ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    note of life

    ลำดับตอนที่ #1 : บทเริ่มบันทึก

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ค. 57




                    27 เดือน4ปี17XX

     

    จู่ๆเสียงระเบิดก็ดังขึ้นพร้อมแรงอัดกระแทกที่ทะลวงกำแพงบ้านเข้ามา ร่างของฉันกับพ่อแม่กระเด็นตามแรงไปอยู่อีกฟากอย่างไม่ทันตั้งตัว หลังจากที่กำลังงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นฉันได้ยินเสียงอึกทึกจากภายนอกผ่านช่องกลวงโบ๋วของผนังนั่นแต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้นก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลงทว่าภาพตรงหน้าที่เห็นยังคงวุ่นวาย แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะเงียบแบบนี้ นี่อาจเป็นอาการที่เรียกกันว่า หูดับ

    ฉันยกมือขึ้นจับใบหู ความรู้สึกกลัวคืบคลานเข้ามาทันทีเพราะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ฉันมั่นใจว่าระเบิดเมื่อครู่เป็นของพวกชุดน้ำตาลแน่ๆ ซักพักก็มีมือมาฉุดให้ฉันลุกขึ้น แม่พยายามพูดอะไรบางอย่างพร้อมกับเขย่าตัวฉันไปด้วย ฉันไม่เข้าใจเพราะไม่ได้ยิน แม่ดูกระวนกระวายมากไม่ต่างจากพ่อที่กำลังหาอะไรบางอย่างอยู่แถวๆโต๊ะทำงานที่กระเด็นคว่ำอยู่ ฉันมองออกไปข้างนอก ชาวบ้านวิ่งพล่านเต็มไปหมด ผู้หญิงบางคนกำลังร้องไห้อุ้มลูกอ่อนปนไปกับกลุ่มคนพวกนั้น

    แล้วเราจะไปกับพวกเขามั้ย ฉันถามโดยที่ไม่รู้ว่าแม่จะได้ยินรึเปล่า แต่คงจะไม่ได้ยินหรอกแม่เองก็คง

    จะหูดับเหมือนกัน ฉันก็เลยชี้ออกไปข้างนอกแทนแต่ดูแล้วเธอจะไม่ได้สนใจคนพวกนั้น น้ำตาค่อยๆไหลลงข้างแก้ม ฉันชะงักเมื่อได้เห็นรู้สึกตัวอีกทีก็เข้ามาอยู่ในตู้เสื้อผ้าแล้ว แม่จูบหน้าผากฉันเบาๆก่อนจะปิดตู้ ฉันพยายามทุบและผลักแต่ไม่สามารถออกไปได้ มีเพียงแสงที่เข้ามาจากช่องระหว่างประตูตู้ทำให้เห็นเส้นเชือกที่มัดพาดอยู่

                    เสียงตะโกนร้องเรียกของฉันไร้ความหมาย ไม่นานนักฉันก็เห็นพวกชุดน้ำตาลเดินเข้ามาในบ้านประจันหน้ากับพ่อและแม่ ฉันไม่สามารถมองเห็นได้ทุกส่วน ไม่รู้ว่าพวกเขาพูดอะไร แล้วเลือดก็สาดกระเซ็นเต็มผนังบ้านพร้อมกับพวกนั้นที่เดินออกไป ฉันไม่ได้ยินแต่ฉันเห็น ฉันอึ้ง ฉันกลัว ฉันเลิกทุบตู้ น้ำตาไหนนองกับภาพตรงหน้าที่เห็น ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ช่องเล็กๆ

    พ่อกับแม่..ตายแล้ว...

    .

    .

    .

    เสียงเรียกแผ่วๆที่เริ่มดังขึ้นพร้อมกับบางอย่างอุ่นๆสัมผัสที่แก้ม ฉันปรือตาขึ้นเล็กน้อยแล้วยกมือบังแสงที่แยงตาเข้ามา ตู้ที่ขังฉันไว้ถูกเปิดออกตรงหน้ามีร่างของหญิงอ้วนท้วมที่คุ้นตา เธอคือเอ็มม่าคุณป้าข้างบ้าน

                    เบล ได้ยินฉันมั้ย

                    “ค่ะ”  ฉันขมวดคิ้วมึนงงว่าตัวเองมาทำอะไรอยู่ในนี้ ก่อนจะลุกพรวดออกจากตู้ทันทีที่จำได้

    ฉันทรุดตัวลงเริ่มร้องไห้ อยากจะขอให้ตัวเองแค่กำลังฝัน มันเป็นฝันร้ายมากๆ ร่างที่กองอยู่บนพื้นตรงหน้ามีคราบเลือดติดกรังเต็มไปหมด

     เอ็มม่าเข้ามากุมไหล่ฉันเบาๆจากข้างหลัง

                    คุณรู้ได้ยังไงว่าหนูอยู่ในนั้น

    ผู้หญิงคนนั้นไม่ตอบ เพียงแค่ส่งกระดาษแผ่นเล็กๆมาให้ ฉันอ่านข้อความในนั้นแล้วเริ่มร้องไห้อีก

                    “เมื่อวานฉันเข้าไปในตัวเมือง ไม่คิดว่ากลับมาหมู่บ้านจะกลายเป็นสภาพแบบนี้ฉันเลยมาหาโซเฟียแต่…

    เอ็มม่าเงียบไปพอพูดถึงแม่ ทั้ง2สนิทกันแม่คงรู้ว่าเอ็มม่าจะต้องมาหาแน่ๆเลยเขียนข้อความทิ้งเอาไว้ ทำไมนะ ถ้าเป็นแบบนี้ให้ฉันตายในตู้นั้นไปพร้อมกับครอบครัวเลยดีกว่า ไม่ต้องให้มีคนมาเจอก็ได้

                    มาเถอะ สามีฉันกำลังเก็บของ เราจะออกจากเมืองนี้กัน”  เธอพูดแล้วจูงมือฉันเดินไป หน้าบ้านของเธอมีรถม้าคันสีดำและสัมภาระมากมายดูท่าสามีของเธอจะเก็บของเสร็จพอดี

                    โซเฟียกับนิคล่ะ”  เขาถามเสียงเรียบหลังจากที่เห็นเอ็มม่าพาฉันมาแค่คนเดียว เอ็มม่าเพียงแค่ส่ายหัวส่วนฉันพยายามกัดปากตัวเองไม่ให้ร้องอีก ฉันไม่อยากร้องให้ใครเห็น

                    พวกคุณจะไปไหนกัน”  ฉันเอ่ยปากถามเอ็มม่า

                    ไปเมืองหลวง ไปบ้านของแม่ฉัน”  ผู้ชายคนนั้นตอบแล้วกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง เอ็มม่าพากลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้าน ฉันหยิบเสื้อผ้ามา2-3ตัวกับนาฬิกาล็อกเก็ตทองเหลืองของพ่อติดตัวมาด้วย นั่งลงกอดร่างของพ่อกับแม่ครั้งสุดท้ายก่อนจะออกไป

    พวกเราขึ้นนั่งบนรถม้าโดยที่สามีของเอ็มม่าเป็นคนคุมม้าอยู่นอกตัวรถ ฉันนั่งนิ่งอย่างนั้นจนกระทั่งรถออกตัวไปได้ซักพัก

                    เอ็มม่า หนูมีเรื่องอยากจะขอ…”

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    มาแปะบทนำไว้ก่อน พอย้อนกลับไปอ่านแล้วกิลรู้สึกว่าสำเนียงในการเขียนเรื่องนี้กับเรื่องของฮันเตอร์เปลี่ยนไป QAQ ต้องพยายามกลับมาสไตล์นี้แล้วสินะคะ อ๊าาาาา

    /กลับไปฝึกใหม่

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×