ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หนุ่มซ่า สาวแสบ รักแบบ 100%

    ลำดับตอนที่ #4 : ตู้ล็อกเกอร์กับการต้อนรับนายสี่ตัว 2

    • อัปเดตล่าสุด 31 ธ.ค. 48


      ตอนนี้เราสี่คนกำลังจัดการกับจดหมายเหล่านั้นลงไปในถังขยะอย่างสวยงาม  และมันก็สวยงามมากด้วย

    “ เฮ้อ  เออแก  เราจัดการมันตอนไหนดีละ” ฉันถาม



    “ ตอนเย็นดิไอกวาง  ถามมาได้” ปาล์มว่า



    “ แกอะแหละ  ตอบมันไปได้  ก็ตอนเย็นอะเราต้องซ้อมแล้วแกอะจะจัดการมันตอนเย็นได้ไง” แก้วว่า



    “ ลืม”



    “ เอาเป็นตอนเที่ยงดีมั้ย”ไผ่เสนอ



    “ ก้คิดว่าคงต้องเป็น งั้นแหละ” แก้วตอบ



    “ เออ  พูดอยู่ได้  เข้าเรียนได้แล้ว  เข้าช้า เดี๋ยวแม่ก็ได้ว่าหรอก”  แม่เนี่ย  คืออาจารย์ที่ปรึกษานะคะ



    “เออใช่  ดนตรีนี่หว่า”

    แล้วเราสี่คนก็ออกเดินทางจากโต๊ะม้าหินอ่อนในโรงยิมมาที่ตึกดนตรี

      # ณ ห้อง 204 ตึก 2  เวลา 10.30น.

    “ อาจารย์สวัสดีคะ” เราสี่คนทักทายอาจารย์



    “ อืม  เร็วเข้ารีบนั่งซะ” พวกไอสี่ตัวนั่นมองเราสี่คนอย่างงงๆว่าทำไมอาจารย์ไม่ว่า



    “ ค่ะ ^_^  แม่”



    “ แล้ววันนี้ซ้อมด้วยนะ กวาง แก้ว ปาล์ม  ไผ่”



    “ ค่า”



    “ เอ้า  วันนี้ ครูจะให้ศึกษาเครื่องดนตรีกันไปก่อนนะ   วันนี้ครูไม่ว่าง  เอ้อแล้วก็  แยกซ้อมนะ  หญิงห้องนี้  ชายไปห้อง 210  นะ  เอ้า แยก”

    หลังจากแม่พูดจบ   พวกผู้ชายก็ออกเดินทางไปเตร็ดเตร่ที่ห้อง 210  



    “ นี่พวกเรา  ใครอยากดูกวาง  แก้ว  ปาล์ม  ไผ่ ร้องเพลงบ้าง”  แป้งคนเดิมนั่นแหละคะ



    “อยากๆ  เล่นสิ เล่นเลย ”



    “ ได้ดิ  ^_^  ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เนอะ” ปาล์มพูด



    “ เออ”



    “  เอาเพลงไรดีละ” แป้งถามในขณะที่เรามี่คนเดินไปประจำที่เครื่องดนตรี

    ฉัน - - -> เบส    แก้ว - - ->กลอง    ปาล์ม - - - >กีตาร์     ไผ่ - - -> ร้องนำ

    “ เอา  กอดฉัน ของ   ของ  ของใครว้า  เออช่างเหอะ  เอากอดฉันเนอะ”  แป้งถามเพื่อน



    “ กอดฉันน่ะ  ของโมเมจ๊ะ   ไม่ใช่ของใครว้า” แก้วว่า



    “  เอากอดฉันนั่นแหละ”



    “ ได้” ไผ่ว่า แล้วฉัน  ปาล์ม ก็เริ่มดนตรี  ส่วนไอแก้วก็ไปช่วยร้อง เพราะเพลงนี้ไม่ค่อยมีกลอง  

               ส่วนไอไผ่ก็เริ่ม แหกปาก  เหอ  ไม่ใช่คะ อ้าปากร้องเพลง



    “           อยากจะขอเวลาสักนิดเป็นครั้งสุดท้าย  แค่อยากรู้ว่าเธอยังรักรักกันอยู่ไหม  

    ไหนเคยบอกว่ารัก  ถ้ารักแล้วทำไม เธอดูไม่ค่อยห่วงใยฉันเลย      

                  นานแค่ไหนแล้วที่ฉันเหงาเดียวดายอย่างนี้  ถ้าอย่างนี้ยังเรียกว่ารักยังไงอยากรู้  

    ต้องการจบแค่นี้  หรืออยากมีฉันอยู่  ช่วยทำให้ฉันรู้ถ้ายังรักกัน  

                กอดฉัน ก่อนมันจะสายเกินไป  โอกาสสุดท้ายที่เธอจะมีในวันนี้  

    กอดฉัน ถ้าไม่อยากให้ทุกนาทีที่มี  กลายเป็นแค่นาทีแห่งความทรงจำ

               อยากจะถามว่าเธอจะคิดยังไงกับฉันสิ่งที่ฉันต้องการจะพูดก็มีแค่นี้  

    ถ้าไม่กอดฉันไว้ ก็จากไปซะที  ถ้าฉันมันไม่ดีก็แล้วแต่เธอ

               กอดฉัน ก่อนมันจะสายเกินไป  โอกาสสุดท้ายที่เธอจะมีในวันนี้  

    กอดฉัน ถ้าไม่อยากให้ทุกนาทีที่มี  กลายเป็นแค่นาทีแห่งความทรงจำ

              อยากจะถามว่าเธอจะคิดยังไงกับฉันสิ่งที่ฉันต้องการจะพูดก็มีแค่นี้  

    ถ้าไม่กอดฉันไว้ ก็จากไปซะที   ถ้าฉันมันไม่ดีก็แล้วแต่เธอ



      ถ้าไม่อยากกอดฉันแล้ว  ก็จากไปซะที  อย่าทำอย่างนี้ ถ้ายังอยากรักกัน     ”



    “ เพราะอะ  เพราะมากๆเลย   เห็นซ่าๆทำให้เราไม่ค่อยได้เรียนแต่จริงๆ เก่งตั้งหลายอย่างนะเนี่ย  แถมนิสัยก็ดีด้วย” ไอคนที่พูดก็คนเดิมนั่นแหละคะ   ไอแป้งนั่นเอง



    “ จะถือว่าเป็นคำชมที่ดีก็แล้วกันนะ  ”  ฉันว่า



    “ แล้วแต่กวางสิ  ” แป้งว่าเสียงเศร้าๆยังไงไม่รู้สิ



    “ นี่ไผ่  แป้งขออีกเพลงได้ปะ  แบบว่ากะลังอักหก( อกหักอะคะ ไอแป้งมันเงี่ยแหละ เว่อร์ )อะ” ว่าแล้วเชียว



    “ เพลงไรละ”



    “ เลิกกันเถอะ” ท่าจะแรงซะด้วย



    “ โห  เพลงนี้เลยหรอ  อะได้ๆเห็นว่าอกหักอยู่นะเนี่ย”



    “ ไอแก้ว  ไปประจำที่ดิวะ”



    “ มันมีกลองด้วยหรอ”



    “ มีไม่มี  แกก็ไปเฝ้ากลองของแกนู่น”



    “ ไปก็ได้วะ  (แม่งเอ้ย ) ไล่อยู่นั่นแหละ  ไอไผ่ใจร้ายมีไฝเม็ดโต” แก้วว่า  จริงๆมันไม่มีไฝเลยต่างหาก



    “ ไอบ้านี่  วอนซะแ / ร้องได้ยังอะ”  เมื่อเธอโดนตวาดก็เริ่มร้องเฉยเลย



    “        เมื่อเธอไม่เหมือนไม่เหมือนเคย  เมื่อเธอไม่เหมือนเดิม  ดูเธอไม่รักกันเหมือนวันเก่า  

    ในวันที่แรกเจอ  ในวันที่พบเธอ  ยังยอมให้ฉันได้ทุกที

            แต่วันนี้ดูเปลี่ยนไป  เป็นเพราะใจเธอเปลี่ยนแปลง  พอฉันรุนแรงเธอก็รุนแรงขึ้นอีก  

    ไม่เคยคิดจะใส่ใจก็ชวนทะเลาะกันทุกที   ไม่อยากจะเป็นอย่างนี้อีกแล้วเธอ

            (ให้เรา) เลิกกันเถอะ  เลิกกันเถอะ  เลิกกันเลิกกันเถอะ  เลิกกันเถอะ  เลิกกัน  ฉันไม่ทนอีกแล้วพอนะคนดี  

          (ให้เรา) ทิ้งความสุขเมื่อวันเก่า  ลืมเรื่องราวจบกันซักที  จะคิดซะว่าฉันโชคไม่ดี  ที่ได้มาพบเธอ

          ในความต่างของเรา  ในความต่างของใจ  ทำเราสองคนยิ่งไกลห่าง   ที่เคยอยู่ใกล้กัน  

    เคยให้ความสำคัญ ไม่มีอีกแล้วคงไม่มี

       แต่วันนี้เธอเปลี่ยนไป  คงเพราะใจเธอเปลี่ยนแปลง  พอฉันรุนแรงเธอก็รุนแรงขึ้นอีก  

    ไม่เคยคิดจะใส่ใจก็ชวนทะเลาะกันทุกที   ไม่อยากจะเป็นอย่างนี้อีกแล้วเธอ

          (ให้เรา) เลิกกันเถอะ  เลิกกันเถอะ  เลิกกันเลิกกันเถอะ  เลิกกันเถอะ  เลิกกัน  ฉันไม่ทนอีกแล้วพอนะคนดี  

         (ให้เรา) ทิ้งความสุขเมื่อวันเก่า  ลืมเรื่องราวจบกันซักที  จะคิดซะว่าฉันโชคไม่ดี  ที่ได้มาพบเธอ

    ( อย่าคิด.... มากไปเลยเธอ  อยากให้รู้ว่าฉันยังเหมือนเดิมทุกอย่าง   โอ้ว ที่แล้ว....ให้เป็นวันวาน

       อย่าติดค้างอย่าตอกย้ำ  อย่าทำอย่างนั้น...... ก็ฉัน  ยัง  รักเธอ )

          (ให้เรา) เลิกกันเถอะ  เลิกกันเถอะ  เลิกกันเลิกกันเถอะ  เลิกกันเถอะ  เลิกกัน  ฉันไม่ทนอีกแล้วพอนะคนดี  

         (ให้เรา) ทิ้งความสุขเมื่อวันเก่า  ลืมเรื่องราวจบกันซักที  จะคิดซะว่าฉันโชคไม่ดี  ที่ได้มาพบเธอ



    จะคิดซะว่าฉันโชคไม่ดี  ที่ได้มาพบเธอ ”

    “ เพราะจังเลยอะ” เพื่อนในห้องพากันปรบมือให้  ยกเว้น  แป้ง  ที่นั่งตัวสั่นอยู่หลังห้อง  ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเดินไปตอนไหน  เพราะตอนแรกก็เห็นนั่งอยู่ข้างหน้า   เราสี่คนเลยเดินไปหาแป้งหลังห้อง



    “ แป้ง  ร้องไห้หรอ” ฉันถาม



    “ ตัวสั่นอย่างนี้ หัวเราะมั้งแก  ถามแปลกๆ”  ไอปาล์มกวนตีนอีกแหละ  เพื่อนร้องไห้ เมิงยังกวนอีก



    “ ระ  ร้อง  ฮึกฮือๆ  พะ   ฮือๆ เพราะดี  ฮึก นะ  ^_^”  แป้งชมเรา  แล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้



    “ บอกได้มั้ยว่า  ใครทำให้แป้งต้องอกหัก  เราช่วยไรได้มั้ย    แป้งบอกเรานะ” ฉันถามแป้ง



    “ เราผิดเองแหละ  เรานัดเค้าไว้  แล้วเราไปก่อนเค้าครึ่งชั่วโมง   ฮึก พี่ชายเราอะ  เค้าก็ไปส่ง  แล้วก็นั่งเป็นเพื่อนเรา  ไปซื้อขนม  น้ำมาให้กิน  รอ...ฮือๆๆๆ    แล้วที่นี้เราก็บอกพี่ชายว่าจะให้เจอแฟนเรา  พี่เราก็ไม่ได้ว่าอะไรเราก็เลย แบบว่า  กระโดดกอดพี่เลยอะ  ฮือ  เพราะไม่คิดว่าพี่จะให้เรามีแฟน   รอไปรอมา  ฮือ ๆๆ  เค้าก็ไม่มาสักที  เรารออีกครึ่งชั่วโมง  ไม่มา  เราก็เลยโทรไปถาม ฮึกๆ  ฮือๆๆๆ   กลัวว่าจะเป็นอะ  ฮึก ไร  แต่เค้าก็ปิดมือถือ แล้วตอนที่เรากำลังจะกลับฮือๆๆ ก็มีจรวดลอยมาอะ  เราก็ไม่รู้ว่าของใคร ฮึก เราก็เลยเปิดอ่าน”  แป้งเล่า  แล้วก็หยุดไปซะเฉยๆ



    “ บอกเค้านะว่า  ในนั้นมันเขียนว่าอะไร”



    “  ลาก่อน ฮือๆๆ    ตอนแรกเราก็ฮึกฮือๆ  ไม่คิดอะไร  ฮือๆ แต่เราจำลายมือได้ว่ามันเป็นของ....”



    “ แล้ว  แป้งได้คุยกับเค้ารึยังละ” ฉันถามพลางจับไหล่ให้กำลังใจ  ในขณะที่แป้งพยายามกลั้นน้ำตาที่มามีทีท่าว่ามันจะหยุดเลยแม้แต่น้อย



    “ คุย  แต่เค้าฮึก ฮือๆๆๆ  เข้าใจผิดคิดว่าเรานอกใจ  ที่จริงวันนั้นเค้าไปก่อนเราครึ่งชั่วโมงเหมือนกัน ฮือ ( ดูเหมือนว่าน้ำตาเริ่มหยุดไหลพร้อมๆกับเสียงสะอื้นน้อยๆของแป้งแล้วนะ)  แล้วเค้าไม่รู้ว่าคนนั้นเป็นพี่ชายเรา   เราเสียดายเวลาที่ผ่านมามากเลย  เค้าไม่เคยเชื่อใจเราเลย  คบกันมาเกือบปี  เราไม่เคยทะเลาะกันเลยนะกวาง ฮือๆ”



    “ แป้งต้องอธิบายให้เค้าฟังนะ  คนอย่างแป้งนะไม่คิดนอกใจใครหรอก  อีกอย่าง  ไม่ว่ายังไง  เราก็รักเค้าใช่ม้า  แล้วเราอะก็ไม่ผิดด้วย  และถึงจะอธิบายแล้วแต่เค้าไม่เชื่อ  อย่างน้อยเราก็ได้อธิบายแล้วนี่ใช่มั้ย” ฉันปลอบ



    “ เค้าเป็นคนผิดใช่มั้ยกวาง” แป้งถาม  ตอนนี้เธอหยุดร้องไห้แล้ว



    “เปล่าหรอกแป้ง  ความรักไม่ใช่เรื่องของความผิดถูกนะ   ไม่มีใครผิดแล้วก็ไม่มีใครถูกด้วย  แป้งคิดดูนะ คนที่แอบรักคนอื่นเนี่ยก็มีมาก  คนที่ไม่มีความรักก็มีเยอะ  แต่คนที่ได้รักกันแล้วสมหวังเนี่ยมีน้อยนะ  เพราะงั้นแป้งกับแฟนแป้งใจตรงกันแล้ว  แป้งโชคดีนะ  โชคดีกว่าใครอีกหลายๆคน    ความรักต้องอาศัยความเชื่อใจ  แล้วก็เข้าใจกัน   บางครั้งสิ่งที่เรามองเห็นอาจไม่เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้   มันต้องเชื่อใจกันซิ   เค้าว่าแฟนแป้งต้องอยากได้ยินคำอธิบายจากแป้งแน่ๆ จริงมั้ย ^_^ ”



    “  อืม แล้วเค้าจะเชื่อเรามั้ยกวาง ”



    “ แล้วแป้งเชื่อใจเค้ามั้ยละ    ว่าเค้าจะเชื่อใจแป้ง”



    “ เชื่อสิ  แป้งนะเชื่อใจเค้า  ^_^  ขอบใจมากเลยนะกวาง  แป้งมีกำลังใจขึ้นเยอะเลย”



    “ รีบไปบอกเค้าซะนะ  ก่อนที่ความเชื่อใจที่มีให้กันจะน้อยลง  เค้าเชื่อว่าแฟนแป้งต้องเข้าใจ”



    “ขอบใจมากนะกวาง  แป้งไปก่อนนะ”



    “อื้อ ^_^ ”   แล้วแป้งก็วิ่งออกจากห้องไป  ฉันหันมามองไอสามตัวที่นั่งอยูเฉยๆ



    “ แกปลอบคนมาเยอะนี่นา  เค้าก็เลยให้แกปลอบ”  ดูมันอ้างเหตุผลซิคะ



    “ ขอบใจ  แกช่วยได้มากเลย แป้งหยุดร้องเพราะแกให้ชั้นปลอบเนี่ยแหละ” ชั้นประชดมัน



    “ โห่ แกอะ จะประชดทำไมวะ” ปาล์มว่า



    “ เอาเหอะ   ไปจัดการไอสี่ตัวนั้นได้ยังอะ ”



    “ ตอนนี้ 11.30น. มันคงอยู่ตรงโรงอาหาร ไปปะ ”



    “ ไปไหนอะ ”



    “ แกนี่ ถามแปลก  หาอุปกรณ์มาแกล้งมันอะดิ ”



    “ เออ ใช่ ”



    เราสี่คนเดินมาที่โรงอาหาร  ฉันกับแก้วเดินไปที่ร้านส้มตำ แล้วสั่งป้าแกว่าเอาส้มตำปลาร้า 2 (เผื่อไอแก้วด้วย) ส่วนไผ่กับปาล์มเดินไปที่ร้านขายข้าว ปาล์มซื้อกะปิกับชะโอมชุบไข่ที่ยังไม่ได้ทอด    ส่วนไผ่ก็ซื้อไตปลาที่กลิ่นแบบว่า ฮือ จะอ้วกเลยคะ หลังจากนั้นเราก็เดินไปที่หลืบที่อยู่หลัง ร.ร. เพื่อไปเอาสิ่งสำคัญ



    “ และแล้วตอนนี้เราก็มาอยู่ที่หน้าล็อกเกอร์ของไอสี่ตัวนั่น” ปาล์มพูด



    “ แก...เค้ากับไอแก้วยังเตรียมไม่เสร็จ  เดี๋ยวแกจัดการก่อนละกันเดี๋ยวดูต้นทางให้  รีบออกมานะเฟ้ย ทางกำลังสะดวก” ฉันว่าพลางเดินไปนั่งเก้าอี้ที่หน้าล็อกเกอร์กับแก้ว  แล้วล้วงอุปกรณ์ทุกอย่างออกมาเตรียม

    ตอนนี้เวลาผ่านไปสองนาทีแล้ว  ชั้นกับแก้วก็เตรียมของเสร็จพอดี  เราสองคนก็เลยต้องนั่งรอมัน

    “ และแล้วเวลาก็ผ่านไปแปดนาที  ไมไอ้พวกนั้นมันยังจัดการไม่เสร็จอีกวะ” แก้วบ่น



    “ มาแว้ว  คนสวยจัดการเสร็จเรียบร้อยแว้ว  แกเตรียมกันเสร็จยังอะ  เค้าให้เวลาแกเตรียมตั้งนาน” ไผ่พูดอย่างร่าเริง



    “ เสร็จตั้งแต่คนสวยน้อยอย่างแกยังอยู่ในครรภ์มารดานู่น” ชั้นว่า



    “ โห่  แกอะ” ไผ่ทำปากเบ้



    “ ก็ต้องทำให้มันเนียบหน่อยเดะ” ปาล์มว่า



    “ เออ  เอาเหอะ  แกรอแป็บละกัน”  แล้วชั้นกับแก้วก็เดินไปหาล็อกเกอร์ไอกะโห้กะไอตาบอดนั่น



    “ กวาง เอาลวดมาดิ” แก้วว่า



    “ เอาไปดิ  ของเค้าไม่ได้ล็อกวะ ” ชั้นตอบ

    หลังจากนั้นเราก็จัดการล็อกเกอร์( ของคนอื่น) เสร็จซะที



    “ เก่งนี่หว่า  จัดการซะเนียนเลย” แก้วชม



    “ พอไอพวกนั้นมาได้สนุกแน่”

    แล้วเราก็เดินไปสมทบกับพวกอีกสองคนข้างนอก ( ทางการมากเลย)

    “  หิววะ  ไปรับประทานข้าวกันเถอะ   ปะเพื่อนๆ”  



      ด้านคุณผู้ชายเจ้าของล็อกเกอร์ทั้งหลาย



    “ อิ่มวะ  กับข้าวร.ร.เราเนี่ยอร่อยกว่าแม่บ้านๆข้าอีกวะ”



    “ เออ   ว่างั้นแหละ”



    “ เออ  ข้าว่าจะเอาของไปเก็บในล็อกเกอร์ซะหน่อย  มีใครจะไปกับข้าบ้างวะ”   ศักดิ์ถามเพื่อนใน(ฝูง)กลุ่ม



    “ ข้าไปด้วย  จะเอาของไปเก็บเหมือนกัน ”



    “ งั้นข้าไปด้วย”



    “ ตกลง  นี่เป็นการบังคับให้ข้าไปด้วยใช่มั้ยวะเนี่ย” ทูมซึ่งเป็นผู้ชายที่บ่นเก่งที่สุดและชื่อประหลาดที่สุดในกลุ่มบ่น

    “ คิดว่างั้น” สามคนที่เหลือพูดขึ้น

    แล้วทั้งสี่ก็เดินไปที่ล็อกเกอร์โดยไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเหล่าหนุ่มฮอตสุดแสบอย่างพวกเขา



    “  โผละ   ......ไอศักดิ์  แกรีบๆยัดของเร็วๆได้มั้ยวะเนี่ย  เดี๋ยวน้องๆเข้ามาเป็นไม่ได้เข้าเรียนพอดี” ทูมเตือนโดยไม่ได้มองหน้าเพื่อนเลย



    “ เฮ้ย  ไมหน้าเป็นงี้วะ” ทูมถามศักดิ์   หลังจากที่หันมาเห็นหน้าตาของศักดิ์ แล้วหันมาหาต้น



    “ โอ้ยๆๆๆๆๆๆๆๆ    แสบตาโว้ย   แสบๆๆ” ศักดิ์ร้อง



    “ ปัง!...ปัง!...ปัง!...   ปังปังปังปังปัง! .......  ปัง! เฮ้ย!   โอ้ย  เสียงไรวะเนี่ย” ต้นว่า



    “ เฮ้ย ! แล้วหน้าแกไปโดนไรมาวะเนี่ย ”   ทูมพูดอย่างตกใจ



    “ แหวะ  อึ๋ย~~ ปลาอะไรวะเนี่ย  เหม็นชะมัดเลย  แสบตาโว้ย  แสบๆๆๆๆๆๆ”   ต้นว่า



              สงสัยมั้ยคะ  ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองหนุ่มของเรา  คือว่า  พอศักดิ์เปิดล็อกเกอร์ก็โดนระเบิดน้ำพริกกะปิถาโถมเข้าเต็มหน้า แบบว่า  เปิดปั๊บก็เด้งมาจากไหนก็ไม่รู้อะค่ะ    และนั่นก็ทำให้หน้าตาของเขาเป็นตะปุ่มตะปั่ม  มีเศษมะเขือพวงผสมโรงด้วยเล็กน้อย ในขณะเดียวกัน ต้นก็เปิดล็อกเกอร์  และกลไกที่แก้ววางไว้ก็ทำงาน โดย  เกิดเสียงประทัดยาวดังขึ้น  จากนั้นปลาร้าตัวน้อยๆในส้มตำที่ใส่พริกเป็นกะละมังก็ทำพิษให้กับเขาทันที  ใบหน้าเขาตอนนี้กลายเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยเศษพริกทั้งเขียว  ส้ม  และแดง  บวกกับปลาร้าเกือบยี่สิบตัวทำให้ใบหน้าเขาน่าขยะแขยงที่สุด  และรับรองได้ว่า  ถ้าพวกแฟนคลับของพวกเขาได้เห็นใบหน้าของเพื่อนทั้งสองคนตอนนี้คงจำไม่ได้แน่ๆ ว่านี่คือ 2  ใน 4 ของหนุ่มฮอตใน ร.ร.



    “ เฮ้ย  ข้าว่าเอ็งสองตัวไปล้างหน้าเหอะวะ  เอาของเอ็งมาฝากไว้กับข้าก่อนก็ได้  แล้วเดี๋ยวข้าจัดการทางนี้ให้  เอ็งพากันไปล้างหน้าปะ” ทูมบอก  หลังจากนั้นต้นกับศักดิ์ก็เดินก้มหน้าออกไปทันที



    “  โอ้ย  คันๆๆๆ    อะไรวะเนี่ย   คันๆๆๆๆ  โอ้ย  เหม็นๆๆๆๆๆๆ   เหม็นมากๆ”  ทูมบ่น  หลังจากเขาเปิดล็อกเกอร์



    “  คราวนี้แกเป็นไรอีกฟะเนี่ย”  ต้าว่า  เขาเป็นคนเดียวที่ยังไม่ได้เปิดตู้ล็อกเกอร์



    “  คันๆๆๆ   โคตรคันเลย   มดมาจากไหนก็ไม่รู้วะ  เพียบเลย   แถมกลิ่นไตปลาอะไรเนี่ย   สุดยอดมากกกกกกก” ทูมว่า   พลางลากเสียงให้รู้



    “  ใครมันทำอย่างนี้ฟะเนี่ย      เอ็งไปห้องพยาบาลปะ  เดี๋ยวตรงนี้ข้าจัดการให้”  

    แล้วทูมก็เดินจากไป    หลังจากนั้นเขาก็ทำความสะอาดล็อกเกอร์ของเพื่อนๆ  จนเสร็จ

    “  แล้วไอทูมไปไหนวะ”   ต้นกับศักด์ที่เพิ่งไปล้างหน้าอันแสนจะทุเรศของมัน  ถามขึ้น



    “  ไปห้องพยาบาล    มันโดนมดกัด”



    “  มดกัดเนี่ยนะไปห้องพยาบาล”  สองคนถามไม่เลิก   พลางเกาหน้าที่ไม่เคยโดนอาหารชนิดใดเลยไปด้วย



    “  เออ   มด   แต่มดที่ว่าเนี่ย    ทั้งรังเลย”  



    “  ทั้งรัง  โห  มันคงคันหน้าน่าดู”



    “ แล้งเอ็งไม่โดนไรเลยเหรอ”



    “  ข้ายังไม่ได้เปิด   เอ็งคิดดู  ขนาดพวกเอ็งล็อกกุญแจยังโดนกันเละขนาดเนี่ย  แล้วข้าที่ไม่ได้ล็อกไม่โดนยิ่งกว่าเอ็งอีกหรอวะ”  ต้าพูดอย่างมีเหตุผล



    “  มีเหตุผล   แล้วใครจะทำแบบนี้ฟะ”  ทั้งสามนั่งคิด

    - - - - >  +^+__+^+  < - - - -

    ขอพูดเรื่องความรัก

                

           เมเปิ้ลขอออกนอกเรื่องหน่อยนะคะ  คือเมเปิ้ลก็ไม่เคยมีความรักนะคะแต่ว่าเมเปิ้ลก็อยากจะพูดเกี่ยวกับความรักสักหน่อย  ที่จริงก็ไม่มีอะไรหรอกคะ  แต่วันนี้อารมณ์ดี  (แล้วอีกอย่างก็ขี้เกียจพิมพ์ตอนที่ 5 ด้วยคะ)  เมเปิ้ลขอแยกเป็นสามส่วนแล้วกันนะคะ

        1. ไม่มีความรัก (หรือว่าไม่อยากมี)

        2. รักเค้าข้างเดียวและเค้าเป็นคนใกล้ตัว/ รักเค้าข้างเดียว  แถมเค้าคนนั้นยังเป็นคนที่ไม่ได้อยู่ใกล้ๆเราอีกด้วย

        3. อกหัก

      คะ  มาดูพวกแรกกันเลยนะคะ   พวกไม่มีความรัก  

                    ถ้าเราเป็นหนึ่งในพวกที่ไม่มีความรัก   เมเปิ้ลก็ขอถามเพื่อนๆนะคะว่าที่ไม่มีความรักเนี่ย  ไม่มีใครให้รักให้ชอบ  หรือว่ามีแล้วแต่ไม่กล้ารักเพราะกลัวว่าจะเจ็บ   เมเปิ้ลบอกได้เลยนะคะว่าถ้าไม่มีใครให้รักเนี่ยก็รักตัวเองเถอะคะ  หรือเผื่อแผ่คุณพ่อ  คุณแม่ด้วยก็ได้  ไม่ผิดนะคะถ้าเราจะรักใคร   ความรักไม่เคยผิดเมเปิ้ลยืนยันได้คะ   ส่วนคนที่มีคนรักแล้วแต่ไม่กล้ารักเพราะกลัวความรักจะทำเราเจ็บ   เมเปิ้ลก็อยากจะฝากอะไรหน่อยนะคะ   ถ้าเรากลัวที่จะเจ็บทั้งๆที่ยังไม่เคยเจ็บ  ยังไม่เคยรู้จักซะด้วยซ้ำ   เมเปิ้ลว่าเราอกหักมันยังทำให้เราเห็นอะไรตั้งหลายๆอย่างนะคะ    ถ้าเราเลือกที่จะไม่รักเพราะกลัวเจ็บแบบนี้เมเปิ้ลไม่สนับสนุนนะคะ   และถ้าเราทำอย่างนั้นเราจะไม่ทรมาณกว่าหรอคะ   แต่ถ้าเราลองปล่อยให้ใจมันทำในสิ่งที่มันอยากทำ   อยากจะรักใครก็รักโดยไม่กลัวเจ็บ  และก็คิดไว้เสมอว่าอย่างน้อยเราก็ยังมีคนให้รักแม้ว่ามันจะไม่สมหวังและ อาจจะเจ็บปวดแต่เราก็จะได้รู้ว่าเวลาที่เราได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข  ไม่ว่าเพราะอะไรก็ตามเราก็จะรู้สึกดีด้วยไม่ใช่หรอคะ    ปล่อยมันไปเถอะคะ   เจ็บบ้าง   ช้ำบ้างมันก็เพิ่มรสชาติให้ชีวิตดีนะคะ    ( ลองไปฟังเพลง เลือกเป็นคนที่รักเธอดูนะคะ )

            ต่อมาก้เป็นพวกที่สอง  แบ่งเป็นสองพวกนะคะ  

                              พวกแรก รักเค้าข้างเดียวและเค้าเป็นคนใกล้ตัว  อันนี้เมเปิ้ลขอบอกว่าบางทีเค้าอาจรู้จากการแสดงออกของเรา   แต่บางคนก็คิดแค่ว่าเป็นเพื่อนกัน  มันก็เลยดูไม่แปลกเท่าไร    แต่ไม่ว่าเค้าจะรู้และทำเหมือนไม่รู้  หรือว่าไม่รู้ก็เลยเฉยๆ  เมเปิ้ลว่าถ้าคุณคิดว่าเค้าก็มีท่าทีให้คุณมากกว่าเพื่อนธรรมดาก็บอกเค้าไปเถอะคะ   มันเป็นสิทธิของเรานี่คะว่าจะบอกหรือเปล่า   แต่ถ้าเค้าไม่มีท่าทีอะไรที่แตกต่างจากเพื่อนเมเปิ้ลว่าก็อย่า(เพิ่ง)บอกเลยคะ   เมเปิ้ลรู้นะคะว่ามัน(คง)อึดอัด   แต่ถ้าเราบอกเค้าไปแล้วเราเสียทั้งคนที่เรารัก  และเพื่อนไปในเวลาเดียวกันมันจะทรมาณมากเลยนะคะ    และไม่ว่ายังไงเมเปิ้ลก็ขอบอกเลยนะคะว่าการตัดสินใจทุกอย่างขึ้นอยู่กับเรา   ชีวิตเราเราก็กำหนดเองนะคะ    จะทุข์   จะสุข   จะสมหวัง   จะอกหัก   ยังไงเมเปิ้ลก็เชื่อว่าเราตัดสินใจเลือกทางที่ดีที่สุดให้ชีวิตแล้วละคะ    สู้เค้านะคะแล้วเมเปิ้ลจะเอาใจช่วย  ^_^

                  ฝากอะไรไว้สักหน่อยนะคะ

                                 สิทธิของใจเธอรักใครก็ไม่ผิด              

                      ขอแค่คิดรักนิดๆจะผิดไหม

                      ก็แค่คิดคงไม่ผิดสิทธิของใจ

                      เธอรักใครก็ไม่ผิดสิทธิของเธอ  

                                    มาต่อกันที่พวก  รักเค้าข้างเดียว  แถมเค้าคนนั้นยังเป็นคนที่ไม่ได้อยู่ใกล้ๆเราอีกด้วย  

    อันนี้เมเปิ้ลว่าไม่ว่าระยะทางของเรากับเค้าจะห่างกันขนาดไหน   แต่ถ้าเรายังรักเค้าอยู่ก็ไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนใจเราได้       เรายังคิดถึงเค้าได้   เรายังห่วงใยเค้าได้     เมเปิ้ลเชื่อว่าบางทีการทีเราจะร้องไห้ออกมาเหมือนมันจะไม่ทำให้อะไรๆดีขึ้น    แต่มันก็เป็นการแสดงออกที่ช่วยเราได้นะคะ    ถ้าคิดถึง(แล้วมีเบอร์) ก็โทรหา   เป็นห่วงก็บอกเค้าหน่อย    ถึงจะเป็นรักข้างเดียวแต่เราก็ยังได้รักนะคะ     เรายังโชคดีที่มีคนมาให้รัก( โชคดีกว่าเมเปิ้ลอีก )   ยังไงก็ตาม   สู้ๆนะคะ   เพื่อความสุขของตัวเราเอง

            

            คะ  และก็มาถึงคนสุดท้ายแล้วนะคะ  ไม่ใช่คะ  พวกสุดท้าย      อันนี้น่าเห็นจะนคะแต่ว่าเมเปิ้ลว่าอย่าไปรักคนที่เค้าไม่รักเราเลยคะ    เมเปิ้ลรู้นะคะว่ามันทำยาก (มากๆด้วย ) แต่ว่าเรารักเค้าได้  เราลองไม่รักเค้าสักวันดูซิคะ    ลองไม่คิดถึงสักวัน   ถ้าทำได้ก็โอเคแล้วคะ   ตอนนี้อยากให้อ่านอะไรสักหน่อยนะคะ เมเปิ้ลไม่ได้เขียนเองหรอกคะ  ลองอ่านดูนะคะ

                   คุณเคยตกอยู่ในสภาวะการอกหักรึป่าวค่ะ ทุกคนที่เข้ามาอ่านก็ต้องเคยใช่มั้ยค่ะ แล้วยังไงค่ะ เจ็บมากมั้ย เสียใจมากมั้ย คุณเคยคิดว่าสิ้นหวังและหมดกำลังใจที่จะทำอะไรแล้วใช่มั้ย อย่าน่ะค่ะอย่าคิดอย่างนั้นมันไม่ช่วยให้คุณดีขึ้นหรอกน่ะแต่มันกลับทำให้คุณมีความรู้สึกแย่ลงด้วยซ้ำไป ร้องไห้ไปเลยค่ะถ้าคุณคิดว่าคุณร้องไห้แล้วคุณสบายใจ ร้องไห้ไปเลยน่ะค่ะแต่ขอแนะนำให้คุณร้องไห้เพียงคนเดียว เพื่อที่จะไม่ให้คนอื่นคิดและเห็นว่าคุณอ่อนแอหรือคุณจะร้องไห้กับเพื่อนก็ได้น่ะ เพื่อนนี่แหละเป็นสิ่งเดียวที่ดีที่สุดที่คุณจะนึกถึงเวลาคุณอกหัก แล้วถ้าคุณคิดว่าคุณร้องไห้พอแล้ว อยากจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวเค้า แต่คุณเชื่อมั้ยค่ะว่าคุณยังลืมเค้าไม่ได้หรอกถ้าหากจิตใต้สำนึกของคุณยังมีเค้าเค้าและเค้า เข้าใจน่ะค่ะว่าการอกหักมันทำใจลำบากและก็ยากที่จะทำใจแต่ไม่มีสิ่งไหนหรอกน่ะค่ะที่มนุษย์เดินดินอย่างเราๆ จะทำไม่ได้เพียงแต่เราไม่ได้ตั้งใจที่จะทำต่างหาก เค้ายังลืมคุณได้แล้วทำไมคุณถึงยังจะลืมเค้าไม่ได้ ถ้าเราคิดว่าเราดีแล้วทำดีที่สุดแล้วขอให้คุณคิดว่าเค้าโง่เองที่เดินจากคุณไป คุณก็แค่เสียคนที่คุณรักที่สุดไปแต่เค้ากลับเสียคนที่รักเค้ามากที่สุด  คุณลองคิดดูซิค่ะว่าอันไหนมันน่าจะเสียมากกว่ากัน อย่ามัวเสียดายเวลาหรือเสียดายอะไรที่แล้วๆมาเลยน่ะค่ะมันจะตอกย้ำความเจ็บซ้ำมากขึ้นเป็นสองเท่า ในเมื่อเค้าไม่กลับมาแล้วเราจะมัวเสียเวลาทำไม สู้เราเอาเวลาที่เหลือไปทำอะไรที่เราไม่เคยได้ทำไม่เคยได้สัมผัสไม่ดีกว่าหรือค่ะ แต่อย่าปิดกั้นกับความรักน่ะค่ะ เพียงแต่รักครั้งใหม่ของคุณคราวนี้ต้องใช้เวลาศึกษาให้นานกว่าที่ผ่านมาก็แค่นั้นเอง ทำตัวเองให้สดใสทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้ว่าในใจของคุณมันจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลาก็ตาม อย่าพยายามทำตัวเหมือนผีตายซากประมาณว่าขาดเค้าไปแล้วเราจะตายให้ได้ อย่าน่ะค่ะ เค้าจะสมเพศเราทีหลังได้ว่าดีแล้วล่ะที่กูทิ้งมันไป สู้เรากลับมาทำตัวเองให้ดูดีขึ้นทำให้เค้าเสียดายเราเล่นๆ ไม่ดีเหรอค่ะ คุณลองคิดดูซิค่ะมันน่าจะสะใจมากกว่ามั้ย ก็แค่เพียงเท่านี้ล่ะค่ะแล้วการอกหักครั้งต่อไปของคุณมันก็อาจเป็นเพียงแค่เศษผงเท่านั้น เพราะว่าคุณได้รู้วิธีในการรับมือกับมันแล้วไม่ใช่เหรอค่ะ อกหักแล้วไง...ก็แค่เสียใจในบางอารมณ์

           อ่านแล้วเป็นไงบ้างคะ   แต่ไม่ว่ายังไงก็คงช่วยอะไรได้บ้าง   ยังไงเมเปิ้ลเชื่อคะว่าคุณจะต้องลุกขึ้นยืนใหม่ได้อีกครั้ง ( โดยไม่มีเค้า ) ได้แน่นอนคะ   เพียงแต่อาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง   สู้เค้านะคะ   ^_^-

                           Happy  New  Year  สุขสันต์วันปีใหม่นะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×