ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF EXO] SWEET ♡

    ลำดับตอนที่ #2 : [SF] I'm Alone (Kai x D.O)

    • อัปเดตล่าสุด 19 ส.ค. 55


    TITLE :: I'm Alone
    Pairing :: Kai & D.O
    Rate: : PG
    Author :: GiFt To You


    มาอีกแล้วกับฟิคแปลง 555+ จากคู่โฮฮยอนค่ะ แปลเป็นไก่โด้ แรงบันดาลใจมาจากหนังสือการ์ตูนเรื่องนึงที่เคนอ่านสมัยเด็กแล้วชอบมากๆ เลยเอาพล็อตบางส่วนมาแปลงเป็นฟิคค่ะ เอนจอยรีดดิ่งน้า ^^
    .....
    ...
    ..
    .



    แม่ครับผมไปโรงเรียนก่อนนะครับเสียงหวานเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย หยิบเป้มาสะพายให้เรียบร้อย ก่อนที่มือเล็กจะจับลูกบิดเพื่อเปิดประตูออกไป ขาเรียวยังไม่ทันได้ก้าวพ้นดี ผู้เป็นแม่ก็เอ่ยขึ้น



    ขอให้มีความสุขกับโรงเรียนใหม่นะลูกผู้เป็นแม่เอ่ยพลางยิ้ม เมื่อฟังคำจบประโยค มือเล็กก็ปิดประตูทันที ขาเรียวก้าวออกจาประตูบ้านอย่างเชื่องช้า 



    หึ! มีความสุขกับโรงเรียนใหม่น่ะเหรอร่างเล็กเอ่ยออกมาเบาๆ ดวงตากลมโตคู่สวยฉายแววเศร้าเล็กๆ เพราะงานที่ผู้เป็นพ่อทำต้องย้ายที่อยู่บ่อยๆ ทำให้ได้อยู่ในแต่ล่ะที่เพียงไม่นาน ได้เจอกับเพื่อนใหม่ไม่นานก็ต้องแยกจาก ต้องมานั่งเสียใจร้องไห้คิดถึงเพื่อน เพราะอย่างนั้นนสู้ไม่คบใครเลยยังจะดีซะกว่า จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจเวลาต้องแยกจากกัน 



    ถึงได้อยู่ตัวคนเดียวมาจนถึงทุกวันนี้....



    ไม่คิดจะคบเพื่อน....



    ไม่คิดจะมีใคร...



    ถึงจะเหงามากแค่ไหน....



    แต่ก็....




    ยังดีกว่าต้องมานั่งเจ็บปวดในภายหลัง....




    ในห้องเรียนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน มีเด็กนักเรียนหลายคนกำลังจับกลุ่มคุยกัน บ้างก็ปาโน่นนี่ ส่งเสียดังโวยวายไปตามประสาเด็ก เสียงประตูดังขึ้นดึงความสนใจจากเด็กทุกคนให้กลับไปนั่งที่



    ทุกคนจ๊ะ วันนี้เรามีเพื่อนใหม่ ออกมาแนะนำตัวสิจ๊ะ คยองซูอาจารย์สาวเอ่ยเรียกร่างเล็กที่รออยู่นอกห้องให้เดินเข้ามาข้างใน คยองซูเดินเข้ามาด้วยหน้าตาที่แสนเรียบเฉย หยุดยืนอยู่หน้าชั้น กวาดสายตาคู่โตมองทุกคนด้วยความเย็นชาก่อนจะเอ่ยแนะนำตัว



    ผมชื่อโด คยองซูเอ่ยสั้นๆเพียงเท่านั้น เล่นเอาทุกคนในห้องงงเป็นไก่ตาแตก แนะนำตัวเพียงเท่านั้น เท่านั้นจริงๆ



    เอ่อ...ไปนั่งที่ได้เลยจ๊ะอาจารย์สาวผ่ายมือไปที่โต๊ะด้านหลังห้องที่ว่างอยู่ ร่างเล็กเดินไปโดยไม่สนใจสายตาแปลกๆที่เพื่อนๆมองมาแม้แต่น้อย เมื่อเดินไปถึงที่นั่งของตนก็นั่งลง โดยไม่คิดจะทักทายคนข้างๆเลย เมื่อเห็นท่าทีของคยองซูนั้นคนข้างๆก็คงจะต้องเป็นฝ่ายเริ่มแนะนำตัวเองซะแล้ว



    สวัสดีคยองซู...ฉันแบคฮยอนนะเอ่ยพลางยิ้มน่ารักตามแบบฉบับของตน แต่ร่างเล็กเพียงแค่มองเพื่อนร่วมห้องด้วยหางตาแล้วหันไปสนใจอาจารย์ที่กำลังจะเริ่มสอน



    นี่ๆแบคฮยอนยังคงไม่ล่ะความพยายามในการตีสนิท มือเรียวจิ้มเบาๆที่ไหล่บางอย่างเรียกร้องความสนใจ



    เงียบๆได้ไหม จะฟังที่อาจารย์สอนเพียงประโยคๆเดียว ทำเอาแบคฮยอนเงียบและอึ้ง ร่างบางหันกลับไปมองกระดาษด้วยใบหน้าหงอยๆ ริมฝีปากสวยขยับบ่นน้อยๆอย่างหงุดหงิด คนอะไรกัน หน้าตาก็น่ารักดีอยู่หรอก แต่หยิ่งชะมัดเลย



    ตลอดทั้งคาบ แบคฮยอนพยายามหลายครั้งที่จะคุยกับคยองซู แต่เมื่อพยายามจะทักทีไร ก็ต้องเจอสายตาดุๆ หรือไม่ก็คำพูดที่ดูแสนจะหยิ่งยโสตอบกลับมาก จนอยากจะเลิกความพยายามไปเสีย แต่บยอน แบคฮยอนน่ะ ไม่ใช่คนที่ยอมแพ้อะไรง่ายๆหรอกนะ



    นี่ๆ เที่ยงแล้วไปกินข้าวที่โรงอาหารด้วยกันนะเสียงใสเอ่ยชวน ใบหน้าสวยคมยื่นเข้าไปใกล้ๆ กับดวงหน้าน่ารักของแบคฮยอน ร่างเล็กรีบผละออกจากเก้าอี้ ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง(ที่มีน้อยนิด) มือเล็กหยิบกล่องข้าวเดินออกจากห้องไป โดยไม่คิดจะสนใจคนที่เอ่ยชวนตนก่อนหน้านี้ซักนิด



    ขาเรียวก้าวลงมาจากตึกเรียนสีขาวสะอาด โรงเรียนนี้ทั้งสวยทั้งร่มรื่น คยองซูเลยคิดที่จะหาที่กินข้าวใต้ต้นไม้ในสวนหลังโรงเรียน มันคงจะสงบและไม่วุ่นวาย เมื่อเดินมาถึงหลังโรงเรียน ภาพสวนที่เขาคิดไว้มันช่างแตกต่างกับความเป็นจริง



    คิดว่าที่นี่จะมีต้นไม้ร่มรื่น แต่ที่ไหนได้ มีเพียงต้นไม้หนึ่งต้นสูงใหญ่เพียงต้นเดียว อยู่ใกล้กับบ่อน้ำของโรงเรียน มีสวนดอกไม่เล็กๆอยู่ไม่ไกลนัก ขาเรียวเดินตรงไปที่ใต้ต้นไม้ ทิ้งตัวลงนั่ง ก่อนจะหยิบกล่องข้าวออกมาเปิด 



    ต้องเอาข้าวมาเอง เพราะไม่อยากเข้าโรงอาหาร ไม่อยากไปที่ๆคนเยอะๆ พบปะเฮฮา จะให้ไปนั่งดูผู้คนเหล่านั้นพูดคุยมีความสุขอยู่กับเพื่อนๆ แต่เขาต้องนั่งกินคนเดียว มันคง... รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะอย่างนั้นหนีมานั่งกินคนเดียวตรงนี้ ที่ๆสงบและร่มเย็นแบบนี้ น่าจะดีกว่า



    นี่...มากินข้าวตรงนี้คนเดียวน่ะ ไม่เหงาเหรอเสียงทุ้มเอ่ยดังขึ้น ร่างเล็กใต้ต้นไม้มองหาต้นเสียง ใบหน้าหวานหันซ้ายหันขวา ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง แต่ก็ไม่เห็นคนพูด ใบหน้าหวานเริ่มซีดเผือด หรือว่าจะ...จะเป็นผี



    ฮะๆ ผมอยู่บนนี้บนต้นไม้นี่ไงเล่า มองหาอะไรอยู่เมื่อได้ยินเสียงทุ้มบอก คยองซูก็รีบเงยหน้าขึ้นมองบนต้นไม้ พบชายหนุ่มผมสีดำสนิท ดวงตาคมเป็นประกาย ริมฝีปากอิ่มสวยกำลังส่งยิ้มขำๆมาให้กับเขา ร่างเล็กขมวดคิ้วน้อยๆ



    นายขึ้นไปทำอะไรบนนั้นน่ะเอ่ยอย่างไม่ค่อยพอใจ ปากอิ่มสวยยู่เล็กน้อย ทำอย่างกับเห็นเขาเป็นตัวตลก มาหัวเราะใส่กันอย่างนี้ได้ไง 



    ผมก็มานั่งของผมอยู่อย่างนี้ทุกวันนะ 



    ลงมาเลยนะร่างเล็กเอ่ยสั่งอย่างเอาแต่ใจ แต่คนบนต้นไม้เพียงแค่ยักไหล่ แล้วยิ้มอย่างท้าทาย ราวกับจะบอกคนข้างล่างว่า ถ้าไม่ลงไปแล้วจะทำไมล่ะ ใบหน้าหวานยิ่งยู่หนักยิ่งกว่าเก่าเมื่อเจอท่าทางแบบนั้นของคนบนต้นไม้



    ถ้าไม่ลงมาฉันจะปาไอ้นี่ขึ้นไปจริงๆด้วยพูดพลางชูกล่องข้าวที่ยังกินไม่หมดดีขึ้นมาขู่ เล่นเอาคนที่นั่งอยู่บนต้นไม่หลุดหัวเราะก๊ากกับท่าทีของคนตัวเล็ก


    ถ้าคิดว่าปาโดนก็ลองปามาสิ แต่ว่าน้า...ผมเสียดายข้าวพวกนั้นอ่ะ กว่าเขาจะปลูกขึ้นมาได้ กลับโดนใครบางคนคิดจะเขวี้ยงทิ้งโดยไม่สนใจคุณค่า เฮ้อ คนสมัยนี้นี่น้าเอ่ยพลางถอดถอนใจ พอคนตัวเล็กได้ยินประโยคนั้นก็เอากล่องข้าววางลงทันที เพราะเห็นแก่ความเหนื่อยยากของคนปลูกหรอกนะ ชิ!



    ลงมาๆยังคงเอ่ยสั่งไม่เลิก



    ก็ได้ๆคนบนต้นไม้เอ่ยอย่างยอมแพ้ ก่อนจะกระโดดลงมาจากต้นไม้ โดยไม่กลัวว่าจะตกลงมาขาหักซักนิด ดวงตากลมโตคู่สวยเหลือกขึ้นอย่างตกใจ กระโดดลงมาแบบนั้น โดยไม่เป็นอะไรเลย O_O เป็นนักกายกรรมรึเปล่าเนี่ย



    ฮะๆ ดูทำหน้าเข้าสิอดีตคนที่นั่งอยู่บนต้นไม้เอ่ยพลางหัวเราะ คยองซูเปลี่ยนจากเบิกตากว้าง มาเป็นยู่หน้าใส่คนตัวสูงกว่าอีกครั้ง มองร่างสูงจากข้างล่างก็พอรู้ว่าคนคนนี้หน้าตาดี แต่พอได้มาเห็นใกล้ๆชัดๆแบบนี้ ดูดีอะไรขนาดนะ ดูดีซะจน ก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายมันเต้นไม่เป็นจังหวะเลยล่ะ



    นี่ ใจลอยไปไหนแล้วเนี่ยรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เสียงทุ้มนั้นดังอยู่ข้างๆหู เล่นเอาใบหน้าหวานร้อนฉ่าขึ้นสีทันที



    เปล่าใจลอยซะหน่อยเอ่ยแก้ตัวข้างๆคูๆ ก็เห็นๆกันอยู่ว่าใจลอยอยู่ชัดเลย ร่างสูงยิ้มน้อยๆกับท่าทางของคนตัวเล็ก



    ว่าแต่เรียกลงมาทำไมเนี่ยเอ่ยถามพลางยักคิ้วขึ้นอย่างกวนๆ เอามือกอดอก ยื่นหน้าเข้ามาใกล้คนตัวเล็กจนปลายจมูกแทบจะชนกันอยู่แล้ว เล่นเอาคนตัวเล็กถึงกับทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าหวานแดงซ่าน ดูน่ารักเสียเหลือเกิน



    ก็...ก็ คนเขากำลังกินข้าวอยู่ มานั่งบนหัวเขาได้ไงกัน



    แต่ผมมานั่งก่อนนี่ 



    ก็..ก็เอ่ยตะกุกตะกักอยู่อย่างนั้น จนร่างสูงแทบจะอยากหัวเราะออกมาดังๆ ท่าทางอึกอักแบบนั้นน่ะ น่ารักมากๆเลยล่ะ



    อ่าๆ คราวหลังจะไม่ทำโอเคไหม 



    อืม ก็ดีคนตัวเล็กยิ้มอย่างพอใจ ก่อนที่ดวงตากลมโตคู่สวยจะเหลือบไปมองนาฬิกา 



    อ่ะ! ใกล้จะเข้าเรียนแล้ว ฉันไปก่อนนะเอ่ยอย่างเร่งรีบ มือเล็กรีบเก็บข้าวของก่อนจะออกเดินไป โดยไม่คิดแม้แต่จะหันมาสนใจคนที่โบกมือลาอยู่ใต้ต้นไม้ซักนิดว่าจากรอยยิ้มที่สดใสของร่างสูงเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่เจื่อนและเย็นลงในที่สุด



     
    หลังจากกลับมาจากสวนหลังโรงเรียนแล้วนั้น คยองซูก็กลับมาเรียนตามปกติ แต่มันรู้สึกเหมือนลืมอะไรไปบางอย่าง มันยังรู้สึกค้างๆคาๆอยู่ในใจ ทั้งๆที่ดูของทุกอย่างแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่ลืมไว้ที่นั้น ของก็ยังอยู่ที่ตัวครบถ้วนดีนี่น่า...



    เรียน...เรียนไม่รู้เรื่องเลย เพราะใจมันคิดถึงแต่ใบหน้านั้น... อ่า ทำยังไงใบหน้าที่แสนหล่อเหลากับรอยยิ้มนั้นจะหลุดออกไปจากหัวซะทีนะ 



    อ๊อต อ๊อตเสียงออดเลิกเรียนดังเรียกสติของคยองซูให้กลับมา มือเล็กหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย กระชับเข้ากับไหล่ ก่อนจะรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว 



    ขาเรียวสวยเดินไปเรื่อย จนถึงบ้านในที่สุด มือเล็กล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบกุญแจมาเปิดบ้าน แต่ควานหาเท่าไรก็ไม่เจอ ลองค้นดูในกระเป๋าก็แล้ว ก็ไม่มี สงสัยไอ้ที่คิดว่าลืมคงจะเป็นกุญแจนี่ล่ะ แต่ทำไมตอนนั้นถึงนึกไม่ออกนะ



    รึว่าทำหล่นไว้ที่นั้นนะ ช่างเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยไปเอาล่ะกันงึมงัมกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่มือเล็กจะเดินไปหยิบกุญแจสำรองที่ซ้อนไว้หลังกระถางต้นไม้ ไขเข้าบ้าน



    บ้านที่ว่างเปล่า... พ่อแม่ไปทำงานกันหมดยังไม่กลับ พ่อแม่เอาแต่ยุ่งกับงาน กว่าจะกลับก็ดึกดื่น มีเวลาเจอกันก็แค่ตอนเช้าๆเท่านั้น เหงา...แต่ก็เหงาจนเคยชินแล้วล่ะนะ





    คยองซูจ๊ะ แม่กลับมาแล้วผู้เป็นแม่เอ่ยบอกเมื่อมาถึงในเวลาที่ค่ำมากแล้ว ร่างเล็กที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาหันมาส่งยิ้มทักทายให้ผู้เป็นแม่เล็กน้อย ก่อนที่จะหันไปสนใจทีวีดังเดิม



    ไปโรงเรียนวันแรกเป็นยังไงบ้างจ๊ะ สนุกไหมผู้เป็นแม่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เดินมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังของร่างเล็ก มือเรียวสวยจับเบาๆที่ไหล่บาง พลางก้มมองลูกชายสุดที่รักของตน



    ก็ดีฮะ มีเพื่อนใหม่เยอะเลยคยองซูเอ่ยโกหกคำโต เขามีเพื่อนที่ไหนกัน แต่ก็ต้องตอบไปแบบนั้นเพื่อให้แม่สบายใจและไม่ต้องมานั่งกังวลกับเรื่องไร้สาระแบบนี้ แค่ที่แม่ต้องทำงานอยู่ทุกวันก็ดูจะเหนื่อยมากพออยู่แล้ว



    ดีจ๊ะ งั้นแม่ไปอาบน้ำนะลูกผู้เป็นแม่เอ่ยก่อนจะหอมแก้มลูกชายเสียหนึ่งทีด้วยความเอ็นดู แล้วเดินผละออกไป จากรอยยิ้มที่ปั้นแต่งในตอนแรกเพื่อไม่ให้แม่ไม่สบายใจ เริ่มเจื่อนลงน้อย จนกลายเป็นรอยยิ้มที่เศร้าสร้อย เพื่อนใหม่น่ะ...ไม่มีหรอก




    เช้าวันใหม่ คยองซูตื่นและไปโรงเรียนตามปกติ เมื่อเข้าไปถึงก็เจอแบคฮยอนฟุบหลับอยู่ตรงที่นั่งของเขา มือเล็กสะกิดเบาๆที่หัวไหลของร่างบาง แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าคนที่หลับอยู่จะตื่นซักนิด ร่างเล็กเอามือมากอดอกอย่างชังใจ จะทำไงดีล่ะเนี่ย



    นี่ตื่นสิ ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะเอ่ยปลุกพลางพยายามเขย่าไหล่บาง แต่ก็ดูเหมือนร่างบางจะยอมตื่น ร่างเล็กถอนหายใจอย่างจนปัญญา พลางเอ่ยบ่นอยู่คนเดียว



    ถ้าจะนอนก็ไปนอนที่ตัวเองสิปากเล็กยู่อย่างขัดใจ ทำอะไรไม่ได้ เลยต้องย้ายตัวเองไปนั่งที่ของคนที่นั่งหลับในที่ของเขาแทน สายตาคู่สวยทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง มองท้องฟ้าสีฟ้าสดใส มองเลยไปไกลอย่างไร้จุดหมาย



    หงิงๆ...เสียงครางเบาๆเหมือนลูกหมาดังมาจากร่างบางที่กำลังหลับใหล เรียกความสนใจจากคยองซูได้มากพอที่จะทำให้ร่างเล็กล่ะจากการมองท้องฟ้า แบคฮยอนเริ่มเอนตัวนั่งพิงกับพนักเก้าอี้ แขนเรียวกางออกเพื่อบิดขี้เกียจ ก่อนจะหันไปมองร่างเล็กที่กำลังมองตนด้วยสายตาเรียบเฉย



    แหะๆ มาโรงเรียนแต่เช้ามันก็เงี้ยแหละ ง่วงๆเลยมางีบน่ะแบคฮยอนเอ่ยพลางยิ้มแห้งๆให้กับสายตาเย็นชานั้น 



    นายนั่งที่ฉันน่ะคยองซูเอ่ยเสียงเรียบ



    อ่าวเหรอ?...ขอโทษทีนะเอ่ยพลางยิ้มแหยๆก่อนจะรีบลุกเปลี่ยนที่นั่งให้ทันที เมื่อเปลี่ยนที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แบคฮยอนที่กำลังจะหันไปชวนคุย ก็ต้องเงียบและยิ้มเจื่อนลงทันที ก็คนข้างๆน่ะ กำลังนั่งฟังเพลง ส่วนสายตานั้นก็กำลังจ้องไปที่หนังสือ เล่นปิดกั้นตัวเองขนาดนี้ใครจะไปกล้าชวนคุยกันล่ะ




    พักเที่ยง...




    ขาเรียวก้าวมาที่ๆเขามาเมื่อวาน บรรยากาศที่แสนเงียบเหงา ที่แบบนี้แหละเหมาะกับ โด คยองซู ที่สุดแล้ว ขาเรียวก้าวเดินไปนั่งใต้ต้นไม้ ดวงตากลมโตคู่สวยสอดส่องมองหาใครบางคน แต่ก็ไม่เห็นวี่แวว มือเล็กเปิดกล่องข้าว



    ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้กลับมานั่งที่นี่ ทั้งๆที่ไม่อยากคบกับใคร แต่ก็แอบหวังเล็กๆ ว่าเขาคนนั้นจะมาที่นี่อีก ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆให้ตายสิ….



    แบร่...เสียงดังมาจากทางด้านหลัง พร้อมกับแรงผลักเบาๆที่ไหล่เล็ก ปรากฏร่างสูงที่กำลังยืนยิ้มทะเล้นอยู่หลังต้นไม้ คยองซูมุ้ยหน้าเล็กน้อย กับการเล่นพิเรนของร่างสูง เขาเกือบจะสำลักข้าวตายแล้วไหมล่ะ



    ฮ่าๆ ดูทำหน้าเข้าสิ แกล้งเล่นแค่นี่เองเอ่ยพลางหัวเราะกว้าง ก่อนจะเดินมานั่งข้างๆคนตัวเล็ก แผ่นหลังกว้างพิงกับต้นไม้ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มกริ่ม ทำเอาคนตัวเล็กรู้สึกหมั่นไส้ในท่าทีของร่างสูงนั้นเล็กๆ คนอะไรขี้เก๊กชะมัดเลย



    ชื่อคยองซูใช่ไหม?” ร่างสูงเอ่ยถาม คนตัวเล็กแปลกใจเล็กน้อย รู้ชื่อเขาได้ไงนะ



    ดูที่ป้ายชื่อน่ะร่างสูงเอ่ยพลางชี้ไปที่ป้ายชื่อที่ติดอยู่ที่อกด้านซ้ายของคนตัวเล็ก คยองซูเลยหันไปมองที่ป้ายเสื้อของร่างสูงบ้าง แต่ก็ไม่เห็นจะมีป้ายชื่อติดอยู่ ร่างสูงมองตามสายตาของคนตัวเล็กก่อนจะเอ่ยยิ้มๆ



    ทำมันหายไปแล้วน่ะคนตัวเล็กพยักหน้าอย่างเข้าใจ



    นี่ๆ เมื่อวานนายเห็นกุญแจหล่นอยู่แถวนี้บ้างไหมเอ่ยถามเมื่อนึกขึ้นได้ ร่างสูงล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบบางอย่างออกมา



    อันนี้อ่ะเหรอ?” มือหนาชูกุญแจให้ดู คนตัวเล็กพยักหน้าน้อยๆ มือหนาจึงยื่นกุญแจคืนแก่เจ้าของ คนตัวเล็กรับไว้ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋า คราวนี้จะไม่ทำหายอีกแล้ว



    ขอบใจนะ ที่อุตส่าห์เก็บไว้ให้



    ว่าแต่ทำไมถึงมานั่งกินข้าวที่นี่คนเดียวล่ะร่างสูงเอ่ยถามข้อสงสัย ทำเอาคยองซูเงียบไปอึดใจหนึ่ง แต่ก็ยอมเปิดใจเล่าเรื่องให้ฟัง ก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่เวลาอยู่กับผู้ชายคนนี้เขารู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด



    ก็พ่อกับแม่น่ะ ย้ายที่ทำงานบ่อย จะเรียนที่นี่ถึงเมื่อไรก็ไม่รู้



    อ่า...อย่างนี้นี่เองร่างสูงตอบรับคำบอกเล่าอย่างเข้าใจ ก่อนจะยิ้มเศร้าๆออกมา



    รู้อะไรไหม? เมื่อก่อนน่ะ หลังโรงเรียนไม่ได้มีต้นไม้แค่ต้นเดียวอย่างนี้หรอกนะ แต่ต้นไม้ต้นอื่นๆน่ะ ถูกตัดไปเพื่อขยายสนามร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ



    ต้นไม้ต้นนี้น่ะ...ก็คงไม่ต่างจากเรา ต้องอยู่อย่างโดดเดียว



    ของแบบนั้นน่ะ ถึงจะมีพวกพ้องมากมายแค่ไหน...สุดท้ายก็ต้องอยู่เพียงลำพังอยู่ดีร่างสูงหันไปมองใบหน้าหวานของคยองซูด้วยความแปลกใจ



    ที่พูดนั้นน่ะ...หมายถึงต้นไม้ต้นนี้เหรอ...หรือหมายถึง...คยองซู...



    ฉันอิ่มแล้ว...ไปก่อนนะร่างเล็กรีบเก็บข้าวของทั้งหมด ก่อนจะรีบเดินออกมา



    อะไรกัน? สายตาแบบนั้น...ราวกับถูกมองอย่างทะลุปรุโปร่งเลย... ได้โปรดอย่าบุกรุกเข้ามาอีกเลย...





    วันต่อมา...




    แล้วเราก็มาที่นี่อีกจนได้ ทั้งๆที่ไม่อยากมา แต่ไม่รู้ทำไม 2 ขานี้มันถึงได้พาเดินมาที่นี่จนได้ คยองซูเดินไปนั่งที่ใต้ต้นไม้ มองซ้ายมองขวาก็ว่างเปล่า วันนี้ไม่อยู่รึ ก็ดีแล้ว... จะได้ไม่ต้องสับสน เดี๋ยวจะกลับไปอ่อนแออย่างเมื่อก่อนอีก...



    คยองซู!!!ร่างเล็กเงยหน้าตามเสียงเรียก ร่างสูงกำลังอยู่บนต้นไม้ แสงอาทิตย์ลอกส่องเข้ามา ทำให้ภาพที่ร่างเล็กเห็นนั้นดูสวยงามอย่างน่าประหลาด ร่างสูงยิ้มกว้าง ก่อนจะกระโดดลงมานั่งข้างคยองซู



    คยองซูรู้ตัวไหม? ว่าตัวเองน่ะชอบเอาแต่ก้มหน้า มันทำให้รู้สึกเหมือนกับว่า... คยองซูอยากมีใครอยู่ข้างๆเลยล่ะเอ่ยพลางยิ้มบางๆ



    อีกแล้ว...อีกแล้วนะ ราวกับมองฉันอย่างทะลุปรุโปร่ง ไม่อยากจะเปิดใจ ไม่อีกแล้ว อย่า... อย่าลุกล้ำเข้ามามากกว่านี้ ไม่อยากจะเจ็บอีกแล้ว ไม่...ไม่ต้องการมันอีกแล้วความเจ็บปวดแบบนั้น….



    อย่า! อย่ามาสนิทสนมกับฉัน อย่ามาใส่ใจ ขอร้อง...ให้ฉันอยู่คนเดียวเถอะนะร่างเล็กเอ่ยด้วยใบหน้าที่แดงก่ำราวกับจะร้องไห้เสียให้ได้



    คิดจะอยู่คนเดียวไปตลอดน่ะเหรอ?” ร่างสูงเอ่ยด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจ



    ฉันน่ะ ไม่อยากอ่อนแออีกแล้ว จะแยกจากกันเมื่อไรก็ไม่รู้ ชอบใครก็ไม่ได้ พอแยกกันก็ต้องมาร้องไห้เสียใจ ไม่เอาอีกแล้ว... ไม่อยากมีใคร...ไม่อยากมีคนสำคัญ...ไม่อยากอ่อนแออีกแล้วคยองซูเอ่ยความอัดอั้นทั้งหมดออกมาจนเหนื่อยหอบ



    คยองซู...คนที่คิดแบบนั้นจริงๆน่ะ เขาไม่ทำหน้าแบบนี้กันหรอกนะมือหนายื่นออกไปลูบที่แก้มใสเบาๆ 



    ผมมักจะเห็นคยองซูทำหน้าอมทุกข์อยู่เสมอเลย ที่จริงแล้วเหงามากเลยใช่ไหม.. อยากจะร้องไห้มากเลยใช่รึเปล่า?”



    อือน้ำตาใสๆเริ่มรินไหลออกมาจากตวงตากลมโตคู่สวยอย่างช้าๆ



    เพราะไม่ชอบที่ตัวเองอ่อนแอ ไม่อยากจะเสียใจ เลยพยายามตัดทุกอย่าง ถ้าสักวันต้องจากกัน ก็จะได้ไม่คิดอะไร แต่ว่า...ความจริงแล้วเหงามากเลยใช่ไหมล่ะมือหนาซับน้ำตาให้กับคนตัวเล็กเบาๆ



    น่าเสียดายออกนะ คยองซูน่ะ ได้ไปตั้งหลายที่ ได้รู้จักคนตั้งมากมายเลย ไม่ร้องไห้ก็ใช่ว่าจะเข้มแข็งนะ เวลาแยกจากกันน่ะมันเจ็บปวด แต่เราก็แค่เก็บความทรงจำที่มีความสุขเหล่านั้นไว้ ตอนนี้ช่วงเวลาที่ผมอยู่กับคยองซูน่ะ... ผมก็ถือว่าเป็นความสุขเหมือนกันนะหัวใจดวงน้อยๆของร่างเล็กกำลังเต้นไม่เป็นจังหวะ ตึกตัก ตึกตัก



    อ๊อต อ๊อตเสียงออดเข้าเรียนดังขึ้นทำให้ร่างเล็กสะดุ้งสุดตัว มือเล็กรีบเก็บของทุกอย่างลนลาน



    ต้องไปแล้วล่ะ เออ...พรุ่งนี้ก็ยังจะได้เจอกันอีกใช่ไหม?” ร่างเล็กหันมาถาม



    แน่นอน ผมอยู่ที่นี้ตลอดแหละเอ่ยพลางยิ้มอบอุ่น


    ร่างเล็กรีบวิ่งไปเข้าเรียน อาจารย์ยังไม่ทันเข้าห้อง คยองซูรีบเดินไปนั่งที่ทันที มือเล็กปาดเหงื่อออกอย่างลวกๆ พลางหันไปมองเพื่อนที่นั่งข้างๆตน พลางยิ้มให้น้อยๆ เล่นเอาร่างบางที่ได้รับรอยยิ้มนั้นตกใจจนแทบจะหล่นจากเก้าอี้ 



    อยู่ดีๆก็ยิ้มให้...เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?




    นักเรียนทุกคน วันนี้อาจารย์จะให้จับคู่แปลบทความหน้า 35-37 นะจ๊ะอาจารย์สั่งงานก่อนจะเดินออกไปประชุมงาน คยองซูหันไปมองแบคฮยอนพลางส่งยิ้มไปให้



    ขอจับคู่กับนายนะ



    ดะ...ได้สิแบคฮยอนยิ้มตอบ ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มทำงานและคุยเล่นกันไปด้วยอย่างถูกคอ





    ฉัน...



    เริ่มเปิดใจแล้วนะ...




    วันนี้ก็เหมือนเคย คยองซูยังคงมานั่งที่ต้นไม้ต้นเดิมเพื่อคุยกับร่างสูง ใบหน้าหวานแย้มยิ้มอย่างน่ารัก ทั้งๆที่เมื่อก่อนเอาแต่ทำหน้าอมทุกข์ตลอดเวลา พอเห็นยิ้มอย่างนี้แล้ว ก็อดที่จะยิ้มตามไปด้วยไม่ได้



    นี่ๆ แบคฮยอนน่ะน่ารักมากเลยล่ะ พูดเก่งมากๆ แบคฮยอนน่ะเรียนเก่งทุกวิชาเลย ท็อปของชั้นเลยนะ สุดยอดไปเลยเนอะ ส่วนชานยอลก็ตลกมากๆเลย ชอบเล่นมุกแป็กๆ แล้วก็ซุ่มซ่ามมากๆ เอ๋อๆ แต่ใจดีมากๆเลยล่ะคนตัวเล็กพูดไม่หยุด เอ่ยชื่นชมเพื่อนของตนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ร่างสูงมองท่าทางเหล่านั้นด้วยสายตาอบอุ่น



    อะไรเหรอ?” เอ่ยถามด้วยความงุนงงกับสายตาของร่างสูง



    ก็...ผมดีใจ ที่คยองซูมีเพื่อนแล้ว หน้าตาคยองซู...ดูมีความสุขมากเลยล่ะเอ่ยพลางยิ้มอบอุ่น



    งั้นเหรอ



    อือยิ้มตอบรับ แต่แล้วอยู่ๆร่างสูงก็ขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ มือหนาเอื้อมมาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ คนตัวเล็กหลับตาปี๋ตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ ลมหายใจที่เป่ารดอยู่ที่ใบหน้า อ่า...ใกล้กันเหลือเกิน ใจมันเต้นแรงจนจะทะลุออกมาจากอกอยู่แล้ว



    ออกแล้วร่างสูงเอ่ย ก่อนจะถอยหลังผละออกมาเมื่อสามรถหยิบใบไม้ที่ติดอยู่ที่กลุ่มผมนุ่มได้ คนตัวเล็กเริ่มเปิดเปลือกตาที่ล่ะข้าง ใบหน้าหวานแดงซ่านไปหมด



    เฮ้อ...ปากสวยถอนหายใจออกมาเบาๆ นี่เราคิดบ้าอะไรอยู่นะ >///<


    อ่า...งั้นฉันไปเรียนก่อนนะคนตัวเล็กเอ่ยแก้เก้อก่อนจะลุกขึ้นปัดเนื้อปัดตัวแล้วเดินออก โดยไม่ลืมที่จะหันไปโบกมือลาร่างสูง



    เพราะนายคือคนสำคัญ...


    ถ้าไม่มีนาย...


    ตอนนี้...


    ฉันคงจะอยู่คนเดียว...


    ถึงจะไม่เคยพูด...


    แต่นายน่ะ...


    เป็นคนสำคัญของฉัน...


    จริงๆนะ...







    ต้นนี้เหรอครับผู้ชายสองสามคนเดินมาที่ต้นไม้ ร่างสูงมองผู้คนเหล่านั้นด้วยสายตาว่างเปล่า



    จะเริ่มดำเนินการเมื่อไรครับ



    พรุ่งนี้เลยล่ะกัน






    เช้าวันต่อมาคยองซูมาโรงเรียนตามปกติ ร่างเล็กเดินไปนั่งที่โต๊ะของตน ตอนนี้แบคฮยอนยังไม่มา ร่างเล็กจึงเดินไปที่ข้างๆหน้าต่าง มองลงไปที่ต้นไม้ที่เขามักไปนั่งกินข้าวบ่อยๆ มีคนมากมายยืนอยู่รอบต้นไม้นั้น ใครกันน่ะ ไม่ใช่หมอนั้นนี่ 



    นี่ดูอะไรอยู่มือบางตีเข้ากับไหล่ของเพื่อนเบาๆ



    หวัดดีแบคฮยอน พวกนั้นใครกันเหรอเอ่ยถามพลางชี้ไปที่ต้นไม้หลังโรงเรียน



    อืม...คนงานก่อสร้างมั้ง 



    มาทำไมเหรอร่างเล็กเอ่ยถามอย่างอยากรู้



    ก็คงมาตัดต้นไม้นั้นทิ้งล่ะมั้ง คงตัดวันนี้แหละ ฉันก็พึ่งได้ยินมาเมื่อกี้เองเมื่อได้ยินจบประโยค ร่างเล็กก็ออกวิ่งสุดกำลัง อะไรกัน?...ทำไมถึงได้รู้สึกแบบนี้ล่ะ?... ใจมันเต้นโครมคราม...กังวล...ทำไมถึงได้รู้สึกกังวลขนาดนี้กันนะ?



    เพราะจะไม่มีที่ๆจะได้เจอนายนั้นน่ะเหรอ? ไม่!...ไม่ใช่!!! มันรู้สึกมากกว่านั้น ยิ่งกว่า...ราวกับ...ราวกับว่า...จะสูญเสียบางอย่างไป...ทำไม?...ทำไมถึงรู้สึกอย่างนี้ล่ะ?



    ขาเรียววิ่งมาจนถึงต้นไม้หายใจเหนื่อยหอบจนตัวโยน มองดูคนงานเหล่านั้น ใบหน้าหวานแดงจัดด้วยความเหนื่อย เดินตรงเข้าไปหาคนงานเหล่านั้น



    เดี๋ยว! อย่าตัดเลยนะครับ ผมขอร้องเอ่ยพลางดึงแขนคนงานคนหนึ่งไว้



    ไม่ได้หรอกทางโรงเรียนตัดสินใจแล้ว หนูน่ะออกไปเถอะ อันตรายนะคนงานเอ่ย พลางสะบัดแขนเล็กออก 



    ขอร้องล่ะครับเสียงหวานเริ่มสั้นน้อย ดวงตากลมโตคู่สวยปริ่มไปด้วยน้ำตาสีใส



    คยองซูคนตัวเล็กหันไปตามเสียงเรียก ก็พบร่างสูงยืนอยู่ไม่ไกล จึงรีบเดินเข้าไปหาทันที



    นายรู้ไหม ต้นนี้จะถูกตัดแล้วนะร่างเล็กเอ่ยทั้งน้ำตา



    อืม... ผมรู้ แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้หรอกร่างสูงเอ่ยพลางยิ้มเศร้าๆ



    แต่ฉันยอมไม่ได้หรอกนะ!!



    เฮ้ย! เด็กคนนั้นคุยกับใครว่ะคนงานคนนึงเอ่ยขึ้น 



    อะไรกันคนพวกนั้นไม่เห็นหมอนี่เหรอ ไม่จริงหน่า! คยองซูหันกลับมามองร่างสูง มือเล็กเอื้อมออกไปหวังจะแตะตัวร่างสูง แต่เมื่อปลายนิ้วสัมผัสลงบนแขนของร่างสูง ผิวสีเนื้อก็แตกออกกลายเป็นใบไม้สีเขียวลอยละล่องปลิวไปตามสายลม



    หรือว่านาย...


    ขอร้องล่ะครับ ได้โปรดอย่าตัดเลยนะครับ ฮึก...ฮือๆ ผมขอร้องน้ำตาเม็ดใสไหลออกมาเป็นสาย ไม่อาจหยุดน้ำตาได้ เจ็บปวด...เจ็บปวดเหลือเกิน…..



    อย่าตัดเลยนะครับ ฮึก...ถ้าตัด นายนั้นต้องหายไปแน่ๆ ไม่! มันต้องไม่เป็นอย่างนั้น ได้โปรดอย่า...ได้โปรด....ได้โปรดเถอะ...



    ฮึก...





    ต้นไม้...ถูกตัดทิ้งไปแล้ว...





    ผมน่ะเฝ้ามองคยองซูทุกวันเลยนะ ในห้องเรียนคยองซูจะเป็นยังไงผมไม่รู้หรอกนะ แต่ตอนที่คยองซูนั่งอยู่ที่นี่ คยองซูดูเหงามากๆเลย ผมก็เลย...อยากจะช่วยดึงคยองซู... ให้หลุดพ้นจากความโดดเดียว แต่ว่านะ...ร่างสูงสวมกอดร่างเล็กเอาไว้ด้วยร่างกายที่เริ่มกลายเป็นใบไม้... เวลาเริ่มเหลือน้อยลง...น้อยลงทุกที….



    เพื่อนเก่าถูกตัดออกไปหมด จนเหลือผมแค่คนเดียว ที่จริงแล้ว...คนที่โดดเดียวที่สุดก็คงจะเป็น... ผมเอง ฮะๆร่างสูงหัวเราะออกมาเบาอย่างข่มขืน



    จำเอาไว้นะ คยองซู... การไม่ยึดติดกับใครเลยน่ะ มันเหงา...มากเลยนะคงเป็นเพราะนายรู้จักความโดดเดี่ยวมากกว่าใครๆ เพราะอย่างนั้นสินะ...



    คยองซู... ผมมีความสุขมากๆที่ได้อยู่กับคยองซู แล้วก็ผมน่ะ ชื่อ คิม จงอินนะ หวังว่าคยองซู...จะไม่ลืมผมนะร่างสูงเอ่ยพร้อมทั้งยิ้มกว้าง รอยยิ้มที่แสนอบอุ่นและโศกเศร้า ริมฝีปากหนาของร่างสูงประกบเข้ากับริมฝีปากอิ่มสวยของร่างเล็กอย่างแผ่วเบา ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะสลายหายไป กลายเป็นใบไม้ ที่ปลิวไปกับสายลม



    ฮึก...จงอินร่างเล็กทรุดตัวลงกับพื้นหญ้า มือเล็กกำใบไม้เหล่านั้นไว้เต็มมือ ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยน้ำตา สะอื้นไห้จนตัวโยน






    ต่อจากนี้...


    จะไม่มีนายอีกแล้ว...


    ไม่มีนายอีกแล้ว...


    แต่ฉันน่ะจะจำคำที่นายพูดไว้...


    จะไม่ลืมมัน...


    และจะจดจำนายไว้...


    ตลอดไป...





    The End…


    Talk : จบแบบนี้อย่าทุบหัวเรานะ 555+ จริงเวอร์ชั่นโฮฮยอนนั้นจบแบบแฮปปี้ แต่เราคิดว่า...แบบนี้มันอาจจะดีกว่านะ เราว่ามันซึ้งกว่าไง 555+ อย่าปารองเท้าใส่เรานะ ฮาาาาาาาา 





     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×