ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    1/2 ผู้ชายนะค่ะ

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 คุโด มาโกโตะ

    • อัปเดตล่าสุด 14 ต.ค. 49


                   บทที่ 1 คุโด มาโกโตะ



                   ...............................



                   เช้าวันที่สดใสกับน้ำค้างที่เกาะตามกิ่งไม้ใบไม้ทำให้ต้นไม้แลดูงดงาม ประกอบกับเสียงนกร้องและบินออกหาอาหาร ซึ่งบ่งบอกให้ทุกคนต้องรีบลุกขึ้นเพื่อรับวันใหม่ แต่มีใครบางคนไม่เป็นแบบนั้น กลับนอนนิ่งเงียบสงบอยู่บนเตียงของตัวเอง คล้ายกับรอให้ใครบางคนปลุกให้เขาตื่น



                   "นี่มัน 7 โมงแล้วนะมาโกโตะ เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายหรอก"



                   เสียงปลุกของอีกคนที่อยู่ข้างนอกห้อง ทำให้ร่างที่นอนอยู่บนเตียงต้องลืมตาขึ้นทันที "ครับ คุณพ่อ" พูดจบก็รีบลุกขึ้นนั่ง พลางขยี้ตาไปมาก่อนสักพัก แล้วลงจากเตียงเดินออกไปนอกห้องเพื่อที่จะอาบน้ำแปรงฟัน ระหว่างที่เขาเดินลงบันไดไปถึงหน้าห้องน้ำแล้ว ผู้เป็นพ่อก็เข้ามาหาเขา 



                   "เมื่อคืนกลับมาถึงกี่ทุ่มมาโกโตะ"



                   เขา คุโด มาโกโตะ ชื่อที่พ่อตั้งให้ตอนที่มาญี่ปุ่นใหม่ๆ ส่วนชื่อเก่านั้น เขาลืมมันไปแล้ว ...เขามองหน้าพ่อทีหนึ่งพลางตอบกลับไปด้วยคำๆเดิม ซึ่งเป็นคำตอบตามปกติทุกวันในรอบ 10 ปีหลังจากที่แม่ของเขาตายไปแล้ว "เที่ยงคืนครับ" ว่าแล้วก็เดินเข้าไปในห้องน้ำต่อ 



                   เมื่อเขาเข้าไปแล้วก็หยิบแปรงสีฟันขึ้นมา แล้วบรรจงใส่ยาสีฟันลงบนแปรงนั่น ...จะว่าไปแล้ว วันนี้เป็นวันครบรอบ 10 ปีที่แม่ได้ตายจากเขาไป เหตุการณ์ในคืนนั้นเขายังคงจำมันได้ดีไม่มีวันลืม หลังจากที่แม่ของเขาได้ตายไป แล้วเขาก็ร้องไห้ร้องปลุกให้แม่ตื่นแต่แม่ของเขาก็ไม่ตื่น เขาร้องจนกระทั่งพ่อของเขามาถึง เขาจำหน้าพ่อตอนนั้นได้แม่นยำ ใบหน้าของพ่อมีน้ำตาไหลลงอาบแก้มเต็มไปหมด เขาคิดว่าพ่อคงจะเสียใจที่แม่ตาย ต่อจากนั้นมาเมื่องานศพของแม่จบลง พ่อของเขาก็ไม่เคยสนใจใยดีอะไรเขาอีกต่อเลย หรือจะเป็นเพราะว่าเขาที่เป็นตัวการที่ทำให้แม่ต้องตายกันแน่



                   พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเขาก็รีบหยิบกระเป๋านักเรียนขึ้นมา และถือมันเดินเข้าไปในห้องครัว "ผมขอไม่ทานอาหารเช้านะครับ คุณพ่อ เดี๋ยวจะไปโรงเรียนสาย" เขาหวังว่าพ่อจะตอบ แต่พ่อกลับไม่ตอบคำถามของเขา แถมยืนหันหลังให้อีกต่างหาก "งั้นผมไปก่อนนะครับ" พูดจบเขาก็เดินออกนอกห้องครัวแล้วไปยังที่ประตู 



                   "อย่ากลับหลังพระอาทิตย์ตกนะ มาโกโตะ" 



                   เสียงของพ่อเขาดังขึ้นขณะที่เขากำลังสวมรองเท้าอยู่ ที่พ่อเขาบอกเช่นนี้ก็เพราะว่าถ้าเขาขืนไม่รีบกลับ มีหวังได้กลับมาในร่างหญิงด้วยชุดนักเรียนชายเป็นแน่ ความลับเรื่องคำสาปนี้ยังไม่มีใครทราบนอกจากตัวเขาเองกับพ่อของเขา หลังจากงานศพของแม่เสร็จ พ่อก็พาเขาย้ายมาอยู่ที่ญี่ปุ่นแทนที่จะอยู่ประเทศไทยทันที ที่พ่อทำแบบนี้ก็คงไม่อยากอยู่ให้มันเจ็บปวดเสียเปล่า ความหลังที่ไม่น่าจดจำ แต่เรื่องที่มาอยู่ญี่ปุ่นนั้น ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องที่อยู่ที่กิน แม้แต่เรื่องภาษาเลย พ่อของเขาเป็นคนญี่ปุ่น และตัวเขาเองก็มีเชื้อสายคนญี่ปุ่นเช่นกัน แต่ครึ่งญี่ปุ่นครึ่งไทย รูปร่างหน้าตาของเขาไม่ค่อยจะเหมือนแม่ จะเหมือนพ่อเสียมากกว่า สูง ขาว แต่ตาไม่ตี่ตามพ่อ เขาได้ตาเหมือนแม่ราวกับพิมพ์มา ดวงตาของแม่เขาสวยที่สุดในบรรดาที่เขาเคยเห็น ดวงตาที่เขาจ้องมองเป็นตัวแทนของแม่มาตลอด 10 ปี ส่วนผมของเขา แต่ก่อนเคยเป็นสีดำเหมือนคนทั่วไป หลังจากที่โดนคำสาปในวันนั้นแล้วสีผมของเขาก็เปลี่ยนไปเลย ผมสีเงินที่แสนประหลาดกับใบหูที่แหลมคล้ายเอล์ฟ



                   "ครับ คุณพ่อ" 



                   เขาตอบเสร็จก็เอาผมสีเงินที่ยาวมาปิดใบหูของตน พลางลุกขึ้นยืนแล้วเดินเปิดประตูออกไปนอกบ้าน ปีนี้เขาอายุ 15 แล้ว เขากับพ่อมาอยู่ที่ญี่ปุ่นได้หลายปีดีดัก นานจนกระทั่งเขาลืมภาษาไทยไปซะเสียสนิท 



                   "อรุณสวัสดิ์มาโกโตะ"



                   "อรุณสวัสดิ์คะมาโกโตะ" เสียงแซ่ดแซ่ทักทายเด็กหนุ่มผมสีเงินดังขึ้นไปตลอดทางเดิน ตั้งแต่หน้าโรงเรียนยันจนถึงในห้องเรียน มีแต่คนเข้ามาทักเขาเต็มไปหมด ไม่เว้นแต่อาจารย์ที่เดินสวนด้วยที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะตัวเขาเองมีคนที่ชอบในตัวของเขา กีฬาดี กิจกรรมเด่น รวมถึงการเรียนของเขา เขานั้นได้เป็นท๊อปของโรงเรียนมาตลอดไม่เคยตกแต่มันตรงกันข้ามกับนิสัยของเขา เยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง เป็นคนเงียบไม่พูดไม่จากับคนอื่น นอกเสียจากเรื่องที่จำเป็นเท่านั้น เขาไม่พูดไม่จาก็เพราะว่าเบื่อ เบื่อต่อการที่ปกปิดเรื่องราวในตัวของเขานั่นเอง



                   "เฮ้ย! มาโกโตะ วันนี้ขอลอกการบ้านหน่อยได้ไหม" 



                   เพื่อนคนแรกของเขาที่คบกันมาตั้งแต่วันแรกที่เขาได้เข้ามาที่ญี่ปุ่น ไอดะ โทรุ มีนิสัยห้าวๆ ชอบเตะฟุตบอล การเรียนพอไปวัดไปวา แต่เมื่อเทียบกับเขาแล้ว ก็ห่างราวกับฟ้ากับดิน นอกจากนั้นก็ยังมีดีตรงที่รักเพื่อนอยู่บ้าง ไม่ว่าตอนที่เขาไม่สบายหรือมีเรื่องทุกข์ร้อนใจ โทรุก็มักจะเข้ามาช่วยเขาอยู่เสมอไป 



                   "ได้สิ แต่ลอกให้เสร็จก่อนโฮมรูมนะ โทรุ" 



                   เขาพูดพร้อมกับถอนหายใจอย่างน่าเบื่อหน่าย ก่อนที่จะยื่นสมุดการบ้านให้กับเพื่อนรักเพื่อนซี้ของเขา ระหว่างที่เขานั่งรอโฮมรูม พลางมองไปข้างนอกหน้าต่างเรื่อยเปื่อย เสียงคุยจ๊อกแจ๊กจอแจของเพื่อนดังขึ้นเรื่อยๆ ทีแรกเขาไม่ได้ใส่ใจที่จะฟัง แต่แล้วก็ต้องสะดุดอยู่คำพูดของเพื่อนคนหนึ่งในห้องเสียมิได้



                   "นี่ๆ มีเรื่องประหลาดอะไรจะบอก"



                   "เรื่องอะไรเหรอ"



                   "ก็เมื่อเที่ยงคืนนี้ ที่ฮาราจุกุมีระเบิดวะ พื้นคอนกรีตแข็งๆงี้เป็นหลุมเท่าอุกาบาตตกเลย"



                   "โห! ถึงขนาดนี้เลยเชียว แล้วมีคนเห็นไหมว่าใครทำ"



                   "ก็มีนะ เห็นเขาลือว่าเป็นเวทมนตร์อะไรเนี่ยแหละ ทำให้ระเบิดทำนองนี้ แต่มันก็น่าเชื่อหรอกนะ ขนาดลูกระเบิดยังทำไม่ได้เท่านี้เลย แบบนี้ต้องเป็นฝีมือพ่อมดแม่มดแน่"



                   สิ้นเสียงของนักรายงานข่าวตัวดีจบ เขาถึงกับลุกขึ้นพรวดพราดเสียงดังจนเพื่อนๆต่างมองกันเป็นตาเดียว 



                   "พ่อมดแม่มดอะไรกัน ไม่มีจริงหรอก ไร้สาระ" 



                   เขาไม่เคยรู้สึกหงุดหงิดอะไรมากถึงขนาดนี้ กับเพียงคำสองคำเท่านั้น ถึงปากจะบอกว่าไม่มีจริง แต่ในใจของเขาคิดไปคนละอย่าง พ่อมดมีตัวตนจริง ไม่เช่นนั้นเขาจะมีร่างกายแตกต่างจากคนทั่วไปงั้นหรือ คำสาปครึ่งชายครึ่งหญิงนั้นยังคงอยู่เช่นเคย แต่เรื่องนี้มันไม่ทำให้เขาลำบากนักหรอก เพียงแต่ว่าผลพวงจากคำสาปนั่น มีบางครั้งที่ทำให้เขาครั่นเนื้อครั่นตัวในยามพระจันทร์เต็มดวง ประสาทหูของเขาทำงานดีเกินไป แม้ว่าตัวเขาอยู่ห่างไกลหลายกิโลเมตรก็ยังได้ยินเสียงแปลกบางอย่างที่คนอื่นเค้าไม่สามารถได้ยินได้ 



                   "ไม่เอาน่า มาโกโตะ เรื่องแค่นี้นายไม่เห็นต้องโมโหเลย กะอีแค่พ่อมดแม่มด มันจะมีจริงหรือไม่มีจริง นายก็อย่าไปใส่ใจเลย มามะ มาช่วยฉันทำการบ้านดีกว่านะ"



                   โทรุรู้ดีว่าเขาโมโหเรื่องนี้จึงพยายามพูดเล้าโลมให้เขาดีขึ้น พลางฉุดเสื้อนักเรียนให้เขานั่งลงตามเดิม "มองอะไรกัน มีอะไรทำก็ทำไป ไม่ต้องมามองทางนี้เลย" โทรุหันไปขู่กับเพื่อนในห้อง ก่อนที่จะหันกลับมาทางเขา "ฉันรู้ว่านายโมโหเรื่องนี้ แต่ขอให้ระงับอารมณ์ไว้บ้างก็ดีนะ เดี๋ยวคนอื่นจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่" โทรุพูดเสียงกระซิบ



                   อย่างที่โทรุพูดมาก็ถูก ตอนที่เขาอยู่ชั้นป.6 ก็เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้นมาก่อน เขาโมโหที่เพื่อนร่วมห้องกล่าวหาว่าเขาเหมือนตัวประหลาด คล้ายกับพ่อมดแม่มด ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะมีคนได้เห็นใบหูของเขานั่นเอง แม้แต่ตัวโทรุที่ได้เห็นเข้าพอดี ก็อดนึกไม่ได้ว่า มาโกโตะเป็นตัวประหลาด แต่ด้วยความเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อนุบาลแล้ว โทรุจึงไม่ใส่ใจเรื่องนี้ หลังจากที่มาโกโตะโดนต่อว่าแล้ว จู่ๆ ก็มีลมแรงขึ้นมาภายในห้องอย่างน่าเหลือเชื่อ ทำเอากระจกหน้าต่างแตกทุกบาน ทุกคนตกใจมากที่เกิดเรื่องไม่เป็นเรื่องก็ต่างพากันหวาดกลัวมาโกโตะ ดีที่โทรุเข้าไปพูดปลอบใจให้เขาใจเย็นลง ทำให้ลมปริศนานั่นหยุดลงทันที ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา เพื่อนๆก็ไม่เคยคิดจะเข้าใกล้มาโกโตะอีกเลย จนกระทั่งมาโกโตะและโทรุเรียนจบชั้นป.6 



                   พอได้เรียนชั้นมัธยม เขากับโทรุต่างก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าจะหวนกลับมาให้คิดถึงอีก ครั้งนี้ยังโชคดีกว่าตรงที่ไม่มีเหตุการณ์ประหลาด ทำให้เขาไม่ต้องกลัวเรื่องที่เห็นว่าเขาเป็นตัวประหลาดนั่นเอง 



                   "อืม ขอบใจนะโทรุที่ช่วยฉัน"



                   "ไม่เป็นไร ไม่ต้องขอบคุณหรอก มันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว" โทรุหรือเพื่อนแสนดีกล่าวพลางส่งยิ้มให้ จากนั้นก็หันกลับไปทำการบ้านตรงหน้าต่อ 



                   ..................



                   พอถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว เขากับโทรุต่างรีบเก็บหนังสือเรียนเข้ากระเป๋าทันทีที่อาจารย์เดินออกนอกห้องไป และในวันนี้เขากับโทรุรีบ เพราะจะไปเตะฟุตบอลกัน ซึ่งเป็นการแข่งที่พวกเขาสองคนนัดเอาไว้กับโรงเรียนอีกแห่งหนึ่ง พอไปถึงสนามฟุตบอลก็เห็นนักเรียนหญิงนักเรียนชายมากมาย ต่างยืนรอดูการแข่งขันฟุตบอลที่จะเริ่มแข่งกันในมิช้านี้ ทันทีที่เขาเหยียบย่ำเท้าเข้าไปในสนาม นักเรียนหญิงต่างส่งเสียงกรีดร้องเรียกชื่อเขาตลอดไม่มีว่าจะหยุด 



                   "จะอะไรกันนักหนานะพวกผู้หญิงเนี่ย น่ารำคาญเสียจริง" 



                   โทรุกล่าวด้วยความหงุดหงิด เสียงผู้หญิงร้องมันรบกวนเวลาเล่นของพวกเขานั่นเอง ส่วนตัวเขา มาโกโตะ กลับไม่ใส่ใจเสียงเหล่านั้น พลางแกะกระดุมเสื้อนักเรียนแล้วถอดออกมา ทำให้เห็นเสื้อยืดสีขาวที่ใส่เตรียมเอาไว้ข้างใน "วันนี้เล่นตามแผนที่วางไว้นะ โทรุ" เขาหันไปบอกกับเพื่อนที่กำลังถอดเสื้อนักเรียนเช่นเดียวกับเขา 



                   "อืม" 



                   โทรุตอบสั้นๆ หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้ากันเสร็จสรรพ พวกเขาสองคนก็เดินไปที่กลุ่มของเพื่อนๆที่รอกันอยู่ เพื่อนที่ว่ามานี้เป็นพวกชมรมฟุตบอลทั้งนั้น "เอาล่ะ วันนี้ต้องชนะนะทุกคน Go!" สิ้นเสียงของหัวหน้าชมรมกล่าว ทุกคนต่างแยกย้ายไปประจำที่ของตัวเอง โทรุประจำที่ตำแหน่งปีกหน้าซ้ายมือ ส่วนตัวเขาเอง ประจำที่ปีกหน้าทางขวา และแล้วทุกคนก็รอสัญญาณนกหวีดเพื่อที่จะได้เริ่มการแข่งขัน



                   "ปรี๊ด!!!"



                   เสียงนกหวีดดังขึ้น ฝ่ายโรงเรียนของเขาเป็นผู้เริ่มเตะก่อน ลูกบอลถูกเตะโดยเพื่อนร่วมทีมคนหนึ่ง เขาเริ่มวิ่งตามเพื่อนไป "ส่งมาทางนี้เลย! ชิคุ" เขาวิ่งนำหน้าเพื่อนมาอยู่ก่อน แล้วจากนั้นลูกบอลก็ลอยไปยังทางมาโกโตะ เขารับมันด้วยปลายเท้าก่อนที่ตวัดหลบขาของผู้เล่นอีกฝ่ายหนึ่ง 



                   "ทางนี้มาโกโตะ!" 



                   เสียงของโทรุดังลั่นสนาม เมื่อเห็นว่าเขากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน ฝ่ายตรงข้ามที่ตามประกบเขามีอยู่ถึง 3 คน ซึ่งล้อมตัวเขาอยู่ เขาพยายามหาทางที่จะหลบหลีกและหาวิธีที่จะส่งไปให้เพื่อน ช่องว่างระหว่างขาของอีกฝ่ายกำลังเปิดกว้าง เขาจึงฉวยโอกาสตอนที่เผลอ จึงเตะส่งไปให้โทรุได้ทันท่วงที 



                   "โทรุ! รับลูกด้วย"



                   ลูกลอยละลิ้วไปยังตรงหน้าเท้าของโทรุ โทรุรับมันก่อนที่จะวิ่งเตะลูกบอลไปพร้อม ตอนนี้เพื่อนของเขาวิ่งไปถึงหน้าประตูโกลด์ของฝ่ายตรงข้ามแล้ว "อย่าเพิ่งยิง! เตะส่งมาทางนี้เลย" เสียงเพื่อนร่วมทีมตะโกนบอกโทรุ โทรุหันไปมองแต่ก็เห็นว่ามันไปไม่ถึงได้ เนื่องจากฝ่ายนั้นมีคนประกบอยู่หลายคนมากพอสมควร 



                   "แย่ละสิ! ทางนี้ก็แย่ ทางนู้นก็แย่" 



                   โทรุบ่นพลางมองหาเพื่อนร่วมทีมที่ยังว่างและไม่มีคนประกบ แต่แล้วก็หาไม่ ฝ่ายตรงข้ามเก่งกว่าทีมอื่นๆที่โทรุและมาโกโตะแข่งมาทั้งสิ้น แลเป็นทีมระดับประเทศที่ทั้งทีมต้องระวังอย่างมาก เพื่อมิให้ฝ่ายตรงข้ามแย่งทำประตู 



                   "อ๊ะ! เสร็จกัน" 



                   โทรุเผลอไปแวบเดียว ฝ่ายตรงข้ามตวัดขาเพียงครั้งเดียว ลูกบอลก็หายวับไปทันที "มาโกโตะ! ลูกถูกแย่งไปแล้ว ช่วยจัดการด้วย" โทรุตะโกนเสียงดังลั่นแข่งกับเสียงกรี๊ดของหญิงสาวที่ข้างสนาม 



                   "ได้เลย! โทรุ ไม่ต้องห่วง" 



                   โทรุทราบดีว่า มาโกโตะมีฝีมือในการแย่งลูกบอลจากฝ่ายตรงข้ามดี จึงไว้ใจให้มาโกโตะวิ่งเข้าไปแย่ง และสิ่งที่โทรุคิดไว้ก็เป็นผล มาโกโตะแย่งลูกได้สำเร็จได้ทันท่วงทีก่อนที่จะถึงหน้าประตูของฝ่ายตัวเอง



                   "เอ้า!รับเลยนะโทรุ"



                   ว่าแล้วเขาก็เตะลูกบอลลอยข้ามสนามอย่างน่าเหลือเชื่อ ต่อสายตาของเพื่อนร่วมทีมกับทีมฝ่ายตรงข้ามต่างพากันตกตะลึง จากที่เขายืนอยู่ตรงหน้าประตูฝ่ายตัวเอง สามารถเตะลูกบอลให้ลอยไปถึงโทรุ ที่กำลังยืนรอลูกบอลตรงจุดที่ไม่มีคน ซึ่งใกล้กับประตูของฝ่ายตรงข้าม 



                   "ยอดมาก ส่งได้สวย" 



                   โทรุกระโดดโหม่งรับบอลหนึ่งทีก่อนที่จะปล่อยให้มันร่วงที่ปลายรองเท้า เขารับลูกบอลแล้วเตะบอลให้เหนือศีรษะตัวเอง 



                   "เข้าประตูไปเลย!" 



                   ว่าแล้วก็กระโดดตีลังกาเตะลูกบอลที่ยังคงลอยสูง ลูกบอลที่ถูกปลายเท้าของโทรุเตะแล้วก็ลอยละลิ่วอย่างเร็วและแรงจนโกลด์ที่ยืนคอยรับลูก ถึงกับอึ้งแทบขยับไม่ได้ ลูกมันเร็วเกินไปไม่พอที่จะรับได้ทัน สุดท้ายลูกบอลที่โทรุเตะก็เข้าประตูอย่างสวยงาม



                   "เย้!! สำเร็จไปหนึ่งแล้ว ยอดมากเลยนะโทรุ!" 



                   เขาตะโกนบอกด้วยความดีใจสุดๆ ต่อจากนั้นการแข่งขันก็ยังคงดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ ประตูแล้วประตูเล่า โทรุและเขาต่างพากันยิงลูกบอลเข้าประตูคนละครั้งสองครั้ง รวมถึงเพื่อนร่วมทีมบางคนที่สามารถเตะเข้าประตูฝ่ายตรงข้ามด้วย 



                   "ปรี๊ด!! ปรี๊ด!!!" 



                   เสียงนกหวีดดังขึ้นบ่งบอกว่าเกมส์นี้จบแล้ว เขาและโทรุต่างกระโดดกอดคอกันด้วยความดีใจ ทีมของพวกเขาชนะเลิศแล้ว ชนะทีมระดับประเทศ ซึ่งทำให้ทีมของโรงเรียนเขาเข้ารอบไปแข่งระดับประเทศแทนทีมเก่า "เก่งมากเลยนะ มาโกโตะ" เสียงเพื่อนร่วมทีมเข้ามาแสดงความยินดี 



                   "ใช่ๆ โทรุก็ด้วย ถ้าไม่ได้พวกนายสองคน ทีมเราก็คงไม่มีวันนี้หรอก" หัวหน้าชมรมฟุตบอลกล่าวชมอย่างออกหน้า หลังจากที่โห่ร้องดีใจกันอยู่สักพัก ทุกคนก็ถูกนักข่าวรุมล้อมเต็มไปหมด 



                   "ดีใจด้วยนะคะสำหรับทีมหน้าใหม่ที่เป็นตัวแทนระดับประเทศไปแข่ง"



                   นักข่าวหญิงสาวคนหนึ่งถือไมค์พูดยินดีด้วยกับทีมก่อนที่จะถามคำถามกับพวกเขา "เอ่อ พ่อหนุ่มน้อยผมสีเงินคนนั้น พี่สาวจะขอถามอะไรอย่างหนึ่งได้ไหมคะ ว่าทำไมถึงเล่นได้เก่งถึงเพียงนี้" ว่าแล้วก็เอาไมค์ไปจ่อที่ตรงหน้าของเขาทันที เขาตกใจกับคำถามที่นักข่าวสาวถามมา 



                   พ่อหนุ่มน้อยผมสีเงิน ชิ! ทุเรศสิ้นดี 



                   "ผมไม่มีอะไรที่จะให้สัมภาษณ์กับนักข่าวหรอกนะ" หญิงสาวที่เป็นนักข่าวถึงกับตะลึง ไม่รวมถึงทุกคนในทีมที่ยืนอยู่ข้างๆ ต่างพากันเงียบและตกใจที่เขาพูดออกมาแบบนี้ 



                   "เอ่อ! พี่สาวครับ ผมต้องขอโทษด้วยที่เพื่อนของผมเป็นแบบนี้ อย่าไปถือสาว่าความเลยนะครับ มันคงจะเขินกล้องมากกว่านะ" โทรุรีบพูดแก้ตัวให้เขาทันควัน ซึ่งโทรุรู้ดีว่า เขากำลังโกรธในเรื่องสีผมนั่นเอง 



                   "งั้นพี่ไม่มีอะไรรบกวนแล้วคะ ไว้เจอกันวันแข่งนัดหน้านะจ้ะ" 



                   "ครับ" 



                   ว่าแล้วนักข่าวสาวนั่นก็ชิงตัวหนีหายไปจ้อย ทิ้งไว้แต่พวกเขาทั้งทีมที่ยืนมองมาโกโตะเป็นตาเดียว "ไหนๆก็ชนะแล้ว อย่าคิดมากเลยนะ จริงไหมครับรุ่นพี่" โทรุหันไปพูดกับหัวหน้าชมรมฟุตบอลพลางส่งยิ้มแห้งๆไปให้ หวังว่ารุ่นพี่ของเขาคงจะไม่โกรธมาโกโตะเรื่องนี้นะ 



                   "อะ..อืม จริงสิวันนี้ชนะแล้ว พี่จะพาพวกนายไปเลี้ยงฉลองก็แล้วกัน จะเอาที่ไหนดีกันละ" รุ่นพี่ที่เป็นหัวหน้าชมรมกล่าวชวนเพื่อนร่วมทีม "ร้านราเม็งข้างปากซอยใกล้โรงเรียนเลยครับรุ่นพี่ เห็นว่าอร่อยมากด้วย พวกเราไปกินกันที่นั่นเถอะครับ" 



                   เสียงหนึ่งในนั้นออกความเห็นให้กับหัวหน้าชมรม 



                   "อืม! ดี งั้นไปกันเลย กินกันไปให้จนถึงเที่ยงคืนเลย!" รุ่นพี่ตะโกนบอกด้วยความดีใจ ทันทีที่ทุกคนพูดตกลงพร้อมกันว่าจะไป แต่ก็มีเสียงหนึ่งแย้งขึ้นมา 



                   "ผมขอตัวครับรุ่นพี่" 



                   ทุกคนในทีนี้ได้ยินถึงกับเงียบ ก็จู่ๆ มาโกโตะเล่นบอกมาแบบนั้น ตัวเก็งสำคัญที่ทำประตูได้เยี่ยมกลับดันไม่ยอมไปงานเลี้ยงที่สำคัญ 



                   "ทำไมละมาโกโตะ หรือว่ากลัวพี่จะให้นายกินน้อยเกินไปงั้นหรือ"



                   รุ่นพี่หันมาพูดกับเขา แต่เขากลับสั่นหัวปฎิเสธ "ไม่ใช่อย่างที่รุ่นพี่คิดหรอกครับ คือว่าผมมีธุระจำเป็นจริงๆ ไม่สามารถไปร่วมงานกับพวกพี่ๆได้ครับ ...ผมขอโทษและขอตัวกลับก่อนครับ" พูดจบเขาก็รีบวิ่งไปเอากระเป๋านักเรียนแล้ววิ่งออกไปนอกโรงเรียน 



                   "เฮ้ย! รอด้วยสิ มาโกโตะ" โทรุตะโกนร้องเรียกตามพลางหยิบกระเป๋านักเรียนวิ่งตามเขาไปด้วย



                   "แฮ่กๆๆ ฉันว่านายรีบๆกลับไปบ้านซะ อย่าตามฉันมาเลย" เขารีบพูดขณะที่วิ่งอยู่ "ทำไมมาโกโตะ นายเป็นอะไรของนายกันแน่ ทำไมไม่ไปงานเลี้ยงที่รุ่นพี่บอกละ" 



                   โทรุไม่เข้าใจความคิดของเขาเลยสักนิด ความจริงแล้วตัวเขาเองก็อยากไปเหมือนกัน แต่ติดตรงที่คำสาปเนี่ยแหละ ถ้าเขาไม่กลับบ้านก่อนพระอาทิตย์ มีหวังร่างของเขาจะเปลี่ยนเป็นหญิงต่อหน้าคนอื่นนะสิ เขาคิดแล้วว่ามันทุเรศสิ้นดี ถ้าคนอื่นได้เห็นร่างของเขาเปลี่ยนเป็นผู้หญิงในชุดนักเรียนผู้ชาย เขาวิ่งอยู่สักพักก็เบรกเท้าก่อนที่จะหันไปมองโทรุเพื่อนสนิท



                   "ฉันรู้ดีว่ามันเสียมารยาทต่อรุ่นพี่ แต่ขอให้นายเข้าใจไว้ว่า มันจำเป็นจริงๆ ฉันไม่สามารถอยู่นอกบ้านได้หลังจากพระอาทิตย์ตก เข้าใจไหม!"



                   เขาตะโกนบอกเสียงดังลั่นซอย โทรุได้ยินก็นิ่งเงียบไปพักหนึ่ง "เข้าใจแล้วล่ะ ...ถ้านายไม่บอก ฉันก็จะไม่ถาม แล้วก็ไม่ยุ่งกับนายอีกต่อไป" โทรุเริ่มน้อยใจในตัวของมาโกโตะที่มีเรื่องไม่สบายใจก็ไม่ยอมบอกกัน 



                   "เดี๋ยวก่อนสิ! โทรุ ฉันขอโทษ"



                   เขาเห็นใบหน้าของโทรุที่แฝงไปด้วยความเศร้า ก็อดมิได้ที่จะต้องขอโทษ โทรุหันมามองเขาแวบหนึ่งก่อนที่จะหันหลังกลับไป "ไม่ต้องมาขอโทษหรอก ฉันเข้าใจนายดี กลับไปบ้านเป็นลูกที่ดีของพ่อนายเถอะ" น้ำเสียงของโทรุสั่นจนเขารู้สึกได้ แต่ก็ไม่สามารถจะบอกความลับที่เขาโดนคำสาปให้โทรุทราบได้ จึงได้แต่ยืนมองแผ่นหลังของโทรุที่เดินจากไปช้าๆ



                   "ฮือๆๆ ฉันขอโทษนะ โทรุ ขอโทษ มันจำเป็นจริงๆ" 



                   เสียงสะอื้นของเขาดังอย่างแผ่วเบา น้ำตาเริ่มไหลลงอาบแก้มทีละนิดๆ พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ร่างที่เคยสูงใหญ่กลับค่อยๆเล็กลงเรื่อย ประกอบกับผมสีเงินที่สั้นประบ่าก็ค่อยยาวลงมา ที่แท้ร่างของเขาก็กลับกลายมาเป็นหญิงในชุดนักเรียนชายเหมือนทุกๆคืน เขาเกลียดร่างอัปรีย์นี่เหลือเกิน! สักพักเขาก็ต้องร้องออกมาอีกครั้งด้วยเสียงสะอื้นแหลมๆ เล็กๆของผู้หญิง โหยหวนทั่วซอยราวกับจะตายตรงนั้นเสียให้ได้.....



                   ...................................



                   จบ บทที่ 1 คุโด มาโกโตะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×