ยังไม่ได้ตั้งอ่ะ ลองอ่านดูกันนะคะ - นิยาย ยังไม่ได้ตั้งอ่ะ ลองอ่านดูกันนะคะ : Dek-D.com - Writer
×

    ยังไม่ได้ตั้งอ่ะ ลองอ่านดูกันนะคะ

    อ่านเอาเองเลยดีกว่านะคะ

    ผู้เข้าชมรวม

    122

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    122

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  10 มิ.ย. 50 / 12:41 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ

    ++++ สวนสนุก ++++

                    ในคืนคริสมาสต์อีฟที่ผู้คนต่างพากันยิ้มอย่างมีความสุข บรรยากาศรอบๆ ข้างเต็มไปด้วยแสงไฟที่ส่องสว่างเหมือนดาวที่ส่องสว่างอยู่บนฟ้า เครื่องเล่นสีสันต์ต่างๆที่ถูกจัดไว้ออย่างมีระบบระเบียบ เสียงเด็กเล็กที่บรรดาพ่อแม่ทั้งหลายพามาเที่ยวที่สวนสนุกดังไปทั่วบริเวณนั้น และมีที่ให้เข้าคิวรอเครื่องเล่น ซึ่งถ้าดูจากตอนนี้แล้วเด็กที่ต่อแถวคนสุดท้ายคงต้องรออีกเป็นชั่วโมงแน่ แต่มีอยู่เครื่องเล่นหนึ่งกลับมีแค่เด็กชายหญิง 1 คู่ที่เล่นอยู่ ไม่น่าแปลกใจเลยที่จะมีเด็กเล่นน้อยขนาดนี้ เพราะมันเป็นม้าหมุนที่มีสภาพเก่า สีซีดแทบจะเป็นสีเทาแตกต่างกับเครื่องเล่นอื่นที่มีสีสันหลากหลาย เด็กชายนั่งบนหลังม้าที่แม้จะสีซีดแต่ก็ยังดูสง่างาม ส่วนเด็กหญิงนั่งอยู่ข้างๆเด็กชายในหงส์สีขาวคล้ายรถม้าของเจ้าหญิงในนิทาน

                    "นี่เธอ.... ชื่อไรอ่ะ?"    เด็กชายทัก

                    ".........."   เด็กหญิงไม่ตอบเพียงแต่หันมามองนิดนึงก่อนหันหลังกลับไป

                    "นี่เธอ...เป็นใบ้รึไง?"   เด็กชายเริ่มงุดงิด

                    "แม่ไม่ให้พูดกับคนแปลกหน้า"  

                    "เธอก็พูดแล้วนี่"  

                    "เอ่อ.... จริงด้วยแฮะ"

                    "เนี่ย  รอยอะไรอ่ะ?"   เด็กชายถามพร้อมกับชี้ไปที่ไหล่ของเด็กหญิง

                    เพี๊ยะ

                    "ตีฉันทำไมเนี่ย"   เด็กชายลูบมือที่โดนเด็กหญิงตี

                    "แม่บอกว่าอย่าให้ใครถูกตัวง่ายๆ"

                    "ก็ถูกไปแล้วนี่"

                    "เอ่อ....จริงด้วย"

                    "แล้วตกลงมันรอยอะไรล่ะ"

                    "รอยชุดว่ายน้ำ ฉันชอบว่ายน้ำมากเลยนะ แม่พำไปทุกอาทิตย์เลยนะ"

                    "ดีจัง แม่ไม่ให้ฉันลงน้ำเลยตั้งแต่ฉันจมน้ำ"   เด็กชายพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูเศร้า

                    "งั้นเธอก็ว่ายน้ำไม่เป็นน่ะซิ"   เด็กหญิงถามพร้อมกับเอียงคอ

                    "อือ"

                    "งั้น... ถ้าเธอจมน้ำจะทำยังไงล่ะ?"

                    "เธอก็มาช่วยฉันสิ"

                    "ฉันไม่ชอบทำอะไรที่ไม่ค่าตอบแทนนะ"

                    "อืม.... ฉันให้เธอเป็นเจ้าสาวฉันเอาป่ะ?"

                    "บ้านนายรวยมั้ย"

                    "อืม  รวยมากเลยล่ะ  เธอถามทำไม"

                    "แม่บอกว่าให้หาแฟนรวยๆ อ่ะ"

                    "แล้วจะตกลงไหม"   เด็กชายถามย้ำ

                    "อืม  ตกลงแล้วกัน"

                    "สัญญานะ"   เด็กชายพูดพร้อมชูนิ้วก้อยขึ้น

                    "อืม"  เด็กหญิงชูนิ้วก้อยตอบ

                    "กลับบ้านได้แล้วลูก"   เด็กชายและเด็กหญิงต่างหันมองต้นเสียง

                    "แม่ฉันเองล่ะ  ฉันต้องกลับแล้วนะ"   เด็กชายยิ้มกว้างและวิ่งไปหาแม่

                    "อือ แล้วเจอกันใหม่นะ อย่าลืมสัญญาด้วย" 

                    เด็กชายหันหลังกลับไปมองพร้อมกับยิ้มให้เด็กหญิงคนนั้น ระหว่างทางกลับบ้านเด็กชายเล่าเรื่องสัญญาให้ผู้เป็นแม่ฟัง แม่ของเด็กชายยิ้มและมองลูกอย่างเอ็นดูและกำชับให้ลูกชายรักษาสัญญาที่ให้กับเด็กหญิง

                    "แล้วเธอชื่ออะไรล่ะ บอล"

                    "ไม่รู้ฮะ เธอไม่บอก"

                    "แล้วจะหากันยังไงล่ะ"

                    "......."   เธอหันไปมองลูกชายของตนที่กำลังเล่นของเล่นชิ้นโปรดโดยไม่ได้สนใจที่แม่ถามเลย

                   

                   

                   

    1.

    กำเนิดพวก 3 บ.

    "โฮ่งๆๆๆๆๆ"

    เสียงเห่ารัวปลุกให้ฉันตื่นจากการหลับ (ที่ไม่ค่อยจะเต็มอิ่มเท่าไหร่) เพราะเมื่อคืนมัวแต่คุยโทรศัพท์กับ ยัยอุ๊บ เพื่อนตัวแสบที่รบเร้าให้ฉันโทรไปหา มันบอกว่าอยากจะคุยกับฉัน แต่ทำไมให้ฉันเป็นคนโทรไปก็ไม่รู้

    "ตื่นได้แล้ว เค้กดำ พ่อบอกให้เธอไปส่งฉันที่โรงเรียนด้วยเร็วๆ ด้วยเดี๋ยวไปโรงเรียนสายกันพอดี"

    "เออๆ รู้แล้วไอ้น้องเฮงซวย รอหน่อยละกัน" 

    ไม่ต้องตกใจไปนะคะ มันเป็นการทักทายคนที่รักกันมากกกก (รึป่าว??) ของครอบครัวฉันเองน่ะค่ะ ฉันชื่อ เค้ก เป็นพี่คนโตของบ้าน ตอนนี้เรียนอยู่ม.5 โรงเรียนสหศึกษาที่มีชื่อเสียงมากแถวบ้าน หน้าตาฉันพอดูได้ อ๊ะ!!! ไม่สิ..... ถือว่าดูน่ารักทีเดียว แถมมีความสูงที่ผู้หญิงทั่วๆไป เห็นก็ต้องอิจจา ตั้ง 165 cm. แน่ะ  ฉันมีน้องสาวอีกคนชื่อ เครป  (บ้านนี้ชอบตั้งชื่อลูกเป็นขนมเนอะ) เรียนอยู่ชั้นม.3 โรงเรียนหญิงล้วนค่ะ พ่อกับแม่ของฉันเลิกกันตั้งแต่ตอนเครปเกิดใหม่ๆ ยัยเครปก็เลยโตมาแบบไม่ค่อยเหมือนผู้เหมือนคนเท่าไหร่ (เผาน้องตัวเองซะงั้น) เอ่อ...เราสองคนอยู่กับพ่อนะคะ ส่วนแม่อยู่ที่ญี่ปุ่นค่ะ

    "สายแล้วนะ กะจะกินเข้าไปทั้งโต๊ะเลยรึไงเนี่ย?? ยัยเค้กดำ"

    "เออๆ อิ่มแล้ว ใส่ถุงเท้าเดี๋ยว"

    เอากะมันดิ ทำให้กินไม่ลงเชียว ฉันลุกจากโต๊ะกินข้าวแล้วใส่ถุงเท้า(ที่ใส่แล้วเมื่อวาน) แล้วเดินนำเจ้าน้องเปรตปากเสียที่ คำก็ดำ สองคำก็ดำ ไอ้ที่น้องฉันมันว่าแบบนั้นก็ เพราะสีผิวของฉันมันเป็นสีน้ำผึ้งนิดๆ น่ะสิ ทำไงได้ล่ะก็ถ้าฉันว่างเมื่อไรเป็นได้กระโดดลงสระน้ำทุกทีนี่นา จนยัยอุ๊บว่าชาติก่อนฉันคงเป็นปลาแน่เลย ก็คงจะจริงอย่างมันบอกแฮะ

    "ขอบใจนะ.......แต่ที่หลังไม่ต้อง"   หญิงสาวน่ารักพูดทันทีที่ถึงหน้าโรงเรียน

    "เออ!!!  งั้นเพื่อเป็นการตอบแทน ขอยืมตังค์หน่อยดิ"

    "เรื่องอะไร ได้มากกว่าเค้าแท้ๆ เอาไปไหนหมด??"

    "ก็พอดีว่าเมื่อวานมีกระเป๋า Roxy ออกใหม่ เลยหมดเกลี้ยงเลย"

    "ช่างเป็นพี่ที่ทุเรศมากเลยนะ เออๆ เอานี่ เงินออกแล้วเอาคืนด้วย"

    "ขอบใจไอ้น้องรัก"

    พอเครปยื่นตังค์พร้อมกับสั่งเสียเสร็จแล้วมันก็รีบวิ่งเข้าโรงเรียนไป ทิ้งให้ฉันยืนอึ้งกับท่าทางที่เหมือนจะเป็นแม่คนที่สองของฉันให้ได้

    "ติ่งต่อง ติ่งต่อง เวลา 8 นาฬิกา"

    เสียงบอกเวลาทำให้ฉันขนลุกซู่ ก็นี่มัน 8 โมงแล้วนี่น่า ยิ่งคิดถึงโรงเรียนก็ยิ่งสยองเพราะถ้าวันนี้ไปสายอีก มันจะเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันแล้ว กฎของโรงเรียนข้อที่ 10 ถ้านักเรียนมาสายติดกัน 3 ครั้ง ต้องทำความสะอาดสวนหลังโรงเรียน

    " ตายแน่เลยฉัน"

                    เมื่อฉันคิดได้ดังนั้นแล้ว จึงใส่เกียร์หมาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต เอ่อ...ลืมบอกไปค่ะโรงเรียนของฉันอยู่ใกล้โรงเรียนของยัยเครป จนสามารถที่จะโดดข้ามกำแพงมาหากันได้เลย ฉันเคยถามพ่อว่าทำไมถึงให้เรามาอยู่โรงเรียนใกล้กันแบบนี้ พ่อบอกว่าทั้งสองโรงเรียนเพื่อนพ่อเป็นเจ้าของ จะได้ดูแลได้ทั่วถึง ก็เงี้ยแหละค่ะ พ่อเป็นห่วง และหวงเรามากๆๆๆ ก็เราสองคนหน้าดีมากนี่คะ(เปลี่ยนนางเอกได้ป่ะเนี่ย)

                    แฮ่ก แฮ่ก  

    "เสียงเหมือนหมาลิ้นห้อยเลยแฮะ"

    "ปากหมาแต่เช้าเลยนะ ยัยอุ๊บ"

    "ไม่ต่างกันหรอก ยัยเค้กดำ  เฮ้อ....วันนี้จะเจอพี่บิวหวานใจฉันมั้นเนี่ย"

    นี่คือยัยอุ๊บอิ๊บ เป็นเพื่อนของฉันเอง เรารู้จักกันตั้งแต่อยู่ป.1  และเราก็เรียนด้วยกันมาตลอด แม้แต่เข้าห้องน้ำเราก็เคยเข้าด้วยกันมาแล้วด้วยนะ (เดี๋ยวหาว่าไม่สนิทกันจริง) ยัยอุ๊บเป็นผู้หญิงที่หน้าตาน่ารักมากเลยทีเดียว เคยถ่ายปกนิตยสารวัยรุ่นหลายเล่ม ตอนไปเดินห้างด้วยกันมีแมวมองให้ไปเล่นโฆษณาแต่ยัยนี่กลับตอบไปว่า "ไม่เอาค่ะ ไม่ชอบเห็นตัวเองในโทรทัศน์ มันอ้วน" เล่นเอาแมวมองคนนั้นทำหน้างงไปเลยที่จริงแล้วมันไม่อยากให้ที่บ้านมันรู้ว่าทำงานแบบนี้ เพราะบ้านมันทำธุรกิจใหญ่โต มีหน้ามีตาในสังคม สรุปว่าบ้านมันรวยมากๆ เลย มันจะรับงานถ่ายปกก็ต่อเมื่อตังค์มันหมดหรือมันเบื่อชีวิตเท่านั้นแหล่ะ

    "ทำไมเธอชอบจังนะ ฉันไม่เห็นว่าจะมีอะไรดีเลย นอกจากหน้าตาที่พอไปวัดไปวาได้เนี่ย"

    "ใครจะไปดีเท่ากับคุณชายน้อยว่าที่เจ้าบ่าวเธอล่ะ แล้วเธอหาเจอรึยังล่ะ"

    "ยังเลย ไม่รู้ว่าตอนนี้เค้าจะอยู่ที่ไหนนะ"

    หลังจากคุยไปวิ่งไปก็ถึงโรงเรียนอันเป็นที่รักยิ่งซักที ตอนนี้เรายืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนอันศักด์สิทธิ์พร้อมกับหน้าของอาจารย์สุจิตเหี่ยว เอ่อ...มันเป็นชื่อที่ยัยอุ๊บ เพื่อนฉันเป็นคนคิดขึ้น ที่จริงอาจารย์ชื่อสุจิตรา แต่มีผิวหนังที่เหี่ยวแสนเหี่ยว เข้าใจแล้วใช่มั้ยคะ เฮ้อ..... ช่างเป็นวันมหาซวยซะจริงๆ

    "อาจารย์สุดสวยขา ปล่อยพวกหนูไปเถอะนะคะ เห็นแก่พ่อหนูเถอะค่ะ"

    ด้วยสมองอันชาญฉลาดของฉันเลยนึกหาข้อแก้ตัวได้ทัน ฉันก็ไม่ได้จะใช้เส้นสายอะไรหรอกนะแต่เผอิญพ่อกับครูเป็นเพื่อนเรียนที่เรียนมาด้วยกัน ในขณะที่ฉันหาทางให้พวกเรารอด ยัยอุ๊บกลับเอาแต่จ้องเสาอะไรไม่รู้สูงๆ แต่ตอนนี้ฉันต้องรีบหาทางรอดก่อนเลยไม่ได้สนใจ

                    "ครั้งที่เท่าไรแล้ว จำได้มั้ยยัยเคทิญา" 

                    "ครั้งที่ 1 ค่ะ"

                    "อย่ามาตลกนะ แล้วอีกอย่างฉันเป็นคนที่ไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน เข้าใจไว้ด้วยล่ะ"

                    "โถ่.....อาจารย์คะ ลืมเรื่องที่พ่อฝากฝังหนูให้กับอาจารย์แล้วหรือคะ"

                    "จำได้ซิ ฉันก็กำลังดูแลเธออย่างดีนี่ไงล่ะ"   

                    "อาจารย์คะ หนูมีเงิน 300 ลูกอม 3 อัน หนูให้อาจารย์แล้วกันนะคะ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นนะคะ"

                    ฉันบอกพร้อมยื่นเงินอันน้อยนิด ลูกอมนิดหน่อย(แต่ทุกอย่างมีค่ามากมายสำหรับฉัน) ให้อาจารย์ที่ยืนทำหน้าเหี่ยว เอ้ย หน้าโกรธบวกกับเอือมระอา

                    "หึ หึ"

                    "ใครขำยะ"

                    ก่อนที่ฉันจะรู้ว่าใครขำก็มีเสียงเหี่ยวดังมาซะก่อน

    "กะจะให้สินบนอาจารย์รึไง มานี่เลยลงชื่อ แล้วเย็นนี้ไปทำความสะอาดสวนหลังโรงเรียนด้วย"

    อาจารย์สุจิตเหี่ยวบอก พร้อมกับดึงหูสุดหวงของฉันไปที่โต๊ะลงชื่อ

    "โอ้ย..... อาจารย์เบาๆ ซิค่ะ หูหนูทำประกันไว้หลายบาทนะคะ"

    "เอ้า...แล้วเพื่อนเธอยืนน้ำลายยืดอะไรตรงนั้นอ่ะ ฉันล่ะเหนื่อยกับพวกเธอสองคนจริงๆ  เอ่อนายบอลกับเพื่อนๆ ที่ยืนอยู่ตรงนั้นทั้งหมดก็มาลงชื่อด้วย อย่าหนีนะ ถ้าชั้นรู้ล่ะก็ ตายยย"

    อาจารย์พูดพร้อมกับยื่นมือไปชี้ยัยอุ๊บที่ยืนน้ำลายไหลที่เห็นผู้ชายกลุ่มนั้น เห็นว่าชื่อบอล บิว บาส

    ทั้งสามเป็นรุ่นพี่พวกเราปีหนึ่ง เป็นกลุ่มที่สาวๆในโรงเรียนต่างพากันกรี๊ด ฉันก็ไม่เห็นว่าพวกนั้นจะมีอะไรที่ดีกว่าหน้าตาหล่อนั่นเลย ฉันไม่ค่อยชอบคนที่ดีแต่หน้าตาน่ะ ผิดกับยัยอุ๊บที่ชื่นชมพวกนั้นซะออกนอกหน้า  โดยเฉพาะนายคนที่บิว น่ะ เพื่อนใครนะหน้าด้านมาก

    "แล้วเย็นนี้นายบอลกับเพื่อนก็ต้องไปช่วยยัยสองคนนี้ทำความสะอาดสวนหลังโรงเรียนด้วย"

    อาจารย์ผู้มีพระคุณของเราบอกเมื่อพวกบอลลงชื่อในสมุดมาสายเรียบร้อยแล้ว

    "ไม่ต้องหรอกอาจารย์ สองคนนั้นน่ะ..............."

    คงจะบอกว่า "สองคนนั้นไม่ต้องเดี๋ยวพวกผมทำเอง" อ่ะดิ สงสัยต้องมองนายนี่ใหม่ซะแล้ว คนนี้คงเป็นบาส ฉันเลยส่งยิ้มหวานให้เป็นการขอบคุณ

    "ผมคิดว่าสองคนนั้นทำกันเองก็ไหวครับ ไม่ต้องให้พวกผมช่วยหรอก เฮ้ย....บิวช่วยด้วยดิ ยัยนี่ยิ้มทำเสน่ย์ชั้นว่ะ"

    ฉันเลยหุบยิ้มโดยอัตโนมัติ อุตส่าห์จะมองแง่ดีซะหน่อย ไอ้บาสชั้นจะแอบเอาหนอนใส่กระเป๋านักเรียนนาย

    "ฉันก็แย่ว่ะ ยัยนี่จะทำน้ำลายไหลใส่เสื้อฉันมั้ยเนี่ย"

    ไอ้นี่คงจะเป็นบิวล่ะซิ กล้าว่าเพื่อนฉัน ฉันจะเอาขี้หมาใส่กระเป๋าแกด้วย แล้วยัยอุ๊บทำไมเอาแต่น้ำลายยืดล่ะ มันด่าแกนะโว้ย ไปหมดละ สมองอันน้อยนิดของเพื่อนฉันนนนน

    "เฮ้ย!!!!  บอลมัวอ่านอะไรอยู่ว่ะ พวกฉันแย่แล้วนะ ช่วยกันหน่อยดิ"

    ฉันหันไปมองตามสายตาของไอ้สองเน่านั่น สิ่งที่ฉันเห็นก็คือมนุษย์คนหนึ่งที่หน้าตาดูมีสกุล ผิวขาวมากเหมือนจะขาวกว่าฉันอีกนะเนี่ย รู้สึกว่าจะชื่อ บอล นะในมือถือหนังสือพิมพ์ที่หน้าปกเป็นรูปนักฟุตบอลคนหนึ่งที่ฟันเหยินออกมานอกปากจนเกือบจะเห็นฟันซี่ในสุดเลย น่าเกลียด แต่คนที่ถือน่าตาดีแฮะถึงว่าสาวๆในโรงเรียนกรี๊ดกันจริง

    "อ่านข่าวบอลอยู่โว้ย... อย่ากวนสมาธิได้ป่ะเนี่ย"

    "อ๋อ เหรอ เธอมาเรียนหรือว่ามาทำอะไรเนี่ย ฉันไม่สงสัยเลยที่พ่อแม่เธอตั้งชื่อลูกว่าบอลเนี่ย"

    เสียงอาจารย์สุดเหี่ยวร้องทักนายคนที่ชื่อบอลพร้อมกับทำหน้าเหี่ยวบวกโกรธ แบบว่าควันออกหูเลยอ่า หวังว่าตัวอาจารย์คงไม่ระเบิดหรอกนะ ในขณะเดียวกันคนที่ชื่อบอล เริ่มรู้ถึงหายนะที่กำลังจะเกิดจึงพับหนังสือพิมพ์เข้ากระเป๋าและส่งสัญญาณเตือนภัยให้กับเพื่อนยากอีก 2 คน จากนั้น......

    "กลับมานี่นะ!!!!! นายบอล นายบิว นายบาส หยุดนะ"

    "หยุดไม่ได้คร๊าบบบ"  พวกสามตัวตอบกลับมาอย่าไม่กลัว

    "ทำไมหยุดไม่ได้ล่ะ" อาจารย์สุดเหี่ยวถามอย่างสงสัย

    "ก็อตซิลาตัวสีเขียวบุกครับบบบบ"  บอลแหกปากดังลั่น

    ตอนนี้ภาพที่ฉันเห็นก็คืออาจารย์สุจิตเหี่ยววิ่งลากสังขานที่ไม่เที่ยงของแกตามไอ้ 3 บ. นั่นไป อ่อ..แล้วที่พวกนั้นบอกว่าก็อตซิล่าตัวเขียวบุกนั่นน่ะ ก็เพราะวันนี้อาจารย์สุจิตเหี่ยวแกใส่ชุดสัเขียวทั้งชุดเลยนะซิ  เอ....ลืมอะไรรึป่าวเนี่ย??? อ่อ...แล้วยัยอุ๊บล่ะ???? ในขณะที่ฉันมองหา ยัยนั่นกลับยังยืนน้ำลายยืดอยู่ที่เดิมท่าทางเหมือนพยายามสูดดมอะไรซักอย่าง

    "อุ๊บ ไปห้องเรียนกันเหอะ คาบแรกสายไป 15 นาทีแล้วนะ"

    "อืม...แต่ขอเก็บลมหายใจของพี่บิวไว้ก่อนนะ"

    "เป็นเอามากนะเพื่อนฉัน"

    เมื่อเราถึงห้องเรียนก็พบว่าอาจารย์สอนคณิตลาหยุด ทั้งห้องเลยเปลี่ยนจากคาบคณิตไปเป็นคาบเมาส์แหลกลานไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนฉันกับยัยอุ๊บได้แต่นั่งฟังยัยลูกกวาดพูดถึงประวัติของพวกนาย 3 บ.

    เอ่อ..ยัยลูกกวาดเป็นเพื่อนสนิทของเราอีกคน ฉันกับยัยอุ๊บรู้จักกับลูกกวาดตอนม.1 ตอนนั้นฉันกับยัยอุ๊บไปนั่งกินไอติมกันสั่งไปอย่างไม่บันยะบับยัง พอกินเสร็จแล้วดันไม่ได้เอากระเป๋าตังค์มากันทั้งคู่เลย ได้ลูกกวาดนี่แหละที่ช่วยออกตังค์ให้ฉันกับยัยอุ๊บเลยสัญญากับลูกกวาดว่าจะตามชดใช้บุญคุณให้ สุดท้ายเลยกลายเป็นเพื่อนรักกันไปเลย ลูกกวาดป็นคนที่น่าตาน่ารัก ดูเป็นคนรียบร้อย ชอบสีชมพูมากๆๆ เรียนเก่งเป็นคนติวให้ฉันกับยัยอุ๊บบ่อยๆ และเป็นคนที่มีความพยายามมากๆ ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆด้วย และที่สำคัญยายนี่ก็เป็นสาวกของนายบาสหนึ่งในพวก 3 บ.นั่น

    "เมื่อเช้า ฉันเห็นนะ พวกแกขี้โกงนิได้อยู่ใกล้กับพวกพี่บาส บิว บอลด้วยอ่ะ"

    "สำหรับยัยอุ๊บน่ะอาจใช่ แต่สำหรับฉันมันเป็นโชคร้ายเลย"   ฉันตอบ

                    "ยัยเนี่ย มันเป็นพวกเกลียดคนหน้าตาดีแหละ"   ยัยอุ๊บเสริมทันที

                    "เอ่อ...ฉันรวบรวมประวัติของพวกพี่บิว บาส บอลเสร็จแล้วนะจะดูรึป่าว?"

                    แล้วยัยลูกกวาดก็หยิบสมุดบันทึกสีชมพูที่มันชอบที่สุดขึ้นมา พร้อมหยิบแว่นตาที่มีกรอบสีชมพูมาใส่ ยัยนี่สายตาสั้นมากเลยมันไม่ชอบใส่คอนแทคเพราะทุกทีที่ใส่ไม่ค่อยถนัดเห็นมันว่า เมื่อทุกอย่างครบแล้วมันก็เริ่มสาธยายสรรพคุณยา เอ้ย..พวก 3 บ.นั่นทันที

                   

    "คนแรก พี่บาส สูง 186 น้ำหนัก 62 ผมสีน้ำตาลอ่อน เป็นนักกีฬาบาสของโรงเรียน และชอบเล่นบาสเป็นชีวิตจิตใจ เจ้าชู้มาก มีคติประจำตัวว่า *แฟนไม่ใช่แม่* พี่บาสเลยไม่เคยง้อผู้หญิงคนไหนเลย และที่สำคัญพี่แกเกลียดสีชมพูที่สุดเลย เป็นลูกชายคนเดียวของประธานบริษัทเครือ UL ที่มีราคาหุ้นสูงมากที่สุดในตลาดหุ้น"

    "แกก็หมดหวังเลยดิยัยลูกกวาด ฮ่าๆๆๆ"   ยัยอุ๊บตอกย้ำทันที

    "ใครบอกล่ะ ถ้าพี่เค้ามาชอบฉันจริงๆ ก็ต้องรับได้ซิ"   ยัยลูกกวาดรีบเถียงข้างๆคูๆ

    "เออๆ ยอมแพ้ว่ะ ของพี่บิวขอฉันอ่านเองนะ"

                    "คนที่สอง พี่บิว สูง 185 น้ำหนัก 60 ผมสีดำ เป็นนักกีฬาบาสเหมือนกับพี่บาส และชอบเล่นเกมส์มากถึงขนาดมีห้องไว้สำหรับเล่นเกมส์ มีแผ่นเกมส์มากกว่า 3,000 แผ่น แต่ก็เรียนเก่งมากทีเดียวเคยติดอันดับอัจฉริยะด้วย มีคติประจำตัวว่า *ผู้หญิงก็เหมือนแผ่นเกมส์เมื่อเล่นผ่านแล้วก็เก็บเข้าตู้* เพราะฉะนั้นผู้หญิงที่พี่บิวเคยจีบและเคยคบด้วย เมื่อกันเลิกแล้วจะไม่มีทางกลับไปคบอีก เป็นคนที่เบื่อง่ายด้วย เป็นลูกชายคนเล็กของเจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดังในโตเกียวและในอเมริกา"

                    "สงสัยว่าแกก็หมดสิทธิเหมือนกันนะยัยอุ๊บ"   ยัยลูกกวาดรีบเอาคืนทันที

                    "ผู้ชายอะไรเห็นผู้หญิงเป็นแผ่นเกมส์ ท่าทางจะบ้านะ"

                    "อย่ามาว่าพี่บิวฉันนะยัยเค้กดำ"    คงไม่ต้องบอกว่าใครด่าฉัน

                    "แต่ฉันว่าพวกแกเลิกไปสนใจไอ้พวก 3 บ. นั่นจะดีกว่านะ เสียเวลาเปล่าๆ มีชายดีๆ มีตั้งเยอะ"

                    "ไม่อ่ะ"   ยัยอุ๊บและยัยลูกกวาดตอบพร้อมกัน

                    "สุดท้ายพี่บอล สูง 187 น้ำหนัก 61 ผมสีทองเห็นว่าแม่พี่แกเป็นคนอเมริกันนะ เป็นนักกีฬาบาสเหมือนกับพี่บิวและพี่บาส ชอบฟุตบอลมากที่สุดแต่ที่ไม่เล่นฟุตบอลเพราะว่าโรงเรียนเราไม่มีชมรมฟุตบอล ชอบทีมแมนยูมาก เห็นบอกว่าที่บ้านมีห้องสำหรับเก็บของที่เกี่ยวกับทีมแมนยูเลยนะ ส่วนคติประจำตัว      *ฟุตบอลมาก่อนเรื่องอื่นเสมอ* มีแฟนแล้วอยู่ปีเดียวกันเป็นถึงดาวโรงเรียนม.6 เลยนะ คบกันมาปีกว่าแล้วล่ะ และเป็นลูกชายคนเดียวของประธานบริษัทจิวเวอร์รีที่ส่งออกนอกด้วย"

                    "ทำไมฉันต้องมานั่งฟังอะไรไร้สาระนี่ด้วยนะเนี่ย"

                    "ยัยเค้กฉันว่าแกเลิกรอเด็กผู้ขายคนนั้นดีกว่านะ ถ้าเกิดเด็กคนนั้นโตมาแล้วหน้าตาน่าเกลียดล่ะ แกรับได้หรอ"
                   
    "แต่ยัยอุ๊บ...ฉันว่าคนเราเค้าดูกันที่เงิน เอ้ย..ไม่ใช่ที่ใจมากกว่านะ"

                    "แต่ฉันคงรับไม่ได้นะ ที่ดาวม.5 ของโรงเรียนเราจะคบคนที่หน้าตาห่วยๆ ง่ะ เสื่อมเสียถึงโรงเรียนเลยนะโว้ย"

                    "เลิกพูดถึงเรื่องดงดาวอะไรนี่เหอะนะยัยลูกกวาด พวกแกก็รู้นี่ ว่าฉันไม่ได้อยากเป็นซะหน่อย ถ้าพวกแกไม่หักหลังส่งชื่อฉันลงไป ฉันก็คงไม่ต้องมาเป็นอะไรแบบนี้หรอก"

                    "ก็ตอนนั้นแกอยากได้เงินค่าขนมนี่ ฉันก็เลยหาทางให้"

                    "อ้อเหรอ.... แล้วฉันเป็นคนลงประกวดทำไมพอได้รางวัลแล้วต้องให้พวกแกคนละ 25% ด้วยล่ะ"

                    ".............."

                    ใช่แล้วฉันเป็นดาวโรงเรียนของม.5 เอง ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าจะประกวดกันไปทำไมนะ เปลืองงบประมาณปล่าวๆ แล้วไอ้ที่ฉันต้องลงประกวด ก็เพราะเงินรางวัลมันตั้ง 10,000 บาท แล้วคนที่เห็นเงินเป็นพระเจ้าหยั่งฉันจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไงล่ะ เฮ้อ.....สมเพทตัวเองจังแฮะ ไม่ต้องสงสัยนะคะว่า ไอ้นิสัยเห็นเงินเป็นพระเจ้าเนี่ยได้มาจากใคร จากผู้เป็นแม่ค่ะ มีแม่คนไหนบ้างเนี่ยสั่งสอนให้ลูกหาเจ้าบ่าวที่รวยๆ ก่อนที่จะดูที่นิสัยอ่ะ

                   

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น