ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    1/2 ผู้ชายนะค่ะ

    ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 9 กรมกระทรวงเวทมนตร์ (อัพ 100%)

    • อัปเดตล่าสุด 14 มี.ค. 49


                   บทที่ 9 กรมกระทรวงเวทมนตร์



                   ...........................



                   นับตั้งแต่มาโกโตะ โทรุ และมิสเทรสได้ย่างเท้าก้าวเข้ามาในพื้นที่ของตึกแห่งหนึ่ง เป็นสถานที่ที่สวยงามดูเป็นระเบียบเรียบร้อย เหมาะสมกับชื่อของกรมกระทรวงเวทมนตร์ ซึ่งคนในบริเวณนั้นส่วนใหญ่จะเป็นคนของกรมทั้งหมด มีน้อยนักที่ไม่ใช่คนของที่นี่ ก่อนที่พวกเขาสามคนจะขึ้นลิฟต์แก้ว มิสเทรสก็เล่าให้ฟังว่า เขาเคยมาที่นี่ครั้งสุดท้ายก็ตอนที่พ่อของมาโกโตะได้ย้ายไปที่โลกนั้น เพื่อที่จะแจ้งให้กรมกระทรวงเวทมนตร์ได้ทราบ ซึ่งมันจำเป็นมากๆสำหรับคนบนโลกไกอานี้ ถ้าไม่ทำเช่นนั้น เมื่อเวลาไปอยู่บนโลกอื่น ก็จะไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้อีก 



                   "พอถึงที่ที่ข้าว่าแล้วก็อย่าทำตัวให้มันแปลกไปมากนักละ เข้าใจไหม"



                   "ครับมิสเทรส"



                   เสร็จจากนั้นประตูของลิฟต์แก้วก็ถูกเปิดกว้าง พอให้เห็นภาพตรงหน้าได้อย่างชัดเจน ห้องกว้างใหญ่โตโอ่อ่า ไม่มีสิ่งใดอยู่ในนั้นนอกเสียจากโต๊ะทำงานตัวหนึ่งกับชายแปลกหน้าที่ยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น



                   "ไงไม่ได้เจอกันเสียนานเลยนะมิสเทรส ยังสบายดีอยู่หรือเปล่า" ชายแปลกหน้าเอ่ยถามมิสเทรสด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ 



                   "สบายดีแล้วเจ้าละ"



                   "ก็เหมือนกับแกนั่นแหละ ว่าแต่คนที่ยืนอยู่ด้านหลังของแกนั่นใครอ่ะ" ชายแปลกหน้าผมสั้นสีดำ สวมชุดแปลกแตกต่างจากที่มาโกโตะและโทรุเคยเห็นมา พอชายแปลกหน้าถามจบ มิสเทรสถึงกับร้องอ้อ



                   "ขอโทษทีลืมแนะนำตัวให้รู้จัก นี่คุโด มาโกโตะเหลนของข้า ส่วนนี่ไอดะ โทรุเพื่อนของมาโกโตะ"



                   "ยินดีที่ได้รู้จักครับ" 



                   ทั้งมาโกโตะและโทรุต่างพูดพร้อมกัน



                   "อ๋อ! ลูกของมาซาฮิโนะนะเอง มิน่าละหน้าตาถึงเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน ...ยินดีที่ได้รู้จักนะเด็กๆ ข้า พาร์ ไวซ์ หรือจะเรียกสั้นๆว่า ไวซ์ก็ได้ เป็นผู้บริหารสูงสุดของที่นี่"



                   ปากว่าแต่มือจับทักทายเขาและโทรุไปพลาง ความร้อนหลังจากได้จับสัมผัสกับมือของชายนามว่าไวซ์แล้ว มาโกโตะก็รู้สึกอบอุ่นจนเขาต้องชักมือตัวเองขึ้นมากุมไว้บนอก 



                   ความรู้สึกนี้ เหมือนกับแม่ไม่มีผิด



                   "เออจริงสิมิสเทรส เจ้ามีธุระอะไรถึงมาที่นี่ละ อย่าบอกนะว่าพาพวกเด็กสองคนนี้มาลงทะเบียนประวัติขอเป็นประชากรที่นี่"



                   "ใช่และก็เรื่องนั้นด้วย..." มิสเทรสผงกหัวก่อนที่จะก้มหน้าพูดกระซิบเสียงเบากับไวซ์ 



                   "ได้ เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง อือม์ เจ้าไปเหอะ" 



                   ไวซ์พูดจบก็เงยหน้าขึ้นมามองมาโกโตะแวบหนึ่ง "เอาละ มาโกโตะ โทรุ พอดีข้ามีธุระจำเป็นจะต้องทำ ด่วนมากด้วย เพราะฉะนั้นเจ้าทั้งสองคนคอยข้าอยู่ที่นี่นะ ส่วนเรื่องทำประวัติของเจ้าทั้งสองคน ไว้เป็นหน้าที่ของไวซ์ละกัน - - แล้วตอนกลางวันข้าจะมารับพวกเจ้า"



                   "ครับ" 



                   เขาสองคนตอบรับคำ มิสเทรสยิ้มให้ทีหนึ่งพลางขยี้ผมของมาโกโตะเบาๆ 



                   "ไปละ" มิสเทรสพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาก่อนที่จะหายตัวเข้าไปในลิฟต์แก้ว 



                   "มามะเจ้าทั้งสองคนเชิญนั่งทางนี้" 



                   ไวซ์ออกคำสั่งซึ่งพวกเขาสองคนก็เดินเข้าไปหาอย่างว่าง่าย พอไปถึงได้แต่ยืนมองพื้นที่อันว่างเปล่า ...แล้วจะนั่งได้ยังไงกันละเนี่ย ก็ในเมื่อเก้าอี้ไม่มีให้นั่ง หรือว่าไวซ์จะให้เขาสองคนนั่งกับพื้นกันแน่ 



                   "ข้าไม่ได้ให้เจ้านั่งพื้นหรอกมาโกโตะ นั่งลงไปเลยนั่นแหละตรงนั้น ใช่ๆ"



                   มาโกโตะและโทรุมองหน้ากันหวาดๆหลังจากได้หย่อนก้นลงกับพื้นอากาศที่แสนจะว่างเปล่า เสร็จจากนั้นจู่ๆก็มีกระดาษเอกสารปึกหนึ่งโผล่ขึ้นมาพรวดพราด เล่นเอาเขากับโทรุต่างสะดุ้งด้วยความตกใจ 



                   "ไม่ต้องกลัวหรอก นี่แค่เวทมนตร์ขั้นพื้นฐานระดับ 1 เท่านั้น อีกไม่นานพวกเจ้าก็จะได้เรียนกัน"



                   "หมายความว่ายังไงนะครับ ได้เรียนกัน?" มาโกโตะรู้สึกงุนงงกับคำพูดของไวซ์อย่างมาก 



                   "อ้าว! มิสเทรสยังไม่ได้บอกพวกเจ้าอีกเหรอไง" 



                   ทั้งมาโกโตะและโทรุส่ายหัวพร้อมกัน "ไม่ครับ มิสเทรสไม่ได้บอกอะไรกับพวกผม"



                   "ให้ตายสิ! มิสเทรสนี่ช่างขี้ลืมเสียจริง แก่แล้วก็งี้แหละ จริงไหมเด็กๆ หึหึ" ไวซ์หัวเราะเสียงเบาๆ "นี่คือเอกสารสำหรับการสมัครเป็นประชากรของที่นี่ ส่วนอันนี้เป็นเอกสารสมัครเข้าเรียนในโรงเรียน ...ถ้าดูแล้วไม่เข้าใจ ก็ถามข้าได้นะ"



                   ไวซ์ยื่นเอกสารกองโตมาให้พวกเขาสองคน ซึ่งมาโกโตะรับมาก่อนที่จะมองเนื้อหาของเอกสารที่ว่านี้



                                            ใบสมัครเรียนของโรงเรียนสหพันธ์แห่งโลกไกอา  



            ชื่อ                                          นามสกุล                                 ความสามารถที่มีอยู่



            อายุ                                         เพศ                                       ชื่อผู้ปกครอง



                   คำชี้แนะเรื่องเวลาที่ทำการสอน : โรงเรียนสหพันธ์แห่งโลกไกอา จะเปิดทำการสอนเฉพาะวันเสาร์ และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 7.00 - 17.00 น. และจะเริ่มเปิดทำการสอนตั้งแต่วันเสาร์ของต้นเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ 



                   "เข้าใจใช่ไหมมาโกโตะโทรุ พวกเจ้าสองคนได้เรียนอย่างเต็มที่ และแน่นอนว่าจะไม่เป็นการรบกวนเรื่องการเรียนที่โรงเรียนเก่าของพวกเจ้าทั้งสองคนด้วย"



                   "หมายความว่าไงครับคุณไวซ์ ผมไม่เข้าใจเลยก็ในเมื่อให้พวกผมสมัครเป็นประชากรของที่นี่แล้ว ทำไมยังต้องกลับไปเรียนที่โรงเรียนเดิม"



                   ไวซ์มองหน้าเขาสลับกับโทรุที่ยืนจ้องตอบด้วยความงุนงง 



                   "คืองี้นะ ...การเรียนของที่นี่จะไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่นักหรอก จะมีแค่สองวันเท่านั้น แต่นั่นมันก็เวลา...เรียนเต็มที่แล้วนะ ข้ากับมิสเทรสเห็นว่าเจ้าสองคนไม่จำเป็นต้องอยู่โลกไกอาไปตลอดนักหรอก สมควรที่จะกลับไปโลกนั้นเสียบ้าง มิเช่นนั้นทางครอบครัวของพวกเจ้าจะเป็นห่วงกันเสียเปล่าๆ"



                   "ห่วง! คนอย่างพ่อผมนะหรือเป็นห่วง ...คุณรู้ไหมว่า ตั้งแต่เล็กจนโต พ่อผมไม่เคยเห็นผมในสายตา ไม่เคยคิดจะแคร์ความรู้สึกหรือเป็นห่วงผมเลยสักนิด เพราะฉะนั้นผมจะไม่มีทางที่จะกลับไปอีกเด็ดขาด!!!" 



                   เมื่อมาโกโตะพูดจบ ความรู้สึกโกรธโมโหก็ลุกโหมขึ้นมาดั่งเปลวเพลิงไฟนรก 



                   "ใจเย็นๆสิ มาโกโตะอย่าเพิ่งโมโหมากไปเดี๋ยวแผลเก่าจะกำเริบนะ" โทรุเริ่มพูดขึ้นบ้างหลังจากที่เงียบมานาน  เขาเองก็รู้สึกเช่นเดียวกับมาโกโตะ ตัวเขาเองก็ไม่อยากจะกลับไปที่โลกเก่า เพราะว่าถ้ากลับไปแล้วก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ซึ่งพ่อแม่ของเขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจตัวเขาตั้งแต่เกิดแล้ว จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกลับไปอีก 



                   "แผลเก่ากำเริบ? เจ้าไปโดนอะไรมาก่อนหน้านี้งั้นหรือมาโกโตะ"



                   ไวซ์เอ่ยถามด้วยความสนใจเล็กน้อย พอโทรุได้ยินดังนั้นก็รู้สึกโกรธ 



                   "ไม่รู้สักเรื่องจะได้ไหม!!" 



                   พูดออกไปแล้วก็นึกขึ้นได้ว่า เขาไม่ควรจะทำตัวเสียมารยาทต่อหน้าเพื่อนของมิสเทรสเลย 



                   "เอ่อ ...ผมขอโทษครับ พอดีผมไม่ได้ตั้งใจที่จะว่าคุณไวซ์นะ แบบว่า.."



                   "ไม่ต้องอธิบายให้ข้าฟังหรอก ข้าเข้าใจดี เจ้าเป็นห่วงเพื่อนของเจ้าก็เลยพูดออกมา ...ข้าเองก็เคยเป็นเหมือนเจ้า ห่วงเพื่อนจนไม่คิดหน้าคิดหลังเลยว่าคนอื่นจะเป็นยังไงก็ตาม" 



                   มาโกโตะถอนหายใจเฮือกหนึ่งอย่างโล่งอก แล้วเขาค่อยเริ่มรู้สึกดีขึ้นมาทีละนิด ....ขอบใจมากนะโทรุ ที่เป็นห่วง เขาคิดเสร็จก็เหลือบหันไปมองไวซ์อย่างสำนึกผิด 



                   "ผมเองก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ทำกิริยาท่าทางไม่ดีต่อหน้าคุณ"



                   "ไม่เป็นไรๆ ข้าไม่ถือสาว่าความหรอก  เอาเป็นว่าพวกเจ้าตกลงปลงใจจะอยู่ที่นี่ตลอดใช่ไหม" ไวซ์กล่าวถามพร้อมกับส่ายหน้าไปพลาง 



                   "ครับคุณไวซ์" 



                   "อือม์ พวกเจ้าตัดสินใจได้อย่างนี้ ข้าค่อยเบาใจแทนมิสเทรสหน่อย อ้อ! นี่มันก็ได้เวลาแล้วที่ข้าจะพาพวกเจ้าไปอีกที่ๆหนึ่ง"



                   "ที่อะไรเหรอครับ" 



                   โทรุและมาโกโตะถามพร้อมกันเป็นเสียงเดียว นี่ไวซ์จะพาพวกเขาไปที่ไหนกันอีกละเนี่ย ไม่เข้าใจเลยจริงๆ 



                   "เดี๋ยวถึงที่นั่นเมื่อไหร่ ข้าจะบอกพวกเจ้าเองแหละ เอาละ ตามข้ามา"



                   "เดี๋ยวก่อนครับคุณไวซ์! แล้วเรื่องใบสมัครละครับ" โทรุฉุกคิดได้ว่ายังไม่ได้กรอกอะไรลงไปเลย จึงรีบถามด้วยความรวดเร็ว 



                   "เอาไว้ส่งข้าพรุ่งนี้ก็ได้ ...ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม งั้นตามข้ามา"



                   "ครับ" 



                   ทั้งคู่ตอบเสร็จก็รีบจ้ำเท้าเดินตามหลังไวซ์ไปต้อยๆ



                   ...................................



                   ณ กระท่อมใจกลางป่าแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกตั้งทิ้งรกร้างไว้โดยที่ไม่ทราบว่าใครเป็นคนสร้างขึ้น แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องสงสัยสำหรับบุรุษกำยำลึกลับที่นั่งอยู่ข้างกายตัวน้อยแทบไม่กระพริบตา ราวกับกลัวว่าถ้ากระพริบตาแล้วร่างตรงหน้าจะหายไป เสียงลมหายใจแผ่วเบาของร่างเล็กดังขึ้น บ่งบอกให้อีกคนได้ทราบว่ายังมีชีวิตอยู่ เพียงแค่หลับไป รอยแผลเป็นที่เคยมีต่างก็หายไปอย่างสิ้นเชิง แทบไม่หลงเหลือเค้าเดิมว่าเคยมีอยู่ตรงนั้น 



                   "มันเป็นความผิดของข้าที่ช่วยอะไรนายน้อยไม่ได้"



                   ชายหนุ่มผมสีขาวกล่าวด่าทอตนเองก่อนที่จะใช้กำปั้นของตัวเองทุบลงกับพื้นอย่างแรง 



                   "และนี่สำหรับความโง่เขลาปล่อยให้นายน้อยต้องทุกข์ทรมานกับแม่เลี้ยงบ้าๆนั่น" 



                   พูดจบก็ใช้มือต่อยที่พื้นอีกครา ทำให้มือทั้งสองข้างชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงสด แต่นั่นก็ไม่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บเลยสักนิด นี่เขาจะต้องทำยังไงดีถึงจะลบความผิดนี่ออกไปจากใจได้ ขณะที่ชายหนุ่มนั่งพิจารณาความผิดของตนเองอยู่ ร่างเล็กที่นอนอยู่ก็ส่งเสียงออกมาอย่างแผ่วเบา



                   "...นะ..น้ำ ขอน้ำหน่อย" 



                   ทันทีที่ร่างเล็กพูดจบ ชายหนุ่มก็รีบกระวีกระวาดหยิบแก้วน้ำด้วยความรวดเร็ว 



                   "ค่อยๆ ดื่มนะขอรับนายน้อย" ว่าพลางช้อนศีรษะของนายน้อยขึ้นก่อนที่จะยกแก้วจ่อริมฝีปากนั่น พอเห็นว่าร่างเล็กอิ่มแล้ว ก็ค่อยวางศีรษะลงบนหมอนช้าๆ ราวกับกลัวร่างเล็กจะได้รับความเจ็บปวด 



                   "คะ..คริส ที่นี่คือที่ใด แล้วแม่เลี้ยงของข้าละ" 



                   "ที่นี่คือกระท่อมกลางป่าขอรับนายน้อย ...ส่วนนายหญิงของนายน้อย เอ่อ...ข้าน้อยไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนายน้อยต้องสนใจนายหญิงใจยักษ์นั่นด้วย ก็ในเมื่อนายหญิงทำให้นายน้อยต้องเจ็บ"



                   ร่างเล็กฟังด้วยท่าทีที่นิ่งไม่เคลื่อนไหว "ไม่รู้ ข้าไม่รู้คริส เวลาโดนแม่เลี้ยงตี ข้าขัดขืนไม่ได้...ไม่รู้เพราะอะไรกัน" 



                   จู่ๆก็มีน้ำตาคลอเบ้าร่างเล็กจนต้องเอามือมาขยี้ออก 



                   "ข้ากลัวคริส กลัวว่าสักวันหนึ่งจะต้องเป็นเพียงแค่หุ่นเชิดของแม่เลี้ยง ขะ..ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อแล้วละคริส"



                   "นายน้อย!!" 



                   คริสกล่าวชื่อร่างเล็กอย่างตกตะลึง ไม่นึกว่านายน้อยของเขาจะกล้าพูดถึงเพียงนี้ 



                   "...ท่านจะพูดอย่างนั้นอีกไม่ได้นะขอรับ เรื่องความเป็นความตายไม่ใช่เป็นเรื่องเล่นๆ นายน้อยของข้าจะไม่ต้องแพ้กับเรื่องแค่นี้ ท่านต้องอดทนสู้ อย่าลืมนะว่านายน้อยเป็นคน ไม่ใช่หุ่นเชิดที่นายหญิงจะมาทุบตีได้ตลอด"



                   ร่างเล็กฟังก็รู้สึกตื้นตันกับคำพูดของคริส เขาลืมไปว่ายังมีคนที่เป็นห่วงอยู่อีกหนึ่ง 



                   "แต่ข้า...จะสู้ได้ยังไงกัน ก็ในเมื่อแม่เลี้ยงยังมีท่านพ่ออยู่ ...ข้าสู้ท่านพ่อไม่ได้หรอกนะคริส" 



                   "ไม่เป็นไรขอรับนายน้อย ข้าจะช่วยเหลือท่านออกจากนายใหญ่เอง"



                   "แล้วคริสไม่กลัวท่านพ่อ...สาปเอาเหรอ" ร่างเล็กถามเสียงสั่น ในใจของเขาเต็มไปด้วยความกลัว กลัวว่าคริสที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและพ่อคนที่สองจะต้องมาตายเพราะเรื่องนี้ คริสฟังร่างเล็กพูดก็เข้าใจก่อนจะส่งยิ้มไปให้ 



                   "ไม่กลัวขอรับ นายน้อยไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นหรอก ข้าเองก็พอมีฝีมือสู้กับนายใหญ่ของนายน้อยได้ ว่าแต่นายน้อยคงไม่ว่าอะไรนะ ถ้าข้าจะ...ฆ่านายใหญ่ของนายน้อยนะ"



                   "ไม่ ไม่ว่าอะไรเลย ข้าดีใจด้วยซ้ำที่เจ้าบอกมาอย่างนั้น" ร่างเล็กยิ้มตอบ จากแววตาที่เต็มไปด้วยประกายสดใสเปลี่ยนมาเป็นแววตาที่น่ากลัว และเยือกเย็น 



                   "ข้าเกลียดท่านพ่อพอๆกับแม่เลี้ยงนั่น! - จะเอาไปฆ่าทำยำแกงยังไงก็แล้วแต่เจ้านะคริส ข้าอนุญาต!"



                   "ขอรับนายน้อย ข้าจะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง"



                   ร่างใหญ่ตอบกลับด้วยความยินดีกับคำสั่งนั่น ไม่ว่านายน้อยจะสั่งให้เขาไปทำอะไร เขาก็จะทำมันโดยไม่ขัดขืนข้องใดๆทั้งสิ้น ดีซะอีกที่มันช่วยให้นายน้อยของเขามีความสุขได้ แค่นั้น..ก็เพียงพอแล้ว



                   .....................



                   จบ บทที่ 9 กรมกระทรวงเวทมนตร์
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×