คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : - 10 - ( 100% )
10
“ฮัลโหล พี่หมอผมรออยู่หน้าร้านสเต็กแล้วนะ”
“อ่อครับ เดี๋ยวผมเข้าไปแล้ว เจอกันนะครับ”
แบคฮยอนเก็บโทรศัพท์ลงเข้ากระเป๋า ก้าวเท้าพาร่างเล็กเข้าร้านสเต็กใจกลางห้างที่นัดพบกับหมอหนุ่มไว้ กวาดสายตาทั่วพื้นที่เพื่อมองหาคู่นัดก่อนจะพบเข้ากับชายหนุ่มร่างสูงโปร่งที่โบกมือขึ้นเรียกเขาอยู่ แบคฮยอนระบายยิ้มกว้างก่อนจะเดินไปหย่อนสะโพกนั่งลงฝั่งตรงข้ามหมอหนุ่ม
อิอิ ทูเดอิสแบคฮยอนเดย์ >___<
“พี่หมอมารอนานรึยังครับ”
“ไม่หรอก สั่งอาหารกันเถอะ”
ทั้งคู่สั่งอาหารกับบริกรสาวที่ยืนรอรับออเดอร์ เมื่อสั่งอาหารเสร็จแบคฮยอนถึงเพิ่งตระหนักคิดได้ว่า ...
มากินข้าวกันสองคนแบบนี้ มันเรียกว่าเดทใช่ปะ !!!
อะฮร้อยยยยยย เดทกับพี่หมอ อีแบคคนนี้ขอลาตายยยยยยยยย์
T//////v//////T
“แบคฮยอน”
“งื้อ T/////u//////T”
“แบค”
“แง้ >/////v//////<”
“แบค!!”
“ห๊ะ ดะเดท!”
“ห๊ะ ?”
หมอหนุ่มยกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อได้ยินคำพูดที่หลุดปากออกมาจากอีกคนก่อนจะฉีกยิ้มกว้างด้วยความอดกลั้นไม่อยู่ ทางจิตวิทยาเขาบอกว่าถ้าเราเผลอพูดอะไรออกมาอย่างไม่ทันได้คิดแสดงว่าจิตใต้สำนึกกำลังนึกถึงเรื่องนั้นอยู่
ไม่รู้เลยรึไงว่าที่ออกมากินข้าวด้วยกันสองคนมันก็เรียกว่าเดทตั้งแต่แรกอยู่แล้วนะ J
“พะพี่หมอเรียกแบคทำไมหรอฮะ” คนตัวเล็กที่เพิ่งรู้สึกตัวว่าเผลอหลุดปากพูดอะไรออกมารีบเบี่ยงประเด็นทันที พี่หมอคงไม่ได้ยินอะไรหรอกเนอะ หูพี่หมอไม่ดีหร๊อก T__T
“เปล่า พี่จะบอกว่าอาหารมาแล้ว ทานกันเถอะ J”
แล้วทำไมต้องยิ้มแบบน๊านนนนนนนนนนนน T////O//////T
คนตัวเล็กหยิบมีดและส้อมขึ้นมาหั่นเนื้อสเต็กในจานอย่างทุลักทุเล นี่ถ้าอยู่บ้านกูเอากรรไกรมาตัดแดกไปแล้วนะไอ้สัด เนื้อหมูเหี้ยไรเหนียวขนาดนี้วะมึงผสมกาวตราช้างลงไปรึไง -_-++
กูยังไม่ได้กินเลย แต่พี่หมอหั่นเนื้อสเต็กจิ้มเข้าปากเคี้ยวไปแล้วเนี้ย TOT!
หมอหนุ่มเคี้ยวเนื้อสเต็กที่อยู่ในปากพลางเงยหน้ามองคนตัวเล็กที่ก้มหน้าก้มตาหั่นเนื้อสเต็กในจานที่หั่นเท่าไหร่ก็ไม่ขาดสักที หลุดยิ้มออกมาเมื่อได้เห็นมุมมองอีกด้านหนึ่งของแบคฮยอนที่เขาไม่เคยเห็น ใบหน้าน่ารักที่มุ่งมั่นกับการหั่นเนื้อสเต็ก คิ้วเรียวเล็กที่ขมวดขึ้นเป็นปมเพราะเจ้าเนื้อสเต็กที่ยังคงเป็นชิ้นใหญ่อยู่ในจาน
เฮ้อ ทำไมเด็กคนนี้ถึงได้น่ารักขนาดนี้นะ J
“หึหึ คงไม่ได้ทานหรอกแบบนี้ มานี่มา” หมอหนุ่มว่าพลางเลื่อนจานสเต็กอีกคนมาตรงหน้า หยิบมีดขึ้นหั่นเนื้อสเต็กอย่างพิถีพิถัน โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกคนตัวเล็กจับจ้องด้วยความสั่นไหวที่ถาโถมเข้ามาสู่หัวใจดวงน้อยกับการเอาใจใส่นี้มากแค่ไหน
พี่หมอหั่นสเต็กให้กูอะพวกมึงดูสิดูววววววววว #ป่าวประกาศ T/////////T
สนใจมาหั่นหนังเนื้อแบคฮยอนมั่งไหม อ่อยนานแล้วไม่ได้กินสักที (>///∇///<)
#พุ่งตัวไปฟินแลนด์
แบคฮยอนยังคงนั่งมองหน้าคริสที่ดูตั้งใจในการหั่นเนื้อสเต็กให้เขา ก่อนจะต้องหันไปมองโต๊ะด้านข้างเมื่อหูดันไปได้ยินเสียงวี๊ดว๊ายของหญิงสาวกำลังส่งสายตาเป็นประกายมาที่ชายหนุ่มตรงข้ามเขา ทันใดนั้นปากเล็กจิ้มลิ้มต้องเบ้ออกเล็กน้อยด้วยความหมั่นไส้
อย่ามาแรดใส่พี่หมอของกูนะ !!!!
“อะเสร็จแล้วทานได้แล้วนะ”คริสว่าพลางเลื่อนจานสเต็กมาตรงหน้าคนตัวเล็กสิ่งยิ้มให้เล็กน้อย ฝ่ามือเล็กของแบคฮยอนเอื้อมไปหยิบแก้วน้ำของคริสขึ้นมา หยิบหลอดขึ้นมาก่อนจะจ่อไปที่ริมฝีปากของหมอหนุ่ม
“พี่หมอต้องเหนื่อยแย่เลยที่มาหั่นเนื้อสเต็กให้แบค แบคเข้าใจนะว่าพี่หมออยากดูแลแบค อะนี่แบคป้อนน้ำเป็นการตอบแทนนะฮะ” คริสอ้าปากรับหลอดดูดด้วยความงงงวยก่อนจะร้องอ๋อขึ้นในใจเมื่อมองตามสายตาคนตัวเล็กก็พบว่าดวงตาเรียวกำลังมองจิกไปด้านข้างที่มีหญิงสาวนั่งมองเขาอยู่
บยอนแบคฮยอน ... เด็กขี้หวงสินะ J
“อะนี่พี่หมอแบคป้อนสเต็กนะ อ้าม >O<”คริสยังคงมองท่าทางของคนตัวเล็ก ใบหน้าคมพยายามอย่างหนักที่จะปั่นหน้านิ่งทั้งที่อยากจะหลุดยิ้มและเสียงหัวเราะออกมาเสียเต็มประดา อ้าปากรับชิ้นเนื้อสเต็กที่คนตัวเล็กป้อน ทำไมเนื้อสเต็กรอบนี้มันหวานแปลกๆ แห๊ะ
“โอ๊ะๆ นี่ฮะเช็ดหน่อยๆ ปากเปื้อนหมดแล้วนะ”คนตัวเล็กพูดพลางหยิบทิชชูขึ้นมาเช็ดที่มุมปากเขาซึ่งชายหนุ่มก็ยื่นใบหน้าคมคายให้ความร่วมมือในการเช็ดปากอย่างเต็มใจ นัยน์ตาคมเหลือบมองด้านข้างอีกครั้งพบว่าหญิงสาวลุกออกจากโต๊ะไปเรียบร้อยแล้ว
“เขาลุกไปแล้วนะ J ”
“พะพี่หมอรู้หรอ - //// O //// -”
“แต่จะป้อนพี่อีกก็ได้นะ อร่อยดี J ”
ปากเล็กจิ้มลิ้มของแบคฮยอนเม้มเข้าหากันแน่นใบหน้าร้อนแดงเห่อจนรู้สึกลามไปถึงใบหู ยกนิ้วมือขึ้นเกาแก้มแก้เก้อ ก่อนจะส่งเสียงอู่อี้ออกมาแต่คริสก็ยังคงจับใจเนื้อความนั้นได้
“พี่หมออย่าไปทำแบบนี้กับใครนะรู้เปล่า เดี๋ยวมีคนมาชอบพี่หมอแบคไม่อยากมีศัตรูหรอกนะ”
“แต่แบคก็ยังชอบพี่อยู่ดี ... ใช่ไหมละ J ”
ใคร!!! ใครสั่งพี่หมอให้พูดจาน่าลากขึ้นเตียงแบบนี้ !!!! T/////O////T
“ยังไม่เคยพูดว่าชอบพี่หมอเลยนะ L ”
ต้องรู้จักหยิ่ง รู้จักเชิด รู้จักเล่นตัวเข้าไว้ อย่าให้พี่หมอรู้ทันความคิดเราเด็ดขาดนะแบคฮยอน !!!!
ถึงแบคจะเล่นตัวกับพี่หมอ ...
แต่ความจริงแล้วแบคอยากโดนพี่หมอมาเล่นบนตัวมากกว่านะ #แอร้ T////∇/////T
( - honey ♡ caramel - )
“ม๊าครับ ลู่หานละ”
“ยังไม่ตื่นเลย ตาฮุนขึ้นไปดูหน่อยสิ เดี๋ยวม๊าต้องทำกับข้าว”
ร่างสูงโปร่งของโอเซฮุนก้าวฝีเท้าเข้ามาในตัวบ้านของคู่หมั้นอย่างคุ้นเคย เดินขึ้นบันไดเข้าสู่ตัวห้องของลู่หาน ฝ่ามือหนายกขึ้นเคาะประตูสองสามทีก็ไร้วี่แววว่าเจ้าของห้องจะเปิดประตูต้อนรับจึงถือวิสาสะที่ตัวเองเป็นคู่หมั้นเปิดประตูเข้าไปทันที
นัยน์ตาคมหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อมองเห็นก้อนกลมๆอยู่บนเตียงนอน ยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาก็ต้องรู้สึกแปลกใจเมื่อเวลานี้ถ้าเป็นปกติลู่หานต้องตื่นขึ้นมาอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว สาวฝีเท้าเข้าประชิดตัวเขย่าก้อนผ้าห่มที่ห่อตัวคนตัวเล็กอยู่ด้านใน
“ลู่หาน”
“อื้อ”
“ตื่นได้แล้ว”
“อื้ม”
ถึงจะมีเสียงตอบรับแต่ก็ยังไร้วี่แววว่าคนตัวเล็กจะลุกขึ้นมา ร่างสูงดึงผ้าห่มที่ห่อกายเล็กออกรู้สึกฉงนเล็กน้อยที่วันนี้คู่หมั้นดูขี้เซาและดื้อรั้นผิดปกติ เมื่อได้เห็นใบหน้าอีกคนที่อยู่ภายใต้ผ้าห่มคิ้วเรียวก็ต้องยกขึ้นขมวดด้วยความฉงนหนักกว่าเดิม “ทำไมหน้าแดงแบบนี้ละ”
ฝ่ามือหนาเอื้อมสัมผัสแก้มใสก็ต้องสะดุ้งเมื่อรู้ว่าคนที่นอนอยู่ตัวร้อนรุมคล้ายจะเป็นไข้ ทันใดนั้นสัญชาตญาณของนักศึกษาแพทย์ก็เข้าสิงร่างสูงทันที
“ม๊าครับ ต้มน้ำอุ่นให้ผมด้วย เดี๋ยวผมจะไปหาผ้ามา ลู่หานเป็นไข้”เซฮุนเดินลงบันไดมาหาแม่ของคนตัวเล็กอย่างเร่งรีบก่อนจะบอกความต้องการของตัวเอง คนเป็นแม่เมื่อได้ยินว่าลูกชายคนเล็กเป็นไข้ก็เกิดอาการตกใจถามไถ่อาการอย่างร้อนรน
“ตายแล้ว หนูลู่เป็นยังไงบ้างตาฮุน เป็นอะไรมากรึเปล่า ม๊าต้องเรียกคริสมาไหม”
“ไม่ต้องหรอกครับ แค่ตัวร้อนรุมๆ เช็ดตัวทานยาก็หายแล้วครับ”
“ชะเช็ดตัว ?”
“ครับ ม๊าต้มน้ำเสร็จยัง ผมจะได้ไปดูลู่หาน”
“อะจ้ะจ้ะนี่ ...” เซฮุนคว้าถ้วยน้ำร้อนมาถือไว้พร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กเดินขึ้นด้านบนทิ้งให้คนเป็นแม่ยืนจับหน้าอกตัวเองด้วยความอึ้งตกใจ
“ชะเช็ดตัว ...”
“ว๊าย ทำไมคู่นี้ร้อนแรงกันจัง >____<”
เซฮุนทิ้งตัวหย่อนสะโพกนั่งลงข้างเตียงคนตัวเล็ก หยิบผ้าขนหนูบิดชุบน้ำมาดๆเช็ดตามใบหน้าเรียวที่มีความร้อนแผ่ออกมาอย่างแผ่วเบาก่อนจะเลื่อนลงต่ำเช็ดตามลำคอระหงส์พลันต้องสะดุดค้างเมื่อเจอเข้ากับปกคอเสื้อที่ถูกผูกติดด้วยเม็ดกระดุมของชุดนอน ถ้าเป็นคนไข้รายอื่นเขาอาจถอดเสื้อคนไข้ออกแล้วเช็ดตัวให้โดยไม่ต้องมีความลังเลใดๆ
แต่พอเป็นคนไข้รายนี้ทำไมถึงมือสั่นไปหมด ...
เซฮุนสูดลมหายใจเข้าลึกๆทำใจกล้าปลดกระดุมสองเม็ดบนออก นึกถึงจรรยาบรรณแพทย์ที่เขาเฝ้าเรียนมา แต่ทันใดที่แหวกเสื้อนอนของลู่หานออกเผยแผ่นอกขาวผ่องที่ชื้นเหงื่อคำว่าจรรยาบรรณแพทย์กลับปลิวหายวอดไปหมด
เสียงกลืนน้ำลายลงคอดังขึ้นเมื่อผ้าชุบน้ำที่เขาถืออยู่สัมผัสลงบนแผ่นอกบาง ร่างสูงปิดเปลือกตาลงเช็ดอย่างสะเปะสะปะก่อนจะติดกระดุมเสื้อเหมือนเดิม และเป็นอีกครั้งที่ชายหนุ่มต้องหายใจสะดุดเมื่อฝ่ามือหนาเลิกเสื้อนอนคนไข้จำเป็นขึ้นจนเห็นหน้าท้องน้อยๆ
ไม่รู้เมื่อไหร่ที่กายแกร่งเข้าใกล้ชิดร่างคนป่วยจนแทบเกยกัน ฝ่ามือหนาที่ถือผ้าชุบน้ำยังคงทำหน้าที่เช็ดร่างคนป่วยของมันต่อไป นัยน์ตาคมจ้องมองผิวเนื้อขาวอมชมพูที่รอดพ้นออกมานอกชายเสื้อพลันหัวใจต้องสั่นไหวรุนแรงอย่างน่าแปลกใจ
ยิ่งคิดถึงเหตุผลของหัวใจตัวเองที่กำลังสั่นไหวเหมือนเจ้าเข้าแบบนี้ยิ่งไม่เข้าใจในความรู้สึกตัวเอง ร่างสูงตัดสินใจหยุดความคิดนั้นลงพร้อมกับดึงชายเสื้อคนตัวเล็กให้เข้าที่ดั่งเดิมพลางยับยั้งอารมณ์ตัวเอง
อารมณ์ที่เขาไม่คุ้นเคยกำลังถาโถมเข้าใส่ไม่มีหยุด
ใบหน้าน่ารักที่เริ่มกลับมาขึ้นสีเพราะการดูแลของว่าที่หมอ ลู่หานกระสับกระส่ายเปลี่ยนท่านอนเล็กน้อยพลอยทำให้คอเสื้อนอนแหวกออกกว้าง ร่างสูงที่ยืนมองอยู่กลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดฝืน ความสั่นไหวที่เพิ่งดับมอดลงกลับถูกกระพือขึ้นอีกครั้ง จ้องมองลำคอขาวผ่องอย่างคิดวิตก
ถ้าเกิดว่ามีรอยที่มาจากเขาสักหนึ่งรอยจะรู้สึกดีแค่ไหนกันเชียว
เมื่อคำว่ายับยั้งชั่งใจที่เฝ้าเตือนตัวเองขาดสะบั้นลงร่างสูงของเซฮุนก็โถมกายเข้าหาร่างคนป่วยอีกครั้ง ก้มลงสูดดมความหอมที่ซอกคอขาวอย่างคนมัวเมา ฟันคมขบกัดเข้ากับลำคอขาวอย่างคนหักห้ามใจไม่อยู่กับสิ่งเย้ายวนใจตรงหน้า ขบกัดจนเกิดรอยแดงแล้วผละใบหน้าออกมองฝีมือตัวเองด้วยความภาคภูมิใจ
เขาจะคิดว่านี่เป็นมนต์วิเศษที่จะเสกให้อีกคนหายป่วยโดยเร็วละกัน
ใบหน้าคมเลื่อนขึ้นฝังริมฝีปากลงบนหน้าผากมนอย่างแผ่วเบา ประทับความอบอุ่นทิ้งไว้ให้ตราตรึงกับสัมผัสอ่อนโยนี้ก่อนผละออก
เมื่อหน้าผากสัมผัสกับความอบอุ่นเปลือกตาที่หนักอึ้งปรือขึ้นช้าๆ สิ่งแรกที่เห็นในม่านตาคือใบหน้าคมคายเคร่งเครียดของคู่หมั้นที่ลอยเด่นหรา
“เซ ... ” เสียงใสพยายามเปล่งออกมาจนจับใจความได้ยาก เซฮุนเมื่อได้ยินเสียงของคู่หมั้นก็หันใบหน้ามามองคนตัวเล็กที่ลืมตาขึ้นแล้วทันที
“เป็นไงมั่ง ลุกไหวไหม”
ลู่หานเพียงแค่พยักหน้าเป็นคำตอบเท่านั้นก่อนจะยันตัวนั่งพิงพนักหัวเตียง
“ตัวนายร้อน ฉันเช็ดตัวให้แล้วเดี๋ยวลงไปกินข้าวกินยาข้างล่างด้วย” เซฮุนขมวดคิ้วแน่นเมื่อเอื้อมฝ่ามือมาอังหน้าผากอีกคนก็พบว่าอุณหภูมิยังคงไม่ลดลง ลู่หานมองอาการอีกคนพลันต้องเผยรอยยิ้มออกมาอย่างไม่สามารถกลั้นได้
แบบนี้รึเปล่า ...
แบบนี้ที่เขาเรียกว่าเป็นห่วง
นิ้วมือเล็กเอื้อมไปแตะลงบนคิ้วเข้มของคู่หมั้นที่ขมวดขึ้นเป็นปมให้ผ่อนลง เซฮุนออกจากห้วงความคิดของตัวเองผันมามองใบหน้าอีกคนที่เลื่อนนิ้วขึ้นมาจิ้มลงบนคิ้วของเขาแทน
“คิ้วของนาย .. เป็นโบว์แล้ว” ลู่หานยิ้มออกมาเมื่อใบหน้าของเซฮุนดูเหวอ
“นายลงไปก่อน เดี๋ยวฉันตามลงไป” ลู่หานก้มลงมองสภาพของตัวเองพลันต้องแปลกใจกับรอยแดงที่ลำคอ รอยเล็กๆสีแดงเพียงจุดเดียวทำให้คิ้วเรียวสวยของลู่หานขมวดขึ้นด้วยความแปลกใจ บางทีเขาอาจจะเผลอไปเกาจนขึ้นรอยแดงตอนหลับรึเปล่า ?
เซฮุนที่เห็นว่าคู่หมั้นกำลังจ้องมองรอยแดงที่ลำคอเพราะฝีมือตัวเองเกิดอาการเลิ่กลั่กเล็กน้อยก่อนจะรีบจ้ำอ้าวก้าวเดินออกจากห้องนั้นตามคำสั่งของคนตัวเล็กทันที สาวฝีเท้าก้าวลงบันไดมุ่งตัวไปทางห้องครัว
“ตาฮุนลู่หานเป็นไงมั่ง ม๊าทำข้าวต้มเสร็จพอดีเลย” เซฮุนนั่งลงบนเก้าอี้ของโต๊ะอาหารเมื่อเดินเข้ามาเจอกับแม่ของคู่หมั้น
“ก็ดีขึ้นแล้วครับ เดี๋ยวก็คงลงมาทานข้าวทานยา”
“เฮ้อ ม๊าว่าแล้วว่าต้องป่วยจนได้” คนเป็นแม่พูดพลางนั่งท้าวคางถอนหายใจออกมา เซฮุนเหลือบสายตามองแม่คู่หมั้นด้วยความสงสัย เสี่ยวปิงเห็นดังนั้นจึงขยายความเพิ่ม
“ก็สองสามวันมานี้ม๊าเห็นลู่หานมัวแต่นั่งทำงานนะสิ แล้วเมื่อคืนก็คงทำจนเกือบเช้า ข้าวก็ไม่ยอมทาน รายนั้นหัวดื้อจะตายเราก็น่าจะรู้ดีนะตาฮุน” เธออธิบายอย่างปลงตกในนิสัยดื้อรั้นของลูกชายตัวเอง ที่ทำงานหามรุ่มหามค่ำจนไม่สนใจสุขภาพของตัวเองพลอยทำให้ร่างกายอ่อนเพลียจนป่วย
“ผมรู้ดีเลยละ เรื่องดื้อรั้นนะ”
ลู่หานสาวเท้าลงบันไดเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าทางเข้าประตูโค้งเชื่อมกับห้องทานอาหารขาเล็กหยุดชะงักเมื่อได้ยินแม่ตัวเองและคู่หมั้นกำลังจุดประเด็นคุยกันเรื่องตัวเขาเองอยู่
“เราต้องมาดูแลลู่หานแบบนี้เหนื่อยไหมลูก ม๊ารู้จักนิสัยลูกชายม๊าดี”
“หึหึ ไม่หรอกครับ”
“ถึงลู่หานจะดื้อ คิดอย่างใจอย่าง แต่เขาเป็นคนที่ใจดีมากๆนะ”
“เรื่องนั้นผมพอทราบครับ”
“ถึงปากจะว่าจะด่ายังไง แต่ในใจลู่หานไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก เอาเข้าจริงเป็นเด็กที่ขี้ใจอ่อนด้วยซ้ำ”
“ผมเห็นด้วยเลยครับม๊า”
เสี่ยวปิงและเซฮุนต่างหัวเราะออกมาเมื่อพวกเขาคิดเหมือนกัน คนที่แอบฟังอยู่ด้านหลังเบ้ปากลงเล็กน้อย นึกอยากเดินเข้าไปแทรกกลางแล้วบอกว่าได้ยินน่ะที่พูดนะ
“เหนื่อยแย่เลยสินะ เรียนก็หนักต้องดูแลเด็กดื้ออย่างลู่หานอีก”
“ครับ แต่ผมว่า..”
คนที่ยืนหลบอยู่ด้านหลังตั้งใจฟังด้วยใจจดใจจ่อกับคำพูดของคู่หมั้นที่จู่ๆก็ขาดช่วงไป
“เขาก็น่ารักดีไม่ใช่หรอ J ”
บางทีผมอาจต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลหน่อยแล้วละ รู้สึกว่าไข้มันจะกลับมาพุ่งปรี๊ดอีกแล้วแห๊ะ #ยกมืออังหน้าผากตัวเองแล้วถอนหายใจออกมา
♥♥♥
( - เขาก็น่ารักดีไม่ใช่หรอ ♥ -)
สปอยchapter eleven
“ถ้านายอยากจะอยู่กับเขามากจนผิดคำพูดกับฉัน”
“ไม่นะเซฮุนฮึก”
“ก็ไปอยู่กับเขาเถอะ...”
{ - AS FOR TALK &
สวัสดีเรามาพบกันอีกแล้วนะ (.___. ) ตอน11 คืออะไรหยอ อิอิอิอิอิอิอิอิอิ #หัวเราะชั่วร้ายสุดๆ
คนที่คุณก็รู้ว่าใครกำลังมา ... ฮื้ออออ อย่าว่าพี่ซูโฮของเลานะ !!!!!!!!!!!!!!!!!
ตอนนี้ลู่หานไม่สบายยยยยยยยยยย ตอนหน้าจะหายดีไหมก็ไม่รู้ววววววววววว
ส่วนเซฮุนก็แหม ... จรรยาบรรณแพทย์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ลืมไปหมดละว่าคืออะไร
ร้ายนะคะคุณ 555555555555555555555555
เราเชื่อว่าทุกคนคงดูออกแล้วว่าฮุนฮานเขาเริ่มมีใจให้กันแล้ว เขาเริ่มเข้าหากันแล้วงิงิ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้น ขอบคุณสำหรับวิว ขอบคุณสำหรับเอฟซี ขอบคุณสำหรับ #ฮนครม
ขอบคุณทุกกำลังใจเลย รักทุกคนนะ <3 อยากอ่านตอน11เร็วๆก็รีบเม้นนะๆๆๆ เจอกันตอนหน้านะคะ !!!!
ฝาก ฟิค เรื่อง ใหม่ http://writer.dek-d.com/gingggg/story/view.php?id=1056456 (#ficalmond)
ให้ความสนับสนุนฟิคอีกเรื่องของเราเหมือนที่สนับสนุนฮันนี่คาราเมลด้วยนะคะ ^^
ความคิดเห็น