ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - honey caramel ♡ hunhan ft.krisbaek -

    ลำดับตอนที่ #7 : - 5 - ( 100% )

    • อัปเดตล่าสุด 15 ม.ค. 57


    5

     

     

     

     

     

     

    I wanna be with you

    There’s nothing more to say

    There’s nothing else I want more than to feel this way

    I wanna be with you

    ฉันอยากอยู่กับคุณ

    และไม่มีสิ่งอื่นใดที่ฉันอยากจะเอ่ย

    ไม่มีสิ่งอื่นใดที่ฉันต้องการมากกว่าความรู้สึกเหล่านี้

    นอกเสียจาก ฉันอยากอยู่กับคุณ

     

     

     

     

     

     

     

     

                          ยามบ่ายของวันธรรมดาร่างเล็กของบยอนแบคฮยอนยืนประหม่าอยู่หน้าแผนกประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง มือเล็กบีบเข้าหากันแน่นอย่างคนต้องการเรียกกำลังใจ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆแล้วผ่อนออกมายาวๆ ก้าวเท้าเข้าประชิดเคาเตอร์ก่อนที่เสียงใสจะเอ่ยถามพยาบาลประจำจุดประชาสัมพันธ์

                    “เอ่อขอโทษครับ ผมจะมาขอพบคุณหมอคริส ไม่ทราบว่าตอนนี้อยู่ตรงไหนหรอครับ

                    “คุณหมอคริสหรอคะ ใช่คุณแบคฮยอนหรือเปล่าคะคนตัวเล็กได้ยินดังนั้นก็เผยรอยยิ้มน่ารักออกมาก่อนจะพยักหน้าตอบกลับ

                    “ตอนนี้คุณหมอคริสอยู่ที่ห้องส่วนตัวชั้นสามสิบห้าคะ น้องเดินกดขึ้นลิฟท์ไปแล้วเลี้ยวซ้ายนะคะ หน้าห้องจะมีชื่อคุณหมอติดอยู่คุณหมอแกรออยู่ด้านในคะแบคฮยอนโค้งหัวให้พยาบาลคนนั้นเล็กน้อย ฝีเท้าเล็กเดินเข้าประตูลิฟท์ ยิ่งลิฟท์เคลื่อนตัวสูงขึ้นเท่าไหร่หัวใจดวงเล็กก็ยิ่งเต้นแรงขึ้นเท่านั้น เขากำลังตื่นเต้น และตื่นเต้นมากเสียด้วย ..

                    แบคกำลังขึ้นไปหาพี่หมอที่ห้องแหนะ ที่ห้องเลยนะ!!! ฮริ้งงงงง T/////////T #นอนดิ้น

     

     

                    เมื่อลิฟท์มาหยุดอยู่ที่ชั้นสามสิบห้าแบคฮยอนก้าวเดินไปตามทางก็พบกับประตูบานใหญ่ที่มีป้ายติดอยู่หน้าห้องว่าผู้ช่วยผอ.คริส พี่หมอมีตำแหน่งสูงขนาดนี้เลยหรอ ? ถึงเขาจะรู้ว่าตอนนี้พี่หมอกำลังฝึกงานเพื่อจะเตรียมตัวสืบทอดเป็นเจ้าของโรงพยาบาลก็เถอะ แต่เขาไม่คิดว่าแค่ฝึกงานของพี่คริสจะมีตำแหน่งใหญ่ขนาดนี้ นี่เขาชอบของสูงเลยใช่ไหม =[]=!!

                รู้ว่าเสี่ยง แต่แบคต้องขอลอง T__T

     

                    ฝ่ามือน้อยชูขึ้นกำลังยกเคาะประตูแต่ต้องปล่อยให้ยกเก้อเมื่อประตูนั้นกลับถูกเปิดออกจากด้านใน พยาบาลสาวหน้าตาน่ารักยืนอยู่ด้านหน้าเขาหล่อนมองหน้าแบคฮยอนด้วยความฉงนสักพักก็เผยรอยยิ้มออกมาก่อนทีเสียงเข้มจากด้านในจะเอ่ยปลุกห้วงความคิดเขาขึ้น

                    “มีอะไรหรออึนจีพยาบาลที่ชื่ออึนจีเบี่ยงตัวหลบให้คริสได้เห็นคนด้านนอกที่ยืนประหม่าอยู่ คริสจุดรอยยิ้มขึ้นทันทีเมื่อพบว่าเด็กน้อยมาถึงแล้ว

                    “เข้ามาสิแบคฮยอน คุณอึนจีประชุมเย็นนี้อย่าลืมจัดเตรียมเอกสารตามที่ผมบอกด้วยนะครับพยาบาลสาวโค้งหัวเล็กน้อยแล้วเดินปลีกตัวออกมา แบคฮยอนสูดลมหายใจเข้าลึกๆอีกครั้งก่อนจะปิดประตูห้องลงแล้วเดินตรงดิ่งเข้ามานั่งที่เก้าอี้ตรงหน้าคริส

                    บนโต๊ะทำงานของคุณหมอรูปหล่อเต็มไปด้วยกองแฟ้มและเอกสารมากมายที่แบคฮยอนเห็นแล้วต้องแอบถอนหายใจอย่างรู้สึกเหนื่อยแทน คริสจัดเอกสารบนโต๊ะตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะเงยหน้าถามแบคฮยอน เริ่มเลยไหม?”

                    “อ่าคะครับคริสจุดยิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อในเวลานี้เด็กตรงหน้าเขาดูประหม่าและตื่นตูมอีกครั้ง นัยน์ตาเรียวใสดูลุกลี้ลุกลนไม่กล้าสบตาเขาอย่างเห็นได้ชัด ช่างแตกต่างจากในไลน์ที่คนตัวเล็กมักจะชวนเขาคุยได้ไม่หยุดหย่อนและดูจะเป็นเด็กขี้เล่นมากเสียด้วย

                    แต่ว่าแบบนี้นะ ...

     

     

                    ... ก็ดูน่ารักดีไม่ใช่หรอ J

     

                    จวบจนเวลาเย็นแบคฮยอนยังคงสัมภาษณ์คริสไปเรื่อยๆ คำถามที่เขาเตรียมมาในวันนี้มักจะเป็นส่วนของช่วงชีวิตวัยเรียนว่ามีการทำคะแนนอย่างไร นอกจากเรียนยังมีกิจกรรมอย่างอื่นอีกไหมและนี่ก็ทำให้เขารู้เรื่องราวของชายหนุ่มในวัยเรียนมากขึ้นอีกด้วย

                    พี่คริสเป็นเดือนแพทย์แล้วยังได้เกียตินิยมอันดับหนึ่งอีกหรอ

     

                โอ้ยยยย แบคอยากเป็นแฟนหมอ แบคอยากได้แบคอยากโดน T___T

     

     

                    เมื่อมีเวลาพบก็ต้องมีเวลาจากเมื่อในอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้าหมอหนุ่มต้องเข้าประชุมใหญ่และขอให้คนตัวเล็กมาสัมภาษณ์ต่อในวันหลัง แบคฮยอนแอบถอนหายใจเงียบๆในใจเมื่อเขายังไม่อยากไปไหน หัวใจของเขามันกำลังเรียกร้องให้อยู่ตรงนี้ต่ออยู่กับพี่หมอต่ออีกสักนิดก็ยังดี แต่ก็คงได้แค่คิด U _ U

                    “ขอโทษนะที่ไปส่งเราไม่ได้ แต่เดี๋ยวพี่โทรเรียกแท๊กซี่ให้ละกันแบคฮยอนพยักหน้ารับก่อนจะขอตัวออกมาจากห้องทำงานของคริสเมื่อในเวลานี้หมอหนุ่มช่างดูวุ่นวายกับการจัดเตรียมเอกสารในการเข้าประชุมจนเขาเห็นแล้วนึกอยากจะเข้าไปช่วยเหลือเกิน แต่คงไปเป็นภาระเปล่าๆมากกว่า = =;

                    เมื่อแบคฮยอนลงมาถึงหน้าอาคารก็พบกับแท็กซี่จอดอยู่ตามคำพูดของพี่หมอ คนตัวเล็กเข้าไปนั่งในตัวรถก่อนที่จะบอกจุดหมายปลายทางแล้วเอนหลังพิงกับเบาะรถอย่างเหนื่อยอ่อนแต่ถายใต้ใบหน้าอ่อนล้านั้นหัวใจของเจ้าตัวกลับซ้อนความดีใจเอาไว้ หัวใจของเขาเหมือนกำลังติดปีกมันกำลังล่องลอยไปด้วยลมแห่งความสุข ความสุขที่เขาได้เข้าใกล้คนที่แอบชอบมานานแสนนาน

    คิดละก็ฟินชิบหายไอ้สัด กูได้เข้าไปในห้องทำงานพี่หมอด้วย งื้อออ ขอพื้นที่เขินแพบ T/////T

                   
     

    ฝ่ามือเล็กล้วงเข้าไปในกระเป๋าเป้ของตนก็พบกับสมุดเล่มเล็กสีน้ำตามเข้มที่เขามั่นใจว่าไม่ใช่ของตัวเองแน่นอน ขอละเมิดสิทธิเปิดดูด้านในก็พบกับลายมือตวัดยุกยิกมากมายที่เต็มไปด้วยรายชื่อยาและรายชื่อคนไข้ที่มีเคสแปลกประหลาดอยู่ อื้ม~ เขาว่าเขาได้ข้ออ้างใหม่ไปหาพี่หมอเพิ่มแล้วละ

     
     

     

                    ก็ถ้าไม่หาข้ออ้างแบบนี้...


                    แบคก็อดเป็นแฟนหมอนะสิ  หึ!!!!! 
    L



    ( - honey  caramel - )

     

     

                    คฤหาสต์หลังใหญ่ภายในสวนหน้าบ้านคนตัวเล็กกำลังก้มหน้าใจจดใจจ่อกับเอกสารที่ถืออยู่ตรงหน้า เอกสารที่เรียงรายชื่อเชื้อโรคและรายชื่อยาที่ต้องใช้รักษาคู่กันต่างๆ สมาธิที่มีทั้งหมดถูกเทเข้ากับเอกสารตรงหน้าโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าในขณะนี้ประตูรั้วบ้านของตนขนาดยักษ์ได้ถูกเปิดออกและมีรถคันใหม่ขับเคลื่อนเข้ามาจอดเรียบร้อยแล้ว

                    เซฮุนเดินลงมาจากรถก็ไม่ยากเลยที่จะพบตัวคู่หมั้นได้ คนตัวเล็กกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในสวนไม่ไกลจากโรงจอดรถ และไม่ให้คนตัวเล็กรู้ตัวฝีเท้าใหญ่ก็เดินย่องเบาไปประชิดด้านหลังเอี้ยวใบหน้าคมมองลงไปด้านหน้าคู่หมั้นก็เห็นคิ้วเรียวย่นเข้าหากันอย่างเคร่งเครียดกับหนังสือตรงหน้าจนเขาไม่อยากจะแกล้งทำลายสมาธิของคนตัวเล็ก

                    แต่ถ้าไม่แกล้งก็ไม่ใช่โอเซฮุนหรอกนะ

                    เครียดสมองระเบิดเป็นม้ายตายคาบ้านกันพอดี =_=

                     
     

                    เซฮุนยกฝ่ามือขึ้นมาผลักหัวคนตัวเล็กเบาๆ ลู่หานหันไปถลึงสายตาใส่คนด้านหลังที่บังอาจมาแกล้งเขาในเวลาท่องจำหนังสือและยิ่งพบว่าเป็นฝีมือของใครปากเล็กก็อ้าขึ้นหมายจะเหวใส่คนตรงหน้าเต็มที่

                    “ไอ้บ้าโอเซฮุนว่างมากนักรึไงห๊ะ!!!!!

                    คู่หมั้นหน้าหล่อส่งเสียงหัวเราะออกมายิ่งเรียกสายตาขุ่นเคืองจากคนตัวเล็กได้อย่างดี ฝ่ามือน้อยๆยกขึ้นตั้งใจจะฟาดลงบนท่อนแขนหนาก็ต้องชะงักค้างเปลี่ยนเป็นปล่อยคำถามทันทีเมื่อเห็นกระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่เซฮุนแบกมาสองใบพร้อมกับกระเป๋าใบเล็กอีกหนึ่งใบ

                    ทำยังกับที่บ้านน้ำท่วมยังไงยังงั้นแหละ = =;

                    “แบกอะไรมาเยอะแยะ”

                    “คุณแม่บอกให้มานอนเป็นเพื่อนอะ” สิ้นเสียงของเซฮุนนัยน์ตาหวานใสของลู่หานเป็นต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

                    อะไรนะ? นอนนี่? จะบ้าหรอ!!!!!!!!!!!!!!!!!!

                   

                    “ก็บ้านนายไม่มีคนอยู่แม่กับพ่อนายก็ไปสัมมนาที่ฝรั่งเศส พี่คริสก็ติดประชุมใหญ่กลับอาทิตย์หน้าไม่ใช่หรอ  คุณแม่เป็นห่วงเลยบังคับให้ฉันมานอนด้วย” เซฮุนอธิบายให้คนตัวเล็กตรงหน้าเข้าใจด้วยสีหน้านิ่งเฉยอย่างคนไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร แตกต่างจากคนตัวเล็กที่บัดนี้นัยน์ตาใสยังคงเบิกกว้างปากเล็กจิ้มลิ้มอ้าหวอด้วยความคาดไม่ถึง

    เขารู้ว่าที่บ้านจะไม่มีคนอยู่ประมาณอาทิตย์หนึ่ง แต่เขากลับไม่ได้คิดเรื่องที่คุณแม่จะให้เซฮุนมาอยู่เป็นเพื่อน ก็ในเมื่อคนในครอบครัวเขาหรือแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ค่อยได้ตัวติดอยู่บ้านบ่อยครั้งต้องคอยไปในที่อื่นอยู่เสมอหรือในบางทีเขาก็ชินกับการที่อยู่ในบ้านหลังนี้คนเดียว และที่สำคัญคืนนี้เขาก็คุยกับเพื่อนว่าจะไปสังสรรค์กันซักหน่อย

    ผับจ๋า วันนี้แกคงต้องเป็นหมันแล้วละ T___________T

     

    “ไม่เห็นต้องแบกของมาเลยก็ได้นิ” ลู่หานแย้งขึ้นเมื่อเขาคิดว่าเซฮุนไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนก็ได้ แค่มาหาก็พอ ในเมื่อเขาเองก็ชินกับสถานการณ์แบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่คำตอบของเซฮุนกลับทำให้ลู่หานต้องนิ่งค้างทันที

    “ก็คุณแม่บังคับ คิดว่าฉันอยากมานักรึไง”

    เซฮุนตอบกลับมาอย่างคนปากไวและไม่ทันได้ติดไตร่ตรองอะไร แต่เมื่อเห็นคนตัวเล็กนิ่งเงียบไม่โต้ตอบจึงหวนคิดได้ว่าเพราะคำพูดของเขาเมื่อครู่นี้อาจส่งผลให้คนตัวเล็กโมโห นัยน์ตาเรียวสีดำมืดสนิทจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาหวานของคู่หมั้นที่บัดนี้เต็มไปด้วยความขุ่นมัวที่ฉายชัดออกมาอย่างน่าเกรงกลัว

      

    “ถ้างั้นก็กลับไปซะสิ”

     

    !!!!!!!!!!!!!!!





     

    เซฮุนสูดลมหายใจเข้าลึกๆอย่างคนต้องการเก็บอารมณ์ที่เริ่มคุกรุ่นตาม เขารู้ดีว่าตอนนี้คนตรงหน้ากำลังโมโห และเขาก็ไม่ใช่คนที่เห็นไฟต้องโยนฟืนเข้าใส่ กลับกันเขาต้องเป็นน้ำที่คอยดับอารมณ์ไฟของลู่หานในเวลานี้

    และเจ้าตัวก็รู้ด้วยว่าเพราะคำพูดของตัวเองเมื่อครู่นี้นะ มันไม่ได้ออกมาจากใจ เขาก็เพียงแค่พูดยกเป็นข้ออ้างไปงั้นแหละ แต่จะให้อ้าปากพูดว่า ฉันอยากมานอนนี่ ฉันไม่อยากให้นายอยู่คนเดียว อย่างนั้นนะหรอ ?

    เหอะ เกิดใหม่สิบชาติโอเซฮุนคนนี้ก็ไม่มีวันพูดหรอกครับ บาย =_=

     

    “กลับไปได้ไงละ ถ้าคุณแม่รู้เข้าฉันต้องโดนตัดออกจากกองมรดกแน่ๆ”

     

    “ไหนๆ ก็มาแล้ว พาฉันเข้าห้องสิยืนถือของแบบนี้มันหนักนะครับคุณคู่หมั้น”

     

     

    โอเซฮุนนะหรอ ...

     

    ก็เพียงแค่ผู้ชายปากแข็งคนหนึ่งเท่านั้นแหละครับ

     

     

     

    ลู่หานยกห้องข้างๆตัวเองที่เป็นห้องรับรองแขกให้เซฮุนพักชั่วคราวซึ่งคนตัวสูงก็ไม่ได้ค้านอะไร เซฮุนและลู่หานต่างลงไปนั่งทำงานอ่านหนังสือของตัวเองในสวนอีกครั้งโดยที่คนตัวเล็กแอบชำเลืองสายตาไปมองคู่หมั้นอยู่เป็นระยะ และนั่นทำให้เขารู้ว่าเซฮุนงานหนักและเยอะมากแค่ไหน แถมแต่ละอย่างยังยากต่อการท่องจำอีกด้วย ซึ่งเซฮุนเองก็ถือว่าเป็นคนหัวดีทีเดียวที่สามารถจำและทำความเข้าใจเนื้อหาเหล่านั้นได้ในเวลาที่รวดเร็ว

    จวบจนเวลาตกเย็นพวกเขาทั้งคู่ก็ตกลงกันว่าจะไปซุปเปอร์มาเก็ตเล็กๆแถวบ้านเพื่อหาซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารทานที่บ้าน และเป็นคนตัวเล็กเองที่อาสาจะโชว์ฝีมือการทำอาหาร

    เห็นแบบนี้เสี่ยวลู่หานไม่ใช่มือสมัครเล่นนะขอบอก -..-

     

    ข้าวผัดกุ้งใส่แฮมคือเมนูง่ายๆที่พวกเขาตกลงกันว่าจะให้เป็นอาหารเย็นในวันนี้ คนทั้งคู่เลือกซื้อนมแฮมกุ้งไข่ไก่และขนมเล็กๆน้อยๆเอาไว้ตุนในบ้านยามหิว เซฮุนเข็นรถเดินตามหลังคู่หมั้นที่คอยหยิบของสดใส่รถ และบ่อยครั้งที่ลู่หานหันมาถามว่าอยากกินอะไรเพิ่มไหม คนตัวสูงเพียงแค่ส่ายหัวแล้วตอบกลับมาหน้านิ่งๆว่า "แล้วแต่คุณคู่หมั้นเถอะครับ"

    แหมคนอะไรช่างน่าหมั่นไส้ = =;

    และจะมีบ้างบางครั้งที่เซฮุนจอมขี้แกล้งที่เสี่ยวลู่หานแอบตั้งฉายาให้ในใจจะแกล้งเขาด้วยสารพัดวิธี อย่างเขาหยิบถั่วฝักยาวมากำหนึ่งใส่รถเข็น เซฮุนก็จะหยิบมันขึ้นมามองๆก่อนจะหยิบถั่วฟักยาวนั่นมาปัดผมเขาเล่นจนยุ่งเหยิงเรียกสายตาเขียวปั๊ดให้หันมามองได้ไม่ยาก และนั่นทำให้เซฮุนต้องปล่อยเสียงหัวเราะออกมากับความสำเร็จในการแกล้งคู่หมั้น

    หึ โอเซฮุนจอมขี้แกล้ง คอยดูจะจับยัดพริกกรอกปากเสียให้เข็ด L

     

    เซฮุนหิ้วถุงซุปเปอร์มาเก็ตชื่อดังเดินตามหลังคุณคู่หมั้นที่ตรงดิ่งเข้าไปในครัว คนตัวเล็กผูกผ้ากันเปื้อนที่เอวอย่างคล่องแคล่ว ลู่หานจัดการล้างกุ้งและสะเด็ดน้ำให้แห้งนำไปขึ้นเขียง ก่อนที่เจ้าตัวจะรู้สึกได้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังมองเขาจากด้านหลัง ซึ่งก็ไม่ต่องคิดให้วุ่นวายว่าสายตาคู่นั้นเป็นของใคร

    ในบ้านมีกันอยู่สองคนถ้าไม่ใช่มันแล้วจะผีที่ไหนละวะ =_____=!!!

     

    “ใส่แฮมเยอะๆนะ” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นเรียกให้ลู่หานตวัดสายตากลมใสหันไปมองทางด้านหลัง มือเรียวหยิบจานใส่แฮมก่อนจะยัดใส่มือคู่หมั้น เซฮุนเพียงแค่เงยหน้ามามองลู่หานอย่างฉงน

    “อยากกินแค่ไหนก็หั่นเองสิ หั่นเป็นลูกเต๋านะ”ริมฝีปากหนาจุดรอยยิ้มขึ้นก่อนจะยักไหล่เบาๆ แค่หั่นแฮมนะมันเรื่องง่ายสำหรับเขาอยู่แล้ว ลู่หานที่ผ่ากุ้งอยู่ข้างๆเหลือบสายตามองเซฮุนอยู่บ่อยครั้ง นัยน์ตาคมสีดำมืดสนิทของคู่หมั้นดูตั้งใจแน่วแน่กับการหั่นแฮมในครั้งนี้มากและนั่นทำให้ปากเล็กจิ้มลิ้มของลู่หานยกขึ้นเป็นรอยยิ้มกับภาพที่ช่างหาดูยากของอีกคน

    เซฮุนมักเป็นแบบนี้เสมอ เวลาทำอะไรสักอย่างจะตั้งใจทำอย่างเต็มที่

     

    เมื่อจัดเตรียมเครื่องเสร็จลู่หานก็เริ่มทำการผัดข้าวลงกระทะ เซฮุนยืนมองลู่หานอยู่ด้านหลังเอนไหลพิงขอบประตูโค้งดวงตาคมจับจ้องคนตัวเล็กที่สวมผ้ากันเปื้อนจับกระทะหยิบนู้นนี่เทใส่แล้วผัดอย่างคล่องแคล่ว รอยยิ้มกว้างถูกจุดขึ้นบนใบหน้าอย่างห้ามไม่อยู่แววตาทอแสงอ่อนโยนขึ้นยามที่มองแผ่นหลังบางของคนตัวเล็ก

    กลิ่นหอมโชยออกมาจากกระทะเรียกเสียงคำรามจากท้องคนตัวสูงได้ง่าย เซฮุนก้าวฝีเท้าเข้าประชิดด้านหลังลู่หานยื่นใบหน้าคมชะโงกเลยไหล่บางสูดดมความหอมจากข้าวผัดในกระทะ โดยที่คนตัวเล็กไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าบัดนี้มือหนาของคู่หมั้นกำลังวางอยู่ที่เอวบางของตนเสียแล้ว

    “หอมจัง”

    ลู่หานยิ้มรับกับคำชมนั่นก่อนจะเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วตอบกลับ

    “แน่นอนนี่พ่อครัวใหญ่แห่งตระกูลเสี่ยวเลยนะขอบอก” เซฮุนยกยิ้มกับคำพูดยอตัวเองของคู่หมั้น

    “น่ากินด้วย”

    “ได้กินฝีมือฉันรับรองจะติดใจ” เซฮุนยิ้มกว้างมากขึ้นกว่าเดิมฝ่ามือหนาเลื่อนไปคล้องเอวคู่หมั้นให้ถนัดมือยิ่งขึ้น

    “แค่นี้ก็เริ่มติดใจแล้ว”

    “ใช่แล้วข้าวผัดเสี่ยวลู่หานหอมที่สุด!

    “แต่อันนี้หอมกว่า”

    สิ้นเสียงเข้มจมูกโด่งก็กดฝังลงบนแก้มใสสูดดมความหอมเหมือนที่ปากว่าจนเกิดเสียงเสียฟอดใหญ่ คนตัวเล็กที่กำลังผัดข้าวหยุดชะงักค้างทันทีอย่างคนโดนแช่แข็งนัยน์ตากลมใสเบิกกว้างพวงแก้มขึ้นริ้วสีชมพูระเรื่ออย่างน่ารัก เซฮุนยกยิ้มอย่างชอบใจกับอาการเขินอายของคู่หมั้นที่ชวนให้เขาอยากจะก้มลงไปสูดดมอีกสักครา แต่คงต้องเอาไว้คราวหน้าเพราะถ้าเขาดมความหอมอีกครั้งสงสัยข้าวมื้อนี้คงจะไม่ได้ทานแน่ เสียงเข้มเอ่ยเรียกสติของลู่หานขึ้นส่งผลให้คนตัวเล็กที่ยังคงอยู่ในภวังค์ความเขินอายเกิดอาการรนชั่วครู่คล้ายหนูติดจั่นรีบยกกระทะออกนอกเตาแก๊สทันที

     

    “ลู่หานข้าวจะไหม้แล้ว J





     

     - - - - - - - - - - ( - honey  caramel - ) - - - - - - - - - -  
     

    ( - แต่อันนี้หอมกว่า - )

    { - AS FOR TALK &
    THE WRITER TO ALL MY READERs 

    อยากจะบอกว่านอกจากข้าวจะไหม้แล้วไรท์ก็จะไหม้ค่า

    แต่งไปเขินไปอะกรี้ดดดดดดดดดดด TTTTTTTTTTTTTTTTTT

    รู้นะว่าหลายคนคงอยากรู้ว่าแก้มลู่หอมจริงไหม นี่ไม่ได้นะคะคู่หมั้นเขาหวง !!!!!!!

    แอบสปอยตอนต่อไปว่า เราจะได้รู้วิธีการกินนมของคู่หมั้นเขาแหละ -.......-

    อ่อีกเรื่องคือตอนต่อไปอาจมาช้าหน่อยนะ เพราะไรท์ยังสอบไม่เสร็จเลย อาทิตย์หน้าไรท์สอบทั้งอาทิตย์ด้วยแง้ T_T

    ไม่รู้จะลงได้วันไหน แต่ไม่นานหรอก 555555555555555555555555555

    นี่เหมือนหลายคนจะไม่ชอบให้ฟิคเรื่องนี้ดราม่าใช่ไหม โอเคเราไม่ดราม่าหรอก (มั้ง)

    รอติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะค่าๆๆๆ เม้นกันด้วยนะค่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์น่ารักๆ สำหรับยอดวิว สำหรับเอฟซีนะคะ

    ขอบคุณมากๆ สำหรับ #ฮนครม เข้ามาคุยกับไรท์ได้นะเว้ย ในทวิตอะ @ginghyuk_

    ขอบคุณนักอ่านทุกท่านนนนน เลิฟนะมายเอฟซีฮันนี่คาราเมลทุกคน จุ้บ >3




    MARUKO &
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×