ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 9 กรมกระทรวงเวทมนตร์ (อัพ 100%)
บทที่ 9 กรมกระทรวงเวทมนตร์
...........................
นับตั้งแต่มาโกโตะ โทรุ และมิสเทรสได้ย่างเท้าก้าวเข้ามาในพื้นที่ของตึกแห่งหนึ่ง เป็นสถานที่ที่สวยงามดูเป็นระเบียบเรียบร้อย เหมาะสมกับชื่อของกรมกระทรวงเวทมนตร์ ซึ่งคนในบริเวณนั้นส่วนใหญ่จะเป็นคนของกรมทั้งหมด มีน้อยนักที่ไม่ใช่คนของที่นี่ ก่อนที่พวกเขาสามคนจะขึ้นลิฟต์แก้ว มิสเทรสก็เล่าให้ฟังว่า เขาเคยมาที่นี่ครั้งสุดท้ายก็ตอนที่พ่อของมาโกโตะได้ย้ายไปที่โลกนั้น เพื่อที่จะแจ้งให้กรมกระทรวงเวทมนตร์ได้ทราบ ซึ่งมันจำเป็นมากๆสำหรับคนบนโลกไกอานี้ ถ้าไม่ทำเช่นนั้น เมื่อเวลาไปอยู่บนโลกอื่น ก็จะไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้อีก
"พอถึงที่ที่ข้าว่าแล้วก็อย่าทำตัวให้มันแปลกไปมากนักละ เข้าใจไหม"
"ครับมิสเทรส"
เสร็จจากนั้นประตูของลิฟต์แก้วก็ถูกเปิดกว้าง พอให้เห็นภาพตรงหน้าได้อย่างชัดเจน ห้องกว้างใหญ่โตโอ่อ่า ไม่มีสิ่งใดอยู่ในนั้นนอกเสียจากโต๊ะทำงานตัวหนึ่งกับชายแปลกหน้าที่ยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น
"ไงไม่ได้เจอกันเสียนานเลยนะมิสเทรส ยังสบายดีอยู่หรือเปล่า" ชายแปลกหน้าเอ่ยถามมิสเทรสด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
"สบายดีแล้วเจ้าละ"
"ก็เหมือนกับแกนั่นแหละ ว่าแต่คนที่ยืนอยู่ด้านหลังของแกนั่นใครอ่ะ" ชายแปลกหน้าผมสั้นสีดำ สวมชุดแปลกแตกต่างจากที่มาโกโตะและโทรุเคยเห็นมา พอชายแปลกหน้าถามจบ มิสเทรสถึงกับร้องอ้อ
"ขอโทษทีลืมแนะนำตัวให้รู้จัก นี่คุโด มาโกโตะเหลนของข้า ส่วนนี่ไอดะ โทรุเพื่อนของมาโกโตะ"
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ"
ทั้งมาโกโตะและโทรุต่างพูดพร้อมกัน
"อ๋อ! ลูกของมาซาฮิโนะนะเอง มิน่าละหน้าตาถึงเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน ...ยินดีที่ได้รู้จักนะเด็กๆ ข้า พาร์ ไวซ์ หรือจะเรียกสั้นๆว่า ไวซ์ก็ได้ เป็นผู้บริหารสูงสุดของที่นี่"
ปากว่าแต่มือจับทักทายเขาและโทรุไปพลาง ความร้อนหลังจากได้จับสัมผัสกับมือของชายนามว่าไวซ์แล้ว มาโกโตะก็รู้สึกอบอุ่นจนเขาต้องชักมือตัวเองขึ้นมากุมไว้บนอก
ความรู้สึกนี้ เหมือนกับแม่ไม่มีผิด
"เออจริงสิมิสเทรส เจ้ามีธุระอะไรถึงมาที่นี่ละ อย่าบอกนะว่าพาพวกเด็กสองคนนี้มาลงทะเบียนประวัติขอเป็นประชากรที่นี่"
"ใช่และก็เรื่องนั้นด้วย..." มิสเทรสผงกหัวก่อนที่จะก้มหน้าพูดกระซิบเสียงเบากับไวซ์
"ได้ เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง อือม์ เจ้าไปเหอะ"
ไวซ์พูดจบก็เงยหน้าขึ้นมามองมาโกโตะแวบหนึ่ง "เอาละ มาโกโตะ โทรุ พอดีข้ามีธุระจำเป็นจะต้องทำ ด่วนมากด้วย เพราะฉะนั้นเจ้าทั้งสองคนคอยข้าอยู่ที่นี่นะ ส่วนเรื่องทำประวัติของเจ้าทั้งสองคน ไว้เป็นหน้าที่ของไวซ์ละกัน - - แล้วตอนกลางวันข้าจะมารับพวกเจ้า"
"ครับ"
เขาสองคนตอบรับคำ มิสเทรสยิ้มให้ทีหนึ่งพลางขยี้ผมของมาโกโตะเบาๆ
"ไปละ" มิสเทรสพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาก่อนที่จะหายตัวเข้าไปในลิฟต์แก้ว
"มามะเจ้าทั้งสองคนเชิญนั่งทางนี้"
ไวซ์ออกคำสั่งซึ่งพวกเขาสองคนก็เดินเข้าไปหาอย่างว่าง่าย พอไปถึงได้แต่ยืนมองพื้นที่อันว่างเปล่า ...แล้วจะนั่งได้ยังไงกันละเนี่ย ก็ในเมื่อเก้าอี้ไม่มีให้นั่ง หรือว่าไวซ์จะให้เขาสองคนนั่งกับพื้นกันแน่
"ข้าไม่ได้ให้เจ้านั่งพื้นหรอกมาโกโตะ นั่งลงไปเลยนั่นแหละตรงนั้น ใช่ๆ"
มาโกโตะและโทรุมองหน้ากันหวาดๆหลังจากได้หย่อนก้นลงกับพื้นอากาศที่แสนจะว่างเปล่า เสร็จจากนั้นจู่ๆก็มีกระดาษเอกสารปึกหนึ่งโผล่ขึ้นมาพรวดพราด เล่นเอาเขากับโทรุต่างสะดุ้งด้วยความตกใจ
"ไม่ต้องกลัวหรอก นี่แค่เวทมนตร์ขั้นพื้นฐานระดับ 1 เท่านั้น อีกไม่นานพวกเจ้าก็จะได้เรียนกัน"
"หมายความว่ายังไงนะครับ ได้เรียนกัน?" มาโกโตะรู้สึกงุนงงกับคำพูดของไวซ์อย่างมาก
"อ้าว! มิสเทรสยังไม่ได้บอกพวกเจ้าอีกเหรอไง"
ทั้งมาโกโตะและโทรุส่ายหัวพร้อมกัน "ไม่ครับ มิสเทรสไม่ได้บอกอะไรกับพวกผม"
"ให้ตายสิ! มิสเทรสนี่ช่างขี้ลืมเสียจริง แก่แล้วก็งี้แหละ จริงไหมเด็กๆ หึหึ" ไวซ์หัวเราะเสียงเบาๆ "นี่คือเอกสารสำหรับการสมัครเป็นประชากรของที่นี่ ส่วนอันนี้เป็นเอกสารสมัครเข้าเรียนในโรงเรียน ...ถ้าดูแล้วไม่เข้าใจ ก็ถามข้าได้นะ"
ไวซ์ยื่นเอกสารกองโตมาให้พวกเขาสองคน ซึ่งมาโกโตะรับมาก่อนที่จะมองเนื้อหาของเอกสารที่ว่านี้
ใบสมัครเรียนของโรงเรียนสหพันธ์แห่งโลกไกอา
ชื่อ นามสกุล ความสามารถที่มีอยู่
อายุ เพศ ชื่อผู้ปกครอง
คำชี้แนะเรื่องเวลาที่ทำการสอน : โรงเรียนสหพันธ์แห่งโลกไกอา จะเปิดทำการสอนเฉพาะวันเสาร์ และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 7.00 - 17.00 น. และจะเริ่มเปิดทำการสอนตั้งแต่วันเสาร์ของต้นเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
"เข้าใจใช่ไหมมาโกโตะโทรุ พวกเจ้าสองคนได้เรียนอย่างเต็มที่ และแน่นอนว่าจะไม่เป็นการรบกวนเรื่องการเรียนที่โรงเรียนเก่าของพวกเจ้าทั้งสองคนด้วย"
"หมายความว่าไงครับคุณไวซ์ ผมไม่เข้าใจเลยก็ในเมื่อให้พวกผมสมัครเป็นประชากรของที่นี่แล้ว ทำไมยังต้องกลับไปเรียนที่โรงเรียนเดิม"
ไวซ์มองหน้าเขาสลับกับโทรุที่ยืนจ้องตอบด้วยความงุนงง
"คืองี้นะ ...การเรียนของที่นี่จะไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่นักหรอก จะมีแค่สองวันเท่านั้น แต่นั่นมันก็เวลา...เรียนเต็มที่แล้วนะ ข้ากับมิสเทรสเห็นว่าเจ้าสองคนไม่จำเป็นต้องอยู่โลกไกอาไปตลอดนักหรอก สมควรที่จะกลับไปโลกนั้นเสียบ้าง มิเช่นนั้นทางครอบครัวของพวกเจ้าจะเป็นห่วงกันเสียเปล่าๆ"
"ห่วง! คนอย่างพ่อผมนะหรือเป็นห่วง ...คุณรู้ไหมว่า ตั้งแต่เล็กจนโต พ่อผมไม่เคยเห็นผมในสายตา ไม่เคยคิดจะแคร์ความรู้สึกหรือเป็นห่วงผมเลยสักนิด เพราะฉะนั้นผมจะไม่มีทางที่จะกลับไปอีกเด็ดขาด!!!"
เมื่อมาโกโตะพูดจบ ความรู้สึกโกรธโมโหก็ลุกโหมขึ้นมาดั่งเปลวเพลิงไฟนรก
"ใจเย็นๆสิ มาโกโตะอย่าเพิ่งโมโหมากไปเดี๋ยวแผลเก่าจะกำเริบนะ" โทรุเริ่มพูดขึ้นบ้างหลังจากที่เงียบมานาน เขาเองก็รู้สึกเช่นเดียวกับมาโกโตะ ตัวเขาเองก็ไม่อยากจะกลับไปที่โลกเก่า เพราะว่าถ้ากลับไปแล้วก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ซึ่งพ่อแม่ของเขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจตัวเขาตั้งแต่เกิดแล้ว จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกลับไปอีก
"แผลเก่ากำเริบ? เจ้าไปโดนอะไรมาก่อนหน้านี้งั้นหรือมาโกโตะ"
ไวซ์เอ่ยถามด้วยความสนใจเล็กน้อย พอโทรุได้ยินดังนั้นก็รู้สึกโกรธ
"ไม่รู้สักเรื่องจะได้ไหม!!"
พูดออกไปแล้วก็นึกขึ้นได้ว่า เขาไม่ควรจะทำตัวเสียมารยาทต่อหน้าเพื่อนของมิสเทรสเลย
"เอ่อ ...ผมขอโทษครับ พอดีผมไม่ได้ตั้งใจที่จะว่าคุณไวซ์นะ แบบว่า.."
"ไม่ต้องอธิบายให้ข้าฟังหรอก ข้าเข้าใจดี เจ้าเป็นห่วงเพื่อนของเจ้าก็เลยพูดออกมา ...ข้าเองก็เคยเป็นเหมือนเจ้า ห่วงเพื่อนจนไม่คิดหน้าคิดหลังเลยว่าคนอื่นจะเป็นยังไงก็ตาม"
มาโกโตะถอนหายใจเฮือกหนึ่งอย่างโล่งอก แล้วเขาค่อยเริ่มรู้สึกดีขึ้นมาทีละนิด ....ขอบใจมากนะโทรุ ที่เป็นห่วง เขาคิดเสร็จก็เหลือบหันไปมองไวซ์อย่างสำนึกผิด
"ผมเองก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ทำกิริยาท่าทางไม่ดีต่อหน้าคุณ"
"ไม่เป็นไรๆ ข้าไม่ถือสาว่าความหรอก เอาเป็นว่าพวกเจ้าตกลงปลงใจจะอยู่ที่นี่ตลอดใช่ไหม" ไวซ์กล่าวถามพร้อมกับส่ายหน้าไปพลาง
"ครับคุณไวซ์"
"อือม์ พวกเจ้าตัดสินใจได้อย่างนี้ ข้าค่อยเบาใจแทนมิสเทรสหน่อย อ้อ! นี่มันก็ได้เวลาแล้วที่ข้าจะพาพวกเจ้าไปอีกที่ๆหนึ่ง"
"ที่อะไรเหรอครับ"
โทรุและมาโกโตะถามพร้อมกันเป็นเสียงเดียว นี่ไวซ์จะพาพวกเขาไปที่ไหนกันอีกละเนี่ย ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
"เดี๋ยวถึงที่นั่นเมื่อไหร่ ข้าจะบอกพวกเจ้าเองแหละ เอาละ ตามข้ามา"
"เดี๋ยวก่อนครับคุณไวซ์! แล้วเรื่องใบสมัครละครับ" โทรุฉุกคิดได้ว่ายังไม่ได้กรอกอะไรลงไปเลย จึงรีบถามด้วยความรวดเร็ว
"เอาไว้ส่งข้าพรุ่งนี้ก็ได้ ...ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม งั้นตามข้ามา"
"ครับ"
ทั้งคู่ตอบเสร็จก็รีบจ้ำเท้าเดินตามหลังไวซ์ไปต้อยๆ
...................................
ณ กระท่อมใจกลางป่าแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกตั้งทิ้งรกร้างไว้โดยที่ไม่ทราบว่าใครเป็นคนสร้างขึ้น แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องสงสัยสำหรับบุรุษกำยำลึกลับที่นั่งอยู่ข้างกายตัวน้อยแทบไม่กระพริบตา ราวกับกลัวว่าถ้ากระพริบตาแล้วร่างตรงหน้าจะหายไป เสียงลมหายใจแผ่วเบาของร่างเล็กดังขึ้น บ่งบอกให้อีกคนได้ทราบว่ายังมีชีวิตอยู่ เพียงแค่หลับไป รอยแผลเป็นที่เคยมีต่างก็หายไปอย่างสิ้นเชิง แทบไม่หลงเหลือเค้าเดิมว่าเคยมีอยู่ตรงนั้น
"มันเป็นความผิดของข้าที่ช่วยอะไรนายน้อยไม่ได้"
ชายหนุ่มผมสีขาวกล่าวด่าทอตนเองก่อนที่จะใช้กำปั้นของตัวเองทุบลงกับพื้นอย่างแรง
"และนี่สำหรับความโง่เขลาปล่อยให้นายน้อยต้องทุกข์ทรมานกับแม่เลี้ยงบ้าๆนั่น"
พูดจบก็ใช้มือต่อยที่พื้นอีกครา ทำให้มือทั้งสองข้างชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงสด แต่นั่นก็ไม่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บเลยสักนิด นี่เขาจะต้องทำยังไงดีถึงจะลบความผิดนี่ออกไปจากใจได้ ขณะที่ชายหนุ่มนั่งพิจารณาความผิดของตนเองอยู่ ร่างเล็กที่นอนอยู่ก็ส่งเสียงออกมาอย่างแผ่วเบา
"...นะ..น้ำ ขอน้ำหน่อย"
ทันทีที่ร่างเล็กพูดจบ ชายหนุ่มก็รีบกระวีกระวาดหยิบแก้วน้ำด้วยความรวดเร็ว
"ค่อยๆ ดื่มนะขอรับนายน้อย" ว่าพลางช้อนศีรษะของนายน้อยขึ้นก่อนที่จะยกแก้วจ่อริมฝีปากนั่น พอเห็นว่าร่างเล็กอิ่มแล้ว ก็ค่อยวางศีรษะลงบนหมอนช้าๆ ราวกับกลัวร่างเล็กจะได้รับความเจ็บปวด
"คะ..คริส ที่นี่คือที่ใด แล้วแม่เลี้ยงของข้าละ"
"ที่นี่คือกระท่อมกลางป่าขอรับนายน้อย ...ส่วนนายหญิงของนายน้อย เอ่อ...ข้าน้อยไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนายน้อยต้องสนใจนายหญิงใจยักษ์นั่นด้วย ก็ในเมื่อนายหญิงทำให้นายน้อยต้องเจ็บ"
ร่างเล็กฟังด้วยท่าทีที่นิ่งไม่เคลื่อนไหว "ไม่รู้ ข้าไม่รู้คริส เวลาโดนแม่เลี้ยงตี ข้าขัดขืนไม่ได้...ไม่รู้เพราะอะไรกัน"
จู่ๆก็มีน้ำตาคลอเบ้าร่างเล็กจนต้องเอามือมาขยี้ออก
"ข้ากลัวคริส กลัวว่าสักวันหนึ่งจะต้องเป็นเพียงแค่หุ่นเชิดของแม่เลี้ยง ขะ..ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อแล้วละคริส"
"นายน้อย!!"
คริสกล่าวชื่อร่างเล็กอย่างตกตะลึง ไม่นึกว่านายน้อยของเขาจะกล้าพูดถึงเพียงนี้
"...ท่านจะพูดอย่างนั้นอีกไม่ได้นะขอรับ เรื่องความเป็นความตายไม่ใช่เป็นเรื่องเล่นๆ นายน้อยของข้าจะไม่ต้องแพ้กับเรื่องแค่นี้ ท่านต้องอดทนสู้ อย่าลืมนะว่านายน้อยเป็นคน ไม่ใช่หุ่นเชิดที่นายหญิงจะมาทุบตีได้ตลอด"
ร่างเล็กฟังก็รู้สึกตื้นตันกับคำพูดของคริส เขาลืมไปว่ายังมีคนที่เป็นห่วงอยู่อีกหนึ่ง
"แต่ข้า...จะสู้ได้ยังไงกัน ก็ในเมื่อแม่เลี้ยงยังมีท่านพ่ออยู่ ...ข้าสู้ท่านพ่อไม่ได้หรอกนะคริส"
"ไม่เป็นไรขอรับนายน้อย ข้าจะช่วยเหลือท่านออกจากนายใหญ่เอง"
"แล้วคริสไม่กลัวท่านพ่อ...สาปเอาเหรอ" ร่างเล็กถามเสียงสั่น ในใจของเขาเต็มไปด้วยความกลัว กลัวว่าคริสที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและพ่อคนที่สองจะต้องมาตายเพราะเรื่องนี้ คริสฟังร่างเล็กพูดก็เข้าใจก่อนจะส่งยิ้มไปให้
"ไม่กลัวขอรับ นายน้อยไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นหรอก ข้าเองก็พอมีฝีมือสู้กับนายใหญ่ของนายน้อยได้ ว่าแต่นายน้อยคงไม่ว่าอะไรนะ ถ้าข้าจะ...ฆ่านายใหญ่ของนายน้อยนะ"
"ไม่ ไม่ว่าอะไรเลย ข้าดีใจด้วยซ้ำที่เจ้าบอกมาอย่างนั้น" ร่างเล็กยิ้มตอบ จากแววตาที่เต็มไปด้วยประกายสดใสเปลี่ยนมาเป็นแววตาที่น่ากลัว และเยือกเย็น
"ข้าเกลียดท่านพ่อพอๆกับแม่เลี้ยงนั่น! - จะเอาไปฆ่าทำยำแกงยังไงก็แล้วแต่เจ้านะคริส ข้าอนุญาต!"
"ขอรับนายน้อย ข้าจะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง"
ร่างใหญ่ตอบกลับด้วยความยินดีกับคำสั่งนั่น ไม่ว่านายน้อยจะสั่งให้เขาไปทำอะไร เขาก็จะทำมันโดยไม่ขัดขืนข้องใดๆทั้งสิ้น ดีซะอีกที่มันช่วยให้นายน้อยของเขามีความสุขได้ แค่นั้น..ก็เพียงพอแล้ว
.....................
จบ บทที่ 9 กรมกระทรวงเวทมนตร์
...........................
นับตั้งแต่มาโกโตะ โทรุ และมิสเทรสได้ย่างเท้าก้าวเข้ามาในพื้นที่ของตึกแห่งหนึ่ง เป็นสถานที่ที่สวยงามดูเป็นระเบียบเรียบร้อย เหมาะสมกับชื่อของกรมกระทรวงเวทมนตร์ ซึ่งคนในบริเวณนั้นส่วนใหญ่จะเป็นคนของกรมทั้งหมด มีน้อยนักที่ไม่ใช่คนของที่นี่ ก่อนที่พวกเขาสามคนจะขึ้นลิฟต์แก้ว มิสเทรสก็เล่าให้ฟังว่า เขาเคยมาที่นี่ครั้งสุดท้ายก็ตอนที่พ่อของมาโกโตะได้ย้ายไปที่โลกนั้น เพื่อที่จะแจ้งให้กรมกระทรวงเวทมนตร์ได้ทราบ ซึ่งมันจำเป็นมากๆสำหรับคนบนโลกไกอานี้ ถ้าไม่ทำเช่นนั้น เมื่อเวลาไปอยู่บนโลกอื่น ก็จะไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้อีก
"พอถึงที่ที่ข้าว่าแล้วก็อย่าทำตัวให้มันแปลกไปมากนักละ เข้าใจไหม"
"ครับมิสเทรส"
เสร็จจากนั้นประตูของลิฟต์แก้วก็ถูกเปิดกว้าง พอให้เห็นภาพตรงหน้าได้อย่างชัดเจน ห้องกว้างใหญ่โตโอ่อ่า ไม่มีสิ่งใดอยู่ในนั้นนอกเสียจากโต๊ะทำงานตัวหนึ่งกับชายแปลกหน้าที่ยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น
"ไงไม่ได้เจอกันเสียนานเลยนะมิสเทรส ยังสบายดีอยู่หรือเปล่า" ชายแปลกหน้าเอ่ยถามมิสเทรสด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
"สบายดีแล้วเจ้าละ"
"ก็เหมือนกับแกนั่นแหละ ว่าแต่คนที่ยืนอยู่ด้านหลังของแกนั่นใครอ่ะ" ชายแปลกหน้าผมสั้นสีดำ สวมชุดแปลกแตกต่างจากที่มาโกโตะและโทรุเคยเห็นมา พอชายแปลกหน้าถามจบ มิสเทรสถึงกับร้องอ้อ
"ขอโทษทีลืมแนะนำตัวให้รู้จัก นี่คุโด มาโกโตะเหลนของข้า ส่วนนี่ไอดะ โทรุเพื่อนของมาโกโตะ"
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ"
ทั้งมาโกโตะและโทรุต่างพูดพร้อมกัน
"อ๋อ! ลูกของมาซาฮิโนะนะเอง มิน่าละหน้าตาถึงเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน ...ยินดีที่ได้รู้จักนะเด็กๆ ข้า พาร์ ไวซ์ หรือจะเรียกสั้นๆว่า ไวซ์ก็ได้ เป็นผู้บริหารสูงสุดของที่นี่"
ปากว่าแต่มือจับทักทายเขาและโทรุไปพลาง ความร้อนหลังจากได้จับสัมผัสกับมือของชายนามว่าไวซ์แล้ว มาโกโตะก็รู้สึกอบอุ่นจนเขาต้องชักมือตัวเองขึ้นมากุมไว้บนอก
ความรู้สึกนี้ เหมือนกับแม่ไม่มีผิด
"เออจริงสิมิสเทรส เจ้ามีธุระอะไรถึงมาที่นี่ละ อย่าบอกนะว่าพาพวกเด็กสองคนนี้มาลงทะเบียนประวัติขอเป็นประชากรที่นี่"
"ใช่และก็เรื่องนั้นด้วย..." มิสเทรสผงกหัวก่อนที่จะก้มหน้าพูดกระซิบเสียงเบากับไวซ์
"ได้ เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง อือม์ เจ้าไปเหอะ"
ไวซ์พูดจบก็เงยหน้าขึ้นมามองมาโกโตะแวบหนึ่ง "เอาละ มาโกโตะ โทรุ พอดีข้ามีธุระจำเป็นจะต้องทำ ด่วนมากด้วย เพราะฉะนั้นเจ้าทั้งสองคนคอยข้าอยู่ที่นี่นะ ส่วนเรื่องทำประวัติของเจ้าทั้งสองคน ไว้เป็นหน้าที่ของไวซ์ละกัน - - แล้วตอนกลางวันข้าจะมารับพวกเจ้า"
"ครับ"
เขาสองคนตอบรับคำ มิสเทรสยิ้มให้ทีหนึ่งพลางขยี้ผมของมาโกโตะเบาๆ
"ไปละ" มิสเทรสพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาก่อนที่จะหายตัวเข้าไปในลิฟต์แก้ว
"มามะเจ้าทั้งสองคนเชิญนั่งทางนี้"
ไวซ์ออกคำสั่งซึ่งพวกเขาสองคนก็เดินเข้าไปหาอย่างว่าง่าย พอไปถึงได้แต่ยืนมองพื้นที่อันว่างเปล่า ...แล้วจะนั่งได้ยังไงกันละเนี่ย ก็ในเมื่อเก้าอี้ไม่มีให้นั่ง หรือว่าไวซ์จะให้เขาสองคนนั่งกับพื้นกันแน่
"ข้าไม่ได้ให้เจ้านั่งพื้นหรอกมาโกโตะ นั่งลงไปเลยนั่นแหละตรงนั้น ใช่ๆ"
มาโกโตะและโทรุมองหน้ากันหวาดๆหลังจากได้หย่อนก้นลงกับพื้นอากาศที่แสนจะว่างเปล่า เสร็จจากนั้นจู่ๆก็มีกระดาษเอกสารปึกหนึ่งโผล่ขึ้นมาพรวดพราด เล่นเอาเขากับโทรุต่างสะดุ้งด้วยความตกใจ
"ไม่ต้องกลัวหรอก นี่แค่เวทมนตร์ขั้นพื้นฐานระดับ 1 เท่านั้น อีกไม่นานพวกเจ้าก็จะได้เรียนกัน"
"หมายความว่ายังไงนะครับ ได้เรียนกัน?" มาโกโตะรู้สึกงุนงงกับคำพูดของไวซ์อย่างมาก
"อ้าว! มิสเทรสยังไม่ได้บอกพวกเจ้าอีกเหรอไง"
ทั้งมาโกโตะและโทรุส่ายหัวพร้อมกัน "ไม่ครับ มิสเทรสไม่ได้บอกอะไรกับพวกผม"
"ให้ตายสิ! มิสเทรสนี่ช่างขี้ลืมเสียจริง แก่แล้วก็งี้แหละ จริงไหมเด็กๆ หึหึ" ไวซ์หัวเราะเสียงเบาๆ "นี่คือเอกสารสำหรับการสมัครเป็นประชากรของที่นี่ ส่วนอันนี้เป็นเอกสารสมัครเข้าเรียนในโรงเรียน ...ถ้าดูแล้วไม่เข้าใจ ก็ถามข้าได้นะ"
ไวซ์ยื่นเอกสารกองโตมาให้พวกเขาสองคน ซึ่งมาโกโตะรับมาก่อนที่จะมองเนื้อหาของเอกสารที่ว่านี้
ใบสมัครเรียนของโรงเรียนสหพันธ์แห่งโลกไกอา
ชื่อ นามสกุล ความสามารถที่มีอยู่
อายุ เพศ ชื่อผู้ปกครอง
คำชี้แนะเรื่องเวลาที่ทำการสอน : โรงเรียนสหพันธ์แห่งโลกไกอา จะเปิดทำการสอนเฉพาะวันเสาร์ และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 7.00 - 17.00 น. และจะเริ่มเปิดทำการสอนตั้งแต่วันเสาร์ของต้นเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
"เข้าใจใช่ไหมมาโกโตะโทรุ พวกเจ้าสองคนได้เรียนอย่างเต็มที่ และแน่นอนว่าจะไม่เป็นการรบกวนเรื่องการเรียนที่โรงเรียนเก่าของพวกเจ้าทั้งสองคนด้วย"
"หมายความว่าไงครับคุณไวซ์ ผมไม่เข้าใจเลยก็ในเมื่อให้พวกผมสมัครเป็นประชากรของที่นี่แล้ว ทำไมยังต้องกลับไปเรียนที่โรงเรียนเดิม"
ไวซ์มองหน้าเขาสลับกับโทรุที่ยืนจ้องตอบด้วยความงุนงง
"คืองี้นะ ...การเรียนของที่นี่จะไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่นักหรอก จะมีแค่สองวันเท่านั้น แต่นั่นมันก็เวลา...เรียนเต็มที่แล้วนะ ข้ากับมิสเทรสเห็นว่าเจ้าสองคนไม่จำเป็นต้องอยู่โลกไกอาไปตลอดนักหรอก สมควรที่จะกลับไปโลกนั้นเสียบ้าง มิเช่นนั้นทางครอบครัวของพวกเจ้าจะเป็นห่วงกันเสียเปล่าๆ"
"ห่วง! คนอย่างพ่อผมนะหรือเป็นห่วง ...คุณรู้ไหมว่า ตั้งแต่เล็กจนโต พ่อผมไม่เคยเห็นผมในสายตา ไม่เคยคิดจะแคร์ความรู้สึกหรือเป็นห่วงผมเลยสักนิด เพราะฉะนั้นผมจะไม่มีทางที่จะกลับไปอีกเด็ดขาด!!!"
เมื่อมาโกโตะพูดจบ ความรู้สึกโกรธโมโหก็ลุกโหมขึ้นมาดั่งเปลวเพลิงไฟนรก
"ใจเย็นๆสิ มาโกโตะอย่าเพิ่งโมโหมากไปเดี๋ยวแผลเก่าจะกำเริบนะ" โทรุเริ่มพูดขึ้นบ้างหลังจากที่เงียบมานาน เขาเองก็รู้สึกเช่นเดียวกับมาโกโตะ ตัวเขาเองก็ไม่อยากจะกลับไปที่โลกเก่า เพราะว่าถ้ากลับไปแล้วก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ซึ่งพ่อแม่ของเขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจตัวเขาตั้งแต่เกิดแล้ว จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกลับไปอีก
"แผลเก่ากำเริบ? เจ้าไปโดนอะไรมาก่อนหน้านี้งั้นหรือมาโกโตะ"
ไวซ์เอ่ยถามด้วยความสนใจเล็กน้อย พอโทรุได้ยินดังนั้นก็รู้สึกโกรธ
"ไม่รู้สักเรื่องจะได้ไหม!!"
พูดออกไปแล้วก็นึกขึ้นได้ว่า เขาไม่ควรจะทำตัวเสียมารยาทต่อหน้าเพื่อนของมิสเทรสเลย
"เอ่อ ...ผมขอโทษครับ พอดีผมไม่ได้ตั้งใจที่จะว่าคุณไวซ์นะ แบบว่า.."
"ไม่ต้องอธิบายให้ข้าฟังหรอก ข้าเข้าใจดี เจ้าเป็นห่วงเพื่อนของเจ้าก็เลยพูดออกมา ...ข้าเองก็เคยเป็นเหมือนเจ้า ห่วงเพื่อนจนไม่คิดหน้าคิดหลังเลยว่าคนอื่นจะเป็นยังไงก็ตาม"
มาโกโตะถอนหายใจเฮือกหนึ่งอย่างโล่งอก แล้วเขาค่อยเริ่มรู้สึกดีขึ้นมาทีละนิด ....ขอบใจมากนะโทรุ ที่เป็นห่วง เขาคิดเสร็จก็เหลือบหันไปมองไวซ์อย่างสำนึกผิด
"ผมเองก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ทำกิริยาท่าทางไม่ดีต่อหน้าคุณ"
"ไม่เป็นไรๆ ข้าไม่ถือสาว่าความหรอก เอาเป็นว่าพวกเจ้าตกลงปลงใจจะอยู่ที่นี่ตลอดใช่ไหม" ไวซ์กล่าวถามพร้อมกับส่ายหน้าไปพลาง
"ครับคุณไวซ์"
"อือม์ พวกเจ้าตัดสินใจได้อย่างนี้ ข้าค่อยเบาใจแทนมิสเทรสหน่อย อ้อ! นี่มันก็ได้เวลาแล้วที่ข้าจะพาพวกเจ้าไปอีกที่ๆหนึ่ง"
"ที่อะไรเหรอครับ"
โทรุและมาโกโตะถามพร้อมกันเป็นเสียงเดียว นี่ไวซ์จะพาพวกเขาไปที่ไหนกันอีกละเนี่ย ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
"เดี๋ยวถึงที่นั่นเมื่อไหร่ ข้าจะบอกพวกเจ้าเองแหละ เอาละ ตามข้ามา"
"เดี๋ยวก่อนครับคุณไวซ์! แล้วเรื่องใบสมัครละครับ" โทรุฉุกคิดได้ว่ายังไม่ได้กรอกอะไรลงไปเลย จึงรีบถามด้วยความรวดเร็ว
"เอาไว้ส่งข้าพรุ่งนี้ก็ได้ ...ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม งั้นตามข้ามา"
"ครับ"
ทั้งคู่ตอบเสร็จก็รีบจ้ำเท้าเดินตามหลังไวซ์ไปต้อยๆ
...................................
ณ กระท่อมใจกลางป่าแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกตั้งทิ้งรกร้างไว้โดยที่ไม่ทราบว่าใครเป็นคนสร้างขึ้น แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องสงสัยสำหรับบุรุษกำยำลึกลับที่นั่งอยู่ข้างกายตัวน้อยแทบไม่กระพริบตา ราวกับกลัวว่าถ้ากระพริบตาแล้วร่างตรงหน้าจะหายไป เสียงลมหายใจแผ่วเบาของร่างเล็กดังขึ้น บ่งบอกให้อีกคนได้ทราบว่ายังมีชีวิตอยู่ เพียงแค่หลับไป รอยแผลเป็นที่เคยมีต่างก็หายไปอย่างสิ้นเชิง แทบไม่หลงเหลือเค้าเดิมว่าเคยมีอยู่ตรงนั้น
"มันเป็นความผิดของข้าที่ช่วยอะไรนายน้อยไม่ได้"
ชายหนุ่มผมสีขาวกล่าวด่าทอตนเองก่อนที่จะใช้กำปั้นของตัวเองทุบลงกับพื้นอย่างแรง
"และนี่สำหรับความโง่เขลาปล่อยให้นายน้อยต้องทุกข์ทรมานกับแม่เลี้ยงบ้าๆนั่น"
พูดจบก็ใช้มือต่อยที่พื้นอีกครา ทำให้มือทั้งสองข้างชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงสด แต่นั่นก็ไม่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บเลยสักนิด นี่เขาจะต้องทำยังไงดีถึงจะลบความผิดนี่ออกไปจากใจได้ ขณะที่ชายหนุ่มนั่งพิจารณาความผิดของตนเองอยู่ ร่างเล็กที่นอนอยู่ก็ส่งเสียงออกมาอย่างแผ่วเบา
"...นะ..น้ำ ขอน้ำหน่อย"
ทันทีที่ร่างเล็กพูดจบ ชายหนุ่มก็รีบกระวีกระวาดหยิบแก้วน้ำด้วยความรวดเร็ว
"ค่อยๆ ดื่มนะขอรับนายน้อย" ว่าพลางช้อนศีรษะของนายน้อยขึ้นก่อนที่จะยกแก้วจ่อริมฝีปากนั่น พอเห็นว่าร่างเล็กอิ่มแล้ว ก็ค่อยวางศีรษะลงบนหมอนช้าๆ ราวกับกลัวร่างเล็กจะได้รับความเจ็บปวด
"คะ..คริส ที่นี่คือที่ใด แล้วแม่เลี้ยงของข้าละ"
"ที่นี่คือกระท่อมกลางป่าขอรับนายน้อย ...ส่วนนายหญิงของนายน้อย เอ่อ...ข้าน้อยไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนายน้อยต้องสนใจนายหญิงใจยักษ์นั่นด้วย ก็ในเมื่อนายหญิงทำให้นายน้อยต้องเจ็บ"
ร่างเล็กฟังด้วยท่าทีที่นิ่งไม่เคลื่อนไหว "ไม่รู้ ข้าไม่รู้คริส เวลาโดนแม่เลี้ยงตี ข้าขัดขืนไม่ได้...ไม่รู้เพราะอะไรกัน"
จู่ๆก็มีน้ำตาคลอเบ้าร่างเล็กจนต้องเอามือมาขยี้ออก
"ข้ากลัวคริส กลัวว่าสักวันหนึ่งจะต้องเป็นเพียงแค่หุ่นเชิดของแม่เลี้ยง ขะ..ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อแล้วละคริส"
"นายน้อย!!"
คริสกล่าวชื่อร่างเล็กอย่างตกตะลึง ไม่นึกว่านายน้อยของเขาจะกล้าพูดถึงเพียงนี้
"...ท่านจะพูดอย่างนั้นอีกไม่ได้นะขอรับ เรื่องความเป็นความตายไม่ใช่เป็นเรื่องเล่นๆ นายน้อยของข้าจะไม่ต้องแพ้กับเรื่องแค่นี้ ท่านต้องอดทนสู้ อย่าลืมนะว่านายน้อยเป็นคน ไม่ใช่หุ่นเชิดที่นายหญิงจะมาทุบตีได้ตลอด"
ร่างเล็กฟังก็รู้สึกตื้นตันกับคำพูดของคริส เขาลืมไปว่ายังมีคนที่เป็นห่วงอยู่อีกหนึ่ง
"แต่ข้า...จะสู้ได้ยังไงกัน ก็ในเมื่อแม่เลี้ยงยังมีท่านพ่ออยู่ ...ข้าสู้ท่านพ่อไม่ได้หรอกนะคริส"
"ไม่เป็นไรขอรับนายน้อย ข้าจะช่วยเหลือท่านออกจากนายใหญ่เอง"
"แล้วคริสไม่กลัวท่านพ่อ...สาปเอาเหรอ" ร่างเล็กถามเสียงสั่น ในใจของเขาเต็มไปด้วยความกลัว กลัวว่าคริสที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและพ่อคนที่สองจะต้องมาตายเพราะเรื่องนี้ คริสฟังร่างเล็กพูดก็เข้าใจก่อนจะส่งยิ้มไปให้
"ไม่กลัวขอรับ นายน้อยไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นหรอก ข้าเองก็พอมีฝีมือสู้กับนายใหญ่ของนายน้อยได้ ว่าแต่นายน้อยคงไม่ว่าอะไรนะ ถ้าข้าจะ...ฆ่านายใหญ่ของนายน้อยนะ"
"ไม่ ไม่ว่าอะไรเลย ข้าดีใจด้วยซ้ำที่เจ้าบอกมาอย่างนั้น" ร่างเล็กยิ้มตอบ จากแววตาที่เต็มไปด้วยประกายสดใสเปลี่ยนมาเป็นแววตาที่น่ากลัว และเยือกเย็น
"ข้าเกลียดท่านพ่อพอๆกับแม่เลี้ยงนั่น! - จะเอาไปฆ่าทำยำแกงยังไงก็แล้วแต่เจ้านะคริส ข้าอนุญาต!"
"ขอรับนายน้อย ข้าจะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง"
ร่างใหญ่ตอบกลับด้วยความยินดีกับคำสั่งนั่น ไม่ว่านายน้อยจะสั่งให้เขาไปทำอะไร เขาก็จะทำมันโดยไม่ขัดขืนข้องใดๆทั้งสิ้น ดีซะอีกที่มันช่วยให้นายน้อยของเขามีความสุขได้ แค่นั้น..ก็เพียงพอแล้ว
.....................
จบ บทที่ 9 กรมกระทรวงเวทมนตร์
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น