เจ็บ..จำ..ทำ..คืน
เธอรักเค้า...ความรักที่ไม่มีใครอยากฟังกับคำตอบที่ใครๆไม่อยากได้ยินเช่นกัน...ผมไม่ได้รักคุณ แต่เธอก้อกลับมา...ทำให้คนนั้นหลงรักเธอ
ผู้เข้าชมรวม
262
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
.....ภัทรศยานั่งอ่านข้อความอย่างเหม่อลอย เธอตั้งใจจะเขียนข้อความนี้ให้ชายหนุ่มที่เธอแอบชอบ โดยที่ทุกครั้งภัทรศยาจะนำดอกกุหลาบสีแดงสดไปวางไว้ที่ล็อกเกอร์ของเขา พร้อมกับการ์ดกลิ่นหอมหวานเป็นประจำ เธอทำอย่างนี้มาตั้งแต่เธออยู่ม.5 เพราะชลธีเป็นเด็กที่เพิ่งย้ายมาจากที่อื่นเข้ามาเรียนห้องเดียวกับเธอ เขาเป็นเด็กหนุ่มที่หน้าตาหล่อ ขาว ตี๋ จนเป็นที่จับตามองของใครหลายๆคน แล้วหนึ่งในนั้นก็ต้องเป็นภัทรศยา
ด้วยฉายาที่เพื่อนๆต่างเรียกเธอว่า ยัยถังแก๊ส ทำให้เธอคิดน้อยใจในปมด้อยของตนเองจนไม่กล้าที่จะบอกความในใจออกไปให้คนคนนั้นรู้ได้
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ภัทรศยาจะต้องส่งดอกกุหลาบให้กับคนคนนั้น แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
โครม ชลธีวิ่งชนภัทรศยา
และทันใดนั่นเอง ดอกกุหลาบสีแดงสดกับการ์ดกลิ่นหอมกระจัดกระจายหล่นอยู่ที่พื้นด้านหน้าของชลธีชายหนุ่มรูปงาม
เพื่อนของชลธีรีบหยิบการ์ดใบนั้นขึ้นมาอ่านทันที แล้วบอกกับชลธีว่า เฮ้ย! ไอธี ยัยถังแก๊สมันแอบชอบแกวะ นึกว่าสาวที่ไหนแอบส่งดอกไม้กับการ์ดมาให้แกทุกวัน ที่แท้ก็ยัยอ้วนนี้เอง
ว้า...
ในเวลานั้นทุกอย่างเงียบสงัด ความอับอายเข้ามาหาเธออย่างเฉียบพันจนเธอแทบอยากมีเวทมนต์เสกให้ตังเองหายไปจากตรงนี้เลย
แต่ชลธีกับไม่สนใจแล้วพูดอย่างหน้าตาเฉยว่า ไร้สาระวะ ไปเหอะ
คำพูดและน้ำเสียงที่ไม่มีแม้แต่เยื่อใยความเป็นเพื่อนหรืออะไรเลยในตัวเธอ มันยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดนี้ให้ลึกลงไปลึกจนถึงห้วงหัวใจของเธอ ภัทรศยาเสียใจมาก เธอร้องไห้วิ่งหนีไปทั้งน้ำใสๆที่กำลังรินจากตา
ในที่สุดเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นเธอกลับมาอีกครั้งด้วยสภาพหน้าตาเหมือนซากศพเดินได้ เธอเดินเหลือบไปมองบอร์ดที่มีคนมุงดูนับสิบ
ปรากฏข้อความสั้นๆประโยคหนึ่งว่า ถังแก๊สแอบรักเทพบุตรรูปงาม และเทพบุตรรูปงามคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้
นอกจากเขา...คนเดิม
ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วโรงเรียน ทุกคนต่างต่อว่าดูถูกและรังเกลียดเธอ
เธอหนี หนีจน....
ไอธี แกคิดยังไงกับยัยถังแก๊สวะ ภัทรศยายืนหยุดตัวแข็งที่หน้าห้องน้ำชาย กูไม่ได้คิดอะไรนี่ว้า อ้วนก็อ้วน แถมยังไม่สวยอีก ใครจะไปชอบลงวะ เสียงชายคนนั้นดังขึ้น เสียงที่เธอไม่อยากได้ยินในตอนนี้
นับจากวันนั้น....ไม่มีใครรู้เลยว่า เธอไปอยู่ที่ไหน เธอยังอยู่อีกหรือเปล่า มันเป็นคำถามที่คงไม่มีใครที่จะอยากหาคำตอบ
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
......หลังจากชลธีเรียนจบมัธยมปลาย เขาสอบเข้าที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดพิษณุโลก คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์เป็นคณะที่เขาเลือกที่จะมาเรียนต่อ ที่เพิ่งจะมีตึกของคณะเป็นของตนเอง ตึกนี้อยู่ใกล้กับหอสมุดแหล่งรวบรวมความรู้ที่ทุกคนฝักใฝ่ บนโถงชั้นล่างล้วนเต็มไปด้วยผลงานฝีมือของเหล่าบรรดาเด็กศิลป์ที่สร้างสรรค์ความคิดออกมาเป็นรูปธรรม และแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นมีผลงานชลธี เด็กศิลป์เพลย์บอยคนนี้และด้วยความที่เขาเป็นคนรักสนุก เฮฮา ชอบเที่ยวและมั่วผู้หญิง เขาจึงยังคงความเป็นโสดและสนุกกับชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆ
“เที่ยงตรง” นาฬิกาทุกคนบอกเวลา ผู้คนแออัดทุกคนต่างคนต่างมุ่งหน้าสู่โถงใหญ่ใต้ตึกใหม่ ที่ที่เราจะบรรเทาอาการหิวโหยจากการที่ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่ตื่นนอนมา ร้านค้าหลากหลายพร้อมทั้งอาหารนานาชนิดที่คัดสรรมาให้นิสิตได้เลือกรับประทานกัน ชลธีกับเพื่อนมองหาโต๊ะที่นั่งของวันนี้ และแล้วเขาก็ได้ที่ศาลานั่งเล่น ที่ที่ลมพัดเย็นสบาย แวดล้อมไปด้วยเสียงของธรรมชาติ
เพล้ง!! เสียงจานหล่นกระทบพื้นอย่างดังสนั่น
“ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ” ชลธีพูดขึ้นโดยยังไม่ทันเห็นคู่กรณี
“ไม่เป็นไรค่ะ”หญิงสาวคณะพยาบาลบอกกับชายหนุ่มผู้นั้น
ชลธีเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงหวานนั้นทันที เขาตะลึงในความงามของเธอ เธอสวยมาก สายตาคู่นั้นของชลธีทำให้หญิงสาวหน้าแดง เขินจนไม่กล้าพูดอะไรอีก
....เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชลธีเริ่มคิดจะรักใครสักคนด้วยความจริงใจและจริงจัง การคบกันของเขาและเธอสานต่อความสัมพันธ์กันไปจนกระทั่ง....
.....ที่ห้องของภัทรวดีแฟนสาวของชลธีคนนั้น นี่คือการมาห้องของแฟนสาวครั้งแรกตั้งแต่คบกันมานับปี ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ฝังแน่น จนชลธีอยากทะนุถนอมและรักษาเธอไว้ไม่ให้บอบช้ำเหมือนผู้หญิงคนที่แล้วมา
รูปหญิงสาวสมัยมัธยมปลายที่ทั้งอ้วน ทั้งดำ และหน้าตาอัปลักษณ์ ใส่กรอบสีสดใสวางอยู่ข้างหัวเตียงเธอ เขามองอยู่สักครู่ใหญ่จนเอ่ยถามภัทรวดีคำหนึ่งว่า
“ใครครับ ภัทเหรอ” ถามด้วยเสียงใสแกมหัวเราะยิ้มเย้ย
“ทำไมเหรอ รู้จักเธอด้วยเหรอ” เธอตอบ
“เปล่าคับ” เขาตอบอย่างตะกุกตะกัก แต่คิดในใจว่าทำไมภัทรู้จักกับยัยถังแก๊สคนนั้นด้วย
ภัทรวดีขยี้ปากชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เขาเอ่ยถามอะไรออกมาอีก ทั้งคู่ค่อยๆบรรจงเริ่มบทรักและช่วยกันสานต่ออย่างอ่อนโยนด้วยความรัก จนจบ...
ทั้งคู่นอนอย่างเหนื่อยล้า ภัทเอ่ยถามชลออกมาว่า “ถ้าคนในรูปเป็นภัท คุณจะเชื่อไหม”
“บ้าสิ” “ยัยนั้นขี้เหร่ขนาดนั้น จะเป็นคุณได้ไงคับ” เขาตอบอย่างไม่คิดอะไร
“ภัทไปทำศัลยกรรมมา ไม่เชื่อเหรอค่ะ” เธอพูดด้วยความสนุก
“สวยขนาดนี้ หมดไปเยอะละสิ พอๆไปอาบน้ำเถอะไร้สาระหนะ” ชลหงุดหงิดนิดหน่อยที่เธอพูดอะไรออกมาเพ้อเจ้อ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ภัทรวดีลุกขึ้นทันทีด้วยความโกรธหลังได้ยินคำสุดท้ายของชลว่า “ไร้สาระ” หัวสมองเธอคิดถึงแต่อดีตที่เขาทำไว้ มันคงยังฝังลึกแน่นอยู่ในส่วนลึกของเธอ
“ยัยอ้วนคนนั้นหนะ ฉันเอง” “แกจำไม่ได้เหรอ คนที่แกบอกว่าอ้วนก็อ้วน แถมยังไม่สวยอีก ใครจะไปชอบลง” น้ำเสียงเริ่มเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
“ไม่...ไม่จริง อย่ามาล้อเล่นน๊า” เขาตอบอย่างตกใจ
“ฉันนี่แหละยัยถังแก๊ส” “คนที่แอบชอบแก ส่งดอกไม้ให้แก” “แล้วเพื่อนแกก็เอาไปประจานจนฉันอยู่ที่นั่นไม่ได้ไง” “จำไม่ได้เหรอ” “ฉันต้องทนเจ็บปวดมาตลอด แกเคยรู้บ้างไหม”
ทั้งคู่อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่มืดสนิทมีเพียงแสงเล็กๆจากโคมไฟหัวเตียงของเธอท่ามกลางความเงียบ ชลธีตั้งสติแล้วพูดช้าๆกับภัทว่า “นี่มันอะไรกัน” “คุณทำอย่างนี้ทำไม”
“คุณ.......ไม่รักฉัน......” “ฉันต้องเจอกับอะไรมาบ้าง คุณรู้ไหม ฉันต้องทนให้เขามัดมือมัดเท้าแล้วยึดตัวอยู่บนเตียง รอให้เขาเอามีดมากรีดหน้าฉัน หมดเงินไปเท่าไร กว่าจะทำให้ฉันสวย” “ฉันรอวันนี้มานานแล้ว วันที่คุณกลับมารักฉันไง” ภัทพูดทั้งน้ำตาแล้วโผล่เข้ากอดชลธีทันที
ด้วยความรักที่ชลธีมีให้กับภัทรวดี มันยิ่งใหญ่จนทำให้เขามองไม่เห็นความผิดที่เธอไปทำศัลยกรรมเรื่องที่ผู้ชายทุกคนเกลียดที่จะให้ผู้หญิงที่เขารักไปทำมากัน ของแท้ต้องดีกว่าเทียมอยู่แล้ว เขาพร้อมจะให้อภัยกับเธอได้เสมอ
เขาโอบเธอและกระซิบเบาๆที่ข้างหูเธอว่า “ผมรักคุณมากนะครับ”
ภัทยิ้มอย่างมีเล่ห์แล้วพูดว่า “ฉันรอวันนี้มานานแล้วค่ะ รอมานานมากๆๆ” “ขอบคุณนะคะ”
“เราเลิกกันเถอะ”
“ฉันไม่เคยรักคุณเลย”
....ประโยคที่คู่รักคู่ไหนๆก็คงไม่อยากได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยขึ้นมา มันเป็นการทำร้ายและทำลายความรัก ความผูกพันของชลธีลงอย่างเยือกเย็น นี้เป็นบทสนทนาสุดท้ายที่ทั้งคู่ได้คุยกัน ก่อนชลธีจะ.....
“จะไม่มีอะไรพรากเราจากกันไปได้”
ชลธีกำลังลากร่างไร้วิญญาณเข้าไปในห้องน้ำ เขาใช้มีดคมกริบค่อยๆ บรรจงกรีดลงบนเรือนร่างของหญิงสาว พร้อมกับจูบและสัมผัสเรือนร่างที่เต็มไปด้วยความงามของเธออย่างทะนุถนอมด้วยความรักที่เขามีให้เธอ เขาเริ่มหั่นเธอเป็นชิ้นเล็กๆ ชิ้นแล้วชิ้นเล่าจนไม่เหลือเรือนร่างของหญิงคนนั้นที่อยู่ซึ่งตรงหน้าของเขาแม้แต่เส้นผมของเธอ เขาค่อยๆจัดการนำชิ้นส่วนต่างๆใส่ถุงดำอัมพรางศพอย่างเยือกเย็น
ตี 3 ของวันนั้นชลธีจอดรถบนสะพานข้ามแม่น้ำน่านแห่งหนึ่ง เขาโยนอุปกรณ์การทำลายศพพร้อมชิ้นส่วนของศพลงในแม่น้ำ เขายิ้มด้วยความรักและพูดว่า
“ผมรักคุณนะ”
แล้วจู่ๆเสียงหวอสัญญาณจากรถตำรวจก็ดังขึ้น เป็นระยะๆ
“คุณถูกจับแล้ว มอบตัวซะ” ตำรวจล้อมและจับชลธีไปอย่างง่ายดายเหมือนเขารู้ตัวอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว ว่ามันจะจบลงอย่างนี้
....ณ สถานบำบัดแห่งหนึ่ง มีแต่ผู้ที่ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตมารักษาตัว ชลธีถูกส่งตัวมารักษาที่นี้เช่นกัน จากเหตุการณ์ทั้งหมดทำให้เขากลายเป็นคนบ้า คลุ้มคลั่ง และเสียสติ เขาถูกมัดมือมัดเท้านอนอยู่บนเตียงในห้องสีขาวเพียงลำพัง
“ฉันขอโทษค่ะ”
ภัทรวดียืนมองชลธีด้วยความสงสารปนด้วยความโกรธแค้นอยู่ที่หน้าห้องผู้ป่วยทางจิตหมายเลข 202 เสียงหวานของหญิงสาวที่ชื่อ ภัทรวดีดังขึ้นอีกครั้ง
ตำรวจได้ชันสูตรศพแถลงข่าวว่า ศพเป็นหญิงสาว อายุราว 22 ปี เป็นนิสิตคณะพยาบาลศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยเดียวกับนายชลธีฆาตกร เหยื่อถูกรัดที่คอจนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตลงในที่สุด ทราบชื่อแล้วคือ นางสาวโชติการณ์ งามศักดิ์ ในญาติมาติดต่อรับศพได้ที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย
ชลธีเสียใจมากที่ภัทรวดีบอกตัดขาดความสัมพันธ์อย่างสิ้นเชิง จึงกระโดดหอพักจากห้องของภัทราวดีลงมา แต่เขาถูกนำส่งโรงพยาบาลไว้ได้ทัน เขาจึงปลอดภัย ตั้งแต่นั้นมาเขาได้รับความกระทบกระเทือนทางจิต เกิดอาการคลุ้มคลั่งจนเกิดการฆาตรกรรมพยาบาลสาว รัดคอพยาบาลคนนั้นด้วยสายน้ำเกลือ แล้วหั่นศพเป็นชิ้น นำไปโยนทิ้งที่สะพานแม่น้ำน่าน พยาบาลคนนี้จึงเป็นเหยื่ออีกรายของเหตุการณ์ความรักครั้งนี้
.............ภัทรวดีเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้หลุมศพของน้องสาวเธอฟัง.......
ผลงานอื่นๆ ของ 00ด๊อกแด๊ก00 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ 00ด๊อกแด๊ก00
ความคิดเห็น