คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์และการปฏิวัติอุตสาหกรรม
1.การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Revolution)
การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ คือ การพัฒนาความเจริญก้าวหน้าในวิทยาการของโลกตะวันตก ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 มีการค้นคว้างแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับธรรมชาติ โลก และจักรวาล ทำให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เจริญรุ่งเรือง เป็นผลให้ชาติตะวันตกพัฒนาความเจริญก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว
ปัจจัยที่ก่อให้เกิดการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์
- การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ทำให้มนุษย์เชื่อมั่นในความสามารถของตน มีอิสระทางความคิด หลุดพ้นจากอิทธิพลการครอบงำของคริสตจักร และมุ่งมั่นที่จะเอาชนะธรรมชาติเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของตนให้ดีขึ้น
- การพัฒนาเทคโนโลยีในดินแดนเยอรมันตอนใต้ โดยเฉพาะการประดิษฐ์เครื่องพิมพ์แบบใช้วิธีเรียงตัวอักษรขอกูเตนเบิร์ก ในปี ค.ศ.1448 ทำให้สามารถพิมพ์หนังสือเผยแพร่ความรู้ต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง
- การสำรวจทางทะเลและการติดต่อกับโลกตะวันออก ตั้งแต่คริสต์สตวรรษที่16 เป็นต้นมาทำให้อารยธรรมความรู้ต่าง ๆ จากจีน อินเดีย อาหรับ และเปอร์เชีย เผยแพร่เข้ามาในสังคมตะวันตกมากขึ้น
นักวิทยาศาสตร์
- การค้นพบทฤษฎีระบบสุริยจักรวาลของนิโคลัส ชาวโปแลนด์ ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 สาระสำคัญ คือ ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาล โดยมีโลกและดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ โคจรโดยรอบ
- การประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ของกาลิเลโอ ชาวอิตาลีในปีค.ศ.1609 ทำให้ความรู้เรื่องระบบสุริยจักรวาลชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น ได้เห็นจุดดับในดวงอาทิตย์ได้สังเกตการเคลื่อนไหวของดวงดาว และได้เห็นพื้นขรุขระของดวงจันทร์
- การค้นพบความรู้หรือทฤษฎีใหม่ของ เซอร์ ไอแซค นิวตัน (Sir Isaac Newton) นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ในตอนปลายคริสต์สตวรรษที่ 17 มี 2 ทฤษฏี คือ กฎแรงดึงดูดของจักรวาลและกฎแห่งความโน้มถ่วง
เซอร์ไอแซค นิวตัน
กาลิเลโอ กาลิเลอี นักฟิสิกส์ นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี
- การค้นพบทฤษฎีการโคจรของดาวเคราะห์ ของโจฮันเนส เคปเลอร์ ชาวเยอรมัน ในช่างต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 สรุปได้ว่า เส้นทางโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์เป็นรูปไข่หรือรูปวงรี มิใช่เป็นวงกลมตามทฤษฎีขอโคเปอร์นิคัส
- เรอเนส์ เดส์การ์ตส์ ชาวฝรั่งเศส และเซอร์ ฟรานซิส เบคอน ชาวอังกฤษ ได้ร่วมกันเสนอหลักการใช้เหตุผล วิธีการทางคณิตศาสตร์ และการค้นคว้าวิจัยมาใช้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและการแสวงหาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์
2.การปฏิวัติอุตสาหกรรม
คือ การเปลี่ยนแปลงวิถีการผลิตจากเดิมที่เคยใช้แรงงานคนและสัตว์พลังงานธรรมชาติ หรือเครื่องมือง่าย ๆ ในสังคมเกษตรกรรมมาเป็นใช้เครื่องจักรกลผลิตสินค้าในระบบโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้ได้ผลผลิตในปริมาณมาก การปฏิวัติอุตสาหกรรมเกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษก่อน เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในบริเตนใหญ่ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี เกิดขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยมีจุดเริ่มจากเทคโนโลยีเครื่องจักรไอน้ำ (ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงหลัก) ทำงานด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติ (โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสิ่งทอ) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจถูกผลักดันด้วยการสร้างเรือ เรือกำปั่น และทางรถไฟ ที่อาศัยเครื่องจักรไอน้ำ ความเจริญก้าวหน้าแผ่ขยายไปสู่ยุโรปตะวันตกและทวีปอเมริกาเหนือ และส่งผลกระทบทั่วโลกในที่สุด
2.1) สาเหตุของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษเป็นครั้งแรก
- มีระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย จึงทำให้มีเสถียรภาพทางการเมือง
- มีทรัพยากรธรรมชาติที่จำเป็นต่องานอุตสาหกรรมอย่างสมบูรณ์ คือ เหล็ก และถ่านหิน
- มีเงินทุนและระบบการเงินที่มั่นคง
- มีกองทัพเรือที่เข้มแข็งและเป็นมหาอำนาจทางทะเล
- มีอาณานิคมมาก ซึ่งกลายเป็นแหล่งวัตถุดิบและตลาดการค้าด้วย
- ส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
2.2) อุตสาหกรรมทอผ้ากับความก้าวหน้าของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
การปฏิวัติอุตสาหกรรมของอังกฤษ เกิดจากการนำเครื่องจักรไอน้ำมาใช้ในงานอุตสาหกรรม ทอมัส นิวโคแมน สร้างเครื่องจักรที่ใช้พลังงานไอน้ำ จอห์น เคย์ ได้ประดิษฐ์กี่กระตุก ซึ่งช่วยให้ช่างทอสามารถผลิตผ้าได้มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า จนทำให้ขาดแคลนเส้นด้ายสำหรับการทอผ้า เจมส์ ฮากรีฟส์ สามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการสร้างเครื่องปั่นด้าย สปินนิงเจนนี
อุตสาหกรรมการทอผ้าของอังกฤษได้พัฒนาขยายตัวอย่างรวดเร็วจนปริมาณฝ้ายที่ส่งมาจากอารานิคมในทวีปเอเชียไม่เพียงพอกับความต้องการของโรงงาน จึงต้องหันไปขยายตลาดค้าฝ้ายกับอาณานิคมในทวีปอเมริกาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ เอไล วิตนี สามารถประดิษฐ์เครื่องจักรกลคอตตันยิน ที่แยกเมล็ดฝ้ายออกจากใยได้สำเร็จทำให้ราคาต้นทุนของการผลิตฝ้ายมีราคาถูกลง
2.3) การขยายตัวของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
เฮนรี คอร์ต ได้คิดค้นวิธีการหลอมเหล็ก ให้ได้เหล็กบริสุทธิ์ที่มีคุณภาพดีขึ้น โดยปราศจากโลหะอื่นเจือปน และต่อมาได้พัฒนาวิธีการตัดเหล็ก และวิธีการหลอมเหล็กเป็นรูปทรงต่างๆได้ ทำให้สามารถปรับปรุงคุณภาพยุทโธปกรณ์ต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นไป
การสร้าง และพัฒนาเรือกลไฟที่ใช้พลังน้ำ ให้เป็นพาหนะสำคัญในการคมนาคมขนส่งทางน้ำ ทั้งในระยะใกล้และไกล โดยเฉพาะยุคม้าเหล็ก เมื่ออังกฤษได้เปิดเส้นทางรถไฟไอน้ำสายแรก ซึ่งวิ่งระหว่างเมืองลิเวอร์พูล และเมืองแมนเชสเตอร์ ต่อมาอีก 10 ปี อังกฤษมีเส้นทางรถไฟ ซึ่งซึ่งเป็นการนำความเจริญจากเมืองเข้าสู่ชนบท
ความสำเร็จของการปฏิรูปอุตสาหกรรมกลายเป็นแรงกระตุ้นให้ประเทศอื่นๆในแผ่นดินใหญ่ของยุโรป รวมทั้งดินแดนอื่น ๆ ของโลกหันมาสนใจอย่างจริงจังต่อกระบวนการปฏิวัติอุตสาหกรรม จนในที่สุด ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหรัฐอเมริกาก็สามารถก้าวมาเป็นคู่แข่งขันในเชิงอุตสาหกรรมกับอังกฤษได้
2.4) ผลกระทบของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
1)ด้านสังคม
จำนวนประชากรเพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดการขยายตัวของสังคมเมือง และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เกิดปัญหาสังคมต่าง ๆ แก้ปัญหาได้ แนวคิดของระบบสังคมนิยม ของคาร์ล มากซ์ ที่เรียกร้องให้กรรมกรรวมพลังกัน เพื่อต่อสู้โค่นล้มระบบทุนนนิยม จึงเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในการเมืองของยุโรป เพื่อสร้างสังคมใหม่ที่มีความเสมอภาค และปราศจากความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และการเมือง
2)ด้านเศรษฐกิจ
แอดัม สมิท ได้พิมพ์เผยแพร่งานเขียนชื่อ ความมั่งคั่งของประชาชาติ เพื่อให้รัฐบาลเห็นด้วยว่า ความมั่น คงของประเทศจะเกิดจากระบบการค้าแบบเสรี ที่รัฐบาลควรปล่อยให้เอกชนประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อย่างเสรี โดยปราศจากการควบคุม หลักการของระบบการค้าแบบเสรีดังกล่าว ทำให้ชนชั้นกลางของหลายประเทศในยุโรปมีบท บาทสูงทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม
3) ด้านการเมือง
มีการรวมกลุ่มของคนเพื่อรักษาผลประโยชน์ของพวกตน และเป็นตัวแทนของประชาชน จนในที่สุด ก็สามารถเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ทำให้ประชาชนทั่วไปมีสิทธิในการเลือกตั้ง ทำให้ชาวตะวันตกมองโลก และสังคมด้วยทรรศนะที่เป็นจริงมากขึ้น ผลการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ และการปฏิวัติอุตสาหกรรมมิได้จำกัดบทบาทแต่ในกลุ่มชาติตะวันตกเท่านั้น แต่ได้หลั่งไหลไปยังภูมิภาคต่างๆ ตามกระแสของอารยธรรมตะวันตก ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในลักษณะเดียวกันในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ทำให้เกิดวัฒนธรรมร่วม ในกลุ่มประเทศกึ่งเกษตรกรรมกึ่งอุตสาหกรรม หรือประเทศอุตสาหกรรม
ความคิดเห็น