คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Just Secret : Chapter 1 [RW]
t em
Chapter 1
ณ หอของซูปเปอร์จูเนียร์
ในสายวันนี้แทบจะไม่มีใครอยู่เลยก็ว่าได้ เมมเบอร์ทุกคนต่างก็มีตารางงานแน่นตั้งแต่เช้ากันซะทุกคน บ้างก็มีงานตั้งแต่เมื่อคืนวาน ก็ยังไม่ได้กลับกันมาเลย จะเหลือก็แต่สองพี่น้องดีเจยามดึก และคนรักของดีเจคนพี่ ที่พึ่งจะอัดรายการเสร็จ วันนี้ทั้งวันคังอินเลยว่างนอนตีพุงอยู่ที่หอ
ฮยอกแจที่เนื่องจากเมื่อคืนจัดคิสเดอะเรดิโอดึกยังคงหลับใหลแม้จะสายมากแล้วก็ตาม ไม่รู้ทำไมเดี๋ยวนี้เค้าถึงเพลียง่ายมาก ทำอะไรก็เหนื่อยง่ายไปหมด ทั้งที่เมื่อก่อนต่อให้มีงานทั้งคืนเค้าก็ยังทำได้สบายๆ สงสัยคงจะพักผ่อนน้อยเกินไป จนมันสะสมมานาน ขนาดเมื่อคืนพอกลับถึงหอ เค้าถึงกับสลบคาเตียงจนสายป่านนี้เลยก็ว่าได้ แต่ความผิดปกติบางอย่างในร่างกายกลับปลุกให้ร่างเล็ก ต้องตื่นขึ้นมา แล้วต้องวิ่งไปที่ห้องน้ำอย่างเสียไม่ได้
“อึก โอ้ก ก ก อ๊อก โอ้กกกกกก” ร่างเล็กผะอืดผะอมเป็นอย่างมาก จนต้องอาเจียนออกมาอย่างหนัก อาเจียนอยู่นาจนไม่มีอะไรเหลือ อยู่ในท้องเลย เพราะเดี๋ยวนี้นอกจากจะเพลียง่ายแล้ว เค้ายังรู้สึกเบื่อๆ อาหารไม่ค่อยอยากทานอะไร จนพี่ลีทึกบ่นเลยทีเดียว เมื่อรู้สึกดีขึ้น ร่างเล็กถึงกับต้องนั่งพิงผนังห้องน้ำเลยทีเดียว แต่ความมึนหัวผสมกับผะอืดผะอมนั้นไม่ได้ลดลงเลย ถึงยังไงตอนนี้เขาก็ยังไม่มีอะไรจะอ้วก ออกมาอีกแล้ว สงสัยคงเป็นโรคกระเพาะเพราะไม่ค่อยทานอะไรแน่เลย แต่ไม่นาน ความรู้เดิมก็กลับมาอีกครั้ง
“อุ๊บ โอ้กกกกกกกกก ~”
ลีทึก ที่วันนี้ตื่นมาตั้งแต่เช้าเข้าครัวทำอาหารสวีทกับพ่อหมี เห็นว่าสายมากและ ควรจะปลุกน้องชายตัวเล็กขึ้นมากินข้าวกินน้ำ บ้าง ไม่รู้ทำไมเดี๋ยวนี้นอนเยอะๆ แถมข้าวปลาก็ไม่ค่อยอยากจะกิน ตัวยิ่งบางๆอยู่ (ว่าแต่เขาไม่ดูตัวเองเลยย - -)
“ก๊อก ก๊อก”
“ฮยอกแจ ตื่นหรือยัง เปิดประตูให้พี่หน่อย”
ร่างเล็กเมื่อได้ยินเสียงพี่ชายคนสวย ก็ฝืนตัวพยายามลุกไปเปิดประตูด้วยความยากลำบาก ทั้งที่ตอนนี้เค้าเวียนหัวมากจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว แต่ก็กลัวว่าร่างบางหน้าประตูจะเป็นห่วงเอา
“ทำไมหน้าซีดอย่างนี้เนี่ย ไม่สบายรึเปล่า” ถึงจะทำท่าเหมือนไหวยังไง แต่สีหน้าที่ซีดเหมือนกระดาษนั้นก็ไม่สามารถปิดบังร่างบางได้ บวกกับท่ายืนที่จะล้มไม่ล้มแหล่
“ผมไม่เป็น........” พูดยังไม่ทันจบร่างเล็กก็ล้มลง
“เฮ้ย ฮยอกๆ ยองอุนน!!”ร่างบางรีบเข้าไปประคองน้องรัก พร้อมกับตะโกนรียกคนรัก
“ครับพี่ เฮ้ย ฮยอกๆ” เมื่อวิ่งมาคังอินก็ตกใจที่เห็นฮยอกลงไปนอนกองกับพื้น โดยมีลีทึกประคองไว้
“มาช่วยอุ้มน้องเข้าไปในห้องหน่อย”
“ครับ พี่รีบไปหาผ้ามาเช็ดตัวให้น้องดีกว่าครับ”
“อ่า ได้ๆ”
“เฮ้อ ดูสิเนี่ยหน้าซีดเลยเนี่ย”ร่างบางเช็ดหน้าน้องไปก็บ่นไปพลาง
“ลึทึก ฮยอกเป็นอะไรหรอ” ผู้จัดการวงที่เตรียมมารับสองพี่น้องดีเจไปอัดรายการเอ่ยถาม
“ไม่รู้สิครับพี่ซึง อยู่ดีๆเค้าก็เป็นลมไป”
“อืมม งั้นคังอิน นายไปถ่ายรายการกับลีทึกแทนฮยอกแล้วกันนะ”
“ได้ครับ” ร่างโปร่ง รีบตอบในทันที ที่จะได้ไปกับนางฟ้าคนสวย ดีกว่านอนตีพุงอยู่ที่หอเป็นไหนๆ
“ไปๆ ลีทึกเรารีบไปกันเถอะ เดี๋ยวจะสาย”
“แต่พี่ครับ ผมเป็นห่วงน้อง”
“งั้นก็ต้องรีบไปสิ จะได้รีบกลับมาดูน้อง”
“ครับ”
ขณะที่ทั้งสามคนกำลังจะออกไปพอดี ฮันคยองที่พึ่งเสร็จงานก็กลับมาพอดี
“อ้าว ฮันพึ่งกลับมาหรอ พอดีเลย ไม่มีใครอยู่หอ เลยตอนนี้ เดี่ยวพี่ต้องรีบพาสองคนนี้ไปอัดรายการแล้ว ไงระหว่างนี้ช่วยดูแลฮยอกหน่อยนะ ฮยอกไม่ค่อยสบายน่ะ”
“ฮัน ฉันฝากน้องด้วยนะ” นางฟ้าคนสวยรีบฝากฝัง(?) น้องกับร่างสูงทันที
“ได้ครับ”
“แล้วพี่อย่าไปดุน้องมันล่ะ น้องมันยิ่งกลัวๆพี่อยู่”
“รู้แล้วล่ะน่า” เขานี่อยากจะเถียงออกไปจริงๆ ฮยอกเนี่ยนะกลัวเขา ถ้ากลัวคงไม่มายั่วอย่างนั้นหรอก ไม่รู้ไอ้หมีมันไปเอาความคิดนี้มาจากนางฟ้า(?)คนไหนเนี่ย
หลังจากที่ทั้งสามคนออกไป ร่างสูงที่ก็รีบเอาของไปเก็บในห้องแล้วมาดูแลคนหน้าหวานเลยทันที เขากับ ฮยอกนั้นไม่ได้มีความแค้นใดๆต่อกัน ยังไงก็เป็นน้องในวง ซ้ำยังเป็นเมนเต้นด้วยกันอีก
ร่างสูงเปิดประตูอย่างเบามือที่สุด เนื่องจากกลัวคนร่างเล็กที่หลับสนิทอยู่จะตื่น แล้วค่อยๆเดินมานั่งบนเตียง เห็นร่างเล็กหน้าซีดเผือก ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมทุกคนถึงดูเป็นห่วงกันนัก
ฮันคยองที่เอาแต่จ้องหน้าคนหน้าหวาน ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ฮยอกน่ะ ถึงจะเป็นคนยั่วเค้าก่อน แต่ความจริงแล้วร่างบางคนนี้น่ะ ยังไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน แม้แต่ซีวอน เค้าเป็นคนแรกของฮยอก แถมยังไร้เดียงสาเรื่องนี้จะตาย เมื่อคิดได้ดังนั้น ร่างสูงก็ยิ้มออกกับสิ่งที่คนหน้าหวานทำ
“แก่นดีนัก มายั่วพี่”
ว่าแล้วก็บีบจมูกรั้นๆ แต่น่ารักไปทีนึง พร้อมกับปัดผมที่ปิดหน้าหวานอยู่ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่คนหน้าหวานตรงหน้ามีอิทธิพลกับเขา ทำให้เขา ยิ้มได้ มีความสุขได้ และสับสนใจได้ ในเวลาเดียวกัน เวลาที่ทำให้เขาลืมว่ามีคนรักไปชั่วขณะ
ร่างสูงสังเกตเห็นว่าร่างเล็กยังมีเหงื่อออกอยู่ตามไรผม ทั้งๆที่อากาศก็ไม่ร้อน รวมทั้งตัวก็อุ่นๆ เหลือบเห็นผ้าในอ่างน้ำ ที่ ลีทึกเช็ดค้างไว้เมื่อกี้ จึงตัดสินใจ ไปเปลี่ยนน้ำใหม่ และกลับมาเช็ดตัวให้ร่างเล็กอย่างเบามือ แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อร่างเล็กตื่นมาคงจะหิว ร่างสูงจึงออกมาจากห้องของร่างเล็กเพื่อเตรียมอาหารทันที เมื่อข้าวผัดกึมจิ สุดน่ากิน ของโปรดของร่างเล็ก เสร็จเรียบร้อย
“ที่เราต้องทำขนาดนี้ เพราะว่าทุกคนฝากให้เราดูแลต่างหาก เราไม่ได้คิดอะไรกับฮยอกเลยจริงๆ ”
ฮยอกแจนั้น ตื่นขึ้นมาหลังจากที่ร่างสูงออกไปทำอาหารไม่นาน เมื่อลุกขึ้นมาก็รู้สึกเวียนหัวแต่ไม่มากเหมือนเมื่อเช้า จึงตัดสินใจเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ แต่อยู่ดีๆก็เกิดหน้ามืดขึ้นมา มือเลยเผลอปัดไปโดนแก้วกระเบื้องตรงเคาเตอร์ล้างหน้าตกลงมาแล้วยังเผลอเหยียบไปเต็มๆ ซ้ำร้ายอาการเมื่อเช้าก็กลับมารุมเร้า เมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ตรงคอ จนต้องอาเจียนออกมาอย่างทนไม่ไหว
ร่างสูงเข้าไปในห้องของร่างเล็กอีกครั้ง ตั้งใจจะตามออกมาทานข้าวฝีมือตัวเอง จะได้ทานยา แต่เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องกลับไม่พบคนตัวเล็กอยู่บนเตียง แต่กลับได้ยินเสียงของกระทบกับพื้น ตามด้วยเสียงอาเจียนโอ๊กอ๊าก ดังออกมาจากห้องน้ำ จึงก้าวขายาวไปยังห้องน้ำโดยเร็ว
พบกับภาพของคนร่างเล็กกำลังอาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตายนั่งอยู่กับพื้น สองมือเกาะขอบชักโครกไว้ เนื่องจากเขาไม่มีแรงจะไปยืนอาเจียนที่อ่างล้างหน้าจริงๆ และเมื่อมองเรื่อยมาที่พื้นก็พบกับรอยเลือดที่ไหลออกมาจากเท้าของร่างเล็ก ร่างสูงไม่รอช้ารีบเข้าไปช่วยลูบหลัง ยิ่งเห็นร่างเล็กอาเจียนจนน้ำตาไหล เขาก็รู้สึกสงสารเป็นอย่างมาก เมื่อร่างเล็กรู้สึกดีขึ้นแล้ว เขาก็ช้อนตัวร่างเล็กขึ้นมาล้างหน้าล้างตา และพาออกจากห้องน้ำ
“ไม่ ไม่เป็นไรครับ ผมเดินเองไหว” ร่างเล็กพยายามดิ้นให้หลุดจากร่างสูง เมื่อฮันคยองพยายามจะอุ้มเขาขึ้น
“อยู่นิ่งๆเถอะน่าเราน่ะ แค่แรงจะลุกยังไม่มีแล้วยังจะซุ่มซ่ามเหยียบแก้วอีก จะเดินไปเองได้ยังไง” ร่างเล็กเลยต้องปล่อยให้ร่างสูงอุ้มตัวเองตามสบาย
ฮันคยองจัดแจงพาฮยอกแจมาวางไว้บนเตียงและรีบไปหยิบกล่องยามาทำแผลให้คนซุ่มซ่าม ร่างเล็กมองร่างสูงด้วยความแปลกใจ เพราะปกติร่างสูงมักจะดุเขา หรือเงียบใส่เขามากกว่า นานๆทีจะมาดูแลเอาใจใส่เขาอย่างนี้
“นายเนี่ยนะ ทำให้พี่เหนื่อย อยู่เรื่อยเลยนะ รู้ไหมตัวเล็ก”ร่างสูงพูดไปแล้วก็เงยหน้าขึ้นมามองร่างเล็กที่กำลังมองร่างสูงอยู่พอดี ทำให้ทั้งสองสบตากัน และเป็นร่างเล็กที่หลบสายตาก่อน ร่างสูงจึงพูดทำลายบรรยากาศขึ้นว่า
“อ้อ ใช่ พี่ทำอาหารไว้ เรารีบออกไปก่อนจะเย็นหมดเถอะ”
ฮันคยองพาร่างเล็กออกมานั่งที่โต๊ะอาหารโดยการอุ้มตามเคย และเลื่อนจานอาหารที่เขาทำ มาตรงหน้าร่างเล็ก
“อ๊ะ ทานข้าวซะ แล้วทานให้หมดด้วยนะ ตัวเรายิ่งเล็กๆอยู่ ผักน่ะไม่ต้องเขี่ยเลย”ร่างสูงว่าเข้าให้เมื่อเห็นคนร่างเล็กกำลังจะเขี่ยผักสีเขียวออก
“พี่จะนั่งคุมจนกว่าจะเราจะทานจนหมด และทานยาให้เรียบร้อย แต่พี่ว่าอาการเราหนักแล้วนะไปหาหมอหน่อยไหม”
“ไม่เอา” ร่างเล็กตอบทันทีพร้อมทำหน้าเบ้ ส่ายหน้าเป็นพัลวัล เมื่อได้ยินว่าต้องไปหาหมอ ก็มีใครบ้างล่ะชอบไปหาหมอ
“ไม่มีแต่ละกัน รีบทานเถอะจะได้ไปหาหมอกัน”
“เผด็จการที่สุด”ร่างเล็กบ่นงึมงำ
“ว่าอะไรนะ หืมมมม”
“เปล่าครับ (^^ ;)”ปฏิเสธพร้อมทำหน้าใสซื่อ ทั้งๆที่หน้าซีด
“ฝากไว้ก่อนเถอะเรา อย่าให้รู้แล้วกัน”
ร่างเล็กยิ้ม แล้วมองอาหารที่ชอบกินหนักหนา แต่ครั้งนี้เขากลับไม่รู้สึกอยากกินมันเลยสักนิด ได้แต่เขี่ยไปเขี่ยมา แต่เมื่อเห็นสายตาของร่างสูงมองมา จึงต้องจำใจตักมันเข้าปากแค่เท่านั้น เขาก็แทบจะคายทิ้งในทันที แต่ก็พยายามฝืนไว้ เพราะเป็นอาหารที่ฮันคยองตั้งใจทำให้ แต่ของเหลวในกระเพาะกลับตีขึ้นมาถึงคอจนต้องรีบเอามือปิดปากแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปอีกตามเคย
ร่างสูงตกใจกับอาการของร่างเล็กมาก ในขณะที่กำลังจะไปดูอาการของร่างเล็ก เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูก็ดังขึ้นมาซะก่อน
Well, you done done me and you bet I felt it. I tried to be chill but your so hot that I melted ~
“ยอโบเซโย” ร่างสูงรับโทรศัพท์ไป วิ่งไปห้องน้ำด้วยความร้อนใจ จะรีบไปดูร่างเล็ก แต่ก็ต้องชะงักขาเมื่อได้ยินสิ่งที่ออกมาจากปลายสาย
“ฮะ ฮีชอลงั้นหรอ!! ได้ๆ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้และ”
แล้วร่างสูงก็ผลุนพลันรีบออกไปในทันที แต่ร่างสูงคงลืมไปอย่างหนึ่ง นั้นก็คือคนตัวเล็กที่หลังจากรู้สึกดีขึ้น ก็ค่อยๆพยุงร่างกายตัวเองเดินออกมาจากห้องน้ำ มานั่งพักที่โต๊ะอาหาร โดยไร้คนมาอุ้มเหมือนก่อนหน้านี้
“ชิ แล้วไหนบอกจะนั่งคุมเรา แค่พอได้ยินชื่อพี่ฮีชอลก็ทิ้งเรารีบออกไปทันที เฮ้อออ ก็พี่ฮีชอลเค้าสำคัญขนาดนั้นนี่เนอะ ส่วนเราจะไปสำคัญอะไร ก็แค่น้องในวงคนนึง”
ทั้งความน้อยใจและอาการป่วยเป็นอยู่ทำให้น้ำตาของร่างเล็กไหลออกมา แต่ก็เพียงเล็กน้อย ร่างสูงคงไม่รู้หรอกว่าเสียงที่พูดชื่อคนรักเมื่อกี้มันดังมาก ถึงขนาดคนในห้องน้ำได้ยินและรับรู้ถึงความใส่ใจของร่างสูงต่อคนรักมากแค่ไหน
“เฮ้ออ สงสัยคงต้องไปหาหมอคนเดียวแล้วละ”พูดไปพลางเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา
ถึงแม้จะไม่อยากไปหาหมอ ยังไงฮยอกแจก็สัมผัสได้แล้วล่ะ ว่าอาการของเค้าหนักจนควรไปหาหมอได้แล้ว เพราะเค้ายังต้องทำงานที่หลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ จนแน่นเอี้ยด จะมาล้มป่วยไม่ได้
“แล้วจะเอายังไงกับอาหารบนโต๊ะนี่” เมื่อมองไปยังอาหารบนโต๊ะ เค้าก็ยังผะอืดผะอม และขมคอเกินกว่าจะกินมันได้ จึงตัดใจเก็บล้าง เพราะกลัวร่างสูงกลับมาเห็น จะเสียน้ำใจที่ทำให้แต่เขากลับไม่กินมัน และเตรียมตัวออกไปหาหมอ
To be continue.
ก็กราบอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะทุกคน *0* (วิ้งๆ)
หวังว่าทุกคนจะไม่ถือโทษโกรธเคืองที่หายไปชาติกว่า 55
ก็สารภาพเลยว่า ตอนนี้ไรเตอร์อยู่ ม.6 ต้องเตรียมตัวเอ็นอ่า T^T
เพราะมันคือสิ่งสำคัญในชีวิต ชี้เป็นชี้ตายเลยก็ว่าได้
คงไม่ได้มาอัพให้ทุกๆคนแล้ว T^T แต่สัญญาว่าถ้าติดเมื่อไหร่จะมาอัพฉลอง วิ้ดดวิ้ววว XD
ส่วนตอนนี้ ไรเตอร์รีไรท์นิดหน่อยจ้า(รีดเดอร์บอกไม่เห็นแตกต่างจากเดิม -[]-)
ก็ภาษาดูโอเครขึ้นมั้ง 55
PS.ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ ^^
ความคิดเห็น