพ .///////.
ส่วนลู่หานก็เป็นคนขี้เขิน ขี้โวยวาย น่ารักๆ ตามสไตล์เขาแหละ ~
แต่ว่าพี่คริสเรื่องนี้ตั้งใจให้เป็นผู้ชายที่โตและดูอบอุ่นคะ ตามประสาคนวัยเรียนจบทำงานแล้ว
ส่วนแบคฮยอนนี่เป็นความลับ 555555555555555555555 เอาไว้เฉลยตอนหน้า
แต่คาดว่าหลายคนคงรู้แล้วว่าแบคเป็นยังไง ฮิฮิ
โอเคพอก่อนนะ ฝันดีนะคะทุกคน *ส่งจูบนางงาม*
ปล.มาอีดิทแก้บางช่วงคะ ^^
ความคิดเห็น